ซ่างกวนซีถอดอาภรณ์ไปพลาง หันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือผู้กำลังนิ่งงันอยู่ พลางถามด้วยความสงสัยว่า “ยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นอยู่ทำไม ยังไม่ขึ้นเตียงพักผ่อนอีกหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตกใจเล็กน้อย แล้วก็กล่าวว่า “ข้า… ขึ้นเตียงได้หรือ?”ซ่างกวนซีขมวดคิ้ว “บาดแผลของเจ้ายังไม่หาย ไม่สะดวกที่จะนอนบนที่เตียงเล็ก ข้าอนุญาตให้เจ้านอนบนเตียงได้”เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตาปริบ “ฝ่าบาท… แท้จริงแล้ว… ข้าสามารถกลับไปนอนที่เรือนหน้าได้”“ไม่ได้!” ซ่างกวนซีปฏิเสธโดยแทบไม่คิดหลายวันที่ผ่านมา เยี่ยนเว่ยฉือนอนอยู่ที่เรือนหน้า เขาก็เฝ้าอยู่ที่ห้องนั้นด้วยกังวลว่าจะทำให้แขนที่บาดเจ็บของนางกระทบกระเทือน ซ่างกวนซีจึงไม่กล้านอนร่วมเตียงกับนางและเพราะกังวลว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะนอนไม่นิ่ง ซ่างกวนซีจึงต้องคอยดูว่านางได้พลิกตัวไปทับแขนตัวเองบ้างหรือไม่หลายวันที่ผ่านมา ซ่างกวนซีทำงานในเวลากลางวัน และเฝ้าไข้ในเวลากลางคืนนี่คือวิธีการแสดงความเสียใจของเขา แต่วิธีการนี้ก็มีขีดจำกัดเช่นกันหากไม่ได้นอนหลับพักผ่อนติดต่อกันหลายวัน เขากลัวว่าจะตนเองกลายเป็นซ่างกวนหลีผู้ผอมโซซ่างกวนซีหันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเ
ซินมามาหันกลับไปมองบุรุษชุดดำ กลอกตาพลางกล่าวว่า “หากสำเร็จก็ให้ราคาหนึ่ง หากล้มเหลวก็ให้อีกราคาหนึ่ง”บุรุษชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แต่เดิมท่านหญิงหมิงหยางไม่ได้กล่าวเช่นนั้น”“แต่เดิม? แต่เดิมเจ้าก็กล่าวว่าจะไม่พลาดเหมือนกัน! ฮึ่ม!” ซินมามาจึงก้าวเข้าไปในประตูหลังของจวน ไม่ได้สนใจบุรุษชุดดำอีกเมื่อเห็นเช่นนั้น บุรุษชุดดำก็โกรธทันที เหยียบปลายเท้า กระโดดข้ามกำแพง ยืนขวางอยู่ตรงหน้าซินมามาดาบอันคมกริบวางอยู่บนไหล่ซินมามา“ว้าย! เจ้า… เจ้าบังอาจ! จะทำอะไร!” ซินมามาแสดงสีหน้าหวาดกลัวบุรุษชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนคำพูดต่อหน้าข้าได้ ก่อนลงมือ ข้าได้กล่าวไว้แล้ว ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ข้าต้องการเงินหนึ่งพันตำลึง! หากให้ไม่ได้ ก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”เมื่อบุรุษชุดดำกล่าวจบก็กำลังจะสังหารซินมามาขณะนั้น เสียงของท่านหญิงหมิงหยางก็ดังขึ้น “หยุด!”บุรุษชุดดำหันไปตามเสียง เห็นท่านหญิงหมิงหยางนำองครักษ์ของจวนเดินตรงเข้ามาอย่างดุเดือดบุรุษชุดดำหัวเราะเยาะเย้ย “ทำไม? ต้องการอาศัยกำลังคนมากเข้าสู้หรือ?”ท่านหญิงหมิงหยางพยายามฝืนยิ้ม “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เราทำ
เยี่ยนหานซานผู้นี้ รู้ทุกสิ่งทุกอย่างจริง ๆท่านหญิงหมิงหยางสะบัดมือเยี่ยนหานซานออก พลางขมวดคิ้วกล่าวว่า “ท่านหมายความว่าอย่างไร? หรือว่าในใจยังคงคิดถึงเยวี่ยฉงหรงอยู่ จึงเผื่อแผ่ความรักไปถึงเยี่ยนเว่ยฉือด้วย?”เยี่ยนหานซานกล่าวด้วยความไม่สบอารมณ์ “ฮูหยิน ฉงหรงสิ้นชีพไปแล้ว แต่เดิมที่ข้าแต่งงานกับนางก็เพราะสถานการณ์บังคับ ไม่ใช่เพราะความรัก เมื่อเจ้าเข้ามา ข้าก็ลดฐานะนางเป็นอนุแล้ว ผ่านไปหลายปีแล้ว เหตุใดเจ้าจึงยังคงยึดติดกับเรื่องนี้อีก?”“ท่านไม่ใช่หรือที่ทำให้ข้ายึดติด?” ท่านหญิงหมิงหยางเริ่มสะอื้น“แต่เดิมเมื่อท่านรู้จักกับข้า ท่านกล่าวว่าตนยังไม่ได้แต่งงาน ข้าจึงหลงรักท่าน แต่กลับรู้ว่าท่านมีภรรยาอยู่แล้ว ถึงแม้ท่านจะลดฐานะนางเป็นอนุ แต่ข้าก็เป็นเมียที่มาทีหลัง หลายปีที่ผ่านมา สตรีในตระกูลใหญ่ ต่างก็นินทาข้า เยาะเย้ยข้า ข้าเป็นท่านหญิงแห่งจวนอ๋องจ่างซิ่น ถึงแม้จะคู่ควรกับเชื้อพระวงศ์ แต่ข้ากลับเลือกแต่งงานกับท่าน ท่านลองคิดดูสิ หลายปีที่ผ่านมา ข้าได้อะไรบ้าง? สิ่งที่ได้ก็คือคำด่าทอและการติฉินนินทา! ฮือฮือฮือ...”ท่านหญิงหมิงหยางร้องไห้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจแต่หยาดน้ำตานี้ ไ
“หมอฉิน?” เยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปทักทายฉินเซียงหรูหยุดมือ หันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ ส่งยิ้มบาง ๆ “แม่นางเยี่ยน”เยี่ยนเว่ยฉือสูดหายใจเข้าลึก คิดในใจว่า “เยี่ยมจริง ๆ สมัยโบราณนี้ แห่งหนใดก็มีแต่ชายรูปงาม หมอฉินผู้นี้เป็นต้นแบบของชายหนุ่มในชุดขาว อ่อนโยนดั่งหยก สุภาพอย่างมาก สง่างามดังดวงจันทร์ รูปงามหาใครเทียบ ถึงแม้จะด้อยกว่าซ่างกวนซีผู้งามสง่าอยู่เล็กน้อย แต่ก็มีอัธยาศัยอ่อนโยน ไม่ได้แผ่รังสีผลักไสผู้คนเหมือนซ่างกวนซี ยอดเยี่ยม รอยยิ้มงดงามจริง ๆ”ฉินเซียงหรูเห็นเยี่ยนเว่ยฉือจ้องมองตนเอง จึงลูบหน้าด้วยความสงสัย “ข้า มีดินติดหน้าหรือ?”เดิมทีไม่มี แต่เมื่อฉินเซียงหรูลูบหน้าก็ทำให้ดินติดบนใบหน้าขาวเนียนเยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ไม่เป็นไร ดินเพียงเล็กน้อย กระนั้นก็บดบังรูปโฉมอันงดงามของหมอฉินไม่ได้หรอก ความบกพร่องเล็กน้อยนี้ไม่อาจบดบังความงามได้!”ฉินเซียงหรูตกใจเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มด้วยความเขินอาย “เอ่อ… ฮ่าฮ่า แม่นางเยี่ยนชมเกินไปแล้ว”เยี่ยนเว่ยฉือมองสมุนไพรที่วางอยู่บนโต๊ะ พลางเลิกคิ้วกล่าวว่า “โอ้ นี่เป็นสมุนไพรที่ท่านนำมาด้วยหรือ? หลายชนิดเป็นสมุนไพรหายากในแคว้นหลี”ฉินเซียงหรูประหลา
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉินเซียงหรูก็ยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไร ก็แค่ปลาหายากชนิดหนึ่ง”เยี่ยนเว่ยฉือพูดอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง “โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านใช้หญ้าหางสุนัขเขียวเพื่อจับปลาชนิดนี้หรือ?”ฉินเซียงหรูพยักหน้า “ทำนองนั้น”มุมปากของเยี่ยนเว่ยฉือกระตุก คาดไม่ถึงว่าท่านหมอฉินจะหมกมุ่นอยู่กับการตกปลามากจนต้องไปที่หนองน้ำเพื่อหาเหยื่อสำหรับตกปลาถึงขั้นเสี่ยงชีวิตเพียงเพื่อจะหาอะไรกิน ช่างน่าทึ่งจริง ๆ!เมื่อเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของเยี่ยนเว่ยฉือ ฉินเซียงหรูก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า “มีปัญหาอะไรหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะแห้ง ๆ “มะ ไม่มีอะไร ทุกคนล้วนมีความชอบของตัวเอง จะหัวเราะเยาะคนตะกละมิได้!”ฉินเซียงหรูสับสน ‘ตะกละรึ? พูดถึงใครกัน?’ฉินเซียงหรูเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือยังคงเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ ยาสมุนไพรของโดยไม่คิดจะออกไป เขาจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แม่นางเยี่ยนยังมีเรื่องอะไรอีกหรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ไม่มีอะไร อ้อจริงสิ ในเมื่อท่านเห็นแก่กินขนาดนี้ ข้าจะพาท่านออกไปทานอาหารดี ๆ สักหน่อยแล้วกัน!”“หา? เห็น...เห็นแก่กิน?” คำว่าตะกละที่พูดถึงก่อนหน้านี้หมายถึงเขาหรอกรึ? นี่เ
จากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็พูดต่อ “นี่คือสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไป เหยื่อตกปลาที่สุดยอดอย่างยิ่ง!”ฉินเซียงหรูมองก้อนแป้งในมือด้วยสีหน้าสงสัยเยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ท่านไม่เชื่อสินะ เช่นนั้นก็ไปลองดูแล้วจะได้รู้กัน! ทางตอนใต้ของเมืองมีแม่น้ำสายหนึ่งชื่อว่าเสี่ยวเหลียง และมักมีคนตกปลาไปที่นั่น พวกเราไปลองดูที่นั่นกันเถิด”ฉินเซียงหรูไม่รู้ค่อยรู้จักเมืองหลวงของต้าหลีมากนัก ดังนั้นเขาจึงเชื่อเรื่องนี้หลังจากได้ยินสิ่งที่เยี่ยนเว่ยฉือพูดจนกระทั่งเขาตามเยี่ยนเว่ยฉือไปยังแม่น้ำเสี่ยวเหลียง เขาจึงพบว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่รกร้างและห่างไกลมากหากตอนนี้เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งนางก็ไม่มีวิทยายุทธ ฉินเซียงหรูคงจะสงสัยว่าเยี่ยนเว่ยฉือมีจุดประสงค์แอบแฝงเยี่ยนเว่ยฉือหยิบอุปกรณ์ตกปลาที่นางเพิ่งซื้อมาจากตลาดออกมามอบให้ฉินเซียงหรูแล้วพูดว่า “เอาล่ะ วันนี้พวกเราตกปลากันให้เต็มตะกร้านี้แล้วค่อยกลับนะ”“หา?” ฉินเซียงตกตะลึงทันทีเขาหันไปมองข้องไม้ไผ่[footnoteRef:0]ใบใหญ่ที่บรรจุปลาได้ไม่ต่ำกว่ายี่สิบชั่ง[footnoteRef:1] [0: อุปกรณ์ที่ทำจากไม้ไผ่สานสำหรับใส่กุ้งหอยปูปลา] [1: หนึ่งชั่งหนักประ
เยี่ยนเว่ยฉือเห็นซ่างกวนซีที่ดูไม่พอใจ ก็เดินเข้าไปหาเขาด้วยความระมัดระวังและถามว่า “องค์รัชทายาท...วันนี้ไปเข้าเฝ้าเหนื่อยหรือไม่?”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า “ไปเข้าเฝ้าใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยาม แต่ข้าต้องใช้เวลาทั้งวันตามหาเจ้า เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าทำหูทวนลมไม่ฟังที่ข้าพูดหรือ? กล้าดีอย่างไรถึงได้แอบออกไป?”เยี่ยนเว่ยฉือรีบพูด “เปล่านะ ก็องค์รัชทายาทสั่งไม่ให้ข้าออกไปคนเดียว ข้าก็ไม่ได้ไปคนเดียวสักหน่อย ข้าไปกับท่านหมอฉินไม่ใช่หรือ?”“ไปกับเขากับเจ้าไปคนเดียวมันต่างกันตรงไหน? เขาไม่มีวิทยายุทธ์เลยแม้แต่น้อย หากเผชิญกับอันตรายเข้า เจ้าจะปกป้องเขาหรือเขาจะปกป้องเจ้าล่ะ?” ซ่างกวนซีรู้สึกโมโหจริง ๆ ไม่มีวี่แววว่าจะหามือสังหารที่ลอบสังหารเยี่ยนเว่ยฉือพบเลยเยี่ยนเว่ยฉือรู้ดีว่าซ่างกวนซีมีเจตนาดีแต่นางซ่อนตัวอยู่ในจวนองค์รัชทายาทตลอด แล้วจะตามหามือสังหารเจอได้อย่างไรเยี่ยนเว่ยฉือใช้แขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บคล้องแขนของซ่างกวานซีซ่างกวนซีจะผละออกตามสัญชาตญาณเยี่ยนเว่ยฉือเห็นเช่นนั้นจึงรีบพูด “โอ๊ย ๆ องค์รัชทายาทอย่าขยับสิ คนเขายังเจ็บมืออยู่เลยนะ”ซ่างกวนซีตกใจเล็กน้อย และรีบมองไ
ขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังง้อซ่างกวนซี ฉินเซียงหรูก็ถูกสอบปากคำเช่นกันอวี๋เฟยเหยียนพาชิงโจวและฉินซานมาด้วย โดยพวกเขายืนล้อมรอบฉินเซียงหรูกันคนละมุมเป็นรูปสามเหลี่ยมฉินเซียงหรูยิ้มเจื่อน “อะไร...ของพวกท่านเนี่ย?”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วและพูดว่า “หมอฉิน วันนี้ท่านกับพี่สะใภ้ของข้าไปทำอะไรมากันแน่?”ฉินเซียงหรูชี้ไปที่ข้องใส่ปลาที่อยู่อีกด้านหนึ่งแล้วตอบว่า “ก็ตกปลาอย่างไรเล่า นี่ ได้ปลามาเยอะเลยนะ!”อวี๋เฟยเหยียนเหลือบมองข้องใส่ปลาแล้วถามว่า “หมอฉิน ท่านอย่าคิดว่าตนคนฉลาดอยู่คนเดียวแล้วคิดว่าผู้อื่นโง่สิ แค่เวลาบ่ายช่วงสั้น ๆ ท่านตกปลาได้มากมายถึงเพียงนี้เลยรึ? ใครจะเชื่อกัน?”ฉินเซียงหรูยิ้มตาหยีและพูดว่า “นั่นเป็นเพราะเหยื่อที่แม่นางเยี่ยนทำอย่างไรเล่า ข้าจะบอกพวกท่านให้ มันวิเศษมากจริง ๆ ไม่มีปลาตัวไหนที่ผ่านไปแล้วไม่ติดเบ็ดเลย หากรัฐทายาทอวี๋ไม่เชื่อ วันพรุ่งไปดูด้วยกันไหมล่ะขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ข้าไม่ว่าง ข้าต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรมกลาโหม!”ฉินเซียงหรูยิ้มบาง ๆ “ไปนั่งดื่มชาทั้งวันน่ะหรือขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนสะดุ้งเบา ๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ทะ...
เยี่ยนเว่ยฉือล่วงรู้แต่แรกแล้วว่าเรื่องราวคงไม่ยุ่งยากทว่านางไม่คาดคิดว่าทุกสิ่งจะราบรื่นถึงเพียงนี้ครั้นเห็นท่านหญิงหมิงหยางหยิบเงินหมื่นตำลึงออกจากห้องบัญชีได้อย่างง่ายดายเยี่ยนเว่ยฉือก็ล่วงรู้ว่าบิดาจอมปลอมของนางคงไม่ได้ละเว้นการยักยอกสินบนท่านหญิงหมิงหยางยื่นเงินให้แก่ฝูกวง น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยว่า “ท่าน...ท่านจอมยุทธ์ เรื่องราวค่ำคืนนี้...ล้วน ไม่ใช่...ไม่ใช่ความต้องการของข้า มันล้วน...ล้วน...”“ค่ำคืนนี้มีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือ? ข้าไม่เห็นสิ่งใดเลย!” ฝูกวงเอ่ยรับอย่างรู้ใจท่านหญิงหมิงหยางได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจยาว รีบหันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือที่ปิดบังใบหน้าเยี่ยนเว่ยฉือกอดอก เลิกคิ้วกล่าว “เขาถูกเงินปิดตา ย่อมไม่เห็นสิ่งใด ดวงตาข้านี่ต่างหากที่สว่างไสว”ท่านหญิงหมิงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าน้ำเสียงและคำพูดของคนตรงหน้าคุ้นหูอยู่บ้าง แต่ชั่วขณะนั้นกลับนึกไม่ออกนางปิดบังใบหน้า ท่านหญิงหมิงหยางจึงไม่อาจเห็นโฉมหน้าของนางเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่านหญิงหมิงหยางจ้องมองนาง รีบชี้ไปยังกล่องใบเล็กที่วางอยู่บนหิ้งสูง “ท่านสามารถใช้สิ่งนั้นมาปิดตาข้าได้”ท่านหญิงหมิงหยางเงยหน้ามอง เ
พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือเงี่ยหูฟัง ยืนยันว่าด้านล่างไม่มีเสียงอะไรแล้ว จึงกล่าวต่อ “เอาล่ะ ตอนนี้ไปเอาเงินได้แล้ว!”ฝูกวงเข้าใจแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือจะใช้เรื่อง ‘จับได้คาหนังคาเขา’ บีบบังคับท่านหญิงหมิงหยางให้ยอมจ่ายเงินนี่เองปัง!ห้องมืดมิดถูกจุดเทียนขึ้นมาทันทีชายหญิงบนเตียงที่ยังคงมีความสุขอยู่ต่างก็ตกใจ“นั่นใคร?!” ท่านหญิงหมิงหยางร้องออกมาด้วยความตกใจ มองไปรอบ ๆ ห้องขณะนั้นลู่อู๋ไม่สนใจใครแล้ว รีบใส่กางเกงเยี่ยนเว่ยฉือเบี่ยงหน้าเล็กน้อย นางไม่อยากเห็นภาพอุจาดตานั้นท่านหญิงหมิงหยางเห็นชายหญิงสองคนสวมหน้ากากยืนอยู่ในห้องก็ตั้งท่าจะตะโกนแต่ฝูกวงพูดก่อน “ตะโกนสิ ตะโกนเรียกสามีเจ้าเข้ามา ให้เห็นกับตาว่าเจ้ามีความสัมพันธ์กับชายอื่น ทำให้เขาขายหน้าอย่างไร”“ชายอื่น?” ท่านหญิงหมิงหยางหันไปมองชายที่กำลังใส่กางเกงอยู่ที่ปลายเตียงเมื่อนางเห็นใบหน้าของคนผู้นั้น ก็ร้องออกมาทันที “กรี๊ดดด!!!”ปัง!ลู่อู๋รีบใช้มือสกัดจุดท่านหญิงหมิงหยาง ขัดจังหวะเสียงกรีดร้องของนางเขากล่าวด้วยความโกรธ “ฝูกวง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ฝูกวงหัวเราะเยาะ “เปล่านี่ ข้าไม่ได้มาหาเจ้า แต่มาหานางต่างหาก”ฝ
“จะให้ไปที่ห้องบัญชีโดยตรงหรือ?” ฝูกวงถามซ้ำเยี่ยนเว่ยฉือยังคงส่ายหัว “ข้าไม่ได้กลับจวนผิงอี้โหวมานานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าข้าไม่รู้ว่าห้องบัญชีอยู่ห้องไหน ถึงแม้ข้าจะรู้ ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเก็บตั๋วเงินไว้ที่ไหนอีก”“พูดมาก เจ้าอยากตายหรือไร?” ฝูกวงขู่เยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “โอ๊ย อย่าใจร้อนสิ นี่ เราไปที่เรือนหลังนั้นกัน!”เยี่ยนเว่ยฉือชี้ไปที่เรือนหลังหนึ่งฝูกวงจับเอวของเยี่ยนเว่ยฉือ พานางกระโดดไปที่เรือนหลังนั้นทั้งสองซ่อนตัวอยู่บนหลังคา ฝูกวงกำลังจะถามว่านี่เป็นเรือนพักของใคร แต่ก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้เขาจับหัวเยี่ยนเว่ยฉือกดลง ทั้งสองนอนราบไปกับร่มเงาของหลังคา“อย่าขยับ มีคนมา!”ฝูกวงบอกอย่าขยับ เยี่ยนเว่ยฉือยิ่งอยากขยับเข้าไปใหญ่เพราะนางรู้ว่าคืนนี้ต้องมีคนมาที่นี่แน่เยี่ยนเว่ยฉือพยายามเงยหน้า ฝูกวงก็กดหัวนางลงอย่างแรงเยี่ยนเว่ยฉือพูดอย่างหมดหนทาง “เป็นลู่อู๋!”“ลู่อู๋?” ฝูกวงปล่อยมือ มองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างสงสัยเยี่ยนเว่ยฉือทำท่าบอกให้เงียบครู่ต่อมาทั้งสองเห็นลู่อู๋ลงมาที่หลังคาฝั่งตรงข้ามเขาดูระมัดระวัง ค่อย ๆ เปิดกระเบื้องออก มองลอดเ
ฝูกวงไม่เชื่อนาง พูดเสียงเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? ไม่ต้องพูดถึงว่าซ่างกวนซีจะยอมจ่ายเงินให้เจ้าหรือไม่ แค่ปล่อยเจ้ากลับไป จะจับเจ้าอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว!”“เช่นนั้นเจ้าจะเอาอย่างไร? ข้าบอกแล้วว่าไม่มีเงินจริง ๆ!” เยี่ยนเว่ยฉือเอ่ยอย่างหมดหนทางฝูกวงฮึดฮัด “ง่ายมาก ขายเจ้าไปที่หอลมวสันต์ห่างไปสิบหลี่บนถนนหยางโจว ด้วยรูปร่างหน้าตาของเจ้า หาเงินหนึ่งหมื่นตำลึงก็ไม่ใช่เรื่องยาก”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง กล่าวอย่างไม่เชื่อ “เจ้าก็เป็นมือสังหาร เหตุใดมาทำธุรกิจค้าประเวณีได้!”“บังอาจ!” ฝูกวงดุเสียงเย็นชาเยี่ยนเว่ยฉือเบ้ปาก “งั้น...ข้าเขียนจดหมายถึงองค์รัชทายาทได้หรือไม่?”“ไม่ได้! ซ่างกวนซีฉลาดออกปานนั้น ข้าไม่อยากมีเรื่อง!”เยี่ยนเว่ยฉือถึงกับพูดไม่ออก‘ไอ้บ้านี่ ต้องให้นางควักเงินหมื่นตำลึงออกมาเองสินะ?’นั่นจะเป็นไปได้เช่นไร ต่อให้มีข้าก็ต้องกลับไปหาวิธี ไม่ใช่อยู่ดี ๆ เอาออกมาได้เลยทันทีนางไม่ได้มีพลังวิเศษเสียหน่อยขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังกังวลใจฝูกวงพูดเสียงเย็นชา “ดูเหมือนเจ้าจะคิดหาวิธีที่ดีไม่ได้แล้ว เช่นนั้นก็ไปกับข้าเถอะ ขายเจ้าไป ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ซ่างกวนซีพยักหน้า บอกให้ฉินเซียงหรูไปพักผ่อนได้แล้วหลังจากฉินเซียงหรูจากไป ซ่างกวนซีเงยหน้ามองแสงจันทร์ แต่ในใจอดคิดถึงลู่อู๋ไม่ได้ว่าเขาจะไปหาท่านหญิงหมิงหยางจริงหรือไม่?แท้จริงแล้ว ตอนนี้มีคนอีกคนที่สงสัยมากกว่าซ่างกวนซีนั่นก็คือเยี่ยนเว่ยฉือ ผู้วางแผนการนี้นั่นเองนางอยากเห็นผลลัพธ์ของแผนการตนเองมากกว่าใคร ๆเยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจ มองดวงจันทร์ “เสียดายจริง โลกนี้ไม่มีกล้องถ่ายรูป ไม่เช่นนั้นจะได้ถ่ายภาพท่านหญิงหมิงหยางกับลู่อู๋ต่อสู้กันแปดร้อยยก แล้วพิมพ์ออกมาหนึ่งหมื่นชุดแจกจ่ายออกไป จะสาแก่ใจแค่ไหนนะ! จุ๊ ๆ!”“กล้องถ่ายรูป คืออะไรกัน?” เสียงใสไพเราะดังขึ้นจากด้านหลังอย่างกะทันหันเสียงนี้เหมือนเสียงสะท้อนในภูเขา ทำให้แยกไม่ออกว่ามาจากทิศทางไหนเยี่ยนเว่ยฉือตัวแข็งทื่อ รีบหันไปมองด้านหลัง แต่ก็เห็นเพียงเงาสีขาวที่พุ่งเข้ามาหาปัง!นางถูกสกัดจุดอีกแล้วครั้งนี้ไม่เพียงแต่ขยับไม่ได้ ยังพูดไม่ได้อีกด้วยเยี่ยนเว่ยฉือมองคนที่บุกเข้ามาอย่างตื่นตระหนก พบว่าเป็นฝูกวง มือสังหารชุดขาวทองคำเวรกรรมแท้ ๆ!นางดวงซวยอะไรขนาดนี้ เพิ่งจัดการลู่อู๋ให้พ้นตัวไปหมาด ๆ ก็มาเจอฝูกวงอีกแ
เขารีบถอยหลัง หลบหลีกการเคาะของธนูเขาเห็นปลายธนูที่เปล่งแสงเย็นยะเยือกในมือของเยี่ยนเว่ยฉือ สุดท้ายก็ไม่มีความกล้าที่จะแทงตัวเองแม้เพียงสองรูดังนั้นจึงหันหลังแล้วรีบหนีไป!จนกระทั่งลู่อู๋จากไป อวี๋เฟยเหยียนจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “พี่สะใภ้ เขาถูกพิษจริงหรือ? ยาแก้พิษอยู่ที่ท่านหญิงหมิงหยางจริงหรือ?”ฉินเซียงหรูที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกไม่สมเหตุสมผลเช่นกันต่างคนต่างมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือด้วยความอยากรู้เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะเบา ๆ “ข้าหลอกเขาน่ะสิ ใครจะเอายาแก้พิษไปไว้ที่คนอื่นกัน แล้วข้าก็ไม่ได้ติดต่อกับท่านหญิงหมิงหยางมานานแล้ว”“อะไรกัน?” อวี๋เฟยเหยียนเบิกตากว้าง “เช่นนั้นเขาจะตายหรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือส่ายหน้า “ไม่ตายหรอก ข้าแค่ให้ยาปลุกกำหนัดชนิดเรื้อรังเขาไปนิดหน่อย ของแบบนี้ถ้าโดนแล้วจะอดทนอยู่ได้เจ็ดวันกว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หากเขาหาคนมาร่วมรักได้ทันเวลาก็จะรู้สึกสบายตัวขึ้น!”“เรื้อ...รัง?” อวี๋เฟยเหยียนไม่เคยได้ยินมาก่อนฉินเซียงหรูที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกสนุกมาก รีบถาม “แม่นางเยี่ยนมีฝีมือ แต่เจ็ดวันแรกผ่านไป วันนี้เขาได้ระบายความใคร่แล้ว เจ็ดวันต่อไปจะทำอย่างไร?”เยี่ยนเว่ย
ซ่างกวนซีอุ้มนางไว้ พูดว่ากล่าวด้วยน้ำเสียง “ต่อไปนี้เจ้าอยากทำอะไรก็ทำได้ มีเงื่อนไขเดียวคือห้ามโกหก และห้ามกระทำการโดยพลการ”นั่นหมายความว่า ไม่ว่านางจะทำอะไร ก็ต้องรายงานเขาล่วงหน้าก่อนตอนนี้นางอยู่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ซ้ำยังถูกชายหนุ่มรูปงามกอดอยู่ในอ้อมแขนชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นก็คือสามีของนางเองเยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าหากนางปฏิเสธ ต่อไประยะห่างระหว่างกันอาจจะกลายเป็นติดลบนางไม่ต้องการแบบนั้น! นางแค่...ยังคิดไม่ตกเท่านั้นเอง!เยี่ยนเว่ยฉือพิงอยู่บนอกของซ่างกวนซี พยักหน้าเบา ๆ เหมือนแมวน้อยเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง “ทราบแล้วเจ้าค่ะ ต่อไปนี้ข้าจะไม่โกหกอีกแล้ว”ซ่างกวนซีหัวเราะอย่างเหนื่อยหน่าย จะให้เชื่อนางได้อย่างไรกัน!…… ห้องโถงด้านหน้าเมื่อซ่างกวนซีพาเยี่ยนเว่ยฉือกลับมาที่ห้องโถงด้านหน้าอีกครั้ง ท้องฟ้าก็มืดมนแล้วแต่บรรดาชายหนุ่มทั้งสามคนในห้องโถงหน้ายังไม่จากไปไหนอวี๋เฟยเหยียนมองไปที่ซ่างกวนซีและเยี่ยนเว่ยฉือ พบว่าทั้งสองมีสีหน้าแปลก ๆดูเหมือนว่าซ่างกวนซีจะไม่โกรธแล้ว ใบหน้าสงบเรียบเฉยแต่ทำไมใบหน้าและใบหูของเยี่ยนเว่ยฉือถึงแดงก่ำ หรือถูกซ่างกวนซีทารุณหนัก?“จุ๊
เห็นเยี่ยนเว่ยฉือสายตาเป็นประกายวาววับดุจหยาดน้ำค้าง ซ่างกวนซีก็รู้ได้ทันทีว่านางกำลังโกหกอยู่ในใจเป็นแน่แท้และเช่นนั้นเอง เยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยตอบออกมาว่า “ก็...ก็เก็บไว้กับตัวอย่างไรล่ะ เพียงแต่ว่าข้าชำนาญกว่าคนทั่วไป ท่านเคยได้ยินเรื่อง ‘มือวิเศษ’ หรือไม่? สมัยก่อนข้าเลี้ยงหมู ชีวิตแสนจะน่าเบื่อหน่าย จึงได้ไปเรียนวิชาลักขโมยจากนักเวทมายา รู้ไว้ใช่ว่า… อ๊ะ!”ยังไม่ทันได้พูดจบ ซ่างกวนซีก็ใช้ฝ่ามือหวดไปที่นางทันทีกระแสลมปราณอันทรงพลังพุ่งเข้าใส่ เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว และฉับพลันนั้น ผ้ายาวสีขาวที่นางสวมอยู่ก็กลายเป็นเศษผ้ากระจัดกระจายลงสู่พื้นโอ้ แม่เจ้า!นี่มันฝีมือการถอดเสื้อผ้าอันหาที่เปรียบมิได้ในแผ่นดินบัดนี้ เยี่ยนเว่ยฉือเหลือเพียงผ้าบาง ๆ ที่ปิดบังความงามไว้ได้เพียงน้อยนิดสายลมหนาวพัดโชยมา แม้ร่างกายนางไม่อาจเคลื่อนไหว แต่ก็อดที่จะตัวสั่นไม่ได้การสั่นไหวเล็กน้อยนั้น ทำให้ความงามบางส่วนปรากฏออกมาเมื่อได้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอันงดงาม ซ่างกวนซีก็ร้อนรุ่มในดวงตา รีบเบี่ยงสายตาไปทางอื่นเขาเพียงแต่ไม่ปรารถนาจะฟังเยี่ยนเว่ยฉือพูดโกหก จึงควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู
การกระทำเช่นนี้ทำให้เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่าซ่างกวนซีไม่ได้ขู่เล่น ๆแต่จะลงโทษนางจริง ๆ!ซ่างกวนซีใช้นิ้วเรียวสวยเปิดปกเสื้อของเยี่ยนเว่ยฉือเบา ๆ สีหน้าเรียบเฉย ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เหตุใดลู่อู๋จึงมาหาเจ้า?""เพ... เพราะ... เขา... เขา..." เยี่ยนเว่ยฉืออ้ำอึ้ง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรขณะที่นางลังเลอยู่นั้น เสื้อคลุมตัวนอกก็ถูกดึงออกเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวอย่างร้อนรน "ฝ่าบาท ข้ายังไม่ได้พูดเลย!"ซ่างกวนซีตอบอย่างใจเย็น "ตอบช้า ก็ต้องถอด"สิ้นคำ ซ่างกวนซีก็ปลดเชือกเสื้อตัวในของนางอีกไม่นานก็จะถึงฤดูร้อนแล้ว สวมเสื้อผ้าบางน้อยชิ้น หากถอดต่อไปเช่นนี้ ไม่กี่คำถาม นางก็คงจะเปลือยเปล่าเสื้อตัวในเปิดออก เผยให้เห็นเสื้อตัวในสีขาวในที่สุดเยี่ยนเว่ยฉือก็ทนไม่ไหว "เขามาหาข้าเพื่อขอยาถอนพิษ!"มือที่กำลังจะถอดเสื้อผ้าของซ่างกวนซีหยุดชะงัก มองนาง แล้วถามต่อ "เขาโดนพิษเมื่อใด? โดนพิษอะไร? เจ้าใช้พิษกับเขาอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือมีสีหน้าลำบากใจ "เรื่อง... เรื่องนี้พูดแล้วยาว..."พรึ่บ!ซ่างกวนซีดึงเสื้อตัวในของนางออกโดยไม่ลังเลตอนนี้บนร่างของเยี่ยนเว่ยฉือเหลือเพียงเสื้อตัวในสีขาว และตู้โตวสี