เมื่อนึกถึงตรงนี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้ากังวลฉินเซียงหรูยกมือขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าถึงได้บอกว่าเขาไม่ควรทำ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะเร็วขนาดนี้ ข้ายังอธิบายไม่ทันเลย! เฮ้อ!”ทุกคนมองซ่างกวนซีด้วยความกังวล แต่ซ่างกวนซียังคงดูดเลือดของเยี่ยนเว่ยฉือต่อไป ไม่สนใจใครทั้งนั้นชิงโจวเดินไปหาอวี๋เฟยเหยียน กระซิบถาม “องค์ชายอวี๋ เมื่อครู่ท่านบอกว่าแม่นางผู้นี้เป็นพระชายาองค์รัชทายาท? องค์ชายรัชทายาททรงอภิเษกสมรสแล้วหรือ?”เรื่องนี้ยังไม่ได้ประกาศออกไป ดังนั้นชิงโจวและฉงซานที่เร่งรุดเดินทางมาตลอดจึงไม่รู้เรื่องอวี๋เฟยเหยียนพยักหน้า “ถูกต้อง นางชื่อเยี่ยนเว่ยฉือ เป็นบุตรีของเยี่ยนหานซาน ฝ่าบาททรงแต่งตั้งนางเป็นพระชายาองค์รัชทายาท แต่เนื่องจากร่างกายของศิษย์พี่ใหญ่ยังไม่แข็งแรงดี จึงยังไม่ได้จัดพิธีอภิเษกอย่างเป็นทางการ”ฉงซานก็เข้ามาใกล้ ถามด้วยความสงสัย “หากนางเป็นพระชายาองค์รัชทายาท เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่เพียงลำพัง?”อวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูมองหน้ากัน ทั้งสองต่างก็แสดงสีหน้าลำบากใจฉงซานช่างถามคำถามที่ไม่ควรถามเสียจริงเมื่อเห็นอวี๋เฟยเหยียนไม่ตอบ ฉงซานก็เกาหัว “จริงด้วย ข้าเห็นกับตาตนเองว่
“จวน…จวนองค์รัชทายาทหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือมองสำรวจโดยรอบด้วยความงุนงง ก่อนจะตระหนักว่าที่แห่งนี้คือเรือนรั่วชูของนางเองเมื่อได้เห็นสภาพแวดล้อมชัดเจนแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือจึงถอนหายใจยาวเบาๆ ความสงบใจหวนคืนฉินเซียงหรูเห็นนางสงบลงแล้ว จึงยกถ้วยยาสีดำสนิทเสนอไปเบื้องหน้า“ท่านถูกพิษเถาชิงเถิงเล่นงาน แม้เมื่อคืนจะดูดพิษส่วนใหญ่ออกแล้ว แต่ในร่างกายท่านยังคงมีพิษตกค้างอยู่บ้าง ต้องดื่มยานี้สามวันติดต่อกันจึงจะหายขาด นี่เอ้า!”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้างเล็กน้อย ดูดพิษ?นางฉุกคิดได้ทันที เมื่อคืนนางคิดว่ามีผู้ใดกัดเสียอีกนาง ที่แท้ไม่ใช่กัด แต่เป็นการดูดพิษให้นางเยี่ยนเว่ยฉือรับถ้วยยามา แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ขอบคุณท่านหมอที่ช่วยดูดพิษให้ข้า”“หา? อะแฮ่ม...” ฉินเซียงหรูพลันรู้สึกอับอายเขาคิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือคงจำไม่ได้ แต่กลับจำได้แม่นยำ!ฉินเซียงหรูครุ่นคิดหาข้อแก้ตัว “เอ่อ… หากท่านจะขอบคุณ เช่นนั้นก็ขอบคุณองค์รัชทายาทเถิด พระองค์ทรงช่วยดูดพิษให้”“หา? ซ่างกวนซีน่ะหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือแสดงสีหน้างุนงง เหตุใดในความทรงจำของนาง บุรุษที่เห็นกลับไม่ใช่ซ่างกวนซี แต่เป็นหมอฉินผู้นี้ฉินเซียงหรูหันหลังให
เหตุการณ์เมื่อวานนี้หรือ?เยี่ยนเว่ยฉือครุ่นคิดพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับท่านทั้งสองเล่า? ไม่ใช่ท่านทั้งสองที่ตามล่าข้าเสียหน่อย หรือว่าหมิงตาวจะเป็นคนของท่านทั้งสอง?”“อะไรนะ? หมิงตาว? เจ้าว่าผู้ที่ตามล่าเจ้าเมื่อวานนี้คือหมิงตาวงั้นหรือ?” อวี๋เฟยเหยียนแสดงสีหน้าตกตะลึงหากเป็นหมิงตาวที่ตามล่าเยี่ยนเว่ยฉือ แล้วเยี่ยนเว่ยฉือหนีรอดมาได้อย่างไร? แทบจะเหลือเชื่อยิ่งนักซ่างกวนซีก็ตกใจเช่นกัน เขาจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ รอฟังคำตอบจากนางเยี่ยนเว่ยฉือส่ายหน้าเบา ๆ พลางกล่าวว่า “พูดให้ถูกต้อง ควรจะเป็นหมิงตาวที่ช่วยข้าไว้เสียมากกว่า”“หา? ช่วยเจ้าไว้?” อวี๋เฟยเหยียนยิ่งงุนงงหนักเข้าไปอีกเยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้า “แรกเริ่มหมิงตาวจะโจมตีพวกเรา แต่พวกเราขับม้าเทียมเกวียนหนี แล้วก็ชนกับต้นไม้ใหญ่ที่ขวางทางอยู่ หลังจากนั้นก็มีบุรุษชุดดำปรากฏตัวขึ้น เขาต้องการสังหารข้า เป็นบุรุษชุดดำ หมิงตาวเห็นว่ามีคนจะสังหารข้าจึงต่อสู้กับเขา ข้าจึงใช้จังหวะที่พวกเขากำลังต่อสู้กันหนีออกมาได้ อ้อ ใช่แล้ว คนขับเกวียนเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านทั้งสองพบเขาหรือไม่?”ซ่างกวนซีแสดงสีหน้
เยี่ยนเว่ยฉือตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เกือบเที่ยงวันแล้วเมื่อนางลืมตาขึ้นก็เห็นซ่างกวนซีนั่งอยู่ที่โต๊ะ ดูเหมือนกำลังอ่านราชกิจซ่างกวนซีเห็นนางตื่น จึงรีบเข้ามาประคองนางให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วรับประทานอาหารร่วมกันตลอดกระบวนการไม่ได้พูดจากันมากนัก เพียงแต่สอบถามเป็นบางครั้งว่าอาหารถูกปากหรือไม่หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก็ดื่มยา แล้วก็หลับไปอีกตอนบ่าย นางกระหายน้ำจึงตื่น พบว่าซ่างกวนซียังคงนั่งเฝ้าอยู่ที่นั่น อ่านราชกิจเช่นเดิมซ่างกวนซีเห็นนางบ่นว่ากระหายน้ำ จึงรีบนำน้ำมาให้หลังจากดื่มน้ำเสร็จแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก็หลับไปอีกเมื่อนางตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงก็คือ ซ่างกวนซียังคงนั่งอยู่ในห้องของนาง“เจ้าตื่นแล้ว กระหายน้ำหรือหิวหรือไม่? จะกินอาหารสักหน่อยไหม?” ซ่างกวนซีเดินเข้ามา น้ำเสียงสงบ แต่ก็เต็มไปด้วยความห่วงใยเยี่ยนเว่ยฉือเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ไม่ได้กล่าวสิ่งใด แล้วก็ยิ้มออกมาซ่างกวนซีรู้สึกงุนงง จึงถามว่า “ยิ้มอะไร?”เยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจ “องค์รัชทายาท หากท่านต้องการขอโทษก็จงกล่าวออกมาเถิด ดีกว่ามาอยู่เป็
เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตาปริบพลางกล่าวว่า “เหตุใดข้าจะต้องโกรธท่านด้วยเล่า? จะโกรธก็ควรโกรธมือสังหารต่างหาก อย่าให้ข้าจับตัวได้เชียว ไม่ฉะนั้นข้าจะใช้ธนูเล่านั้น แทงบนตัวเขาถึงเจ็ดพันเจ็ดร้อยสี่สิบเก้ารู ฮึ่ม!”ซ่างกวนซีกระตุกมุมปาก รอยยิ้มอ่อนหวานแทบมองไม่เห็น แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าขณะนี้ในใจของเขาเบิกบานแจ่มใสแล้วเขาพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ดี แทงเขาสี่สิบเก้ารูไปเลย!”…… วันรุ่งขึ้นเรื่องราวที่เยี่ยนเว่ยฉือถูกลอบโจมตีไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด ไม่ช้าก็แพร่กระจายไปทั่วซ่างกวนหลีผู้ซึ่งป่วยอ่อนเพลีย เมื่อได้ยินข่าวนี้ก็รีบตื่นขึ้น แล้วเดินทางไปยังจวนอันกั๋วกงอันกั๋วกงเมื่อเห็นซ่างกวนหลีก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย พลางสอบถามด้วยความห่วงใยว่า “องค์ชายรองหายป่วยแล้วหรือ? ยังรู้สึกไม่สบายที่ใดหรือไม่?”ซ่างกวนหลีขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว หลังจากนอนหลับพักผ่อนหลายคืนก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น วันนี้เดินทางมาหาท่านลุงเพื่อจะถามว่า เรื่องที่เยี่ยนเว่ยฉือถูกลอบทำร้ายนั้น เป็นฝีมือของท่านลุงหรือไม่?”อันกั๋วกงตกตะลึงเล็กน้อย แล้วก็ขมวดคิ้วพลางถามกลับว่า “องค์ชายรองมาถึงที่เพื่อกล่าวโ
คืนนั้น ยามสาม ณ วัดร้างนอกเมือง หมิงตาวนั่งอยู่เพียงลำพังในวัดร้าง แกะผ้าพันแผลออกจากแขน แล้วก็ใช้ยาสมานแผลทาลงบนบาดแผลเขากำลังจะเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้อื่นเข้าหมิงตาวจึงขว้างขวดยาในมือไปยังทิศทางที่เสียงดังมาปัง! บุคคลนั้นใช้มือรับไว้ พลางเดินเข้ามาแล้วกล่าวว่า “ไม่พบกันนาน หมิงตาว!”หมิงตาวเมื่อเห็นผู้มาเยือนก็ทำหน้าเคร่งเครียดพลางตอบว่า “เย่เทียนซู ไม่นึกว่าเจ้าจะรอดจากวิชาฝ่ามือทะลุใจของข้า หายป่วยเร็วเช่นนี้ ดูเหมือนจวนองค์รัชทายาท จะมีคนเก่ง ๆ ซ่อนอยู่มากมาย”รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่เทียนซูแข็งทื่อเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มเย็น “เจ้ารู้ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับองค์รัชทายาทอยู่แล้วจริง ๆ ด้วย”หมิงตาวพันแผลให้ตัวเองไปพลาง พลางตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “องค์รัชทายาทอยู่ในกองทัพ เจ้าก็อยู่ที่ด่านเฟิงหลิง องค์รัชทายาทอยู่บนภูเขาฝึกวิชา เจ้าก็อยู่ที่เชิงเขา องค์รัชทายาทกลับเมืองหลวง เจ้าก็อยู่ที่หอหงซิ่ว ความสัมพันธ์ของพวกเจ้า คาดเดายากตรงไหนกัน?”พูดมาถึงตรงนี้ หมิงตาวเงยหน้าขึ้นมองเย่เทียนซู พลางขมวดคิ้วกล่าว “หากเจ้ามาเพื่อแก้แค้นให้ตนเอง เจ้าก็ไปได้แล้ว เ
หมิงตาวจ้องมองซ่างกวนซีด้วยความระแวดระวัง เพื่อต้องการรู้ว่าเขาจะกระทำการอันใดก่อนที่ซ่างกวนซีจะกล่าวสิ่งใด เย่เทียนซูผู้ยืนอยู่ข้างกายก็กล่าวขึ้นว่า “ในยุทธภพ ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่าเจ้าสิ้นชีพไปแล้ว ดังนั้นศัตรูของเจ้าจึงไม่ได้ตามล่าเจ้าอีก หากเราเผยแพร่ข่าวว่าเจ้ายังไม่ตาย ค่ำคืนนี้ อาจเป็นค่ำคืนสุดท้ายที่เจ้าจะได้นอนหลับอย่างสงบสุข”อวี๋เฟยเหยียนก็ก้าวเข้ามาข้างหน้า พลางเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถูกต้อง ไม่ใช่เพียงแต่จะมีผู้คนมากมายมาตามล่าเจ้า เชื่อเถิดว่านายของเจ้าก็ไม่กล้าเรียกใช้เจ้าอีกต่อไป รสชาติของหนูตกบ่อขยะ ไม่ใช่รสชาติที่น่าพึงพอใจนักหรอก”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หมิงตาวจึงกล่าวด้วยความหงุดหงิดว่า “เป็นข้าที่ช่วยนางไว้ พวกเจ้ากลับลืมบุญคุณกันไปแล้วหรือ?”ซ่างกวนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าต้องการจับตัวนาง บุรุษชุดดำต้องการสังหารนาง จุดประสงค์ของพวกเจ้าล้วนแต่ต้องการทำร้ายนาง ไม่มีความแตกต่างกัน เจ้าเพียงโชคดีที่ทำไม่สำเร็จ มิฉะนั้นบุคคลที่เราจะสังหารคงไม่ใช่เขา แต่เป็นเจ้า”หมิงตาวขมวดคิ้วมองซ่างกวนซี ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “กระบวนกระบี่เฉียบคม กระบี่ยาวบางเฉียบ
เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “แล้วข้าก็ลองคิดดู นอกจากพรรคพวกของอันกั๋วกงแล้ว ผู้ที่จ้องจะมีเรื่องกับข้า ก็มีเพียงฮูหยินแม่เลี้ยงของข้า และบุตรสาวของนาง เยี่ยนชิงซู”พูดมาถึงตรงนี้ เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซี พลางเลิกคิ้วกล่าว “ฝ่าบาท ยังจำเรื่องที่ข้ากับเยี่ยนชิงซูแย่งสร้อยข้อมือกันบนถนนได้หรือไม่?”ซ่างกวนซีพยักหน้าเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “วันนั้น สายตาของนางดุจดั่งสุนัขจรจัดที่เห็นกระดูก อยากจะกลืนกินท่านเข้าไปให้ได้ คำพูดของข้าไม่เกินจริงเลย หากท่านทำผมร่วงสักเส้น นางคงจะเก็บไปบูชาวันละสามครั้ง”“ฮ่าฮ่าฮ่า!” อวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูอดหัวเราะไม่ได้ซ่างกวนซีขมวดคิ้ว “เริ่มพูดจาไร้สาระอีกแล้ว บาดแผลของเจ้ายังไม่ทันหายดีก็ลืมความเจ็บปวดเสียแล้ว”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “โธ่ ข้าเพียงเปรียบเทียบ วันนั้นนางชื่นชมท่านมาก นางหลงใหลในตัวท่านมากเพียงใด ก็ยิ่งเกลียดชังข้ามากเพียงนั้น นอกจากนี้ ท่านแม่ของนาง ท่านหญิงหมิงหยาง อาศัยพี่ชายที่เป็นถึงองค์ชายจ่างซิ่น วางตนเป็นสตรีที่ไม่เกรงกลัวใคร ในเมืองหลวง หากบุตรสาวของนางต้องการกำจัดข้า ท่านหญิงหมิงหยางก็จะส่งดาบให้ ไม่เคยขัดขวาง!”อวี๋เฟยเหยียนกล่าวว่
ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองก็มาถึงแม่น้ำเสี่ยวเหลียงที่ค่อนข้างห่างไกลอีกครั้งวันนี้แตกต่างจากเมื่อวาน เพราะฉินเซียงหรูพบว่าเยี่ยนเว่ยฉือได้นำกระถางกำยานออกมาด้วยฉินเซียงหรูถามอย่างสงสัย “สิ่งนี้คืออะไรหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบว่า “บริเวณริมน้ำนี้ยุงชุมนัก สิ่งนี้เอาไว้ไล่ยุงน่ะ”ฉินเซียงหรูค่อย ๆ สูดลมหายใจลึก พลางพยักหน้าแล้วพูดว่า “กลิ่นช่างสดชื่น ดูเหมือนว่าวันนี้ข้าจะได้ปลากลับไปอย่างเต็มอิ่มอีกแล้ว!”ฉินเซียงหรูตกปลาอย่างเงียบ ๆ ส่วนเยี่ยนเว่ยฉือก็อ่านตำราแพทย์ที่นำติดตัวมาด้วยอย่างเงียบ ๆ เช่นกันบางครั้งที่ปลาติดเบ็ด เยี่ยนเว่ยฉือก็จะปรบมือและส่งเสียงไชโยโห่ร้องยกยออย่างเต็มที่ทั้งสองตกปลากันจนถึงตอนเย็นอีกครั้งสิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนคือคราวนี้หลังจากข้องใส่ปลาเต็ม ฉินเซียงหรูไม่ได้รีบเก็บข้าวของเดินทางกลับ แต่ตะโกนไปทางป่าว่า “ชิงโจว ออกมาเอาของสิ!”ชิงโจว?เยี่ยนเว่ยฉือมองไปยังป่าด้วยความสับสน และแน่นอนว่าครู่ต่อมาชิงโจวก็ออกจากป่ามายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้ม“ขอทำความเคารพชายารัชทายาทและคารวะท่านหมอฉิน”ฉินเซียงวางมือเท้าเอวแล้วยิ้ม “โอ้ ข้าก็ว่าเห
ซ่างกวนซีสะดุ้งเบา ๆ ขณะนั้นก็เข้าใจทันทีว่าฉินเซียงหรูหมายถึงอะไรที่แท้ฉินเซียงหรูก็รู้เจตนาของเขาอยู่แล้วฉินเซียงหรูต้องการบอกว่าการที่เขามีความรู้สึกต้องการอย่างแรงกล้ากับเยี่ยนเว่ยฉือในครั้งนี้ทำให้เกิดการกระตุ้นความร้อนภายในและสลายพิษเย็นไปได้ไม่แน่ว่าครั้งต่อไปอาจรู้สึกไม่เหมือนเดิมแม้จะมีครั้งต่อไป แต่ครั้งต่อไปที่ว่าก็อาจจะไม่มีความรู้สึกนั้นแล้วว่ากันตามตรง ล้วนเป็นเพราะยังไม่ได้สมหวัง เลยยิ่งโหยหามากขึ้นเรื่อย ๆแต่หากสำเร็จดั่งหวังไปแล้ว ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนั้นจะหายไปและหลงเหลือแต่ความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือไม่?เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็รีบพูดว่า “ไม่มีทางหรอก!”ฉินเซียงหรูพูดอย่างขบขัน “ไม่มีทางอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ริมฝีปากของซ่างกวนซีขยับ แต่เขาพูดไม่ออก เขาหมายจะพูดว่าความสนใจที่เขามีให้เยี่ยนเว่ยฉือนั้นไม่มีทางลดน้อยลงแต่เหตุใดต้องบอกฉินเซียงหรูเรื่องนี้ด้วย หากจะพูดก็ควรพูดกับเยี่ยนเว่ยฉือสิเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินเซียงหรูก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาท แม้ท่านจะมั่นใจว่าไม่มีทาง แต่ท่านก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของแม่นางเ
“ช่วย...” ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตะโกนขอความช่วยเหลือจนจบประโยค ซ่างกวนซีก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ข้าเอง”ฉินเซียงหรูถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนัก เขาจับกรอบประตูด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างมือตบหน้าอกของตัวเอง “องค์รัชทายาท หลอกกันเช่นนี้ ถึงตายได้เลยนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพิ่งสูญเสียชีวิตสามปีให้กับท่าน ไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่นะพ่ะย่ะค่ะ! เฮ้อ!”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”ฉินเซียงหรูที่เห็นคราบน้ำบนรองเท้าของซ่างกวนซีก็รู้ว่าเขายืนอยู่ในลานเป็นเวลานานจนเนื้อตัวของเขาเปื้อนน้ำค้างไปหมดแล้วฉินเซียงหรูเม้มปากเล็กน้อยแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาทไม่ต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อว่าราชกิจหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“เรื่องราวยังไม่ชัดเจน ข้าไม่มีอารมณ์ไปเข้าเฝ้าหรอก!”ซ่างกวนซีกล่าวอย่างตรงไปตรงมาฉินเซียงหรูอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัน พลางขยับหลีกทางหลบไปข้าง ๆ แล้วพูดว่า “เช่นนั้น เชิญองค์รัชทายาทเข้ามาเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ซ่างกวนซีเดินเข้าไปในห้องของฉินเซียงหรูฉินเซียงจุดตะเกียงน้ำมัน และจุดเตาเผาดินแดงขนาดเล็ก จากนั้นก็เริ่มต้มชาเมื่อเห็นเช่นนั้น ซ่างกวนซีก็พูดว่า “ไม่ต้องต้มชา
“ท่านอย่าเข้าไป!” ฉินเซียงหรูเอื้อมมือไปคว้าอวี๋เฟยเหยียน แต่คว้าได้เพียงชายเสื้อ ทำให้ห้ามไว้ไม่ทันจากนั้นเขาก็เห็นอวี๋เฟยเหยียนผลักประตูด้วยความกระวนกระวายใจเสียงดังตึงตังทำให้บุรุษและสตรีบนเตียงแข็งค้างอยู่กับที่อวี๋เฟยเหยียนคาดไม่ถึงว่าเขาจะได้เห็นซ่างกวนซีจับเยี่ยนเว่ยฉือกดลงในท่านั้นแม้ทั้งสองคนจะแต่งตัวมิดชิด แต่ท่าทางของพวกเขา...ทำให้คนที่เห็นจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนซ่างกวนซีหันไปมองอวี๋เฟยเหยียนด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยไฟลุกโชนไม่รู้ว่าโมโหเพราะถูกรบกวนหรือโมโหเพราะไม่ได้เติมเต็มความปรารถนา!อวี๋เฟยเหยียนเองก็แข็งตัวอยู่กับที่ หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาฝืนใจพูดออกมา “ศะ...ศิษย์พี่ใหญ่ ตะ...ตัวท่านละลายแล้วหรือ?”นี่มันคำถามบ้าอะไรกัน!!เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกอายและโกรธมาก นางผลักซ่างกวนซีด้วยกำลังทั้งหมดและรีบออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองเมื่อเห็นนางวิ่งออกไป ฉินเซียงหรูก็ส่ายหัวอย่างยินดีบนความทุกข์ของคนอื่น “จิ๊ ๆ ๆ ที่แท้ซ่างกวนซีก็ยังบริสุทธิ์อยู่นี่เอง! ฮ่า ๆ ๆ!”ขณะเดียวกันซ่างกวนซีก็ลุกขึ้นนั่ง เขามองไปที่อวี๋เฟยเหยียนซึ่งยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม พลา
เมื่อเห็นความดื้อรั้นของเขา เยี่ยนเว่ยฉือจึงพูดว่า “เช่นนั้นหากท่านไม่อ่าน ข้าก็จะอธิบายให้ฟัง”อธิบาย? อธิบายอะไร? ซ่างกวนซีเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความยากลำบากเยี่ยนเว่ยฉือสงบจิตสงบใจและกล่าวว่า “ท่าร่วมประเวณีท่าแรกเรียกว่าตาแปะเข็นรถ หลังจากทั้งสองถอดอาภรณ์ออกหมดแล้ว ให้บุรุษเริ่ม…”“หยุดพูด!” เมื่อซ่างกวนซีได้ยินเสียงใสเหมือนระฆังเงินของเยี่ยนเว่ยฉือ กล่าวถึงเรื่องน่าอายในห้องหอนั่น กลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาเลยทว่าเยี่ยนเว่ยฉือกลับประหลาดใจที่ได้พบว่า “โอ้ องค์รัชทายาท ท่านหน้าแดงแล้วนี่ ท่านร้อนรึ? ท่านรู้สึกร้อนแล้วใช่หรือไม่?”ซ่างกวนซีไม่อยากยอมรับ แต่เขาก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาจริง ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นเยี่ยนเว่ยฉือที่เห็นว่าได้ผล นางก็เริ่มพูดอย่างไม่หยุดหย่อนทันที โดยพรรณนาถึงเนื้อหาในตำราอย่างสมจริงท่าบางท่าที่ยากจะอธิบาย นางก็พยายามสาธิตท่าทางเหล่านั้นด้วยตัวเองโชคดีที่นางใส่เสื้อผ้ามิดชิด จึงไม่ถึงกับมองไปแล้วทิ่มแทงสายตาอะไรมากนักแต่ถึงกระนั้น ก็ไม่สามารถต้านทานภาพที่จินตนาการขึ้นในหัวได้เลยทุกครั้งที่เยี่ยนเว่ยฉืออธิบายท่าทาง ในหัวขอ
หลังจากนั้นไม่นานฉินเซียงหรูก็กลับมามือเปล่า ทำเอาทุกคนสับสนเยี่ยนเว่ยฉือถามว่า “ยาล่ะ? หมอฉิน ยาของท่านล่ะ?”ฉินเซียงหรูกล่าวด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “พิษกู่เย็นกระจายออกมาจากภายในร่างกายขององค์รัชทายาท ดังนั้นจึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยความร้อนจากภายนอก แต่มีวิธีบรรเทาพิษเย็นได้ และบางทีมันอาจอยู่นานจนอาการของพิษหายไป”“เลิกพูดอ้อมค้อมเสียที รีบเข้าประเด็นเสีย!” อวี๋เฟยเหยียนกังวลจะแย่อยู่แล้วฉินเซียงหรูกระตุกมุมปากด้วยความกระดากและพูดต่อ “เช่นนั้นก็ต้อง... กระตุ้นความร้อนภายในขององค์รัชทายาท”“ความร้อนภายใน? ความร้อนภายในคืออะไร?” อวี๋เฟยเหยียนไม่เข้าใจแต่เยี่ยนเว่ยฉือดูเหมือนจะนึกอะไรออกนางจำได้ว่าคนที่แข็งตายจะมีอาการประสาทหลอนจากความร้อนภายในขณะพวกเขากำลังจะตาย ร่างกายของพวกเขาจะร้อนมากจนต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกก่อนจะเสียชีวิตดังนั้นคนจำนวนมากที่แข็งตายจึงถูกพบในสภาพเปลือยเปล่าแต่สิ่งที่เรียกว่าความร้อนภายในนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา ไม่ใช่ของจริงแล้วความร้อนภายในที่แท้จริงคืออะไรกัน?คืออาการเลือดลมพุ่งสูงขึ้นหลังออกกำลังกาย อาการร้อนชื้นในม้ามและกระเพาะเนื่องจากไฟในตั
“ระดมพลังปราณไม่ได้รึ?” อวี๋เฟยเหยียนมองซ่างกวนซีด้วยความตกใจหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็นึกอะไรออกและมองไปที่ฉินเซียงหรูอย่างรวดเร็ว “ท่านหมอฉิน ก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกว่าเถาชิงเกิงจะทำให้ศิษย์พี่ไม่สามารถใช้กำลังภายในได้ แต่ท่านได้ให้ยาถอนพิษไปแล้วไม่ใช่หรือ?”ฉินเซียงหรูขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เถาชิงเกิงมีความเป็นพิษมาก การดื่มยาถอนพิษสามารถถอนพิษได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถถอนฤทธิ์ยาได้ ฤทธิ์ยาของมันคือทำให้คนไม่สามารถระดมกำลังภายในของตนได้ และจะใช้เวลาประมาณห้าวัน ฤทธิ์ยาจึงจะถูกขับออกจากร่างกายไปพร้อมของเสีย แต่ใครจะรู้ว่าองค์รัชทายาทจะโชคร้าย รอเพียงห้าวันก็ยังผ่านไปไม่ไหว”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำอย่างไรดี? องค์รัชทายาทจะถูกแช่แข็งอยู่แล้ว! จริงสิ แช่น้ำร้อน แช่น้ำร้อนได้หรือไม่?” เยี่ยนเว่ยฉือถามอย่างกังวลฉินเซียงหรูมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือและพูดต่อ “แม่นางเยี่ยน พิษกู่เย็นแสดงอาการมาจากภายใน ความร้อนจากภายนอกมีแต่จะบังคับให้พิษกลับเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เป็นอันตรายมากยิ่งกว่าเดิม”อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง วิชาสหัสเหมันต์กระตุ้นพลังหยินมากจนทำให้เกิดความเย็น ศิษย์พี่ฝึกวิชาสหัส
ขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังง้อซ่างกวนซี ฉินเซียงหรูก็ถูกสอบปากคำเช่นกันอวี๋เฟยเหยียนพาชิงโจวและฉินซานมาด้วย โดยพวกเขายืนล้อมรอบฉินเซียงหรูกันคนละมุมเป็นรูปสามเหลี่ยมฉินเซียงหรูยิ้มเจื่อน “อะไร...ของพวกท่านเนี่ย?”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วและพูดว่า “หมอฉิน วันนี้ท่านกับพี่สะใภ้ของข้าไปทำอะไรมากันแน่?”ฉินเซียงหรูชี้ไปที่ข้องใส่ปลาที่อยู่อีกด้านหนึ่งแล้วตอบว่า “ก็ตกปลาอย่างไรเล่า นี่ ได้ปลามาเยอะเลยนะ!”อวี๋เฟยเหยียนเหลือบมองข้องใส่ปลาแล้วถามว่า “หมอฉิน ท่านอย่าคิดว่าตนคนฉลาดอยู่คนเดียวแล้วคิดว่าผู้อื่นโง่สิ แค่เวลาบ่ายช่วงสั้น ๆ ท่านตกปลาได้มากมายถึงเพียงนี้เลยรึ? ใครจะเชื่อกัน?”ฉินเซียงหรูยิ้มตาหยีและพูดว่า “นั่นเป็นเพราะเหยื่อที่แม่นางเยี่ยนทำอย่างไรเล่า ข้าจะบอกพวกท่านให้ มันวิเศษมากจริง ๆ ไม่มีปลาตัวไหนที่ผ่านไปแล้วไม่ติดเบ็ดเลย หากรัฐทายาทอวี๋ไม่เชื่อ วันพรุ่งไปดูด้วยกันไหมล่ะขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ข้าไม่ว่าง ข้าต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรมกลาโหม!”ฉินเซียงหรูยิ้มบาง ๆ “ไปนั่งดื่มชาทั้งวันน่ะหรือขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนสะดุ้งเบา ๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ทะ...
เยี่ยนเว่ยฉือเห็นซ่างกวนซีที่ดูไม่พอใจ ก็เดินเข้าไปหาเขาด้วยความระมัดระวังและถามว่า “องค์รัชทายาท...วันนี้ไปเข้าเฝ้าเหนื่อยหรือไม่?”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า “ไปเข้าเฝ้าใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยาม แต่ข้าต้องใช้เวลาทั้งวันตามหาเจ้า เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าทำหูทวนลมไม่ฟังที่ข้าพูดหรือ? กล้าดีอย่างไรถึงได้แอบออกไป?”เยี่ยนเว่ยฉือรีบพูด “เปล่านะ ก็องค์รัชทายาทสั่งไม่ให้ข้าออกไปคนเดียว ข้าก็ไม่ได้ไปคนเดียวสักหน่อย ข้าไปกับท่านหมอฉินไม่ใช่หรือ?”“ไปกับเขากับเจ้าไปคนเดียวมันต่างกันตรงไหน? เขาไม่มีวิทยายุทธ์เลยแม้แต่น้อย หากเผชิญกับอันตรายเข้า เจ้าจะปกป้องเขาหรือเขาจะปกป้องเจ้าล่ะ?” ซ่างกวนซีรู้สึกโมโหจริง ๆ ไม่มีวี่แววว่าจะหามือสังหารที่ลอบสังหารเยี่ยนเว่ยฉือพบเลยเยี่ยนเว่ยฉือรู้ดีว่าซ่างกวนซีมีเจตนาดีแต่นางซ่อนตัวอยู่ในจวนองค์รัชทายาทตลอด แล้วจะตามหามือสังหารเจอได้อย่างไรเยี่ยนเว่ยฉือใช้แขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บคล้องแขนของซ่างกวานซีซ่างกวนซีจะผละออกตามสัญชาตญาณเยี่ยนเว่ยฉือเห็นเช่นนั้นจึงรีบพูด “โอ๊ย ๆ องค์รัชทายาทอย่าขยับสิ คนเขายังเจ็บมืออยู่เลยนะ”ซ่างกวนซีตกใจเล็กน้อย และรีบมองไ