แชร์

ตอนที่ 3. พี่ทศ

ผู้เขียน: นทธี ศศิวิมล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-28 00:34:08

เมื่อนึกถึงว่าพรุ่งนี้เช้า ต้องเข้าประชุมวางแผนงานสำหรับเดือนหน้า ช่วงบ่ายสีฝุ่นจึงเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้อ่านไลน์หรือสนใจมือถือ คอมพิว เตอร์ก็ไม่ได้เปิด เลยไม่รู้ว่ามีคนแอบทำคลิปล้อเลียนและ แชร์เรื่องเปิ่นของเธอไปทั่วโซเชียลเนตเวิร์ค ประกอบกับคุณเปี๊ยก เจ้านายใหญ่เดินเข้าๆออกๆออฟฟิศทั้งบ่าย เลยทำให้แตงกวา เพื่อนที่สนิทสนมที่สุดในที่ทำงานนี้และคอยเป็นต้นทาง เป็นสัญญาณนิรภัย ไม่กล้าลุกเดินมาบอกที่โต๊ะด้วย

เวลาล่วงมาถึงห้าโมงเย็น เมื่อคุณเปี๊ยก เจ้านายใหญ่ประกาศ

“เอ้า นี่ ทุกคน อย่าลืมนะ งานขอบคุณซัพพลายเออร์เริ่มคืนนี้ ทุ่มตรง ใครหิวตอนนี้ก็หาอะไรรองท้องไปก่อน อย่าลืมนะ ห้ามพลาด ท้ายงานมีจับสลากชิงรางวัลด้วย” เดินออกจากออฟฟิศไป

ตอนนั้นเอง สีฝุ่นที่เพิ่งอ่านกากีไปได้สองเวอร์ชั่นครึ่ง เหลือแค่ฉบับหนังสือที่เจ้านายย้ำนักย้ำหนา ว่าห้ามยับ ห้ามขาด ห้ามหาย ห้ามเปื้อน ก็เงยหน้าขึ้นมาถอนหายใจยาว หากระดาษใกล้มือที่สุดมาคั่นไว้แล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจเหยียดแขนขึ้นสุดมือ เอี้ยวซ้าย เอี้ยวขวา

            แล้วเธอก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าคนเกือบทั้งออฟฟิศราว 20 กว่าชีวิตกำลังมองมาที่เธอ

เมื่อหันไปสบตาใครก็พากันหลบตา กลั้นหัวเราะ มีแค่แตงกวาคนเดียวที่ทำหน้าไม่สบายใจ รีบลุกจากโต๊ะเดินจ้ำเท้าเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว

“ฝุ่น นี่แกไม่ได้อ่านไลน์เหรอวะ ฉันส่งมาเป็นร้อยข้อความแล้วมั้ง” แตงกวากระซิบกระซาบร้อนรน

“ทำไม มีอะไรเหรอแตงกวา” สีฝุ่นเห็นเพื่อนหน้าตาเคร่งเครียดก็พลอยวิตกไปด้วย หรือนี่เธอจะไปทำอะไรผิดพลาดมาอีกนะ “เกี่ยวกับฉันเหรอ”

เพื่อนสาวทำท่าลำบากใจ คว้าข้อมือสีฝุ่น เดินออกจากออฟฟิศเข้าไปในห้องน้ำบริษัท แล้วเปิดคลิปจากแอพติ๊กต่อกที่ตอนนี้แชร์กันไปทั่วทั้งบริษัท ทั้งในอินสตราแกรม ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก

คลิปนั้นเป็นคลิปหน้าการ์ตูนสำเร็จล้อเลียนสีฝุ่น สาวอวบผมหน้าม้าที่มีจมูกหมู หูหมู และกีบเท้าเหมือนหมู กำลังจ้องคอมพิวเตอร์ มือขวากดคลิกฝากล่องขนมกล่องหนึ่งจากทั้งหมดที่วางบนโต๊ะกองพะเนิน

มีเอคเฟคทำเป็นรูปหมูเลิ่กลั่กเหงื่อแตก รอบปากเต็มไปด้วยเศษอาหาร ตาจ้องหน้าจอคอมพ์ กีบเท้ากดคลิกที่กล่องขนมรัวเร็ว พูดด้วยเสียงบีบเล็กแหลม “เจ้านายขา คอมพ์หนูเป็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะ กดยังไงก็ไม่ติด”

แล้วก็มีเสียงเจ้านายพูดขึ้นมา “เลิกคลิกได้แล้วอีหมูอ้วน นั่นไม่ใช่เมาส์ นั่นมันกล่องป็อกกี้!“

ภาพหมูอ้วนสาวผมหน้าม้าทำท่าสะดุ้งโหยง หน้าซีดเผือด วิญญาณออกจากร่าง แล้วภาพก็ซูมไปที่กล่องป็อกกี้รสกล้วยช็อกโกแลตจนเต็มหน้าจอ

สีฝุ่นตัวร้อน หน้าตาร้อนผ่าวไปหมด น้ำตารื้นขึ้นมาคลอตา หายใจไม่ทั่วท้อง นานมากแล้วที่เธอไม่ได้เจอการรังแกล้อเลียนเห็นเป็นตัวตลกแบบนี้ นานมากแล้ว เธอนึกว่ามันจะจบสิ้นไปแล้วตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เจ็บปวดทุกครั้งเวลาที่มีคนเรียก อีอ้วน อีหมูตอน หรือแม่พังสีฝุ่น เธอนึกว่าตอนนี้โตแล้ว อยู่ในวัยทำงานแล้ว คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วคงไม่มีใครรังแกกันแบบนี้อีกแล้ว แต่ในที่สุดเธอก็เจออีก

แตงกวาทำท่ากระวนกระวายและโมโหแทน “ไม่รู้ใครทำ แต่งานตัดต่อไวขนาดนี้สงสัยพวกฝ่ายศิลป์สักคนแน่ๆ ฝุ่น แกอย่าเครียดนะ ฉันเอามาให้แกดูก่อนว่ามันมีคนทำแบบนี้ ฉันจะหาตัวมันมาให้ได้ ให้มันลบคลิป ให้มันมาขอโทษแก มันต้องคนในนี้แหละ ไม่งั้นจะรู้เรื่องเมื่อบ่ายได้ไง”

สีฝุ่นกลั้นไม่ไหว สะอื้นออกมาเบาๆ น้ำตาร่วงเผาะ แต่ก็รีบปาดออกไวๆ “เออ ขอบคุณมากแตงกวา แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็โดนแบบนี้มาตลอดนั้นแหละ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว จะไปโทษใครได้วะ ก็ฉันก็อ้วนเหมือนหมูจริงๆนี่หว่า อีกอย่าง จะไปลบยังไงไหว ป่านนี้คนแชร์ คนดูดไปโพสกันแล้วไม่รู้เท่าไหร่ ช่างมันเหอะแก คนลืมง่ายจะตาย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลืมหมดแล้ว”

ปากพูดไปอย่างนั้นทั้งที่ใจสั่น แตงกวาขยับเข้ามาบีบมือเพื่อน “ป่ะ ไปเก็บของกัน ยังมีเวลาอีกพักใหญ่กว่าจะเริ่มงานเลี้ยงขอบคุณซัพพลายเออร์ เราออกไปเดินเล่นที่อื่นกันก่อนไหม เผื่อแกจะสบายใจขึ้น”

“อืม ฉันไม่เป็นไรจริงๆ” สีฝุ่นสูดหายใจเข้า ยิ้มเต็มหน้า “ดูดิ หายละ เพื่อนแกเข้มแข็ง”

            แตงกวาพยักหน้า “ดีแล้ว งั้น ฉันหิว ว่าจะออกไปหาชาไข่มุกกินหน่อย แกเอาไหม เดี๋ยวซื้อมาเผื่อ”

ในรอยยิ้มซ่อนความเศร้าไว้มิดชิด แตงกวาเอ๋ย เพิ่งเห็นคลิปตัวเองถูกทำให้หน้าเป็นหมู มีเศษอาหารติดเต็มปากท่าทางตะกละแบบนั้น ใครมันจะไปมีกะใจกินอะไรลงอีกล่ะเวลานี้ แต่นั่นก็แค่ในความคิด จะเอาความไม่สบายใจมาให้เพื่อนไปอีกทำไม “ไม่เอาดีกว่า แกไปเหอะ เดี๋ยวฉันรอข้างบน”

สีฝุ่น สาวอวบผู้จิตใจอ่อนไหว ทนซ่อนความรู้สึกย่ำแย่ได้แค่เพียงเพื่อนลับสายตาไปเท่านั้น เธอรู้ตัวว่า น่าจะต้องการเวลาเยียวยาตัวเองอย่างน้อยสักครู่ ก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่แคร์ เดินกลับเข้าไปในออฟฟิศได้ ออฟฟิศที่เธอเคยคิดว่ามีแต่คนที่ดี น่ารัก และจะไม่มีใครทำร้ายรังแกเธออีก

เธอนึกถึงห้องสมุดบริษัทที่อยู่ตรงชั้นสอง จำได้ว่าปิดตอนหกโมงครึ่ง จึงตรงไปที่นั่นเพื่อหาที่หลบภัย อย่างที่เธอเองก็ทำเสมอสมัยเรียน พวกที่ชอบแกล้ง รังแก ล้อเลียนไม่มีใครชอบเข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุดกันหรอก มันเงียบ สงบ และมีเพื่อนที่ดีกับเธอเสมอ รอคอยอยู่บนตู้ บนชั้น ทั้งในนิยาย ในวรรณคดีโบราณ ในนิทาน หนังสือภาพสำหรับเด็ก ไม่มีหนังสือเล่มไหนเคยปฏิเสธเธอ

แต่แล้ว เมื่อเดินมาถึงห้องสมุด สีฝุ่นก็แทบจะร้องไห้โฮออกมา ที่หน้าห้องแขวนป้ายปิดเอาไว้ นั่นก็หมายความว่า ถ้าเธอจะไปไปหมกตัวหลบในส้วมที่ไหนสักแห่ง ก็จำต้องตากหน้ากลับไปนั่งที่โต๊ะ รอให้ถึงเวลาปาร์ตี้คืนนี้ ทั้งที่ตอนนี้เธออยากจะพุ่งตัวหนีออกไปนอกโลก ไม่อยากพบอยากเจอใคร และไม่อยากอยู่ที่นี่อีก

หน้าตาของเธอคงน่าเกลียดพิลึกตอนที่คิดว่าน้ำตากำลังจะไหลออกมาอีกรอบ

เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง “สีฝุ่น มาอยู่นี่เอง พี่เดินตามหาอยู่ตั้งนาน”

เสียงนั้นคุ้นหู เป็นเสียงที่เธอรู้จักดี สีฝุ่นปั้นหน้าสดชื่นอย่างเร่งด่วนอีกครั้งก่อนหันไปหา “อ้าว พี่ทศ หาฝุ่นเหรอคะ มีอะไรให้ฝุ่นช่วยหรือเปล่าคะ”

พี่ทศ เป็นรุ่นพี่แผนกพัสดุ ตอนเข้ามาทำงานปีแรกๆ ตำแหน่งงานที่แผนกพัสดุขาดคนทำงาน ทำให้สีฝุ่นต้องมาช่วยพี่ทศทำงานอยู่เกือบสองปี พอได้พนักงานใหม่ที่เหมาะสมแล้ว เธอจึงมีโอกาสได้ไปทำที่ส่วนสำนักพิมพ์ พี่ทศแก่กว่าเธอสิบปี ชายหนุ่มอายุ 35 ที่ดูเรียบๆ เงียบๆ แต่ใจดี ใจเย็น และไม่เคยมีปัญหากับใคร คนอื่นมักพูดกันว่า ถ้าใครทำให้พี่ทศโกรธได้ คนนั้นคงเลวเอามากจริงๆ สีฝุ่นเองก็รู้สึกผูกพันและได้รับความเมตตาจากทศมากเสียจนเธอรู้สึกเหมือนทศเป็นพี่ชายคนหนึ่ง

“คือ จานกระดาษกับมีด ส้อม พลาสติก ที่จะใช้ในปาร์ตี้คืนนี้มันไม่พอน่ะ พี่จำร้านที่เราเคยไปซื้อกันตอนนั้นไม่ได้ ฝุ่นไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยได้ไหม รีบไปรีบมาน่าจะกลับมาทันงานเริ่ม”

สีฝุ่นกำลังอยากจะหาที่ลี้ภัยอยู่แล้ว จึงค่อนข้างโล่งอกตอนที่เดินตามพี่ทศไปขึ้นรถ ปิดประตู รู้สึกได้ถึงพื้นที่ปลอดภัยในนั้นจนหายใจยาวๆออกมาได้ครั้งหนึ่งก่อนที่รถจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากตึกไป

รถยนต์ของพี่ทศขับออกมาเรื่อยๆ จนเลี้ยวเข้าไปจอดที่หน้าสวนสาธารณะเล็กๆแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำงาน สีฝุ่นใจลอยจนไม่ทันสังเกต จนชายหนุ่มรุ่นพี่พูดขึ้น “พี่เห็นคลิปแล้วละ”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่ 4.  มนุษย์นก

    แค่คำพูดเรียบๆง่ายแต่อ่อนโยนของพี่ทศ ทำให้ทำนบน้ำตาของสีฝุ่นที่เก็บกักมาตลอดทั้งวันพังทลายลง เธอร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น สะอึกสะอื้นไม่อาย เมื่ออยู่กับคนที่เธอรู้สึกว่าเปิดใจคุยได้ทุกเรื่องแบบนี้ เป็นอันว่าเข้าใจกันได้โดยไม่ต้องพูด ไม่มีปัญหาขาดจานกระดาษหรือช้อนส้อมพลาสติกอะไรนั่นจริงๆหรอก “พี่เป็นห่วง คิดว่าฝุ่นคงรู้สึกแย่แน่ๆ ก็เลย อยากให้มีพื้นที่ลี้ภัยนิดนึงน่ะ” ชายหนุ่มบุคลิกนุ่มนวลพูดพลางยื่นกล่องกระดาษทิชชู่ให้ “ผ้าเช็ดหน้าก็มีนะ ซักสะอาดเรียบร้อย แต่พี่กลัวฝุ่นหาว่าพี่หลุดมาจากยุคบ้านทรายทอง” หญิงสาวขำพรืดออกมาอย่างสุดกลั้นจนน้ำมูกไหลออกมาเต็มกระดาษ ชายหนุ่มรุ่นพี่หัวเราะเอ็นดูแล้วก็หยิบกระดาษทิชชู่เพิ่มให้อีก เสียงหัวเราะที่ตามมาหลังจากนั้น ทำให้สีฝุ่นคลายความรู้สึกแย่ๆลงไปได้มากทีเดียว “ทีหลัง มีอะไรก็มาหาพี่ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ อย่าคิดว่าเป็นคนอื่น” พี่ทศว่า ขณะกำลังขับรถออกจากหน้าสวนสาธารณะ ใกล้เวลาแล้ว ทั้งคู่ต้องรีบกลับไปเข้างานเลี้ยงให้ทันก่อนที่เจ้านายจะมา สีฝุ่นอมยิ้ม ภูเขาลูกโตที่ทับอกอยู่เหมือนถูกทลายลงไปเมื่อครู่ “ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่ 5. ข้ามภพ

    มองออกไปที่ทิวทัศน์รอบสวนหย่อมได้ในตอนกลางวัน ตอนนี้ด้านนอกมืด แสงไฟจากบันไดตึกสาดส่องสว่างสีขาวนวล ทำให้สีฝุ่นเห็นเงาสะท้อนตัวเองได้ชัดเจนขึ้นไปอีก เออวะ สภาพแบบนี้ไง เขาถึงไม่เคยเหลียวแล ผมหน้าม้าเหมือนเด็กประถม หน้ากลมเหมือนหมู สมอย่างที่เขาว่าจริงๆ เสียงจากงานเลี้ยงดังมาจากด้านล่าง หญิงสาวถอนหายใจ รู้สึกอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานาน รู้สึกว่าตัวเองอยู่ไม่ถูกที่ถูกทาง รู้สึกสิ้นหวัง ไร้ค่า ที่ผ่านมาเธอพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานมาตลอด เธอเฝ้าแต่คิดว่า แม้จะไม่สวย หากเป็นคนดีมีความสามารถ ในที่สุดก็จะเป็นที่ยอมรับจากทุกคนได้ คนอื่นๆจะเห็นคุณค่าของตัวเธอที่ข้างใน มากกว่าแค่ภายนอก แต่เรื่องในวันนี้กลับยืนยันกับเธอว่า มันไม่เคยเป็นอย่างนั้น จู่ๆไฟส่องสว่างก็กระตุกวูบดับลงไปครู่หนึ่ง เสียงวี้ดว้ายของสาวๆดังขึ้นมาจากข้างล่าง สีฝุ่นรีบคว้าราวบันไดยึดไว้แน่นในความมืด เมื่อแสงสว่างกลับมา แสงสว่างทำให้ต้องหยีตา สีฝุ่นเบิกตามองภาพที่เห็นตรงหน้า ตะลึงตะลาน กระจกตรงบันไดที่เคยสะท้อนภาพหญิงสาวร่างอวบเศร้าสร้อยเมื่อครู่ กลับปรากฏภาพหญิงสาวงดงามพิลาศ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่6. พยายามไม่ร้องไห้ออกมา

    สีฝุ่นกัดริมฝีปากตัวเองไว้พยายามไม่ร้องไห้ออกมา คนที่ไม่อยากให้ใกล้ก็กลับเข้ามาใกล้ คนที่หมายปองในใจกลับไกลห่างออกไปสุดขอบฟ้า เกินที่เธอจะเอื้อมถึงได้อีก เหงื่อออกชุ่มเต็มตัว มือข้างเปียกไปด้วยเหงื่อ กำราวระเบียงเหล็กเย็นเฉียบมันวาวเอาไว้แน่น มืออีกข้างของเธอยังกำหนังสือชุ่มเบียร์ของเจ้านาย รู้สึกอยากอาเจียนเต็มที เธอมองออกไปนอกระเบียงสูงระดับเอว ยื่นหน้าออกไปจะสูดหายใจ แต่ก็ถูกดึงตัวไว้ “ฝุ่นระวัง เดี๋ยวหล่น” กำลังที่ดึงตัวกลับนั้นไม่มาก แต่ด้วยสีฝุ่น สาวร่างท้วมมีอาการมึนงง ทรงตัวไม่ดีอยู่ก่อนแล้วจึงกลายเป็นเซถลาจนล้มหงายก้นกระแทกนั่งกองอยู่ที่พื้น พร้อมๆกับพี่ทศที่พยายามประคับประคองสุดกำลัง ครืนนนนน... เสียงฟ้าดังคำรามดังสนั่น สีฝุ่นมองออกไปนอกระเบียง บนฟ้ามีเมฆขนาดใหญ่เคลื่อนตัวลงต่ำเป็นแผ่นหนากว้าง เห็นเส้นสายฟ้าวิ่งแวบวาบไปมาน่าหวาดหวั่น ลมไม่รู้ที่มาเริ่มพัดแรงขึ้นจนเธอต้องหยีตาหลบผงฝุ่นที่ปลิวฟุ้งไปทั่ว “ฝุ่น ลุกไหวไหม” ชายหนุ่มพยายามประคองเธอลุกขึ้น แต่ดูเหมือนกำลังแขนของเขาจะสู้น้ำหนักตัวหญิงสาวไม่ไหว “ฝ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่7. ลองขยับตัว

    อะ...อะไรกันเนี่ย! สีฝุ่นคิด ทั้งหมดนี่ มันอะไรกัน เธอพยายามโยนทิ้ง สะบัดมือขวาเพิ่งสลัดหนังสือออกแต่มันก็ไม่ยอมหลุดออกจากมือ ซ้ำยังเหมือนมือของตัวเองกำลังละลายผสานหลอมรวมเข้ากับมันอีก ไอซ์ อี โค้ก ยาระยำอะไรสักอย่าง! ในแก้วเหล้านั่นแน่ๆที่ทำให้เธอเป็นแบบนั้น เธอกำลังประสาทหลอนเพราะยา ใครสักคนคงแกล้งเธออีกตามเคย สีฝุ่น นี่มันคือภาพหลอน มันไม่เคยเกิดขึ้นจริง ทั้งเรื่องจูบแรกในชีวิตที่ลานจอดรถนั่น เรื่องที่หล่นลงมาจนพี่ทศเป็นแบบนี้ แล้วก็หนังสือดูดมือนี่ด้วย สีฝุ่นหายใจหอบถี่ เหนื่อย สิ้นเรี่ยวแรง ยอมแพ้ นอนนิ่งๆ หลับตาลงปล่อยในทุกอย่างหมุนคว้าง วูบวับลับหายลงในเสียงดนตรีลึกลับที่ดังเหมือนใกล้เข้ามาทุกที เหมือนร่วงหล่นลงในเปลไกว โยกไกวอ่อนโยนชวนง่วงนอน หญิงสาวร่างอวบรู้สึกเหมือนหลับยาวมานานหลายชั่วโมง ตอนที่เริ่มได้กลิ่นคล้ายกลิ่นกำยานไม้หอม และกลิ่นดอกการเวก ผสมผสานกับกลิ่นน้ำอบน้ำปรุงโบราณที่เคยได้กลิ่นตอนไปร่วมงานมงคลของบางบ้าน หญิงสาวขยับพลิกตัวเบาๆ รู้สึกสบายใจเมื่อผิวเนื้อรับรู้ได้ถึงความเรียบลื่นนุ่มละมุนผิวของเนื้อผ้าที่ห่มคลุมกายไว้รวมถึงผ้าป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่ 8. กรุงพาราณสี

    หญิงสาวงามสะคราญอีกคนคลานเข่าเข้ามา คนนี้อายุราว 20 ปี ผิวพรรณผุดผาด ผ้านุ่งผ้าห่มดูหรูหราสวยงามกว่าคนที่คลานออกไปเป็นอันมาก ซ้ำยังมีเครื่องประดับเครื่องทรงทองทั้งต่างหู สร้อย ปะวะหล่ำ กำไล ประดับเครื่องเพชรพลอยส่องสว่างแวววับจับตา “เอ้า พระสนมแก้ว ในฐานะสนมเอกที่รู้จักปรนนิบัติเอาใจข้าเป็นอย่างดี ต่อแต่นี้เจ้าเป็นพระสนมพี่เลี้ยงให้แม่กากีเขานะ สอนเรื่องครองเรือน เรื่องถวายตัวให้เขาหายกลัวเสียหน่อย นางกำนัลพี่เลี้ยง พวกเจ้าดูแลนางมาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ต่อแต่นี้ก็รับบัญชาพระสนมแก้วท่านด้วย ท่านปรารถนาเรียกหาสิ่งใดก็จัดหามาให้อย่าได้ขาดตกบกพร่อง” ว่าจบก็ดึงตัวสีฝุ่นทำท่าจะหอมที่แก้ม สีฝุ่นเบ้หน้าเหยเกเกร็งตัวแข็ง จะถีบอีกสักรอบก็เกรงใจดาบยักษ์สี่เล่มรอบเตียงนั่น เลยยอมให้หอมให้จบๆไป หญิงงามผมเกล้าสูงพร้อมเครื่องทรงทองคำสุดอลังการเหมือนนางเอกละครย้อนยุค ขยับขึ้นมานั่งข้างๆเธอ โอบแขนประคองไว้ แล้วนำผ้านุ่งอีกผืนมาพันตัวให้ “มาเถิด กากี แต่นี้เจ้าเป็นน้องพี่ เรากำลังจะมีผัวคนเดียวกันแล้ว พี่จะสอนเจ้าเองว่าจะดูแลผัวของเราอย่างไร มาเถิด ลุกขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่ 9.  ตำราครองเรือนของพระสนมแก้ว

    มือเรียวงามประดับปะวะหล่ำกำไล แหวนเพชรพลอยทองวูบวับ เอื้อมมาจับข้อมือที่ปิดไว้ให้กางออก เนิกอกของกากีตูมตั้งปลั่งเต่งราวดอกบัวหลวงเพิ่งผุดพ้นน้ำ กลมงามบริสุทธิ์ ปลายถันแดงก่ำสีหมากสุกขนาดเพียงครึ่งเม็ดบัว “อย่าอาย อย่าขัด มือนี่อย่าปัดป้องผลักไส พระสนมโง่เท่านั้นที่จะผลักไสองค์กษัตริย์ออกจากตัวและทำให้ตัวเองตกอับ เจ้าต้องเอามือและแขนนี้ โอบองค์หรือแตะที่ต้นแขนท่าน อย่าได้วางตกกะปลกกะเปลี้ยบนที่นอนเหมือนท่อนไม้ ท่านเคลื่อนไปเชยชมเจ้าทางไหนก็โอนอ่อนตาม ไม่มีบุรุษใดนิยมสมเสพกับซากศพที่นอนนิ่งแข็ง หรือเอาแต่คร่ำครวญร้องไห้ จำเอาไว้” สีฝุ่นพยักหน้าหงึกหงัก แต่ก็รีบยกแขนกลับมาปิดหน้าอกอีกอยู่ดี จนมือเรียวงามคู่นั้น วางลงบนหัวเข่าของเธอ แล้วพยายามดึงแยกออก สีฝุ่นเห็นพระสนมแก้วเม้มปากกลั้นหัวเราะ ก่อนจะทำหน้าตาขึงขัง “นี่สำคัญนัก แม่คุณ ขาเจ้าต้องไม่หนีบเข้าหากันเยี่ยงนี้ ต้องยอมอ่อนกำลังให้พระองค์ท่านกางออก ให้สอดพระวรกายเข้าไปได้” “สะ...สอด” หญิงสาวที่นอนอยู่สะดุ้งเฮือก แม้อายุ 25 ย่าง 26 แต่เธอก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องเพศโดยตรง พอจะรู้หรอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่10. ไม่ได้สิ

    ดรุณีอรชร อกเต่ง สะโพกตึง เอวกิ่วคอด หน้าตาอ่อนเยาว์อ่อนเดียงสาเหมือนหยาดน้ำค้าง แต่เข้าใกล้แล้วเร่าร้อนเหมือนเปลวไฟ กลิ่นกายหอมหวานติดกายบุรุษที่แตะต้องตัวนางไปอีกเจ็ดวันเจ็ดคืน แน่แล้ว ตอนนี้เธอเป็นนางกากี ตอนต้นเรื่องเลยละ หลังจากที่กำเนิดในดอกบัว พระฤษีเก็บเอามาเลี้ยง แล้วพระเจ้าพรหมทัตขอนางมาชุบเลี้ยงทะนุถนอมจนเติบใหญ่ เริ่มกลายเป็นเด็กสาวแรกรุ่น แล้วก็จะเอาเด็กสาวมาทำเมีย อืมมม...เรื่องมันเป็นอย่างนี้เอง สีฝุ่นคิด แว้กกกกกก! ไม่ได้สิ จะมาเออออห่อหมกง่ายๆแบบนี้ไม่ด้ายยยยย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? นางกำนัลพี่เลี้ยงสามคนกลับเข้ามาในห้อง คนหนึ่งถือขันทองเหลือขนาดใหญ่มีผ้าผืนเล็กพาดอยู่เดินตามเข้ามาด้วย “ชำระร่างกายก่อนเข้าบรรทมเพคะ พระสนมกากี” นางกำนันคนที่เดินนำหน้าเอ่ยขึ้นพลางตรงเข้ามาเอื้อมมือจับปมผ้าที่หน้าอกกากีอีกครั้ง “ไม่ๆๆๆ ไม่ต้องแล้วค่ะ ฉันทำเองได้ แค่เช็ดตัวก็จบใช่ไหม พอกันที เวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมง มีคนแปลกหน้าจะมาจับฉันแก้ผ้าครั้งที่สามเข้าไปแล้ว สมกับเป็นเรื่องกากีจริงๆ ” สีฝุ่นถอนหายใจ นางกำนัลพี่เลี้ยงสองคนแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่11. คล้ายเสียงพิณจีนผสมฮาร์ป

    นางกายหอมคิด ทั้งหน้าอก สะโพก ตูมเต่งกลมไปหมด เอวก็คอดหยั่งกะมด แถมตรงนั้น... ก็เหมือนผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วด้วย หลังเสวยหรือเกือบจะเรียกว่าสวาปามอาหารมื้อเช้าไปจนเกลี้ยงสำรับ กากีก็ถูกจับแต่งตัวห่มผ้ามิดชิด เอาผ้าคลุมศีรษะ เดินออกจากห้องตน ออกไปข้างนอก ความหนาของผ้ามากพอจะทำให้คนภายนอกมองทะลุเข้ามาไม่ได้ แต่ตัวกากีเองนั้นดวงตาแนบอยู่กับผ้าจึงมองลอดออกไปได้ ในยามกลางวันแสงแดดทำให้ภาพความใหญ่โตโอ่อ่าอลังการของพระราชวังเมืองพาราณสีเด่นชัด งดงามไม่แพ้ภาพในจินตนาการตอนที่อ่านหนังสือ เพียงออกมาจากห้อง เธอก็ได้ยินเสียงดนตรีไพเราะ คล้ายเสียงพิณจีนผสมฮาร์ป ดังกังวานไปทั่ว “เสียงพิณเทวะของนาฏกุเวร ไพเราะยิ่งนัก” นางกำนัลนางหนึ่งที่ประคองด้านขวาเอ่ยขึ้น “จุ๊ๆ” นางกำนัลที่ประคองซ้ายทำเสียงดุห้าม “อย่าอึงไป พระสนมแก้วได้ยินเข้าได้หวายลงหลัง เป็นนางใน เอ่ยถึงบุรุษ ไม่งาม” นางด้านขวาค้อนควัก “แหม ก็มีกันอยู่เท่านี้ บุรุษอื่นใดจะเข้ามาในเขตพระราชฐานนี้หาได้ไม่ มีแต่จตุรงค์ราชองค์รักษ์ที่เฝ้าแหนพระเจ้าเหนือหัวเท่านั้น แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ล้วน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03

บทล่าสุด

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่35.กลคนธรรพ์

    “ท้าวเวนไตย กลับมาแล้วเหรอเจ้าคะ เป็นวาสนาของข้าแท้ๆ ที่ตื่นมาแล้ว ก็ได้พบหน้าท่านดั่งใจหมาย” “หึ” พญาครุฑหนุ่มออกเสียงในลำคอเหมือนไม่พอใจ “คำของเจ้าหวานล้ำจนข้าใจละลายทีเดียว ไม่รู้ก่อนหน้านี้ เจ้าเคยได้เอ่ยวาจารื่นหูเช่นนี้กับชายใดมาก่อนหรือไม่” กากีแม่งามเลิศหล้านิ่งงันไปด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดพลาดไปตรงไหน ก่อนออกไปก็ยังดีๆกันอยู่เลยนี่นา “ไฉนท่านพูดเช่นนั้นเจ้าคะ ตอนนี้ข้าเป็นชายาของท่าน จักพูดถึงผู้อื่นไปทำกระไร” ท้าวเวนไตยผินร่างกำยำล่ำสันเมินมองเสออกไปที่ผนังใสด้านนอกวิมาน “เมื่อครู่นี้ เจ้ายังละเมอเพ้อออกมาว่าจะรีบกลับไป หัวเราะหัวใคร่ระรื่นนัก เจ้านิมิตฝันว่าอยู่ด้วยผู้ใดอยู่หรือ ชายใดหรือที่เจ้าจากมาแล้วอาวรณ์อยากกลับไปหาถึงเพียงนั้น” หญิงสาวงามประโลมหล้าเลิกคิ้วอย่างฉงนใจ เผยอปากเอ่ยขึ้น “ท้าวเวนไตย ขุ่นข้องหมองใจข้าด้วยเรื่องใดหรือเจ้าคะ บอกให้ข้าได้รู้เถิด” ครุฑหนุ่มวัยฉกรรจ์สะบัดหน้ากลับมาจ้องหน้ากากี ดวงตาดุดันดั่งพญานกเพลิง “วันนี้ข้าไปเล่นสกาด้วยกษัตริย์พรหมทัตมา แลได้ปะทะคารมกับเจ้านาฏกุเวรพิณเทวะนั่นมาสองสามคำ เจ้าบอกข้ามาโดยสัจเถิดกากี ว่าเจ

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่34.โมโหหึง

    แต่เมื่อแตงกวาหันมาเห็นเธอเข้ากลับสะดุ้งโหยง ถอยกรูด “คุณ...คุณเป็นใครเนี่ย โห... ” เช่นเดียวกับทุกคนที่ได้เห็นโฉมงามกากีเป็นครั้งแรก ดวงตาเธอเบิกโพลงตะลึงงันจนพูดไม่ออก สีฝุ่นเห็นอาการแล้วพอเดาได้จึงรีบแก้ปัญหาทันที “แตงกวา นี่ฉันเองนะ สีฝุ่น สีฝุ่นเพื่อนแกไง เราอยู่สำนักพิมพ์เดียวกันไง จำได้ไหม” หญิงสาวในชุดทำงานส่ายหน้าดิก “ไม่ค่ะ จำไม่ได้ ห๊ะ เดี๋ยว อะไรนะ สีฝุ่น ฝุ่น เออ เสียงเหมือนจริงๆด้วย แต่ว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็แก...แกตอนนี้” สีฝุ่นกำลังคิดว่าจะเริ่มเล่ายังไงดี สีหน้าของแตงกวาก็กลับเปลี่ยนไปกะทันหัน ดวงตาเธอเบิกกว้าง ปากคอสั่น หน้าซีดเผือด “หรือ...หรือว่า โธ่... โธ่เอ๋ย สีฝุ่น โธ่ แก... ฉันไม่น่าเลย คืนนั้นฉันไม่น่าทิ้งแกไว้คนเดียวเลย โฮ” ว่าแล้วก็ร้องไห้โฮ “เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน แตงกวา นี่แกร้องไห้ทำไม ไม่ต้องกลัว นี่ฉันเองนะ สีฝุ่นเพื่อนแกไง” กากีนางกายหอมที่หัวใจยังเป็นสีฝุ่นเต็มร้อยโผเข้ากอดเพื่อนแน่น “รูปร่างหน้าตาฉันไม่เหมือนเดิม แกเลยตกใจกลัวใช่ไหม เอาละ สูดหายใจลึกๆ ใจเย็นๆ” แตงกวายังร้องไห้สะอึกสะอื้น “แ

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่33.รู้สึกผิดแปลบปลาบในใจ

    ท้าวเวนไตย บุรุษหนุ่มร่างกำยำเจ้าแห่งหิมพานต์เงยหน้าสบตาองค์พรหมทัตแวบหนึ่ง เมื่อเห็นความทุกข์โทมนัสในแววตานั้นก็รู้สึกผิดแปลบปลาบในใจขึ้นมาทันทีจนต้องหลบสายตาลงแวบหนึ่งในขณะที่เหนือหัวพรหมทัตค่อยๆนั่งลงบนตั่งตัวเดียวกันเพื่อเตรียมเริ่มเกมสกา กิริยานั้นไม่พ้นสายตาบุรุษกึ่งเทวะอย่างนาฏกุเวรผู้ชาญฉลาดและช่างสังเกต ยิ่งเมื่อนึกย้อนไปแล้ว ชายหนุ่มรูปงามสะอ้านหมดจดดั่งเทพปั้นก็ยิ่งมั่นใจ สายตาของกากีและมานพหนุ่มผู้นี้ที่เคยได้เห็นว่าทอดมองกันครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง ไม่ใช่ธรรมดาแน่แท้ แต่เพื่อความแน่ใจเขาจึงรีบคลานเข่าเข้าไปนั่งข้างพระที่ขององค์พรหมทัตทันที เจ้าวิหคผู้เป็นยอดบุรุษเหนือแดนหิมพานต์ชำเลืองสายตามามองนาฏกุเวรแวบหนึ่ง นึกได้ถึงคำเตือนของแม่ยอดดวงใจที่ว่าไว้ ห้ามเข้าใกล้หรือสนทนากับคนผู้นี้ เพราะอันตรายนัก ท้าวเวนไตยยิ้มมุมปาก หึ นี่หรือ ที่แม่งามกากีว่าเป็นผู้อันตรายนักหนา มิเห็นน่าเกรงขามแต่อย่างใด ผิวพรรณใบหน้างามหวานละไม อ้อนแอ้นราวอิสตรี คิดแล้วก็เสมองกระดานสกาต่ออย่างมิได้ใส่ใจ นาฏกุเวรนั้นเมื่อได้เข้ามานั่งติดต

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่32. หน้าแดง

    ท้าวเวนไตย ชายหนุ่มร่างกำยำดวงหน้าคมเข้ม ดวงตาดุดันทรงอำนาจชวนพิสมัย ยืนหันข้างอยู่ที่ฝั่งโปร่งแสงของห้อง พนมมือหลับตาขยับปากบริกรรมบางอย่าง แสงแดดทอรุ้งของหิมพานต์ห่มอาบกายเขาจนชวนใจละลายมากขึ้นไปอีก สีฝุ่นในร่างกากีเพลินมองชายในดวงใจไม่วางตา พลันนั้น ร่างของท้าวเวนไตยปรากฏแสงสีแดงสว่างวาบขึ้นจนตาพร่า พอแสงนั้นหายไป ท้าวเวนไตย บุรุษแห่งหิมพานต์ก็อยู่ในเครื่องแต่งกายแบบบุรุษมานพหนุ่ม ดั่งที่กากีเคยเห็นในวังเมืองพาราณสีมาก่อนแล้ว ดวงตาฉงนสดใสดั่งลูกมฤคินทร์น้อยกะพริบวูบไหว ฉงนสงสัย “ท้าวเวนไตย ยอดดวงใจของข้า นั่นท่านแต่งกายเช่นนั้น จะออกไปไหนกันเจ้าคะ ไม่อยู่กับข้าเสียที่นี่หรือ” หญิงสาวงามหยาดฟ้าออดอ้อนรำพันในท้ายเสียง ชายหนุ่มหันมาสบสายตาลูกกวางน้อยบนฟูกนอน ในทรวงร้อนรุ่มวูบวาบด้วยแรงพิศวาส ที่ยังคุกรุ่นไม่เลือนหาย “ดูเถิด น้ำเสียงเช่นนั้นทำให้ข้าไม่หมายจะก้าวออกไปจากห้อง อยากจะอยู่เคล้าคลอพะนอเจ้าไปตลอดทั้งวันคืน หากไม่ติดว่าถึงเวลาต้องออกไปแล้ว ข้าคงโถมไปทับร่างเจ้าเดี๋ยวนี้ เสพเจ้าเสียให้สมหัวใจข้า ไม่ต้องเงยหน้าเห็นเดือนเห็นตะวัน

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่ 31.ยอดรักของข้า

    “กากี ชายายอดรักของข้า ข้าไม่เคยหลั่งเชื้อกำเนิดในกายสตรีใด เพราะมิหมายสืบเผ่าพันธุ์กับสตรีอื่น แต่เจ้าผู้เป็นยอดดวงใจของข้า ข้าจะมอบสายธารแห่งชีวิตนี้ ไว้ในช่องนาภีของเจ้าแต่ผู้เดียว” บุรุษหิมพานต์โยกไกวไหวกายเคลื่อนรวดเร็วยิ่งขึ้นอีก สองกายก่ายกอดราวกับจะรวมเป็นกายเดียว ผิวเนื้อสีน้ำผึ้งมันปลาบลูบลื่นด้วยอาบเหงื่อ นุ่มลื่นชื่นฉ่ำไปทุกผิวสัมผัส หยาดเหงื่อใสเกาะพราวทั่วร่าง หยดหนึ่งหล่นลงกลางหว่างถันหนั่นแน่น หยดหนึ่งหล่นลงบนยอดถันสีหมากสุกแดงก่ำ อุ่นร้อนผะผ่าว ไหลลากเป็นทางยาวลงข้างลำตัวก่อนซึมซาบวาบหายลงในเนื้อผ้าทอขนอ่อนลูกนกที่นุ่มลื่นกระตุ้นอารมณ์กำหนัดให้ยิ่งกระเจิดกระเจิงไปอีก สาบกายบุรุษฟุ้งหอมคลุ้งในห้วงนาสา หญิงสาวซุกหน้าลงกับอกเขา สูดหายใจให้กลิ่นนั้นไหลร่าลงในลำคอ เรื่อยจนอัดแน่นในช่องทรวงอก เสพสมอีกสัมผัสจนฉ่ำชื่นใจ นางกากีสตรีผู้งามเป็นหนึ่งในหล้า หรี่ตาปรือ ริมฝีปากฉ่ำเผยอค้าง หน้ามืดตาลาย มัวเมาด้วยกลิ่นรสกามอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัส ตัวใจเต้นรัวแรงดังเสียงกลอง เร็วเกือบเท่าจังหวะเขย่าไกวไหวกระแทกของบั้นเอวแข็งแ

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่ 30.หิมพานต์สะเทือน

    แม้จะอยู่ในวิมานฉิมพลี แต่กากีก็สบายใจ ที่มีห้องน้ำมิดชิดดีอย่างเมืองมนุษย์ สกุณีปักษีน้อยพากากีนั่งลงบนตั่งตัวเล็ก รวบผมมุ่นมวยไว้กลางกระหม่อมเปิดผ้าคลุมออก เอาผ้าชุบน้ำอุ่นลอยดอกไม้หอมราดตัวให้นางกายหอมอย่างคล่องแคล่ว นางหยิบแผ่นใยละเอียดบาง ที่ดูคล้ายเยื่อไม้สีขาวชุบน้ำด่างมาขัดคราบเหนียวลื่นออกจากร่างกายของเธอ “ใยใบไม้เจ้าค่ะ ไม่หยาบไป ไม่นิ่มไป ขัดคราบเชื้อกำเนิดดีนัก” นางปักษีเอ่ยเจื้อยแจ้วตามวิสัย กากีหรือสีฝุ่นอดขำไม่ได้ “สกุณี เจ้านี่ดูชำนาญกับเรื่องอย่างนี้ดีจริง เจ้ามีหน้าที่ขัดชำระสตรีนางอื่นๆที่ท้าวเธอพามาเสพอย่างนี้ทุกนางหรือ” สกุณีเอียงคออย่างนางนก ตาเรียวชี้เคลื่อนไหวเร็วไวใสแจ๋วน่าเอ็นดู “เจ้าค่ะ ท้าวเวนไตยไม่ทรงหลั่งเชื้อกำเนิดในกายสตรีใดเลยเจ้าค่ะ แม้พวกนางจะปรารถนาได้มีโอกาสอุ้มครรภ์ทิพย์ของท้าวเวนไตย ท่านไม่ประสงค์ให้มีทายาทกำเนิดกับนางปักษีตนใดมาก่อนเลย คงหมายจะสืบทอดทายาทแต่กับพระชายาเท่านั้น ดั่งนี้แล้ว เปรอะกันแบบนี้ทุกนางแหละเจ้าค่ะ บางนางไหลเยิ้มเข้าไปในซอกเกศา สระสางกันเกือบชั่วยามกว่าจะออกหมด” ก

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่29.โอษฐ์กามนางกากี

    “โอว...เจ้าทำกระไร” บุรุษหิมพานต์เสียงสั่น ครางไม่เป็นภาษาต่อจากนั้น เมื่อกากีย้อนทบทวนบทเรียนวิชาปลุกกำหนัด กับท่อนเนื้อจำลองในห้องที่เต็มไปด้วยนางเปลือยเมื่อครั้งอยู่กรุงพารารณสี หญิงสาวกำมือรวบรอบท่อนเนื้อกำเนิดชีวิตไว้กระชับมั่น ครานั้นถุงผ้าจำลองบรรจุน้ำเย็นชืดไร้ชีวิต แต่ครานี้แตกต่างไปนัก ทั้งอุ่นร้อน เต้นตุบ กลิ่นรสของเครื่องเพศชายที่แท้จริงเป็นเช่นนี้เอง ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนผ่าวไปทั้งร่าง เครื่องกำเนิดของนางเองก็ร้อนวูบวาบตามเต็มไปด้วยไฟกาม กลิ่นเรียกรักจากองค์กำเนิดนางหอมฟุ้งกระจายไปทั่วสถานวิมานฉิมพลี ฝูงสัตว์หิมพานต์ที่ได้กลิ่นนั้นต่างนิ่งงันงงงวย นกตกตะลึงแทบลืมบินร่วงหล่นลงจากฟากฟ้า ใบหน้าอ่อนเยาว์เคลื่อนขึ้นลง ลากลิ้นจากส่วนโคนชิดโขดหินคู่ เลียไล่ขึ้นมาถึงปลายยอด สลับไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า หน้าท้องขององค์เวนไตยกระตุกสะท้านเป็นจังหวะ สองมือกุมกำไหล่บอบบางไว้แน่น ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก กระสันซ่านเสียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในคอครางฮืออย่างสัตว์ เมื่อริมฝีปากแดงก่ำฉ่ำอวบอิ่มของโฉมงามหยาดฟ้า เผยออ้าโอบรับส่วนปลายดุ้นเนื้อเข้ามาไว้ในความอ

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่28. เพราะข้า

    อดกลั้นระงับตนทั้งที่พลังของความใคร่และหื่นกระหายของบุรุษกึ่งครุฑหมุนพล่านปั่นป่วนอยู่ในทรวงอกช่องท้องราวกับมหาพายุที่ตนเคยเสกพัดกรุงพาราณสีจนเกิดความปั่นป่วนไปทั่วในวันที่ลักพานางมา ด้วยหมายให้กากีหายตระหนก พญาเวนไตยจึงดึงปลดมือของกากีข้างหนึ่งจากต้นแขนตน ยกขึ้นมาทาบที่อก “กากี ชายาของข้า รู้หรือไม่ ใช่เพียงข้าครอบครองเจ้า แต่เป็นเจ้าด้วยที่ครอบครองข้า ในอกของพญาครุฑตนนี้มีดวงใจเต้นอยู่ ดวงใจดวงนี้เป็นของเจ้า” ดวงตาชายหนุ่มจ้องมองดวงหน้างามวิไลในอ้อมกอดอย่างหลงใหล จริงใจ มั่นคง กากีสบสายตาคู่นั้นแล้วร้อนวาบไปทั้งแก้ม หลบตาสะเทิ้นสะท้าน ประกายดาวในดวงตาวับไหว ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตทั้งในและนอกหนังสือ ไม่เคยมีใครพูดหวานๆจีบกันซึ่งๆหน้าแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง แล้วยิ่งเป็นพี่นภ ชายในดวงใจของเธอแล้ว ยิ่งทำให้หัวใจของสีฝุ่นเต้นแรงแทบจะระเบิดออกมาจากอก แต่แล้ว ดรุณีผู้เลอโฉมก็ต้องประหลาดใจเมื่อมือเรียวงามบอบบางของนาง ค่อยๆเคลื่อนต่ำลงด้วยกำลังของฝ่ามือใหญ่หนาทรงพลัง จากทรวงอกที่มีดวงใจชายหนุ่มอุ่นร้อนเต้นเร่าอยู่ภายใน ลากเรื่อยมาที่หน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เรื่อยม

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่27.เขินอายจนหน้าแดงซ่า

    นางสกุณีที่จ้องมองอยู่รีบเติมน้ำสีม่วงจากเหยือกลงในจอกทองคำอีก “พระชายากากี เจ็บท้องใช่ไหมเจ้าคะ เป็นเรื่องปกติเจ้าค่ะ สกุณีพรหมจรรย์ที่ท้าวเวนไตยเคยพามาร่วมอภิรมย์สมสู่ด้วย ล้วนแล้วแต่เป็นเช่นนี้ในครั้งแรกๆ ก็ท่านเป็นถึงเจ้าเวหาแห่งหิมพานต์นี่เจ้าคะ อะไรๆก็ใหญ่โตโอ่โถงไปเสียหมด ข้าไม่เคยเห็นกระจะตานักหรอก แต่ก็ได้ยินบ่นกันทุกนาง ยิ่งถ้าเป็นร่างมนุษย์สตรีบอบบางอย่างพระชายากากีแล้วด้วย คงยิ่งเจ็บยิ่งชอกช้ำมาก ดื่มสมุนไพรโอสถทิพย์นี่เสียสิเจ้าคะ ช่วยให้อาการเจ็บท้องจากการร่วมประเวณีดีขึ้นได้ ข้าผสมเตรียมไว้ประจำ ตายจริง ผ้ารองนอนเปื้อนเลือดเสียด้วย มาเจ้าค่ะ ข้าจะรีบเปลี่ยนให้เดี๋ยวนี้” กากีรู้สึกเขินอายจนหน้าแดงซ่านเมื่อนึกถึงฉากอีโรติกวาบหวามกลางอากาศที่เธอกับพี่นภในร่างพญาครุฑหนุ่มเพิ่งผ่านมาหมาดๆ ความเจ็บระบมที่ส่วนสงวนยังคงแจ่มชัดว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง ทว่าแม่นกสาวบริสุทธิ์นั่นกลับพูดถึงเครื่องเคราของบุรุษหนุ่มผู้เป็นเจ้านายได้อย่างไม่เคอะเขิน ดูท่าท้าวเวนไตยคงอุ้มสาวๆมาที่นี่บ่อยแน่ๆ หลังจากดื่มน้ำสีม่วงนั้น อาการเจ็บปวดหน่วงในท้องค่อยๆดีขึ้นจนรู้สึกได้ บ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status