หน้าหลัก / รักโบราณ / ลิขิตกาลบันดาลรัก / เมิ่งหย่งชวนผู้อบอุ่น1

แชร์

เมิ่งหย่งชวนผู้อบอุ่น1

ผู้เขียน: ป่าดอกท้อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 19:08:47

เมิ่งหย่งชวนใส่เสื้อผ้าให้นางกลับตามเดิมก่อนจะไปอุ่นยาให้นางอีกครั้ง จากนั้นเขาก็มาปลุกคนตัวเล็กลุกขึ้นมากินยาอีกครั้ง

"เสี่ยวฟาง ลุกเถอะมากินยาได้แล้ว เด็กดื้อหรือว่าเจ้าอยากให้ข้าป้อนอีกหื้ม"

"อืม ปวดหัวไม่กินได้ไหมขอนอนก่อนนะ อื้อ อึกๆๆ"

เมิ่งหย่งชวนรู้ว่านางไม่ยอมกินแน่ๆจึงป้อนยาให้นางด้วยปากเขาอีกตามเคย กระทั่งยาหมดชาม เสิ่นเยี่ยนฟางงึมงำต่อว่าเขา

"ฮือๆๆ คนใจร้ายข้าไม่อยากกินมันขมนี่ ฮือๆๆ เมิ่งหย่งชวนคนนิสัยไม่ดี"

"อย่างอแง เดี๋ยวก็หายขมแล้วนะข้ามีน้ำผึ้งให้ด้วย"

เขาลังเลที่จะให้นางกินเองหรือว่าจะป้อนแบบเมื่อกี้ดี ในที่สุดเขาก็เลือกป้อนนางจากปากตัวเอง ครั้งนี้เขาจูบนางเนิ่นนานจนคนตัวเล็กประท้วงเพราะหายใจไม่ทัน

เมิ่งหย่งชวนทอดกายลงนอนเคียงข้างกอดนางเอาไว้กระซิบข้างหู

"อากาศหนาวข้ากอดเจ้านะคนดี เจ้าเป็นไข้ต้องอบอุ่นไว้ อย่าดื้อนะเสี่ยวฟาง"

เสิ่นเยี่ยนฟางหลับไปแล้วเพราะฤทธิ์ยา บวกกับพิษไข้ แต่คนตัวโตกับนอนไม่หลับ ร่างนุ่มนิ่มทำเขาไม่สามารถข่มตาได้

"เด็กดื้อ อย่าโทษข้านะเจ้าเย้ายวนน่ารักเกินไป ข้าไม่ล่วงเกินหรอกขอแค่ชื่นใจเองนิดหน่อยนะ"

เมิ่งหย่งชวนจี้จุดหลับให้นาง ก่อนจะจุมพิตเบาๆ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   เมิ่งหย่งชวนผู้อบอุ่น2

    ด้านนอกเมิ่งลู่เจินต้มน้ำตาลทรายแดงเสร็จแล้ว กำลังจะยกมาให้พี่สะใภ้ แต่เมิ่งหย่งชวนบอกว่าเขาจะจัดการเอง ให้น้องชายต้มข้าวต้มเดี๋ยวเขาออกมาช่วย เมื่อวานเสิ่นเยี่ยนฟางซื้อเนื้อหมูมาอีกทั้งปู่ใหญ่ให้ไข่ไก่มาจึงต้มข้าวต้มหมูกับไข่ต้มคนละฟองเสิ่นเยี่ยนฟางเปลี่ยนผ้าเรียบร้อยแล้วก็คลานขึ้นเตียงนอนต่อ ยุคโบราณไม่มีอะไรบรรเทาได้เลย มิน่าที่เขาว่าสตรียุคโบราณหากมีระดูจะไม่ออกจากบ้านกัน ปวดท้องจะตายอยู่แล้ว เมิ่งหย่งชวนเข้ามาหาพร้อมถ้วยน้ำตาลรายแดงต้ม ก่อนจะเรียกนางให้ลุกขึ้นมาดื่ม"เสี่ยวฟางลุกมาดื่มน้ำตาลทรายแดงต้มสักหน่อยเถอะจะได้ดีขึ้น มาข้าจะช่วยให้เจ้าอุ่นท้อง"เสิ่นเยี่ยนฟางค่อยๆลุกแล้วรับชามมาดื่ม เมิ่งลู่เจินเข้ามาถามว่าจะให้ยกข้าวมาข้าในหรือไม่"พี่สะใภ้ท่านให้ข้ายกข้าวต้มมาให้ท่านข้างในดีหรือไม่ขอรับ""เดี๋ยวข้าออกไปกินเองก็ได้อย่าลำบากเลย""อาเจินหากทำเสร็จแล้วกินก่อนเถอะ เดี๋ยวของพี่สะใภ้เจ้าพี่จะจัดการเอง""อ้อขอรับ เอ่อ ว่าแต่พี่สะใภ้ขอรับ คอท่านไปโดนอะไรกัดมาหรือขอรับ ทำไมแดงเป็นจุดๆเช่นนั้นเล่าขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางทำสีหน้างงๆ ก่อนจะหันไปคว้ากระจกทองเหลืองมาส่องดูก็เห็นที่คอกับเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ข้าอยากทำการค้า

    เสิ่นเยี่ยนฟางกอดเด็กน้อยเอาไว้ปลอบใจพักใหญ่ ก่อนจะดันบ่าเล็กออกแล้วมองหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น"นี่เด็กดี เขาบอกว่าพี่ชายคนโตก็เปรียบเหมือนบิดา พี่สะใภ้ก็เปรียบเหมือนมารดางั้นจากนี้ไปให้พี่สะใภ้เป็นท่านแม่ให้เจ้าดีหรือไม่ อีกหน่อยพอพี่สะใภ้กับพี่ชายเจ้ามีเจ้าตัวน้อยเจ้าก็ได้เป็นท่านอา แต่ตอนนี้ต้องเข้มแข็งห้ามทำตัวอ่อนแอ พี่ใหญ่เจ้าป่วยอยู่อย่าทำให้เขาเป็นห่วง เขารักเจ้ามากนะ""ข้ารู้ข้าเข้าใจขอรับ ว่าแต่ท่านแม่เหตุใดต้องทิ้งข้ากับท่านพ่อไป ข้าไม่เข้าใจ""อาเจิน ผู้ใหญ่อาจมีเหตุผลที่ไม่สามารถพูดหรือบอกออกมาได้ เจ้าโตขึ้นพยายามทำทุกอย่างให้รอบคอบ เวลาทำสิ่งใดใช้สติให้มากๆ เรื่องของผุ้ใหญ่อย่าไปคิดแทนพวกเขาเลย มานี่พี่จะสอนสานลายแปลกๆ พี่สานได้นะแต่อาจช้าสักหน่อย เดี๋ยวพี่จะค่อยๆบอกเจ้านะ"ทั้งสองคนช่วยกันสานตะกร้า เมิ่งหย่งชวนมานานแล้ว เขาได้ยินทุกคำพุดของนาง นางอ่อนโยนกับน้องชายเขายิ่งนัก ช่างเป็นสตรีอบอุ่นเหลือเกิน แต่กับเขาแทบจะฆ่าให้ตายแต่เมื่อกี้นางบอกว่าจะมีเจ้าตัวเล็กกับเขาให้อาเจินเลี้ยง ถึงเขาจะรู้ว่าเป็นคำพูดปลอบใจน้องชายเขาแแล้วอย่างไร เขาถือว่านั่นเป็นคำสัญญาแล้วกัน ต้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   เรื่องในอดีตของสองพี่น้อง

    เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยเสียงอุบอิบก่อนจะนอนหันหลังให้เขา หน้าแดงไปหมดตาบ้านี่ลามก หื่นกามน่าดูระวังให้ดีข้าจะควักลูกตาให้ เมิ่งหย่งชวนหัวเราะคนตัวเล็กที่อาศัยความเงียบต่อต้านเขา แต่ก็ยังไม่วายห่วงใยอาการป่วยของเขา ก่อนจะห่มผ้าให้นางอย่าเบามือ ก้มลงหอมแก้มจึงออกจากห้องเมิ่งหย่งชวนเดินไปคว้าตะกร้าเพื่อจะไปจับปลา เมิ่งลู่เจินมองหน้าเขา เมิ่งหย่งชวนจำเป็นต้องอธิบาย"พี่ไม่ได้ทะเลาะกับนางแค่ดุนางนิดหน่อย หากถูกน้ำเย็นนางจะป่วยอีก""แต่พี่ใหญ่ท่านเองก็ป่วยอยู่นะขอรับ""ไม่เป็นไร พี่จับได้โดยที่ไม่ต้องลงน้ำ อาเจินไม่ต้องสานแล้วพอเถอะมือแตกแล้ว""พี่สะใภ้สอนลายใหม่ให้ มันสวยดีข้าว่าต้องขายดีแน่ๆ พี่ใหญ่ข้าจะหาเงินให้ท่านกลับไปเรียน ท่านรอสักนิดนะขอรับ"เมิ่งหย่งชวนลูบศีรษะน้องชาย เขาไม่ต้องการเป็นขุนนางจอมปลอมเหมือนคนพวกนั่น และที่สำคัญเขาก็ไม่ไร้หนทางเสียทีเดียว อีกสามเดือนต้องเดินทาง มีเสิ่นเยียนฟางมาอยู่เป็นเพื่อนน้องชายเขาก็สบายใจหน่อยดูแล้วนางเป็นสตรีที่ดีพอควร แม้จะอยู่ด้วยกันเป็นวันที่สี่แต่เขาดูออก นางไม่ใช่คนเหลวไหล ติดแค่เถียงคำไม่ตกฟากเท่านั้นละเมิ่งหย่งชวนใช้ตะกร้าชอนปลาแต่พวกมันว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ใครเขาละเมอแบบท่านกัน

    เมิ่งหย่งชวนถือถ้วยยาเข้าไปในห้องให้เสิ่นเยี่ยนฟางสองถ้วยๆนึงเป็นยาแก้ไข้หวัด ส่วนอีกถ้วยเป็นยาสำหรับสตรีมีประจำเดือนที่เขาไปหาท่านหมอจ้าวมาเมื่อตอนสายๆที่นางหลับเพื่อไปซื้อยาเสิ่นเยี่ยนฟางมองถ้วยยาก็เอามือปิดปากแน่นหันหน้าหนีทันที นางไม่กินไม่มีทางกินมันอีกแน่ๆ มิหนำซ้ำยังมีเพิ่มมาอีกถ้วยด้วยจึงส่งเสียงออดอ้อนแสนหวานให้คนตัวสูงใจอ่อน"ท่านพี่ ข้าไม่กินได้ไหมแล้วเหตุใดมีมาเพิ่มอีกถ้วยเล่าเจ้าคะ"เมิ่งหย่งชวนอมยิ้ม พูดจาอ่อนหวานน่ารักเสียด้วย เวลาอยากเอาตัวรอดนี่ช่างน่ารักเสียจริงๆแม่ลูกกวางน้อย เสิ่นเยี่ยนฟางที่แท้เจ้ากลัวการกินยานี่เอง"ยาถ้วยนี้เป็นยาแก้ไข้หวัด ท่านหมอจ้าวบอกว่าต้องกินให้หมดห้าเทียบ ส่วนอีกถ้วยเป็นยาสตรี ข้าไปหาท่านหมอมาบอกเขาว่าเจ้าปวดท้องเขาจึงจัดมาให้อีกห้าเทียบ กินดีๆอย่าดื้อ""เมิ่งหย่งชวนตาบ้านี่ แค่ยาแก้หวัดก็ขมจะตายแล้วใครให้เจ้าไปเพิ่มยาให้ข้า ออกไปเลยนะไม่กินแล้ว""เจ้าก็รู้ว่าข้ามีวิธีให้เจ้ากินยา เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าถ้าชอบให้ข้าจูบเจ้าก็ไม่บอกดีๆ เหตุใดสร้างปัญหามากมายนัก มาข้าป้อนก็ได้""อย่ามาโรคจิตนะ อื้ม"เมิ่งหย่งชวนรั้งนางเอาไว้กรอกยาลงไปแต่นางไม่ยอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   บัณฑิตที่ยอมขายศักดิ์ศรีจะเรียกบัณฑิตได้เช่นไร

    ท่านไม่คู่ควรเอ่ยถึงบิดาข้าสิบเดือนก่อนหน้าเมิ่งหย่งชวนกำลังอ่านตำราในที่พักของบัณฑิตเนื่องจากอีกสามวันจะเป็นวันเข้าสอบจริง สองวันก่อนหน้าเขาได้ทำการสอนให้เหล่าบัณฑิตด้วยกันจนหนึ่งในคนที่ร่วมสอบปีนี้เกิดริษยา ตกดึกก็มีคนมาเคาะประตูห้องพอเขาเปิดออกมาก็พบกับชายชราที่เขาไม่มีวันลืมใบหน้านั้นได้เลยก๊อกๆๆๆเมิ่งหย่งชวนเปิดประตูก็เห็นคนสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนส่วนอีกคนเป็นชายชรา เมิ่งหย่งชวนถอนหายใจก่อนจะเอ่ยปาก"พวกท่านมีอะไรหรือไม่ขอรับ ข้าน้อยเป็นเพียงบัณฑิตเท่านั้น มิทราบว่าจะให้ช่วยเหลือสิ่งใด""บัณฑิตเมิ่งข้าคือจางฮั่นรองใต้เท้ากรมอาญา และนี่คือใต้เท้าลู่หานอำมาตย์ซ้ายวันนี้มีเรื่องอยากคุยกับเจ้า จะเชิญข้าเข้าไปได้หรือไม่""อ้อใต้เท้าทั้งสองเชิญขอรับ"สามคนเข้ามาในห้อง ลู่หานใช้สีหน้าดูถูกเขา แม้แต่เก้าอี้ยังเขาไม่อยากนั่ง ช่างต่ำต้อยเสียจริงๆ"บัณฑิตเมิ่ง ข้ามีน้องชายคนนึงแม้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรเอ่ยปาก แต่ข้าอยากให้เจ้าไม่ลงสอบในอีกสามวันข้างหน้าได้หรือไม่""ใต้เท้าจางเอ่ยสิ่งใดกันข้าน้อยไม่เข้าใจขอรับ ข้าเดินทางมาไกลหวังการสอบครั้งนี้มากนักก็เพื่อครอบครัวของข้า หากไม่สอบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ท่านไม่คู่ควรเอ่ยถึงบิดาของข้า

    เขายากจนยิ่งกว่าอะไร เสื้อผ้าที่ซีดจนหาสีเดิมไม่ได้ คนในโรงเตี้ยมดูถูกเขาด้วยสายตา ในที่สุดเขาก็ขึ้นมายังชั้นสอง ในห้องรับรองมีคนนั่งรออยู่แล้ว คนอื่นๆล้วนถูกไล่ออกไปหมด มีเพียงเขาและนางเท่านั้นสตรีวัยสามสิบกว่าช่างงามสง่ายิ่งนัก นางจิบชาก่อนจะเรียกชื่อเขา"หย่งเอ๋อร์ มานั่งนี่สิไม่เจอเจ้านานโตมากแล้ว เจินเอ๋อร์เล่าเขาเป็นเช่นไรบ้างโตมากหรือยัง""ฮูหยินท่านนี้ ท่านรู้จักข้าหรือขอรับ จำได้ว่าเราไม่เคยพบกัน"น้ำตาของลู่ซินค่อยๆไหล ออกมาเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้ได้ไหม มิใช่แม่อยากทอดทิ้งพวกเจ้า แต่หากไม่กลับมาตระกูลท่านตาเจ้าจะเดือดร้อน หย่งเอ๋อร์ท่านพ่อเจ้าเล่าเขาสบายดีหรือไม่""ฮูหยิน ท่านแม่ข้านางตายไปนานแล้ว ตายไปเมื่อห้าปีก่อน ส่วนท่านพ่อข้าเป็นหรือตาย มิใช่ว่าพวกท่านรู้ดีที่สุดหรอกหรือ ข้าขอตัวก่อน""หย่งเอ๋อร์ นั่งกับแม่สักหน่อยเถอะ คิดถึงเจ้าเหลือเกิน ดื่มชากับแม่ก่อนค่อยไปได้ไหม"เมิ่งหย่งชวนได้กลิ่นยาในชานานแล้ว หึ แม่หรือมีมารดาที่ไหนวางยาพิษบุตรตนเอง เมิ่งหย่งชวนหยิบถ้วยชาขึ้นมากรอกปากตนเองก่อนจะเขวี้ยงถ้วยลงพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆมือหนาคว้ามือบางขึ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   มารดาเจ้ายังไม่พร้อมพ่อคงต้องใจร้าย

    เมิ่งหย่งชวนที่ตอนนี้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนก็กำหมัดแน่น เขาจะเหยียบมันให้จมสกุลลู่ตัวดี สกุลจางที่น่ารังเกียจยี่สิบปีก่อนท่านพ่อออกจากหมู่บ้านไปเปิดสำนักคุ้มภัยของตนเอง วันนึงคุ้มครองสินค้าให้สกุลกับลู่จนได้พบนางสตรีโลเลคนนั้นจากนั้นทั้งคู่มีสัมพันธ์กันอยู่กินด้วยกันจนมีเขาขึ้นมา ท่านพ่อมีวรยุทธและสอนวรยุทธให้เขาจนเก่งกล้าจากนั้นบิดาของนางใต้เท้าลู่ ลู่หานก็ตามาจนเจอพวกเขา และบังคับจะเอาบุตรสาวคืนเพื่อไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับบุตรชายขุนนางด้วยกันสตรีคนนั้นนับว่างดงามมากนัก แต่นางไม่ยอมกลับ อีกทั้งตอนนั้นนางตั้งครรภ์อาเจินอยู่ บิดานางลู่หานบังคับให้นางทำลายบุตรในครรภ์แล้วตามกลับเมืองหลวงท่านพ่อกลับมาจากเดินทางไปคุ้มกันสินค้าพอดี จึงช่วยนางกับเขาไว้ได้ เห็นว่าหากรั้งอยู่เมืองหลวงอาจไม่ปลอดภัยจึงพาเมียกับลูกกลับบ้านเกิดที่เมืองเหอป๋ายจากนั้นนางคลอดน้องชายให้เขาใช้ชีวิตเช่นชาวนาเกือบห้าปี เป็นมารดาที่แสนอบอุ่นอยู่มาไม่นานก็มีคนสกุลลู่ตามหาจนเจอ เย็นวันหนึ่งบอกกับท่านพ่อว่ามีคนจากบ้านเดิมมาพบบอกว่าบิดาป่วยหนัก จึงอยากไปดูใจสักครั้งแล้วนางก็กลับเมืองหลวงจากวันนั้นนางก็ขาดการติ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ความอบอุ่นที่นางมีให้

    ส่วนเสิ่นเยี่ยนฟางที่ถุกคลายจุดสักพักก็ลืมตาขึ้นมา นางหน้าแดงให้ตายสิฝันบ้าอะไรเนี่ยนางฝันว่าเมิ่งหย่งชวนคลุกเคล้าจูบนางแถมยังดูดนมนางด้วย นี่มันฝันบ้าอะไรเนี่ย อึ๊ยยายบ้าถึงเขาจะหน้าตาดีก็เถอะแต่หล่อนจะมาคิดลามกตอนนอนไม่ได้นะ เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าคนที่นอนหลับก่อนจะบ่นเบาๆ"คนโรคจิต ข้าไม่มีทางทำกับเจ้าแบบนั้นในชีวิตจริงแน่ๆ แค่ในความฝันเท่านั้นแหละตาบ้า"เสิ่นเยี่ยนฟางค่อยๆจะลุกออกไปแต่ถูกแขนแข็งแรงกอดเอาไว้ ทำให้นางที่กำลังจะก้าวข้ามเขาล้มลงนอนทับร่างสูงเมิ่งหย่งชวนพลิกนางลงใต้ร่างก่อนจะมองด้วยสายตาหยอกล้อ กระซิบเสียงรัญจวนข้างใบหูเล็กๆนั่น พร้อมกับสอดลิ้นเข้าในรูหูของนางจนเสิ่นเยี่ยนฟางถึงกับต้องกลืนน้ำลายด้วยความวาบหวิว"เสี่ยวฟางเจ้าฝันถึงข้าหรือ ไหนบอกมาสิจ้าฝันว่าอะไร เด็กดื้อไม่เช่นนั้นวันนี้ไม่ได้ลงจากเตียงนะ""อื้อ ปล่อยข้านะท่านพี่ข้าหนัก ท่านตัวใหญ่เกินไปแล้ว""คนดี..ข้าไม่ได้ใหญ่แค่ตัวนะ เจ้าอยากพิสูจน์ไหม แต่ว่าเจ้ามีระดูอยู่พิสูจน์ไม่ได้ถ้าเช่นนั้นข้าแค่ให้เจ้าดูน่าจะได้ว่าไงอยากดูหรือเปล่า""พะ พะ พอเลยนะตาบ้า ข้าจะไปหุงข้างแล้วอุ่นอาหาร นะ นะ นี่ ยะ ยะ เย็นมากแล้ว เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12

บทล่าสุด

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   นางใส่ใจเขา

    นางทะลุมิติมาอยู่ที่นี่สี่เดือนกว่าแล้ว ทุกครั้งที่เมิ่งหย่งชวนจะเดินทางก็มีเหตุให้ชะงักมาหลายครั้ง นางอยากให้เขาเจอบิดาโดยไวนางอยากให้เด็กๆได้เกิดเป็นบุตรของนางจริง เสิ่นเยี่ยนฟางตัดสินใจจะถอนเข็มที่นางฝังไว้ออก ช่วงระยะสิบวันนี้หากมีสัมพันธ์ผัวเมียกันนางมีโอกาสตั้งครรภ์ เขาดีเพียงนี้นางอยากมีบุตรให้เขาจริงๆที่ไม่ใช่เด็กในอุปถัมภ์"ท่านพี่ ข้าต้มน้ำเก็กฮวยไว้ท่านรับสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ"ขาสั้นๆดุ๊กดิ๊กของเสี่ยวเฟิงเดินที่ถือเอาน้ำมาให้บิดา ส่วนเสี่ยวฮวาถืออีกถ้วยมาให้ท่านอาที่ตามท่านพ่อมา เสี่ยวเย่าจุงมือเสี่ยวเหอถือจานขนมมา เด็กๆเอ่ยเรียกบิดาเมิ่งหย่งชวนมองภาพตรงหน้าแล้วอบอุ่นนัก หากเขามีลูกจริงๆคงดี เด็กเหล่านี้หากไม่เจอครอบครัวเขาจะเลี้ยงไว้เอง ว่าไปก็แปลก เด็กทั้งหกคนนี้ยิ่งใกล้ชิดรู้สึกว่าหน้าตาเหมือนเขากับเมียแทบจะคัดลอกกันออกมา เสียงหวานๆของเสี่ยวเฟิงเรียกเขา เมิ่งหย่งชวนยิ้มให้เจ้าตัวน้อย"ท่านพ่อน้ำเก็กฮวยหวานๆชื่นใจเจ้าค่ะ""ท่านอา น้ำเก็กฮวยหวานๆเจ้าค่ะ""ท่านพ่อ ขนมขอรับ"เมิ่งหย่งชวนรับขนมมาก่อนจะค่อยๆกินทีละนิด จางเหมิ่นถึงกับเอ่ยปากชม ขนมนี่อร่อยมากนัก"อาจารย์หญิงนับว่

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตามบิดากลับบ้าน

    ยามเซินเมิ่งหย่งชวนจ้างรถม้าจากในตำบลกลับมา ทันทีที่รถม้าจอดสนิทเมิ่งหย่งชวนก็ลงจากรถม้า ตามด้วยจางเหมิ่นทันทีที่เห็นพี่ชายจางลี่ก็หน้างอกันที จะมาจับผิดอะไรกันอีกมาลำมากขนาดนี้ยัง ไม่พอใจอีกหรือ เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสามีกลับมาก็แปลกใจไหนเขาบอกว่าจะไปสิบวัน"ท่านพี่ ไหนว่าไปสิบวันไงเจ้าคะ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือเปล่า หรือว่าอาการป่วยของท่านกำเริบ"เสิ่นเยี่ยนฟางรีบไปดูเขาทันที มือบางอังหน้าผากกว้างเมื่อเห็นว่าตัวไม่ร้อน ก็จับมือหนามากุมเกรงว่าอาการป่วยกลับมาเขาจะหนาวสั่นอีก เมิ่งหย่งชวนรั้งนางมากอดเอาไว้กดปลายคางกับเรือนผมงามก่อนจะเอ่นถามด้วยความกังวล" เสี่ยวฟาง.. ที่บ้านเกิดเรื่องอันใดหรือไม่นกเหยี่ยวของอาเจินคาบปิ่นเงินของเจ้าไปตามพี่ที่บ้านเศรษฐีจาง""หืม.. นกเหยี่ยวของอาเจินหรือเจ้าคะ"สิ่นเยี่ยนฟางนึกถึงลูกนกที่เมิ่งลู่เจินเลี้ยงเอาไว้ยังผลัดขนไม่เต็มเลยจะบินไปได้อย่างไรกัน ดูท่าดงเป็นบุตรชายคนเล็กมากกว่า เด็กๆ ที่ตอนนี้ท่านอาจารย์หม่ากลับไปแล้ว เหลือเพียงหวงหย่งเหนียนที่ยังสอนเมิ่งสู่เจินอยู่ และเพิ่งไปไม่นานรถม้าน่าจะสวนกันกับสามี เด็กทั้งสี่รีบวิ่งมาหาก่อนจะพักทายบิดา"คารวะท่

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   เมิ่งอี้จอมหน้าด้าน

    ทางด้านของเมิ่งอี้ที่ได้เห็นหน้าตาของเด็กๆ ทั้งหกคนก็คิดที่จะอุ้มเด็กๆ ไปขายทันที หน้าตาน่ารักขายได้คนหนึ่งไม่น่าต่ำกว่าห้าร้อยตำลึงแน่ๆ เขารู้จักพวกชอบเด็กวัยนี้หน้าตาเช่นนี้ราคาดี ต้องวางแผนดีๆ เมิ่งอี้ไม่รู้ว่าตนเองชะตาขาดแล้วนับแต่คิดจับเด็กๆไปขายวันนี้จากคนที่ไม่เคยหยิบทำสิ่งใดกลับมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางแต่เช้าเพื่อขอช่วยงาน"พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าเองเมิ่งอี้ท่านอยู่หรือไม่ขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้กำลังเกล้าผมให้เสี่ยวอิงอยู่ เพราะเขายังเล็กจึงไม้ได้เรียนหนังสือไม่เช่นนั้นจะถูกสงสัยได้ ก็ชะโงกหน้าออกมาตามเสียงเรียก เห็นเมิ่งอี้ยืนอยู่นอกรั้ว หืมพ่อบัณฑิตรูปงามสะโอดสะองเหลือเกินเขาเก็บกันจนจะไถกลบปลูกใหม่เพิ่งจะโผล่หัว ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆมาทำไมกัน เสี่ยวเย่าส่งข้อความผ่านมารดาทางจิต"ท่านแม่ คนนิสัยเลวคนนี้ต้องการจับพวกเราพี่น้องไปขายขอรับ""หืม เมิ่งอี้กล้าคิดขายลูกข้าหรือ เสี่ยวเย่าลูกจัดการได้เลยอย่าให้แปลกปะหลาดจนชาวบ้านตกใจก็พอ แล้วตั้งแต่เช้าเสี่ยวเถาไปไหนกันนอนอีกแล้วหรือ""พี่ห้าหลับขอรับท่านแม่ พี่ห้าจะนอนอะไรนักหนาเก้าหมื่นปียังนอนไม่พอหรือไงกันเฮ้อ""หุบปากไปเลยนะ ไม่งั้นข

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   พี่น้องสกุลโจวพบหน้า

    เมิ่งหย่งซินนำโจวหยวนกับหวงหย่งเหนียนไปพบคนด้านใน ทันทีที่เห็นหน้าโจวหยวนก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับเมิ่งหย่งซิน"แม่นางเมิ่ง รบกวนท่านช่วยออกไปก่อนสักครู่ เขาคือน้องชายคนเล็กของข้าโจวหยางน่ะ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับน้องชายนิดหน่อยขออภัยแม่นางเมิ่งด้วยที่เสียมารยาท""อ้อ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ที่แท้ก็คนกันเองถ้าเช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว เชิญใต้เท้าทั้งสองตามสบายเจ้าคะ"เมิ่งหย่งซินออกไปแล้ว หวงหย่งเหนียนก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้าม รอฟังสองพี่กับน้องคุยกัน"เห็นอาซ้อเมิ่งบอกว่าเจ้าหนีหมาป่าจนตกเขา หยางเอ๋อร์ อย่างเจ้านะหรือจะหนีหมาป่า ฝีมือเช่นเจ้ามิใช่หมาป่าต้องวิ่งหนีหรอกหรือ""ข้าหนีคนขององค์ชายรอง บังเอิญไปเจอพวกเขาสมคบศัตรูแอบค้าขายแร่เหล็กกับแร่เงินเข้า แต่โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าแกล้งเป็นคนตาบอดเดินคลำทาง พวกเขาไม่ไว้ใจจึงพยายามไล่ล่าข้าจึงแกล้งตกเขาลงมา แต่ไม่คิดว่าด้านล่างจะมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ ข้าเลยกระแทกอย่างแรง กระดูกร้าวน่ะไม่ถึงกับหัก เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนขององค์ชายรองยังอยู่ไหมเลยต้องอยู่แต่ในบ้านไปก่อน ไม่อยากให้คนบ้านนี้เดือดร้อนเพราะช่วยข้านะขอรับพี่รอง"โจวหยางเอ่

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ศิษย์รักของข้า

    ยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งหน้าบ้านรอจางลี่ก็ยังไม่มา คิดจะลองดีกับนางหรือ หากยามซื่อไม่มาข้าจะไปลากถึงที่นอนเลยเชียว ปลายยามซื่อรถม้าก็วิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน เลยมาทางด้านท้ายหมู่บ้านเศรษฐีจางลากบุตรชายลงมา จางลี่หน้าเง้าหน้างอพอเห็นเสิ่นเยี่ยนฟางก็ถลึงตาใส่ จากนั้นจางหมิ่นก็พูดคุยกับนาง"ข้าพาเขามาส่ง อาจารย์หญิงท่านจะเปลี่ยนใจหรือไม่บุตรชายข้าดื้อด้านนัก""ช่างเถอะ ท่านลุงหกมาพาคนงานใหม่ไปเก็บดอกฝ้ายในไร่ด้วยเจ้าค่ะ"ทันทีที่นางเอ่ยจบก็มีชายฉกรรจ์อายุประมาณสี่สิบเดินมาก่อนจะนำทางจางลี่ไป แต่เขาอิดออดจนบิดาต้องดุ จางหมิ่นเดินตามเสิ่นเยี่ยนฟางไปที่แปลงฝ้าย ทันทีที่เห็นผักในแปลงดินก็ตกตะลึงก่อนจะเอ่ยปากขอซื้อ"อาจารย์หญิงผักสดนี่ครั้งก่อนที่อาจารย์เมิ่งนำไปฝากรสหวานยิ่งนัก ครั้งนี้ท่านช่วยขายให้ข้าได้หรือไม่เล่า""ข้าเก็บไว้ให้แล้ว สามีข้าเพิ่งซื้อที่ดินเพิ่มข้าจะขยายแปลงผักอีกหน่อยเราอาจเป็นคู่ค้ากันก็ได้ อ้อถึงแปลงฝ้ายแล้วเชิญท่านดูเถอะ"จางหมิ่นทันทีที่เห็นดอกฝ้ายที่คุณภาพนับว่าดียิ่งนัก เขาไม่เคยเจอฝ้ายที่ดอกหนาสีขาวบริสุทธิ์เช่นนี้มาก่อนจึงเผยสีหน้ายินดีออกมา จางลี่ไม่ยอมทำงานยื

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ตัดสินใจให้นางเป็นอาจารย์

    เสิ่นเยี่ยนฟางมองไปที่จางลี่จากนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้าย จางลี่เห็นรอยยิ้มนางถึงกับขนลุกทันที ได้ยินนางเอ่ยวาจาที่ทำให้เขาถึงกับโมโหเป็นอย่างมาก"ท่านจาง ข้ามิอาจอวดเก่งต่อหน้าพ่อค้าใหญ่เช่นท่านได้ แต่มีเรื่องหนึ่งข้าช่วยท่านได้นะเจ้าค่ะ""เมิ่งฮูหยินเชิญกล่าวมาเถอะ""บุตรชายของท่านจางลี่ หากท่านไม่รังเกียจข้าที่เป็นสตรี ข้ายินดีเป็นอาจารย์ให้เขาเอง ตั้งแต่พรุ่งนี้ให้เขาเข้าไร่เก็บดอกฝ้าย จากนี้ท่านห้ามให้เงินเขา หากวันใดเขาทำงานข้าจะจ่ายค่าแรงเอง หากไม่ทำก็ให้เขาอดข้าว เขากินดีอยู่ดีเกินไปไม่รับรู้ความลำบากของบิดามารดาที่ต้องทำงานหาเลี้ยงเขา""เอ่อเมิ่งฮูหยินคือเรื่องนี้ข้าว่า.....""นังตัวดีเจ้ากล้าหรือ ท่านพ่อนางถือว่าสามีเป็นอาจารย์ของพี่ใหญ่ก็เลยอยากทำให้ข้าอับอายนะขอรับ ท่านอย่าหลงกลนางสารเลวนี่เชียว"เมิ่งหย่งชวนมองหน้าภรรยาอย่างหาคำตอบ แต่เสิ่นเยี่ยนฟางแค่เพียงยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเอ่ย"ท่านจาง ดอกฝ้ายเหล่านั้นข้าจะส่งมอบให้ท่าน บุตรชายท่านหากข้าสั่งสอนเขาให้เป็นผู้เป็นคนไม่ได้ภายในหนึ่งเดือนข้ายินดีไม่รับเงินค่าดอกฝ้ายสักอีแปะเจ้าค่ะ หากข้าทำได้ท่านก็แค่จ่ายค่าฝ้ายข้า

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   กำเนิดลูกศิษย์คนแรก

    เสิ่นเยี่ยนฟางนำหมั่นโถวกับซาลาเปาใส่กะละมังไม้หลายใบก่อนจะเข็นเดินไปทั่วหมู่บ้านเพื่อแจกซาลาเปากับหมั่นโถว"ทุกท่านนี่คือบุตรชายบุตรสาวของข้า ทั้งหกคน เด็กๆคารวะท่านปู่ท่านย่าท่านลุงท่านอาทั้งหลายสิ ยังมีพี่สาวพี่ชายท่านน้าอีกด้วย""พวกเราคารวะทุกท่านเจ้าค่ะ/ขอรับ"ชาวบ้านต่างยิ้มให้เด็กหกคนนี้น่ารักเสียจริงๆ"นี่ภรรยาซิ่วไฉ หากบอกว่าเป็นบุตรชายบุตรสาวของเจ้าข้าเชื่อสนิทใจเชียวล่ะ""ใช่ๆ หน้าตาถอดเจ้ากับเมิ่งซิ่วไฉมาเชียว""ขอบคุณพวกท่านมาก ฝากเอ็นดูลูกๆข้าด้วยนะเจ้าคะ"เสิ่นเยี่ยนฟางทยอยแจกอาหารจนครบทุกหลังคาเรือนจากนั้นก็เข็นรถพาลูกๆกลับบ้าน เมิ่งหย่งชวนเตรียมตัวกินข้าวแล้วจะไปค้างคืนที่จวนจางสิบคืน"ท่านพ่อพวกเรากลับมาแล้วเจ้าค่ะ"เสี่ยวฮวาวิ่งนำหน้าถลามากอดขาเมิ่งหย่งชวนก่อนจะเงยหน้าส่งสายตาไร้เดียงสามาให้ เมิ่งหย่งชวนก้มลงอุ้มนางขึ้นมาก่อนจะดุ"วันหลังอย่าวิ่งแบบนี้อีก หากหกล้มลูกจะเจ็บได้ วันนี้พ่อไม่อยู่อย่าดื้อกับท่านแม่เข้าใจหรือไม่""ท่านพ่อเสี่ยวฮวาไม่ดื้อเจ้าค่ะ เสี่ยวฮวาอยากมีท่านพ่อเสี่ยวฮวาอยากมีท่านแม่"เมิ่งหย่งชวบบีบจมูกโด่งที่ถอดแบบเขามาไม่ผิดเพี้ยน นี่ถ้าเขามีลูกเ

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   เซ่นไหว้บรรพบุรุษสกุลเมิ่ง

    เมิ่งซุนยื่นมือไปขออุ้ม เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเสี่ยวอิงบุตรชายคนที่หกที่เกินจากข้อตกลงมา เสี่ยวอิงกางแขนหาท่านปู่ทวดทันที"อืม ไหนเรียกท่านปู่ทวดสิ""ท่านปู่ทวด ท่านปู่ทวดขอรับ"เมิ่งซุนยืนมือเหี่ยวย่นไปลูบศรีษะ จากนั้นเมิ่งหย่งซินก็ไปจัดห้องให้เด็กๆ ต้นยามเหมาแล้ว นางกับเสิ่นเยี่ยนฟางไม่นอนต่อแต่ติดไฟนวดแป้งทำซาลาเปา นึ่งหมั่นโถว ต้มไก่ทำกับข้าวไปไหว้บิดามารดาของท่านปู่"อาเล็ก ทำเยอะหน่อยเถอะพรุ่งนี้จะไปแจกในหมู่บ้านด้วย พาเด็กๆไปแนะนำกับคนในหมู่บ้านด้วย""อืม เจ้าไปพักเถอะเสี่ยวฟางงานตรงหน้าอาเล็กทำได้""ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาเล็กช่วยกันทำงานเสร็จเร็วจะได้มีเวลาพัก"เมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้เป็นท่านอาแล้วก็มีหน้าที่พาหลานๆไปเดินเล่นระหว่างที่ผู้ใหญ่ทำงาน"อย่ามาเล่นแถวนี้อันตราย เจ้าชื่ออะไรนะ""ข้าชื่อเสี่ยวเฟิงเจ้าค่ะท่านอา อีกอย่างข้าไม่ซนเจ้าค่ะข้าอยากช่วยงาน""อืมๆๆ อาเล็กรู้แต่ว่าในครัวมีฟืนไฟต้องระวัง เสี่ยวเย่าเจ้าเป็นพี่คนโตใช่หรือไม่"เสี่ยวเย่าเดินมาหาเมิ่งลู่เจินเขาก้มลงอุ้มหลานชายตัวน้อยขึ้นมาก่อนจะมองหน้าแล้วเอ่ย"เสี่ยวเย่า เจ้าเป็นพี่ต้องดูแลน้องๆ ห้ามเข้าใกล้เตาไฟ ห้าม

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   พ่อลูกได้พบหน้า

    เสิ่นเยี่ยนฟางใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่เมิ่งหย่งชวนยังคงไขว่คว้าสองเต้าอย่างไม่ยอมแพ้ เสิ่นเยี่ยนฟางจับมือเขาไว้ก่อนจะส่งสายตาดุไปให้ คนตัวโตต้องยอมปล่อยเพราะเมียเริ่มดุแล้ว"นอนนะเจ้าคะ พรุ่งนี้ต้องไปสอนหนังสืออีก ท่านคึกทุกคืนเช่นนี้ร่างกายจะแย่เอา""เมียจ๋า อีกครึ่งเดือนต้องเดินทางแล้วนะ""ท่านพี่นอนเจ้าค่ะ"เมิ่งหย่งชวนยอมนอนเสิ่นเยี่ยนฟานนอนหนุนแขนเขาจนกระทั่งปลายยมอิ๋นเสียงเรียกของเสี่ยวเย่าดังขึ้นมา"ท่านแม่ขอรับน้องตื่นแล้วขอรับ""ท่านแม่เจ้าขาเสี่ยวเหอกับเสี่ยเถาตื่นแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวอิงด้วย"เสิ่นเยี่ยนฟางหูผึ่งทันที เสี่ยวอิงหรือคือใครกันมาจากไหนอีกเล่า ไหนว่าห้าคนไง ก่อนจะค่อยๆเอาแขนของสามีออกจากนั้นก็ลุกขึ้นมาสวมเสื้อคลุม เนื่องจากชาติก่อนนางเป็นหน่วยซีลเก่าการเคลื่อนไหวจึงนับว่าเบามาก เสิ่นเยี่ยนฟางห่มผ้าให้เมิ่งหย่งชวนก่อนจะจุมพิตแก้มสากจากนั้นก็เปิดประตูออกไปเมิ่งหย่งชวนที่นอนอยู่ลืมตาทันที ภรรยาลุกไปกลางดึกอีกทั้งสวมเสื้อคลุม ใส่มิดชิดเพียงนี้คงมิได้ไปสุขาแน่ๆ เสียงเดินไปทางป่าท้อ เมิ่งหย่งชวนลุกขึ้นก่อนเดินออกมาเห็นหลังนางไวๆ เสิ่นเยี่ยนฟางที่มาถึงก็เห็นสามคนรออยู

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status