หน้าหลัก / โรแมนติก / ลิขิตกาลบันดาลรัก / เมิ่งหย่งชวนผู้อบอุ่น1

แชร์

เมิ่งหย่งชวนผู้อบอุ่น1

ผู้เขียน: ป่าดอกท้อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-09 19:08:47

เมิ่งหย่งชวนใส่เสื้อผ้าให้นางกลับตามเดิมก่อนจะไปอุ่นยาให้นางอีกครั้ง จากนั้นเขาก็มาปลุกคนตัวเล็กลุกขึ้นมากินยาอีกครั้ง

"เสี่ยวฟาง ลุกเถอะมากินยาได้แล้ว เด็กดื้อหรือว่าเจ้าอยากให้ข้าป้อนอีกหื้ม"

"อืม ปวดหัวไม่กินได้ไหมขอนอนก่อนนะ อื้อ อึกๆๆ"

เมิ่งหย่งชวนรู้ว่านางไม่ยอมกินแน่ๆจึงป้อนยาให้นางด้วยปากเขาอีกตามเคย กระทั่งยาหมดชาม เสิ่นเยี่ยนฟางงึมงำต่อว่าเขา

"ฮือๆๆ คนใจร้ายข้าไม่อยากกินมันขมนี่ ฮือๆๆ เมิ่งหย่งชวนคนนิสัยไม่ดี"

"อย่างอแง เดี๋ยวก็หายขมแล้วนะข้ามีน้ำผึ้งให้ด้วย"

เขาลังเลที่จะให้นางกินเองหรือว่าจะป้อนแบบเมื่อกี้ดี ในที่สุดเขาก็เลือกป้อนนางจากปากตัวเอง ครั้งนี้เขาจูบนางเนิ่นนานจนคนตัวเล็กประท้วงเพราะหายใจไม่ทัน

เมิ่งหย่งชวนทอดกายลงนอนเคียงข้างกอดนางเอาไว้กระซิบข้างหู

"อากาศหนาวข้ากอดเจ้านะคนดี เจ้าเป็นไข้ต้องอบอุ่นไว้ อย่าดื้อนะเสี่ยวฟาง"

เสิ่นเยี่ยนฟางหลับไปแล้วเพราะฤทธิ์ยา บวกกับพิษไข้ แต่คนตัวโตกับนอนไม่หลับ ร่างนุ่มนิ่มทำเขาไม่สามารถข่มตาได้

"เด็กดื้อ อย่าโทษข้านะเจ้าเย้ายวนน่ารักเกินไป ข้าไม่ล่วงเกินหรอกขอแค่ชื่นใจเองนิดหน่อยนะ"

เมิ่งหย่งชวนจี้จุดหลับให้นาง ก่อนจะจุมพิตเบาๆ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   เมิ่งหย่งชวนผู้อบอุ่น2

    ด้านนอกเมิ่งลู่เจินต้มน้ำตาลทรายแดงเสร็จแล้ว กำลังจะยกมาให้พี่สะใภ้ แต่เมิ่งหย่งชวนบอกว่าเขาจะจัดการเอง ให้น้องชายต้มข้าวต้มเดี๋ยวเขาออกมาช่วย เมื่อวานเสิ่นเยี่ยนฟางซื้อเนื้อหมูมาอีกทั้งปู่ใหญ่ให้ไข่ไก่มาจึงต้มข้าวต้มหมูกับไข่ต้มคนละฟองเสิ่นเยี่ยนฟางเปลี่ยนผ้าเรียบร้อยแล้วก็คลานขึ้นเตียงนอนต่อ ยุคโบราณไม่มีอะไรบรรเทาได้เลย มิน่าที่เขาว่าสตรียุคโบราณหากมีระดูจะไม่ออกจากบ้านกัน ปวดท้องจะตายอยู่แล้ว เมิ่งหย่งชวนเข้ามาหาพร้อมถ้วยน้ำตาลรายแดงต้ม ก่อนจะเรียกนางให้ลุกขึ้นมาดื่ม"เสี่ยวฟางลุกมาดื่มน้ำตาลทรายแดงต้มสักหน่อยเถอะจะได้ดีขึ้น มาข้าจะช่วยให้เจ้าอุ่นท้อง"เสิ่นเยี่ยนฟางค่อยๆลุกแล้วรับชามมาดื่ม เมิ่งลู่เจินเข้ามาถามว่าจะให้ยกข้าวมาข้าในหรือไม่"พี่สะใภ้ท่านให้ข้ายกข้าวต้มมาให้ท่านข้างในดีหรือไม่ขอรับ""เดี๋ยวข้าออกไปกินเองก็ได้อย่าลำบากเลย""อาเจินหากทำเสร็จแล้วกินก่อนเถอะ เดี๋ยวของพี่สะใภ้เจ้าพี่จะจัดการเอง""อ้อขอรับ เอ่อ ว่าแต่พี่สะใภ้ขอรับ คอท่านไปโดนอะไรกัดมาหรือขอรับ ทำไมแดงเป็นจุดๆเช่นนั้นเล่าขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางทำสีหน้างงๆ ก่อนจะหันไปคว้ากระจกทองเหลืองมาส่องดูก็เห็นที่คอกับเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ข้าอยากทำการค้า

    เสิ่นเยี่ยนฟางกอดเด็กน้อยเอาไว้ปลอบใจพักใหญ่ ก่อนจะดันบ่าเล็กออกแล้วมองหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น"นี่เด็กดี เขาบอกว่าพี่ชายคนโตก็เปรียบเหมือนบิดา พี่สะใภ้ก็เปรียบเหมือนมารดางั้นจากนี้ไปให้พี่สะใภ้เป็นท่านแม่ให้เจ้าดีหรือไม่ อีกหน่อยพอพี่สะใภ้กับพี่ชายเจ้ามีเจ้าตัวน้อยเจ้าก็ได้เป็นท่านอา แต่ตอนนี้ต้องเข้มแข็งห้ามทำตัวอ่อนแอ พี่ใหญ่เจ้าป่วยอยู่อย่าทำให้เขาเป็นห่วง เขารักเจ้ามากนะ""ข้ารู้ข้าเข้าใจขอรับ ว่าแต่ท่านแม่เหตุใดต้องทิ้งข้ากับท่านพ่อไป ข้าไม่เข้าใจ""อาเจิน ผู้ใหญ่อาจมีเหตุผลที่ไม่สามารถพูดหรือบอกออกมาได้ เจ้าโตขึ้นพยายามทำทุกอย่างให้รอบคอบ เวลาทำสิ่งใดใช้สติให้มากๆ เรื่องของผุ้ใหญ่อย่าไปคิดแทนพวกเขาเลย มานี่พี่จะสอนสานลายแปลกๆ พี่สานได้นะแต่อาจช้าสักหน่อย เดี๋ยวพี่จะค่อยๆบอกเจ้านะ"ทั้งสองคนช่วยกันสานตะกร้า เมิ่งหย่งชวนมานานแล้ว เขาได้ยินทุกคำพุดของนาง นางอ่อนโยนกับน้องชายเขายิ่งนัก ช่างเป็นสตรีอบอุ่นเหลือเกิน แต่กับเขาแทบจะฆ่าให้ตายแต่เมื่อกี้นางบอกว่าจะมีเจ้าตัวเล็กกับเขาให้อาเจินเลี้ยง ถึงเขาจะรู้ว่าเป็นคำพูดปลอบใจน้องชายเขาแแล้วอย่างไร เขาถือว่านั่นเป็นคำสัญญาแล้วกัน ต้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   เรื่องในอดีตของสองพี่น้อง

    เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยเสียงอุบอิบก่อนจะนอนหันหลังให้เขา หน้าแดงไปหมดตาบ้านี่ลามก หื่นกามน่าดูระวังให้ดีข้าจะควักลูกตาให้ เมิ่งหย่งชวนหัวเราะคนตัวเล็กที่อาศัยความเงียบต่อต้านเขา แต่ก็ยังไม่วายห่วงใยอาการป่วยของเขา ก่อนจะห่มผ้าให้นางอย่าเบามือ ก้มลงหอมแก้มจึงออกจากห้องเมิ่งหย่งชวนเดินไปคว้าตะกร้าเพื่อจะไปจับปลา เมิ่งลู่เจินมองหน้าเขา เมิ่งหย่งชวนจำเป็นต้องอธิบาย"พี่ไม่ได้ทะเลาะกับนางแค่ดุนางนิดหน่อย หากถูกน้ำเย็นนางจะป่วยอีก""แต่พี่ใหญ่ท่านเองก็ป่วยอยู่นะขอรับ""ไม่เป็นไร พี่จับได้โดยที่ไม่ต้องลงน้ำ อาเจินไม่ต้องสานแล้วพอเถอะมือแตกแล้ว""พี่สะใภ้สอนลายใหม่ให้ มันสวยดีข้าว่าต้องขายดีแน่ๆ พี่ใหญ่ข้าจะหาเงินให้ท่านกลับไปเรียน ท่านรอสักนิดนะขอรับ"เมิ่งหย่งชวนลูบศีรษะน้องชาย เขาไม่ต้องการเป็นขุนนางจอมปลอมเหมือนคนพวกนั่น และที่สำคัญเขาก็ไม่ไร้หนทางเสียทีเดียว อีกสามเดือนต้องเดินทาง มีเสิ่นเยียนฟางมาอยู่เป็นเพื่อนน้องชายเขาก็สบายใจหน่อยดูแล้วนางเป็นสตรีที่ดีพอควร แม้จะอยู่ด้วยกันเป็นวันที่สี่แต่เขาดูออก นางไม่ใช่คนเหลวไหล ติดแค่เถียงคำไม่ตกฟากเท่านั้นละเมิ่งหย่งชวนใช้ตะกร้าชอนปลาแต่พวกมันว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ใครเขาละเมอแบบท่านกัน

    เมิ่งหย่งชวนถือถ้วยยาเข้าไปในห้องให้เสิ่นเยี่ยนฟางสองถ้วยๆนึงเป็นยาแก้ไข้หวัด ส่วนอีกถ้วยเป็นยาสำหรับสตรีมีประจำเดือนที่เขาไปหาท่านหมอจ้าวมาเมื่อตอนสายๆที่นางหลับเพื่อไปซื้อยาเสิ่นเยี่ยนฟางมองถ้วยยาก็เอามือปิดปากแน่นหันหน้าหนีทันที นางไม่กินไม่มีทางกินมันอีกแน่ๆ มิหนำซ้ำยังมีเพิ่มมาอีกถ้วยด้วยจึงส่งเสียงออดอ้อนแสนหวานให้คนตัวสูงใจอ่อน"ท่านพี่ ข้าไม่กินได้ไหมแล้วเหตุใดมีมาเพิ่มอีกถ้วยเล่าเจ้าคะ"เมิ่งหย่งชวนอมยิ้ม พูดจาอ่อนหวานน่ารักเสียด้วย เวลาอยากเอาตัวรอดนี่ช่างน่ารักเสียจริงๆแม่ลูกกวางน้อย เสิ่นเยี่ยนฟางที่แท้เจ้ากลัวการกินยานี่เอง"ยาถ้วยนี้เป็นยาแก้ไข้หวัด ท่านหมอจ้าวบอกว่าต้องกินให้หมดห้าเทียบ ส่วนอีกถ้วยเป็นยาสตรี ข้าไปหาท่านหมอมาบอกเขาว่าเจ้าปวดท้องเขาจึงจัดมาให้อีกห้าเทียบ กินดีๆอย่าดื้อ""เมิ่งหย่งชวนตาบ้านี่ แค่ยาแก้หวัดก็ขมจะตายแล้วใครให้เจ้าไปเพิ่มยาให้ข้า ออกไปเลยนะไม่กินแล้ว""เจ้าก็รู้ว่าข้ามีวิธีให้เจ้ากินยา เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าถ้าชอบให้ข้าจูบเจ้าก็ไม่บอกดีๆ เหตุใดสร้างปัญหามากมายนัก มาข้าป้อนก็ได้""อย่ามาโรคจิตนะ อื้ม"เมิ่งหย่งชวนรั้งนางเอาไว้กรอกยาลงไปแต่นางไม่ยอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   บัณฑิตที่ยอมขายศักดิ์ศรีจะเรียกบัณฑิตได้เช่นไร

    ท่านไม่คู่ควรเอ่ยถึงบิดาข้าสิบเดือนก่อนหน้าเมิ่งหย่งชวนกำลังอ่านตำราในที่พักของบัณฑิตเนื่องจากอีกสามวันจะเป็นวันเข้าสอบจริง สองวันก่อนหน้าเขาได้ทำการสอนให้เหล่าบัณฑิตด้วยกันจนหนึ่งในคนที่ร่วมสอบปีนี้เกิดริษยา ตกดึกก็มีคนมาเคาะประตูห้องพอเขาเปิดออกมาก็พบกับชายชราที่เขาไม่มีวันลืมใบหน้านั้นได้เลยก๊อกๆๆๆเมิ่งหย่งชวนเปิดประตูก็เห็นคนสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนส่วนอีกคนเป็นชายชรา เมิ่งหย่งชวนถอนหายใจก่อนจะเอ่ยปาก"พวกท่านมีอะไรหรือไม่ขอรับ ข้าน้อยเป็นเพียงบัณฑิตเท่านั้น มิทราบว่าจะให้ช่วยเหลือสิ่งใด""บัณฑิตเมิ่งข้าคือจางฮั่นรองใต้เท้ากรมอาญา และนี่คือใต้เท้าลู่หานอำมาตย์ซ้ายวันนี้มีเรื่องอยากคุยกับเจ้า จะเชิญข้าเข้าไปได้หรือไม่""อ้อใต้เท้าทั้งสองเชิญขอรับ"สามคนเข้ามาในห้อง ลู่หานใช้สีหน้าดูถูกเขา แม้แต่เก้าอี้ยังเขาไม่อยากนั่ง ช่างต่ำต้อยเสียจริงๆ"บัณฑิตเมิ่ง ข้ามีน้องชายคนนึงแม้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรเอ่ยปาก แต่ข้าอยากให้เจ้าไม่ลงสอบในอีกสามวันข้างหน้าได้หรือไม่""ใต้เท้าจางเอ่ยสิ่งใดกันข้าน้อยไม่เข้าใจขอรับ ข้าเดินทางมาไกลหวังการสอบครั้งนี้มากนักก็เพื่อครอบครัวของข้า หากไม่สอบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ท่านไม่คู่ควรเอ่ยถึงบิดาของข้า

    เขายากจนยิ่งกว่าอะไร เสื้อผ้าที่ซีดจนหาสีเดิมไม่ได้ คนในโรงเตี้ยมดูถูกเขาด้วยสายตา ในที่สุดเขาก็ขึ้นมายังชั้นสอง ในห้องรับรองมีคนนั่งรออยู่แล้ว คนอื่นๆล้วนถูกไล่ออกไปหมด มีเพียงเขาและนางเท่านั้นสตรีวัยสามสิบกว่าช่างงามสง่ายิ่งนัก นางจิบชาก่อนจะเรียกชื่อเขา"หย่งเอ๋อร์ มานั่งนี่สิไม่เจอเจ้านานโตมากแล้ว เจินเอ๋อร์เล่าเขาเป็นเช่นไรบ้างโตมากหรือยัง""ฮูหยินท่านนี้ ท่านรู้จักข้าหรือขอรับ จำได้ว่าเราไม่เคยพบกัน"น้ำตาของลู่ซินค่อยๆไหล ออกมาเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้ได้ไหม มิใช่แม่อยากทอดทิ้งพวกเจ้า แต่หากไม่กลับมาตระกูลท่านตาเจ้าจะเดือดร้อน หย่งเอ๋อร์ท่านพ่อเจ้าเล่าเขาสบายดีหรือไม่""ฮูหยิน ท่านแม่ข้านางตายไปนานแล้ว ตายไปเมื่อห้าปีก่อน ส่วนท่านพ่อข้าเป็นหรือตาย มิใช่ว่าพวกท่านรู้ดีที่สุดหรอกหรือ ข้าขอตัวก่อน""หย่งเอ๋อร์ นั่งกับแม่สักหน่อยเถอะ คิดถึงเจ้าเหลือเกิน ดื่มชากับแม่ก่อนค่อยไปได้ไหม"เมิ่งหย่งชวนได้กลิ่นยาในชานานแล้ว หึ แม่หรือมีมารดาที่ไหนวางยาพิษบุตรตนเอง เมิ่งหย่งชวนหยิบถ้วยชาขึ้นมากรอกปากตนเองก่อนจะเขวี้ยงถ้วยลงพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆมือหนาคว้ามือบางขึ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   มารดาเจ้ายังไม่พร้อมพ่อคงต้องใจร้าย

    เมิ่งหย่งชวนที่ตอนนี้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนก็กำหมัดแน่น เขาจะเหยียบมันให้จมสกุลลู่ตัวดี สกุลจางที่น่ารังเกียจยี่สิบปีก่อนท่านพ่อออกจากหมู่บ้านไปเปิดสำนักคุ้มภัยของตนเอง วันนึงคุ้มครองสินค้าให้สกุลกับลู่จนได้พบนางสตรีโลเลคนนั้นจากนั้นทั้งคู่มีสัมพันธ์กันอยู่กินด้วยกันจนมีเขาขึ้นมา ท่านพ่อมีวรยุทธและสอนวรยุทธให้เขาจนเก่งกล้าจากนั้นบิดาของนางใต้เท้าลู่ ลู่หานก็ตามาจนเจอพวกเขา และบังคับจะเอาบุตรสาวคืนเพื่อไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับบุตรชายขุนนางด้วยกันสตรีคนนั้นนับว่างดงามมากนัก แต่นางไม่ยอมกลับ อีกทั้งตอนนั้นนางตั้งครรภ์อาเจินอยู่ บิดานางลู่หานบังคับให้นางทำลายบุตรในครรภ์แล้วตามกลับเมืองหลวงท่านพ่อกลับมาจากเดินทางไปคุ้มกันสินค้าพอดี จึงช่วยนางกับเขาไว้ได้ เห็นว่าหากรั้งอยู่เมืองหลวงอาจไม่ปลอดภัยจึงพาเมียกับลูกกลับบ้านเกิดที่เมืองเหอป๋ายจากนั้นนางคลอดน้องชายให้เขาใช้ชีวิตเช่นชาวนาเกือบห้าปี เป็นมารดาที่แสนอบอุ่นอยู่มาไม่นานก็มีคนสกุลลู่ตามหาจนเจอ เย็นวันหนึ่งบอกกับท่านพ่อว่ามีคนจากบ้านเดิมมาพบบอกว่าบิดาป่วยหนัก จึงอยากไปดูใจสักครั้งแล้วนางก็กลับเมืองหลวงจากวันนั้นนางก็ขาดการติ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ความอบอุ่นที่นางมีให้

    ส่วนเสิ่นเยี่ยนฟางที่ถุกคลายจุดสักพักก็ลืมตาขึ้นมา นางหน้าแดงให้ตายสิฝันบ้าอะไรเนี่ยนางฝันว่าเมิ่งหย่งชวนคลุกเคล้าจูบนางแถมยังดูดนมนางด้วย นี่มันฝันบ้าอะไรเนี่ย อึ๊ยยายบ้าถึงเขาจะหน้าตาดีก็เถอะแต่หล่อนจะมาคิดลามกตอนนอนไม่ได้นะ เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าคนที่นอนหลับก่อนจะบ่นเบาๆ"คนโรคจิต ข้าไม่มีทางทำกับเจ้าแบบนั้นในชีวิตจริงแน่ๆ แค่ในความฝันเท่านั้นแหละตาบ้า"เสิ่นเยี่ยนฟางค่อยๆจะลุกออกไปแต่ถูกแขนแข็งแรงกอดเอาไว้ ทำให้นางที่กำลังจะก้าวข้ามเขาล้มลงนอนทับร่างสูงเมิ่งหย่งชวนพลิกนางลงใต้ร่างก่อนจะมองด้วยสายตาหยอกล้อ กระซิบเสียงรัญจวนข้างใบหูเล็กๆนั่น พร้อมกับสอดลิ้นเข้าในรูหูของนางจนเสิ่นเยี่ยนฟางถึงกับต้องกลืนน้ำลายด้วยความวาบหวิว"เสี่ยวฟางเจ้าฝันถึงข้าหรือ ไหนบอกมาสิจ้าฝันว่าอะไร เด็กดื้อไม่เช่นนั้นวันนี้ไม่ได้ลงจากเตียงนะ""อื้อ ปล่อยข้านะท่านพี่ข้าหนัก ท่านตัวใหญ่เกินไปแล้ว""คนดี..ข้าไม่ได้ใหญ่แค่ตัวนะ เจ้าอยากพิสูจน์ไหม แต่ว่าเจ้ามีระดูอยู่พิสูจน์ไม่ได้ถ้าเช่นนั้นข้าแค่ให้เจ้าดูน่าจะได้ว่าไงอยากดูหรือเปล่า""พะ พะ พอเลยนะตาบ้า ข้าจะไปหุงข้างแล้วอุ่นอาหาร นะ นะ นี่ ยะ ยะ เย็นมากแล้ว เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12

บทล่าสุด

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ข้าไม่อยากให้เขาไปเมืองหลวง

    ทันทีที่หวงหย่งเหนียนกลับถึงจวนหยางซิงเหยียนก็นั่งหน้างอหงิกบนเตียงก่อนจะเอ่ยออกมา"ท่านอา ท่านยกเลิกการรับเมิ่งลู่เจินเป็นศิษย์สายตรงเถอะเจ้าค่ะ"ขอเหตุผลหน่อยได้ไหมเมียจ๋าคนดี"ปากก็พูดแต่มือกลับอยู่ไม่สุกปลดสายรัดเอวหยางซิงเหยียนก่อนจะฝังใบหน้ากับเต้าอวบอิ่ม ครอบครองดูดดื่มสลับทั้งสองจนเปียกแฉะไปด้วยน้ำลายของเขา มือหนาปลดกระโปรงนางออก ตามด้วยชุดตนเองจับเข่าตั้งชันขึ้นฝังใบหน้ากลางร่อยหลืบที่เริ่มมีน้ำหวานหลั่งชโลมออกมา"อื้อ เสียวเหลือเกินเจ้าค่ะ แต่ท่านอาเจ้าขาขอคุยเรื่องสำคัญก่อนนะเจ้าคะ อ่าห์""อืม จ๊วบๆๆ อืมหวาน" หวงหย่งเหนียนยอมละใบหน้าจากร่องรักของนางก่อนจะเลื่อนมาดูดเม็ดทับทิมสองข้างฟังนางพูดคุย"ว่ามาเถอะเมียจ๋า พี่รอฟังอยู่ อืมนุ่มหวาน อยากนอนดูดทั้งวันจริงๆเหยียนเอ๋อร์ของข้า""อืม เสียวจัง ท่านอา จ เจ้า คะ คือว่า อื้อ อูย ล ลู่ซิน ฮู หยิน ฮูหยินจางเป็นมารดาแท้ๆของเมิ่งซิ่วไฉ อ่าห์ ท่านอาหย่งเหยียนท่านรักข้าเถอะเดี๋ยวค่อยคุย ข้าต้องการท่านแล้ว อ๊าย ล ลึกไปแล้ว อืม จ จุก""เจ้าแน่นขนาดนี้ อาจะไม่ไหวเอานะคนดี โอ้วเสียวมากนักด้ามพู่กันของข้าแทบหักค่าร่องเจ้า เหตุใดเสียวเยี่ยง

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   รับเป็นศิษย์ส่วนตัว

    เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเมิ่งลู่เจินเขาพยักหน้าก่อนจะก้าวมาข้างหน้าคารวะหวงหย่งเหนียนด้วยท่าทีที่บุตรขุนนางชั้นสูงเท่านั้นจะทำเช่นนี้หวงหย่งเหนียนเอ่ยถามความรู้จากที่เขาเรียนมาเมิ่งลู่เจินตอบได้อย่างไม่ขัดเขิน คนในสำนักศึกษาไม่รู้ว่าเขาเป็นใครจึงเอ่ย"แหม่ มาอวดความรู้อยู่ที่หน้าโรงเรียนมิอายผู้คนจริงๆหรือ นี่พี่ชายท่านนั้นคิดว่าตนเองเป็นใครกัน อาจารย์สุยของพวกเรานับว่ารอบรู้ที่สุด หากเจ้าอยากได้ความรู้ มิสู้มาถามอาจารย์สุยเล่า ฮ่าๆๆๆ""ฮ่าๆๆๆ นี่เมิ่งอี้หรือว่าพี่ชายลูกพี่ลูกน้องเจ้าจะจ้างคนมาเล่นละครกัน"องครักษ์ทำท่าจะเข้าไปสั่งสอน แต่หวงหย่งเหนียนห้ามเอาไว้ก่อนจะถามเมิ่งลู่เจิน"ผู้ใดสอนบทเรียนเหล่านี้ให้เจ้าหรือ""เป็นพี่ชายขอรับ""อืมนับว่าเจ้ามีอาจารย์ที่เก่งนัก เอาล่ะรองเจ้าเมืองข้าได้คนแล้ว ลูกศิษย์ส่วนตัวที่จะได้ไปเป็นสหายร่วมเรียนรัชทายาทคนสุดท้ายนับว่าข้าเจอแล้ว เมิ่งฮูหยิน ตั้งแต่พรุ่งนี้รถม้าของจวนเจ้าเมืองจะไปรับส่งน้องสามีท่านทุกวัน ข้าจะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามเดือน เพื่อสอนคนที่ข้าเลือก สุดท้ายแล้วเขาต้องไปร่ำเรียนต่อที่เมืองหลวง พวกเรากลับกันเถอะ กลับเถอะ"หวงหย่งเหนียนเ

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   แม้สำนักจะไร้ชื่อ แต่อาจารย์มิไร้คุณธรรม

    ทางด้านเสิ่นเยี่ยนฟางเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ เกลือขึ้นราคาอย่างมากเช่นนี้ราษฎรคงลำบากไม่น้อ้ย ได้ยินว่าเกลือขาดแคลน ราชสำนักควบคุมราคาเกลืออยู่ตอนนี้ เสี่ยวเย่ามองถังหูลู่ตาละห้อยเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นบุตรชายยืนมองก็เดินมาถาม“กินได้หรือ มิใช่ว่าเจ้าเป็นจิตวิญญาณหรือ”“ท่านแม่ลืมแล้วหรือขอรับว่าข้ามีกายสังขารแล้ว ที่คนอื่นไม่เห็นข้าเพราะข้าไม่ต้องการให้พวกเขาเห็นเท่านั้น”“อืม เช่นนั้นเจ้าจะเอากี่ไม้ เดี๋ยวซื้อไปฝากท่านอาเจ้าสักสามไม้ท่านพ่อเจ้าสองไม้”“ขอบคุณขอรับท่านแม่ ข้าชอบท่านแม่ที่สุดเลย”“ไปหาผลซานจามาให้แม่สิ แล้วแม่จะทำให้กินจนเบื่อเลย”เสิ่นเยี่ยนฟางสั่งหมั่นโถวร้อยลูก ขาหมูตุ๋นสามขา ซาลาเปาอีกร้อยลูก ก่อนจะนำขึ้นรถม้าของเย่วฝางไปส่งที่หมู่บ้านก่อนเพราะเกรงว่าคนงานจะหิว เมิ่งหย่งซิน ไปกับเย่วฝางส่วนเสิ่นเยี่ยนฟางพาเมิ่งลู่เจินไปสำนักศึกษา ไม่นานก็เดินมาถึงสำนักศึกษา คุณธรรมค้ำใต้หล้า ของอาจารย์สุยกว่างโจวท่านนั้น เสิ่นเยี่ยนฟางยืนรอหน้าสำนักศึกษาก็เห็นอาจารย์คนหนึ่งเดินมาทางนี้จึงเอ่ยปากถามไถ่"เอ่อ ท่านอาจารย์เจ้าคะ ที่นี่คือสำนักศึกษาคุณธรรมค้ำใต้หล้าใช่หรือไม่เจ้าคะ"อาจารย์

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   ไอ้หลานเขยเฒ่า

    กระทั่งรถม้าของเย่วฝางมาถึงในตำบล เสิ่นเยี่ยนฟางขอตัวไปหาพี่สาวที่จวนเจ้าเมืองก่อน เย่วฝานเห็นว่าไหนๆ ก็มาแล้วพบท่านเจ้าเมืองสักหน่อยก็ดี ทั้งสามมาถึงจวนท่านเจ้าเมือง เสิ่นเยี่ยนฟางคำนับโจวเฉิงพ่อบ้านที่ติดตามโจวหยวนโจวเฉิงคำนับกลับ ช่างเป็นสตรีที่กิริยามารยาทดีงามอะไรเช่นนี้ นี่ใช่สตรีที่แต่งงานมาแก้ชงของแม่ทัพเมิ่งจริงๆ หรือ"ท่านอาเฉิง ข้ามาขอพบพี่เสี่ยวฮวา มิทราบว่าจะรบกวนเกินไปหรือไม่เจ้าคะ""เอ่อ เมิ่งฮูหยินท่านรอสักครู่ได้ไหมขอรับ คุณชายรองกำลังสนทนากับเอ่อ ราชครูหวงอยู่ด้านใน พี่สาวท่านนางก็อยู่ในนั้นด้วย""อ้อ เช่นนั้นเดี๋ยวข้ามาใหม่จะดีกว่า พอดีจะพาอาหญิงของท่านพี่ไปซื้อของเซ่นไหว้นะเจ้าค่ะ ฝากใต้เท้าแจ้งแก่นางด้วย"เมิ่งลู่เจินจับมือพี่สะใภ้เขาได้ยินเสียงที่ดังลอดออกมาจากด้านใน พี่ชายฝึกยุทธให้เขามาสักพักแล้วจึงหูดี อีกอย่างพี่สะใภ้จับเขาวิ่งขึ้นลงภูเขาทุกวัน ตอนนี้เขาแข็งแรงกว่าเก่ามากนัก เมิ่งลู่เจินเอ่ยแก่เสิ่นเยี่ยนฟางเบาๆ"พี่สะใภ้ดูเหมือนว่าวันนี้เราคงมิได้พบหรอกขอรับ ดูท่าข้างในจะมีเรื่องกัน""(ท่านแม่ ใต้เท้าคนนั้นกำลังดุด่าสตรีนางหนึ่งอยู่ขอรับ มีบุรุษอีกคนกอดนางอ

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   สินเดิมของข้าหนึ่งหมื่นตำลึง

    เมื่ออาเล็กสามีกล่าวจบ เสิ่นเยี่ยนฟางสำลักน้ำลายทันที โดนเตะขนาดนั้นยังไม่ตายนับว่าทนมือทนเท้านางนัก เมื่อเช้ามาขออาหารเพื่อให้บุตรสาวหรอกหรือ ก่อนนางจะหันไปเอ่ยกับบรรดาพ่อค้าที่เจอเมื่อคืนในงานเลี้ยงเจ้าเมือง"พวกท่านมาบ้านข้าเพราะเหตุใด วันนี้สามีข้ามีญาติมาหาไม่สะดวกรับแขกเชิญกลับไปก่อน""เอ่อ เมียอาชวนคนเหล่านี้บอกว่าจะมาซื้อเต้าหู้นะ" ทันทีที่เมิ่งหลงพูดจบชาวบ้านที่มามุงดูก็มองหน้ากันไปมา"สูตรเต้าหู้หรือ ข้าไม่ขาย""ข้าให้เจ้าสองร้อยตำลึง หึยังมีอีกข้าจะให้สินเดิมแก่เจ้าเพิ่มร้อยตำลึง แต่งงานออกมาไม่มีสินเดิมไม่มีบ้านเดิมยังคิดจะยืนหยัดที่บ้านสามีอีกหรือ""โอ้ว เศรษฐีเสิ่นช่างใจกว้างนัก ท่านพี่ข้าต้องมีสินเดิมเท่าไหร่กันถึงพอเจ้าคะ ว่ากันว่าแต่กับขุนนางต้องสินเดิมยาวสิบลี้ บิดาข้าอยากให้ข้าได้มีที่ยืนในบ้านสามี งั้นสักหนึ่งหมื่นตำลึง กับทองคำหนึ่งพันชั่งพอไหมเจ้าคะท่านพี่"เสิ่นกว่าผิงหน้าดำนางเด็กนี่เห็นๆว่าอยากให้เขาโมโหตาย"มันจะมากไปแล้วนะ เจ้าเป็นสตรีแบบใดมีค่าคู่ควรกับเงินมากมายขนาดนั้นหรือ ท่านพ่อข้าอุตส่าห์ลดตัวมาคุยกับเจ้านับว่าให้เกียรติมากแล้ว" เสิ่นเว่ยเว่ยเอ่ยปากตวา

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   แม่จะทำให้เจ้ามีตัวตนในสายตาท่านพ่อ2

    "เมื่อเช้าท่านปู่ท่านมาขออาหาร ไปอาบน้ำนะเจ้าคะคนดี วันนี้เขานอนเร็วก็ได้ข้าจะตามใจท่าน""อืม กี่ชั่วยามดีเมียข้า""ท่านนี่นะ ไปเถอะเจ้าค่ะอาเจินตื่นสายทุกวันเลย คงต้องคุยกันแล้วเขาชอบเรียนหนังสือข้าก็ดีใจ แต่อ่านหนังสือดึกทุกคืนย่อมไม่ดีแน่ สายตาจะแย่เอาได้"เมิ่งหย่งชวนแต่งตัวให้เมียสาวก่อนจะอุ้มนางลงจากเตียงพาไปห้องอาบน้ำด้วย ก่อนจะไม่ยอมให้นางฉวยโอกาสหนีเมิ่งหย่งชวนจับนางกินในอ่างจนได้ เขาสุขสมไปถึงสองครั้งจึงยอมปล่อยนาง เสิ่นเยี่ยนฟางงับจมูกเขาอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะแต่งตัวให้เขาแล้วพากันออกมาข้างนอก เมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้ตั้งโต๊ะเตรียมมื้อเช้าเรียบร้อยแล้วทั้งสามนั่งกินข้าว ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดต่างมุ่งอยู่กับความคิดตนเอง จนกระทั่งเสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยขึ้น"เมื่อเช้าปู่ของพวกเจ้ามาขออาหาร ข้าบอกว่าหากเมิ่งอี้มาขอโทษอาเจินวันนี้พวกเขาจะมีข้าวกินหนึ่งวัน หากขอโทษและยอมรับผิดเรื่องที่เขาใส่ร้ายอาเจิน พวกเขาจะมีข้าวกินสิบวัน""อืม พี่ใหญ่มิใช่ว่าเงินเดือนซิ่วไฉเดือนละสองตำลึงใกล้จะถึงวันจ่ายแล้วหรือขอรับ ท่านจะให้พวกเขาหรือไม่""เราแยกบ้านมาแล้ว แต่ว่าอนาคตเจ้าต้องเรียนเพื่อสอบจอหงวน จะละเล

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   แม่จะทำให้ลูกมีตัวตนในสายตาท่านพ่อ1

    ยามเหมาเสิ่นเยี่ยนฟางตื่นแล้ว นางเข้าครัว เอะ!! ฟืนมาจากไหนเนี่ย เสี่ยวเย่าคงจัดการให้ เสิ่นเยี่ยนฟางติดไฟเพื่อต้มน้ำร้อนให้สามีกับน้องชาย ก่อนจะนวดแป้งวันนี้จะทำแป้งย่างเค้กต้นหอม เห็ดที่อยู่ในตะกร้าไม่เหี่ยวเฉาสักนิด เสิ่ยเยี่ยนฟางเก็บไข่ไก่จากไก่ป่าที่นางจับได้มาสิบห้าตัวครั้งก่อน นางทำเล้าไก่ขังเอาไว้ กำลังเล็งๆว่าจะซื้อที่ดินที่ติดกับบริเวณบ้านเพิ่ม เนื่องจากที่ดินสามีก็อยู่ติดกัน เมิ่งหย่งชวนไม่เคยทำนา ที่ดินเพาะปลูกไม่ดีเขาเลือกที่จะรับใช้ราชสำนักเพื่อผ่อนปรนภาษีของครอบครัว น่าเสียดายที่บรรดาญาติเหมือนผีตายซากทั้งนั้นเสียงกุกกักๆอยู่หน้ารั้วบ้าน เสิ่นเยี่ยนฟางเดินออกมาดูก็เห็นชายชรามายืนด้อมๆมองๆ สองมือถูกกันไปมา เสิ่นเยี่ยนฟางเดินมาหาก่อนจะถาม"ตาเฒ่าเมิ่ง มาบ้านข้าทำไมอยากถูกทุบอีกหรือ""ไม่ๆๆ หลานสะใภ้เจ้าพอมีอาหารไหม คือว่าข้าอยากจะขอยืมสักหน่อย ที่บ้านไม่มีอะไรกินแล้ว เห็นว่าเจ้าไปช่วยงานใต้เท้าโจวพอจะมีของกินเหลือหรือไม่""หึ" เสิ่นเยี่ยนฟางเป่าปอยผมที่ปรกหน้าออกก่อนจะเอ่ย"ข้านี่นะไม่ใช่คนใจดำ แต่คนบ้านใหญ่เจ้าสิใจดำ มาขอข้าวข้ากินข้าย่อมให้อยู่แล้ว ตาเฒ่าเมิ่งหากเช้านี

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   หากกล่าวตามจริงเจ้าก็แค่ลูกอนุ

    เสิ่นกว่างผิงโกรธจนหน้าคล้ำยกมือขึ้นตบหน้าเสิ่นเยี่ยนฟางทันที แต่มือยังไม่ถึงใบหน้างามข้อมือเขากลับถูกมือหนาแข็งแกร่งบีบจนต้องนิ่วหน้า เสิ่นเว่ยรีบลุกมาทันทีเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน"ท่านพี่หย่งชวนเจ้าคะ ท่านพ่อแค่อยากสั่งสอนสตรีคนนี้เป็นเพราะนางทำชื่อเสียงตระกูลเสื่อมเสีย ปีนเตียงอาเขยตนเองไม่พอ ขนาดแต่งงานมาแล้วยังไปให้ท่าบุตรชายเศรษฐีจางอีก ท่านพี่หย่งชวนอย่าถูกใบหน้าจิ้งจอกของนางหลอกลวงนะเจ้าคะ"เสิ่นเยี่ยนฟางมองออกเสแสร้งเหรอ มาดูกันใครเก่งกว่า น้ำตามาแล้วผัวรักผัวหลงขนาดนี้หล่อนจะเอาอะไรมาสู้ฉัน จะแย่งผัวเจ๊หรือนังหนูไหล่บอบบางสั่นเท่า น้ำตารินไหลหันไปทางเสิ่นกว่างผิงกับหลิวหงที่ยืนยิ้มมองดูนางอยู่ก่อนจะเอ่ยวาจา"ท่านพ่อ นางเป็นน้องสาวข้าจริงๆหรือว่านางเป็นลูกติดท่านน้าหลิวหงกัน""เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าพูดอะไร เสี่ยวเว่ยเป็นบุตรสาวข้ากับท่านพี่ เจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ ตนเองไม่สะอาดก็อย่ามาสาดน้ำโคลนผู้อื่น" หลิวหงรีบแก้ต่างทันที ใครจะรู้เสิ่นเยี่ยนฟางกลับคุกเข่านั่งลงมือบางกุมหน้าอกตนเองก่อนจะทุบมันอย่างอัดอั้นตันใจ ร้องไห้ปานจะขาดใจ"ฮือๆๆๆ ท่านแม่ท่านดูนี่ นางคือบุตรสาวของท่านพ่อก

  • ลิขิตกาลบันดาลรัก   มิใช่ว่าท่านตายแล้วหรือๆว่านรกมิต้องการท่านกันแน่1

    เมิ่งหย่งชวนยิ้มหวานให้นางแต่เมียสาวไม่สนใจ นางไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะมาเตรียมมื้อเช้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็นั่งลงกินข้าว"อาหารวันนี้อร่อยมากนัก เสี่ยวฟางเจ้าทำตอนไหนหรือ ขาหมูตุ๋นนี้เนียนลิ้น ยังมีผัดหมี่นี่เนื้อหมูบ้านเรามิใช่หมดไปแล้วหรือ"เสิ่นเยี่ยนฟางอมยิ้มบุตรชายของนางน่ารักเหลือเกิน ทำอาหารก็เก่งมิหนำซ้ำยังอร่อยอีกด้วย ไว้วันหลังนางจะบอกสูตรอาหารให้บุตรชายเยอะๆ สามีช่างสังเกตเกินไป ทั้งสามคนกินมื้อเช้าอย่างเอร็ดอร่อยเสิ่นเยี่ยนฟางกินอาหารก็รู้สึกว่ารสชาติคล้ายๆเหลาอาหารที่สามีเคยพาไปนั่งกิน เสี่ยวเย่านับว่ามีฝีมือ แต่มารดาคนงามไม่รู้เลยว่าตอนนี้ขาหมูตุ๋นที่นายอำเภอสั่งจองไว้กับทางเหลาอาหารเพื่อนำมาร่วมงานเลี้ยงท่านเจ้าเมืองหายไปจากรถเสบียง ยังมีผัดหมี่อายุยืนของหัวหน้ามือปราบชิวที่เตรียมไว้อีกก็หายไปเช่นกัน รวมถึงขนมงาอีกด้วยเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็พากันออกเดินทาง ก่อนจะไปเสิ่นเยี่ยนฟางนำโสมน้อยสองต้นใส่กระถางปลูกเอาไว้ในห้องนอน เป็นห้องที่นางซ่อมแซมให้แข็งแรงแต่แรก ก่อนจะไปหลังบ้านเรียกหาเจ้าตัวน้อย"เสี่ยวเย่า เฝ้าบ้านให้แม่ดูแลน้องสาวเจ้าด้วย ระวังคนบ้านใหญ่ของท่านพ่อเจ

DMCA.com Protection Status