ส่วนเสิ่นเยี่ยนฟางที่ถุกคลายจุดสักพักก็ลืมตาขึ้นมา นางหน้าแดงให้ตายสิฝันบ้าอะไรเนี่ยนางฝันว่าเมิ่งหย่งชวนคลุกเคล้าจูบนางแถมยังดูดนมนางด้วย นี่มันฝันบ้าอะไรเนี่ย อึ๊ยยายบ้าถึงเขาจะหน้าตาดีก็เถอะแต่หล่อนจะมาคิดลามกตอนนอนไม่ได้นะ เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าคนที่นอนหลับก่อนจะบ่นเบาๆ"คนโรคจิต ข้าไม่มีทางทำกับเจ้าแบบนั้นในชีวิตจริงแน่ๆ แค่ในความฝันเท่านั้นแหละตาบ้า"เสิ่นเยี่ยนฟางค่อยๆจะลุกออกไปแต่ถูกแขนแข็งแรงกอดเอาไว้ ทำให้นางที่กำลังจะก้าวข้ามเขาล้มลงนอนทับร่างสูงเมิ่งหย่งชวนพลิกนางลงใต้ร่างก่อนจะมองด้วยสายตาหยอกล้อ กระซิบเสียงรัญจวนข้างใบหูเล็กๆนั่น พร้อมกับสอดลิ้นเข้าในรูหูของนางจนเสิ่นเยี่ยนฟางถึงกับต้องกลืนน้ำลายด้วยความวาบหวิว"เสี่ยวฟางเจ้าฝันถึงข้าหรือ ไหนบอกมาสิจ้าฝันว่าอะไร เด็กดื้อไม่เช่นนั้นวันนี้ไม่ได้ลงจากเตียงนะ""อื้อ ปล่อยข้านะท่านพี่ข้าหนัก ท่านตัวใหญ่เกินไปแล้ว""คนดี..ข้าไม่ได้ใหญ่แค่ตัวนะ เจ้าอยากพิสูจน์ไหม แต่ว่าเจ้ามีระดูอยู่พิสูจน์ไม่ได้ถ้าเช่นนั้นข้าแค่ให้เจ้าดูน่าจะได้ว่าไงอยากดูหรือเปล่า""พะ พะ พอเลยนะตาบ้า ข้าจะไปหุงข้างแล้วอุ่นอาหาร นะ นะ นี่ ยะ ยะ เย็นมากแล้ว เ
ตอนนี้นางรู้สึกคัดๆเต้านมแปลกๆความฝันนั่นทิ้งความรู้สึกเหมือนจริงขนาดนี้เลยหรือ ให้ตายสิชาติก่อนมีแฟนก็ถูกสวมเขาก่อนแต่งงานยังไม่ทันได้คบคนใหม่ ไม่ได้เปิดซิงก็ตายเสียก่อน ความรู้สึกแบบนี้เรียกอารมณ์กำหนัดหรือเปล่านะ เฮ้อไม่คิดๆๆๆอุ่นหมูตุ๋นต่อเถอะ เดี๋ยวต้องตกลงกับสามีฟ้าประทานสักหน่อยเรื่องกินยา ขมจะตายให้กินอีกฆ่าเจ๊ให้ตายเลยดีกว่าไม่นานเมิ่งลู่เจินก็ออกมาพร้อมพี่ชาย เขาไปล้างหน้าบ้วนปากก่อนจะมานั่งข้างๆเสิ่นเยี่ยนฟาง นางทาน้ำมันให้เขาเบาๆดุเสียงเข้ม"วันหลังอย่าทำแบบนี้ อาเจินมือเจ้าเหมาะที่จะจับพู่กันมากกว่า อยากสานเครื่องเรือนพี่ไม่ว่าแต่อย่าทำจนตนเองบาดเจ็บ อีกหน่อยพี่หาเงินเจ้าไปเรียนหนังสือ พี่ชายเจ้าก็ต้องไปเรียนเช่นกัน""พี่สะใภ้ ข้าอยากสานต้นหวายที่ท่านบอกขอรับ""ฝนตกแบบนี้ขึ้นเขาไม่ได้ ทางลื่นอีกทั้งสัตว์มีพิษเยอะ รออีกสักพักเถอะ พี่จะซ่อมบ้านด้วย"เสิ่นเยี่ยนฟางทาน้ำมันให้เสร็จก็เก็บกระปุกยา ยาของหมอจ้าวนับว่าดีพอสมควร นางกำลังจะตกลงกับเมิ่งหย่งชวนแต่เขาเอ่ยมาก่อน"กินอีกสองมื้อนะเด็กดี พรุ่งนี้จะไปขอซื้อยาลูกกลอนให้"เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าสามคนนั่งอยู่หน้ากองไฟ ด้านนอ
บนเขาถัวซานบุรุษวัยสามสิบกว่าคนนึงนั่งรอเมิ่งหย่งชวนอยู่ ทันทีที่เห็นก็ลุกขึ้นเอ่ยทักทาย"รองแม่ทัพ เหตุใดท่านช้านักข้าเกือบจะกลับก่อนเสียแล้ว""ภรรยาข้านางนอนยากน่ะ ใต้เท้าโจวมีเรื่องอันใดหรือ""จางถูลี่ถูกปลดจากตำแหน่งทั่นฮวาแล้ว เดิมทีเขาได้ที่หนึ่งแต่เพราะเรื่องที่ท่านส่งหลักฐานการโกงข้อสอบให้กับไท่จื่อทำให้การสอบครั้งนี้เป็นโมฆะ สกุลจางกับสกุลลู่เป็นผู้คุมการสอบครั้งนี้จึงถูกเพ่งเล็งเป็นอันดับแรกว่าพวกเขาเป็นคนลักลอบนำข้อสอบออกมา อีกอย่าหัวข้อการสอบออกโดยฝ่าบาท นี่เท่ากับตบหน้าสำนักราชบัณฑิต ตบหน้าราชครูต้วนอีกด้วย""หึ พวกเขาอยากได้ตำแหน่งขุนนางเพื่อกินรวบทั้งราชสำนัก ใต้เท้าโจวอีกสามเดือนข้าจะไปชายแดนเพื่อรับตำแหน่งแม่ทัพตะวันออกต่อจากแม่ทัพหาน เรื่องนี้อย่าให้ใครในเมืองหลวงรู้โดยเฉพาะสกุลลู่ ข้าต้องการตามหาท่านพ่อของข้าก่อน""แล้วทางด้านสกุลจางเล่าท่านต้องการทำเช่นไร""เดิมทีสกุลจางไม่ใช่ศัตรูของข้า แต่เมื่อสิบเดือนก่อนจางฮั่นกลับมาข่มขู่ข้าไม่ให้เข้าสอบ เพื่อให้น้องชายตนเองได้ตำแหน่งเขาจึงเท่ากับประกาศตัวเป็นศัตรูกับข้าไปแล้ว""รองแม่ทัพ เหตุใดท่านไม่เปิดเผยไปเลย ยอมให้บ้านให
เมิ่งหย่งชวนเข้าบ้านมาปิดประตูพอดีกับที่สายฝนกระหน่ำลงมา ภรรยาเขาพูดถูกต้องเร่งซ่อมแซมบ้าน พรุ่งนี้ต้องเบิกเงินของบิดาเสียแล้ว เขาต้องล้อมรั้วอิฐให้สูงกว่านี้เพื่อความปลอดภัยของทั้งคู่ เขาจะแจ้งท่านปู่ใหญ่ว่าเป็นเงินจากการที่เศรษฐีจางจ้างไปสอนบุตรชายเพื่อสอบซิ่วไฉเมิ่งหย่งชวนเหนื่อยกับการวางแผนเล่นงานศัตรูแบบที่ไม่ให้พวกเขาตั้งตัวมานานปีกว่าแล้วนับแต่วันที่ท่านอาคนนั้นบอกว่าคนสุดท้ายที่บิดาไปพบน่าจะเป็นลู่หาน เขาแทบไม่ได้นอนต้องแกล้งป่วยว่าตนเข้าสอบไม่ได้ ต้องทนคำดูถูกเหยียดหยามเพื่อให้ได้แยกบ้าน ทุกอย่างทำเขาคิดหนักไปหมดน้องชายก็ถูกรังแกจนกลายเป็นเด้กหวาดระแวง แต่เพราะเสิ่นเยี่ยนฟางเมิ่งลู่เจินถึงได้หัวเราะออกมาได้ จากที่เขาเอาแต่ก้มหน้า เขาผิดเองที่เพิกเฉยน้องชายไปเพราะความประมาท แม้จะกดดันทุกอย่างแต่พอเขานอนเคียงข้างเสิ่นเยี่ยนฟางกลิ่นกายนางกลับทำให้เขาผ่อนคลายในเรื่องทุกอย่างเมิ่งหย่งชวนอยากเอานางไปกองทัพด้วยจัง แต่เขามีเรื่องต้องไปทำให้รัชทายาทอีกทั้งต้องตามหาบิดาจึงไม่สามารถเอานางไปด้วยได้ เงินสามหมื่นตำลึงที่ต้องคุ้มครองสินค้าไปเจียงหนานนั้นคงชดเชยให้นางได้ ดูเหมือนเมียจะหน้า
เสิ่นเยี่ยนฟางหุงข้าวแล้วก็ต้มน้ำอุ้นให้เมิ่งหย่งชวนกับเมิ่งลู่เจินล้างหน้า วันนี้นางหุงข้าวขาว ตุ๋นไข่ นำเนื่อหมูมาผัดกับผักดองที่ซื้อมาจากตลาดวันก่อน ให้กินผักดองบ่อยๆนางคงได้ฟอกไตแน่ๆ ต้องปลูกผักกินเองแล้วแบบนี้ เมิ่งลู่เจินตื่นแล้วเขาออกมาช่วยพี่สะใภ้ ส่วนเมิ่งหย่งชวนหลับเป็นตายยังไม่ตื่นไม่ให้ง่วงได้ยังไง เมียร้องหาแต่เขาเอาแต่ป้อนนมเข้าปากเขาทั้งคืนต้องดูดนมให้เมียทั้งคืนนี่ก็ง่วงเป็นนะ เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นว่าสายมากแล้วเขายังไม่ตื่นจึงเข้าไปปลุก คนตัวโตเอาแต่งึมงำๆ"ท่านพี่ๆ สายแล้วเจ้าค่ะตื่นได้แล้ว เห้อตื่นสักทีสิโว้ยเมิ่งหย่งชวนเจ้าจะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง กลางคืนเจ้าทำอะไรไม่หลับไม่นอนห๊ะ"ในเมื่อปลุกดีๆไม่ชอบๆแบบฮาร์ดคอแม่ก็จัดให้ไอ้เด็กบ้านนี่ เสิ่นเยี่ยนฟางเขย่าจนเขามึนเหมือนกันแรงเยอะจริงๆลุกกวางน้อยตัวนี้ เมิ่งหย่งชวนที่ปรือตามามองเมียสาวก็อมยิ้ม เวลานางโมโหมันช่างน่าดูจริงๆ ก่อนจะแกล้งละเมอคว้าเอาร่างบางลงมาหาแล้วพลิกไว้ใต้ร่างหนาของตนจมูกโด่งไซ้พวงแก้มขาว ไต่ลงมายังซอกคอนก่อนจะมาถึงไหปลาร้ามือหนาปลดสาบเสื้อนางออก อยากรู้ว่าเขาลิ้นดีแค่ในฝันไหมหรือ เดี๋ยวจะให้ได้รู้
ทั้งสามคนกินข้าวเรียบร้อยแล้วเสิ่นเยี่ยนฟางก็เก็บสำรับไปล้าง เมิ่งหย่งชวนตั้งใจจะไปเอาที่ดินคืนจึงไปบ้านู่ใหญ่ก่อนเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเขาจะซ่อมบ้าน แต่พอออกมาถึงหน้าบ้านก้เจอกับสตรีนางนึงอายุไม่น่าเกินสิบหกสิบเจ็ด แต่งตัวมอมแมมถือห่อผ้าอยู่น้ำตาเกรอะกรังจึงเอ่ยถามไถ่"แม่นางเจ้ามาหาใคร ที่นี่มีแค่ข้ากับเมียหากต้องการมาหาคนต้องไปบ้านผู้ใหญ่บ้าน""พี่ชายข้ามาหาเสี่ยวฟาง พวกเขาบอกว่านางอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ"เสี่ยวฟางหรือ เสิ่นเยี่ยนฟางหรือ""ใช่เจ้าค่ะ ข้าแซ่เจียงชื่อเจียงเสี่ยวฮวาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนาง ท่านช่วยเรียกน้องสาวข้าให้หน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ"เมิ่งหย่งชวนคิดไม่ออก ไหนว่านางไม่มีพี่น้องไง อยู่กับอาหญิงของนางบิดาไปค้าขายส่งเงินมาให้อย่างเดียวก็ถูกอาหญิงนางยึดไปหมด แล้วนี่คืออะไรอยู่ๆมีญาติโผล่มาเมิ่งหย่งชวนเดินไปหาเสิ่นเยี่ยนฟางในบ้าน นางกำลังซ่อมตะกร้าอยู่เพื่อไปเก็บผักป่า เขาดุนางไม่อยากให้นางออกไปโดนลมแต่นางกลับบ่นเขาว่าให้กินแต่ผักดองพอดีนางคงขึ้นเกลือ ไตวายอะไรอีกอย่างก็ไม่รู้เขาเลยตามใจนาง"เสี่ยวฟางมีคนมาหาบอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องเจ้าชื่อเจียงเสี่ยวฮวา""หื้ม เจียงเสี่ยวฮวาหรื
ทั้งสามคนไปหาผักป่า เมิ่งลู่เจินเจอเข้ากับเด็กอันธพาลประจำหมู่บ้าน เด็กเหล่านั้นแย่งผักป่าในตะกร้าขอเขาแล้วผลักเมิ่งลู่เจินจนหกล้มเข่าแตก เมิ่งลู่เจินสะพายตะกร้ามาหาเสิ่นเยี่ยนฟาง ใบหน้าบวมช้ำเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นจึงตรงมาหาทันที"อาเจินใครทำเจ้าบอกพี่สะใภ้มาสิ""ไม่มีขอรับข้าหกล้มเองขอรับ""อย่าโกหกบอกพี่มาว่าใครทำ"เมิ่งลู่เจินจำต้องบอก แต่เขากลัวพี่สะใภ้จะไปเอาคืนเหมือนบ้านใหญ่แต่ว่าพ่อแม่ของหวงเฉา ไม่เหมือนท่านปู่ท่านย่าพวกเขาร้ายกาจกว่า"เป็นหวงเฉาขอรับ เขาแย่งผักป่ากับข้าๆกับเขาเลยลงมือทะเลาะกันขอรับพี่สะใภ้ แต่ว่าบิดาของเขาท่านลุงหวงเป็นคนฆ่าหมู พี่สะใภ้ปล่อยเขาไปเถอะขอรับ""หืม ไปกลับบ้านไปอาบน้ำทายาก่อน ส่วนเรื่องเอาคืนหรือไม่พี่จัดการเอง"ทั้งสามคนกลับมาที่บ้าน ยังไม่ทันถึงบ้านรั้วโย้เย้อยู่แล้วก็ถูกคนทำลายจนพัง ข้าวของในบ้านถุกรื้อค้น เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสองผัวเมียแซ่หวงขโมยข้าวของๆนางก็ยืนข่มอารมณ์พักนึงก่อนจะเดินเข้าไปจับสะใภ้หวงทุ่มลงกับพื้นทันที"โอ๊ยยย ฆ่าคนแล้วตาแก่นังแพศยายั่วยวนอาเขยตัวเองนางโสเภณีนี่ฆ่าคนแล้ว มาจัดการมันให้ข้าที""เจ้าๆๆ กล้าทำเมียข้าหรือนังแพศยา"หวงเฉิ
หลังจากที่เสิ่นเยี่ยนฟางจัดการสองผัวเมียแซ่หวงเรียบร้อยแล้วก็จัดการนำผักป่ามาจัดการ ได้ผักป่ามามากมาย ชาวบ้านไม่รู้จักหลายชนิดเลยไม่มีใครมาแย่งพวกนาง เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่เคยรู้จักได้แต่ช่วยน้องสาว ก่อนจะเอ่ยถามนาง"เสี่ยวฟาง บุรุษที่ข้าเจอเมื่อเช้าคือสามีเจ้าใช่หรือไม่""อ้อเจ้าค่ะ เขาชื่อเมิ่งหย่งชวน ว่าแต่พี่หญิงคู่หมั้นของท่านเขายอมให้ทางบ้านบิดาท่านส่งท่านไปเป็นอนุผู้อื่นหรือเจ้าคะ""เฮ้อ พอท่านแม่จากไปคู่หมั้นข้าก็กลายเป็นคู่หมั้นน้องสาวลูกแม่เลี้ยงข้าทันที ข้าเองก็เพิ่งจะรู้ว่าท่านพ่อแอบเลี้ยงดูนางมานานแล้ว บุตรสาวของนางก็คือบุตรสาวอีกคนของท่านพ่อ นางอายุสิบห้ากำลังน่ารักสมวัย คู่หมั้นข้าคงพึงใจมากกว่าที่ได้แต่งกับนาง"น่ารักสมวัย เฮ้อนี่นังหนูอายุขนาดพวกหล่อนนี่ยังไม่พ้นมัธยมต้นเลยนะ คงต้องหาทางให้พี่สาวคนนี้มีที่อยู่แต่จะให้อยู่ด้วยไม่ได้ มิใช่ว่านางหึงหวงแต่พี่สาวคนนี้จะถูกคนนินทาเอาได้ เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้ล้างผักป่าเรียบร้อยก็นำมาผึ่ง คว้าจอบเล็กมาถางหญ้าบริเวณบ้าน บ้านนี้มีพื้นที่หลายหมู่พอให้ปลูกผักกิน เมื่อเช้าเมิ่งหย่งชวนบอกนางว่าจะไปเอาที่ดินคืน ที่ดินของเขามีกี่หม
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ