เมิ่งหย่งชวนถือถ้วยยาเข้าไปในห้องให้เสิ่นเยี่ยนฟางสองถ้วยๆนึงเป็นยาแก้ไข้หวัด ส่วนอีกถ้วยเป็นยาสำหรับสตรีมีประจำเดือนที่เขาไปหาท่านหมอจ้าวมาเมื่อตอนสายๆที่นางหลับเพื่อไปซื้อยาเสิ่นเยี่ยนฟางมองถ้วยยาก็เอามือปิดปากแน่นหันหน้าหนีทันที นางไม่กินไม่มีทางกินมันอีกแน่ๆ มิหนำซ้ำยังมีเพิ่มมาอีกถ้วยด้วยจึงส่งเสียงออดอ้อนแสนหวานให้คนตัวสูงใจอ่อน"ท่านพี่ ข้าไม่กินได้ไหมแล้วเหตุใดมีมาเพิ่มอีกถ้วยเล่าเจ้าคะ"เมิ่งหย่งชวนอมยิ้ม พูดจาอ่อนหวานน่ารักเสียด้วย เวลาอยากเอาตัวรอดนี่ช่างน่ารักเสียจริงๆแม่ลูกกวางน้อย เสิ่นเยี่ยนฟางที่แท้เจ้ากลัวการกินยานี่เอง"ยาถ้วยนี้เป็นยาแก้ไข้หวัด ท่านหมอจ้าวบอกว่าต้องกินให้หมดห้าเทียบ ส่วนอีกถ้วยเป็นยาสตรี ข้าไปหาท่านหมอมาบอกเขาว่าเจ้าปวดท้องเขาจึงจัดมาให้อีกห้าเทียบ กินดีๆอย่าดื้อ""เมิ่งหย่งชวนตาบ้านี่ แค่ยาแก้หวัดก็ขมจะตายแล้วใครให้เจ้าไปเพิ่มยาให้ข้า ออกไปเลยนะไม่กินแล้ว""เจ้าก็รู้ว่าข้ามีวิธีให้เจ้ากินยา เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าถ้าชอบให้ข้าจูบเจ้าก็ไม่บอกดีๆ เหตุใดสร้างปัญหามากมายนัก มาข้าป้อนก็ได้""อย่ามาโรคจิตนะ อื้ม"เมิ่งหย่งชวนรั้งนางเอาไว้กรอกยาลงไปแต่นางไม่ยอ
ท่านไม่คู่ควรเอ่ยถึงบิดาข้าสิบเดือนก่อนหน้าเมิ่งหย่งชวนกำลังอ่านตำราในที่พักของบัณฑิตเนื่องจากอีกสามวันจะเป็นวันเข้าสอบจริง สองวันก่อนหน้าเขาได้ทำการสอนให้เหล่าบัณฑิตด้วยกันจนหนึ่งในคนที่ร่วมสอบปีนี้เกิดริษยา ตกดึกก็มีคนมาเคาะประตูห้องพอเขาเปิดออกมาก็พบกับชายชราที่เขาไม่มีวันลืมใบหน้านั้นได้เลยก๊อกๆๆๆเมิ่งหย่งชวนเปิดประตูก็เห็นคนสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนส่วนอีกคนเป็นชายชรา เมิ่งหย่งชวนถอนหายใจก่อนจะเอ่ยปาก"พวกท่านมีอะไรหรือไม่ขอรับ ข้าน้อยเป็นเพียงบัณฑิตเท่านั้น มิทราบว่าจะให้ช่วยเหลือสิ่งใด""บัณฑิตเมิ่งข้าคือจางฮั่นรองใต้เท้ากรมอาญา และนี่คือใต้เท้าลู่หานอำมาตย์ซ้ายวันนี้มีเรื่องอยากคุยกับเจ้า จะเชิญข้าเข้าไปได้หรือไม่""อ้อใต้เท้าทั้งสองเชิญขอรับ"สามคนเข้ามาในห้อง ลู่หานใช้สีหน้าดูถูกเขา แม้แต่เก้าอี้ยังเขาไม่อยากนั่ง ช่างต่ำต้อยเสียจริงๆ"บัณฑิตเมิ่ง ข้ามีน้องชายคนนึงแม้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรเอ่ยปาก แต่ข้าอยากให้เจ้าไม่ลงสอบในอีกสามวันข้างหน้าได้หรือไม่""ใต้เท้าจางเอ่ยสิ่งใดกันข้าน้อยไม่เข้าใจขอรับ ข้าเดินทางมาไกลหวังการสอบครั้งนี้มากนักก็เพื่อครอบครัวของข้า หากไม่สอบ
เขายากจนยิ่งกว่าอะไร เสื้อผ้าที่ซีดจนหาสีเดิมไม่ได้ คนในโรงเตี้ยมดูถูกเขาด้วยสายตา ในที่สุดเขาก็ขึ้นมายังชั้นสอง ในห้องรับรองมีคนนั่งรออยู่แล้ว คนอื่นๆล้วนถูกไล่ออกไปหมด มีเพียงเขาและนางเท่านั้นสตรีวัยสามสิบกว่าช่างงามสง่ายิ่งนัก นางจิบชาก่อนจะเรียกชื่อเขา"หย่งเอ๋อร์ มานั่งนี่สิไม่เจอเจ้านานโตมากแล้ว เจินเอ๋อร์เล่าเขาเป็นเช่นไรบ้างโตมากหรือยัง""ฮูหยินท่านนี้ ท่านรู้จักข้าหรือขอรับ จำได้ว่าเราไม่เคยพบกัน"น้ำตาของลู่ซินค่อยๆไหล ออกมาเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้ได้ไหม มิใช่แม่อยากทอดทิ้งพวกเจ้า แต่หากไม่กลับมาตระกูลท่านตาเจ้าจะเดือดร้อน หย่งเอ๋อร์ท่านพ่อเจ้าเล่าเขาสบายดีหรือไม่""ฮูหยิน ท่านแม่ข้านางตายไปนานแล้ว ตายไปเมื่อห้าปีก่อน ส่วนท่านพ่อข้าเป็นหรือตาย มิใช่ว่าพวกท่านรู้ดีที่สุดหรอกหรือ ข้าขอตัวก่อน""หย่งเอ๋อร์ นั่งกับแม่สักหน่อยเถอะ คิดถึงเจ้าเหลือเกิน ดื่มชากับแม่ก่อนค่อยไปได้ไหม"เมิ่งหย่งชวนได้กลิ่นยาในชานานแล้ว หึ แม่หรือมีมารดาที่ไหนวางยาพิษบุตรตนเอง เมิ่งหย่งชวนหยิบถ้วยชาขึ้นมากรอกปากตนเองก่อนจะเขวี้ยงถ้วยลงพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆมือหนาคว้ามือบางขึ้
เมิ่งหย่งชวนที่ตอนนี้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนก็กำหมัดแน่น เขาจะเหยียบมันให้จมสกุลลู่ตัวดี สกุลจางที่น่ารังเกียจยี่สิบปีก่อนท่านพ่อออกจากหมู่บ้านไปเปิดสำนักคุ้มภัยของตนเอง วันนึงคุ้มครองสินค้าให้สกุลกับลู่จนได้พบนางสตรีโลเลคนนั้นจากนั้นทั้งคู่มีสัมพันธ์กันอยู่กินด้วยกันจนมีเขาขึ้นมา ท่านพ่อมีวรยุทธและสอนวรยุทธให้เขาจนเก่งกล้าจากนั้นบิดาของนางใต้เท้าลู่ ลู่หานก็ตามาจนเจอพวกเขา และบังคับจะเอาบุตรสาวคืนเพื่อไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับบุตรชายขุนนางด้วยกันสตรีคนนั้นนับว่างดงามมากนัก แต่นางไม่ยอมกลับ อีกทั้งตอนนั้นนางตั้งครรภ์อาเจินอยู่ บิดานางลู่หานบังคับให้นางทำลายบุตรในครรภ์แล้วตามกลับเมืองหลวงท่านพ่อกลับมาจากเดินทางไปคุ้มกันสินค้าพอดี จึงช่วยนางกับเขาไว้ได้ เห็นว่าหากรั้งอยู่เมืองหลวงอาจไม่ปลอดภัยจึงพาเมียกับลูกกลับบ้านเกิดที่เมืองเหอป๋ายจากนั้นนางคลอดน้องชายให้เขาใช้ชีวิตเช่นชาวนาเกือบห้าปี เป็นมารดาที่แสนอบอุ่นอยู่มาไม่นานก็มีคนสกุลลู่ตามหาจนเจอ เย็นวันหนึ่งบอกกับท่านพ่อว่ามีคนจากบ้านเดิมมาพบบอกว่าบิดาป่วยหนัก จึงอยากไปดูใจสักครั้งแล้วนางก็กลับเมืองหลวงจากวันนั้นนางก็ขาดการติ
ส่วนเสิ่นเยี่ยนฟางที่ถุกคลายจุดสักพักก็ลืมตาขึ้นมา นางหน้าแดงให้ตายสิฝันบ้าอะไรเนี่ยนางฝันว่าเมิ่งหย่งชวนคลุกเคล้าจูบนางแถมยังดูดนมนางด้วย นี่มันฝันบ้าอะไรเนี่ย อึ๊ยยายบ้าถึงเขาจะหน้าตาดีก็เถอะแต่หล่อนจะมาคิดลามกตอนนอนไม่ได้นะ เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าคนที่นอนหลับก่อนจะบ่นเบาๆ"คนโรคจิต ข้าไม่มีทางทำกับเจ้าแบบนั้นในชีวิตจริงแน่ๆ แค่ในความฝันเท่านั้นแหละตาบ้า"เสิ่นเยี่ยนฟางค่อยๆจะลุกออกไปแต่ถูกแขนแข็งแรงกอดเอาไว้ ทำให้นางที่กำลังจะก้าวข้ามเขาล้มลงนอนทับร่างสูงเมิ่งหย่งชวนพลิกนางลงใต้ร่างก่อนจะมองด้วยสายตาหยอกล้อ กระซิบเสียงรัญจวนข้างใบหูเล็กๆนั่น พร้อมกับสอดลิ้นเข้าในรูหูของนางจนเสิ่นเยี่ยนฟางถึงกับต้องกลืนน้ำลายด้วยความวาบหวิว"เสี่ยวฟางเจ้าฝันถึงข้าหรือ ไหนบอกมาสิจ้าฝันว่าอะไร เด็กดื้อไม่เช่นนั้นวันนี้ไม่ได้ลงจากเตียงนะ""อื้อ ปล่อยข้านะท่านพี่ข้าหนัก ท่านตัวใหญ่เกินไปแล้ว""คนดี..ข้าไม่ได้ใหญ่แค่ตัวนะ เจ้าอยากพิสูจน์ไหม แต่ว่าเจ้ามีระดูอยู่พิสูจน์ไม่ได้ถ้าเช่นนั้นข้าแค่ให้เจ้าดูน่าจะได้ว่าไงอยากดูหรือเปล่า""พะ พะ พอเลยนะตาบ้า ข้าจะไปหุงข้างแล้วอุ่นอาหาร นะ นะ นี่ ยะ ยะ เย็นมากแล้ว เ
ตอนนี้นางรู้สึกคัดๆเต้านมแปลกๆความฝันนั่นทิ้งความรู้สึกเหมือนจริงขนาดนี้เลยหรือ ให้ตายสิชาติก่อนมีแฟนก็ถูกสวมเขาก่อนแต่งงานยังไม่ทันได้คบคนใหม่ ไม่ได้เปิดซิงก็ตายเสียก่อน ความรู้สึกแบบนี้เรียกอารมณ์กำหนัดหรือเปล่านะ เฮ้อไม่คิดๆๆๆอุ่นหมูตุ๋นต่อเถอะ เดี๋ยวต้องตกลงกับสามีฟ้าประทานสักหน่อยเรื่องกินยา ขมจะตายให้กินอีกฆ่าเจ๊ให้ตายเลยดีกว่าไม่นานเมิ่งลู่เจินก็ออกมาพร้อมพี่ชาย เขาไปล้างหน้าบ้วนปากก่อนจะมานั่งข้างๆเสิ่นเยี่ยนฟาง นางทาน้ำมันให้เขาเบาๆดุเสียงเข้ม"วันหลังอย่าทำแบบนี้ อาเจินมือเจ้าเหมาะที่จะจับพู่กันมากกว่า อยากสานเครื่องเรือนพี่ไม่ว่าแต่อย่าทำจนตนเองบาดเจ็บ อีกหน่อยพี่หาเงินเจ้าไปเรียนหนังสือ พี่ชายเจ้าก็ต้องไปเรียนเช่นกัน""พี่สะใภ้ ข้าอยากสานต้นหวายที่ท่านบอกขอรับ""ฝนตกแบบนี้ขึ้นเขาไม่ได้ ทางลื่นอีกทั้งสัตว์มีพิษเยอะ รออีกสักพักเถอะ พี่จะซ่อมบ้านด้วย"เสิ่นเยี่ยนฟางทาน้ำมันให้เสร็จก็เก็บกระปุกยา ยาของหมอจ้าวนับว่าดีพอสมควร นางกำลังจะตกลงกับเมิ่งหย่งชวนแต่เขาเอ่ยมาก่อน"กินอีกสองมื้อนะเด็กดี พรุ่งนี้จะไปขอซื้อยาลูกกลอนให้"เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าสามคนนั่งอยู่หน้ากองไฟ ด้านนอ
บนเขาถัวซานบุรุษวัยสามสิบกว่าคนนึงนั่งรอเมิ่งหย่งชวนอยู่ ทันทีที่เห็นก็ลุกขึ้นเอ่ยทักทาย"รองแม่ทัพ เหตุใดท่านช้านักข้าเกือบจะกลับก่อนเสียแล้ว""ภรรยาข้านางนอนยากน่ะ ใต้เท้าโจวมีเรื่องอันใดหรือ""จางถูลี่ถูกปลดจากตำแหน่งทั่นฮวาแล้ว เดิมทีเขาได้ที่หนึ่งแต่เพราะเรื่องที่ท่านส่งหลักฐานการโกงข้อสอบให้กับไท่จื่อทำให้การสอบครั้งนี้เป็นโมฆะ สกุลจางกับสกุลลู่เป็นผู้คุมการสอบครั้งนี้จึงถูกเพ่งเล็งเป็นอันดับแรกว่าพวกเขาเป็นคนลักลอบนำข้อสอบออกมา อีกอย่าหัวข้อการสอบออกโดยฝ่าบาท นี่เท่ากับตบหน้าสำนักราชบัณฑิต ตบหน้าราชครูต้วนอีกด้วย""หึ พวกเขาอยากได้ตำแหน่งขุนนางเพื่อกินรวบทั้งราชสำนัก ใต้เท้าโจวอีกสามเดือนข้าจะไปชายแดนเพื่อรับตำแหน่งแม่ทัพตะวันออกต่อจากแม่ทัพหาน เรื่องนี้อย่าให้ใครในเมืองหลวงรู้โดยเฉพาะสกุลลู่ ข้าต้องการตามหาท่านพ่อของข้าก่อน""แล้วทางด้านสกุลจางเล่าท่านต้องการทำเช่นไร""เดิมทีสกุลจางไม่ใช่ศัตรูของข้า แต่เมื่อสิบเดือนก่อนจางฮั่นกลับมาข่มขู่ข้าไม่ให้เข้าสอบ เพื่อให้น้องชายตนเองได้ตำแหน่งเขาจึงเท่ากับประกาศตัวเป็นศัตรูกับข้าไปแล้ว""รองแม่ทัพ เหตุใดท่านไม่เปิดเผยไปเลย ยอมให้บ้านให
เมิ่งหย่งชวนเข้าบ้านมาปิดประตูพอดีกับที่สายฝนกระหน่ำลงมา ภรรยาเขาพูดถูกต้องเร่งซ่อมแซมบ้าน พรุ่งนี้ต้องเบิกเงินของบิดาเสียแล้ว เขาต้องล้อมรั้วอิฐให้สูงกว่านี้เพื่อความปลอดภัยของทั้งคู่ เขาจะแจ้งท่านปู่ใหญ่ว่าเป็นเงินจากการที่เศรษฐีจางจ้างไปสอนบุตรชายเพื่อสอบซิ่วไฉเมิ่งหย่งชวนเหนื่อยกับการวางแผนเล่นงานศัตรูแบบที่ไม่ให้พวกเขาตั้งตัวมานานปีกว่าแล้วนับแต่วันที่ท่านอาคนนั้นบอกว่าคนสุดท้ายที่บิดาไปพบน่าจะเป็นลู่หาน เขาแทบไม่ได้นอนต้องแกล้งป่วยว่าตนเข้าสอบไม่ได้ ต้องทนคำดูถูกเหยียดหยามเพื่อให้ได้แยกบ้าน ทุกอย่างทำเขาคิดหนักไปหมดน้องชายก็ถูกรังแกจนกลายเป็นเด้กหวาดระแวง แต่เพราะเสิ่นเยี่ยนฟางเมิ่งลู่เจินถึงได้หัวเราะออกมาได้ จากที่เขาเอาแต่ก้มหน้า เขาผิดเองที่เพิกเฉยน้องชายไปเพราะความประมาท แม้จะกดดันทุกอย่างแต่พอเขานอนเคียงข้างเสิ่นเยี่ยนฟางกลิ่นกายนางกลับทำให้เขาผ่อนคลายในเรื่องทุกอย่างเมิ่งหย่งชวนอยากเอานางไปกองทัพด้วยจัง แต่เขามีเรื่องต้องไปทำให้รัชทายาทอีกทั้งต้องตามหาบิดาจึงไม่สามารถเอานางไปด้วยได้ เงินสามหมื่นตำลึงที่ต้องคุ้มครองสินค้าไปเจียงหนานนั้นคงชดเชยให้นางได้ ดูเหมือนเมียจะหน้า
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ