บิดาของเสี่ยวเย่ากับเสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยออกมาพร้อมกันจนเมิ่งหย่งชวนมองเมียตัวเองสลับกับบิดาของเสี่ยวเย่า เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าท่านตาเจ้าที่ให้พูดอะไรบ้าง ตาแก่นั่นก็ยืนเฉยนางจึงต้องเอ่ยเอง"ท่านพี่ พวกเขามีคนมามากหากท่านพาคนไปด้วยจะไม่ดูเหมือนว่าพวกเราควบคุมพวกเขาหรือเจ้าคะ พวกท่านไปเถอะสามีข้าหวังดีแต่ว่าอาจทำพวกท่านลำบากใจ"เมิ่งหย่งชวนพยักหน้าก่อนจะเดินนำหน้าเขาออกไป บิดาเสี่ยวเย่าเอ่ยกับเขาลอยๆ"ท่านซิ่วไฉ ข้าต้องหลบหลีกเส้นทางจึงรีบไปจากที่นี่เพราะข้าเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น ยิ่งมีบุตรชายด้วยข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา""หืม นายท่านหลี่ไปเห็นอันใดคอขาดบาดตายกันหรือขอรับ""ท่านอย่าเสียงดังไปนะ ข้าไปเห็นขุนนางซ่อนเสบียงเอาไว้หลายร้อยต้าน อีกทั้งยังมีลังอาวุธอีกนับไม่ถ้วน ตอนนี้ข้าผ่านภูเขาเฉียนจงพอดีเลยแวะพักขึ้นเขาไปหาเสบียง ยังดีที่พวกเขาไม่เห็นข้าแต่ข้าไม่วางใจต้องเร่งเดินทาง""ท่านมาบอกข้าไม่กลัวข้าไปบอกใต้เท้าพวกนั้นหรือนายท่านหลี่""ท่านดูก็รู้ว่าท่านเป็นคนมีคุณธรรม""ชมเกินไปแล้ว ท่านหลี่ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัย ส่งเพียงเท่านี้นะขอรับ เสี่ยวเย่าแล้วพบกันสักวันห
เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยเมิ่งหย่งชวนก็กลับบ้าน เสิ่นเยี่ยนฟางยังคงนอนหมดแรงอยู่ในห้อง เด็กทั้งห้าคนนอนหลับอยูกับมารดา เมิ่งหย่งชวนเห็นพวกเขานอนเรียงกันก็อุ้มทีละคนมานอนห้องตนเอง ก่อนจะหอมแก้มครบทุกคนจากนั้นก็ไปหาภรรยาเสิ่นเยี่ยนฟางตื่นมาแล้วตั้งแต่เขาอุ้มเสี่ยวอิงไปเป็นคนสุดท้าย นางรู้ดีว่าเมิ่งหย่งชวนเป็นห่วงความรู้สึกของนางที่ต้องจากกับเสี่ยวเย่า ถึงจะรู้ดีว่าเสี่ยวเย่าอยู่ในครรภ์ตนเอง แต่ลึกๆก็อดคิดถึงดวงตาสุกใส แก้มป่องๆยามที่เหนื่อยๆมาได้ชื่นใจไม่ได้"คิดถึงเสี่ยวเย่าหรือเมียพี่""เจ้าค่ะเคยอยู่ด้วยกันก็มีบ้างที่จะโหยหา ว่าแต่เอ่อ..ท่านพี่อาเจินจะเดินทางแล้วข้าห่วงเขานัก มารดาท่านนางช่างร้อยเล่ห์""อย่ากังวลเลย อาเจินเข้มแข็งกว่าที่เราเห็น""เฮ้อ...ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ เหตุใดบนตัวเขามีกลิ่นอายสังหารก็ไม่รู้ หวังว่าคงไม่ไปทำเรื่องอันใดที่ทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบากหรอกนะ"เมิ่งหย่งชวนรั้งนางมากอด เขาหอมแก้มนางมือหนาเชยคางให้สบตากับตนเองก่อนจะเอ่ย"เสี่ยวฟาง อย่าได้กังวลไปเลยอาเจินคือเด็กที่เจ้าสั่งสอนมาเองกับมือ เขาย่อมรู้หนักเบาไม่ทำอันใดให้ตนเองหรือคนรอบกายเดือ
ทันทีที่เสิ่นเยี่ยนฟางกล่าวจบนางก็จับมือสามีเพื่อกลับเข้าห้อง ทุกคนลงความเห็นตามนี้ หวงหย่งเหนียนไปคุยกับภรรยา หยางซิงเหยียนเข้าใจที่เขาบอกดี หากสกุลโจวกับสกุลหวงมีภัย ราชสำนักย่อมแบ่งฝ่ายชัดเจน เมื่อนั้นจางกุ้ยเฟยที่มีขุนนางอยู่ไม่น้อยในมือจะถือโอกาสสั่นคลอนตำแหน่งรัชทายาทให้บุตรชายตนเอง"ข้าอยู่ที่นี่ปลอดภัยดี ท่านอาอย่ากังวลหากเดินทางไปพร้อมกันแล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันเมืองหลวงคงแตกแยกหลายก๊กหลายฝ่าย ฮูหยินเมิ่งนางอ่านแผนการณ์ได้ดี""อาจะรีบไปรีบมานะ อาเยียนไม่อยากห่างเจ้าเลย""บ้านเมืองสำคัญ หากสกุลจางได้เป็นใหญ่ อย่าว่าแต่ชาวบ้านเลยเจ้าค่ะ แม้แต่ขุนนางเช่นพวกเราก็อาจลำบากไปด้วย เสด็จพ่อเป็นอ๋องต่างแซ่ตั้งแต่ฮ่องเต้องค์ก่อน ที่ยังมีอำนาจเพราะฝ่าบาทยังทรงให้ความสำคัญ แต่สกุลจางมิได้คิดเช่นนั้น"หวงหย่งเหนียนทำตามคำแนะนำของเสิ่นเยี่ยนฟางจำต้องให้เมียอยู่ที่นี่ไปก่อน จากนั้นจึงแยกย้ายกันพักผ่อน เตรียมตัวอีกห้าวันเดินทางกลับเมืองหลวง เสิ่นเยี่ยนฟางนอนกอดบุตรชายตัวน้อย เสี่ยวอิงไปเที่ยวเล่นจนได้ข่าวนี้มาโดยบังเอิญว่าพวกเขาจะดักซุ่มสังหารท่านหญิงและโยนความผิดให้หวงหย
ยามเหมาเจียงเสี่ยวฮวากับเมิ่งหย่งซินลุกขึ้นมาทำอาหาร เคี่ยวยาให้กับเสิ่นเยี่ยนฟางและหยางซิงเหยียน รวมถึงท่านปู่เมิ่งซุน หวงหย่งเหนียนที่นอนกอดภรรยาอย่างคะนึงหา หยางซิงเหยียนลูบแก้มสากก่อนจะจุมพิตเขาอย่างอ่อนโยน"ฝากบอกเสด็จพ่อว่าอย่ากังวลใดๆ ข้าอยู่ทางนี้มิได้เคลื่อนไหวไปที่ใดต่อให้จางกุ้ยเฟยกับจางฮั่นอยากลงมือก็มิใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ ท่านน้ารองอยู่ทางนี้ข้าย่อมปลอดภัยเจ้าค่ะ ยังมีน้าเล็กอีกคน""สัญญากับอา ว่าจะรักษาตัวดีๆ อย่าซุกซนนะเด็กดีของอา""ท่านอา..ข้ากำลังจะเป็นมารดาของบุตร จะซุกซนได้อย่างไรเล่า""คนดี..นอนต่อเถอะอาจะไปเตรียมตัวอารักเจ้านะอาเหยียน""เจ้าค่ะ ข้าก็รักท่านเจ้าค่ะท่านอาหย่งเหนียน อาเหยียนรักสามีคนนี้ที่สุด อื้อ"หวงหย่งเหนียนจุมพิตเมียสาวก่อนจะห่มผ้าให้นางแล้วลุกออกไป คล้อยหลังเขาหยางซิงเหยียนก็น้ำตาร่วงทันที นางไม่อยากห่างจากเขา แต่หากนางไปด้วยจะเป็นตัวถ่วงและอาจทำให้เขามีอันตรายไปด้วยกระทั่งปลายยามเฉินทั้งเจียงเสี่ยวฮวาและเมิ่งหย่งซินยกยาเข้าไปให้ทั้งสามคนที่นอนอยู่ในห้อง จางลี่มาแต่เช้าเขามาเรียนการดูผลไม้อบแห้ง วันนี้ที่บ้านทำเป็ดพะโล้ตัวใหญ่
หวงหย่งเหนียนไม่รู้ว่าพ่อตาส่งคนมาคุ้มครองพวกเขาตลอดทางตั้งแต่ออกจากวังหลวง แม้กระทั่งวันที่บุตรสาวหายไป รวมทั้งวันที่บุตรสาวไปนอนอยู่บนเตียงของเขาพ่อตาก็รู้เรื่อง ในเมื่อบุตรสาวรักเขาปักใจเพียงนี้ บิดาเช่นเขาก็ส่งเสริมไปเสียเลย มีบุตรเขยเป็นราชครูแม้จะอายุห่างกันไปสักหน่อยแต่สกุลหวงเป็นรองเพียงสกุลโจวเท่านั้น พี่สาวคนโตของพระชายาเป็นกุ้ยเฟย สกุลจางอยากเล่นงานพวกเขา คิดว่าน้องสาวตนเองอย่างจางกุ้ยเฟยมีปัญญาหรือ หึๆ"ทรงหัวเราะอันใดกันเพคะ ถึงแม้หม่อมฉันจะไว้ใจอาหยวนแต่ก็อดห่วงไม่ได้ เหยียนเอ๋อร์อยู่ทางนั้นจะปลอดภัยหรือไม่""อย่ากังวลเลย หย่งเหนียนดูแลนางได้ อีกอย่างลูกเราปลอดภัยแน่นอน คนที่ไม่ปลอดภัยน่าจะเป็นจางฮั่นมากว่าน่ะ""ทรงทำอะไรกับเขาหรือเพคะ""อยากเอาชีวิตลูกข้า ใครให้ความกล้ากับพวกมันกัน ลู่หานเองคิดว่าต้นไม้ใหญ่อย่างสกุลจางจะมั่นคง รากเน่าจนลำต้นจะพังทลายยังมิรู้ดีชั่ว หว่านหว่านเรื่องเหยียนเอ๋อร์เจ้าก็แสดงละครว่าวิตกกังวลสักหน่อยนะ ไม่เช่นนั้นพวกเขาระแวงละครจะไม่สนุกเอา""เพคะๆ ว่าแต่พระองค์ห้าสิบสองแล้ว ลูกเขยจะสามสิบเก้ามิทรงติดใจจริงหรือเพคะ คิกๆ
มหาเทพกำลังทะเลาะกับเทพบุพเพ ตาเฒ่าจันทราผูกด้ายแดงเขากับไอ้ตัวขี้เกียจนี่ เทพบุพเพบอกว่าไม่สามารถตัดด้ายแดงได้จะทำให้มีปัญหาลุกลามไปถึงคู่บุพเพคู่อื่น"ตัดสายสัมพันธ์ข้ากับนางไม่ได้แล้วต้องทำเช่นไร จะให้ข้าแต่งกับเด็กนี่หรือ ดูตัวนางเอามาทำอะไร อีกไม่นานนางก็ต้องไปเกิดเป็นมนุษย์แล้ว""พระองค์ต้องแบ่งภาคไปจุติพ่ะย่ะค่ะ เพื่อแต่งงานกับนาง หรือไม่ก็แต่งกับนางทั้งๆแบบนี้ก็ได้""ไปจุติเกิดเป็นมนุษย์หรือ พวกเจ้านี่มัน""ฝ่าบาท ไปเกิดเป็นมนุษย์แต่งงานกับนางหลังจากนางสิ้นอายุขัยแล้วก็รับนางมาเป็นมหาเทวีของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ""ตาเฒ่านั่นอายุเพิ่งเท่าไหร่เอง อ่อนกว่าข้าตั้งกี่ปีเลอะเลือนจริงๆ อยู่ๆข้าต้องไปผูกวาสนากับไอ้ตัวขี้เกียจนี่ แต่งนางมาเป็นภรรยาหรือแต่งนางมานอนเกะกะไปวันๆกันแน่"หลังจากที่อาละวาดบนสวรรค์เรียบร้อยก็ลงมาหงุดหงิดอยู่ข้างล่าง เขาเป็นใหญ่ในแดนมนุษย์มาสามแสนปีไม่นับรวมอายุที่ถือกำเนิด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าสวรรค์นั้นไร้ความยุติธรรมจริงๆเสี่ยวเถาเห็นท่านตาเจ้าที่หน้าบูดบึ้งก็เมินหน้าใส่ ท่านแม่บอกว่าห้ามก้าวร้าวแต่ไม่ได้บอกว่าห้ามไม่ให้ไม่สนใจ นางได้ยิน
เมิ่งหย่งชุนที่นั่งสานเก้าอี้หวายให้บิดา ลวดลายการสานนั้นลูกสะใภ้เป็นคนออกแบบให้ นางให้คนไปหาหวายแดงมาได้จำนวนหนึ่ง นางให้อาเจินเอาไปเมืองหลวงด้วย ยามที่จิตใจไม่มั่นคงก็ให้นั่งสานไปเพื่อให้จิตใจสงบ นับว่าสะใภ้คนนี้คิดอ่านรอบคอบนัก เมิ่งหย่งชวนเดินมาหาบิดาก่อนจะนั่งลงตรงกันข้าม เมิ่งหย่งชุนเห็นบุตรชายก็รู้ว่าคงมีเรื่องคุยด้วยจึงวางงานในมือแล้วเอ่ยปากพูดคุยกับบุตรชาย"มีเรื่องอันใดหรืออาชวน สีหน้าเจ้าดูไม่ค่อยสบายใจ""ท่านพ่อ ข้าจะทิ้งองครักษ์ไว้สักร้อยคน ยังมีทหารลับอีกร้อยคน ข้าเกรงว่าพวกเขาจงใจจะเล่นงานท่านกับเสี่ยวฟาง อีกอย่างท่านหญิงอยู่ที่นี่หากพวกเขารู้ว่าถูกหลอกเรื่องท่านหญิง เมื่อใต้เท้าหวงไม่อยู่พวกเขาต้องลงมือกับนางแน่นอน""พ่อพอจะมีคนในยุทธภพอยู่บ้าง อาชวนลูกมีเรื่องกังวลใจอย่างอื่นหรือไม่"ท่านพ่อเสี่ยวฟางนาง คือว่านางไม่ได้อ่อนแออย่างที่ท่านเห็น หากว่านางเกิดทำอะไรที่ เอ่อ""ฮ่าๆๆ...พ่อรู้ๆ ดูจากการที่นางไล่เตะบุรุษตัวโตที่มาหาเรื่องวันก่อนนางไล่กวดทุบตีตนคนเหล่านั้นแตกกระเจิงพ่อก็รู้ว่านางไม่ธรรมดา อาชวนเสี่ยวฟางนางเป็นภรรยาที่ดี""ลูกรักนาง แม้ว่า
ร่างงามถูกเขาผ่อนลงบนที่นอน โจวหยางดูดกลืนยอดทับทิมอย่างหลงใหล มันหวานจนเขาแทบสำลักความหวานนั้น เมิ่งเย่งซินสอดนิ้วไล้เรือนผมสามี กดศีรษะของเขาแนบกับทรวงอกสล้าง ให้เขาได้สลับดูดดื่มจนพอใจ ใบหน้าคมเลื่อนขึ้นมาสบตาคนใต้ร่างก่อนจะยิ้มให้"เจ็บนิดนึงนะคนงาม พี่จะพยายามเบาที่สุด""อืม..เจ้าค่ะ"แก่นกายร้อนผ่าวถูกมือหนาโอบประคองกดเข้ากายงามอย่างช้าๆ เมิ่งหย่งซินนิ่วหน้าทันทีที่เข้ามาได้ครึ่งทาง มือเล็กพยายามดันหน้าท้องเขาออก นางเจ็บจนเหมือนร่างจะแตกสลาย โจวหยางจูบประโลมทั้งสองเต้าเพื่อให้นางไว้ใจ จากนั้นก็เสือกแก่นกายทีเดียวเพื่อให้นางเจ็บน้อยที่สุด"กรี๊ดดด ท่านพี่ อื้อ เจ็บ แน่น ข้าจะจุก""นิดเดียว อย่าเกร็งอยู่นิ่งๆก่อนนะ อ่าห์ นุ่มมากเมียจ๋า"โจวหยางรอจนนางคุ้นเคยกับตัวตนของเขา เมิ่งหย่งซินจิกแขนเขาแน่นนางพยักหน้าให้สามีว่าพร้อมแล้ว บั้นเอวหนาเริ่มขยับเข้าออกร่างงามของคนใต้ร่างอย่างเนิบนาบจนกระทั่งเริ่มเร็วขึ้น เสียงครางแสนหวานเล็ดลอดออกมาจากปากเล็กๆนั่น โจวหยางอดใจไม่ไหวก้มลงไปจูบนาง อืมปากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน เขาจะคลั่งอยู่แล้วนางช่างเย้ายวนอะไรเช่นนี้กัน
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ