เมิ่งหย่งชุนที่นั่งสานเก้าอี้หวายให้บิดา ลวดลายการสานนั้นลูกสะใภ้เป็นคนออกแบบให้ นางให้คนไปหาหวายแดงมาได้จำนวนหนึ่ง นางให้อาเจินเอาไปเมืองหลวงด้วย ยามที่จิตใจไม่มั่นคงก็ให้นั่งสานไปเพื่อให้จิตใจสงบ นับว่าสะใภ้คนนี้คิดอ่านรอบคอบนัก เมิ่งหย่งชวนเดินมาหาบิดาก่อนจะนั่งลงตรงกันข้าม เมิ่งหย่งชุนเห็นบุตรชายก็รู้ว่าคงมีเรื่องคุยด้วยจึงวางงานในมือแล้วเอ่ยปากพูดคุยกับบุตรชาย"มีเรื่องอันใดหรืออาชวน สีหน้าเจ้าดูไม่ค่อยสบายใจ""ท่านพ่อ ข้าจะทิ้งองครักษ์ไว้สักร้อยคน ยังมีทหารลับอีกร้อยคน ข้าเกรงว่าพวกเขาจงใจจะเล่นงานท่านกับเสี่ยวฟาง อีกอย่างท่านหญิงอยู่ที่นี่หากพวกเขารู้ว่าถูกหลอกเรื่องท่านหญิง เมื่อใต้เท้าหวงไม่อยู่พวกเขาต้องลงมือกับนางแน่นอน""พ่อพอจะมีคนในยุทธภพอยู่บ้าง อาชวนลูกมีเรื่องกังวลใจอย่างอื่นหรือไม่"ท่านพ่อเสี่ยวฟางนาง คือว่านางไม่ได้อ่อนแออย่างที่ท่านเห็น หากว่านางเกิดทำอะไรที่ เอ่อ""ฮ่าๆๆ...พ่อรู้ๆ ดูจากการที่นางไล่เตะบุรุษตัวโตที่มาหาเรื่องวันก่อนนางไล่กวดทุบตีตนคนเหล่านั้นแตกกระเจิงพ่อก็รู้ว่านางไม่ธรรมดา อาชวนเสี่ยวฟางนางเป็นภรรยาที่ดี""ลูกรักนาง แม้ว่า
ร่างงามถูกเขาผ่อนลงบนที่นอน โจวหยางดูดกลืนยอดทับทิมอย่างหลงใหล มันหวานจนเขาแทบสำลักความหวานนั้น เมิ่งเย่งซินสอดนิ้วไล้เรือนผมสามี กดศีรษะของเขาแนบกับทรวงอกสล้าง ให้เขาได้สลับดูดดื่มจนพอใจ ใบหน้าคมเลื่อนขึ้นมาสบตาคนใต้ร่างก่อนจะยิ้มให้"เจ็บนิดนึงนะคนงาม พี่จะพยายามเบาที่สุด""อืม..เจ้าค่ะ"แก่นกายร้อนผ่าวถูกมือหนาโอบประคองกดเข้ากายงามอย่างช้าๆ เมิ่งหย่งซินนิ่วหน้าทันทีที่เข้ามาได้ครึ่งทาง มือเล็กพยายามดันหน้าท้องเขาออก นางเจ็บจนเหมือนร่างจะแตกสลาย โจวหยางจูบประโลมทั้งสองเต้าเพื่อให้นางไว้ใจ จากนั้นก็เสือกแก่นกายทีเดียวเพื่อให้นางเจ็บน้อยที่สุด"กรี๊ดดด ท่านพี่ อื้อ เจ็บ แน่น ข้าจะจุก""นิดเดียว อย่าเกร็งอยู่นิ่งๆก่อนนะ อ่าห์ นุ่มมากเมียจ๋า"โจวหยางรอจนนางคุ้นเคยกับตัวตนของเขา เมิ่งหย่งซินจิกแขนเขาแน่นนางพยักหน้าให้สามีว่าพร้อมแล้ว บั้นเอวหนาเริ่มขยับเข้าออกร่างงามของคนใต้ร่างอย่างเนิบนาบจนกระทั่งเริ่มเร็วขึ้น เสียงครางแสนหวานเล็ดลอดออกมาจากปากเล็กๆนั่น โจวหยางอดใจไม่ไหวก้มลงไปจูบนาง อืมปากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน เขาจะคลั่งอยู่แล้วนางช่างเย้ายวนอะไรเช่นนี้กัน
ทางด้านมหาเทพตั้งแต่เห็นร่างจริงของนางก็มานั่งเฝ้าเจ้าตัวน้อยนอนหลับทุกวัน เพราะเมื่อยามนางหลับร่างของสตรีงดงามจะเผยออกมา นี่คือมหาเทวีของเขาหรือ นางงามจริงๆเสียดายขี้เกียจไปหน่อย เดิมทีนางอายุเก้าหมื่นปีแล้ว ตื่นขึ้นยามใดนางจึงจะกลับเป็นเด็กสี่ขวบเช่นเดิม อีกไม่กี่นานเขาต้องไปจุติในครรภ์ของพระชายารัชทายาทแห่งหนานเป่ย"เจ้าตัวขี้เกียจ ให้อภัยเจ้าครึ่งหนึ่งที่ไม่ขี้เหร่จนข้าตกใจ" ใครว่าเทพง่วงไม่เป็นเล่า มหาเทพนอนลงข้างๆ เจ้าตัวน้อยกอดนางในร่างสตรีงดงามที่คือร่างจริงของนางจนหลับไปด้วยกัน เมื่อวานมหาเทพมาหาว่าที่แม่ยายในอนาคตเพื่อถามบางอย่าง "นังหนูถ้าลุกเขยเจ้าอายุมากกว่าเจ้าๆจะคำนับเขาหรือให้เขาคารวะเจ้ากัน""ท่านตาถามอะไรเจ้าคะ ข้าอายุสิบเจ็ดจะสิบแปดแล้ว หากมีบุตรสาวกว่านางจะโตพออกเรือนได้ก็นต้องอายุสิบแปดถึงตอนนั้นบุตรเขยก็น่านจะไม่เกิน ยี่สิบหรือยี่สิบแปดปีกำลังดี แก่กว่านั้นเอามาคารวะเป็นพ่อบุญธรรมหรือไร""พ่อบุญธรรมอะไรของเจ้าเล่า ถ้าแก่กว่ามากๆล่ะ""ลูกสาวข้าคงไม่โชคร้ายขนาดได้ตาเฒ่าที่ไหนมาเป็นสามีหรอก ว่าแต่ทำไมท่านตาสนใจเรื่องนี้จัง แต่ว่าไปก้แปลก พักน
ในจดหมายเมิ่งลู่เจินเล่าว่าเขาสบายดี แต่ก็มีปัญหานิดหน่อยเขาเองก็ไม่อยากสร้างปัญหาเพราะไม่ต้องการทำให้ท่านราชครูต้องพลอยมีผลกระทบไปด้วย เมิ่งลู่เจินได้เจอกับหลานชายของลู่หานซึ่งเป็นบุตรชายของลู่กัง เขามีเรื่องกับลู่เหวินเสมอแต่ก็พยายามอดทนจนกระทั่งทางเดินกลับจวนหวงลู่เหวินมาดักรอและหาเรื่อง นั่นจึงเป็นเหตุให้เมิ่งลู่เจินลงมือเมืองหลวง สำนักศึกษาหลวงเมิ่งลู่เจินที่มาถึงได้หลายเดือนแล้วเข้าเรียนพร้อมกับจางลี่ ทั้งสองคนหัวดีจึงได้อยู่ชั้นสูงกว่าเด็กที่เรียนมาก่อนแต่เดิม ทำให้เป็นที่ริษยาของบรรดาลูกศิษย์หลายคน หนึ่งในนั้นคือจางพ่านกับลู่เหวิน เมิ่งลู่เจินกำลังเรียนอยู่ดีๆก็มาแกล้งขโมยตำรา เอาพู่กันไปหักทิ้ง ยามที่เขากับจางลี่ไปหาซื้อของกินก็จะกล่าวหาว่าเขาขโมยเงินของสกุลหวง เมิ่งลู่เจินไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้แก่อาจารย์ของตน และไม่เคยบอกใครว่าหวงหย่งเหนียนคืออาจารย์ส่วนตัว และเขาเรียนกับหวงหย่งเหนียนที่บ้านทุกวันวันนี้เมิ่งลู่เจินกำลังท่องตำราเพื่อเข้าสอบบ่ายวันนี้ อาจารย์ที่สำนักศึกษาคือคนของสกุลจางมักหาเรื่องว่าเขาโกงข้อสอบและให้สอบใหม่ บางครั้งก็ไม่ให้สอบใหม่ตัดสินว่าเ
ทุกคนคุกเข่าลงส่งเสด็จรัชทายาท เหล่าอาจารย์ที่เข้าข้างเวินหนิงและเหล่าบัณฑิตที่ต่อว่าเมิ่งลู่เจินกับจางลี่ถูกสำนักศึกษาขับออก มอดกินไม้เก็บเอาไว้ไม่ได้ พวกเขาโอดครวญบ้างก็โทษเวินหนิง บ้างก็โทษสกุลจางกับสกุลลู่ที่ทำให้พวกเขาเดือดร้อน แต่กลับไม่มีสักคนที่ยอมกล่าวโทษตนเองหวงเวยหย่งเดินมาหาทั้งสองคน มือเหี่ยวย่นวางลงบนบ่าตบเบาๆก่อนจะเอ่ยกับทั้งคู่"อืม..ไม่เลวๆ หย่งเหนียนสายตาแหลมคมที่รับเจ้าสองคนเป็นลูกศิษย์ของเขา เอาล่ะกลับบ้านเถอะเย็นแล้ว"เด็กทั้งสองคำนับมหาราชครูก่อนจะเก็บกระเป๋าเพื่อเดินกลับบ้าน จวนหวงเดินเพียงหนึ่ลี้จากสำนักศึกษาก็ถึง เหตการณ์ในแต่ละวันมิใช่หวงหย่งเหนียนไม่รู้ แต่แม่ทัพเมิ่งพี่ชายของเขากำชับมาว่าอย่าช่วยเหลือ ให้เขาเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาเอง ยกเว้นมีเรื่องคอขาดบาดตายถึงขั้นเอาชีวิตค่อยยื่นมือทั้งสองเดินมาจนถึงกลางทางอีกยี่สิบจั้งก็ถึงจวนหวงแล้ว แต่กลับเจอกับอันธพาลสมุนของจางพ่านและลู่เหวินกว่ายี่สิบคน ทั้งหมดรุมล้อมจางลี่และเมิ่งลู่เจิน"ข้าอยากได้เสื้อขนจิ้งจอกที่เจ้าสวมอยู่ เอามันมาให้ข้าแล้วจะปล่อยเจ้าไป""ใช่ เหอะไอ้บ้านนอกไอ้ยากจก เจ้าคงขโมย
เสิ่นเยี่ยนฟางได้ข่าวของเมิ่งลู่เจินเป็นระยะ ส่วนมากเจ้าตัวน้อยแอบบินไปหาข่าวกลับมานางเตือนหลายครั้งว่าอันตราย มนุษย์จิตใจซับซ้อนแต่ดูเหมือนเสี่ยวอิงจะแค่พยักหน้าแต่ไม่เคยทำตามสักครั้ง"เสี่ยอิง...จิตใจมนุษย์นั้นน่ากลัว ลูกอย่าได้หลงเชื่อผู้ใดง่ายๆ อยู่บ้านเถอะท่านอาเอาตัวรอดได้อย่าได้กังวล""ท่านแม่ท่านอาสอบหน้าพระที่นั่งเขาได้ที่หนึ่ง ท่านน้าจางเหมิ่นได้ที่สอง จางฮั่นกับลู่หานอาละวาดจวนแทบพัง เพราะว่าจางพ่านกับลู่เหวินไม่กระทั่งมีโอกาสเข้าสอบหน้าพระที่นั่งเพราะพวกเขาสอบไม่ผ่านรอบแรกขอรับ""อืม..ท่านพ่อกำลังไปลอบโจมตีเพื่อแย่งชิงเสบียงกลับมา ส่วนท่านอาโจวหยางกลับมาแล้วก็ต้องไปหาเสบียงเพิ่ม ช่วงนี้ทุกคนมีอันตรายลูกอย่าไปไหนไกลๆ ทั้งห้าคนเลยรู้หรือไม่""ขอรับ/เจ้าค่ะ"ทั้งห้าคนรับปากมารดา เสิ่นเยี่ยนฟางใกล้คลอดเต็มทีแล้ว ส่วนหยางซิงเหยียนกำลังอยู่เดือนนางได้บุตรชาย เสี่ยวอิงบินเอาจดหมายไปส่งที่หน้าจวนด้วยตนเอง คนของเว่ยอ๋องมานานแล้วคอยอารักขาท่านหญิง องครักษ์กว่าสองร้อยคนถูกใช้ไปสร้างจวนแม่ทัพ ไม่ถึงแปดเดือนจวนก็สร้างเกือบเสร็จแล้ว เหลือเพียงเก็บงานเท่านั้น อีกไม่นานก
เมิ่งหย่งชวนไม่สนใจว่าเมียถูกหรือผิด กล้ามาหาเรื่องเมียเขาหรือ เสิ่นกว่างผิงใจกล้ามากนะ เขาประคองภรรยาขึ้นมาก่อนจะเรียกหาคน"ไช่เหยียนมาประคองฮูหยินไป"สาวใช้เดินมาหาเพื่อประคองเสิ่นเยี่ยนฟางเข้าบ้าน แต่นางอยากเห็นว่าสามีจะจัดการอย่างไรได้แต่สบตากับเขา เมิ่งหย่งชวนเดินมาหาหอมหน้าผากนางไม่สนใจใครจนเสิ่นเยี่ยนฟางน้ำตารื้นเอ่ยน้ำเสียงสะอื้น"ท่านพี่ สตรีคนนี้กล่าวหาว่าข้าคบชู้สู่ชายกับท่านพ่อของท่านยามที่ท่านไม่อยู่ไปเรียนหนังสือ นางกล่าวหาว่าบุตรในครรภ์ของข้ามิใช่ของท่านแต่เป็นของท่านพ่อ ข้าไม่มีหน้าอยู่แล้ว ฮือๆๆสวรรค์มารับข้าเถอะ"เมิ่งหย่งชวนสะบัดมือทีเดียวร่างของหลิวหงที่สลบก็ลอยไปกระแทกกับรั้วรั้วอิฐทันที หลิวหงกระอักเลือดจนฟื้นขึ้นมา เสิ่นเว่ยร้องกรี๊ด เถิงจื่อสามีนางชี้หน้าเมิ่งหย่งชวน แต่เขาไม่สนใจก่อนจะเดินไปหาเสิ่นกว่าผิง เอ่ยชัดเจน"ตั้งแต่งานเลี้ยงใต้เท้าโจว เรื่องถั่วงอก เรื่องเต้าหู้ น้ำมันถั่วเหลือง ยังมีเห็ดเยื่อไผ่ที่เมียข้าเพาะได้ น้ำมันพริก คิดว่าข้าไม่อยู่จะไม่รู้เลยหรือว่าที่ผ่านมาเจ้ารังแกเมียข้าเพียงไหน เดิมเจ้าเป็นบิดานางทำผิดต่อนางและมารดานา
หมอตำแยสั่งให้นางเบ่งเสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าทั้งห้าคนก่อนจะรวบรวมลมเบ่ง ใช้เวลากว่าสองชั่วยามนางจึงคลอดคนแรกออกมา หมอตำแยหัวเราะดีใจก่อนจะไปแจ้งข้างนอก"อาชวนเป็นเด็กผู้ชาย ตัวอวบอ้วนเชียว""จริงหรือขอรับท่านย่าสี่ เสี่ยวฟางเจ้าคลอดแล้วหายเจ็บหรือยังคนดี"เมิ่งหย่งชวนตะโกนเข้าไปแต่กลับมีเสียงร้องออกมา"อ๊ายยยย ไหนบอกคนเดียวไง ท่านตา ตาแก่เจ้าที่อีกคนมาจากไหนกัน พวกเทพเซียนนี่วาจาเชื่อถือไม่ได้สักนิด อ๊ายยย"ทุกคนงงไม่รู้ว่านางกล่าวอะไร แต่เพียงครู่เดียวก็ได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาอีกคนหนึ่ง จนเสิ่นเยี่ยนฟางที่ออกแรงคลอดบุตรสลบไปแล้วเพราะนางคลอดคู่แฝดออกมา เจ้าตัวน้อยสองคนที่คลอดมาถูกอาบน้ำแล้วห่อผ้าวางไว้ในเปลอู่ที่เสิ่นเยี่ยนฟางเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว เด็กทั้งห้ามาดูหน้าพี่ใหญ่ทันที แล้วอีกคนเล่าเป็นใคร เมื่อเจ้าตัวน้อยดูดปากกำมือบ้างแบมือบ้างพวกเด็กเห็นกลางฝ่ามือของเขามีปานรูปวิหกเพลิงก็รู้ทันที"เทพสงครามมาเกิดเป็นบุตรท่านแม่หรือ นี่หมายความว่าพวกเราต้องเป็นน้องไอ้เทพนิสัยไม่ดีนี่หรือ""อย่าห่วงเลยเมื่อพวกเราถือกำเนิดก็ไม่สามารถจำสิ่งใดได้แล้ว พี่ใหญ่กับเทพสงครามเองก็เช่น
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ