ทางด้านมหาเทพตั้งแต่เห็นร่างจริงของนางก็มานั่งเฝ้าเจ้าตัวน้อยนอนหลับทุกวัน เพราะเมื่อยามนางหลับร่างของสตรีงดงามจะเผยออกมา นี่คือมหาเทวีของเขาหรือ นางงามจริงๆเสียดายขี้เกียจไปหน่อย เดิมทีนางอายุเก้าหมื่นปีแล้ว ตื่นขึ้นยามใดนางจึงจะกลับเป็นเด็กสี่ขวบเช่นเดิม อีกไม่กี่นานเขาต้องไปจุติในครรภ์ของพระชายารัชทายาทแห่งหนานเป่ย"เจ้าตัวขี้เกียจ ให้อภัยเจ้าครึ่งหนึ่งที่ไม่ขี้เหร่จนข้าตกใจ" ใครว่าเทพง่วงไม่เป็นเล่า มหาเทพนอนลงข้างๆ เจ้าตัวน้อยกอดนางในร่างสตรีงดงามที่คือร่างจริงของนางจนหลับไปด้วยกัน เมื่อวานมหาเทพมาหาว่าที่แม่ยายในอนาคตเพื่อถามบางอย่าง "นังหนูถ้าลุกเขยเจ้าอายุมากกว่าเจ้าๆจะคำนับเขาหรือให้เขาคารวะเจ้ากัน""ท่านตาถามอะไรเจ้าคะ ข้าอายุสิบเจ็ดจะสิบแปดแล้ว หากมีบุตรสาวกว่านางจะโตพออกเรือนได้ก็นต้องอายุสิบแปดถึงตอนนั้นบุตรเขยก็น่านจะไม่เกิน ยี่สิบหรือยี่สิบแปดปีกำลังดี แก่กว่านั้นเอามาคารวะเป็นพ่อบุญธรรมหรือไร""พ่อบุญธรรมอะไรของเจ้าเล่า ถ้าแก่กว่ามากๆล่ะ""ลูกสาวข้าคงไม่โชคร้ายขนาดได้ตาเฒ่าที่ไหนมาเป็นสามีหรอก ว่าแต่ทำไมท่านตาสนใจเรื่องนี้จัง แต่ว่าไปก้แปลก พักน
ในจดหมายเมิ่งลู่เจินเล่าว่าเขาสบายดี แต่ก็มีปัญหานิดหน่อยเขาเองก็ไม่อยากสร้างปัญหาเพราะไม่ต้องการทำให้ท่านราชครูต้องพลอยมีผลกระทบไปด้วย เมิ่งลู่เจินได้เจอกับหลานชายของลู่หานซึ่งเป็นบุตรชายของลู่กัง เขามีเรื่องกับลู่เหวินเสมอแต่ก็พยายามอดทนจนกระทั่งทางเดินกลับจวนหวงลู่เหวินมาดักรอและหาเรื่อง นั่นจึงเป็นเหตุให้เมิ่งลู่เจินลงมือเมืองหลวง สำนักศึกษาหลวงเมิ่งลู่เจินที่มาถึงได้หลายเดือนแล้วเข้าเรียนพร้อมกับจางลี่ ทั้งสองคนหัวดีจึงได้อยู่ชั้นสูงกว่าเด็กที่เรียนมาก่อนแต่เดิม ทำให้เป็นที่ริษยาของบรรดาลูกศิษย์หลายคน หนึ่งในนั้นคือจางพ่านกับลู่เหวิน เมิ่งลู่เจินกำลังเรียนอยู่ดีๆก็มาแกล้งขโมยตำรา เอาพู่กันไปหักทิ้ง ยามที่เขากับจางลี่ไปหาซื้อของกินก็จะกล่าวหาว่าเขาขโมยเงินของสกุลหวง เมิ่งลู่เจินไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้แก่อาจารย์ของตน และไม่เคยบอกใครว่าหวงหย่งเหนียนคืออาจารย์ส่วนตัว และเขาเรียนกับหวงหย่งเหนียนที่บ้านทุกวันวันนี้เมิ่งลู่เจินกำลังท่องตำราเพื่อเข้าสอบบ่ายวันนี้ อาจารย์ที่สำนักศึกษาคือคนของสกุลจางมักหาเรื่องว่าเขาโกงข้อสอบและให้สอบใหม่ บางครั้งก็ไม่ให้สอบใหม่ตัดสินว่าเ
ทุกคนคุกเข่าลงส่งเสด็จรัชทายาท เหล่าอาจารย์ที่เข้าข้างเวินหนิงและเหล่าบัณฑิตที่ต่อว่าเมิ่งลู่เจินกับจางลี่ถูกสำนักศึกษาขับออก มอดกินไม้เก็บเอาไว้ไม่ได้ พวกเขาโอดครวญบ้างก็โทษเวินหนิง บ้างก็โทษสกุลจางกับสกุลลู่ที่ทำให้พวกเขาเดือดร้อน แต่กลับไม่มีสักคนที่ยอมกล่าวโทษตนเองหวงเวยหย่งเดินมาหาทั้งสองคน มือเหี่ยวย่นวางลงบนบ่าตบเบาๆก่อนจะเอ่ยกับทั้งคู่"อืม..ไม่เลวๆ หย่งเหนียนสายตาแหลมคมที่รับเจ้าสองคนเป็นลูกศิษย์ของเขา เอาล่ะกลับบ้านเถอะเย็นแล้ว"เด็กทั้งสองคำนับมหาราชครูก่อนจะเก็บกระเป๋าเพื่อเดินกลับบ้าน จวนหวงเดินเพียงหนึ่ลี้จากสำนักศึกษาก็ถึง เหตการณ์ในแต่ละวันมิใช่หวงหย่งเหนียนไม่รู้ แต่แม่ทัพเมิ่งพี่ชายของเขากำชับมาว่าอย่าช่วยเหลือ ให้เขาเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาเอง ยกเว้นมีเรื่องคอขาดบาดตายถึงขั้นเอาชีวิตค่อยยื่นมือทั้งสองเดินมาจนถึงกลางทางอีกยี่สิบจั้งก็ถึงจวนหวงแล้ว แต่กลับเจอกับอันธพาลสมุนของจางพ่านและลู่เหวินกว่ายี่สิบคน ทั้งหมดรุมล้อมจางลี่และเมิ่งลู่เจิน"ข้าอยากได้เสื้อขนจิ้งจอกที่เจ้าสวมอยู่ เอามันมาให้ข้าแล้วจะปล่อยเจ้าไป""ใช่ เหอะไอ้บ้านนอกไอ้ยากจก เจ้าคงขโมย
เสิ่นเยี่ยนฟางได้ข่าวของเมิ่งลู่เจินเป็นระยะ ส่วนมากเจ้าตัวน้อยแอบบินไปหาข่าวกลับมานางเตือนหลายครั้งว่าอันตราย มนุษย์จิตใจซับซ้อนแต่ดูเหมือนเสี่ยวอิงจะแค่พยักหน้าแต่ไม่เคยทำตามสักครั้ง"เสี่ยอิง...จิตใจมนุษย์นั้นน่ากลัว ลูกอย่าได้หลงเชื่อผู้ใดง่ายๆ อยู่บ้านเถอะท่านอาเอาตัวรอดได้อย่าได้กังวล""ท่านแม่ท่านอาสอบหน้าพระที่นั่งเขาได้ที่หนึ่ง ท่านน้าจางเหมิ่นได้ที่สอง จางฮั่นกับลู่หานอาละวาดจวนแทบพัง เพราะว่าจางพ่านกับลู่เหวินไม่กระทั่งมีโอกาสเข้าสอบหน้าพระที่นั่งเพราะพวกเขาสอบไม่ผ่านรอบแรกขอรับ""อืม..ท่านพ่อกำลังไปลอบโจมตีเพื่อแย่งชิงเสบียงกลับมา ส่วนท่านอาโจวหยางกลับมาแล้วก็ต้องไปหาเสบียงเพิ่ม ช่วงนี้ทุกคนมีอันตรายลูกอย่าไปไหนไกลๆ ทั้งห้าคนเลยรู้หรือไม่""ขอรับ/เจ้าค่ะ"ทั้งห้าคนรับปากมารดา เสิ่นเยี่ยนฟางใกล้คลอดเต็มทีแล้ว ส่วนหยางซิงเหยียนกำลังอยู่เดือนนางได้บุตรชาย เสี่ยวอิงบินเอาจดหมายไปส่งที่หน้าจวนด้วยตนเอง คนของเว่ยอ๋องมานานแล้วคอยอารักขาท่านหญิง องครักษ์กว่าสองร้อยคนถูกใช้ไปสร้างจวนแม่ทัพ ไม่ถึงแปดเดือนจวนก็สร้างเกือบเสร็จแล้ว เหลือเพียงเก็บงานเท่านั้น อีกไม่นานก
เมิ่งหย่งชวนไม่สนใจว่าเมียถูกหรือผิด กล้ามาหาเรื่องเมียเขาหรือ เสิ่นกว่างผิงใจกล้ามากนะ เขาประคองภรรยาขึ้นมาก่อนจะเรียกหาคน"ไช่เหยียนมาประคองฮูหยินไป"สาวใช้เดินมาหาเพื่อประคองเสิ่นเยี่ยนฟางเข้าบ้าน แต่นางอยากเห็นว่าสามีจะจัดการอย่างไรได้แต่สบตากับเขา เมิ่งหย่งชวนเดินมาหาหอมหน้าผากนางไม่สนใจใครจนเสิ่นเยี่ยนฟางน้ำตารื้นเอ่ยน้ำเสียงสะอื้น"ท่านพี่ สตรีคนนี้กล่าวหาว่าข้าคบชู้สู่ชายกับท่านพ่อของท่านยามที่ท่านไม่อยู่ไปเรียนหนังสือ นางกล่าวหาว่าบุตรในครรภ์ของข้ามิใช่ของท่านแต่เป็นของท่านพ่อ ข้าไม่มีหน้าอยู่แล้ว ฮือๆๆสวรรค์มารับข้าเถอะ"เมิ่งหย่งชวนสะบัดมือทีเดียวร่างของหลิวหงที่สลบก็ลอยไปกระแทกกับรั้วรั้วอิฐทันที หลิวหงกระอักเลือดจนฟื้นขึ้นมา เสิ่นเว่ยร้องกรี๊ด เถิงจื่อสามีนางชี้หน้าเมิ่งหย่งชวน แต่เขาไม่สนใจก่อนจะเดินไปหาเสิ่นกว่าผิง เอ่ยชัดเจน"ตั้งแต่งานเลี้ยงใต้เท้าโจว เรื่องถั่วงอก เรื่องเต้าหู้ น้ำมันถั่วเหลือง ยังมีเห็ดเยื่อไผ่ที่เมียข้าเพาะได้ น้ำมันพริก คิดว่าข้าไม่อยู่จะไม่รู้เลยหรือว่าที่ผ่านมาเจ้ารังแกเมียข้าเพียงไหน เดิมเจ้าเป็นบิดานางทำผิดต่อนางและมารดานา
หมอตำแยสั่งให้นางเบ่งเสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าทั้งห้าคนก่อนจะรวบรวมลมเบ่ง ใช้เวลากว่าสองชั่วยามนางจึงคลอดคนแรกออกมา หมอตำแยหัวเราะดีใจก่อนจะไปแจ้งข้างนอก"อาชวนเป็นเด็กผู้ชาย ตัวอวบอ้วนเชียว""จริงหรือขอรับท่านย่าสี่ เสี่ยวฟางเจ้าคลอดแล้วหายเจ็บหรือยังคนดี"เมิ่งหย่งชวนตะโกนเข้าไปแต่กลับมีเสียงร้องออกมา"อ๊ายยยย ไหนบอกคนเดียวไง ท่านตา ตาแก่เจ้าที่อีกคนมาจากไหนกัน พวกเทพเซียนนี่วาจาเชื่อถือไม่ได้สักนิด อ๊ายยย"ทุกคนงงไม่รู้ว่านางกล่าวอะไร แต่เพียงครู่เดียวก็ได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาอีกคนหนึ่ง จนเสิ่นเยี่ยนฟางที่ออกแรงคลอดบุตรสลบไปแล้วเพราะนางคลอดคู่แฝดออกมา เจ้าตัวน้อยสองคนที่คลอดมาถูกอาบน้ำแล้วห่อผ้าวางไว้ในเปลอู่ที่เสิ่นเยี่ยนฟางเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว เด็กทั้งห้ามาดูหน้าพี่ใหญ่ทันที แล้วอีกคนเล่าเป็นใคร เมื่อเจ้าตัวน้อยดูดปากกำมือบ้างแบมือบ้างพวกเด็กเห็นกลางฝ่ามือของเขามีปานรูปวิหกเพลิงก็รู้ทันที"เทพสงครามมาเกิดเป็นบุตรท่านแม่หรือ นี่หมายความว่าพวกเราต้องเป็นน้องไอ้เทพนิสัยไม่ดีนี่หรือ""อย่าห่วงเลยเมื่อพวกเราถือกำเนิดก็ไม่สามารถจำสิ่งใดได้แล้ว พี่ใหญ่กับเทพสงครามเองก็เช่น
น่าแปลกปกติคลอดใหม่ๆจะไม่ค่อยมีน้ำนม แต่เมียเขากลับมีน้ำนมพอให้บุตรชายคู่แฝดได้ดื่ม เมิ่งหย่งชวนเดินไปหานางก่อนจะนั่งลงบนเตียง มือหนาจับปอยผมที่หลุดลุ่ยทัดที่หลังใบหูให้นางอย่างเบามือ เสิ่นเยี่ยนฟางเงยหน้ามามองเขาแล้วยิ้มให้ เมิ่งหย่งชวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย"เหนื่อยมากหรือไม่คนดีของพี่""ไม่เจ้าค่ะ..ลูกสองคนคลอดง่าย ท่านพี่ข้าคิดถึงเสี่ยวเย่า คนโตเราให้ชื่อเมิ่งเสี่ยวเย่าดีไหมเจ้าคะ ส่วนคนเล็กท่านจะให้ชื่ออะไรดี"เมิ่งหย่งชวนจับนิ้วแฝดคนน้อง เด็กน้อยจับนิ้วเขาแน่น ปากก็ดูดนมมารดาไม่ปล่อย ส่งเสียงฮึดฮัดราวกับว่าถูกคนขัดใจ เมิ่งหย่งชวนหัวเราะเบาๆ"ดูท่าเจ้าอารมณ์น่าดูเจ้าแฝดน้องนี่ ให้ชื่อเมิ่งฮ่าวเฉินแล้วกัน เออจริงสิพี่จะพาเด็กๆไปในตำบลสักหน่อย ไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าพอเรามีลูกของตัวเองแล้วไม่ใส่ใจพวกเขา""เจ้าค่ะ..ท่านพี่เรื่องอาเจิน...."เสิ่นเยี่ยนฟางหยุดพูด นางรู้มาจากเสี่ยวอิงเรื่องเมิ่งลู่เจินแล้ว แม้ว่าฮ่องเต้กับรัชทายาทและใต้เท้าหวงจะไม่เชื่อว่าอาเจินเป็นคนลงมือ แต่จางฮั่นอาศัยพวกมากกดดันฝ่าบาททุกวันในท้องพระโรง รองเจ้ากรมคนนั้นก็เอาแต่จะให้ประหารเมิ่งลู่เ
ครึ่งเดือนก่อนหน้าที่เมืองหลวง เมิ่งลู่เจินที่กำลังเดินกลับบ้าน หลังจากทคี่ประกาศผลการสอบเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้ช่วยราชครูหวง ด้วยวัยสิบสี่ปีเท่านั้น เขากำลังคิดว่าปีนี้เขาฉลองอายุสิบสี่อย่างเงียบเหงา กระทั่งก่อนจะเข้าจวนเขาเจอคนๆหนึ่งโดยบังเอิญลู่ซินที่มาดักยืนรออยู่ที่ทางเข้าจวนหวงยิ้มให้เขา เมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะเดินเอื่อยๆไม่สนใจสตรีตรงหน้า ลู่ซินเดินมาหาพร้อมกับเอ่ยทักทาย"อาเจิน..วันนี้วันเกิดลูก อายุสิบสี่แล้วสินะ""จางฮูหยิน ท่านมิควรอยู่ตรงนี้หรือไม่ ท่านควรจะอยู่บ้านเลี้ยงดูบุตรของท่านกับจางฮั่นมิใช่หรือ""อาเจิน..แม่รู้ว่าแม่ผิด แต่ลูกจะให้โอกาสแม่ได้ทำหน้าที่มารดาสักครั้งได้หรือไม่ แม่จองเหลาอาหารไว้หวังว่าลูกจะไม่รังเกียจ"เมิ่งลู่เจินไม่อยากตอบรับนาง แต่เพื่อตัดความรำคาญ ท่านอาหวังสองพี่น้องไม่อยู่ไปทำเรื่องสำคัญให้พี่ใหญ่ เมิ่งลู่เจินจึงรับปากลู่ซิน"วันนี้ข้าจะไปกับท่านสักครั้ง หลังจากนี้อย่ามากวนใจข้าอีก"ลู่ซินพยักหน้าให้เขาก่อนจะซับน้ำตา นางแอบออกมาจากจวนก็เพื่อมาหาบุตรชาย วันนี้เขาโตขึ้นอีกปีแล้ว บุตรที่นางอุ้มท
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ