หมอตำแยสั่งให้นางเบ่งเสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าทั้งห้าคนก่อนจะรวบรวมลมเบ่ง ใช้เวลากว่าสองชั่วยามนางจึงคลอดคนแรกออกมา หมอตำแยหัวเราะดีใจก่อนจะไปแจ้งข้างนอก"อาชวนเป็นเด็กผู้ชาย ตัวอวบอ้วนเชียว""จริงหรือขอรับท่านย่าสี่ เสี่ยวฟางเจ้าคลอดแล้วหายเจ็บหรือยังคนดี"เมิ่งหย่งชวนตะโกนเข้าไปแต่กลับมีเสียงร้องออกมา"อ๊ายยยย ไหนบอกคนเดียวไง ท่านตา ตาแก่เจ้าที่อีกคนมาจากไหนกัน พวกเทพเซียนนี่วาจาเชื่อถือไม่ได้สักนิด อ๊ายยย"ทุกคนงงไม่รู้ว่านางกล่าวอะไร แต่เพียงครู่เดียวก็ได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาอีกคนหนึ่ง จนเสิ่นเยี่ยนฟางที่ออกแรงคลอดบุตรสลบไปแล้วเพราะนางคลอดคู่แฝดออกมา เจ้าตัวน้อยสองคนที่คลอดมาถูกอาบน้ำแล้วห่อผ้าวางไว้ในเปลอู่ที่เสิ่นเยี่ยนฟางเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว เด็กทั้งห้ามาดูหน้าพี่ใหญ่ทันที แล้วอีกคนเล่าเป็นใคร เมื่อเจ้าตัวน้อยดูดปากกำมือบ้างแบมือบ้างพวกเด็กเห็นกลางฝ่ามือของเขามีปานรูปวิหกเพลิงก็รู้ทันที"เทพสงครามมาเกิดเป็นบุตรท่านแม่หรือ นี่หมายความว่าพวกเราต้องเป็นน้องไอ้เทพนิสัยไม่ดีนี่หรือ""อย่าห่วงเลยเมื่อพวกเราถือกำเนิดก็ไม่สามารถจำสิ่งใดได้แล้ว พี่ใหญ่กับเทพสงครามเองก็เช่น
น่าแปลกปกติคลอดใหม่ๆจะไม่ค่อยมีน้ำนม แต่เมียเขากลับมีน้ำนมพอให้บุตรชายคู่แฝดได้ดื่ม เมิ่งหย่งชวนเดินไปหานางก่อนจะนั่งลงบนเตียง มือหนาจับปอยผมที่หลุดลุ่ยทัดที่หลังใบหูให้นางอย่างเบามือ เสิ่นเยี่ยนฟางเงยหน้ามามองเขาแล้วยิ้มให้ เมิ่งหย่งชวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย"เหนื่อยมากหรือไม่คนดีของพี่""ไม่เจ้าค่ะ..ลูกสองคนคลอดง่าย ท่านพี่ข้าคิดถึงเสี่ยวเย่า คนโตเราให้ชื่อเมิ่งเสี่ยวเย่าดีไหมเจ้าคะ ส่วนคนเล็กท่านจะให้ชื่ออะไรดี"เมิ่งหย่งชวนจับนิ้วแฝดคนน้อง เด็กน้อยจับนิ้วเขาแน่น ปากก็ดูดนมมารดาไม่ปล่อย ส่งเสียงฮึดฮัดราวกับว่าถูกคนขัดใจ เมิ่งหย่งชวนหัวเราะเบาๆ"ดูท่าเจ้าอารมณ์น่าดูเจ้าแฝดน้องนี่ ให้ชื่อเมิ่งฮ่าวเฉินแล้วกัน เออจริงสิพี่จะพาเด็กๆไปในตำบลสักหน่อย ไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าพอเรามีลูกของตัวเองแล้วไม่ใส่ใจพวกเขา""เจ้าค่ะ..ท่านพี่เรื่องอาเจิน...."เสิ่นเยี่ยนฟางหยุดพูด นางรู้มาจากเสี่ยวอิงเรื่องเมิ่งลู่เจินแล้ว แม้ว่าฮ่องเต้กับรัชทายาทและใต้เท้าหวงจะไม่เชื่อว่าอาเจินเป็นคนลงมือ แต่จางฮั่นอาศัยพวกมากกดดันฝ่าบาททุกวันในท้องพระโรง รองเจ้ากรมคนนั้นก็เอาแต่จะให้ประหารเมิ่งลู่เ
ครึ่งเดือนก่อนหน้าที่เมืองหลวง เมิ่งลู่เจินที่กำลังเดินกลับบ้าน หลังจากทคี่ประกาศผลการสอบเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้ช่วยราชครูหวง ด้วยวัยสิบสี่ปีเท่านั้น เขากำลังคิดว่าปีนี้เขาฉลองอายุสิบสี่อย่างเงียบเหงา กระทั่งก่อนจะเข้าจวนเขาเจอคนๆหนึ่งโดยบังเอิญลู่ซินที่มาดักยืนรออยู่ที่ทางเข้าจวนหวงยิ้มให้เขา เมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะเดินเอื่อยๆไม่สนใจสตรีตรงหน้า ลู่ซินเดินมาหาพร้อมกับเอ่ยทักทาย"อาเจิน..วันนี้วันเกิดลูก อายุสิบสี่แล้วสินะ""จางฮูหยิน ท่านมิควรอยู่ตรงนี้หรือไม่ ท่านควรจะอยู่บ้านเลี้ยงดูบุตรของท่านกับจางฮั่นมิใช่หรือ""อาเจิน..แม่รู้ว่าแม่ผิด แต่ลูกจะให้โอกาสแม่ได้ทำหน้าที่มารดาสักครั้งได้หรือไม่ แม่จองเหลาอาหารไว้หวังว่าลูกจะไม่รังเกียจ"เมิ่งลู่เจินไม่อยากตอบรับนาง แต่เพื่อตัดความรำคาญ ท่านอาหวังสองพี่น้องไม่อยู่ไปทำเรื่องสำคัญให้พี่ใหญ่ เมิ่งลู่เจินจึงรับปากลู่ซิน"วันนี้ข้าจะไปกับท่านสักครั้ง หลังจากนี้อย่ามากวนใจข้าอีก"ลู่ซินพยักหน้าให้เขาก่อนจะซับน้ำตา นางแอบออกมาจากจวนก็เพื่อมาหาบุตรชาย วันนี้เขาโตขึ้นอีกปีแล้ว บุตรที่นางอุ้มท
เมื่อทุกอย่างลงตัวเมิ่งหย่งชวนก็รอวันเดินทาง หยางซิงเหยียนที่ตอนนี้หลินเอ๋อร์คนของเสด็จแม่กำลังพูดคุยกับนางอยู่"ท่านหญิง เดินทางครั้งนี้มีท่านแม่ทัพกับสองพี่น้องสกุลโจวคุ้มครองท่านก้ไม่ต้องกังวลสิ่งใดแล้วเจ้าค่ะ""ท่านน้าหลินเอ๋อร์..แล้วทางนี้จะไม่เป็นไรหรือ""ท่านอ๋องส่งคนมาเพิ่มอีกสามร้อยคน อีกครึ่งเดือนพวกเขาจะมาถึงพวกเราออกเดินทางพอดี รวมกับคนของท่านแม่ทัพอีกห้าร้อยคน เมิ่งฮูหยินและนายท่านเมิ่งมีคนคุ้มครองถึงแปดร้อยคน กองทัพย่อมๆเชียวนะเจ้าคะ""อืม..หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัย""เฮ้อ..พูดก็พูด เมิ่งฮูหยินคนนี้เห็นปกติอ่อนหวานอ่อนโยน เวลาลงมือนางช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก กระทั่งบิดายังทุบเสียไม่ต่างกับสุนัขข้างทาง""เสิ่นกว่างผิงละโมบไม่เลิก เมิ่งฮูหยินนางพยายามให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้ สามีต้องมาปกครองดินแดน นางเป็นภรรยาหากราษฎรอยู่ดีกินดีจะต้องทุกข์อันใด แต่บิดานอกคอกของนางกลับละโมบอยากได้ไปเสียทุกอย่าง แอบอ้างความเป็นบิดาทั้งๆที่มิเคยทำหน้าที่บิดาสักครั้ง นอกจากทำให้กำเนิดมา""จะว่าไปนางเก่งยิ่งนัก ปกครองเรือนปกครองคนได้ไม่มีส่วนไหนบกพร่อง จางลี่คนนั้นได้ข่าวว่าก่อนหน้าเ
คุกหลวงทางด้านเมืองหลวงเมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้นั่งทำสมาธิอยู่ในคุกหลวง ก็มีคนมาหาเขาลืมตาขึ้น หวงหย่งเหนียนพาคนผู้หนึ่งมาหาเขาและปล่อยให้ทั้งสองคนได้พูดคุยกัน เขารับปากคนๆนั้นแต่ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับที่ผ่านมา ซึ่งคนผู้นั้นเองก็เข้าใจและพยักหน้า เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยหวงหย่งเหนียนจึงพาคนๆนั้นออกไป เมิ่งลู่เจินนั่งหลับตา นัยน์ตามีน้ำตารื้นๆคลอเบ้า ในเมื่อเลือกเดินทางผิดแต่แรกจะโทษผู้ใดกัน เขาจึงได้ทำสมาธิแล้วเงียบไป มีพรมอย่างดี มีเตียงอุ่นให้นอน เป็นห้องขังส่วนตัวที่ไม่รวมกับห้องอื่น ตกดึกด้านนอกมีสัญญาณไปไหม้แจ้งเตือนทำให้ผู้คุมต่างวิ่งวุ่นวายเพราะดับไฟ ประตูคุกถูกเปิดออกเพื่อให้เขาได้หนีออกไป เมิ่งลู่เจินกลับนั่งสงบนิ่ง ทางด้านกลุ่มคนที่โพกหน้าต่างก็เรียกหาเขา"คุณชายเมิ่งพวกเราไปกันเถอะ ใต้เท้าหวงให้ข้ามารับท่าน""นั่นสิไม่มีเวลาแล้ว รีบไปเถอะ"แต่เขายังคงนั่งนิ่งมิไยดีกับเสียงเรียกเหล่านั้น คนที่มาเห็นว่าเขาไม่ขยับก็จะเข้าไปพาตัวออกมา ผู้คุมคุกมาพอดี คนที่เหลือจึงตะโกนเสียงดัง"คุณชายเมิ่ง ใต้เท้าหวงรอคุณชายอยู่ที่ท้ายเมืองทิศตะวันออก หากท่านไม่หนีตอนนี
จางฮั่นที่มาถึงจวนลู่ก็ถามหาลู่ซินกับบุตรทั้งสองคน ปรากฏว่าที่จวนลู่ไร้เงาของนางตั้งแต่ก็มิ่งลู่เจินเกิดเรื่องสังหารบุตรชายรองเจ้ากรม นางก็ไม่กลับมาจวนอีกเลยครึ่งเดือนกว่าแล้ว พวกเขายังคิดว่านางโกรธสกุลลู่อยู่เลยไม่กลับบ้าน มีเพียงเมื่อเช้านางกลับมาพร้อมกับเข้าไปห้องสมบัติของจวนแล้วกลับออกไปมา จากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย"ใต้เท้าลู่..บุตรสาวของท่านอยู่ที่ใดกันแน่""นี่ลูกเขย..เจ้าจะโวยวายอันใด ลู่ซินนางไม่เคยไปไหนไกลๆเดี๋ยวก็กลับมาเองนั่นแหละ""นางเอาบุตรชายกับบุตรสาวของข้าไปด้วย ท่านบอกว่านางไม่เคยไปไหนไกลเช่นนั้นหรือ หึ นางไปไกลจนได้บุตรชายมาสองคนท่านยังกล้าพูดเช่นนี้""จางฮั่น มิใช่ว่าเจ้าหรือที่ต้องการนาง จนกระทั่งพรากนางมาจากเมิ่งหย่งชุนกับบุตรชายของนาง มาตอนนี้กลับผลักไสบุตรสาวข้า หากนางไม่อยู่ก็คงเป็นเพราะเจ้าทำจนนางทนไม่ได้""ลู่หาน..อย่าคิดว่าเป็นพ่อตาของข้าแล้วข้าจะเกรงใจเจ้านะ""เจ้าหรือเกรงใจข้า จางฮั่นเจ้าเคยเกรงใจข้าเมื่อใดกัน ลู่ซินไม่กลับจวนข้าเองก็ไม่รู้นางไปไหนเช่นกัน"จางฮั่นหัวเสียคนของเขาก็ไม่ส่งข่าว ที่เขากังวลมิใช่แค่เพียงบุตรชายบุตรสาวหายไป แต่
เมิ่งหย่งชวนที่ตอนนี้กำลังอุ้มเมิ่งฮ่าวเฉินอยู่ ส่วนเมิ่งเสี่ยวเย่าเสิ่นเยี่ยนฟางกำลังให้นม กระทั่งมีคนเรียกเขาจึงวางบุตรชายคนเล็กอย่างทะนุถนอน ก่อนจะออกไปด้านนอก ทันทีที่เขาออกไปเสิ่นเยี่ยนฟางดุเจ้าตัวเล็กทันที"มาเป็นลูกแม่แล้วห้ามเอานิสัยเสียๆติดตัวมาใช้ มิเช่นนั้นแม่จะจับเจ้าปลงผมท่องคัมภีร์เต๋าทั้งวันกินเจตลอดชีวิตเชียวนะฮ่าวเฉิน"เด็กน้อยดูดปากจุ๊บๆมือก็ไขว่คว้าให้มารดาอุ้ม นี่ขนาดเพิ่งจะสิบวันเองนะน่าตีจริงเชียวเจ้าเด็กรู้มาก เสิ่นเยี่ยนฟางวางเมิ่งเสี่ยวเย่าที่อิ่มแล้ว เขาละปากจากเต้านมมารดาก่อนจะดูดปากจุ๊บหลับตาพริ้ม เสิ่นเยี่ยนฟางวางบุตรชายคนโตเรียบร้อยก็มาเอาเจ้าคนเล็กเข้าเต้า เมิ่งฮ่าวเฉินดูดอย่างกระหาย มือจับสาบเสื้อมารดาแน่น เสิ่นเยี่ยนฟางหอมหน้าผากน้อยๆเบาๆ นิ้วเรียวเขี่ยแก้มเล่น"ตอนเป็นเทพสงครามช่างน่าตีนัก ตอนนี้ดูสิเจ้าเด็กน้อยของแม่หากดื้อแม่จะหวดก้นเจ้า"เด็กๆมาหามารดาในห้อง เสิ่นเยี่ยนฟางยิ้มให้ทั้งห้าคน เสี่ยวอิงมากระซิบกับท่านแม่ เสิ่นเยี่ยนฟางถอนหายใจทันที บางทีนี่อาจเป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่สตรีคนนั้นเลือกได้ถูกต้องเมิ่งหย่งชวนนั่งรอบุตรชายกร
ร่างบางซูบผอมค่อยๆหันกลับมา ใบหน้างามเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ก่อนจะลุกมาหาทั้งคู่ ตุ๊บ!! เข่าสองข้างทิ้งลงกับพื้น ลู่ซินคุกเข่าให้กับเมิ่งหย่งชุนก่อนจะเอ่ยออกมา"ท่านพี่..เอ่อ หัวหน้าเมิ่ง ได้โปรดเมตตาข้าด้วย""เจ้าลุกขึ้นก่อน มีอะไรค่อยๆพูดกัน คุกเข่าเช่นนี้คนอื่นไม่รู้จะหาว่าข้ากับอาชวนกำลังรังแกเจ้า""หัวหน้าเมิ่ง ข้าดั้นด้นมาเพื่อฝากฝังเด็กทั้งสองคนกับท่าน ได้โปรดรับพวกเขาเป็นลูกบุญธรรมได้หรือไม่ อาชวนรับน้องไว้เลี้ยงดูได้หรือไม่ ฮือๆๆ"น้ำเสียงสะอื้นสั่นเครือทำให้เมิ่งหย่งชวนนั่งยองๆลงมาก่อนจะจ้องตานาง"ข้าอ่านทุกอย่างที่อาเจินเล่ามาหมดแล้ว ในเนื้อหานั้นจริงเท็จเพียงใดมีเพียงท่านที่รู้ จางฮูหยินวันนี้ท่านมาคุกเข่าให้เราสองพ่อลูก ยกบุตรชายของจางฮั่นให้พวกเราเลี้ยงดู ขอถามเหตุผลสักข้อว่าเพราะเหตุใด"ลู่ซินล้วงเอากระดาษออกมาสามฉบับก่อนจะส่งให้เมิ่งหย่งชวน เขารับมาและเปิดอ่านทันที นี่มัน!! ก่อนจะมองหน้านางแล้วเอ่ยถาม"ท่านเอามาได้อย่างไร ทำเช่นนี้มิถูกจางฮั่นตามล่าตัวจนพลิกแผ่นดินหรือ""อาชวน..ได้โปรดรับน้องเอาไว้ ให้พวกเขาใช้แซ่เมิ่งได้หรือไม่ หัวหน้าเมิ่งข้าขอร้
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ