เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยเมิ่งหย่งชวนก็กลับบ้าน เสิ่นเยี่ยนฟางยังคงนอนหมดแรงอยู่ในห้อง เด็กทั้งห้าคนนอนหลับอยูกับมารดา เมิ่งหย่งชวนเห็นพวกเขานอนเรียงกันก็อุ้มทีละคนมานอนห้องตนเอง ก่อนจะหอมแก้มครบทุกคนจากนั้นก็ไปหาภรรยาเสิ่นเยี่ยนฟางตื่นมาแล้วตั้งแต่เขาอุ้มเสี่ยวอิงไปเป็นคนสุดท้าย นางรู้ดีว่าเมิ่งหย่งชวนเป็นห่วงความรู้สึกของนางที่ต้องจากกับเสี่ยวเย่า ถึงจะรู้ดีว่าเสี่ยวเย่าอยู่ในครรภ์ตนเอง แต่ลึกๆก็อดคิดถึงดวงตาสุกใส แก้มป่องๆยามที่เหนื่อยๆมาได้ชื่นใจไม่ได้"คิดถึงเสี่ยวเย่าหรือเมียพี่""เจ้าค่ะเคยอยู่ด้วยกันก็มีบ้างที่จะโหยหา ว่าแต่เอ่อ..ท่านพี่อาเจินจะเดินทางแล้วข้าห่วงเขานัก มารดาท่านนางช่างร้อยเล่ห์""อย่ากังวลเลย อาเจินเข้มแข็งกว่าที่เราเห็น""เฮ้อ...ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ เหตุใดบนตัวเขามีกลิ่นอายสังหารก็ไม่รู้ หวังว่าคงไม่ไปทำเรื่องอันใดที่ทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบากหรอกนะ"เมิ่งหย่งชวนรั้งนางมากอด เขาหอมแก้มนางมือหนาเชยคางให้สบตากับตนเองก่อนจะเอ่ย"เสี่ยวฟาง อย่าได้กังวลไปเลยอาเจินคือเด็กที่เจ้าสั่งสอนมาเองกับมือ เขาย่อมรู้หนักเบาไม่ทำอันใดให้ตนเองหรือคนรอบกายเดือ
ทันทีที่เสิ่นเยี่ยนฟางกล่าวจบนางก็จับมือสามีเพื่อกลับเข้าห้อง ทุกคนลงความเห็นตามนี้ หวงหย่งเหนียนไปคุยกับภรรยา หยางซิงเหยียนเข้าใจที่เขาบอกดี หากสกุลโจวกับสกุลหวงมีภัย ราชสำนักย่อมแบ่งฝ่ายชัดเจน เมื่อนั้นจางกุ้ยเฟยที่มีขุนนางอยู่ไม่น้อยในมือจะถือโอกาสสั่นคลอนตำแหน่งรัชทายาทให้บุตรชายตนเอง"ข้าอยู่ที่นี่ปลอดภัยดี ท่านอาอย่ากังวลหากเดินทางไปพร้อมกันแล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันเมืองหลวงคงแตกแยกหลายก๊กหลายฝ่าย ฮูหยินเมิ่งนางอ่านแผนการณ์ได้ดี""อาจะรีบไปรีบมานะ อาเยียนไม่อยากห่างเจ้าเลย""บ้านเมืองสำคัญ หากสกุลจางได้เป็นใหญ่ อย่าว่าแต่ชาวบ้านเลยเจ้าค่ะ แม้แต่ขุนนางเช่นพวกเราก็อาจลำบากไปด้วย เสด็จพ่อเป็นอ๋องต่างแซ่ตั้งแต่ฮ่องเต้องค์ก่อน ที่ยังมีอำนาจเพราะฝ่าบาทยังทรงให้ความสำคัญ แต่สกุลจางมิได้คิดเช่นนั้น"หวงหย่งเหนียนทำตามคำแนะนำของเสิ่นเยี่ยนฟางจำต้องให้เมียอยู่ที่นี่ไปก่อน จากนั้นจึงแยกย้ายกันพักผ่อน เตรียมตัวอีกห้าวันเดินทางกลับเมืองหลวง เสิ่นเยี่ยนฟางนอนกอดบุตรชายตัวน้อย เสี่ยวอิงไปเที่ยวเล่นจนได้ข่าวนี้มาโดยบังเอิญว่าพวกเขาจะดักซุ่มสังหารท่านหญิงและโยนความผิดให้หวงหย
ยามเหมาเจียงเสี่ยวฮวากับเมิ่งหย่งซินลุกขึ้นมาทำอาหาร เคี่ยวยาให้กับเสิ่นเยี่ยนฟางและหยางซิงเหยียน รวมถึงท่านปู่เมิ่งซุน หวงหย่งเหนียนที่นอนกอดภรรยาอย่างคะนึงหา หยางซิงเหยียนลูบแก้มสากก่อนจะจุมพิตเขาอย่างอ่อนโยน"ฝากบอกเสด็จพ่อว่าอย่ากังวลใดๆ ข้าอยู่ทางนี้มิได้เคลื่อนไหวไปที่ใดต่อให้จางกุ้ยเฟยกับจางฮั่นอยากลงมือก็มิใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ ท่านน้ารองอยู่ทางนี้ข้าย่อมปลอดภัยเจ้าค่ะ ยังมีน้าเล็กอีกคน""สัญญากับอา ว่าจะรักษาตัวดีๆ อย่าซุกซนนะเด็กดีของอา""ท่านอา..ข้ากำลังจะเป็นมารดาของบุตร จะซุกซนได้อย่างไรเล่า""คนดี..นอนต่อเถอะอาจะไปเตรียมตัวอารักเจ้านะอาเหยียน""เจ้าค่ะ ข้าก็รักท่านเจ้าค่ะท่านอาหย่งเหนียน อาเหยียนรักสามีคนนี้ที่สุด อื้อ"หวงหย่งเหนียนจุมพิตเมียสาวก่อนจะห่มผ้าให้นางแล้วลุกออกไป คล้อยหลังเขาหยางซิงเหยียนก็น้ำตาร่วงทันที นางไม่อยากห่างจากเขา แต่หากนางไปด้วยจะเป็นตัวถ่วงและอาจทำให้เขามีอันตรายไปด้วยกระทั่งปลายยามเฉินทั้งเจียงเสี่ยวฮวาและเมิ่งหย่งซินยกยาเข้าไปให้ทั้งสามคนที่นอนอยู่ในห้อง จางลี่มาแต่เช้าเขามาเรียนการดูผลไม้อบแห้ง วันนี้ที่บ้านทำเป็ดพะโล้ตัวใหญ่
หวงหย่งเหนียนไม่รู้ว่าพ่อตาส่งคนมาคุ้มครองพวกเขาตลอดทางตั้งแต่ออกจากวังหลวง แม้กระทั่งวันที่บุตรสาวหายไป รวมทั้งวันที่บุตรสาวไปนอนอยู่บนเตียงของเขาพ่อตาก็รู้เรื่อง ในเมื่อบุตรสาวรักเขาปักใจเพียงนี้ บิดาเช่นเขาก็ส่งเสริมไปเสียเลย มีบุตรเขยเป็นราชครูแม้จะอายุห่างกันไปสักหน่อยแต่สกุลหวงเป็นรองเพียงสกุลโจวเท่านั้น พี่สาวคนโตของพระชายาเป็นกุ้ยเฟย สกุลจางอยากเล่นงานพวกเขา คิดว่าน้องสาวตนเองอย่างจางกุ้ยเฟยมีปัญญาหรือ หึๆ"ทรงหัวเราะอันใดกันเพคะ ถึงแม้หม่อมฉันจะไว้ใจอาหยวนแต่ก็อดห่วงไม่ได้ เหยียนเอ๋อร์อยู่ทางนั้นจะปลอดภัยหรือไม่""อย่ากังวลเลย หย่งเหนียนดูแลนางได้ อีกอย่างลูกเราปลอดภัยแน่นอน คนที่ไม่ปลอดภัยน่าจะเป็นจางฮั่นมากว่าน่ะ""ทรงทำอะไรกับเขาหรือเพคะ""อยากเอาชีวิตลูกข้า ใครให้ความกล้ากับพวกมันกัน ลู่หานเองคิดว่าต้นไม้ใหญ่อย่างสกุลจางจะมั่นคง รากเน่าจนลำต้นจะพังทลายยังมิรู้ดีชั่ว หว่านหว่านเรื่องเหยียนเอ๋อร์เจ้าก็แสดงละครว่าวิตกกังวลสักหน่อยนะ ไม่เช่นนั้นพวกเขาระแวงละครจะไม่สนุกเอา""เพคะๆ ว่าแต่พระองค์ห้าสิบสองแล้ว ลูกเขยจะสามสิบเก้ามิทรงติดใจจริงหรือเพคะ คิกๆ
มหาเทพกำลังทะเลาะกับเทพบุพเพ ตาเฒ่าจันทราผูกด้ายแดงเขากับไอ้ตัวขี้เกียจนี่ เทพบุพเพบอกว่าไม่สามารถตัดด้ายแดงได้จะทำให้มีปัญหาลุกลามไปถึงคู่บุพเพคู่อื่น"ตัดสายสัมพันธ์ข้ากับนางไม่ได้แล้วต้องทำเช่นไร จะให้ข้าแต่งกับเด็กนี่หรือ ดูตัวนางเอามาทำอะไร อีกไม่นานนางก็ต้องไปเกิดเป็นมนุษย์แล้ว""พระองค์ต้องแบ่งภาคไปจุติพ่ะย่ะค่ะ เพื่อแต่งงานกับนาง หรือไม่ก็แต่งกับนางทั้งๆแบบนี้ก็ได้""ไปจุติเกิดเป็นมนุษย์หรือ พวกเจ้านี่มัน""ฝ่าบาท ไปเกิดเป็นมนุษย์แต่งงานกับนางหลังจากนางสิ้นอายุขัยแล้วก็รับนางมาเป็นมหาเทวีของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ""ตาเฒ่านั่นอายุเพิ่งเท่าไหร่เอง อ่อนกว่าข้าตั้งกี่ปีเลอะเลือนจริงๆ อยู่ๆข้าต้องไปผูกวาสนากับไอ้ตัวขี้เกียจนี่ แต่งนางมาเป็นภรรยาหรือแต่งนางมานอนเกะกะไปวันๆกันแน่"หลังจากที่อาละวาดบนสวรรค์เรียบร้อยก็ลงมาหงุดหงิดอยู่ข้างล่าง เขาเป็นใหญ่ในแดนมนุษย์มาสามแสนปีไม่นับรวมอายุที่ถือกำเนิด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าสวรรค์นั้นไร้ความยุติธรรมจริงๆเสี่ยวเถาเห็นท่านตาเจ้าที่หน้าบูดบึ้งก็เมินหน้าใส่ ท่านแม่บอกว่าห้ามก้าวร้าวแต่ไม่ได้บอกว่าห้ามไม่ให้ไม่สนใจ นางได้ยิน
เมิ่งหย่งชุนที่นั่งสานเก้าอี้หวายให้บิดา ลวดลายการสานนั้นลูกสะใภ้เป็นคนออกแบบให้ นางให้คนไปหาหวายแดงมาได้จำนวนหนึ่ง นางให้อาเจินเอาไปเมืองหลวงด้วย ยามที่จิตใจไม่มั่นคงก็ให้นั่งสานไปเพื่อให้จิตใจสงบ นับว่าสะใภ้คนนี้คิดอ่านรอบคอบนัก เมิ่งหย่งชวนเดินมาหาบิดาก่อนจะนั่งลงตรงกันข้าม เมิ่งหย่งชุนเห็นบุตรชายก็รู้ว่าคงมีเรื่องคุยด้วยจึงวางงานในมือแล้วเอ่ยปากพูดคุยกับบุตรชาย"มีเรื่องอันใดหรืออาชวน สีหน้าเจ้าดูไม่ค่อยสบายใจ""ท่านพ่อ ข้าจะทิ้งองครักษ์ไว้สักร้อยคน ยังมีทหารลับอีกร้อยคน ข้าเกรงว่าพวกเขาจงใจจะเล่นงานท่านกับเสี่ยวฟาง อีกอย่างท่านหญิงอยู่ที่นี่หากพวกเขารู้ว่าถูกหลอกเรื่องท่านหญิง เมื่อใต้เท้าหวงไม่อยู่พวกเขาต้องลงมือกับนางแน่นอน""พ่อพอจะมีคนในยุทธภพอยู่บ้าง อาชวนลูกมีเรื่องกังวลใจอย่างอื่นหรือไม่"ท่านพ่อเสี่ยวฟางนาง คือว่านางไม่ได้อ่อนแออย่างที่ท่านเห็น หากว่านางเกิดทำอะไรที่ เอ่อ""ฮ่าๆๆ...พ่อรู้ๆ ดูจากการที่นางไล่เตะบุรุษตัวโตที่มาหาเรื่องวันก่อนนางไล่กวดทุบตีตนคนเหล่านั้นแตกกระเจิงพ่อก็รู้ว่านางไม่ธรรมดา อาชวนเสี่ยวฟางนางเป็นภรรยาที่ดี""ลูกรักนาง แม้ว่า
ร่างงามถูกเขาผ่อนลงบนที่นอน โจวหยางดูดกลืนยอดทับทิมอย่างหลงใหล มันหวานจนเขาแทบสำลักความหวานนั้น เมิ่งเย่งซินสอดนิ้วไล้เรือนผมสามี กดศีรษะของเขาแนบกับทรวงอกสล้าง ให้เขาได้สลับดูดดื่มจนพอใจ ใบหน้าคมเลื่อนขึ้นมาสบตาคนใต้ร่างก่อนจะยิ้มให้"เจ็บนิดนึงนะคนงาม พี่จะพยายามเบาที่สุด""อืม..เจ้าค่ะ"แก่นกายร้อนผ่าวถูกมือหนาโอบประคองกดเข้ากายงามอย่างช้าๆ เมิ่งหย่งซินนิ่วหน้าทันทีที่เข้ามาได้ครึ่งทาง มือเล็กพยายามดันหน้าท้องเขาออก นางเจ็บจนเหมือนร่างจะแตกสลาย โจวหยางจูบประโลมทั้งสองเต้าเพื่อให้นางไว้ใจ จากนั้นก็เสือกแก่นกายทีเดียวเพื่อให้นางเจ็บน้อยที่สุด"กรี๊ดดด ท่านพี่ อื้อ เจ็บ แน่น ข้าจะจุก""นิดเดียว อย่าเกร็งอยู่นิ่งๆก่อนนะ อ่าห์ นุ่มมากเมียจ๋า"โจวหยางรอจนนางคุ้นเคยกับตัวตนของเขา เมิ่งหย่งซินจิกแขนเขาแน่นนางพยักหน้าให้สามีว่าพร้อมแล้ว บั้นเอวหนาเริ่มขยับเข้าออกร่างงามของคนใต้ร่างอย่างเนิบนาบจนกระทั่งเริ่มเร็วขึ้น เสียงครางแสนหวานเล็ดลอดออกมาจากปากเล็กๆนั่น โจวหยางอดใจไม่ไหวก้มลงไปจูบนาง อืมปากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน เขาจะคลั่งอยู่แล้วนางช่างเย้ายวนอะไรเช่นนี้กัน
ทางด้านมหาเทพตั้งแต่เห็นร่างจริงของนางก็มานั่งเฝ้าเจ้าตัวน้อยนอนหลับทุกวัน เพราะเมื่อยามนางหลับร่างของสตรีงดงามจะเผยออกมา นี่คือมหาเทวีของเขาหรือ นางงามจริงๆเสียดายขี้เกียจไปหน่อย เดิมทีนางอายุเก้าหมื่นปีแล้ว ตื่นขึ้นยามใดนางจึงจะกลับเป็นเด็กสี่ขวบเช่นเดิม อีกไม่กี่นานเขาต้องไปจุติในครรภ์ของพระชายารัชทายาทแห่งหนานเป่ย"เจ้าตัวขี้เกียจ ให้อภัยเจ้าครึ่งหนึ่งที่ไม่ขี้เหร่จนข้าตกใจ" ใครว่าเทพง่วงไม่เป็นเล่า มหาเทพนอนลงข้างๆ เจ้าตัวน้อยกอดนางในร่างสตรีงดงามที่คือร่างจริงของนางจนหลับไปด้วยกัน เมื่อวานมหาเทพมาหาว่าที่แม่ยายในอนาคตเพื่อถามบางอย่าง "นังหนูถ้าลุกเขยเจ้าอายุมากกว่าเจ้าๆจะคำนับเขาหรือให้เขาคารวะเจ้ากัน""ท่านตาถามอะไรเจ้าคะ ข้าอายุสิบเจ็ดจะสิบแปดแล้ว หากมีบุตรสาวกว่านางจะโตพออกเรือนได้ก็นต้องอายุสิบแปดถึงตอนนั้นบุตรเขยก็น่านจะไม่เกิน ยี่สิบหรือยี่สิบแปดปีกำลังดี แก่กว่านั้นเอามาคารวะเป็นพ่อบุญธรรมหรือไร""พ่อบุญธรรมอะไรของเจ้าเล่า ถ้าแก่กว่ามากๆล่ะ""ลูกสาวข้าคงไม่โชคร้ายขนาดได้ตาเฒ่าที่ไหนมาเป็นสามีหรอก ว่าแต่ทำไมท่านตาสนใจเรื่องนี้จัง แต่ว่าไปก้แปลก พักน
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ