ช่วงนี้งานของธันยกานต์เองก็รัดตัวมากเธอไม่ค่อยได้มีเวลาแวะเวียนไปหาพี่กรเลย.. เธอได้แต่หยิบสมาร์ทโฟนราคาแพงของเธอขึ้นมาและดูภาพของพี่กรเอา.. ภาพต่างๆเธอได้มาจากคุณยายังไงล่ะ เธอขอร้องคุณยาว่าให้คุณยาช่วยแอบถ่ายรูปพี่กรให้เธอที แลกกับคอลเลคชั่น เสื้อผ้าแบรนด์หรูที่เธอนั้นมักจะได้รับข่าวสารและคำเชิญให้ไปร่วมงานทุกครั้ง.. และเรื่องแค่นี้ทำไมเธอจะทำไม่ได้ล่ะเพื่อพี่กร.. เธอพร้อมลุยค่ะมาเลยค่ะ
ก๊อกๆๆ
"เชิญค่ะ..." เสียงอันไพเราะของเจ้าของห้องทำงานหรูอนุญาตให้คนที่เคาะประตูเข้ามาได้ ปกติไม่มีใครจะเข้ามาหาเธอหรอกนอกจากคุณเลขาและคุณยา..
" ยุ่งอยู่เหรอคะเพื่อนสาว...."
และนั่นไม่ใช่เสียงใครเพราะนั่นคือเสียงของคุณยานั่นเอง.. วันนี้มาที่นี่ได้แสดงว่าอยากจะชวนเธอไปไหนอีกแน่ๆเลย...
"ไม่ว่างค่ะคุณยา.. แต่ถ้าคุณยาอยากจะไปไหนบอกได้นะคะเพื่อนพร้อมค่ะ.. แต่คงต้องรออีกนิดนะคะ ขอเคลียร์เอกสารนำเข้าฉบับนี้ก่อน.. ไม่เกิน20นาทีรอได้ใช่ไหมคะ" ธันยกานต์รีบบอกให้เพื่อนของตัวเองทราบทันทีเพราะเธอน่ะรู้ดีว่าคุณยาน่ะขี้น้อยใจขนาดไหน..
" ได้อยู่แล้วค่ะว่าที่พี่สะใภ้..."
" หึหึ.. บ้า.. พี่กรยังไม่ยอมตกลงเลยค่ะคุณยาขา.. ทานอะไรก่อนไหม มีลูกพีชฉ่ำๆหวานมาลงด้วยนะคะ มีชมพู่มะเหมี่ยว และยังมีชมพู่น้ำดอกไม้ด้วยนะคะอยากลองไหมเดี๋ยวกานจะให้คนยกมาให้.. อร่อยนะกานชิมหมดไปเกือบโลแล้วเนี่ย..." มันคือเรื่องจริงเพราะผลไม้ที่เธอสั่งมาเธอจะต้องเช็คและคัดเกรดอยู่ทุกครั้ง และเธอก็จะต้องชิมมันก่อนด้วยลูกไหนที่ไม่สวยไม่ได้คุณภาพอย่างที่เธอต้องการเธอจะรีบคัดออกและแบ่งให้พนักงานที่นี่ได้เอากลับไปทานกันรวมถึงเธอด้วย.. ดังนั้นส่วนที่เอาไปจำหน่ายมันคืองานคัดเกรดดีพรีเมี่ยม.. ไม่มีลูกค้ามาติเตียนแน่นอนเธอรับประกัน...
" เอาสิๆยาก็อยากลองชิมบ้างเคยเห็นผ่านๆตาว่าชมพูดน้ำดอกไม้น่ะหาทานยากมากๆเลย ถ้าอร่อยมากเดี๋ยวยาจะซื้อไปฝากท่านแม่กับท่านพ่อด้วย.."
" ชิมก่อนค่ะ ถ้าอร่อยก็ถือไปเลยไม่ต้องซื้อถือว่าเป็นของกำนันฮิฮิ...." มันคือของกำนันต่างหากไม่ใช่การติดสินบน...อย่าคิดมากน๊า....
" ตามสบายค่ะแล้วแต่จะใช้เลยว่ากานอยากจะใช้คำไหนเพราะมันก็แปลออกมาเป็นความหมายเดียวกัน.." เธอล่ะไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับกานเลยเพราะเถียงทีไรก็แพ้ทุกที.....
~~~~
"วันนี้อยากทานอะไรอีกคะเมื่อกี้ผลไม้ไปก็เยอะยังไม่อิ่มอีกเหรอ?.. ทานเก่งจังนะคะคุณยา.. ดีนะไม่อ้วน.."
ธันยกานต์ถึงกับส่ายหน้าให้กับคุณยาเพราะคุณยากินเก่งม๊าก... เมื่อกี้ก็ทั้งลูกพีช ชมพู่มะเหมี่ยวและยังชมพู่น้ำดอกไม้อีก... และนี่ยังลากเธอมาร้านปิ้งย่างอีก.. ไม่รู้ว่าคุณยาเอาของกินไปกองไว้ที่ไหน.. แค่ผลไม้อย่างเดียวเธอก็อิ่มจนจุกแล้วแต่คุณยานี่สิ.. ไม่มีทีท่าว่าจะพอเลย....
" ก็มันไม่อิ่มนี่กาน.. ไปเถอะอยากทานปิ้งย่างมาหลายวันแล้ว.. วันนี้อุส่าห์ได้ออกมาแล้วก็พายาไปทานหน่อยนะเพื่อนรักขา~~ " เธอรู้ว่าเพื่อนสนิทของเธอคนนี้ไม่เคยปฏิเสธเธอเพราะกานน่ะนิสัยดีจะตายไป.. ถ้าไม่มีคนมาหาเรื่องกานก่อนกานก็จะไม่ยุ่ง และกานไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อนด้วยถึงแม้ว่ากานจะเป็นคนที่ดูร้ายๆหรือว่าแรงๆก็ตาม.. แต่ถ้าใครได้รู้จักกานดีเช่นเธอนะ.. ทุกคนจะหลงรักกานทันทียกเว้น.... คุณชายกรพี่ชายของเธอ... ไม่รู้จะเล่นตัวไปถึงไหนกัน.. เธอล่ะกลัวว่าวันนึงกานจะหมดใจจากพี่กรแล้วไปหาคนใหม่.. คนแบบกานน่ะหาไม่ได้แล้วนะ เก่ง สวยและรวยด้วยลำแข้งของตัวเองแบบนี้.. ถึงแม้ว่าคุณพ่อของกานจะมีฐานะก็ตามแต่กานก็ไม่ได้ร้องขอให้พ่อของตัวเองมาลงทุนให้ กานเก็บหอมรอมริบเงินค่าขนมในแต่ละเดือนๆแล้วค่อยๆเอามาลงทุนทำนั่นทำนี่ จากที่สั่งซื้อเสื้อผ้าจากจีนมาขายแค่ไม่กี่สิบตัวกานก็เริ่มเพิ่มปริมาณการสั่งนำเข้าทีละนิดๆจนในที่สุดกานก็สั่งเข้ามาในปริมาณที่เธอแค่เห็นเธอก็จะเป็นลมแล้วเพราะก่อนที่กานจะเริ่มเช่าโกดังจริงๆจังๆในตอนนั้นเธอจำได้ดีเลยกานสั่งเสื้อผ้ามาทั้งหมดรวมๆแล้วสามหมื่นตัว.. ทั้งเสื้อทั้งกางเกงมันรวมกันแล้วได้สามหมื่นตัว.. เธอแทบจะเป็นลมเลยก็ว่าได้แต่กานคือคนเก่งมาก.. กานช่างพูดช่างเจรจา กานสวมเสื้อผ้าพวกนั้นและไลฟ์ขายบนสื่อโซเชียลในเวลาไม่กี่อาทิตย์เสื้อผ้าของกานก็ขายหมด.. ถ้าเป็นเธอนะป่านนี้ก็คงน่าจะดองเค็มอยู่ที่เดิม.. เธอชอบผู้หญิงแบบกานนะกานเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก มั่นใจในตัวเองสุดๆไปเลย เท่อีกต่างหาก... ชอบอ่ะแต่เธอไม่นิยมกินเพื่อนค่ะ...
สองสาวสั่งนั่นสั่งนี่มาเกือบเต็มโต๊ะธันยกานคอยจับนั่นปิ้งนี่ให้คุณยาอยู่ตลอดเธอเองก็ไม่ลืมที่จะทานในส่วนของตัวเองแต่คุณยานี่สิ.. ทานเก่งสุดไปเลย เธอปิ้งแทบจะไม่ทันแล้วนะเนี่ย...
ในจังหวะที่ธันยกานต์กำลังที่จะหันไปเรียกพนักงานของร้านเพราะเธอต้องการที่จะสั่งของมาเติม..สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นคนที่เธอเหมือนจะรู้จัก....
"เอ๊ะ.. นั้นพี่กรนิ.. คุณยาช่วยดูหน่อยว่านั่นใช่พี่กรรึเปล่าคะ..."
ทิติยากรรีบหันไปตามทิศทางที่เพื่อนของตัวเองบอกทันที.. และสิ่งที่เธอเห็นก็คือ.. ใช่นั่นมันพี่ชายของเธอนี่.. ทำไมถึงมากับผู้หญิงคนอื่นได้.. แล้วไหนจะยังนั่งใกล้กันเสียขนาดนั้น.. ดูสิดูผู้หญิงคนนั้นทำ... มันน่านัก..
" ยาคิดว่าอ้าว... กาน!!" ไม่ทันแล้วตอนนี้กานเดินตรงไปที่โต๊ะของพี่กรทันที...
" ที่แท้...พี่กรก็พาผู้หญิงคนอื่นมาทานอาหารที่นี่เหมือนกัน... ทีกับคู่หมั้นของตัวเอง.. พี่กรไม่คิดจะพามาเลยสักครั้งเดียว... มันน่าน้อยใจนะคะ.. กับคนอื่นพี่กรมีรอยยิ้มให้เสมอแต่กับคู่หมั้นของตัวเอง.. พี่กรกลับทำหน้าบึ้งตึงใส่ตลอดเวลา... ส่วนเธอ.. ผู้ชายคนที่เธอพยายามจะสิงสู่แฝงกายหยาบของตัวเองเข้าไปน่ะคือคู่หมั้นของฉัน.. " กานรู้สึกถึงแรงกระตุกและแรงจับของใครบางคนเมื่อเธอหันไปเธอก็เห็นคุณยาที่ยืนอยู่ข้างๆเธอและบีบลงมาที่แขนของเธอเบาๆ.... ดังนั้นเธอจึงพยายามที่จะไม่ทำอะไรรุนแรงไปมากกว่าการพูดคุย...
" ยังไงก็อย่าลืมนะคะว่าคนที่คุณนั่งออเซาะอยู่น่ะเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว... ทานให้อร่อยนะคะ..."
ฟู่ว.....
ทิติยากรถึงกับผ่อนลมหายใจของเธอออกมาทันทีและไม่วายที่จะหันไปมองพี่ชายของตัวเองด้วย.. ส่วนผู้หญิงอีกคนที่มากับพี่ชายของเธอเธอก็ได้แต่มองด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบไม่อือไม่อออะไรทั้งนั้น...
ครืด....
" กลับกันไหม..." ตอนนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของเพื่อนเธอเหลือเกิน.. เธอเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าพี่กรจะทำเช่นนี้.. เพื่อนของเธอคนนี้รักพี่กรยิ่งกว่าอะไร ยอมให้พี่กรกร่นด่าและพูดจาไม่ดีใส่เพียงเพราะว่าเพื่อนของเธอรักพี่กร.. แต่ดูพี่กรสิ.. มันน่านักเดี๋ยวเถอะเธอจะหาผู้ชายดีๆให้เพื่อนของเธอเอาที่พี่กรเทียบไม่ติดเลยคอยดูเถอะ....
"คุณยาทานอิ่มแล้วเหรอ? ทานต่อก็ได้นะ.. ไม่เป็นไรหรอก.. คุณยาก็น่าจะชินนี่.."
ทิติยากรมองรอยยิ้มที่กานส่งมาให้มันเป็นรอยยิ้มที่แม้แต่เธอเองก็รู้สึกว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นและไม่มีความสุขเอามากๆ....
เฮ้อ....
" กลับกันดีกว่า.. ทานไม่ลงแล้ว.."
เมื่อเป็นเช่นนั้นทิติยากรก็ไม่รอช้าที่จะเรียกพนักงานมาคิดเงินของที่พึ่งสั่งมายังไม่ทันได้แตะโชคดีที่เธอสามารถขอคืนเงินได้.. แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญเพราะสิ่งที่สำคัญในตอนนี้ก็คือเพื่อนของเธอต่างหาก.....
หลังจากันนั้นก็ร่วมอาทิตย์ได้หลังจากที่เธอไปวีนผู้หญิงคนที่นั่งกอดแขนพี่กรในร้านอาหารวันนั้น.. เธอเลือกที่จะยังไม่ไปหาพี่กรหรือไปเยี่ยมท่านป้าเพราะเธอเองก็กลัวใจตัวเองมากอยู่เหมือนกัน เธอกลัวว่าถ้าเธอไปเจอพี่กรแล้วพี่กรทำท่าทีเมินเฉยใส่เธอหรือว่าพี่กรแสดงความไม่พอใจออกมาใส่เธอ... เธอกลัวว่าเธอจะเผลอร้องไห้ออกมาน่ะสิ.. ดังนั้นเธอเลือกที่จะยังไม่ไปบ้านพี่กร.."ค่ะ..มีอะไรเอ่ย.. คิดถึงเหรอคะ? ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหาน้องคนนี้.. วันนี้คิดอะไรอยู่คะ?" " ออกมาหาหน่อยสิที่ห้างxxxตอนนี้เดี๋ยวนี้ด้วย.. มาเถอะน๊า.. มีค่าจ้างให้ด้วย.. " " แหม.. มีเอาของมาล่อแบบนี้.. คิดว่าจะไปเหรอ? ไม่มีทางหรอกกานยังทำงานไม่เสร็จเลย.. " "เปลี่ยนเป็นบิ๊กไบค์คันใหม่.. ว่าไงสนใจไหม?" " เห็นกานเป็นคนเห็นแก่ได้เหรอคะ? เรารู้จักกันมากี่สิบปีแล้ว... ก็ได้ค่ะตามนั้นว่าแต่คุณพี่อยู่ที่ไหนคะ?" เรื่องแบบนี้เธอไม่ปฏิเสธหรอก.. ของสะสมอันแสนสวยของเธอน่ะยังไงก็ต้องอยากได้อยู่แล้วต่อให้คุณแม่กับคุณพ่อบ่นขนาดไหน.. แต่เรื่องของบิ๊กไบค์.. เธอยอมทั้งนั้นค่ะไม่เกี่ยง...@ห้างxxx"กาน.. ทางนี้..." ตึกตึกตึก..... หมับ!!" คิดถึ
ธันยกานต์ได้แต่จมอยู่ในความคิดของตัวเองมาหลายวันนับตั้งแต่วันที่เธอเห็นพี่กรกับผู้หญิงคนหนึ่ง.. ผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นมากมากเสียจนเธอคิดว่าเธอและคุณยาต้องรู้จักเป็นแน่... ไม่ได้การล่ะเธอต้องรู้ให้ได้...ธันยกานต์มาหาคุณยาที่บ้านโดยที่เธอได้โทรมาถามก่อนแล้วว่าคุณยาอยู่บ้านหรืออยู่ที่ทำงานซึ่งคุณยาบอกว่าคุณยาพึ่งถึงบ้านเธอเลยรีบขับรถออกไปหาคุณยาทันที...." มาแล้วเหรอกาน ว่าแต่มีอะไรจะคุยกับยาเหรอ?" วันนี้เธอรู้สึกว่าเพื่อนของเธอดูแปลกๆไปไม่เหมือนกานคนที่เธอเคยรู้จักเพราะวันนี้กานดูมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด.. ซึ่งใบหน้าแบบนี้เธอไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว..." คุณยาคะกานมีอะไรจะถามคุณยาหน่อย.. คุณยาพอจำหน้าแฟนคนเก่าของพี่กรได้ไหมคะ?" ธันยกานต์ไม่รอช้าเธอรีบถามคุณยาออกไปทันทีเพราะเธอจำเป็นต้องรู้ให้ได้.. เรื่องนี้มันกวนจิตใจเธอมาหลายวันแล้ว.. เธอนอนแทบจะไม่หลับเลยก็ว่าได้ตั้งแต่วันนั้นวันที่เห็นพี่กรเดินควงแขนกับเธอคนนั้น...." พอจำได้นะ... ว่าแต่กานมีอะไรรึเปล่า..." เธอจำหน้าได้ดีเลยล่ะไม่ใช่แค่พอจำได้.. คนที่ทำให้พี่กรพี่ชายของเธอแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน คำที่ทำให้พี่กรเป็นคนพูดน้อยถามค
ในที่สุดมื้ออาหารที่สุดแสนจะอึดอัดก็จบลง.. ตอนแรกคุณพี่เจี๊ยบจะเลี้ยงแต่พี่กรก็บอกว่าไม่ได้เพราะเขาไม่ต้องการมากินฟรี.. ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะช่วยจ่ายครึ่งนึง..เธอไม่อยากโดนพี่กรบ่นเอาน่ะว่าง่ายๆ เดี๋ยวจะมาล้ำเลิกบุญคุณอีก.. เธอไม่ชอบอะไรทำนองนี้..." มาทำไม?" คำถามสั้นๆที่ออกมาจากปากพี่กรหลังจากที่เดินออกมาจากร้านอาหารแล้ว.. มันเป็นโทนเสียงที่สุดแสนจะแตกต่างกับโทนเสียงที่เธอได้ยินเมื่อครู่ตอนที่พี่กรพูดกับคุณพี่เจี๊ยบเลยก็ว่าได้...." มาทานข้าวยังไงล่ะคะ มาร้านอาหารไม่มาทานข้าวจะให้มานั่งวิปัสนารึยังไงกันพี่กรก็ถามแปลกนะคะ..." ธันย กานต์ตอบออกมาราวกับว่าเธอนั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดแต่จริงๆแล้วหัวใจของเธอน่ะมันเดือดปุดๆเลยก็ว่าได้.. เพราะการกระทำและคำพูดของพี่กรมันทำให้เธอโมโหทั้งพี่กรและผู้หญิงคนนั้น.. แต่เธอไม่อยากจะระเบิดมันออกมาในตอนนี้... สาเหตุที่ไม่พร้อมจะระเบิดเพราะว่าคนทั้งสองคนยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่น่าเกลียดยังไงล่ะ เขาทั้งสองคนนั่งในมุมที่ใครๆก็สามารถมองเห็นได้.. มันจึงทำให้เธอไม่สามารถหาข้ออ้างมาตำหนิได้ยังไงเล่า...." ยัยน้องคิดจะทำอะไร?" " น้องจะทำอะไรล่ะคะ
ธันยกานต์ลูบแขนของตัวเองเบาๆ.. ร่องรอยที่พี่กรฝากเอาไว้มันเริ่มจางไปเยอะแล้ว.. บอกตามตรงช่วงนี้เธอห่างหายการไปหาท่านป้ามากเธอคิดถึงท่านป้านะแต่เธอก็กลัวว่าถ้าเธอไปเธอจะไปเจอพี่กรเข้าให้.. เธอยังไม่พร้อมที่จะไปสู้หน้าของพี่กร.. ความรู้สึกภายในจิตใจของเธอลึกๆมันทำให้เธอสับสน.. ว่าเธอควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้.. แต่พอเธอคิดดูอีกที... เธอก็คิดว่าเธอควรจะไปต่อเพราะเธอคือคู่หมั้นของพี่กร....ธันยกานต์ตัดสินใจแวะมาหาท่านป้าที่บ้านอย่างเช่นเคยทำ.. วันนี้เธอก็ยังหอบหิ้วผลไม้มาฝากเช่นเคย.. เธอต้องกลับมาเป็นธันยกานต์คนเก่าให้ได้...." ท่านป้าสวัสดีค่ะ... "เสียงสดใสของสาวน้อยที่เธอได้แต่เฝ้ารอให้มาหาหลายต่อหลายวันในที่สุดเจ้าตัวก็มาเสียที...." หายไปไหนมาหนูกาน.. ป้าคิดถึงแทบแย่.. บ้านหลังนี้เหงาจะตายพอหนูกานไม่มาหานะบ้านป้าเงี๊ยบเงียบ.. แล้วนั่นหอบอะไรมาอีกแล้วละนั่น.. ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะสิ้นเปลืองและยังเป็นของซื้อของขายหนูกานจะเอามาฝาก บ่อยๆแบบนี้ไม่ได้นะ อยู่ทานเข้าเย็นกับป้าก่อนไหม? คุณยาน่าจะใกล้ถึงแล้ว..."" ใจจริงก็อยากอยู่นะคะแต่พอดีนัดกับคุณแม่เอาไว้น่ะค่ะว่าจะไปทานข้าวเย็นด้วย.. คุณพ่อก็
ตึกตึกตึก....เสียงของการวิ่งลงมาของคนหลายๆคนทำให้คนที่กำลังลงมาถูกมองจากคนในร้านแทบจะทั้งหมด...หมับ!!" หยุดนะธันยกานต์.. ขอโทษเจี๊ยบเดี๋ยวนี้.... ขอโทษซะแล้วฉันจะไม่เอาเรื่องเธอ..." ทินกรกระชับต้นแขนของธันยกานต์เอาไว้แน่นเพราะตอนนี้เขาไม่พอใจธันยกานต์เป็นอย่างมาก... ธันยกานต์ไม่มีสิทธิ์มาพูดจาดูถูกคนของเขาแบบนี้.." ไม่!! กานไม่ขอโทษ.. พี่กรเป็นคู่หมั้นของกาน.. แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะคะเป็นอะไร? เป็นแฟนเก่าที่อยากจะเข้ามามีบทบาท.. เป็นแฟนเก่าที่หน้าด้านและพยายามที่จะแย่งคู่หมั้นของคนอื่น.. คนแบบนี้เหรอที่กานจะต้องขอโทษ.. ไม่ทราบว่ากานผิดอะไร? อ๋อ... ฉันพึ่งจะรู้นะคะว่าคนที่ชอบเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดีแบบคุณจะทำตัวได้ต่ำตมแบบนี้.. คงจะชอบสินะคะที่ลักกินขโมยกินน่ะ.. มันคงจะอร่อยน่าดู ถ้าไม่อร่อยคุณคงจะไม่มาเที่ยวชวนคู่หมั้นของคนอื่นเข้าห้องน้ำแล้วไปจูบนัวเนียกันในนั้น.. อย่า!! อย่าปฏิเสธ.. ปากของคุณสองคนมันยังเลอะลิปสติกอยู่เลย... ในเมื่อคุณทิ้งพี่กรไปแล้ว.. คุณจะกลับมาทำไม.. คุณจะย้อนกลับมาทำไมอีก.. คุณมันต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนกันเชียวถึงได้หน้าด้านหน้าหนาแบบนี้.."ตุบ!!"หยุดพูดจาดูถูกเจี
ธันยกานต์เก็บตัวเงียบมาหลายวันตอนนี้เธอไม่ต้องการพบใคร.. เธอไม่อยากเจอใครหรือพูดคุยกับใครทั้งนั้น.. เรื่องราวที่เธอพึ่งได้พานพบเจอ.. มันยังทำให้เธอเสียใจ..ติ๊งต๊อง.... ติ๊งต๊อง.....เสียงกริ่งหน้าห้องของเธอถูกกดติดกันถึงสองครั้ง.. ตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปดูหรอกแต่เพียงไม่นานก็มีข้อความส่งมาหาเธอให้เธอออกมาเปิดประตู....แกร๊ก...."กาน.. เป็นยังไงบ้าง.. ดีขึ้นไหม..." ไม่ได้พูดเปล่าแต่เขายังเข้ามากอดธันยกานต์เอาไว้ด้วย.. วันนั้นถ้าเขาไม่ทันได้สังเกตุดีๆเขาก็คงไม่เห็นถึงความถลอกปอกเปิกของยัยกานแน่ๆ.. ทั้งแขนทั้งขาถลอกไปหมดทั้งแทบ.. เขาล่ะอยากจะเอาปืนไปยิงมันให้มือขาดทั้งสองข้าง..." ไม่ดีเลย.. หนูไม่ดีเลย.. หนูจะทำยังไงดีพี่นพ.. หนูต้องทำยังไง..." เพียงเท่านั้นเอง.. เพียงแค่ประโยคคำถามของพี่นพที่ถามเธออกมามันก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง.... เธอเสียใจ.. เธอเจ็บที่หัวใจของเธอ...เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไป..เธอไม่รู้เลย..." อยากร้องก็ร้องออกมา.. ถ้าร้องเสร็จเราก็กลับมาเป็นยัยกานคนเดิมของพี่นะ.. พี่ไม่ชอบให้กานร้องไห้เหมือนเด็ดขี้แยแบบนี้เลย.. กานอย่าลืมสิว่ากานยังมีพี่ กานยังมีพ่อและแ
เพียงแค่เธอจอดรถของเธอที่โรงจอดรถเธอก็เห็นรถหนึ่งคันที่มันไม่คุ้นเคยจอดอยู่ก่อนหน้าเธอแล้ว.. ที่จอดรถประจำของเธอถูกรถของใครก็ไม่รู้มาจอดก่อน... จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ที่จอดรถของเธอหรอกเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะจับจองเลยด้วยซ้ำไป...เสียงพูดคุยที่เธอได้ยินมาจากด้านใน.. ทำไมวันนี้เธอถึงเลือกมาวันผิดนะ.. แต่ก็ช่างเถอะ.. มันจะได้จบๆไป..." ท่านป้า... " เธอต้องการจะทักทายสวัสดีเหมือนเช่นทุกครั้งแต่เธอก็ต้องสะอึกและกลืนความเสียใจก้อนโตลงคอของเธอลงไปในคอ.... ใช่นั่นคือพี่กรไม่สิ.. คุณชายทินกรกับคนรักของเขา... ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและรอยยิ้มที่คอยส่งไปให้กับคนรักของเขา.. มันเป็นสิ่งที่เธอเองก็อยากจะได้รับเช่นกัน.. แต่เธอไม่เคยที่จะได้เห็นเลยสักครั้ง.. นี่สินะที่เรียกว่าคนที่คู่ควร..." อ้าวหนูกานเองเหรอลูก.. ไม่มาหาป้าเสียนาน.. งานยุ่งเหรอลูก.. มาๆ หอบอะไรมาอีกล่ะนั้น.. หนูเจี๊ยบก็หอบอาหารมาให้... ไหนๆก็มาแล้วอยู่ทานข้าวด้วยกันนะลูก" ท่านหญิงศศิวารีที่ไม่ทันสังเกตุสีหน้าและแววตาของหนูกานเธอก็เลยเอ่ยชวนหนูกานทานข้าวเที่ยงด้วยกันเลย.." ไม่ดีกว่าค่ะท่านป้า.. หนูเอาผลไม้มาฝากค่ะ.. แล้วนี่" ธันยกานต์เลื่อนถุงกร
จากวันนั้นวันที่เธอนำของที่ท่านป้าให้เธอในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้ไปคืนมันก็ล่วงเลยเข้าไปสองอาทิตย์แล้ว.. จะว่าไปเธอเองก็รู้สึกเหงาอยู่เหมือนกันแต่เธอต้องทำให้ได้.. เธอต้องตัดใจจากเขาให้ได้....ก๊อกๆๆ" เชิญค่ะ..." ธันยกานต์หลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเองเพราะมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาขัดจังหวะ.." คิดถึงจัง... ทำไมกานใจร้ายกับยาจัง.. ไม่แวะไม่โทรหายาเลย.. กานไม่รักยาแล้วเหรอ?.. น้อยใจจัง..." ทิติยากรเปิดประตูออกมาพร้อมกับตำหนิเพื่อนของตัวเองทันที.. เธอได้ยินข่าวจากท่านแม่ว่ากานมาหาและมอบของหมั้นคืนให้กับท่านแม่.. แล้วไหนยังบอกว่าเจ้าของตัวจริงของของหมั้นกลับมาแล้วดังนั้นกานจึงนำของหมั้นมาคืนแก่เจ้าของตัวจริง... เธอเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากๆ... ทิ้งพี่ชายของเธอไปแล้วทิ้งไปพร้อมกับบาดแผลที่ใหญ่มาก.. มันใหญ่เสียจนพวกเธอทุกคนเป็นห่วงว่าพี่ชายของเธอจะทนบาดแผลนั้นไม่ไหวและยอมตายเพราะบาดแผลนั่น.. แล้วตอนนี้คืออะไร.. ย้อนกลับมาอีกครั้งพร้อมกับทำให้คนที่ช่วยให้พี่ชายเธอกลับมาพูดคุยและเป็นผู้เป็นคนอีกครั้งต้องเสียใจ.. เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะโกรธใครได้มากเท่ากับผู้หญิงคนนั้น...ธันยกานต์ยิ้มให้คุณยาด้วย
ในที่สุดวันที่เขาจะได้เจอลูกแฝดของเขาแล้ว.. เขาทั้งตื่นเต้นและดีใจมากๆท่านแม่ท่านพ่อและพระญาติของท่านแม่ต่างพากันเห่อหลานตั้งแต่ยังไม่คลอดเลยก็ว่าได้.. ทุกพระองค์ต่างเสด็จมาเยี่ยมมาพูดคุยกับเขาและกานกันอย่างเป็นกันเอง.. และเมื่อถึงกำหนดคลอดทุกพระองค์ก็พากันมายืนรอที่หน้าห้องคลอด.. ท่านแม่เป็นคนเล่าให้ทางฝั่งพระญาติฟังว่าสะใภ้ของท่านน้ำคล่ำแตกแล้วและบอกว่าเขาได้พาไปที่โรงพยาบาลก่อนแล้ว.. หลังจากนั้นไม่นานพระญาติฝั่งท่านแม่ก็พากันมาเฝ้าธันยกานต์ที่นี่กันเต็มหน้าห้องคลอดเลย...เวลาที่ทุกคนรอคอยตอนนี้ก็มาถึงเมื่อประตูห้องคลอดเปิดออกมาทุกพระองค์ทุกท่านก็รีบกรูกันมายังรถเข็นอันเล็กๆที่มีร่างจ่ำม้ำของแฝดชายอยู่..กว่าเขาและลูกแฝดจะผ่านด่านไปได้ก็เล่นเอาเหนื่อยไปตามๆกัน..ภายในห้องพักตอนนี้ทุกพระองค์ต่างพากันพูดคุยส่งเสียงหัวเราะกันด้วยความสนุกสนานราวกับว่าวันนี้เป็นวันรวมญาติยังไงก็ไม่รู้.." เอาเป็นว่าเดี๋ยวถ้าสะใภ้หญิงศศิออกจากโรงพยาบาลเมื่อไรฉันจะไปเยี่ยมที่วังนะ..."" เพคะท่านพี่... " ท่านหญิงศศิวารีขานรับด้วยความยินดี.. ท่านพี่หญิงของเธอทรงกล่าวเอาไว้แล้วว่าไม่อยากจะรบกวนเด็กๆและหลานสะใ
เสียงโอ้กอากที่ดังออกมาจากห้องน้ำในคอนโดทำให้ทินกรถึงกับอยากจะแพ้ท้องแทนธันยกานต์ เขานึกสงสารน้องกานเหมือนกันนะ นี่ขนาดท้องไปได้สามเดือนแล้วแต่อาการแพ้ท้องมันยังไม่เบาบางลงเลยสักนิด แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะการแพ้ท้องของธันยกานต์ทำให้อย่างน้อยเขาได้อยู่กับธันยกานต์ได้ทั้งวันจนแทบจะนั่งสิงกันอยู่แล้ว..." กานครับ.. กลั่วปากหน่อยนะ แล้วอะดมซะ..." ทินกรเดินเข้าไปหาเมียตัวน้อยของเขาทันทีพร้อมกับอ้าแขน กว้างๆรอให้ธันยกานต์ได้เข้ามาซุกไซร้ที่ตามคอของเขา.. หึหึใช่ธันยกานต์แพ้ท้องแบบว่าติดกลิ่นของเขา ไม่เพียงแค่สูดดมนะจะมีบ้างที่เจ้าตัวเผลอดูดที่ลำคอของเขา.. เมื่อไรที่เจ้าตัวดูดที่คอของเขาเมื่อนั้น.. เพลงรักอันร้อนฉ่าของเขาและเธอก็เริ่มขึ้นทันทีโดยที่ไม่มีอะไรมาหยุดความต้องการของว่าที่คุณแม่ลูกแฝดได้นอกจากว่าเจ้าตัวจะพอใจและสุขสม.... เมื่อนั้นเจ้าตัวถึงจะอาการดีขึ้น.. ส่วนเขาน่ะเหรอก็ติดกลิ่นเมียนะ.. เวลาเขาไปไหนมาไหนเขาจะต้องมีกางเกงชั้นในของน้องกานติดไปด้วยเสมอ บางทีเขารู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะอาเจียนเขาก็จะหยิบกางเกงชั้นในของน้องกานออกมาสูดดมราวกับคนโรคจิต.. แต่เขาก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไรเพราะมันคือเ
ตอนนี้ทินกรและธันยกานต์ไม่ว่าจะไปแห่งหนตำบลไหนก็จะเห็นเขาและเธอไปไหนมาไหนด้วยกัน.. ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขามันก็เริ่มดีขึ้นมาบ้างแล้ว.. ตอนนี้ทินกรสามารถจับมือและโอบไหล่ธันยกานต์ได้แล้วโดยที่เจ้าตัวไม่บ่นหรือปัดมือเขาหนี.. และที่สำคัญเขาจัดเต็มทุกคืนและเวลาที่เขาไปเฝ้าธันยกานต์ที่บริษัทเขาก็จะจับธันยกานต์กินนานนับชั่วโมงเพื่อเร่งน้ำเชื้อของเขาให้มันเดินเร็วขึ้น.. อาหารการกินและไหนจะเครื่องดื่มที่เขาจัดหามาให้อย่างเต็มที่เขาคิดว่าอีกไม่นานธันยกานต์ก็น่าจะท้อง...." อยากกินอะไร? พี่อยากกินหอยนางรมอ่ะ เราไปหาร้านที่หายหอยนางรมกินกันดีกว่าไหม แบบว่ายำหอยนางรม ร้านซีฟู้ดเป็นไง ไปกินกุ้งกัน กุ้งตัวโตๆ หอยนางรมตัวใหญ่ๆ.. ไปกัน.." ทินกรไม่รอให้กานได้ตอบตกลงหรือว่าตอบปฏิเสธเขาเลยสักนิดเขาเลือกที่จะจัดแจงทุกอย่างด้วยตัวเขาเองโดยการถามเองและตอบเอง.. แต่จะว่าไปอยู่ๆเขาก็อยากกินอาการทะเทขึ้นมา... สงสัยคงจะต้องหาเวลาว่างพากานไปเที่ยวทะเลไปหาอาหารทะเลสดๆกินกันดีกว่า...เมื่อทั้งสองคนมานั่งร้านอาหารที่ติดริมแม้น้ำเจ้าพระยาเพียงเดินเข้ามาทั้งสองคนก็ถึงกับน้ำลายแตกกันถ้วนหน้า.. ไม่รู้เพราะกลิ่
ทินกรรีบเดินกลับมาหาธันยกานต์อย่างรวดเร็ว สายตาของเขาและเธอต่างจ้องมองกันอย่างไม่มีใครคนใดคนนึงหลบหลีกสายตาอันร้อนแรงของกันและกัน..." พี่จะไม่ขอหรือถามกานแต่พี่จะทำในสิ่งที่พี่ต้องการ พี่เป็นของกาน และกานก็เป็นของพี่.. ต่อจากนี้ไปพี่จะเป็นของกานคนเดียวและกานก็จะเป็นของพี่แค่คนเดียว...." แล้วถ้าฉันไม่ต้องการละคะคุณจะทำยังไง..."หึหึหึ..." พี่ก็จะบังคับ.. เมื่อพี่ต้องการอะไรหรืออยากได้อะไร.. พี่ก็จะไม่รอช้าอีกต่อไป.. ฉะนั้นน้องกานเตรียมตัวได้เลยครับเพราะหลังจากวินาทีนี้พี่จะทำทุกวิถีทางให้กานนั้นมาเป็นของพี่.. ถึงแม้ว่าจะต้องใช้วิธีที่สกปรกพี่ก็จะทำ..."จุ๊บ...ทินกรจูบลงไปที่ริมฝีปากสีแดงสวยสดใสของธันยกานต์อย่างแผ่วเบา.. เขาค่อยๆแทะเล็มและกลืนกินริมฝีปากสวยสดของธันยกานต์อย่างตั้งอกตั้งใจ.. ฝ่ามือที่เรียวนิ่มตามประสาคนที่ไม่เคยต้องทำงานหนักค่อยๆลูบไล้และบีบนวดกระตุ้นให้ร่างกายสวยสมส่วนมีอารมณ์ไปกับเขา..ธันยกานต์แอ่นตามอารมณ์ที่เธอมีร่วมไปกับเขา... ทุกสัมผัสที่เขามอบให้มันความเคยชินที่เธอเคยได้รับมาจากเขา.. สัมผัสที่มันเบาหวิวราวกับขนนกที่พัดผ่านอย่างแผ่วเบาตามร่างของเธอ..ร่างกายเปล
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก... ตอนนี้เธอมาอยู่เป็นเพื่อนเขาได้สองอาทิตย์แล้ว.. ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับคนรักเก่าของเขาตอนนี้ท่านป้าดำเนินคดีจนถึงที่สุดในข้อหาพยายามฆ่า ถึงแม้ว่าทางนั้นจะปฏิเสธเพียงใดแต่คำพูดและการกระทำถูกบรรทึกเอาไว้จากทางร้านอาหารนั้นหมด.. มันจึงทำให้อดีตคนรักเก่าของเขาไม่สามารถหลุดพ้นข้อหานั้นได้.. ไม่เพียงแค่จะติดคุกแต่อดีตคนรักเก่าของเขาหรือคุณชายทินกรพยายามขอความช่วยเหลือจากคนที่หล่อนเคยอยู่ด้วยหลายปีแต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่ยอมยื่นมือลงมาช่วยเพราะคนที่หญิงสาวได้ไปทำร้ายนั้นเป็นถึงครอบครัวราชนิกุลใครบ้างจะไม่รู้จักท่านผู้หญิงศศิวารี และคุณชายพิรัตน์ ดังนั้นคนที่คอยสนับสนุนหญิงสาวมาตลอดจึงเลือกที่จะตัดหางปล่อยวัดและหุบกิจการร้านอาหารของเธอทันที.."เสียใจไหมคะคนรักเก่าของคุณถูกจับและไม่ได้ประกันตัว..." มือบางที่กำลังจัดแจงผลไม้ใส่จานอยู่แต่ปากก็ขยับเขยื้อนเอ่ยถามออกไปด้วยความใคร่รู้..." เอ.. ถามแบบนี้.. หึงรึเปล่าน๊า... หึหึ" ทินกรหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ.. ตั้งแต่ที่เขาเจ็บตัวธันยกานต์ก็คุยกับเขามากขึ้น..ถึงแม้ว่ามีบ้างที่เจ้าตัวเอ่ยคำประชดประชั
ธันยกานต์เดินไปเดินมาหน้าห้องผ่าตัดนานนับชั่วโมงจนเพื่อนสนิทของเธออย่างคุณยาต้องเดินมาหาและเอามือเรียวของเธอมาวางไว้ที่ไหล่เล็ก..." เราไปนั่งรอกันตรงนู้นดีกว่ากาน.. เดินไปเดินมายาปวดหัว.. อีกสักพักท่านแม่และท่านพ่อก็น่าจะมาแล้ว...." ทิติยากรรีบชักชวนเพื่อนของเธอให้ไปนั่งรอที่เก้าอี้ว่างหน้าห้องผ่าตัดทันที.. เธอน่ะปวดหัว ตาลายมากๆเลยจะบอกให้....เพียงแค่สองสาวก้นแตะถึงเก้าอี้ทีมแพทย์และพยาบาลก็เปิดประตูห้องออกมาด้วยสีหน้าอันเหนื่อยล้า....ตึกตึกตึก...." คุณหมอค่ะ.. พี่กรเป็นยังไงบ้างคะ?" ธันยกานต์เก็บความเป็นห่วงเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไปเธอต้องการที่จะรู้ว่าอาการของเขาหนักหรือไม่.. เธอจะดีใจมากถ้าคุณหมอบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก...." ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็คงจะต้องให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อไปก่อนและรอให้ผ่านคืนนี้ไปก่อนนะครับถ้าทุกอย่างปกติดีพรุ่งนี้เราจะย้ายผู้ป่วยไปอยู่ในห้องพิเศษ.. ยังไงหมอขอตัวก่อนนะครับ...""ค่ะ..ขอบคุณนะคะ...." ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เธอเบาใจขึ้นมาได้แต่เธอก็ยังคงไม่หายกังวลอยู่ดี" เอานะพี่กรอยู่กับทีพยาบาลและหมออย่างใกล้ชิดแล้ว.. ยาว่าไม่น่าจะมีอะไรหน้าเ
บอกตามตรงเธอก็ตกใจเหมือนกันนะที่อยู่ๆอีตาคุณชายทินกรมาสารภาพรักกับเธอที่ร้านอาหารแห่งนี้.. เธอควรจะเชื่อคำพูดของเขาใช่ไหม? คำพูดของเขาเชื่อได้ใช่ไหม?" เราต้องขอโทษเจี๊ยบด้วยนะที่ว่าเราบอกเจี๊ยบช้าไป.. เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นมันทำให้เจี๊ยบคิดไปไกลและยังคิดว่าเรานั้นรักเจี๊ยบอยู่.. อาจจะมีแค่ช่วงแรกเท่านั้นที่เรารู้สึกดีใจที่ได้เจอเจี๊ยบอีกครั้ง.. แต่เมื่อมันผ่านไปนานๆ.. เราก็คิดว่าเราไม่ได้รักเจี๊ยบเหมือนเช่นเคย.. เพียงแค่ตอนนั้นเรายังไม่คิดจะยอมรับความจริงก็เท่านั้น.. เราไม่ยอมรับความจริงว่าที่จริงแล้วหัวใจของเรา.. " ทินกรกระชับมือของธันยกานต์เอาไว้พร้อมกับบีบเบาๆเพื่อเป็นการยืนยันว่าคนที่เขาพูดถึงคือเธอคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น.. เขาต้องการยืนยันให้ธันยกานต์ได้รับรู้ว่าเธอคือคนที่เขาพูดถึง..." เรารักธันยกานต์.. เรารักธันยกานต์มาตลอดเพียงแค่ตอนนั้นเราพยายามหาข้อแก้ตัวและคำแก้ต่างก็เท่านั้นว่าเรานั้นไม่ได้ชอบธันยกานต์.. เราทำเรื่องบ้าลงไปเพียงเพราะเราไม่กล้ายอมรับหัวใจตัวเอง.. เราผลักไสไล่ส่งผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เรากลับมายิ้มได้อีกครั้งหลังจากที่เจี๊ยบทิ้งเราไป... เราผิดเอง.. ถ้าเจี
หลายวันผ่านมานี้กานจะไปไหนมาไหนก็ขยับตัวได้ยากลำบากมากเลยทีเดียว... เธออยากจะมีอิสระบ้างแต่เธอไม่เคยได้พบเจอเลยหลังจากวันที่เธอถูกพบว่าอยู่กับคุณชายทินกรในห้องของเขา.. เขาก็ตามติดเธอมาตลอดหลายวันมานี้เขาตามเธอไปทุกที่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ยกเว้นก็เพียงแค่ห้องน้ำที่เขายังไม่ตามเธอเข้าไป..." กาน.. วันนี้ท่านแม่และท่านพ่อเข้าไปคุยเรื่องของพวกเรากับพ่อและแม่ของกานแล้ว.. ต่อไปนี้กานคือคู่หมั้นของพี่.. ไม่ว่าจะอยากหนียังไง.. กานก็หนีพี่ไม่ได้อีกแล้วและที่สำคัญไม่ว่าใครหน้าไหนมันต้องการจะครอบครองกานขนาดไหน.... มันพวกนั้นก็ไม่มีสิทธิ์... เพราะมีเพียงพี่เท่านั้นที่มีสิทธิ์ในตัวของกาน...." ทินกรพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความดีใจ.. เขาเองแหละที่เป็นคนเร่งให้ท่านแม่ไปคุยกับพ่อและแม่ของธันยกานต์..." ทำไมคะ? ทำไมถึงอยากจะหมั้นกับฉันอีก.. ในเมื่อเป็นคุณไม่ใช่เหรอที่ผลักไสไล่ส่งฉันให้ไปไกลๆคุณ.. แล้วตอนนี้.. ตอนที่ฉันลืมคุณได้แล้ว.. คุณยังอยากจะมามีตัวตนกับชีวิตฉันทำไมอีกคะ..." ใครบอกกันว่าเธอลืมเขาได้.. เปล่าเลยเธอลืมเขาไม่ได้สักนิดพยายาม.. เธอแค่พยายามที่จะลืมเขาแต่เธอยังทำมันไม่ได้ต่างหากล่ะ...
ทินกรรีบกลับขึ้นมาบนเตียงของเขาและสอดตัวเข้าไปอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันกับกานทันที.. มือยาวเรียวของเขาค่อยๆสอดเข้าไปในเสื้อยืดของเขาที่มันมาอยู่บนเรือนร่างของกานอย่างช้าๆ... ร่างกายและผิวพรรณของธันยกานต์เขายอมรับว่ามันเนียนมากและลื่นมือสุดๆ.. เขาไม่รู้หรอกว่าเจ้าตัวทำยังไงถึงได้ผิวดีขนาดนี้.. มีหลายคนที่เขาเคยมีประสบการณ์ในเรื่องอย่างว่ามาบ้างแต่ผิวพรรณก็ไม่ได้ดีขนาดนี้เลยสักนิด....จุ๊บ...ทินกรจูบลงไปที่แผ่นหลังของธันยกานต์อย่างแผ่วเบา.. ใบหน้าคมของเขาซุกไซร้ไปที่แผ่นหลังด้วยความหลงไหล.. ริมฝีปากเรียวสวยราวกับผู้หญิงของเขาค่อยๆขบเม้มไปทีละนิดทีละนิด.. จนตอนนี้คนที่กำลังหลับไหลค่อยๆเปร่งเสียงครางอื้อๆออกมาทีละนิด" อื้อ... "คนที่กำลังหลับไหลอย่างสบายกลับถูกก่อกวนด้วยอะไรบางอย่างซึ่งมันทำให้เธอนั้นถึงกับรำคาญใจมากๆ เธอไม่ชอบเลยที่เวลาเธอกำลังนอนหลับแล้วมีอะไรมารบกวนเธอในยามที่เธอกำลังนอนหลับพักผ่อน...." อย่ายุ่ง.."น้ำเสียงที่งัวเงียของธันยกานต์ทำให้ทินกรถึงกับต้องหัวเราะเบาๆทันที... นานแล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะออกมาด้วยความสุขแบบนี้..ถึงแม้คนที่หลับอยู่พยายามที่จะผลิกตัวหนีหรือใช้มือป