หลังจากันนั้นก็ร่วมอาทิตย์ได้หลังจากที่เธอไปวีนผู้หญิงคนที่นั่งกอดแขนพี่กรในร้านอาหารวันนั้น.. เธอเลือกที่จะยังไม่ไปหาพี่กรหรือไปเยี่ยมท่านป้าเพราะเธอเองก็กลัวใจตัวเองมากอยู่เหมือนกัน เธอกลัวว่าถ้าเธอไปเจอพี่กรแล้วพี่กรทำท่าทีเมินเฉยใส่เธอหรือว่าพี่กรแสดงความไม่พอใจออกมาใส่เธอ... เธอกลัวว่าเธอจะเผลอร้องไห้ออกมาน่ะสิ.. ดังนั้นเธอเลือกที่จะยังไม่ไปบ้านพี่กร..
"ค่ะ..มีอะไรเอ่ย.. คิดถึงเหรอคะ? ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหาน้องคนนี้.. วันนี้คิดอะไรอยู่คะ?"
" ออกมาหาหน่อยสิที่ห้างxxxตอนนี้เดี๋ยวนี้ด้วย.. มาเถอะน๊า.. มีค่าจ้างให้ด้วย.. "
" แหม.. มีเอาของมาล่อแบบนี้.. คิดว่าจะไปเหรอ? ไม่มีทางหรอกกานยังทำงานไม่เสร็จเลย.. "
"เปลี่ยนเป็นบิ๊กไบค์คันใหม่.. ว่าไงสนใจไหม?"
" เห็นกานเป็นคนเห็นแก่ได้เหรอคะ? เรารู้จักกันมากี่สิบปีแล้ว... ก็ได้ค่ะตามนั้นว่าแต่คุณพี่อยู่ที่ไหนคะ?"
เรื่องแบบนี้เธอไม่ปฏิเสธหรอก.. ของสะสมอันแสนสวยของเธอน่ะยังไงก็ต้องอยากได้อยู่แล้วต่อให้คุณแม่กับคุณพ่อบ่นขนาดไหน.. แต่เรื่องของบิ๊กไบค์.. เธอยอมทั้งนั้นค่ะไม่เกี่ยง...
@ห้างxxx
"กาน.. ทางนี้..."
ตึกตึกตึก..... หมับ!!
" คิดถึงจัง... ไปอยู่ที่ไหนมาคะ กานคิดถึงนะ.. ลืมกานไปแล้วใช่ไหมคะ.. หน้าน้อยใจจัง.. พอตัวเองมีสาวก็ลืมกานคนนี้ไปเสียแล้ว... เฮ้อ.. เกิดเป็นธันยกานต์ทำไมมันช่างอาภัพเสียขนาดนี้นะ..."
โป๊ก!!! โอ้ย!!
" เจ็บนะ.. เคาะลงมาได้..นั่นมือหรือเท้าคะ.. เจ็บมากๆเลยหนูจะไปฟ้องคุณพ่อว่าพี่นพใช้เท้าเคาะลงมาที่หัวหนู."
นพดลถึงกับหัวเราะทันที.. ดูสิไม่ว่าจะกี่ปีต่อกี่ปีก็ยังคงทำตัวปัญญาอ่อนเหมือนเดิมเอ้ย.. ไม่ใช่ๆ ทำตัวเหมือนเด็กๆเหมือนเช่นเคย....
" มาเร็วมาช่วยเลือกซื้อของหน่อย..." นพดลรีบคว้าแขนของกานเอาไว้และลากไปยังทิศทางที่เขาต้องการจะไปทันที....
" พี่นพอยากได้อะไรคะ? บอกมาเลยเดี๋ยวกานช่วยเลือกเอง..." เพราะดูท่าแล้วเธอคิดว่าพี่นพน่าจะมาหาเลือกซื้อของให้ผู้หญิงแน่ๆเลย...
" ช่วยเลือกซื้อกระเป๋ารองเท้าอะไรทำนองนี้ให้หน่อยสิ.. พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ดี..." พูดไปเขาก็อธิบายไม่ถูกนะ.. เด็กคนนั้นไม่ได้เต็มใจที่จะมาอยู่กับเขาหรอกแต่เป็นเขาต่างหากที่บังคับให้มาอยู่ด้วยแบบว่า... ช่างมันเถอะ....
" อายุ ส่วนสูง? สีผิว สีผม.."
คำถามที่กานถามเขามันทำให้เขาถึงกับต้องทำหน้าหมางงทันที.. ทำไมมันต้องอยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอ? มันก็ควรจะซื้อๆแล้วจบไหม?
" เอ๊า... เร็วสิคะ อายุ ส่วนสูง สีผิว สีผม..." ยังอีก ยังจะมองหน้าเธอแล้วทำหน้างงเหมือนหมาอ๋องยาคุมอีก..
" ทำไมต้องอยากรู้ด้วย? " จะอยากรู้ไปทำไมวะ.. หรือว่าจะเอาไปฟ้องพ่อ..
" อ้าว.. พี่นพถ้าหนูไม่รู้แล้วหนูจะเลือกยังไงได้เล่า หนูต้องรู้อายุเพราะว่าจะได้ก่ะถูกว่าควรจะซื้อแบบไหน สีผมส่วนสูงและสีผิวมันก็สำคัญนะ.. หนูจะได้เลือกเทสของคนที่จะถือและใส่ได้ถูก.. ผู้ชายนี่ช่างไม่รู้อะไรซะเลย...จิจิจิ.." ธันยกานต์ถึงกับส่ายหัวให้กับพี่นพทันที... อยากได้เขาแต่ไม่รู้อายุและรสนิยม.. แล้วแบบนี้เธอจะไปช่วยอะไรได้...
" ส่วนสูงก็เท่าๆเราแป๊บวัดก่อน..." นพดลเดินเข้ามาใกล้ๆกานพร้อมกับจับไหลของกานให้หันมาประชันหน้ากับเขา.. นพดลใชฝ่ามือของเขาวางลงไปที่หัวของกานทันทีพร้อมกับวัดก่ะเกณฑ์เอาว่ามันน่าจะสูงเท่าไร...
" โอเคๆ สูงกว่าเรานิดนึง... สีผิว.. ขาวหมวย ผมดำประบ่าแล้วก็..." เขากำลังจะอธิบายต่อแต่เพียงแค่เขาก้มลงมามองยังคนที่เขากำลังอธิบายอยู่เขาก็มองเห็นสายตาที่โคตรจะเจ้าเล่ห์และยังไอ้อาการของป้าข้างบ้านเข้าสิงนี่อีกมันเลยทำให้เขาหยุดเอาไว้แต่เพียงเท่านี้น่าจะดีกว่า...
" อ้าว.. ต่อสิๆ อยากรู้อ่ะ.. เร็วสิพี่นพ..." อะไรกันเธอกำลังฟังเพลินๆเลยนะทำไมมาหยุดกลางคันแบบนี้เล่า.. นานๆจะได้ยินพี่นพพูดถึงผู้หญิงคนอื่นแบบนี้..
"แค่นั้น.. เร็วรีบเลือกได้แล้ว.. ลีลา..."
"เชอะ!! ก็ได้.. งั้นเดี๋ยวหนูจัดการให้เองนะคะคุณท่านเจ้าขา..."
นพดลถึงกับส่ายหัวให้กับธันยกานต์ทันที.. ไม่ไปเลือกเปล่าเจ้าตัวยังสรรหาคำพูดมาพูดกับเขาและดูสิพนักงานขายต่างพากันหัวเราะคิกคักๆชอบใจกันเสียยกใหญ่...ว่าแต่.. ผู้ชายคนนั้นดูคุ้นๆนะ... เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน.. ช่างมันเถอะไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย....
ธันยกานต์ใช้เวลาอยู่พักใหญ่และสุดท้ายเธอก็ได้เสื้อผ้ารองเท้าและกระเป๋ามาให้พี่นพได้เลือกอีกที... เธอไม่รู้หรอกว่าคนคนนั้นจะต้องอยู่กับพี่นพนานไหม และเพื่อความสบายใจเธอจึงอยากให้พี่นพเป็นคนช่วยยืนยันอีกที
" โป๊ไปอันนี้ไม่ผ่าน.. บางไปมันดูไม่สวย.. มันจะรัดแน่นไปไหมยันกาน.. พี่ให้ไปช่วยเลือกนะไม่ใช่ให้ไปซื้อให้ตัวเอง.." ตายๆแต่ละชุดที่ดูไม่ได้เลย แหวกหน้าเว้าหลัง ผ่าข้างสูง.. ใครมันจะไปใส่ถ้าไม่ใช่ยัยกาน..
" อ้าว.. ก็พี่นพให้หนูช่วยเลือกหนูก็เลือกแบบนี้มาให้สิ พี่นพไม่บอกเลยว่าเธอคนนั้นเป็นคนนิสัยยังไง ใครมันจะไปรู้ละ..." ใครมันจะไปตรัสรู้ได้เล่าว่าผู้หญิงของพี่นพชอบแบบไหนและไม่ชอบแบบไหน..
" ขอเรียบร้อยกว่านี้ได้ไหม ไม่ต้องเอาแบบเรียบร้อยพร้อมบวชนะ แบบว่าไม่โป๊เหมือนของกานก็พอ สีไม่ต้องสดขนาดนั้น คนนะไม่ใช่พระที่จะใส่สีส้มสี.."
" ไม่ทันสมัยเอาซะเลย.. หลวงเจ้ก็มีนะเผื่อไม่รู้.. โอเคตามนั้นค่ะเดี๋ยวหนูไปหามาให้ใหม่..." ก็น่าจะบอกตั้งแต่แรกว่าเขาเป็นคนเรียบร้อยไม่ชอบสีสดๆแบบเธอ... ก็แหงละจะมีแค่ไม่กี่คนที่กล้าใส่เสื้อผ้าสีสดแบบเธอ ส่วนใหญ่เขาจะใส่สีดำ สีเขียวขี้ม้า สีครีม สีเทาสีอึมครึมๆราวกับว่าเมฆฝนก้อนใหญ่กำลังสุมอยู่บนหัวของพวกหล่อน.. ดูนี่.. ดูเธอสิใส่สีแดง สีส้ม สีฟ้าไปนู้น.. สวยจะตายไป ใครไม่สวยฉันสวยค่ะ สวยสุดในโลกของฉัน.. โอเคนะ...
เมื่อกานออกมารอบสองพร้อมกับเสื้อผ้าที่เธอคิดว่าน่าจะใช้ได้เธอจึงให้พี่พนักงานที่สนิทสนมกันช่วยลากราวเสื้อผ้าออกมาด้วย..
" โอเค.. เอาหมดนี้ครับแล้วก็ช่วยเลือกชุดชั้นในให้ทีสิ.." พูดไปเขาก็เขินนะ..
" หนูจะไปรู้ไหมว่าเขาใส่ไซส์อะไร.. โอ๊ะ.. ไปๆ ไปเลือกด้วยกัน.. เดี๋ยวหนูช่วยเลือก.. ยังไงฝากถุงไว้ที่นี่ก่อนนะคะเดี๋ยวกลับมาเอา.. อ้าว.. จ่ายเงินสิคะป๋าขา... เร็วๆหนูมีงานต้องเคลียร์อีกนะคะ.."
"เออๆๆดุชะมัด.. ยิ่งกว่าหมาก็แกแล้วนะยัยกาน.. นี่ครับบัตร..." นพดลยื่นบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงินให้กับพนักงานทันที.. เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็เดินตามกานออกไปยังแผนกชุดชั้นในสตรีทันที... แต่ยังเดินไปไม่ถึงไหนเขาก็ต้องชนหลังของกานเข้าให้....
" เป็นอะไร? หยุดไม่ยอมบอกกัน...." เขาถามกานแต่กานไม่ยอมตอบเขาเขาจึงเลือกที่จะหันมองไปยังทิศทางที่กานจ้องมองอยู่....
" ทำไม? รู้จักเหรอ? เขาไปทักไหม?" เขาเองก็ไม่รู้จักด้วยสิว่าสองคนนั้นเป็นใคร... แต่ผู้ชายคนนั้นเขารู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่เขาก็ไม่ค่อยจะแน่ใจสักเท่าไร....
" ผู้หญิงคนนั้น.... "
นพดลมองไปยังผู้หญิงคนที่กานพูดลอยๆออกมา.. เขาไม่รู้จักหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ไฮโซ?ก็ไม่ใช่ ลูกคุณหญิงคุณนายก็ยิ่งไม่น่าจะใช่เข้าไปอีก... แล้วเป็นใครกัน?
" รู้จักเหรอ?"
" ไม่แน่ใจค่ะ.. แต่ผู้ชายหนูรู้จัก.." ธันยกานต์ส่ายหน้าเพื่อเป็นการปฏิเสธว่าเธอไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นแต่เพียงแค่เธอคุ้นหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก ส่วนผู้ชายคนนั้นก็คือพี่กร... พี่กรเปลี่ยนผู้หญิงอีกแล้วเหรอ?...
ธันยกานต์ได้แต่จมอยู่ในความคิดของตัวเองมาหลายวันนับตั้งแต่วันที่เธอเห็นพี่กรกับผู้หญิงคนหนึ่ง.. ผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นมากมากเสียจนเธอคิดว่าเธอและคุณยาต้องรู้จักเป็นแน่... ไม่ได้การล่ะเธอต้องรู้ให้ได้...ธันยกานต์มาหาคุณยาที่บ้านโดยที่เธอได้โทรมาถามก่อนแล้วว่าคุณยาอยู่บ้านหรืออยู่ที่ทำงานซึ่งคุณยาบอกว่าคุณยาพึ่งถึงบ้านเธอเลยรีบขับรถออกไปหาคุณยาทันที...." มาแล้วเหรอกาน ว่าแต่มีอะไรจะคุยกับยาเหรอ?" วันนี้เธอรู้สึกว่าเพื่อนของเธอดูแปลกๆไปไม่เหมือนกานคนที่เธอเคยรู้จักเพราะวันนี้กานดูมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด.. ซึ่งใบหน้าแบบนี้เธอไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว..." คุณยาคะกานมีอะไรจะถามคุณยาหน่อย.. คุณยาพอจำหน้าแฟนคนเก่าของพี่กรได้ไหมคะ?" ธันยกานต์ไม่รอช้าเธอรีบถามคุณยาออกไปทันทีเพราะเธอจำเป็นต้องรู้ให้ได้.. เรื่องนี้มันกวนจิตใจเธอมาหลายวันแล้ว.. เธอนอนแทบจะไม่หลับเลยก็ว่าได้ตั้งแต่วันนั้นวันที่เห็นพี่กรเดินควงแขนกับเธอคนนั้น...." พอจำได้นะ... ว่าแต่กานมีอะไรรึเปล่า..." เธอจำหน้าได้ดีเลยล่ะไม่ใช่แค่พอจำได้.. คนที่ทำให้พี่กรพี่ชายของเธอแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน คำที่ทำให้พี่กรเป็นคนพูดน้อยถามค
ในที่สุดมื้ออาหารที่สุดแสนจะอึดอัดก็จบลง.. ตอนแรกคุณพี่เจี๊ยบจะเลี้ยงแต่พี่กรก็บอกว่าไม่ได้เพราะเขาไม่ต้องการมากินฟรี.. ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะช่วยจ่ายครึ่งนึง..เธอไม่อยากโดนพี่กรบ่นเอาน่ะว่าง่ายๆ เดี๋ยวจะมาล้ำเลิกบุญคุณอีก.. เธอไม่ชอบอะไรทำนองนี้..." มาทำไม?" คำถามสั้นๆที่ออกมาจากปากพี่กรหลังจากที่เดินออกมาจากร้านอาหารแล้ว.. มันเป็นโทนเสียงที่สุดแสนจะแตกต่างกับโทนเสียงที่เธอได้ยินเมื่อครู่ตอนที่พี่กรพูดกับคุณพี่เจี๊ยบเลยก็ว่าได้...." มาทานข้าวยังไงล่ะคะ มาร้านอาหารไม่มาทานข้าวจะให้มานั่งวิปัสนารึยังไงกันพี่กรก็ถามแปลกนะคะ..." ธันย กานต์ตอบออกมาราวกับว่าเธอนั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดแต่จริงๆแล้วหัวใจของเธอน่ะมันเดือดปุดๆเลยก็ว่าได้.. เพราะการกระทำและคำพูดของพี่กรมันทำให้เธอโมโหทั้งพี่กรและผู้หญิงคนนั้น.. แต่เธอไม่อยากจะระเบิดมันออกมาในตอนนี้... สาเหตุที่ไม่พร้อมจะระเบิดเพราะว่าคนทั้งสองคนยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่น่าเกลียดยังไงล่ะ เขาทั้งสองคนนั่งในมุมที่ใครๆก็สามารถมองเห็นได้.. มันจึงทำให้เธอไม่สามารถหาข้ออ้างมาตำหนิได้ยังไงเล่า...." ยัยน้องคิดจะทำอะไร?" " น้องจะทำอะไรล่ะคะ
ธันยกานต์ลูบแขนของตัวเองเบาๆ.. ร่องรอยที่พี่กรฝากเอาไว้มันเริ่มจางไปเยอะแล้ว.. บอกตามตรงช่วงนี้เธอห่างหายการไปหาท่านป้ามากเธอคิดถึงท่านป้านะแต่เธอก็กลัวว่าถ้าเธอไปเธอจะไปเจอพี่กรเข้าให้.. เธอยังไม่พร้อมที่จะไปสู้หน้าของพี่กร.. ความรู้สึกภายในจิตใจของเธอลึกๆมันทำให้เธอสับสน.. ว่าเธอควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้.. แต่พอเธอคิดดูอีกที... เธอก็คิดว่าเธอควรจะไปต่อเพราะเธอคือคู่หมั้นของพี่กร....ธันยกานต์ตัดสินใจแวะมาหาท่านป้าที่บ้านอย่างเช่นเคยทำ.. วันนี้เธอก็ยังหอบหิ้วผลไม้มาฝากเช่นเคย.. เธอต้องกลับมาเป็นธันยกานต์คนเก่าให้ได้...." ท่านป้าสวัสดีค่ะ... "เสียงสดใสของสาวน้อยที่เธอได้แต่เฝ้ารอให้มาหาหลายต่อหลายวันในที่สุดเจ้าตัวก็มาเสียที...." หายไปไหนมาหนูกาน.. ป้าคิดถึงแทบแย่.. บ้านหลังนี้เหงาจะตายพอหนูกานไม่มาหานะบ้านป้าเงี๊ยบเงียบ.. แล้วนั่นหอบอะไรมาอีกแล้วละนั่น.. ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะสิ้นเปลืองและยังเป็นของซื้อของขายหนูกานจะเอามาฝาก บ่อยๆแบบนี้ไม่ได้นะ อยู่ทานเข้าเย็นกับป้าก่อนไหม? คุณยาน่าจะใกล้ถึงแล้ว..."" ใจจริงก็อยากอยู่นะคะแต่พอดีนัดกับคุณแม่เอาไว้น่ะค่ะว่าจะไปทานข้าวเย็นด้วย.. คุณพ่อก็
ตึกตึกตึก....เสียงของการวิ่งลงมาของคนหลายๆคนทำให้คนที่กำลังลงมาถูกมองจากคนในร้านแทบจะทั้งหมด...หมับ!!" หยุดนะธันยกานต์.. ขอโทษเจี๊ยบเดี๋ยวนี้.... ขอโทษซะแล้วฉันจะไม่เอาเรื่องเธอ..." ทินกรกระชับต้นแขนของธันยกานต์เอาไว้แน่นเพราะตอนนี้เขาไม่พอใจธันยกานต์เป็นอย่างมาก... ธันยกานต์ไม่มีสิทธิ์มาพูดจาดูถูกคนของเขาแบบนี้.." ไม่!! กานไม่ขอโทษ.. พี่กรเป็นคู่หมั้นของกาน.. แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะคะเป็นอะไร? เป็นแฟนเก่าที่อยากจะเข้ามามีบทบาท.. เป็นแฟนเก่าที่หน้าด้านและพยายามที่จะแย่งคู่หมั้นของคนอื่น.. คนแบบนี้เหรอที่กานจะต้องขอโทษ.. ไม่ทราบว่ากานผิดอะไร? อ๋อ... ฉันพึ่งจะรู้นะคะว่าคนที่ชอบเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดีแบบคุณจะทำตัวได้ต่ำตมแบบนี้.. คงจะชอบสินะคะที่ลักกินขโมยกินน่ะ.. มันคงจะอร่อยน่าดู ถ้าไม่อร่อยคุณคงจะไม่มาเที่ยวชวนคู่หมั้นของคนอื่นเข้าห้องน้ำแล้วไปจูบนัวเนียกันในนั้น.. อย่า!! อย่าปฏิเสธ.. ปากของคุณสองคนมันยังเลอะลิปสติกอยู่เลย... ในเมื่อคุณทิ้งพี่กรไปแล้ว.. คุณจะกลับมาทำไม.. คุณจะย้อนกลับมาทำไมอีก.. คุณมันต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนกันเชียวถึงได้หน้าด้านหน้าหนาแบบนี้.."ตุบ!!"หยุดพูดจาดูถูกเจี
ธันยกานต์เก็บตัวเงียบมาหลายวันตอนนี้เธอไม่ต้องการพบใคร.. เธอไม่อยากเจอใครหรือพูดคุยกับใครทั้งนั้น.. เรื่องราวที่เธอพึ่งได้พานพบเจอ.. มันยังทำให้เธอเสียใจ..ติ๊งต๊อง.... ติ๊งต๊อง.....เสียงกริ่งหน้าห้องของเธอถูกกดติดกันถึงสองครั้ง.. ตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปดูหรอกแต่เพียงไม่นานก็มีข้อความส่งมาหาเธอให้เธอออกมาเปิดประตู....แกร๊ก...."กาน.. เป็นยังไงบ้าง.. ดีขึ้นไหม..." ไม่ได้พูดเปล่าแต่เขายังเข้ามากอดธันยกานต์เอาไว้ด้วย.. วันนั้นถ้าเขาไม่ทันได้สังเกตุดีๆเขาก็คงไม่เห็นถึงความถลอกปอกเปิกของยัยกานแน่ๆ.. ทั้งแขนทั้งขาถลอกไปหมดทั้งแทบ.. เขาล่ะอยากจะเอาปืนไปยิงมันให้มือขาดทั้งสองข้าง..." ไม่ดีเลย.. หนูไม่ดีเลย.. หนูจะทำยังไงดีพี่นพ.. หนูต้องทำยังไง..." เพียงเท่านั้นเอง.. เพียงแค่ประโยคคำถามของพี่นพที่ถามเธออกมามันก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง.... เธอเสียใจ.. เธอเจ็บที่หัวใจของเธอ...เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไป..เธอไม่รู้เลย..." อยากร้องก็ร้องออกมา.. ถ้าร้องเสร็จเราก็กลับมาเป็นยัยกานคนเดิมของพี่นะ.. พี่ไม่ชอบให้กานร้องไห้เหมือนเด็ดขี้แยแบบนี้เลย.. กานอย่าลืมสิว่ากานยังมีพี่ กานยังมีพ่อและแ
เพียงแค่เธอจอดรถของเธอที่โรงจอดรถเธอก็เห็นรถหนึ่งคันที่มันไม่คุ้นเคยจอดอยู่ก่อนหน้าเธอแล้ว.. ที่จอดรถประจำของเธอถูกรถของใครก็ไม่รู้มาจอดก่อน... จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ที่จอดรถของเธอหรอกเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะจับจองเลยด้วยซ้ำไป...เสียงพูดคุยที่เธอได้ยินมาจากด้านใน.. ทำไมวันนี้เธอถึงเลือกมาวันผิดนะ.. แต่ก็ช่างเถอะ.. มันจะได้จบๆไป..." ท่านป้า... " เธอต้องการจะทักทายสวัสดีเหมือนเช่นทุกครั้งแต่เธอก็ต้องสะอึกและกลืนความเสียใจก้อนโตลงคอของเธอลงไปในคอ.... ใช่นั่นคือพี่กรไม่สิ.. คุณชายทินกรกับคนรักของเขา... ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและรอยยิ้มที่คอยส่งไปให้กับคนรักของเขา.. มันเป็นสิ่งที่เธอเองก็อยากจะได้รับเช่นกัน.. แต่เธอไม่เคยที่จะได้เห็นเลยสักครั้ง.. นี่สินะที่เรียกว่าคนที่คู่ควร..." อ้าวหนูกานเองเหรอลูก.. ไม่มาหาป้าเสียนาน.. งานยุ่งเหรอลูก.. มาๆ หอบอะไรมาอีกล่ะนั้น.. หนูเจี๊ยบก็หอบอาหารมาให้... ไหนๆก็มาแล้วอยู่ทานข้าวด้วยกันนะลูก" ท่านหญิงศศิวารีที่ไม่ทันสังเกตุสีหน้าและแววตาของหนูกานเธอก็เลยเอ่ยชวนหนูกานทานข้าวเที่ยงด้วยกันเลย.." ไม่ดีกว่าค่ะท่านป้า.. หนูเอาผลไม้มาฝากค่ะ.. แล้วนี่" ธันยกานต์เลื่อนถุงกร
จากวันนั้นวันที่เธอนำของที่ท่านป้าให้เธอในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้ไปคืนมันก็ล่วงเลยเข้าไปสองอาทิตย์แล้ว.. จะว่าไปเธอเองก็รู้สึกเหงาอยู่เหมือนกันแต่เธอต้องทำให้ได้.. เธอต้องตัดใจจากเขาให้ได้....ก๊อกๆๆ" เชิญค่ะ..." ธันยกานต์หลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเองเพราะมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาขัดจังหวะ.." คิดถึงจัง... ทำไมกานใจร้ายกับยาจัง.. ไม่แวะไม่โทรหายาเลย.. กานไม่รักยาแล้วเหรอ?.. น้อยใจจัง..." ทิติยากรเปิดประตูออกมาพร้อมกับตำหนิเพื่อนของตัวเองทันที.. เธอได้ยินข่าวจากท่านแม่ว่ากานมาหาและมอบของหมั้นคืนให้กับท่านแม่.. แล้วไหนยังบอกว่าเจ้าของตัวจริงของของหมั้นกลับมาแล้วดังนั้นกานจึงนำของหมั้นมาคืนแก่เจ้าของตัวจริง... เธอเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากๆ... ทิ้งพี่ชายของเธอไปแล้วทิ้งไปพร้อมกับบาดแผลที่ใหญ่มาก.. มันใหญ่เสียจนพวกเธอทุกคนเป็นห่วงว่าพี่ชายของเธอจะทนบาดแผลนั้นไม่ไหวและยอมตายเพราะบาดแผลนั่น.. แล้วตอนนี้คืออะไร.. ย้อนกลับมาอีกครั้งพร้อมกับทำให้คนที่ช่วยให้พี่ชายเธอกลับมาพูดคุยและเป็นผู้เป็นคนอีกครั้งต้องเสียใจ.. เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะโกรธใครได้มากเท่ากับผู้หญิงคนนั้น...ธันยกานต์ยิ้มให้คุณยาด้วย
หลังจากเหตุการณ์นั้นที่เขาได้เจอกับน้องยาและเด็กคนนั้นโดยบังเอิญเขาก็รู้สึกแปลกว่าเหมือนกับว่าชีวิตของเขาที่คอยมีเด็กคนนั้นมาวุ่นวายอยู่ทุกๆวันมันเงียบเหงาผิดปกติ.. บางครั้งเขาก็ถึงกับชะโงกหน้ามองไปด้านนอกเพื่อดูว่าใครมาบ้านของเขา.. แต่มันก็ไม่ใช่คนที่เขารอ.." เบื่อจัง.. " ปากหยักได้รูปอยู่ๆก็พูดออกมาเองโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงเบื่อทั้งที่งานของเขาก็เยอะออกขนาดนี้และไหนเจี๊ยบโทรมาคุยกับเขาทุกๆวัน วันละสองครั้งตอนเช้าและก่อนนอน.. แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาขาดอะไรสักอย่างไป....เสียงเครื่องยนต์ที่ดังเข้ามาภายในบ้านเขาจำได้ดีว่าเสียงรถคันนั้นคือเสียงรถของเพื่อนน้องยา...หึ....หัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาเมื่อครู่อยู่ๆมันก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาราวกับว่ามันได้รับน้ำทิพย์จากฝากฟ้า.. รอยยิ้มที่เขาไม่ค่อยจะได้ยิ้มแบบนี้มานานเกือบเดือน.. รอยยิ้มที่มันมีความสุขที่มันออกมาจากภายจิตใจของเขา.. วันนี้เขายิ้มออกมาอีกครั้ง.. จริงอยู่รอยยิ้มนั้นเขาเคยมอบให้เจี๊ยบในวันที่เขาได้เจอกับเจี๊ยบอีกครั้ง.. แต่หลังจากนั้นรอยยิ้มที่มันแสดงออกมาถึงความยินดี.. ความดีใจและความสุขมันก็ไม่มีอี
หลังจากสงครามรักระหว่างเขาและธันยกานต์จบลงเขาก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าของเขาให้เข้าที่ส่วนเสื้อผ้าของธันยกานต์ไม่จำเป็นต้องใส่ตอนนี้เขารวบรวมเสื้อผ้าของธันยกานต์เอาไว้ในตะกร้าผ้าของเขาเมื่อถึงเวลาเขายกลงไปให้เด็กในบ้านซักคนอื่นจะได้เห็นเสื้อผ้าของธันยกานต์....ทินกรยกตะกร้าผ้าลงออกไปวางที่หน้าประตูห้องของเขาโดยที่เขาไม่สนว่าตอนนี้จะเป็นเวลาดึกดื่นมาแค่ไหนแล้ว.. แต่ในเมื่อเขาต้องการให้คนอื่นรู้ว่าธันยกานต์อยู่กับเขา.. เขาจึงต้องทำแบบนี้...ทินกรเดินกลับมาที่เตียงกว้างของเขาพร้อมกับหาเสื้อยืดสีเทาอ่อนของเขามาจัดแจงสวมใส่ปกปิดร่างกายของธันยกานต์เพื่อไม่ให้ธันยกานต์นั้นหนาวเกินไป..." ยังไงเธอก็ไม่รอดแล้วธันยกานต์.. ยังไงเธอก็ต้องแต่งงานและอยู่กับพี่.. เธอไม่มีทางที่จะหนีพี่ไปไหนได้อีกแล้วและต่อให้เธอมีปีกที่สามารถโบยบินได้.. พี่นี่แหละจะเป็นคนเด็ดปีกนั่นของเธอเอง.. ส่วนพวกผู้ชายที่มันเข้ามาวุ่นวายกับเธอนั้น.. ถ้ามันยังไม่เลิกวุ่นวายอีก... พี่คงจะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด... หลับซะนะคนดี.. จุ๊บ..."ทินกรไม่สนใจว่าตอนนี้ธันยกานต์จะรับรู้หรือรับฟังเขารึเปล่า.. แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็คือธันยกานต์
ธันยกานต์จำใจต้องมาส่งเขาตามที่เขาขอร้อง.. ตอนแรกเธอก็คิดว่าเขาจะเล่นแง่กับเธอเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะหลอกล่ออะไรเธอบ้างแต่อย่างน้อยเขาก็บอกให้เธอมาส่งเขาที่บ้านดังนั้นมันไม่อะไรน่ากลัวทั้งนั้นเพราะว่าที่นี่คือบ้านของเขา.. ไม่ใช่บ้านหลังอื่นหรือว่าคอนโดหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขาแอบซ่อนเอาไว้..." คุณชายคะคุณชาย... ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะมันไม่น่าจะหลับแต่เขาก็หลับได้.. ไปทำอะไรมาล่ะหึ..." เธอละอยากจะฟาดลงไปกลางหลังแรงๆให้เขาตื่น... มันน่านัก... ไม่รู้ว่ากลางคืนมัวแต่ไปทำอะไรถึงไม่ยอมหลับยอมนอน..." คุณชายคะคุณชาย.. ตื่นได้แล้วค่ะถึงแล้ว.. คุณชาย..." ธันยกานต์เขย่าตัวของเขาเบาๆอยู่นานสองนานแต่เขาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมตื่นสักทีไม่รู้ว่าไปอดหลับอดนอนหรือว่าไปโดนอะไรตัวไหนมาถึงได้หลับลึกขนาดนี้.."คุณชายคะคุณชาย.. ถ้ายังไม่ยอมตื่นฉันจะถีบคุณลงจากรถของฉันแล้วจริงๆนะคะ.. คุณชายคุณชะอื้อ...."สิ้นประโยคทินกรก็คว้าท้ายถอยได้รูปของธันยกานต์เข้าหาเขาทันที... ดื้อจริงๆ เก่งซะด้วยจะถีบเขาลงจากรถงั้นเหรอ... แบบนี้คงต้องโดนทำโทษ...จุ๊บ.. จ๊วบ... จ๊วบ...." อื้อ... อื้อ...." ธันยกานต์ที่ไม่ทันได้ตั้งต
สองสามวันที่ผ่านมาทินกรใช้เวลากับตัวเองและคิดในสิ่งที่ศรันทร์ได้พูดกับเขาเกี่ยวกับความรู้สึกระหว่างเขาและกานแถมพ่วงด้วยเรื่องของเจี๊ยบอีก.. เอาตรงๆเขาไม่ได้รักเจี๊ยบในเชิงชู้สาวแล้ว..เขาแค่รู้สึกที่ได้เจอเจี๊ยบอีกครั้งแต่สำหรับกานนั้น.. เขารู้สึกแค่ว่าตั้งแต่วันแรกที่กานมาถอนหมั้นเขามันทำให้ชีวิตของเขาเหงามากๆ เขารู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตเขามันขาดอะไรไปสักอย่าง... เสียงหัวเราะและคำพูดที่ชวนให้เขาต้องอมยิ้มเสมอเวลาที่กานพูดออกมา.. มันหายไปตั้งแต่วันนั้น.. ช่วงแรกเขาไม่ได้คิดอะไรมากนักเพราะบ่อยครั้งที่กานมักจะงอนเขาและเงียบไปสองสามวันแต่แล้วไม่เกินวันที่ห้ากานก็จะกลับมาหาเขามาพูดคุยกับเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน... แต่แล้ววันนั้นวันที่กานมาหาหลังจากเกิดเรื่อง... แววตาที่เฉยชาของกาน.. มันทำให้หัวใจของเขารู้สึกว่ามันปวดนึบยังไงบอกไม่ถูก.. จากที่เมื่อก่อนกานมักจะเรียกเขาว่าพี่กร แต่ตอนนี้กานเรียกชื่อเขาว่าคุณชายทินกรและแทนตัวเองว่าฉันไม่แทนตัวเองว่ากานเหมือนเมื่อก่อน.. มันแสดงให้เห็นถึงความห่างเหินระหว่างเขาและกาน.. เขาไม่ชอบเลย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่กานเคยมีมันหายไปตั้งแ
หลังจากวันที่เขาไปส่งธันยกานต์ที่คอนโดเขาก็ตามเฝ้าตามติดสาวน้อยทุกวัน.. จนป่านนี้แล้วธันยกานต์ก็ยังไม่ไปพบท่านแม่กับเขาเลยส่วนท่านแม่นั้นก็ถามเขาทุกวันหาว่าเขาจะปัดความรับผิดชอบ.. เขาเนี่ยนะไม่เลย... มีแต่ธันยกานต์นั่นแหละที่หลบหน้าและหนีเขา.. เขาขับรถมาเฝ้าทั้งที่คอนโดและที่บริษัทเขาไม่เห็นรถของธันยกานต์เลยสักวัน..วันนี้เป็นวันที่เจ็ดแล้วนะที่เขามาเฝ้า.. จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่เห็นรถหรูคันโปรดของเจ้าตัวขับเข้ามาเลย..." ไปไหนนะกาน.. คอยดูเถอะถ้าพี่เจอเมื่อไรพี่จะตีให้ก้นลายจะจับกดให้จมเตียงเลยคอยดูสิทำไมถึงดื้อนักนะ.. เด็กอะไรเนี่ย..." ปากก็บ่นไปสายตาก็ยังสอดส่องหาคนที่เขามาเฝ้ามอง....ตืด.... ตืด....ทินกรมองดูชื่อของปลายสายที่โทรมาหาเขา... เมื่อเห็นรายชื่อแล้วเขาก็ต้องพ่นลมหายใจออกมายาวๆ เขาไม่ได้รำคาญนะแต่เขานั้น... ไม่รู้สิเขาอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไงกันแน่กับคนปลายสาย..." ว่ายังไงเจี๊ยบ.. มีอะไรรึเปล่า...""กรว่างไหม.. มาหาเราที่xxxหน่อยสิ.. ช่วยมากินข้าวเป็นเพื่อนเราหน่อยเราเหงา...." " อืมได้สิ.. " ใจจริงเขาเองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะไปนักแต่ในเมื่อคนที่เขารอไม่โ
แสงแดดที่สอดส่องเข้ามาในยามเช้า.. รึเปล่าเธอไม่รู้แต่ที่รู้ก็คือตอนนี้ร่างกายของเธอเหมือนกับถูกงูรัดเอาไว้และร่างกายของเธอมันเจ็บมากๆ เหมือนกับว่าเธอออกกำลังหนักๆแบบหักโหมออกกำลังกายสี่ถึงห้าชั่วโมง.. มันเจ็บมันเมื่อยไปหมด.. เธอบอกไม่ถูกเลย.."โอ้ย... "เสียงโอดโอยของคนในอ้อมกอดทำให้เขาถึงกับเผลอยิ้มออกมา.. เอาเถอะตอนนี้เขาพร้อมฟังคำกล่าวหาแล้ว.. เขาจะไม่เถียงหรือไม่ขอความเห็นใจเลยสักคำ..."ตื่นแล้วเหรอ?"น้ำเสียงแบบนี้.. และลมอุ่นๆที่พ่นมาที่ใบหูของเธอ... หรือว่าเรื่องเมื่อคืน....ธันยกานต์หันกลับไปทางด้านหลังของเธอทันที... เพียงแค่หันกลับไปแก้มของเธอก็ไปโดนเข้ากับจมูกโด่งคมสันของเขา.. และที่บริเวณหน้าท้องของเธอมีอะไรบางอย่างลูบไล้ไปมาเบาๆและมันทำให้เธอถึงกับขนลุก..." หยุดนะ... คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน.... ปล่อย.. ฉันจะกลับ.. " โชคดีที่อย่างน้อยเธอยังมีเสื้อผ้าติดตัว.. คงจะเป็นเขาที่สวมใส่ให้เธอ.. เพียงแค่คิดเท่านี้มันก็ทำให้เธอถึงกับหน้าแดงคิดไปถึงเรื่องที่มันน่าจะพึ่งเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอ... เธอไม่รู้โดยแน่ชัดว่าเกิดขึ้นยังไงกันแน่.. แต่ที่แน่ๆเธอพอจำได้ว่าเธอถูกเขาฟาดลงม
เสียงโวยวายของธันกานต์ดังลั่นไปทั่วลานจอดรถแขกไปใครมาก็ต่างหันมามองที่พวกเขาสองคนเป็นตาเดียวกันหมด.. เขาใกล้จะหมดความอดทนแล้วนะ.. อีกแค่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะหมดความอดทนกับธันกานต์แล้วนะ..." ม๊าย... ม่ายกลาบ~~" คนเมาก็ยังโวยวายคนที่พยายามจะลากตัวเธอกลับ..ทินกรกอดรัดฟัดเหวี่ยงธันยกานต์อยู่นานสองนานจนในที่สุดความอดทนของเขาก็หมดลง...งับ... โอ๊ย...." ได้.. ในเมื่อพูดดีๆไม่ฟังอย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน.." ทินกรถูกธันยกานต์กัดเข้าให้ที่ไหล่.. เจ้าหล่อนกัดลงมาเสียแรงนี่ถ้าไม่มีเสื้อกั้นเอาไว้ตรงกลางระหว่างไหล่และฟันของเจ้าหล่อน.. เขาว่าเนื้อที่ไหล่เขาได้หลุดแน่ๆ...เพี๊ยะ!" โอ๊ย..." ธันยกานต์ถึงกับต้องร้องโอ๊ยออกมาด้วยความเจ็บเพราะตอนนี้เธอโดนใครก็ไม่รู้ฟาดเข้าให้ที่ก้นของเธอ..." หยุดดิ้น..." ยังๆ ยังไม่ยอมหยุดดิ้นอีกใช่ไหม..ดื้อนักใช่ไหม..เพี๊ยะ!! โอ๊ย!!" ปล่อยนะไอ้บ้าเอ้ย.. แกเป็นใคร.. แกกล้าดียังไงมาตีฉัน.." จากที่เมาๆอยู่ตอนนี้เธอแทบจะส่างเมาเลยก็ว่าได้..เพี๊ยะ!! โอ๊ย!!ตุบ...ทินกรปล่อยร่างสมส่วนของธันยกานต์ลงยืนกับพื้นทันทีเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าตัวเริ่มมีส
ทินกรบอกตามตรงว่าไม่พอใจมากที่เห็นเด็กคนนั้นไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวใครจะกอดก็ให้กอดใครอยากจะหอมก็ให้หอม... มันไม่ควรทำแบบนั้น.. เด็กคนนั้นเป็นคนยังไงกันแน่เขาล่ะไม่เข้าใจจริงๆ..." แล้วทำไมฉันต้องมาตามมองเด็กคนนั้นด้วยนะ.." ทินกรเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องมาขับรถเฝ้ามองว่าเด็กคนนั้นจะทำอะไรหรือไปไหน... เป็นบ้าอะไรของฉันกันแน่.....ทินกรที่กำลังจะขับรถออกไปแต่เพียงแค่เขามองผ่านกระจกเขาก็เห็นเด็กคนนั้นออกมาจากบริษัทของตัวเองและเหมือนกับว่ากำลังยืนรอใครสักคน...รูปร่างที่สมส่วนจนน่ากอดน่าจับมันทำให้เผลอคิดไปไกลจนเขาต้องรีบสลัดความคิดสกปรกของตัวเองออกไปทันที.. และเพียงไม่นานเขาก็เห็นผู้ชายคนที่เขาในคืนนั้นอีกครั้ง..." ใครกัน.. แฟนเหรอ? นี่น่ะเหรอที่บอกว่ารักเขานักรักเขาหนา..." ทินกรถึงกับต้องขมกรามของตัวเองเอาไว้แน่น... มือแกร่งกำพวงมาลัยรถยนเอาไว้จนหนังของมันแทบจะหลุดติดมืออกมา..ทินกรสตาร์ทรถของเขาและก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว.. แต่เพียงแค่ขับออกไปไม่นานมันก็ทำให้เขาว้าวุ่นจนเขาต้องย้อนกลับมาหาที่จอดที่ไม่ไกลจากหน้าบริษัทของเด็กคนนั้นอีกครั้ง.... จะว่าไปมันก็เหงาเหมือนกันนะท
เฮ้อ.... นี่ก็ล่วงเลยมาเกือบสองเดือนแล้วสินะที่เธอบอกตัวเองว่าเธอจะต้องเลิกรักเขาคนนั้นให้ได้.. ถึงแม้ว่ามันจะยากหน่อยแต่ตอนนี้เธอก็ทำสำเร็จแล้ว.. นิดนึง.. อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องมานั่งคิดว่าเขาจะไปหาใครหรือว่านัดกับใครลับหลังเธอ.. และเธอก็ไม่ต้องมานั่งดูรูปเขาตอนที่เธอเหงา... เพราะเธอได้ลบรูปเขาไปหมดแล้ว.. ไม่มีแล้วรูปของเขาไม่มีสักรูป.. ตอนนี้เธอมีแต่รูปแมว.. พี่นพซื้อมาฝากเธอหนึ่งตัว.. ขาสั้นๆจมูกแดงๆ.. ขี้อ้อนมากๆดูสิเธอหลงรักแมวตัวนั้นมากๆและแมวตัวน้อยของเธอก็หลงรักเธอด้วย..เธอคิดว่าอย่างนั้นนะฮิฮิ...ตืด.... ตืด...."ว่าไงคะคุณยา.. จะชวนไปไหนเอ่ย...""ไปเที่ยวกันไหม? เหงาน่ะวันนี้ขอท่านพ่อกับท่านแม่แล้ว.. ท่านพ่อท่านแม่อนุญาตแต่ไม่ให้กลับเกินเที่ยงคืน.. แต่ยาว่ายาจะขอนอนกับกาน.. ได้ไหมคะที่รัก~~" ธันยกานต์ถึงกับต้องอมยิ้มให้กับคุณยาทันที.. คุณยาก็เหมือนเด็กน้อยตัวเล็กๆที่ขี้อ้อนมากๆ.. เธอกับคุณยาก็ติดต่อคุยกันเหมือนเดิมก่อนที่เธอจะตัดใจจากเขาคนนั้น.. ส่วนท่านป้าเธอก็แวะไปหาบ้างถ้าวันไหนเธอแวะไปหาท่านป้ามักจะชวนเธอไปที่สวนดอกไม้ของท่านป้าและคุณยามากกว่านั่งในห้องนั่งเล่นเพราะการที
หลังจากเหตุการณ์นั้นที่เขาได้เจอกับน้องยาและเด็กคนนั้นโดยบังเอิญเขาก็รู้สึกแปลกว่าเหมือนกับว่าชีวิตของเขาที่คอยมีเด็กคนนั้นมาวุ่นวายอยู่ทุกๆวันมันเงียบเหงาผิดปกติ.. บางครั้งเขาก็ถึงกับชะโงกหน้ามองไปด้านนอกเพื่อดูว่าใครมาบ้านของเขา.. แต่มันก็ไม่ใช่คนที่เขารอ.." เบื่อจัง.. " ปากหยักได้รูปอยู่ๆก็พูดออกมาเองโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงเบื่อทั้งที่งานของเขาก็เยอะออกขนาดนี้และไหนเจี๊ยบโทรมาคุยกับเขาทุกๆวัน วันละสองครั้งตอนเช้าและก่อนนอน.. แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาขาดอะไรสักอย่างไป....เสียงเครื่องยนต์ที่ดังเข้ามาภายในบ้านเขาจำได้ดีว่าเสียงรถคันนั้นคือเสียงรถของเพื่อนน้องยา...หึ....หัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาเมื่อครู่อยู่ๆมันก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาราวกับว่ามันได้รับน้ำทิพย์จากฝากฟ้า.. รอยยิ้มที่เขาไม่ค่อยจะได้ยิ้มแบบนี้มานานเกือบเดือน.. รอยยิ้มที่มันมีความสุขที่มันออกมาจากภายจิตใจของเขา.. วันนี้เขายิ้มออกมาอีกครั้ง.. จริงอยู่รอยยิ้มนั้นเขาเคยมอบให้เจี๊ยบในวันที่เขาได้เจอกับเจี๊ยบอีกครั้ง.. แต่หลังจากนั้นรอยยิ้มที่มันแสดงออกมาถึงความยินดี.. ความดีใจและความสุขมันก็ไม่มีอี