ธันยกานต์ได้แต่จมอยู่ในความคิดของตัวเองมาหลายวันนับตั้งแต่วันที่เธอเห็นพี่กรกับผู้หญิงคนหนึ่ง.. ผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นมากมากเสียจนเธอคิดว่าเธอและคุณยาต้องรู้จักเป็นแน่... ไม่ได้การล่ะเธอต้องรู้ให้ได้...
ธันยกานต์มาหาคุณยาที่บ้านโดยที่เธอได้โทรมาถามก่อนแล้วว่าคุณยาอยู่บ้านหรืออยู่ที่ทำงานซึ่งคุณยาบอกว่าคุณยาพึ่งถึงบ้านเธอเลยรีบขับรถออกไปหาคุณยาทันที....
" มาแล้วเหรอกาน ว่าแต่มีอะไรจะคุยกับยาเหรอ?" วันนี้เธอรู้สึกว่าเพื่อนของเธอดูแปลกๆไปไม่เหมือนกานคนที่เธอเคยรู้จักเพราะวันนี้กานดูมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด.. ซึ่งใบหน้าแบบนี้เธอไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว...
" คุณยาคะกานมีอะไรจะถามคุณยาหน่อย.. คุณยาพอจำหน้าแฟนคนเก่าของพี่กรได้ไหมคะ?"
ธันยกานต์ไม่รอช้าเธอรีบถามคุณยาออกไปทันทีเพราะเธอจำเป็นต้องรู้ให้ได้.. เรื่องนี้มันกวนจิตใจเธอมาหลายวันแล้ว.. เธอนอนแทบจะไม่หลับเลยก็ว่าได้ตั้งแต่วันนั้นวันที่เห็นพี่กรเดินควงแขนกับเธอคนนั้น....
" พอจำได้นะ... ว่าแต่กานมีอะไรรึเปล่า..." เธอจำหน้าได้ดีเลยล่ะไม่ใช่แค่พอจำได้.. คนที่ทำให้พี่กรพี่ชายของเธอแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน คำที่ทำให้พี่กรเป็นคนพูดน้อยถามคำตอบคำ คนที่ทำให้พี่กรเป็นคนเย็นชา... ผู้หญิงคนนั้นเธอจำได้ดีเลยล่ะ.. กว่าเธอจะช่วยทำให้พี่ชายของเธอกลับมาเป็นปกติได้มันก็นานหลายเดือนเลยทีเดียวไม่เพียงแค่เธอนะที่ช่วยฉุดพี่กรขึ้นมาจากความเจ็บช้ำและความเศร้าใจ.. แต่กานก็เหมือนกัน กานเป็นคนช่วยพี่กร กานเป็นคนที่ทำให้พี่กรเริ่มพูดมากขึ้นถึงแม้ว่าการพูดของพี่กรมักจะเป็นคำบ่นก็ตาม.. แต่อย่างน้อยพี่ชายของเธอก็พูดเยอะขึ้นเมื่อกานเข้ามา...
" มีรูปไหมคะ? กานขอดูหน่อย...." เอาวะไหนๆมันก็มาถึงขนาดนี้แล้ว.. เธอต้องรู้เธอต้องเห็น..
" ได้สิน่าจะพอมีรู้สักใบสองใบหลงเหลืออยู่.. ขึ้นไปด้วยกันสิ.."
หมับ!!!
ทิติยากรจับข้อมือของกานเอาไว้พร้อมกับจับจูงพาขึ้นไปยังห้องนอนด้านบนของตัวเองทันที.. เธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าทำไมกานถึงมาถามเธอเรื่องนี้....
~~~~~
สองสาวช่วยกันสอดส่องมองหารูปที่น่าสงสัยแและในที่สุด....
" นี่ไง..เจอแล้ว.. อะ.. คนนี้แหละ.. แต่ว่ายาจำชื่อไม่ได้ยนะกาน.. จำไม่ได้จริงๆ.. ว่าแต่... กานมีอะไรรึเปล่า? มีอะไรใช่ไหม? กานพอจะเล่าให้ยาฟังได้ไหม?" เธอไม่อยากเห็นหน้าแบบนี้ของกานเลย.. ใบหน้าของกานเหมาะกับรอยยิ้มมากที่สุด.. ใบหน้าที่แสดงออกมาถึงความกังวล หวาดกลัว และเคร่งเครียดแบบนี้.. เธอไม่ชอบเลย...
" คือว่า... เมื่อหลายวันก่อนกานไปเจอพี่กรกับผู้หญิงคนนึงมาค่ะคุณยา.. กานรู้สึกคุ้นหน้าเป็นอย่างมากแต่กานเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่ากานเคยเห็นผู้หญิงคนนั้นที่ไหน.. ไม่เพียงแค่เขาจะเกาะแขนพี่กรเอาไว้แน่นนะคะ... แต่รอยยิ้มของพี่กร... รอยยิ้มที่กานไม่เคยจะเห็นสักครั้ง.. รอยยิ้มแบบนั้น.. พี่กรมอบให้ผู้หญิงคนนั้นค่ะ.. มันเลยทำให้กานอยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนั้นคือใครกันแน่.. ตอนแรกกานคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อน.. แต่เพื่อนกันไม่น่าจะเกาะแขนแบบนี้..และรอยยิ้มอีกต่างหาก.. รอยยิ้มที่แสดงออกมาถึงความดีใจและความใส่ใจ... มันเลยทำให้กาน... กลัวค่ะ.. กานเลยมาถามคุณยา..."
ใบหน้าที่ดูคล้ายจะร้องไห้ของกานทำให้ทิติยากรต้องรบลุกขึ้นไปกอดเพื่อนของเธอเอาไว้... และสุดท้าย.. กานก็ร้องไห้จริงๆ... เธอไม่ชอบเลย...
" กาน... ไม่เอาไม่ร้องเดี๋ยวยาจะร้องตาม... เราไปดูให้แน่ใจเลยเอาไหม... ขอยาดูก่อนว่าผู้หญิงคนนั้นทำอะไรที่ไหน.. แล้วเราไปลุยกันเลยนะ... กานจ๋า.. ไม่ร้องน๊าคนดีของยา.. นะคะที่รัก.. ไม่ร้องน๊า..." เธอไม่ชอบน้ำตาของกานเลย.. เธอไม่อยากจะเห็นเลยสักนิดกานเป็นผู้หญิงที่ร้องไห้แทบจะนับครั้งได้... แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่ากานจะหมดความอดทนเข้าให้.. พี่กรนะพี่กร.. ทำไมถึงทำนิสัยแบบนี้เนี่ย....
~~~~~
Sarinya Restaurant
สองสาวก้าวเข้ามาในร้านอาหารที่ขนาดปานกลางไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป.. แต่ดูแล้วเจ้าของน่าจะใช้เงินลงทุนเยอะอยู่เหมือนกันนะที่มาเปิดที่นี่ และไหนจะการตกแต่งและทำเลอีก... เดือนนึงค่าเช่าไม่น่าจะต่ำกว่าสามหมื่นได้..
ธันยกานต์รู้สึกร้อนรุ่มในใจอย่างบอกไม่ถูก.. ร่างกายของเธอรู้สึกว่ามันกระสับกระส่ายร้อนรน... มือไม้ของเธอไม่รู้ว่าจะเอาไปเก็บไว้ตรงไหน.. เธอกลัวมากเธอกังวลด้วย.. ไม่รู้สิเธอบอกไม่ถูกเลย...
ตึกตึกตึกตึก.....
เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยมันทำให้สองสาวถึงกับหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย..
ทิติยากรจูงมือที่เย็นเฉียบของกานไปยังทิศทางของเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยที่สุดแสนจะคุ้นเคยทันที....
" อ้าว.. พี่กรนี่เอง... ว่าแล้วเชียวยาได้ยินเสียงคับคล้ายคับคลาว่าเหมือนพี่ชายของยา.. แล้วก็ใช่จริงๆซะด้วย... ว่าแต่.. มีอะไรกันหรอคะทำไมหัวเราะมีความสุขกันจัง... อ๋อยาของนั่งด้วยคนนะคะ... หวังว่าพี่กรกับ.... คุณชื่ออะไรคะ?ยาจะได้เรียกถูก..." ตอนนี้เธอเองก็ไม่ขอทนแล้วนะ ทำไมพี่กรถึงเป็นคนแบบนี้เนี่ย....
" อ๋อสวัสดีค่ะน้องยา.. น้องยาจำพี่ได้ไหมคะ.. พี่เจี๊ยบไงค่ะ.. เชิญนั่งด้วยกันก็ได้นะคะที่นี่ร้านของพี่เอง..." ศรินยาตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มทันที.. เธอจำน้องยาได้ส่วนอีกคนเธอไม่แน่ใจนักว่าใช่เพื่อนสนิทของน้องยารึเปล่าเพราะดูสวยและดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย....
" อ๋อ... คุณนี่เอง.. คนที่ทิ้งพี่กรไป.. งั้น.. ยาขอเสียมารยาทนะคะ... มาค่ะว่าที่พี่สะใภ้ของยามานั่งตรงนี้.. คนเป็นคู่หมั้นกันต้องนั่งใกล้ๆคู่หมั้นของตัวเองสิ.. มาเร็วสิกาน.. ไม่ต้องเขินๆ คนกันเองทั้งนั้น.. จริงไหมคะคุณเจี๊ยบ.. " จะมาทำแบบนี้กับเพื่อนของเธอไม่ได้เธอไม่ยอม.. คนอะไรทิ้งเขาไปแล้วยังจะหน้าด้านหน้าทนวกกลับมาหาเขาอีก...
" อ๋อ.. เชิญค่ะๆ อยากจะสั่งอะไรไหมคะเดี๋ยวพี่จะไปเรียกเด็กมารับออเดอร์ให้.. "
" ก็ดีค่ะ.. กาน.. ตัวเองอยากกินอะไรอ่ะ.. ปูผัดผงกะหรี่ไหม.. ไม่ได้กินนานแล้ว... ยาอยากกิน..." วันนี้เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอสงบปากสงบคำเป็นพิเศษ ไม่รู้เพราะกำลังตกใจหรือว่ากำลังเสียใจกันแน่....
" กานยังไงก็ได้ค่ะคุณยา.. แล้วแต่เลยกานทานได้หมด กานเป็นคนทานง่ายอยู่ง่ายคุณยาก็รู้..."
ธันยกานต์ใช้เวลาอยู่พอสมควรที่จะรวบรวมสมาธิและความกล้าให้เธอกลับมาเป็นธันยกานต์คนเดิม... ตอบตามตรงเธอตกใจนะ.. และดูเหมือนว่าตอนนี้พี่กรเริ่มจะไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากเสียด้วย.. ที่ไม่สบอารมณ์คงเป็นเพราะการมาของเธอและของคุณยาเป็นแน่... แต่แล้วยังไงกันเธอเป็นคู่หมั้นคู่หมายของพี่กรฉะนั้นเธอมีสิทธิ์ที่จะมาแสดงตัวตน...
อาหารมื้อนี้ดูเหมือนจะเงียบเป็นพิเศษจะมีก็แค่เสียงการแนะนำอาหารต่างๆของเจ้าของร้านที่เคยเป็นอดีตแฟนเก่าของพี่กร.. และกิริยามารยาทของคุณพี่เจี๊ยบนั้นมันก็ทำให้เธอไม่กล้าที่กระแนะกระแหนออกมา.. จะมีก็แค่คุณยาที่พยายามกระแนะกระแหนคุณพี่เจี๊ยบ... เธอไม่รู้สิเธอดูเหมือนนางร้ายในสายตาของคนอื่นและของพี่กรแน่ถ้าเธอพูดหรือทำอะไรออกไป.. ดังนั้นเธอจึงขอนั่งเงียบไปก่อนก็แล้วกัน.....
ในที่สุดมื้ออาหารที่สุดแสนจะอึดอัดก็จบลง.. ตอนแรกคุณพี่เจี๊ยบจะเลี้ยงแต่พี่กรก็บอกว่าไม่ได้เพราะเขาไม่ต้องการมากินฟรี.. ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะช่วยจ่ายครึ่งนึง..เธอไม่อยากโดนพี่กรบ่นเอาน่ะว่าง่ายๆ เดี๋ยวจะมาล้ำเลิกบุญคุณอีก.. เธอไม่ชอบอะไรทำนองนี้..." มาทำไม?" คำถามสั้นๆที่ออกมาจากปากพี่กรหลังจากที่เดินออกมาจากร้านอาหารแล้ว.. มันเป็นโทนเสียงที่สุดแสนจะแตกต่างกับโทนเสียงที่เธอได้ยินเมื่อครู่ตอนที่พี่กรพูดกับคุณพี่เจี๊ยบเลยก็ว่าได้...." มาทานข้าวยังไงล่ะคะ มาร้านอาหารไม่มาทานข้าวจะให้มานั่งวิปัสนารึยังไงกันพี่กรก็ถามแปลกนะคะ..." ธันย กานต์ตอบออกมาราวกับว่าเธอนั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดแต่จริงๆแล้วหัวใจของเธอน่ะมันเดือดปุดๆเลยก็ว่าได้.. เพราะการกระทำและคำพูดของพี่กรมันทำให้เธอโมโหทั้งพี่กรและผู้หญิงคนนั้น.. แต่เธอไม่อยากจะระเบิดมันออกมาในตอนนี้... สาเหตุที่ไม่พร้อมจะระเบิดเพราะว่าคนทั้งสองคนยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่น่าเกลียดยังไงล่ะ เขาทั้งสองคนนั่งในมุมที่ใครๆก็สามารถมองเห็นได้.. มันจึงทำให้เธอไม่สามารถหาข้ออ้างมาตำหนิได้ยังไงเล่า...." ยัยน้องคิดจะทำอะไร?" " น้องจะทำอะไรล่ะคะ
ธันยกานต์ลูบแขนของตัวเองเบาๆ.. ร่องรอยที่พี่กรฝากเอาไว้มันเริ่มจางไปเยอะแล้ว.. บอกตามตรงช่วงนี้เธอห่างหายการไปหาท่านป้ามากเธอคิดถึงท่านป้านะแต่เธอก็กลัวว่าถ้าเธอไปเธอจะไปเจอพี่กรเข้าให้.. เธอยังไม่พร้อมที่จะไปสู้หน้าของพี่กร.. ความรู้สึกภายในจิตใจของเธอลึกๆมันทำให้เธอสับสน.. ว่าเธอควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้.. แต่พอเธอคิดดูอีกที... เธอก็คิดว่าเธอควรจะไปต่อเพราะเธอคือคู่หมั้นของพี่กร....ธันยกานต์ตัดสินใจแวะมาหาท่านป้าที่บ้านอย่างเช่นเคยทำ.. วันนี้เธอก็ยังหอบหิ้วผลไม้มาฝากเช่นเคย.. เธอต้องกลับมาเป็นธันยกานต์คนเก่าให้ได้...." ท่านป้าสวัสดีค่ะ... "เสียงสดใสของสาวน้อยที่เธอได้แต่เฝ้ารอให้มาหาหลายต่อหลายวันในที่สุดเจ้าตัวก็มาเสียที...." หายไปไหนมาหนูกาน.. ป้าคิดถึงแทบแย่.. บ้านหลังนี้เหงาจะตายพอหนูกานไม่มาหานะบ้านป้าเงี๊ยบเงียบ.. แล้วนั่นหอบอะไรมาอีกแล้วละนั่น.. ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะสิ้นเปลืองและยังเป็นของซื้อของขายหนูกานจะเอามาฝาก บ่อยๆแบบนี้ไม่ได้นะ อยู่ทานเข้าเย็นกับป้าก่อนไหม? คุณยาน่าจะใกล้ถึงแล้ว..."" ใจจริงก็อยากอยู่นะคะแต่พอดีนัดกับคุณแม่เอาไว้น่ะค่ะว่าจะไปทานข้าวเย็นด้วย.. คุณพ่อก็
ตึกตึกตึก....เสียงของการวิ่งลงมาของคนหลายๆคนทำให้คนที่กำลังลงมาถูกมองจากคนในร้านแทบจะทั้งหมด...หมับ!!" หยุดนะธันยกานต์.. ขอโทษเจี๊ยบเดี๋ยวนี้.... ขอโทษซะแล้วฉันจะไม่เอาเรื่องเธอ..." ทินกรกระชับต้นแขนของธันยกานต์เอาไว้แน่นเพราะตอนนี้เขาไม่พอใจธันยกานต์เป็นอย่างมาก... ธันยกานต์ไม่มีสิทธิ์มาพูดจาดูถูกคนของเขาแบบนี้.." ไม่!! กานไม่ขอโทษ.. พี่กรเป็นคู่หมั้นของกาน.. แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะคะเป็นอะไร? เป็นแฟนเก่าที่อยากจะเข้ามามีบทบาท.. เป็นแฟนเก่าที่หน้าด้านและพยายามที่จะแย่งคู่หมั้นของคนอื่น.. คนแบบนี้เหรอที่กานจะต้องขอโทษ.. ไม่ทราบว่ากานผิดอะไร? อ๋อ... ฉันพึ่งจะรู้นะคะว่าคนที่ชอบเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดีแบบคุณจะทำตัวได้ต่ำตมแบบนี้.. คงจะชอบสินะคะที่ลักกินขโมยกินน่ะ.. มันคงจะอร่อยน่าดู ถ้าไม่อร่อยคุณคงจะไม่มาเที่ยวชวนคู่หมั้นของคนอื่นเข้าห้องน้ำแล้วไปจูบนัวเนียกันในนั้น.. อย่า!! อย่าปฏิเสธ.. ปากของคุณสองคนมันยังเลอะลิปสติกอยู่เลย... ในเมื่อคุณทิ้งพี่กรไปแล้ว.. คุณจะกลับมาทำไม.. คุณจะย้อนกลับมาทำไมอีก.. คุณมันต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนกันเชียวถึงได้หน้าด้านหน้าหนาแบบนี้.."ตุบ!!"หยุดพูดจาดูถูกเจี
ธันยกานต์เก็บตัวเงียบมาหลายวันตอนนี้เธอไม่ต้องการพบใคร.. เธอไม่อยากเจอใครหรือพูดคุยกับใครทั้งนั้น.. เรื่องราวที่เธอพึ่งได้พานพบเจอ.. มันยังทำให้เธอเสียใจ..ติ๊งต๊อง.... ติ๊งต๊อง.....เสียงกริ่งหน้าห้องของเธอถูกกดติดกันถึงสองครั้ง.. ตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปดูหรอกแต่เพียงไม่นานก็มีข้อความส่งมาหาเธอให้เธอออกมาเปิดประตู....แกร๊ก...."กาน.. เป็นยังไงบ้าง.. ดีขึ้นไหม..." ไม่ได้พูดเปล่าแต่เขายังเข้ามากอดธันยกานต์เอาไว้ด้วย.. วันนั้นถ้าเขาไม่ทันได้สังเกตุดีๆเขาก็คงไม่เห็นถึงความถลอกปอกเปิกของยัยกานแน่ๆ.. ทั้งแขนทั้งขาถลอกไปหมดทั้งแทบ.. เขาล่ะอยากจะเอาปืนไปยิงมันให้มือขาดทั้งสองข้าง..." ไม่ดีเลย.. หนูไม่ดีเลย.. หนูจะทำยังไงดีพี่นพ.. หนูต้องทำยังไง..." เพียงเท่านั้นเอง.. เพียงแค่ประโยคคำถามของพี่นพที่ถามเธออกมามันก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง.... เธอเสียใจ.. เธอเจ็บที่หัวใจของเธอ...เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไป..เธอไม่รู้เลย..." อยากร้องก็ร้องออกมา.. ถ้าร้องเสร็จเราก็กลับมาเป็นยัยกานคนเดิมของพี่นะ.. พี่ไม่ชอบให้กานร้องไห้เหมือนเด็ดขี้แยแบบนี้เลย.. กานอย่าลืมสิว่ากานยังมีพี่ กานยังมีพ่อและแ
เพียงแค่เธอจอดรถของเธอที่โรงจอดรถเธอก็เห็นรถหนึ่งคันที่มันไม่คุ้นเคยจอดอยู่ก่อนหน้าเธอแล้ว.. ที่จอดรถประจำของเธอถูกรถของใครก็ไม่รู้มาจอดก่อน... จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ที่จอดรถของเธอหรอกเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะจับจองเลยด้วยซ้ำไป...เสียงพูดคุยที่เธอได้ยินมาจากด้านใน.. ทำไมวันนี้เธอถึงเลือกมาวันผิดนะ.. แต่ก็ช่างเถอะ.. มันจะได้จบๆไป..." ท่านป้า... " เธอต้องการจะทักทายสวัสดีเหมือนเช่นทุกครั้งแต่เธอก็ต้องสะอึกและกลืนความเสียใจก้อนโตลงคอของเธอลงไปในคอ.... ใช่นั่นคือพี่กรไม่สิ.. คุณชายทินกรกับคนรักของเขา... ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและรอยยิ้มที่คอยส่งไปให้กับคนรักของเขา.. มันเป็นสิ่งที่เธอเองก็อยากจะได้รับเช่นกัน.. แต่เธอไม่เคยที่จะได้เห็นเลยสักครั้ง.. นี่สินะที่เรียกว่าคนที่คู่ควร..." อ้าวหนูกานเองเหรอลูก.. ไม่มาหาป้าเสียนาน.. งานยุ่งเหรอลูก.. มาๆ หอบอะไรมาอีกล่ะนั้น.. หนูเจี๊ยบก็หอบอาหารมาให้... ไหนๆก็มาแล้วอยู่ทานข้าวด้วยกันนะลูก" ท่านหญิงศศิวารีที่ไม่ทันสังเกตุสีหน้าและแววตาของหนูกานเธอก็เลยเอ่ยชวนหนูกานทานข้าวเที่ยงด้วยกันเลย.." ไม่ดีกว่าค่ะท่านป้า.. หนูเอาผลไม้มาฝากค่ะ.. แล้วนี่" ธันยกานต์เลื่อนถุงกร
จากวันนั้นวันที่เธอนำของที่ท่านป้าให้เธอในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้ไปคืนมันก็ล่วงเลยเข้าไปสองอาทิตย์แล้ว.. จะว่าไปเธอเองก็รู้สึกเหงาอยู่เหมือนกันแต่เธอต้องทำให้ได้.. เธอต้องตัดใจจากเขาให้ได้....ก๊อกๆๆ" เชิญค่ะ..." ธันยกานต์หลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเองเพราะมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาขัดจังหวะ.." คิดถึงจัง... ทำไมกานใจร้ายกับยาจัง.. ไม่แวะไม่โทรหายาเลย.. กานไม่รักยาแล้วเหรอ?.. น้อยใจจัง..." ทิติยากรเปิดประตูออกมาพร้อมกับตำหนิเพื่อนของตัวเองทันที.. เธอได้ยินข่าวจากท่านแม่ว่ากานมาหาและมอบของหมั้นคืนให้กับท่านแม่.. แล้วไหนยังบอกว่าเจ้าของตัวจริงของของหมั้นกลับมาแล้วดังนั้นกานจึงนำของหมั้นมาคืนแก่เจ้าของตัวจริง... เธอเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากๆ... ทิ้งพี่ชายของเธอไปแล้วทิ้งไปพร้อมกับบาดแผลที่ใหญ่มาก.. มันใหญ่เสียจนพวกเธอทุกคนเป็นห่วงว่าพี่ชายของเธอจะทนบาดแผลนั้นไม่ไหวและยอมตายเพราะบาดแผลนั่น.. แล้วตอนนี้คืออะไร.. ย้อนกลับมาอีกครั้งพร้อมกับทำให้คนที่ช่วยให้พี่ชายเธอกลับมาพูดคุยและเป็นผู้เป็นคนอีกครั้งต้องเสียใจ.. เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะโกรธใครได้มากเท่ากับผู้หญิงคนนั้น...ธันยกานต์ยิ้มให้คุณยาด้วย
หลังจากเหตุการณ์นั้นที่เขาได้เจอกับน้องยาและเด็กคนนั้นโดยบังเอิญเขาก็รู้สึกแปลกว่าเหมือนกับว่าชีวิตของเขาที่คอยมีเด็กคนนั้นมาวุ่นวายอยู่ทุกๆวันมันเงียบเหงาผิดปกติ.. บางครั้งเขาก็ถึงกับชะโงกหน้ามองไปด้านนอกเพื่อดูว่าใครมาบ้านของเขา.. แต่มันก็ไม่ใช่คนที่เขารอ.." เบื่อจัง.. " ปากหยักได้รูปอยู่ๆก็พูดออกมาเองโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงเบื่อทั้งที่งานของเขาก็เยอะออกขนาดนี้และไหนเจี๊ยบโทรมาคุยกับเขาทุกๆวัน วันละสองครั้งตอนเช้าและก่อนนอน.. แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาขาดอะไรสักอย่างไป....เสียงเครื่องยนต์ที่ดังเข้ามาภายในบ้านเขาจำได้ดีว่าเสียงรถคันนั้นคือเสียงรถของเพื่อนน้องยา...หึ....หัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาเมื่อครู่อยู่ๆมันก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาราวกับว่ามันได้รับน้ำทิพย์จากฝากฟ้า.. รอยยิ้มที่เขาไม่ค่อยจะได้ยิ้มแบบนี้มานานเกือบเดือน.. รอยยิ้มที่มันมีความสุขที่มันออกมาจากภายจิตใจของเขา.. วันนี้เขายิ้มออกมาอีกครั้ง.. จริงอยู่รอยยิ้มนั้นเขาเคยมอบให้เจี๊ยบในวันที่เขาได้เจอกับเจี๊ยบอีกครั้ง.. แต่หลังจากนั้นรอยยิ้มที่มันแสดงออกมาถึงความยินดี.. ความดีใจและความสุขมันก็ไม่มีอี
เฮ้อ.... นี่ก็ล่วงเลยมาเกือบสองเดือนแล้วสินะที่เธอบอกตัวเองว่าเธอจะต้องเลิกรักเขาคนนั้นให้ได้.. ถึงแม้ว่ามันจะยากหน่อยแต่ตอนนี้เธอก็ทำสำเร็จแล้ว.. นิดนึง.. อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องมานั่งคิดว่าเขาจะไปหาใครหรือว่านัดกับใครลับหลังเธอ.. และเธอก็ไม่ต้องมานั่งดูรูปเขาตอนที่เธอเหงา... เพราะเธอได้ลบรูปเขาไปหมดแล้ว.. ไม่มีแล้วรูปของเขาไม่มีสักรูป.. ตอนนี้เธอมีแต่รูปแมว.. พี่นพซื้อมาฝากเธอหนึ่งตัว.. ขาสั้นๆจมูกแดงๆ.. ขี้อ้อนมากๆดูสิเธอหลงรักแมวตัวนั้นมากๆและแมวตัวน้อยของเธอก็หลงรักเธอด้วย..เธอคิดว่าอย่างนั้นนะฮิฮิ...ตืด.... ตืด...."ว่าไงคะคุณยา.. จะชวนไปไหนเอ่ย...""ไปเที่ยวกันไหม? เหงาน่ะวันนี้ขอท่านพ่อกับท่านแม่แล้ว.. ท่านพ่อท่านแม่อนุญาตแต่ไม่ให้กลับเกินเที่ยงคืน.. แต่ยาว่ายาจะขอนอนกับกาน.. ได้ไหมคะที่รัก~~" ธันยกานต์ถึงกับต้องอมยิ้มให้กับคุณยาทันที.. คุณยาก็เหมือนเด็กน้อยตัวเล็กๆที่ขี้อ้อนมากๆ.. เธอกับคุณยาก็ติดต่อคุยกันเหมือนเดิมก่อนที่เธอจะตัดใจจากเขาคนนั้น.. ส่วนท่านป้าเธอก็แวะไปหาบ้างถ้าวันไหนเธอแวะไปหาท่านป้ามักจะชวนเธอไปที่สวนดอกไม้ของท่านป้าและคุณยามากกว่านั่งในห้องนั่งเล่นเพราะการที
ในที่สุดวันที่เขาจะได้เจอลูกแฝดของเขาแล้ว.. เขาทั้งตื่นเต้นและดีใจมากๆท่านแม่ท่านพ่อและพระญาติของท่านแม่ต่างพากันเห่อหลานตั้งแต่ยังไม่คลอดเลยก็ว่าได้.. ทุกพระองค์ต่างเสด็จมาเยี่ยมมาพูดคุยกับเขาและกานกันอย่างเป็นกันเอง.. และเมื่อถึงกำหนดคลอดทุกพระองค์ก็พากันมายืนรอที่หน้าห้องคลอด.. ท่านแม่เป็นคนเล่าให้ทางฝั่งพระญาติฟังว่าสะใภ้ของท่านน้ำคล่ำแตกแล้วและบอกว่าเขาได้พาไปที่โรงพยาบาลก่อนแล้ว.. หลังจากนั้นไม่นานพระญาติฝั่งท่านแม่ก็พากันมาเฝ้าธันยกานต์ที่นี่กันเต็มหน้าห้องคลอดเลย...เวลาที่ทุกคนรอคอยตอนนี้ก็มาถึงเมื่อประตูห้องคลอดเปิดออกมาทุกพระองค์ทุกท่านก็รีบกรูกันมายังรถเข็นอันเล็กๆที่มีร่างจ่ำม้ำของแฝดชายอยู่..กว่าเขาและลูกแฝดจะผ่านด่านไปได้ก็เล่นเอาเหนื่อยไปตามๆกัน..ภายในห้องพักตอนนี้ทุกพระองค์ต่างพากันพูดคุยส่งเสียงหัวเราะกันด้วยความสนุกสนานราวกับว่าวันนี้เป็นวันรวมญาติยังไงก็ไม่รู้.." เอาเป็นว่าเดี๋ยวถ้าสะใภ้หญิงศศิออกจากโรงพยาบาลเมื่อไรฉันจะไปเยี่ยมที่วังนะ..."" เพคะท่านพี่... " ท่านหญิงศศิวารีขานรับด้วยความยินดี.. ท่านพี่หญิงของเธอทรงกล่าวเอาไว้แล้วว่าไม่อยากจะรบกวนเด็กๆและหลานสะใ
เสียงโอ้กอากที่ดังออกมาจากห้องน้ำในคอนโดทำให้ทินกรถึงกับอยากจะแพ้ท้องแทนธันยกานต์ เขานึกสงสารน้องกานเหมือนกันนะ นี่ขนาดท้องไปได้สามเดือนแล้วแต่อาการแพ้ท้องมันยังไม่เบาบางลงเลยสักนิด แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะการแพ้ท้องของธันยกานต์ทำให้อย่างน้อยเขาได้อยู่กับธันยกานต์ได้ทั้งวันจนแทบจะนั่งสิงกันอยู่แล้ว..." กานครับ.. กลั่วปากหน่อยนะ แล้วอะดมซะ..." ทินกรเดินเข้าไปหาเมียตัวน้อยของเขาทันทีพร้อมกับอ้าแขน กว้างๆรอให้ธันยกานต์ได้เข้ามาซุกไซร้ที่ตามคอของเขา.. หึหึใช่ธันยกานต์แพ้ท้องแบบว่าติดกลิ่นของเขา ไม่เพียงแค่สูดดมนะจะมีบ้างที่เจ้าตัวเผลอดูดที่ลำคอของเขา.. เมื่อไรที่เจ้าตัวดูดที่คอของเขาเมื่อนั้น.. เพลงรักอันร้อนฉ่าของเขาและเธอก็เริ่มขึ้นทันทีโดยที่ไม่มีอะไรมาหยุดความต้องการของว่าที่คุณแม่ลูกแฝดได้นอกจากว่าเจ้าตัวจะพอใจและสุขสม.... เมื่อนั้นเจ้าตัวถึงจะอาการดีขึ้น.. ส่วนเขาน่ะเหรอก็ติดกลิ่นเมียนะ.. เวลาเขาไปไหนมาไหนเขาจะต้องมีกางเกงชั้นในของน้องกานติดไปด้วยเสมอ บางทีเขารู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะอาเจียนเขาก็จะหยิบกางเกงชั้นในของน้องกานออกมาสูดดมราวกับคนโรคจิต.. แต่เขาก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไรเพราะมันคือเ
ตอนนี้ทินกรและธันยกานต์ไม่ว่าจะไปแห่งหนตำบลไหนก็จะเห็นเขาและเธอไปไหนมาไหนด้วยกัน.. ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขามันก็เริ่มดีขึ้นมาบ้างแล้ว.. ตอนนี้ทินกรสามารถจับมือและโอบไหล่ธันยกานต์ได้แล้วโดยที่เจ้าตัวไม่บ่นหรือปัดมือเขาหนี.. และที่สำคัญเขาจัดเต็มทุกคืนและเวลาที่เขาไปเฝ้าธันยกานต์ที่บริษัทเขาก็จะจับธันยกานต์กินนานนับชั่วโมงเพื่อเร่งน้ำเชื้อของเขาให้มันเดินเร็วขึ้น.. อาหารการกินและไหนจะเครื่องดื่มที่เขาจัดหามาให้อย่างเต็มที่เขาคิดว่าอีกไม่นานธันยกานต์ก็น่าจะท้อง...." อยากกินอะไร? พี่อยากกินหอยนางรมอ่ะ เราไปหาร้านที่หายหอยนางรมกินกันดีกว่าไหม แบบว่ายำหอยนางรม ร้านซีฟู้ดเป็นไง ไปกินกุ้งกัน กุ้งตัวโตๆ หอยนางรมตัวใหญ่ๆ.. ไปกัน.." ทินกรไม่รอให้กานได้ตอบตกลงหรือว่าตอบปฏิเสธเขาเลยสักนิดเขาเลือกที่จะจัดแจงทุกอย่างด้วยตัวเขาเองโดยการถามเองและตอบเอง.. แต่จะว่าไปอยู่ๆเขาก็อยากกินอาการทะเทขึ้นมา... สงสัยคงจะต้องหาเวลาว่างพากานไปเที่ยวทะเลไปหาอาหารทะเลสดๆกินกันดีกว่า...เมื่อทั้งสองคนมานั่งร้านอาหารที่ติดริมแม้น้ำเจ้าพระยาเพียงเดินเข้ามาทั้งสองคนก็ถึงกับน้ำลายแตกกันถ้วนหน้า.. ไม่รู้เพราะกลิ่
ทินกรรีบเดินกลับมาหาธันยกานต์อย่างรวดเร็ว สายตาของเขาและเธอต่างจ้องมองกันอย่างไม่มีใครคนใดคนนึงหลบหลีกสายตาอันร้อนแรงของกันและกัน..." พี่จะไม่ขอหรือถามกานแต่พี่จะทำในสิ่งที่พี่ต้องการ พี่เป็นของกาน และกานก็เป็นของพี่.. ต่อจากนี้ไปพี่จะเป็นของกานคนเดียวและกานก็จะเป็นของพี่แค่คนเดียว...." แล้วถ้าฉันไม่ต้องการละคะคุณจะทำยังไง..."หึหึหึ..." พี่ก็จะบังคับ.. เมื่อพี่ต้องการอะไรหรืออยากได้อะไร.. พี่ก็จะไม่รอช้าอีกต่อไป.. ฉะนั้นน้องกานเตรียมตัวได้เลยครับเพราะหลังจากวินาทีนี้พี่จะทำทุกวิถีทางให้กานนั้นมาเป็นของพี่.. ถึงแม้ว่าจะต้องใช้วิธีที่สกปรกพี่ก็จะทำ..."จุ๊บ...ทินกรจูบลงไปที่ริมฝีปากสีแดงสวยสดใสของธันยกานต์อย่างแผ่วเบา.. เขาค่อยๆแทะเล็มและกลืนกินริมฝีปากสวยสดของธันยกานต์อย่างตั้งอกตั้งใจ.. ฝ่ามือที่เรียวนิ่มตามประสาคนที่ไม่เคยต้องทำงานหนักค่อยๆลูบไล้และบีบนวดกระตุ้นให้ร่างกายสวยสมส่วนมีอารมณ์ไปกับเขา..ธันยกานต์แอ่นตามอารมณ์ที่เธอมีร่วมไปกับเขา... ทุกสัมผัสที่เขามอบให้มันความเคยชินที่เธอเคยได้รับมาจากเขา.. สัมผัสที่มันเบาหวิวราวกับขนนกที่พัดผ่านอย่างแผ่วเบาตามร่างของเธอ..ร่างกายเปล
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก... ตอนนี้เธอมาอยู่เป็นเพื่อนเขาได้สองอาทิตย์แล้ว.. ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับคนรักเก่าของเขาตอนนี้ท่านป้าดำเนินคดีจนถึงที่สุดในข้อหาพยายามฆ่า ถึงแม้ว่าทางนั้นจะปฏิเสธเพียงใดแต่คำพูดและการกระทำถูกบรรทึกเอาไว้จากทางร้านอาหารนั้นหมด.. มันจึงทำให้อดีตคนรักเก่าของเขาไม่สามารถหลุดพ้นข้อหานั้นได้.. ไม่เพียงแค่จะติดคุกแต่อดีตคนรักเก่าของเขาหรือคุณชายทินกรพยายามขอความช่วยเหลือจากคนที่หล่อนเคยอยู่ด้วยหลายปีแต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่ยอมยื่นมือลงมาช่วยเพราะคนที่หญิงสาวได้ไปทำร้ายนั้นเป็นถึงครอบครัวราชนิกุลใครบ้างจะไม่รู้จักท่านผู้หญิงศศิวารี และคุณชายพิรัตน์ ดังนั้นคนที่คอยสนับสนุนหญิงสาวมาตลอดจึงเลือกที่จะตัดหางปล่อยวัดและหุบกิจการร้านอาหารของเธอทันที.."เสียใจไหมคะคนรักเก่าของคุณถูกจับและไม่ได้ประกันตัว..." มือบางที่กำลังจัดแจงผลไม้ใส่จานอยู่แต่ปากก็ขยับเขยื้อนเอ่ยถามออกไปด้วยความใคร่รู้..." เอ.. ถามแบบนี้.. หึงรึเปล่าน๊า... หึหึ" ทินกรหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ.. ตั้งแต่ที่เขาเจ็บตัวธันยกานต์ก็คุยกับเขามากขึ้น..ถึงแม้ว่ามีบ้างที่เจ้าตัวเอ่ยคำประชดประชั
ธันยกานต์เดินไปเดินมาหน้าห้องผ่าตัดนานนับชั่วโมงจนเพื่อนสนิทของเธออย่างคุณยาต้องเดินมาหาและเอามือเรียวของเธอมาวางไว้ที่ไหล่เล็ก..." เราไปนั่งรอกันตรงนู้นดีกว่ากาน.. เดินไปเดินมายาปวดหัว.. อีกสักพักท่านแม่และท่านพ่อก็น่าจะมาแล้ว...." ทิติยากรรีบชักชวนเพื่อนของเธอให้ไปนั่งรอที่เก้าอี้ว่างหน้าห้องผ่าตัดทันที.. เธอน่ะปวดหัว ตาลายมากๆเลยจะบอกให้....เพียงแค่สองสาวก้นแตะถึงเก้าอี้ทีมแพทย์และพยาบาลก็เปิดประตูห้องออกมาด้วยสีหน้าอันเหนื่อยล้า....ตึกตึกตึก...." คุณหมอค่ะ.. พี่กรเป็นยังไงบ้างคะ?" ธันยกานต์เก็บความเป็นห่วงเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไปเธอต้องการที่จะรู้ว่าอาการของเขาหนักหรือไม่.. เธอจะดีใจมากถ้าคุณหมอบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก...." ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็คงจะต้องให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อไปก่อนและรอให้ผ่านคืนนี้ไปก่อนนะครับถ้าทุกอย่างปกติดีพรุ่งนี้เราจะย้ายผู้ป่วยไปอยู่ในห้องพิเศษ.. ยังไงหมอขอตัวก่อนนะครับ...""ค่ะ..ขอบคุณนะคะ...." ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เธอเบาใจขึ้นมาได้แต่เธอก็ยังคงไม่หายกังวลอยู่ดี" เอานะพี่กรอยู่กับทีพยาบาลและหมออย่างใกล้ชิดแล้ว.. ยาว่าไม่น่าจะมีอะไรหน้าเ
บอกตามตรงเธอก็ตกใจเหมือนกันนะที่อยู่ๆอีตาคุณชายทินกรมาสารภาพรักกับเธอที่ร้านอาหารแห่งนี้.. เธอควรจะเชื่อคำพูดของเขาใช่ไหม? คำพูดของเขาเชื่อได้ใช่ไหม?" เราต้องขอโทษเจี๊ยบด้วยนะที่ว่าเราบอกเจี๊ยบช้าไป.. เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นมันทำให้เจี๊ยบคิดไปไกลและยังคิดว่าเรานั้นรักเจี๊ยบอยู่.. อาจจะมีแค่ช่วงแรกเท่านั้นที่เรารู้สึกดีใจที่ได้เจอเจี๊ยบอีกครั้ง.. แต่เมื่อมันผ่านไปนานๆ.. เราก็คิดว่าเราไม่ได้รักเจี๊ยบเหมือนเช่นเคย.. เพียงแค่ตอนนั้นเรายังไม่คิดจะยอมรับความจริงก็เท่านั้น.. เราไม่ยอมรับความจริงว่าที่จริงแล้วหัวใจของเรา.. " ทินกรกระชับมือของธันยกานต์เอาไว้พร้อมกับบีบเบาๆเพื่อเป็นการยืนยันว่าคนที่เขาพูดถึงคือเธอคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น.. เขาต้องการยืนยันให้ธันยกานต์ได้รับรู้ว่าเธอคือคนที่เขาพูดถึง..." เรารักธันยกานต์.. เรารักธันยกานต์มาตลอดเพียงแค่ตอนนั้นเราพยายามหาข้อแก้ตัวและคำแก้ต่างก็เท่านั้นว่าเรานั้นไม่ได้ชอบธันยกานต์.. เราทำเรื่องบ้าลงไปเพียงเพราะเราไม่กล้ายอมรับหัวใจตัวเอง.. เราผลักไสไล่ส่งผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เรากลับมายิ้มได้อีกครั้งหลังจากที่เจี๊ยบทิ้งเราไป... เราผิดเอง.. ถ้าเจี
หลายวันผ่านมานี้กานจะไปไหนมาไหนก็ขยับตัวได้ยากลำบากมากเลยทีเดียว... เธออยากจะมีอิสระบ้างแต่เธอไม่เคยได้พบเจอเลยหลังจากวันที่เธอถูกพบว่าอยู่กับคุณชายทินกรในห้องของเขา.. เขาก็ตามติดเธอมาตลอดหลายวันมานี้เขาตามเธอไปทุกที่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ยกเว้นก็เพียงแค่ห้องน้ำที่เขายังไม่ตามเธอเข้าไป..." กาน.. วันนี้ท่านแม่และท่านพ่อเข้าไปคุยเรื่องของพวกเรากับพ่อและแม่ของกานแล้ว.. ต่อไปนี้กานคือคู่หมั้นของพี่.. ไม่ว่าจะอยากหนียังไง.. กานก็หนีพี่ไม่ได้อีกแล้วและที่สำคัญไม่ว่าใครหน้าไหนมันต้องการจะครอบครองกานขนาดไหน.... มันพวกนั้นก็ไม่มีสิทธิ์... เพราะมีเพียงพี่เท่านั้นที่มีสิทธิ์ในตัวของกาน...." ทินกรพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความดีใจ.. เขาเองแหละที่เป็นคนเร่งให้ท่านแม่ไปคุยกับพ่อและแม่ของธันยกานต์..." ทำไมคะ? ทำไมถึงอยากจะหมั้นกับฉันอีก.. ในเมื่อเป็นคุณไม่ใช่เหรอที่ผลักไสไล่ส่งฉันให้ไปไกลๆคุณ.. แล้วตอนนี้.. ตอนที่ฉันลืมคุณได้แล้ว.. คุณยังอยากจะมามีตัวตนกับชีวิตฉันทำไมอีกคะ..." ใครบอกกันว่าเธอลืมเขาได้.. เปล่าเลยเธอลืมเขาไม่ได้สักนิดพยายาม.. เธอแค่พยายามที่จะลืมเขาแต่เธอยังทำมันไม่ได้ต่างหากล่ะ...
ทินกรรีบกลับขึ้นมาบนเตียงของเขาและสอดตัวเข้าไปอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันกับกานทันที.. มือยาวเรียวของเขาค่อยๆสอดเข้าไปในเสื้อยืดของเขาที่มันมาอยู่บนเรือนร่างของกานอย่างช้าๆ... ร่างกายและผิวพรรณของธันยกานต์เขายอมรับว่ามันเนียนมากและลื่นมือสุดๆ.. เขาไม่รู้หรอกว่าเจ้าตัวทำยังไงถึงได้ผิวดีขนาดนี้.. มีหลายคนที่เขาเคยมีประสบการณ์ในเรื่องอย่างว่ามาบ้างแต่ผิวพรรณก็ไม่ได้ดีขนาดนี้เลยสักนิด....จุ๊บ...ทินกรจูบลงไปที่แผ่นหลังของธันยกานต์อย่างแผ่วเบา.. ใบหน้าคมของเขาซุกไซร้ไปที่แผ่นหลังด้วยความหลงไหล.. ริมฝีปากเรียวสวยราวกับผู้หญิงของเขาค่อยๆขบเม้มไปทีละนิดทีละนิด.. จนตอนนี้คนที่กำลังหลับไหลค่อยๆเปร่งเสียงครางอื้อๆออกมาทีละนิด" อื้อ... "คนที่กำลังหลับไหลอย่างสบายกลับถูกก่อกวนด้วยอะไรบางอย่างซึ่งมันทำให้เธอนั้นถึงกับรำคาญใจมากๆ เธอไม่ชอบเลยที่เวลาเธอกำลังนอนหลับแล้วมีอะไรมารบกวนเธอในยามที่เธอกำลังนอนหลับพักผ่อน...." อย่ายุ่ง.."น้ำเสียงที่งัวเงียของธันยกานต์ทำให้ทินกรถึงกับต้องหัวเราะเบาๆทันที... นานแล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะออกมาด้วยความสุขแบบนี้..ถึงแม้คนที่หลับอยู่พยายามที่จะผลิกตัวหนีหรือใช้มือป