วันแล้ววันเล่าที่กานแวะมาหาพี่กรและท่านป้าทุกครั้งที่เธอมาเธอมักจะหอบหิ้วข้าวของมาฝากเสมอ.. ครั้งนี้เธอได้องุ่นเล็บมือนางสดๆหวานๆมาก และไหนจะมีลิ้นจี่จักรพรรดิ์ลูกโตๆสีสวยๆมาฝากอีกหนึ่งกระเช้าใหญ่.. เธอถามคุณยาแล้วว่าพี่กรอยู่บ้านไหมคุณยาบอกว่าพี่กรอยู่ดังนั้นเธอจึงรีบบึ่งรถมาหาทันที.....
" สวัสดีค่ะท่านป้า.. วันนี้มีของมาฝากด้วยนะคะ.. ดูนี่สิคะมีองุ่นและลิ้นจี่มาฝากด้วย.. ว่าแต่พี่กรยุ่งอยู่รึเปล่าคะหนูคิดถึ๊งคิดถึง..." พูดจบเธอก็ทำท่าหัวเราะแยะยักไหล่ของตัวเองขึ้นด้วยความตลก.. ก็คนมันคิดถึงนี่นา.. ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันมันก็ต้องคิดถึงกันบ้างสิ...
" อยู่ในห้องทำงานน่ะหนูกาน.. ถือมาอีกแล้วนะ..ดูสิมีแต่ลูกงามๆทั้งนั้น..."
" งามเหมือนท่านป้าค่ะ.. และหวานด้วย.. ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวเอาลิ้นจี่กับองุ่นไปฝากพี่กรก่อนนะคะ.. วันนี้อยู่ได้ไม่นานเพราะจะต้องเข้าโกดังด้วย...." เธอไม่ได้นำเข้าผลไม้อย่างเดียวนะ เธอยังนำเข้าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้อีก.. ส่วนเครื่องสำอางค์เธอไม่กล้านำเข้าเพราะถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมามีคนร้องเรียนขึ้นมาเธอถูกฟ้องขึ้นมาล่ะก็.. ล้มละลายแน่นอน.. ดังนั้นเธอจึงเลือกนำเข้าพวกผลไม้ทั้งสด อบแห้ง แช่อิ่มและเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้พอ.. เพียงแค่นี้เธอก็มีเงินถุงเงินถังแล้วและยังเหลือแบ่งให้แม่ของเธออีก...
" ตามสบายๆ.. ถ้าอยากได้อะไรก็เรียกเด็กเอาละกันนะหนูกาน..."
"หนูอยากได้พี่กร.. หนูจะเรียกใครได้บ้างคะ.. ฮ่าๆๆ" พูดจบเธอก็ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความเขินอาย.. เธอนี่นะปากเนี่ยเก็บไม่เคยอยู่เลย.. คิดอะไรก็พูดออกไปตลอด.. คนอื่นเขาก็รู้หมดน่ะสิว่าเธอน่ะคลั่งรักพี่กร.... อยู่ฝ่ายเดียว.. เฮ้อ.. พูดแล้วก็เศร้าเพราะจนป่านนี้แล้วพี่กรยังไม่ยอมรับรักเธอเลย.. เธอพูดกับพี่กรออกจะบ่อยว่าเธอรักพี่กร เธออยากจะแต่งงานกับพี่กร... แต่พี่กรนี่สิยังนิ่งเงียบทำตัวราวกับรูปปั้นเทพเจ้าหน้าหล่ออยู่ได้.. คอยดูเถอะถ้ายังขืนเล่นตัวไปอีกแบบนี้นะเธอจะ... เธอจะอะไรดี.. ไม่เอาๆเธอไม่กล้าพูดหรอกว่าเธอจะเลิกรักพี่กรเพราะเธอทำไม่ได้.. ไม่มีทางทำได้แน่นอน... ช่างมันเถอะไปดีกว่า...
" หึหึหึ.. เด็กคนนี้นี่.. ไปๆอย่าดื้อให้มากนักเดี๋ยวจะโดนคุณกรดุเอา..." เธอน่ะรักหนูกานราวกับเป็นลูกของตัวเองเลยก็ว่าได้.. แม่ของหนูกานน่ะคือเพื่อนสนิทของเธอเอง.. เอมอรกับเธอรู้จักกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยยังสาวๆ เอมอรเคยช่วยเหลือเธอตอนที่เธอถูกเพื่อนต่างชั้นแกล้ง แต่เสียดายอยู่ๆเอมอรก็ต้องย้ายโรงเรียนไปอยู่ที่อื่นทำให้เธอทั้งสองคนจึงขาดการติดต่อจนมาวันหนึ่ง.. วันที่เอมอรมากับสามีนั่นคือพ่อของหนูกาตเธอจึงได้พบและคุยกับเอมอรอีกครั้งและหลังจากนั้นพวกเธอสองคนก็คุยกันมาตลอดจนพวกเธอทั้งสองคนตั้งท้องลูกสาวและด้วยความที่เธอนั่นรู้สึกถูกชะตากับหนูกานเธอจึงเผลอพูดออกไปว่าถ้าโตขึ้นไปจะให้หนูการกับคุณกรหมั้นและแต่งงานกัน.. ตอนนั้นเธอจำได้ว่าหนูกานพึ่งจะ10ขวบเองส่วนคุณกรก็น่าจะ15ปีได้.. และเมื่อคุณกรมีแฟนเรื่องนี้ก็ถูกพับเก็บลงไปทันที.. จนมาวันหนึ่งวันที่คุณกรลูกชายของเธอถูกหักอกเข้าให้.. คุณชายถึงกับทำเรื่องขอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทันที.. และพอครบกำหนดกลับหนูกานก็กลับมาเรียกร้องสิทธิ์กับเรื่องที่เธอเคยพูดไปเมื่อครั้งที่ทั้งสองคนยังเด็ก.. เธอก็ดีใจนะที่จะได้หนูกานมาเป็นลูกสะใภ้.. แต่คุณกรนี่สิ.. ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจหนูกานเลยสักนิดเวลาหนูกานมาหาก็ชอบทำหน้าเบื่อโลกบ้าง ดุหรือบ่นหนูกานแรงๆบ้าง.. ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะร้องไห้ขี้หมูกโป้งไปแล้วและไม่มาเหยียบที่นี่อีก.. แต่สำหรับหนูกานคือไม่ใช่.. หนูกานเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายหนูปลายถือคติที่ว่า ผู้ชายด่าคือผู้ชายรัก แต่เธอไม่รู้หรอกว่าสำหรับคุณกรลูกชายเธอนั้นด่าคือด่า หรือว่าด่าคือรักกันแน่... เอาเป็นว่าเธอหวังว่าสักวันคุณกรจะเห็นใจหนูกานบ้าง....
ก๊อกๆๆๆ
" ขออนุญาตค่ะพี่กร... กานมีผลไม้มาฝากพี่กรค่ะ พี่กรทานเลยไหม?"
ธันยกานต์รีบบอกเจตจำนงของตัวเองทันทีเพราะถ้าเธอไม่บอกมีหวังพี่กรคงจะดุเธอแน่ๆ.. ดุกว่าน้องหมาก็คือพี่กรนี่แหละ.. ขยันดุเธอซะเหลือเกิน..
" มาทำไม? ว่างนักหรือยังไงกัน..."
ทินกรละสายตาจากเอกสารของเขาละมองมายัง ธันยกานต์ด้วยสายแต่ที่แสดงออกมาให้เห็นว่าเขานั้นรำคาญสาวเจ้ามากแค่ไหน.. ไม่รู้จะมาอะไรได้ทุกวี่ทุกวันงานการไม่รู้จักทำเลยรึงไงกัน....
" ไม่ว่างค่ะแต่มันคิดถึงพี่กรนี่นา... ทนคิดถึงไม่ไหวก็เลยรีบมาหาให้มันกระชุ่มกระชวยหัวใจจะได้มีแรงไปทำงานต่อยังไงล่ะคะ.. พี่กรไม่คิดถึงกานบ้างเหรอคะ? กานน่ะคิดถึ๊งคิดถึงพี่กร... วันไหนไม่ได้เห็นหน้าพี่กรนะ.. กานล่ะนอนไม่หลับเลยทีเดียว... ดีที่กานพอมีรูปพี่กรในมือถืออยู่บ้างมันเลยทำให้หายเหงาขึ้นมาบ้างเวลาที่กานไม่ได้เจอพี่กร..."
ทินกรถึงกับตกใจในสิ่งที่ได้ยินทันที... เด็กคนนั้นถึงกับมีรูปเขาเอาไว้ในมือถือเลยอย่างนั้นหรอ? ทำตัวเหมือนกับตัวเองเป็นโรคจิตยังไงยังงั้น...
ครืด.... ตึกตึกตึก...
"เอามือถือมา..."
"ไม่ให้ค่ะจ้างให้กานก็ไม่ให้หรอก..." ธันยกานต์รีบถอยหลังหนีพี่กรทันที.. ใครจะยอมให้กันเล่าไม่มีทางหรอก..
"เอามา..."
ธันยกานต์รีบวิ่งหนีทันทีเธอพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้..แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ทันขายาวๆของพี่กร...
หมับ!!!
ทินกรรีบคว้าเอวของธันยกานต์เอาไว้พร้อมกับรีบใช้มือของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าหรูราคาแพงและควานหามือถือของธันยกานต์ทันที....
คริคริ...
ทินกรถึงกับต้องขมวดคิ้วทันทีเขาไม่เข้าใจว่าธันยกานต์ หัวเราะทำไม...
" แหม.. อยากกอดกานก็ไม่บอก.. แกล้งทำเป็นมาขึ้นเสียงและแกล้งหามือถือของกาน.. ขอดีๆก็ได้นี่คะไม่เห็นต้องสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาเลย....." ธันยกานต์ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ.. เธอรู้ว่าพี่กรน่ะหามือถือของเธอจริงๆคงจะอยากลบรูปของเขาแต่มีเหรอเธอจะยอมเธอต้องหาวิธีที่จะทำให้พี่กรล้มเลิกความคิดนั้นโดยการแอบอ้างว่าพี่กรต้องการกอดเธอยังไงล่ะ...
ทินกรถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาทำและคำพูดที่ธันยกานต์พูดเมื่อเขาตั้งสติได้เขาก็รีบปล่อยเอวคอดและร่างที่สมส่วนของธันยกานต์ทันที....
"ลบออกซะ แล้วก็ออกไปได้แล้วน่ารำคาญ.. เธอรู้ไหมว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สุดแสนจะน่ารำคาญที่สุด... ออกไปได้แล้ว" ทินกรรีบกลบเกลื่อนความอายของเขาด้วยการไล่เด็กคนนั้นออกจากห้องของเขาทันที...
ฮ่าๆๆ
" ไปค่ะๆ ไปแล้ว.. ไม่ต้องเขินนะคะ.. กานไปแล้ว..ยังไงอย่าลืมทานแก้วมังกรด้วยนะคะหวานอร่อยมาก กานชิมมาแล้วตั้งหลายลูก ถ้าอยากทานลิ้นจี่ก็อยู่ด้านนอกนะคะกานไปแล้วนะคะอย่ามัวแต่คิดถึงอ้อมกอดเมื่อกี้ที่พี่กรมอบให้กานนะคะ.. ไปแล้วนะคะ คิดถึงพี่กรม๊ากมากนะคะ.." ธันยกานต์ส่งจูบให้กับพี่กรไปหนึ่งที.. เธอละชอบที่สุดตอนที่พี่กรทำตัวเขินแบบนี้.. น่ารักจะตายไป...
แกร๊ก.....
เมื่อประตูห้องทำงานปิดลงเขาถึงกับต้องถอนหายใจออกมาให้ความวุ่นวายที่ธันยกานต์พึ่งจะสร้างขึ้นมา.... เขาไม่เคยรำคาญใครมากๆเท่ากับธันยกานต์มาก่อนเลยก็ว่าได้....
ช่วงนี้งานของธันยกานต์เองก็รัดตัวมากเธอไม่ค่อยได้มีเวลาแวะเวียนไปหาพี่กรเลย.. เธอได้แต่หยิบสมาร์ทโฟนราคาแพงของเธอขึ้นมาและดูภาพของพี่กรเอา.. ภาพต่างๆเธอได้มาจากคุณยายังไงล่ะ เธอขอร้องคุณยาว่าให้คุณยาช่วยแอบถ่ายรูปพี่กรให้เธอที แลกกับคอลเลคชั่น เสื้อผ้าแบรนด์หรูที่เธอนั้นมักจะได้รับข่าวสารและคำเชิญให้ไปร่วมงานทุกครั้ง.. และเรื่องแค่นี้ทำไมเธอจะทำไม่ได้ล่ะเพื่อพี่กร.. เธอพร้อมลุยค่ะมาเลยค่ะก๊อกๆๆ"เชิญค่ะ..." เสียงอันไพเราะของเจ้าของห้องทำงานหรูอนุญาตให้คนที่เคาะประตูเข้ามาได้ ปกติไม่มีใครจะเข้ามาหาเธอหรอกนอกจากคุณเลขาและคุณยา.. " ยุ่งอยู่เหรอคะเพื่อนสาว...." และนั่นไม่ใช่เสียงใครเพราะนั่นคือเสียงของคุณยานั่นเอง.. วันนี้มาที่นี่ได้แสดงว่าอยากจะชวนเธอไปไหนอีกแน่ๆเลย..."ไม่ว่างค่ะคุณยา.. แต่ถ้าคุณยาอยากจะไปไหนบอกได้นะคะเพื่อนพร้อมค่ะ.. แต่คงต้องรออีกนิดนะคะ ขอเคลียร์เอกสารนำเข้าฉบับนี้ก่อน.. ไม่เกิน20นาทีรอได้ใช่ไหมคะ" ธันยกานต์รีบบอกให้เพื่อนของตัวเองทราบทันทีเพราะเธอน่ะรู้ดีว่าคุณยาน่ะขี้น้อยใจขนาดไหน.. " ได้อยู่แล้วค่ะว่าที่พี่สะใภ้..." " หึหึ.. บ้า.. พี่กรยังไม่ยอมตกลงเลยค่ะคุณ
หลังจากันนั้นก็ร่วมอาทิตย์ได้หลังจากที่เธอไปวีนผู้หญิงคนที่นั่งกอดแขนพี่กรในร้านอาหารวันนั้น.. เธอเลือกที่จะยังไม่ไปหาพี่กรหรือไปเยี่ยมท่านป้าเพราะเธอเองก็กลัวใจตัวเองมากอยู่เหมือนกัน เธอกลัวว่าถ้าเธอไปเจอพี่กรแล้วพี่กรทำท่าทีเมินเฉยใส่เธอหรือว่าพี่กรแสดงความไม่พอใจออกมาใส่เธอ... เธอกลัวว่าเธอจะเผลอร้องไห้ออกมาน่ะสิ.. ดังนั้นเธอเลือกที่จะยังไม่ไปบ้านพี่กร.."ค่ะ..มีอะไรเอ่ย.. คิดถึงเหรอคะ? ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหาน้องคนนี้.. วันนี้คิดอะไรอยู่คะ?" " ออกมาหาหน่อยสิที่ห้างxxxตอนนี้เดี๋ยวนี้ด้วย.. มาเถอะน๊า.. มีค่าจ้างให้ด้วย.. " " แหม.. มีเอาของมาล่อแบบนี้.. คิดว่าจะไปเหรอ? ไม่มีทางหรอกกานยังทำงานไม่เสร็จเลย.. " "เปลี่ยนเป็นบิ๊กไบค์คันใหม่.. ว่าไงสนใจไหม?" " เห็นกานเป็นคนเห็นแก่ได้เหรอคะ? เรารู้จักกันมากี่สิบปีแล้ว... ก็ได้ค่ะตามนั้นว่าแต่คุณพี่อยู่ที่ไหนคะ?" เรื่องแบบนี้เธอไม่ปฏิเสธหรอก.. ของสะสมอันแสนสวยของเธอน่ะยังไงก็ต้องอยากได้อยู่แล้วต่อให้คุณแม่กับคุณพ่อบ่นขนาดไหน.. แต่เรื่องของบิ๊กไบค์.. เธอยอมทั้งนั้นค่ะไม่เกี่ยง...@ห้างxxx"กาน.. ทางนี้..." ตึกตึกตึก..... หมับ!!" คิดถึ
ธันยกานต์ได้แต่จมอยู่ในความคิดของตัวเองมาหลายวันนับตั้งแต่วันที่เธอเห็นพี่กรกับผู้หญิงคนหนึ่ง.. ผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นมากมากเสียจนเธอคิดว่าเธอและคุณยาต้องรู้จักเป็นแน่... ไม่ได้การล่ะเธอต้องรู้ให้ได้...ธันยกานต์มาหาคุณยาที่บ้านโดยที่เธอได้โทรมาถามก่อนแล้วว่าคุณยาอยู่บ้านหรืออยู่ที่ทำงานซึ่งคุณยาบอกว่าคุณยาพึ่งถึงบ้านเธอเลยรีบขับรถออกไปหาคุณยาทันที...." มาแล้วเหรอกาน ว่าแต่มีอะไรจะคุยกับยาเหรอ?" วันนี้เธอรู้สึกว่าเพื่อนของเธอดูแปลกๆไปไม่เหมือนกานคนที่เธอเคยรู้จักเพราะวันนี้กานดูมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด.. ซึ่งใบหน้าแบบนี้เธอไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว..." คุณยาคะกานมีอะไรจะถามคุณยาหน่อย.. คุณยาพอจำหน้าแฟนคนเก่าของพี่กรได้ไหมคะ?" ธันยกานต์ไม่รอช้าเธอรีบถามคุณยาออกไปทันทีเพราะเธอจำเป็นต้องรู้ให้ได้.. เรื่องนี้มันกวนจิตใจเธอมาหลายวันแล้ว.. เธอนอนแทบจะไม่หลับเลยก็ว่าได้ตั้งแต่วันนั้นวันที่เห็นพี่กรเดินควงแขนกับเธอคนนั้น...." พอจำได้นะ... ว่าแต่กานมีอะไรรึเปล่า..." เธอจำหน้าได้ดีเลยล่ะไม่ใช่แค่พอจำได้.. คนที่ทำให้พี่กรพี่ชายของเธอแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน คำที่ทำให้พี่กรเป็นคนพูดน้อยถามค
ในที่สุดมื้ออาหารที่สุดแสนจะอึดอัดก็จบลง.. ตอนแรกคุณพี่เจี๊ยบจะเลี้ยงแต่พี่กรก็บอกว่าไม่ได้เพราะเขาไม่ต้องการมากินฟรี.. ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะช่วยจ่ายครึ่งนึง..เธอไม่อยากโดนพี่กรบ่นเอาน่ะว่าง่ายๆ เดี๋ยวจะมาล้ำเลิกบุญคุณอีก.. เธอไม่ชอบอะไรทำนองนี้..." มาทำไม?" คำถามสั้นๆที่ออกมาจากปากพี่กรหลังจากที่เดินออกมาจากร้านอาหารแล้ว.. มันเป็นโทนเสียงที่สุดแสนจะแตกต่างกับโทนเสียงที่เธอได้ยินเมื่อครู่ตอนที่พี่กรพูดกับคุณพี่เจี๊ยบเลยก็ว่าได้...." มาทานข้าวยังไงล่ะคะ มาร้านอาหารไม่มาทานข้าวจะให้มานั่งวิปัสนารึยังไงกันพี่กรก็ถามแปลกนะคะ..." ธันย กานต์ตอบออกมาราวกับว่าเธอนั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดแต่จริงๆแล้วหัวใจของเธอน่ะมันเดือดปุดๆเลยก็ว่าได้.. เพราะการกระทำและคำพูดของพี่กรมันทำให้เธอโมโหทั้งพี่กรและผู้หญิงคนนั้น.. แต่เธอไม่อยากจะระเบิดมันออกมาในตอนนี้... สาเหตุที่ไม่พร้อมจะระเบิดเพราะว่าคนทั้งสองคนยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่น่าเกลียดยังไงล่ะ เขาทั้งสองคนนั่งในมุมที่ใครๆก็สามารถมองเห็นได้.. มันจึงทำให้เธอไม่สามารถหาข้ออ้างมาตำหนิได้ยังไงเล่า...." ยัยน้องคิดจะทำอะไร?" " น้องจะทำอะไรล่ะคะ
ธันยกานต์ลูบแขนของตัวเองเบาๆ.. ร่องรอยที่พี่กรฝากเอาไว้มันเริ่มจางไปเยอะแล้ว.. บอกตามตรงช่วงนี้เธอห่างหายการไปหาท่านป้ามากเธอคิดถึงท่านป้านะแต่เธอก็กลัวว่าถ้าเธอไปเธอจะไปเจอพี่กรเข้าให้.. เธอยังไม่พร้อมที่จะไปสู้หน้าของพี่กร.. ความรู้สึกภายในจิตใจของเธอลึกๆมันทำให้เธอสับสน.. ว่าเธอควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้.. แต่พอเธอคิดดูอีกที... เธอก็คิดว่าเธอควรจะไปต่อเพราะเธอคือคู่หมั้นของพี่กร....ธันยกานต์ตัดสินใจแวะมาหาท่านป้าที่บ้านอย่างเช่นเคยทำ.. วันนี้เธอก็ยังหอบหิ้วผลไม้มาฝากเช่นเคย.. เธอต้องกลับมาเป็นธันยกานต์คนเก่าให้ได้...." ท่านป้าสวัสดีค่ะ... "เสียงสดใสของสาวน้อยที่เธอได้แต่เฝ้ารอให้มาหาหลายต่อหลายวันในที่สุดเจ้าตัวก็มาเสียที...." หายไปไหนมาหนูกาน.. ป้าคิดถึงแทบแย่.. บ้านหลังนี้เหงาจะตายพอหนูกานไม่มาหานะบ้านป้าเงี๊ยบเงียบ.. แล้วนั่นหอบอะไรมาอีกแล้วละนั่น.. ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะสิ้นเปลืองและยังเป็นของซื้อของขายหนูกานจะเอามาฝาก บ่อยๆแบบนี้ไม่ได้นะ อยู่ทานเข้าเย็นกับป้าก่อนไหม? คุณยาน่าจะใกล้ถึงแล้ว..."" ใจจริงก็อยากอยู่นะคะแต่พอดีนัดกับคุณแม่เอาไว้น่ะค่ะว่าจะไปทานข้าวเย็นด้วย.. คุณพ่อก็
ตึกตึกตึก....เสียงของการวิ่งลงมาของคนหลายๆคนทำให้คนที่กำลังลงมาถูกมองจากคนในร้านแทบจะทั้งหมด...หมับ!!" หยุดนะธันยกานต์.. ขอโทษเจี๊ยบเดี๋ยวนี้.... ขอโทษซะแล้วฉันจะไม่เอาเรื่องเธอ..." ทินกรกระชับต้นแขนของธันยกานต์เอาไว้แน่นเพราะตอนนี้เขาไม่พอใจธันยกานต์เป็นอย่างมาก... ธันยกานต์ไม่มีสิทธิ์มาพูดจาดูถูกคนของเขาแบบนี้.." ไม่!! กานไม่ขอโทษ.. พี่กรเป็นคู่หมั้นของกาน.. แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะคะเป็นอะไร? เป็นแฟนเก่าที่อยากจะเข้ามามีบทบาท.. เป็นแฟนเก่าที่หน้าด้านและพยายามที่จะแย่งคู่หมั้นของคนอื่น.. คนแบบนี้เหรอที่กานจะต้องขอโทษ.. ไม่ทราบว่ากานผิดอะไร? อ๋อ... ฉันพึ่งจะรู้นะคะว่าคนที่ชอบเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดีแบบคุณจะทำตัวได้ต่ำตมแบบนี้.. คงจะชอบสินะคะที่ลักกินขโมยกินน่ะ.. มันคงจะอร่อยน่าดู ถ้าไม่อร่อยคุณคงจะไม่มาเที่ยวชวนคู่หมั้นของคนอื่นเข้าห้องน้ำแล้วไปจูบนัวเนียกันในนั้น.. อย่า!! อย่าปฏิเสธ.. ปากของคุณสองคนมันยังเลอะลิปสติกอยู่เลย... ในเมื่อคุณทิ้งพี่กรไปแล้ว.. คุณจะกลับมาทำไม.. คุณจะย้อนกลับมาทำไมอีก.. คุณมันต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนกันเชียวถึงได้หน้าด้านหน้าหนาแบบนี้.."ตุบ!!"หยุดพูดจาดูถูกเจี
ธันยกานต์เก็บตัวเงียบมาหลายวันตอนนี้เธอไม่ต้องการพบใคร.. เธอไม่อยากเจอใครหรือพูดคุยกับใครทั้งนั้น.. เรื่องราวที่เธอพึ่งได้พานพบเจอ.. มันยังทำให้เธอเสียใจ..ติ๊งต๊อง.... ติ๊งต๊อง.....เสียงกริ่งหน้าห้องของเธอถูกกดติดกันถึงสองครั้ง.. ตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปดูหรอกแต่เพียงไม่นานก็มีข้อความส่งมาหาเธอให้เธอออกมาเปิดประตู....แกร๊ก...."กาน.. เป็นยังไงบ้าง.. ดีขึ้นไหม..." ไม่ได้พูดเปล่าแต่เขายังเข้ามากอดธันยกานต์เอาไว้ด้วย.. วันนั้นถ้าเขาไม่ทันได้สังเกตุดีๆเขาก็คงไม่เห็นถึงความถลอกปอกเปิกของยัยกานแน่ๆ.. ทั้งแขนทั้งขาถลอกไปหมดทั้งแทบ.. เขาล่ะอยากจะเอาปืนไปยิงมันให้มือขาดทั้งสองข้าง..." ไม่ดีเลย.. หนูไม่ดีเลย.. หนูจะทำยังไงดีพี่นพ.. หนูต้องทำยังไง..." เพียงเท่านั้นเอง.. เพียงแค่ประโยคคำถามของพี่นพที่ถามเธออกมามันก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง.... เธอเสียใจ.. เธอเจ็บที่หัวใจของเธอ...เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไป..เธอไม่รู้เลย..." อยากร้องก็ร้องออกมา.. ถ้าร้องเสร็จเราก็กลับมาเป็นยัยกานคนเดิมของพี่นะ.. พี่ไม่ชอบให้กานร้องไห้เหมือนเด็ดขี้แยแบบนี้เลย.. กานอย่าลืมสิว่ากานยังมีพี่ กานยังมีพ่อและแ
เพียงแค่เธอจอดรถของเธอที่โรงจอดรถเธอก็เห็นรถหนึ่งคันที่มันไม่คุ้นเคยจอดอยู่ก่อนหน้าเธอแล้ว.. ที่จอดรถประจำของเธอถูกรถของใครก็ไม่รู้มาจอดก่อน... จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ที่จอดรถของเธอหรอกเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะจับจองเลยด้วยซ้ำไป...เสียงพูดคุยที่เธอได้ยินมาจากด้านใน.. ทำไมวันนี้เธอถึงเลือกมาวันผิดนะ.. แต่ก็ช่างเถอะ.. มันจะได้จบๆไป..." ท่านป้า... " เธอต้องการจะทักทายสวัสดีเหมือนเช่นทุกครั้งแต่เธอก็ต้องสะอึกและกลืนความเสียใจก้อนโตลงคอของเธอลงไปในคอ.... ใช่นั่นคือพี่กรไม่สิ.. คุณชายทินกรกับคนรักของเขา... ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและรอยยิ้มที่คอยส่งไปให้กับคนรักของเขา.. มันเป็นสิ่งที่เธอเองก็อยากจะได้รับเช่นกัน.. แต่เธอไม่เคยที่จะได้เห็นเลยสักครั้ง.. นี่สินะที่เรียกว่าคนที่คู่ควร..." อ้าวหนูกานเองเหรอลูก.. ไม่มาหาป้าเสียนาน.. งานยุ่งเหรอลูก.. มาๆ หอบอะไรมาอีกล่ะนั้น.. หนูเจี๊ยบก็หอบอาหารมาให้... ไหนๆก็มาแล้วอยู่ทานข้าวด้วยกันนะลูก" ท่านหญิงศศิวารีที่ไม่ทันสังเกตุสีหน้าและแววตาของหนูกานเธอก็เลยเอ่ยชวนหนูกานทานข้าวเที่ยงด้วยกันเลย.." ไม่ดีกว่าค่ะท่านป้า.. หนูเอาผลไม้มาฝากค่ะ.. แล้วนี่" ธันยกานต์เลื่อนถุงกร
หลังจากสงครามรักระหว่างเขาและธันยกานต์จบลงเขาก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าของเขาให้เข้าที่ส่วนเสื้อผ้าของธันยกานต์ไม่จำเป็นต้องใส่ตอนนี้เขารวบรวมเสื้อผ้าของธันยกานต์เอาไว้ในตะกร้าผ้าของเขาเมื่อถึงเวลาเขายกลงไปให้เด็กในบ้านซักคนอื่นจะได้เห็นเสื้อผ้าของธันยกานต์....ทินกรยกตะกร้าผ้าลงออกไปวางที่หน้าประตูห้องของเขาโดยที่เขาไม่สนว่าตอนนี้จะเป็นเวลาดึกดื่นมาแค่ไหนแล้ว.. แต่ในเมื่อเขาต้องการให้คนอื่นรู้ว่าธันยกานต์อยู่กับเขา.. เขาจึงต้องทำแบบนี้...ทินกรเดินกลับมาที่เตียงกว้างของเขาพร้อมกับหาเสื้อยืดสีเทาอ่อนของเขามาจัดแจงสวมใส่ปกปิดร่างกายของธันยกานต์เพื่อไม่ให้ธันยกานต์นั้นหนาวเกินไป..." ยังไงเธอก็ไม่รอดแล้วธันยกานต์.. ยังไงเธอก็ต้องแต่งงานและอยู่กับพี่.. เธอไม่มีทางที่จะหนีพี่ไปไหนได้อีกแล้วและต่อให้เธอมีปีกที่สามารถโบยบินได้.. พี่นี่แหละจะเป็นคนเด็ดปีกนั่นของเธอเอง.. ส่วนพวกผู้ชายที่มันเข้ามาวุ่นวายกับเธอนั้น.. ถ้ามันยังไม่เลิกวุ่นวายอีก... พี่คงจะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด... หลับซะนะคนดี.. จุ๊บ..."ทินกรไม่สนใจว่าตอนนี้ธันยกานต์จะรับรู้หรือรับฟังเขารึเปล่า.. แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็คือธันยกานต์
ธันยกานต์จำใจต้องมาส่งเขาตามที่เขาขอร้อง.. ตอนแรกเธอก็คิดว่าเขาจะเล่นแง่กับเธอเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะหลอกล่ออะไรเธอบ้างแต่อย่างน้อยเขาก็บอกให้เธอมาส่งเขาที่บ้านดังนั้นมันไม่อะไรน่ากลัวทั้งนั้นเพราะว่าที่นี่คือบ้านของเขา.. ไม่ใช่บ้านหลังอื่นหรือว่าคอนโดหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขาแอบซ่อนเอาไว้..." คุณชายคะคุณชาย... ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะมันไม่น่าจะหลับแต่เขาก็หลับได้.. ไปทำอะไรมาล่ะหึ..." เธอละอยากจะฟาดลงไปกลางหลังแรงๆให้เขาตื่น... มันน่านัก... ไม่รู้ว่ากลางคืนมัวแต่ไปทำอะไรถึงไม่ยอมหลับยอมนอน..." คุณชายคะคุณชาย.. ตื่นได้แล้วค่ะถึงแล้ว.. คุณชาย..." ธันยกานต์เขย่าตัวของเขาเบาๆอยู่นานสองนานแต่เขาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมตื่นสักทีไม่รู้ว่าไปอดหลับอดนอนหรือว่าไปโดนอะไรตัวไหนมาถึงได้หลับลึกขนาดนี้.."คุณชายคะคุณชาย.. ถ้ายังไม่ยอมตื่นฉันจะถีบคุณลงจากรถของฉันแล้วจริงๆนะคะ.. คุณชายคุณชะอื้อ...."สิ้นประโยคทินกรก็คว้าท้ายถอยได้รูปของธันยกานต์เข้าหาเขาทันที... ดื้อจริงๆ เก่งซะด้วยจะถีบเขาลงจากรถงั้นเหรอ... แบบนี้คงต้องโดนทำโทษ...จุ๊บ.. จ๊วบ... จ๊วบ...." อื้อ... อื้อ...." ธันยกานต์ที่ไม่ทันได้ตั้งต
สองสามวันที่ผ่านมาทินกรใช้เวลากับตัวเองและคิดในสิ่งที่ศรันทร์ได้พูดกับเขาเกี่ยวกับความรู้สึกระหว่างเขาและกานแถมพ่วงด้วยเรื่องของเจี๊ยบอีก.. เอาตรงๆเขาไม่ได้รักเจี๊ยบในเชิงชู้สาวแล้ว..เขาแค่รู้สึกที่ได้เจอเจี๊ยบอีกครั้งแต่สำหรับกานนั้น.. เขารู้สึกแค่ว่าตั้งแต่วันแรกที่กานมาถอนหมั้นเขามันทำให้ชีวิตของเขาเหงามากๆ เขารู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตเขามันขาดอะไรไปสักอย่าง... เสียงหัวเราะและคำพูดที่ชวนให้เขาต้องอมยิ้มเสมอเวลาที่กานพูดออกมา.. มันหายไปตั้งแต่วันนั้น.. ช่วงแรกเขาไม่ได้คิดอะไรมากนักเพราะบ่อยครั้งที่กานมักจะงอนเขาและเงียบไปสองสามวันแต่แล้วไม่เกินวันที่ห้ากานก็จะกลับมาหาเขามาพูดคุยกับเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน... แต่แล้ววันนั้นวันที่กานมาหาหลังจากเกิดเรื่อง... แววตาที่เฉยชาของกาน.. มันทำให้หัวใจของเขารู้สึกว่ามันปวดนึบยังไงบอกไม่ถูก.. จากที่เมื่อก่อนกานมักจะเรียกเขาว่าพี่กร แต่ตอนนี้กานเรียกชื่อเขาว่าคุณชายทินกรและแทนตัวเองว่าฉันไม่แทนตัวเองว่ากานเหมือนเมื่อก่อน.. มันแสดงให้เห็นถึงความห่างเหินระหว่างเขาและกาน.. เขาไม่ชอบเลย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่กานเคยมีมันหายไปตั้งแ
หลังจากวันที่เขาไปส่งธันยกานต์ที่คอนโดเขาก็ตามเฝ้าตามติดสาวน้อยทุกวัน.. จนป่านนี้แล้วธันยกานต์ก็ยังไม่ไปพบท่านแม่กับเขาเลยส่วนท่านแม่นั้นก็ถามเขาทุกวันหาว่าเขาจะปัดความรับผิดชอบ.. เขาเนี่ยนะไม่เลย... มีแต่ธันยกานต์นั่นแหละที่หลบหน้าและหนีเขา.. เขาขับรถมาเฝ้าทั้งที่คอนโดและที่บริษัทเขาไม่เห็นรถของธันยกานต์เลยสักวัน..วันนี้เป็นวันที่เจ็ดแล้วนะที่เขามาเฝ้า.. จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่เห็นรถหรูคันโปรดของเจ้าตัวขับเข้ามาเลย..." ไปไหนนะกาน.. คอยดูเถอะถ้าพี่เจอเมื่อไรพี่จะตีให้ก้นลายจะจับกดให้จมเตียงเลยคอยดูสิทำไมถึงดื้อนักนะ.. เด็กอะไรเนี่ย..." ปากก็บ่นไปสายตาก็ยังสอดส่องหาคนที่เขามาเฝ้ามอง....ตืด.... ตืด....ทินกรมองดูชื่อของปลายสายที่โทรมาหาเขา... เมื่อเห็นรายชื่อแล้วเขาก็ต้องพ่นลมหายใจออกมายาวๆ เขาไม่ได้รำคาญนะแต่เขานั้น... ไม่รู้สิเขาอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไงกันแน่กับคนปลายสาย..." ว่ายังไงเจี๊ยบ.. มีอะไรรึเปล่า...""กรว่างไหม.. มาหาเราที่xxxหน่อยสิ.. ช่วยมากินข้าวเป็นเพื่อนเราหน่อยเราเหงา...." " อืมได้สิ.. " ใจจริงเขาเองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะไปนักแต่ในเมื่อคนที่เขารอไม่โ
แสงแดดที่สอดส่องเข้ามาในยามเช้า.. รึเปล่าเธอไม่รู้แต่ที่รู้ก็คือตอนนี้ร่างกายของเธอเหมือนกับถูกงูรัดเอาไว้และร่างกายของเธอมันเจ็บมากๆ เหมือนกับว่าเธอออกกำลังหนักๆแบบหักโหมออกกำลังกายสี่ถึงห้าชั่วโมง.. มันเจ็บมันเมื่อยไปหมด.. เธอบอกไม่ถูกเลย.."โอ้ย... "เสียงโอดโอยของคนในอ้อมกอดทำให้เขาถึงกับเผลอยิ้มออกมา.. เอาเถอะตอนนี้เขาพร้อมฟังคำกล่าวหาแล้ว.. เขาจะไม่เถียงหรือไม่ขอความเห็นใจเลยสักคำ..."ตื่นแล้วเหรอ?"น้ำเสียงแบบนี้.. และลมอุ่นๆที่พ่นมาที่ใบหูของเธอ... หรือว่าเรื่องเมื่อคืน....ธันยกานต์หันกลับไปทางด้านหลังของเธอทันที... เพียงแค่หันกลับไปแก้มของเธอก็ไปโดนเข้ากับจมูกโด่งคมสันของเขา.. และที่บริเวณหน้าท้องของเธอมีอะไรบางอย่างลูบไล้ไปมาเบาๆและมันทำให้เธอถึงกับขนลุก..." หยุดนะ... คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน.... ปล่อย.. ฉันจะกลับ.. " โชคดีที่อย่างน้อยเธอยังมีเสื้อผ้าติดตัว.. คงจะเป็นเขาที่สวมใส่ให้เธอ.. เพียงแค่คิดเท่านี้มันก็ทำให้เธอถึงกับหน้าแดงคิดไปถึงเรื่องที่มันน่าจะพึ่งเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอ... เธอไม่รู้โดยแน่ชัดว่าเกิดขึ้นยังไงกันแน่.. แต่ที่แน่ๆเธอพอจำได้ว่าเธอถูกเขาฟาดลงม
เสียงโวยวายของธันกานต์ดังลั่นไปทั่วลานจอดรถแขกไปใครมาก็ต่างหันมามองที่พวกเขาสองคนเป็นตาเดียวกันหมด.. เขาใกล้จะหมดความอดทนแล้วนะ.. อีกแค่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะหมดความอดทนกับธันกานต์แล้วนะ..." ม๊าย... ม่ายกลาบ~~" คนเมาก็ยังโวยวายคนที่พยายามจะลากตัวเธอกลับ..ทินกรกอดรัดฟัดเหวี่ยงธันยกานต์อยู่นานสองนานจนในที่สุดความอดทนของเขาก็หมดลง...งับ... โอ๊ย...." ได้.. ในเมื่อพูดดีๆไม่ฟังอย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน.." ทินกรถูกธันยกานต์กัดเข้าให้ที่ไหล่.. เจ้าหล่อนกัดลงมาเสียแรงนี่ถ้าไม่มีเสื้อกั้นเอาไว้ตรงกลางระหว่างไหล่และฟันของเจ้าหล่อน.. เขาว่าเนื้อที่ไหล่เขาได้หลุดแน่ๆ...เพี๊ยะ!" โอ๊ย..." ธันยกานต์ถึงกับต้องร้องโอ๊ยออกมาด้วยความเจ็บเพราะตอนนี้เธอโดนใครก็ไม่รู้ฟาดเข้าให้ที่ก้นของเธอ..." หยุดดิ้น..." ยังๆ ยังไม่ยอมหยุดดิ้นอีกใช่ไหม..ดื้อนักใช่ไหม..เพี๊ยะ!! โอ๊ย!!" ปล่อยนะไอ้บ้าเอ้ย.. แกเป็นใคร.. แกกล้าดียังไงมาตีฉัน.." จากที่เมาๆอยู่ตอนนี้เธอแทบจะส่างเมาเลยก็ว่าได้..เพี๊ยะ!! โอ๊ย!!ตุบ...ทินกรปล่อยร่างสมส่วนของธันยกานต์ลงยืนกับพื้นทันทีเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าตัวเริ่มมีส
ทินกรบอกตามตรงว่าไม่พอใจมากที่เห็นเด็กคนนั้นไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวใครจะกอดก็ให้กอดใครอยากจะหอมก็ให้หอม... มันไม่ควรทำแบบนั้น.. เด็กคนนั้นเป็นคนยังไงกันแน่เขาล่ะไม่เข้าใจจริงๆ..." แล้วทำไมฉันต้องมาตามมองเด็กคนนั้นด้วยนะ.." ทินกรเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องมาขับรถเฝ้ามองว่าเด็กคนนั้นจะทำอะไรหรือไปไหน... เป็นบ้าอะไรของฉันกันแน่.....ทินกรที่กำลังจะขับรถออกไปแต่เพียงแค่เขามองผ่านกระจกเขาก็เห็นเด็กคนนั้นออกมาจากบริษัทของตัวเองและเหมือนกับว่ากำลังยืนรอใครสักคน...รูปร่างที่สมส่วนจนน่ากอดน่าจับมันทำให้เผลอคิดไปไกลจนเขาต้องรีบสลัดความคิดสกปรกของตัวเองออกไปทันที.. และเพียงไม่นานเขาก็เห็นผู้ชายคนที่เขาในคืนนั้นอีกครั้ง..." ใครกัน.. แฟนเหรอ? นี่น่ะเหรอที่บอกว่ารักเขานักรักเขาหนา..." ทินกรถึงกับต้องขมกรามของตัวเองเอาไว้แน่น... มือแกร่งกำพวงมาลัยรถยนเอาไว้จนหนังของมันแทบจะหลุดติดมืออกมา..ทินกรสตาร์ทรถของเขาและก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว.. แต่เพียงแค่ขับออกไปไม่นานมันก็ทำให้เขาว้าวุ่นจนเขาต้องย้อนกลับมาหาที่จอดที่ไม่ไกลจากหน้าบริษัทของเด็กคนนั้นอีกครั้ง.... จะว่าไปมันก็เหงาเหมือนกันนะท
เฮ้อ.... นี่ก็ล่วงเลยมาเกือบสองเดือนแล้วสินะที่เธอบอกตัวเองว่าเธอจะต้องเลิกรักเขาคนนั้นให้ได้.. ถึงแม้ว่ามันจะยากหน่อยแต่ตอนนี้เธอก็ทำสำเร็จแล้ว.. นิดนึง.. อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องมานั่งคิดว่าเขาจะไปหาใครหรือว่านัดกับใครลับหลังเธอ.. และเธอก็ไม่ต้องมานั่งดูรูปเขาตอนที่เธอเหงา... เพราะเธอได้ลบรูปเขาไปหมดแล้ว.. ไม่มีแล้วรูปของเขาไม่มีสักรูป.. ตอนนี้เธอมีแต่รูปแมว.. พี่นพซื้อมาฝากเธอหนึ่งตัว.. ขาสั้นๆจมูกแดงๆ.. ขี้อ้อนมากๆดูสิเธอหลงรักแมวตัวนั้นมากๆและแมวตัวน้อยของเธอก็หลงรักเธอด้วย..เธอคิดว่าอย่างนั้นนะฮิฮิ...ตืด.... ตืด...."ว่าไงคะคุณยา.. จะชวนไปไหนเอ่ย...""ไปเที่ยวกันไหม? เหงาน่ะวันนี้ขอท่านพ่อกับท่านแม่แล้ว.. ท่านพ่อท่านแม่อนุญาตแต่ไม่ให้กลับเกินเที่ยงคืน.. แต่ยาว่ายาจะขอนอนกับกาน.. ได้ไหมคะที่รัก~~" ธันยกานต์ถึงกับต้องอมยิ้มให้กับคุณยาทันที.. คุณยาก็เหมือนเด็กน้อยตัวเล็กๆที่ขี้อ้อนมากๆ.. เธอกับคุณยาก็ติดต่อคุยกันเหมือนเดิมก่อนที่เธอจะตัดใจจากเขาคนนั้น.. ส่วนท่านป้าเธอก็แวะไปหาบ้างถ้าวันไหนเธอแวะไปหาท่านป้ามักจะชวนเธอไปที่สวนดอกไม้ของท่านป้าและคุณยามากกว่านั่งในห้องนั่งเล่นเพราะการที
หลังจากเหตุการณ์นั้นที่เขาได้เจอกับน้องยาและเด็กคนนั้นโดยบังเอิญเขาก็รู้สึกแปลกว่าเหมือนกับว่าชีวิตของเขาที่คอยมีเด็กคนนั้นมาวุ่นวายอยู่ทุกๆวันมันเงียบเหงาผิดปกติ.. บางครั้งเขาก็ถึงกับชะโงกหน้ามองไปด้านนอกเพื่อดูว่าใครมาบ้านของเขา.. แต่มันก็ไม่ใช่คนที่เขารอ.." เบื่อจัง.. " ปากหยักได้รูปอยู่ๆก็พูดออกมาเองโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงเบื่อทั้งที่งานของเขาก็เยอะออกขนาดนี้และไหนเจี๊ยบโทรมาคุยกับเขาทุกๆวัน วันละสองครั้งตอนเช้าและก่อนนอน.. แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาขาดอะไรสักอย่างไป....เสียงเครื่องยนต์ที่ดังเข้ามาภายในบ้านเขาจำได้ดีว่าเสียงรถคันนั้นคือเสียงรถของเพื่อนน้องยา...หึ....หัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาเมื่อครู่อยู่ๆมันก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาราวกับว่ามันได้รับน้ำทิพย์จากฝากฟ้า.. รอยยิ้มที่เขาไม่ค่อยจะได้ยิ้มแบบนี้มานานเกือบเดือน.. รอยยิ้มที่มันมีความสุขที่มันออกมาจากภายจิตใจของเขา.. วันนี้เขายิ้มออกมาอีกครั้ง.. จริงอยู่รอยยิ้มนั้นเขาเคยมอบให้เจี๊ยบในวันที่เขาได้เจอกับเจี๊ยบอีกครั้ง.. แต่หลังจากนั้นรอยยิ้มที่มันแสดงออกมาถึงความยินดี.. ความดีใจและความสุขมันก็ไม่มีอี