ทินกรพูดคุยกับท่านแม่อยู่สักพักและเขาก็ขอตัวขึ้นไปข้างบนห้องของเขาทันที.. ทินกรรีบจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่เขาจะออกไปทำธุระข้างนอกอีกครั้ง จากที่พึ่งกลับเข้ามาได้ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเขาก็ต้องออกไปอีกครั้ง.. เพราะสิ่งที่เขาทำกับเพื่อนสนิทมันเกิดปัญหานิดหน่อย...
" อืม.. กำลังจะไป.. ฝากคุมสถานการณ์ไว้ก่อนก็แล้วกันนะ.. " เขารีบเหยียบคันเร่งของรถด้วยความเร็ว.. ความชำนาญในการขับขี่ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรมากนัก ไหนจะรถและถนนที่คุ้นชินอีก.. ยังไงก็ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเขาอย่างแน่นอน...
~~~~
" ไง... ทำไมถึงเป็นแบบนี้.." ประโยคแรกที่ทินกรทักเพื่อนสนิทของเขาขึ้นมามันแค่นี้เองจริงๆ....
" มีคนส่งสายเข้ามาในสายการผลิต.. แต่โชคดีที่มันทำอะไรได้ไม่มากเพราะคนของกูบอกว่ายาล็อตนี้มันมีกลิ่น.. ปกติมันจะไม่มีกลิ่นและสี.. แต่คนของกูที่คอยตรวจยามันบอกว่ารอบนี้มีกลิ่นมันเลยรีบขึ้นไปปิดเครื่อง.. และพอมันเอาส่วนผสมของยาล็อตนี้มาตรวจมันเหมือนมีคนเพิ่มกลิ่นลงไป ละสีที่มันใส่ลงไปอีกทุกทีงานของเรามันไม่มีสีไม่มีกลิ่นแต่นี่.. มึงดูไอ้คุณชาย.. มึงเห็นไหมเม็ดยาขนาดเท่ากันแต่ว่าสี.. จากที่มันควรจะเป็นสีครีมแต่มันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้ม... และไหนกลิ่นอีก.. มันมีกลิ่นยาที่ฉุนเกินปกติ..." ศรันรีบยื่นยาล็อตนี้ให้กับเพื่อนสนิทของเขาทันที.. เขาไปเรียนต่อที่เยอรมันกับไอ้คุณชายพร้อมกัน.. เขาเลือกเรียนเภสัชและเขาก็โชคดีที่เขาจบเร็วหลังจากนั้นเขาได้รับโอกาสจาก Professor ในมหาวิทยาลัยที่เขาศึกษาอยู่ท่านส่งไปฝึกงานและเขาได้ร่วมทำงานที่โรงงานผลิตยาชื่อดังของที่เยอรมันอยู่2ปี พอหมดสัญญาเขาก็บินกลับมาเมืองไทยหลังจากไอ้คุณชายประมาณ2ปีนั่นแหละ ส่วนไอ้คุณชายเรียนเกี่ยวกับวิศวะกรรมชีวการแพทย์ ซึ่งก็ไม่ใช่ง่ายเลยสักนิดแต่ไอ้นี่มันหัวดีฉลาดเป็นกรดมันเลยจบก่อนกำหนดและมันก็รีบกลับเมืองไทยทันที..
" แล้วจับตัวคนทำได้ไหม?" นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการรู้มากที่สุด... ว่าใครเป็นคนทำและจุดประสงค์ของมันคืออะไรกันแน่....
" กูคิดว่ามันต้องการจะทำยาล็อตนี้ให้เป็นของมันวะ กูพึ่งเอายาเข้าไปตรวจที่แลปคงจะต้องดูว่ายาล็อตนี้ที่ทำออกมามันมีส่วนผสมของอะไรบ้าง.. กูหวังว่าจะไม่ทำยา นรกที่เกินมาตรฐานนะ..." นั่นคือสิ่งที่เขากลัวมากที่สุด.. เอาจริงๆเขากับไอ้คุณชายก็ไม่ใช่คนดีนักแต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ทำพร่ำเพรื่อ.. งานพวกนี้มันจะต้องมีความปลอดภัยให้กับพวกเขาสองคนในระดับนึงเลยล่ะ ไม่อย่างนั้นพวกเขาไม่เสี่ยงหรอก ใครบ้างที่อยากจะโดนจับ.. เรียนมาตั้งเยอะจะมาโดนจับเพราะผลิตยาเถื่อน... มันก็ไม่ใช่
" แล้วเราจะทำส่งทันไหม?" ทินกรถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเลยทีเดียว... การที่มันเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมันก็จะส่งผลเสียต่อผลกระทบให้กับเขาเป็นอย่างมากและไหนจะเครดิตที่สร้างมาอีก...
" ไม่ต้องห่วงกูใช้อีกเครื่องแล้วและก็เฝ้าเครื่องเอง.. มึงจะลองตรวจดูก่อนไหมว่ามีจุดไหนที่มันน่าสงสัยหรือว่ามึงคิดว่าใครน่าสงสัยบ้าง..." เรื่องนี้เขาเองก็อยากจะรู้นะว่าใครที่ทำเรื่องแบบนี้.. เพราะปกติแล้วเรื่องส่วนผสมจะมีเขาและไอ้คุณชายเท่านั้นที่จะเป็นคนผสม.. แต่ครั้งนี้มันแปลกเกินไปเพราะมันมีสิ่งไม่พึงประสงค์แปลกปลอมมาเพิ่มด้วย....
" ไม่ล่ะกูขี้เกียจ.. ถ้ามึงจะเฝ้าเครื่องเองแบบนี้กูก็วางใจได้... ว่าแต่มึงกินอะไรรึยังถ้าไม่กินก็กินซะกูไปล่ะ..."
"อ้าวไอ้เวรเอ้ย!! กูก็นึกว่าจะใจดีซื้อของให้กูกินไอ้ห่า ไปไกลๆเลยมึง.. แต่ยังไงฝากโทรไปบอกลูกค้าด้วยว่าของอาจจะล่าช้าไปนิดแต่จะพยายามส่งให้ทันกำหนด.. ฝากด้วยล่ะ... ฝากคิดถึงน้องกานคนสวยของกูด้วย.."
" มึงบอกเองเถอะน่ารำคาญ..."
~~~~~
ทินกรขับรถออกมาจากโรงงานผลิตยาที่มีเขาและไอ้ศรันทร์เป็นหุ้นส่วนกัน.. เบื้องหน้าพวกเขาสองคนผลิตยาต่างๆให้กับโรงพยาบาลเกือบทั่วประเทศ เพราะคุณภาพและราคาที่ไม่ได้ต่างจากการนำเข้าจากฝั่งยุโรปพวกเขาเลยได้เปรียบและได้กำไรเยอะอยู่พอตัว... แต่จะมีบ้างที่เขาสองคนรับผลิตยาให้กลับบุคคลมีสีไม่มีกลิ่น... และคนที่อยู่ในธุรกิจสีเทาพวกนั้น.. การที่พวกเขาอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะมีคนพวกนี้คอยช่วยและคอยเคลียร์ให้อยู่แต่ถึงอย่างไรเขากับศรันทร์ก็เลือกงานอยู่นะ...
รถยนต์คันหรูราคาแพงขับโลดแล่นในความเร็วปกติที่ควรจะเป็น... ขากลับเขาเบาใจและไม่เร่งรีบเท่ากับขามา.. แต่มีอย่างนึงทีเขาพึ่งคิดได้ก็คือ...ธันยกานต์น่าจะยังอยู่บ้านของเขา.. ดังนั้นเขาจึงไม่เร่งรีบที่จะกลับบ้านนักเพราะเขาสุดแสนจะรำคาญเด็กคนนั้นเลย.. เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องยาคบไปได้ยังไง... กานเป็นผู้หญิงคิดบวก... บวกที่หมายถึงพร้อมบวก.. พร้อมบวกมาก ปากว่ามือถึงมีบางครั้งที่เขาต้องไปประกันตัวที่โรงพักเพราะธันยกานต์มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้หญิงคนอื่น.. เมื่อก่อนก็เขม่นกันเรื่องปกติ.. แต่เดียวนี้มักจะมีเขาเข้าไปเกี่ยวโยงด้วยอยู่ตลอด.. เพราะอะไรน่ะหรอ? เพราะว่าธันยกานต์ชอบมาวางตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา.. เวลาที่มีผู้หญิงคนไหนแปลกหน้าคร่าตามาทักทายเขาหรือแม้แต่เขาเรียกเด็กนั่งดริ้งมานั่งเป็นเพื่อนเมื่อธันยกานต์เห็นธันยกานต์ก็จะรีบปรี่มาหาเรื่องและตบผู้หญิงพวกนั้นทันที... ซึ่งสิ่งนั้นทำให้เขาไม่ค่อยชอบธันยกานต์มากนัก.. เขาไม่ชอบเลย..
วันแล้ววันเล่าที่กานแวะมาหาพี่กรและท่านป้าทุกครั้งที่เธอมาเธอมักจะหอบหิ้วข้าวของมาฝากเสมอ.. ครั้งนี้เธอได้องุ่นเล็บมือนางสดๆหวานๆมาก และไหนจะมีลิ้นจี่จักรพรรดิ์ลูกโตๆสีสวยๆมาฝากอีกหนึ่งกระเช้าใหญ่.. เธอถามคุณยาแล้วว่าพี่กรอยู่บ้านไหมคุณยาบอกว่าพี่กรอยู่ดังนั้นเธอจึงรีบบึ่งรถมาหาทันที....." สวัสดีค่ะท่านป้า.. วันนี้มีของมาฝากด้วยนะคะ.. ดูนี่สิคะมีองุ่นและลิ้นจี่มาฝากด้วย.. ว่าแต่พี่กรยุ่งอยู่รึเปล่าคะหนูคิดถึ๊งคิดถึง..." พูดจบเธอก็ทำท่าหัวเราะแยะยักไหล่ของตัวเองขึ้นด้วยความตลก.. ก็คนมันคิดถึงนี่นา.. ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันมันก็ต้องคิดถึงกันบ้างสิ..." อยู่ในห้องทำงานน่ะหนูกาน.. ถือมาอีกแล้วนะ..ดูสิมีแต่ลูกงามๆทั้งนั้น..."" งามเหมือนท่านป้าค่ะ.. และหวานด้วย.. ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวเอาลิ้นจี่กับองุ่นไปฝากพี่กรก่อนนะคะ.. วันนี้อยู่ได้ไม่นานเพราะจะต้องเข้าโกดังด้วย...." เธอไม่ได้นำเข้าผลไม้อย่างเดียวนะ เธอยังนำเข้าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้อีก.. ส่วนเครื่องสำอางค์เธอไม่กล้านำเข้าเพราะถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมามีคนร้องเรียนขึ้นมาเธอถูกฟ้องขึ้นมาล่ะก็.. ล้มละลายแน่นอน.. ดังนั้นเธอจึงเลือกนำเข้าพ
ช่วงนี้งานของธันยกานต์เองก็รัดตัวมากเธอไม่ค่อยได้มีเวลาแวะเวียนไปหาพี่กรเลย.. เธอได้แต่หยิบสมาร์ทโฟนราคาแพงของเธอขึ้นมาและดูภาพของพี่กรเอา.. ภาพต่างๆเธอได้มาจากคุณยายังไงล่ะ เธอขอร้องคุณยาว่าให้คุณยาช่วยแอบถ่ายรูปพี่กรให้เธอที แลกกับคอลเลคชั่น เสื้อผ้าแบรนด์หรูที่เธอนั้นมักจะได้รับข่าวสารและคำเชิญให้ไปร่วมงานทุกครั้ง.. และเรื่องแค่นี้ทำไมเธอจะทำไม่ได้ล่ะเพื่อพี่กร.. เธอพร้อมลุยค่ะมาเลยค่ะก๊อกๆๆ"เชิญค่ะ..." เสียงอันไพเราะของเจ้าของห้องทำงานหรูอนุญาตให้คนที่เคาะประตูเข้ามาได้ ปกติไม่มีใครจะเข้ามาหาเธอหรอกนอกจากคุณเลขาและคุณยา.. " ยุ่งอยู่เหรอคะเพื่อนสาว...." และนั่นไม่ใช่เสียงใครเพราะนั่นคือเสียงของคุณยานั่นเอง.. วันนี้มาที่นี่ได้แสดงว่าอยากจะชวนเธอไปไหนอีกแน่ๆเลย..."ไม่ว่างค่ะคุณยา.. แต่ถ้าคุณยาอยากจะไปไหนบอกได้นะคะเพื่อนพร้อมค่ะ.. แต่คงต้องรออีกนิดนะคะ ขอเคลียร์เอกสารนำเข้าฉบับนี้ก่อน.. ไม่เกิน20นาทีรอได้ใช่ไหมคะ" ธันยกานต์รีบบอกให้เพื่อนของตัวเองทราบทันทีเพราะเธอน่ะรู้ดีว่าคุณยาน่ะขี้น้อยใจขนาดไหน.. " ได้อยู่แล้วค่ะว่าที่พี่สะใภ้..." " หึหึ.. บ้า.. พี่กรยังไม่ยอมตกลงเลยค่ะคุณ
หลังจากันนั้นก็ร่วมอาทิตย์ได้หลังจากที่เธอไปวีนผู้หญิงคนที่นั่งกอดแขนพี่กรในร้านอาหารวันนั้น.. เธอเลือกที่จะยังไม่ไปหาพี่กรหรือไปเยี่ยมท่านป้าเพราะเธอเองก็กลัวใจตัวเองมากอยู่เหมือนกัน เธอกลัวว่าถ้าเธอไปเจอพี่กรแล้วพี่กรทำท่าทีเมินเฉยใส่เธอหรือว่าพี่กรแสดงความไม่พอใจออกมาใส่เธอ... เธอกลัวว่าเธอจะเผลอร้องไห้ออกมาน่ะสิ.. ดังนั้นเธอเลือกที่จะยังไม่ไปบ้านพี่กร.."ค่ะ..มีอะไรเอ่ย.. คิดถึงเหรอคะ? ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหาน้องคนนี้.. วันนี้คิดอะไรอยู่คะ?" " ออกมาหาหน่อยสิที่ห้างxxxตอนนี้เดี๋ยวนี้ด้วย.. มาเถอะน๊า.. มีค่าจ้างให้ด้วย.. " " แหม.. มีเอาของมาล่อแบบนี้.. คิดว่าจะไปเหรอ? ไม่มีทางหรอกกานยังทำงานไม่เสร็จเลย.. " "เปลี่ยนเป็นบิ๊กไบค์คันใหม่.. ว่าไงสนใจไหม?" " เห็นกานเป็นคนเห็นแก่ได้เหรอคะ? เรารู้จักกันมากี่สิบปีแล้ว... ก็ได้ค่ะตามนั้นว่าแต่คุณพี่อยู่ที่ไหนคะ?" เรื่องแบบนี้เธอไม่ปฏิเสธหรอก.. ของสะสมอันแสนสวยของเธอน่ะยังไงก็ต้องอยากได้อยู่แล้วต่อให้คุณแม่กับคุณพ่อบ่นขนาดไหน.. แต่เรื่องของบิ๊กไบค์.. เธอยอมทั้งนั้นค่ะไม่เกี่ยง...@ห้างxxx"กาน.. ทางนี้..." ตึกตึกตึก..... หมับ!!" คิดถึ
ธันยกานต์ได้แต่จมอยู่ในความคิดของตัวเองมาหลายวันนับตั้งแต่วันที่เธอเห็นพี่กรกับผู้หญิงคนหนึ่ง.. ผู้หญิงคนนั้นดูคุ้นมากมากเสียจนเธอคิดว่าเธอและคุณยาต้องรู้จักเป็นแน่... ไม่ได้การล่ะเธอต้องรู้ให้ได้...ธันยกานต์มาหาคุณยาที่บ้านโดยที่เธอได้โทรมาถามก่อนแล้วว่าคุณยาอยู่บ้านหรืออยู่ที่ทำงานซึ่งคุณยาบอกว่าคุณยาพึ่งถึงบ้านเธอเลยรีบขับรถออกไปหาคุณยาทันที...." มาแล้วเหรอกาน ว่าแต่มีอะไรจะคุยกับยาเหรอ?" วันนี้เธอรู้สึกว่าเพื่อนของเธอดูแปลกๆไปไม่เหมือนกานคนที่เธอเคยรู้จักเพราะวันนี้กานดูมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด.. ซึ่งใบหน้าแบบนี้เธอไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว..." คุณยาคะกานมีอะไรจะถามคุณยาหน่อย.. คุณยาพอจำหน้าแฟนคนเก่าของพี่กรได้ไหมคะ?" ธันยกานต์ไม่รอช้าเธอรีบถามคุณยาออกไปทันทีเพราะเธอจำเป็นต้องรู้ให้ได้.. เรื่องนี้มันกวนจิตใจเธอมาหลายวันแล้ว.. เธอนอนแทบจะไม่หลับเลยก็ว่าได้ตั้งแต่วันนั้นวันที่เห็นพี่กรเดินควงแขนกับเธอคนนั้น...." พอจำได้นะ... ว่าแต่กานมีอะไรรึเปล่า..." เธอจำหน้าได้ดีเลยล่ะไม่ใช่แค่พอจำได้.. คนที่ทำให้พี่กรพี่ชายของเธอแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน คำที่ทำให้พี่กรเป็นคนพูดน้อยถามค
ในที่สุดมื้ออาหารที่สุดแสนจะอึดอัดก็จบลง.. ตอนแรกคุณพี่เจี๊ยบจะเลี้ยงแต่พี่กรก็บอกว่าไม่ได้เพราะเขาไม่ต้องการมากินฟรี.. ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะช่วยจ่ายครึ่งนึง..เธอไม่อยากโดนพี่กรบ่นเอาน่ะว่าง่ายๆ เดี๋ยวจะมาล้ำเลิกบุญคุณอีก.. เธอไม่ชอบอะไรทำนองนี้..." มาทำไม?" คำถามสั้นๆที่ออกมาจากปากพี่กรหลังจากที่เดินออกมาจากร้านอาหารแล้ว.. มันเป็นโทนเสียงที่สุดแสนจะแตกต่างกับโทนเสียงที่เธอได้ยินเมื่อครู่ตอนที่พี่กรพูดกับคุณพี่เจี๊ยบเลยก็ว่าได้...." มาทานข้าวยังไงล่ะคะ มาร้านอาหารไม่มาทานข้าวจะให้มานั่งวิปัสนารึยังไงกันพี่กรก็ถามแปลกนะคะ..." ธันย กานต์ตอบออกมาราวกับว่าเธอนั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดแต่จริงๆแล้วหัวใจของเธอน่ะมันเดือดปุดๆเลยก็ว่าได้.. เพราะการกระทำและคำพูดของพี่กรมันทำให้เธอโมโหทั้งพี่กรและผู้หญิงคนนั้น.. แต่เธอไม่อยากจะระเบิดมันออกมาในตอนนี้... สาเหตุที่ไม่พร้อมจะระเบิดเพราะว่าคนทั้งสองคนยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่น่าเกลียดยังไงล่ะ เขาทั้งสองคนนั่งในมุมที่ใครๆก็สามารถมองเห็นได้.. มันจึงทำให้เธอไม่สามารถหาข้ออ้างมาตำหนิได้ยังไงเล่า...." ยัยน้องคิดจะทำอะไร?" " น้องจะทำอะไรล่ะคะ
ธันยกานต์ลูบแขนของตัวเองเบาๆ.. ร่องรอยที่พี่กรฝากเอาไว้มันเริ่มจางไปเยอะแล้ว.. บอกตามตรงช่วงนี้เธอห่างหายการไปหาท่านป้ามากเธอคิดถึงท่านป้านะแต่เธอก็กลัวว่าถ้าเธอไปเธอจะไปเจอพี่กรเข้าให้.. เธอยังไม่พร้อมที่จะไปสู้หน้าของพี่กร.. ความรู้สึกภายในจิตใจของเธอลึกๆมันทำให้เธอสับสน.. ว่าเธอควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้.. แต่พอเธอคิดดูอีกที... เธอก็คิดว่าเธอควรจะไปต่อเพราะเธอคือคู่หมั้นของพี่กร....ธันยกานต์ตัดสินใจแวะมาหาท่านป้าที่บ้านอย่างเช่นเคยทำ.. วันนี้เธอก็ยังหอบหิ้วผลไม้มาฝากเช่นเคย.. เธอต้องกลับมาเป็นธันยกานต์คนเก่าให้ได้...." ท่านป้าสวัสดีค่ะ... "เสียงสดใสของสาวน้อยที่เธอได้แต่เฝ้ารอให้มาหาหลายต่อหลายวันในที่สุดเจ้าตัวก็มาเสียที...." หายไปไหนมาหนูกาน.. ป้าคิดถึงแทบแย่.. บ้านหลังนี้เหงาจะตายพอหนูกานไม่มาหานะบ้านป้าเงี๊ยบเงียบ.. แล้วนั่นหอบอะไรมาอีกแล้วละนั่น.. ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะสิ้นเปลืองและยังเป็นของซื้อของขายหนูกานจะเอามาฝาก บ่อยๆแบบนี้ไม่ได้นะ อยู่ทานเข้าเย็นกับป้าก่อนไหม? คุณยาน่าจะใกล้ถึงแล้ว..."" ใจจริงก็อยากอยู่นะคะแต่พอดีนัดกับคุณแม่เอาไว้น่ะค่ะว่าจะไปทานข้าวเย็นด้วย.. คุณพ่อก็
ตึกตึกตึก....เสียงของการวิ่งลงมาของคนหลายๆคนทำให้คนที่กำลังลงมาถูกมองจากคนในร้านแทบจะทั้งหมด...หมับ!!" หยุดนะธันยกานต์.. ขอโทษเจี๊ยบเดี๋ยวนี้.... ขอโทษซะแล้วฉันจะไม่เอาเรื่องเธอ..." ทินกรกระชับต้นแขนของธันยกานต์เอาไว้แน่นเพราะตอนนี้เขาไม่พอใจธันยกานต์เป็นอย่างมาก... ธันยกานต์ไม่มีสิทธิ์มาพูดจาดูถูกคนของเขาแบบนี้.." ไม่!! กานไม่ขอโทษ.. พี่กรเป็นคู่หมั้นของกาน.. แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะคะเป็นอะไร? เป็นแฟนเก่าที่อยากจะเข้ามามีบทบาท.. เป็นแฟนเก่าที่หน้าด้านและพยายามที่จะแย่งคู่หมั้นของคนอื่น.. คนแบบนี้เหรอที่กานจะต้องขอโทษ.. ไม่ทราบว่ากานผิดอะไร? อ๋อ... ฉันพึ่งจะรู้นะคะว่าคนที่ชอบเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนดีแบบคุณจะทำตัวได้ต่ำตมแบบนี้.. คงจะชอบสินะคะที่ลักกินขโมยกินน่ะ.. มันคงจะอร่อยน่าดู ถ้าไม่อร่อยคุณคงจะไม่มาเที่ยวชวนคู่หมั้นของคนอื่นเข้าห้องน้ำแล้วไปจูบนัวเนียกันในนั้น.. อย่า!! อย่าปฏิเสธ.. ปากของคุณสองคนมันยังเลอะลิปสติกอยู่เลย... ในเมื่อคุณทิ้งพี่กรไปแล้ว.. คุณจะกลับมาทำไม.. คุณจะย้อนกลับมาทำไมอีก.. คุณมันต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนกันเชียวถึงได้หน้าด้านหน้าหนาแบบนี้.."ตุบ!!"หยุดพูดจาดูถูกเจี
ธันยกานต์เก็บตัวเงียบมาหลายวันตอนนี้เธอไม่ต้องการพบใคร.. เธอไม่อยากเจอใครหรือพูดคุยกับใครทั้งนั้น.. เรื่องราวที่เธอพึ่งได้พานพบเจอ.. มันยังทำให้เธอเสียใจ..ติ๊งต๊อง.... ติ๊งต๊อง.....เสียงกริ่งหน้าห้องของเธอถูกกดติดกันถึงสองครั้ง.. ตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปดูหรอกแต่เพียงไม่นานก็มีข้อความส่งมาหาเธอให้เธอออกมาเปิดประตู....แกร๊ก...."กาน.. เป็นยังไงบ้าง.. ดีขึ้นไหม..." ไม่ได้พูดเปล่าแต่เขายังเข้ามากอดธันยกานต์เอาไว้ด้วย.. วันนั้นถ้าเขาไม่ทันได้สังเกตุดีๆเขาก็คงไม่เห็นถึงความถลอกปอกเปิกของยัยกานแน่ๆ.. ทั้งแขนทั้งขาถลอกไปหมดทั้งแทบ.. เขาล่ะอยากจะเอาปืนไปยิงมันให้มือขาดทั้งสองข้าง..." ไม่ดีเลย.. หนูไม่ดีเลย.. หนูจะทำยังไงดีพี่นพ.. หนูต้องทำยังไง..." เพียงเท่านั้นเอง.. เพียงแค่ประโยคคำถามของพี่นพที่ถามเธออกมามันก็ทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง.... เธอเสียใจ.. เธอเจ็บที่หัวใจของเธอ...เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไป..เธอไม่รู้เลย..." อยากร้องก็ร้องออกมา.. ถ้าร้องเสร็จเราก็กลับมาเป็นยัยกานคนเดิมของพี่นะ.. พี่ไม่ชอบให้กานร้องไห้เหมือนเด็ดขี้แยแบบนี้เลย.. กานอย่าลืมสิว่ากานยังมีพี่ กานยังมีพ่อและแ
หลังจากสงครามรักระหว่างเขาและธันยกานต์จบลงเขาก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าของเขาให้เข้าที่ส่วนเสื้อผ้าของธันยกานต์ไม่จำเป็นต้องใส่ตอนนี้เขารวบรวมเสื้อผ้าของธันยกานต์เอาไว้ในตะกร้าผ้าของเขาเมื่อถึงเวลาเขายกลงไปให้เด็กในบ้านซักคนอื่นจะได้เห็นเสื้อผ้าของธันยกานต์....ทินกรยกตะกร้าผ้าลงออกไปวางที่หน้าประตูห้องของเขาโดยที่เขาไม่สนว่าตอนนี้จะเป็นเวลาดึกดื่นมาแค่ไหนแล้ว.. แต่ในเมื่อเขาต้องการให้คนอื่นรู้ว่าธันยกานต์อยู่กับเขา.. เขาจึงต้องทำแบบนี้...ทินกรเดินกลับมาที่เตียงกว้างของเขาพร้อมกับหาเสื้อยืดสีเทาอ่อนของเขามาจัดแจงสวมใส่ปกปิดร่างกายของธันยกานต์เพื่อไม่ให้ธันยกานต์นั้นหนาวเกินไป..." ยังไงเธอก็ไม่รอดแล้วธันยกานต์.. ยังไงเธอก็ต้องแต่งงานและอยู่กับพี่.. เธอไม่มีทางที่จะหนีพี่ไปไหนได้อีกแล้วและต่อให้เธอมีปีกที่สามารถโบยบินได้.. พี่นี่แหละจะเป็นคนเด็ดปีกนั่นของเธอเอง.. ส่วนพวกผู้ชายที่มันเข้ามาวุ่นวายกับเธอนั้น.. ถ้ามันยังไม่เลิกวุ่นวายอีก... พี่คงจะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด... หลับซะนะคนดี.. จุ๊บ..."ทินกรไม่สนใจว่าตอนนี้ธันยกานต์จะรับรู้หรือรับฟังเขารึเปล่า.. แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็คือธันยกานต์
ธันยกานต์จำใจต้องมาส่งเขาตามที่เขาขอร้อง.. ตอนแรกเธอก็คิดว่าเขาจะเล่นแง่กับเธอเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะหลอกล่ออะไรเธอบ้างแต่อย่างน้อยเขาก็บอกให้เธอมาส่งเขาที่บ้านดังนั้นมันไม่อะไรน่ากลัวทั้งนั้นเพราะว่าที่นี่คือบ้านของเขา.. ไม่ใช่บ้านหลังอื่นหรือว่าคอนโดหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขาแอบซ่อนเอาไว้..." คุณชายคะคุณชาย... ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะมันไม่น่าจะหลับแต่เขาก็หลับได้.. ไปทำอะไรมาล่ะหึ..." เธอละอยากจะฟาดลงไปกลางหลังแรงๆให้เขาตื่น... มันน่านัก... ไม่รู้ว่ากลางคืนมัวแต่ไปทำอะไรถึงไม่ยอมหลับยอมนอน..." คุณชายคะคุณชาย.. ตื่นได้แล้วค่ะถึงแล้ว.. คุณชาย..." ธันยกานต์เขย่าตัวของเขาเบาๆอยู่นานสองนานแต่เขาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมตื่นสักทีไม่รู้ว่าไปอดหลับอดนอนหรือว่าไปโดนอะไรตัวไหนมาถึงได้หลับลึกขนาดนี้.."คุณชายคะคุณชาย.. ถ้ายังไม่ยอมตื่นฉันจะถีบคุณลงจากรถของฉันแล้วจริงๆนะคะ.. คุณชายคุณชะอื้อ...."สิ้นประโยคทินกรก็คว้าท้ายถอยได้รูปของธันยกานต์เข้าหาเขาทันที... ดื้อจริงๆ เก่งซะด้วยจะถีบเขาลงจากรถงั้นเหรอ... แบบนี้คงต้องโดนทำโทษ...จุ๊บ.. จ๊วบ... จ๊วบ...." อื้อ... อื้อ...." ธันยกานต์ที่ไม่ทันได้ตั้งต
สองสามวันที่ผ่านมาทินกรใช้เวลากับตัวเองและคิดในสิ่งที่ศรันทร์ได้พูดกับเขาเกี่ยวกับความรู้สึกระหว่างเขาและกานแถมพ่วงด้วยเรื่องของเจี๊ยบอีก.. เอาตรงๆเขาไม่ได้รักเจี๊ยบในเชิงชู้สาวแล้ว..เขาแค่รู้สึกที่ได้เจอเจี๊ยบอีกครั้งแต่สำหรับกานนั้น.. เขารู้สึกแค่ว่าตั้งแต่วันแรกที่กานมาถอนหมั้นเขามันทำให้ชีวิตของเขาเหงามากๆ เขารู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตเขามันขาดอะไรไปสักอย่าง... เสียงหัวเราะและคำพูดที่ชวนให้เขาต้องอมยิ้มเสมอเวลาที่กานพูดออกมา.. มันหายไปตั้งแต่วันนั้น.. ช่วงแรกเขาไม่ได้คิดอะไรมากนักเพราะบ่อยครั้งที่กานมักจะงอนเขาและเงียบไปสองสามวันแต่แล้วไม่เกินวันที่ห้ากานก็จะกลับมาหาเขามาพูดคุยกับเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน... แต่แล้ววันนั้นวันที่กานมาหาหลังจากเกิดเรื่อง... แววตาที่เฉยชาของกาน.. มันทำให้หัวใจของเขารู้สึกว่ามันปวดนึบยังไงบอกไม่ถูก.. จากที่เมื่อก่อนกานมักจะเรียกเขาว่าพี่กร แต่ตอนนี้กานเรียกชื่อเขาว่าคุณชายทินกรและแทนตัวเองว่าฉันไม่แทนตัวเองว่ากานเหมือนเมื่อก่อน.. มันแสดงให้เห็นถึงความห่างเหินระหว่างเขาและกาน.. เขาไม่ชอบเลย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่กานเคยมีมันหายไปตั้งแ
หลังจากวันที่เขาไปส่งธันยกานต์ที่คอนโดเขาก็ตามเฝ้าตามติดสาวน้อยทุกวัน.. จนป่านนี้แล้วธันยกานต์ก็ยังไม่ไปพบท่านแม่กับเขาเลยส่วนท่านแม่นั้นก็ถามเขาทุกวันหาว่าเขาจะปัดความรับผิดชอบ.. เขาเนี่ยนะไม่เลย... มีแต่ธันยกานต์นั่นแหละที่หลบหน้าและหนีเขา.. เขาขับรถมาเฝ้าทั้งที่คอนโดและที่บริษัทเขาไม่เห็นรถของธันยกานต์เลยสักวัน..วันนี้เป็นวันที่เจ็ดแล้วนะที่เขามาเฝ้า.. จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่เห็นรถหรูคันโปรดของเจ้าตัวขับเข้ามาเลย..." ไปไหนนะกาน.. คอยดูเถอะถ้าพี่เจอเมื่อไรพี่จะตีให้ก้นลายจะจับกดให้จมเตียงเลยคอยดูสิทำไมถึงดื้อนักนะ.. เด็กอะไรเนี่ย..." ปากก็บ่นไปสายตาก็ยังสอดส่องหาคนที่เขามาเฝ้ามอง....ตืด.... ตืด....ทินกรมองดูชื่อของปลายสายที่โทรมาหาเขา... เมื่อเห็นรายชื่อแล้วเขาก็ต้องพ่นลมหายใจออกมายาวๆ เขาไม่ได้รำคาญนะแต่เขานั้น... ไม่รู้สิเขาอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไงกันแน่กับคนปลายสาย..." ว่ายังไงเจี๊ยบ.. มีอะไรรึเปล่า...""กรว่างไหม.. มาหาเราที่xxxหน่อยสิ.. ช่วยมากินข้าวเป็นเพื่อนเราหน่อยเราเหงา...." " อืมได้สิ.. " ใจจริงเขาเองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะไปนักแต่ในเมื่อคนที่เขารอไม่โ
แสงแดดที่สอดส่องเข้ามาในยามเช้า.. รึเปล่าเธอไม่รู้แต่ที่รู้ก็คือตอนนี้ร่างกายของเธอเหมือนกับถูกงูรัดเอาไว้และร่างกายของเธอมันเจ็บมากๆ เหมือนกับว่าเธอออกกำลังหนักๆแบบหักโหมออกกำลังกายสี่ถึงห้าชั่วโมง.. มันเจ็บมันเมื่อยไปหมด.. เธอบอกไม่ถูกเลย.."โอ้ย... "เสียงโอดโอยของคนในอ้อมกอดทำให้เขาถึงกับเผลอยิ้มออกมา.. เอาเถอะตอนนี้เขาพร้อมฟังคำกล่าวหาแล้ว.. เขาจะไม่เถียงหรือไม่ขอความเห็นใจเลยสักคำ..."ตื่นแล้วเหรอ?"น้ำเสียงแบบนี้.. และลมอุ่นๆที่พ่นมาที่ใบหูของเธอ... หรือว่าเรื่องเมื่อคืน....ธันยกานต์หันกลับไปทางด้านหลังของเธอทันที... เพียงแค่หันกลับไปแก้มของเธอก็ไปโดนเข้ากับจมูกโด่งคมสันของเขา.. และที่บริเวณหน้าท้องของเธอมีอะไรบางอย่างลูบไล้ไปมาเบาๆและมันทำให้เธอถึงกับขนลุก..." หยุดนะ... คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน.... ปล่อย.. ฉันจะกลับ.. " โชคดีที่อย่างน้อยเธอยังมีเสื้อผ้าติดตัว.. คงจะเป็นเขาที่สวมใส่ให้เธอ.. เพียงแค่คิดเท่านี้มันก็ทำให้เธอถึงกับหน้าแดงคิดไปถึงเรื่องที่มันน่าจะพึ่งเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอ... เธอไม่รู้โดยแน่ชัดว่าเกิดขึ้นยังไงกันแน่.. แต่ที่แน่ๆเธอพอจำได้ว่าเธอถูกเขาฟาดลงม
เสียงโวยวายของธันกานต์ดังลั่นไปทั่วลานจอดรถแขกไปใครมาก็ต่างหันมามองที่พวกเขาสองคนเป็นตาเดียวกันหมด.. เขาใกล้จะหมดความอดทนแล้วนะ.. อีกแค่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะหมดความอดทนกับธันกานต์แล้วนะ..." ม๊าย... ม่ายกลาบ~~" คนเมาก็ยังโวยวายคนที่พยายามจะลากตัวเธอกลับ..ทินกรกอดรัดฟัดเหวี่ยงธันยกานต์อยู่นานสองนานจนในที่สุดความอดทนของเขาก็หมดลง...งับ... โอ๊ย...." ได้.. ในเมื่อพูดดีๆไม่ฟังอย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน.." ทินกรถูกธันยกานต์กัดเข้าให้ที่ไหล่.. เจ้าหล่อนกัดลงมาเสียแรงนี่ถ้าไม่มีเสื้อกั้นเอาไว้ตรงกลางระหว่างไหล่และฟันของเจ้าหล่อน.. เขาว่าเนื้อที่ไหล่เขาได้หลุดแน่ๆ...เพี๊ยะ!" โอ๊ย..." ธันยกานต์ถึงกับต้องร้องโอ๊ยออกมาด้วยความเจ็บเพราะตอนนี้เธอโดนใครก็ไม่รู้ฟาดเข้าให้ที่ก้นของเธอ..." หยุดดิ้น..." ยังๆ ยังไม่ยอมหยุดดิ้นอีกใช่ไหม..ดื้อนักใช่ไหม..เพี๊ยะ!! โอ๊ย!!" ปล่อยนะไอ้บ้าเอ้ย.. แกเป็นใคร.. แกกล้าดียังไงมาตีฉัน.." จากที่เมาๆอยู่ตอนนี้เธอแทบจะส่างเมาเลยก็ว่าได้..เพี๊ยะ!! โอ๊ย!!ตุบ...ทินกรปล่อยร่างสมส่วนของธันยกานต์ลงยืนกับพื้นทันทีเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าตัวเริ่มมีส
ทินกรบอกตามตรงว่าไม่พอใจมากที่เห็นเด็กคนนั้นไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวใครจะกอดก็ให้กอดใครอยากจะหอมก็ให้หอม... มันไม่ควรทำแบบนั้น.. เด็กคนนั้นเป็นคนยังไงกันแน่เขาล่ะไม่เข้าใจจริงๆ..." แล้วทำไมฉันต้องมาตามมองเด็กคนนั้นด้วยนะ.." ทินกรเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องมาขับรถเฝ้ามองว่าเด็กคนนั้นจะทำอะไรหรือไปไหน... เป็นบ้าอะไรของฉันกันแน่.....ทินกรที่กำลังจะขับรถออกไปแต่เพียงแค่เขามองผ่านกระจกเขาก็เห็นเด็กคนนั้นออกมาจากบริษัทของตัวเองและเหมือนกับว่ากำลังยืนรอใครสักคน...รูปร่างที่สมส่วนจนน่ากอดน่าจับมันทำให้เผลอคิดไปไกลจนเขาต้องรีบสลัดความคิดสกปรกของตัวเองออกไปทันที.. และเพียงไม่นานเขาก็เห็นผู้ชายคนที่เขาในคืนนั้นอีกครั้ง..." ใครกัน.. แฟนเหรอ? นี่น่ะเหรอที่บอกว่ารักเขานักรักเขาหนา..." ทินกรถึงกับต้องขมกรามของตัวเองเอาไว้แน่น... มือแกร่งกำพวงมาลัยรถยนเอาไว้จนหนังของมันแทบจะหลุดติดมืออกมา..ทินกรสตาร์ทรถของเขาและก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว.. แต่เพียงแค่ขับออกไปไม่นานมันก็ทำให้เขาว้าวุ่นจนเขาต้องย้อนกลับมาหาที่จอดที่ไม่ไกลจากหน้าบริษัทของเด็กคนนั้นอีกครั้ง.... จะว่าไปมันก็เหงาเหมือนกันนะท
เฮ้อ.... นี่ก็ล่วงเลยมาเกือบสองเดือนแล้วสินะที่เธอบอกตัวเองว่าเธอจะต้องเลิกรักเขาคนนั้นให้ได้.. ถึงแม้ว่ามันจะยากหน่อยแต่ตอนนี้เธอก็ทำสำเร็จแล้ว.. นิดนึง.. อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องมานั่งคิดว่าเขาจะไปหาใครหรือว่านัดกับใครลับหลังเธอ.. และเธอก็ไม่ต้องมานั่งดูรูปเขาตอนที่เธอเหงา... เพราะเธอได้ลบรูปเขาไปหมดแล้ว.. ไม่มีแล้วรูปของเขาไม่มีสักรูป.. ตอนนี้เธอมีแต่รูปแมว.. พี่นพซื้อมาฝากเธอหนึ่งตัว.. ขาสั้นๆจมูกแดงๆ.. ขี้อ้อนมากๆดูสิเธอหลงรักแมวตัวนั้นมากๆและแมวตัวน้อยของเธอก็หลงรักเธอด้วย..เธอคิดว่าอย่างนั้นนะฮิฮิ...ตืด.... ตืด...."ว่าไงคะคุณยา.. จะชวนไปไหนเอ่ย...""ไปเที่ยวกันไหม? เหงาน่ะวันนี้ขอท่านพ่อกับท่านแม่แล้ว.. ท่านพ่อท่านแม่อนุญาตแต่ไม่ให้กลับเกินเที่ยงคืน.. แต่ยาว่ายาจะขอนอนกับกาน.. ได้ไหมคะที่รัก~~" ธันยกานต์ถึงกับต้องอมยิ้มให้กับคุณยาทันที.. คุณยาก็เหมือนเด็กน้อยตัวเล็กๆที่ขี้อ้อนมากๆ.. เธอกับคุณยาก็ติดต่อคุยกันเหมือนเดิมก่อนที่เธอจะตัดใจจากเขาคนนั้น.. ส่วนท่านป้าเธอก็แวะไปหาบ้างถ้าวันไหนเธอแวะไปหาท่านป้ามักจะชวนเธอไปที่สวนดอกไม้ของท่านป้าและคุณยามากกว่านั่งในห้องนั่งเล่นเพราะการที
หลังจากเหตุการณ์นั้นที่เขาได้เจอกับน้องยาและเด็กคนนั้นโดยบังเอิญเขาก็รู้สึกแปลกว่าเหมือนกับว่าชีวิตของเขาที่คอยมีเด็กคนนั้นมาวุ่นวายอยู่ทุกๆวันมันเงียบเหงาผิดปกติ.. บางครั้งเขาก็ถึงกับชะโงกหน้ามองไปด้านนอกเพื่อดูว่าใครมาบ้านของเขา.. แต่มันก็ไม่ใช่คนที่เขารอ.." เบื่อจัง.. " ปากหยักได้รูปอยู่ๆก็พูดออกมาเองโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงเบื่อทั้งที่งานของเขาก็เยอะออกขนาดนี้และไหนเจี๊ยบโทรมาคุยกับเขาทุกๆวัน วันละสองครั้งตอนเช้าและก่อนนอน.. แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาขาดอะไรสักอย่างไป....เสียงเครื่องยนต์ที่ดังเข้ามาภายในบ้านเขาจำได้ดีว่าเสียงรถคันนั้นคือเสียงรถของเพื่อนน้องยา...หึ....หัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาเมื่อครู่อยู่ๆมันก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาราวกับว่ามันได้รับน้ำทิพย์จากฝากฟ้า.. รอยยิ้มที่เขาไม่ค่อยจะได้ยิ้มแบบนี้มานานเกือบเดือน.. รอยยิ้มที่มันมีความสุขที่มันออกมาจากภายจิตใจของเขา.. วันนี้เขายิ้มออกมาอีกครั้ง.. จริงอยู่รอยยิ้มนั้นเขาเคยมอบให้เจี๊ยบในวันที่เขาได้เจอกับเจี๊ยบอีกครั้ง.. แต่หลังจากนั้นรอยยิ้มที่มันแสดงออกมาถึงความยินดี.. ความดีใจและความสุขมันก็ไม่มีอี