แองเจลีนรีบปิดไมค์ของโทรศัพท์และมองเจย์อย่างรู้สึกผิดสายตาของเจย์มีร่องรอยของการเยาะเย้ยแองเจลีนรู้ว่าเรื่องโกหกของเธอถูกเปิดโปง ดังนั้นเธอจึงไม่ปิดมันต่อไป“ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้” เธอพูดใส่โทรศัพท์เจย์โบกมือให้กับเธออย่างสง่างามและทั้งหมดที่เขาพูดกับเธอก็คือ “คุณออกไปจากนี้ตอนนี้ก็ได้นะ”แองเจลีนมองเขาอย่างเกรี้ยวกราด “เฮ้ ฉันช่วยนายเมื่อคืนนี้ นายไม่มีอะไรจะพูดกับฉันหน่อยเหรอ?”เจย์เงยหน้าและแววตาสีดำและทรงเสน่ห์เบิกกว้างยิ่งกว่าท้องฟ้ายามราตรี ไม่มีใครรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขา“ถ้าคุณอยู่ให้ห่างจากผม ที่จริงแล้ว ผมจะขอบคุณยิ่งกว่า” เขาบ่นแองเจลีนโกรธ “สารเลวเอ๊ย! ไม่มีสำนึกเลยรึไง? ถ้าฉันไม่ช่วยนายไว้ ศพของนายน่าจะนอนตากแดดให้ทุกคนได้เห็นไปแล้ว”เจย์ย้อนว่า “มันก็ดีกว่าที่ปล่อยให้คนคิดว่าผมกำลังถูกคุณกักตัวไว้”ในความเป็นจริง เธอทำให้เขาวุ่นวายมากโดยการเข้าไปใกล้เขาเขาเป็นชายที่ภูมิใจที่ให้ความสำคัญของชื่อเสียงตัวเองมากกว่าสิ่งอื่นใด เขาจะยอมให้ตัวเองถูกผู้หญิงร่ำรวยขังเอาไว้ได้อย่างไร?เจย์สังเกตเห็นว่าแองเจลีนเงียบไป เขาคิดว่าเธอกำลังคิดเรื่องการกระทำและไตร่ตรอง
เจย์คิดกับตัวเอง ‘นางมารร้ายนั่นกำลังจะมีช่วงเวลาที่ลำบากในการระงับความโกลาหลครั้งยิ่งใหญ่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้’พยาบาลคนนั้นยืนข้าง ๆ นิ่งและมีสติ “ท่านประธานของเราเก่งในจัดการเรื่องแบบนี้ พวกชายพวกนี้ก็แค่ทำตัวอวดดีลับหลังเธอ รอก่อนเถอะ เมื่อท่านประธานขึ้นไปบนเวที พวกเขาจะเงียบเหมือนป่าช้าเลยล่ะ”เจย์ส่งสายตามไม่เชื่อไปยังพยาบาลคนนั้นนางมารร้ายนั่นไม่มีอะไรมากไปกว่าทอมบอยที่ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป คนอย่างเธอก็ทำได้แค่เอาอกเอาใจสาว ๆ ที่อ่อนโยนผู้ชายสติดีคนไหนจะชอบทอมบอยไร้ยางอายแบบเธอกันล่ะ?หน้าจอใกล้ ๆ แท่นโพเดี่ยมค่อย ๆ ปล่อยลงมาและบนนั้นมีระเบียบวาระการประชุม หัวข้อ ‘การอภิปรายสถานะของแกรนด์ เอเซีย: การรับสมัครอัจฉริยะจากทั่วทุกมุมโลก!’เมื่อเจย์มองไปที่คำบนหน้าจอ การประดิษฐ์อักษรช่างแข็งแรง เฉียบคมและมั่นใจ เขาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “เขียนได้ดีนะนั่นน่ะ”พยาบาลคนนั้นหัวเราะคิกคัก “ท่านประธานของเราเขียนด้วยตัวเองค่ะ”เจย์อัศจรรย์ใจเขารู้สึกว่าการประดิษฐ์อักษรสะท้อนถึงนักศิลปะใครสักคนจะตัดสินคนคนหนึ่งได้ผ่านลายมือของพวกเขาลายมือแบบนี้ควรจะมาจากชายที่ทรงเสน่ห์และยึดมั่
“ตระกูลเบลล์แห่งแกรนด์ เอเซีย รายได้ของคุณลดลง 13.74 เปอร์เซ็นเมื่อเทียบกับปีก่อน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกคุณทั้งหมดก็ลงนรกไปได้เลย” คำพูดของแองเจลีนทิ่มแทงคนเหล่านั้นที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัททุกคนในที่นี้ดึงผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากของพวกเขาแองเจลีนยืนอยู่บนโพเดียม สวมชุดสีแดงสดใส เสื้อเชิ๊ตสีขาวลายลูกไม้ของเธอซุกอยู่ในกางเกงทรงหลวม สูทของเธอคลุมไหล่อย่างสะเปะสะปะ แขนของเธอเท้าสะเอวในขณะที่ผมของเธอพริ้วไสวในอากาศ ผิวสีแทน ตาดำสนิทและลิปสติกสีม่วงเน้นย้ำความโดดเดืนของเธอในห้องประชุมใบหน้าของเจย์บูดบึ้งเมื่อเห็นเธอบนหน้าจอสำหรับเขาแล้ว พวกผู้หญิงควรจะอ่อนแอและถ่อมตัว ความงามของพวกเขามีเพื่อให้ความบอบบางถูกเก็บไว้ในตัวของพวกเธอ เหมือนกับมาริลินแองเจลีนคือตัวประหลาดโดยธรรมชาติ เปล่งออร่าออกมาอย่างนั้นขณะที่เจย์ครุ่นคิดหนัก โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น มันคือข้อความเขาดูที่หน้าจอ เมื่อเห็นว่ามาริลินได้ส่งข้อความให้เขา มันเป็นคำสามคำ ‘กลับมาเร็ว’เจย์โทรหาเธอในทันที เมื่อมาริลินรับสาย เธอกำลังสะอึกสะอื้น “เทมเพส...เทมเพสทนต่อไปไม่ไหวแล้ว”เจย์เสียงเข้มและเคร่งขรึ
หลังจากที่เจย์กินอาหารเสร็จ แองเจลีนก็โยนเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและถ้วยลงถังขยะ จากนั้นเธอก็นั่งตรงหน้าเขา สายตาของเธอค่อนข้างเพ้อฝันราวกับว่าเธอกำลังจ้องสัตว์เลี้ยงของตัวเอง“ระบบการย่อยอาหารของนายไม่ได้สุขภาพดีขนาดนั้น เพราะงั้นนายต้องจำไว้ด้วยว่าต้องกินข้าวตรงเวลา อย่ากินตามใจตัวเอง” เธอบ่นเจย์จ้องเธอด้วยท่าทีที่ไม่พอใจมันอาจจะเป็นเพราะเขาห่วงเรื่องของเทมเพส ดังนั้น แม้แต่การขมวดคิ้วของเขาก็บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดจู่ ๆ แองเจลีนก็เอื้อมสัมผัสคิ้วของเขา เธอกล่าวอย่างอ่อนโยน “นายมีบางอย่างในใจใช่ไหม?เจย์ตอบกลับอย่างปากร้าย “ถ้าคุณอยู่ให้ห่างจากผม ผมก็จะไม่มีอะไรในใจ”แองเจลีน “...”“ถ้ามีเรื่องแย่ ๆ เกี่ยวกับตัวฉัน ฉันจะพยายามอย่างที่สุดที่จะทำให้ดีขึ้น” เธอกล่าวพลางกัดฟันและฝืนยิ้มออกมาเจย์เกลียดท่าทีที่เสแสร้งและอ่อนหวานของเธอ“งั้นคุณก็กลับไปในท้องแม่และเกิดใหม่สิ” เขากล่าวอย่างโหดร้ายแองเจลีนเดือดดาล เธอยกแขนขึ้น…“นายวอนเอง ใช่ไหม” เธอกัดฟันด้วยความโกรธเจย์มองที่มือของเธอ คิดว่าไม่มีทางหนีจากตบที่เขากำลงจะโดนได้ เขาไม่คิดว่าแองเจลีนจะไม่ตั้งใจที่จะทำแบบนั้น ในที่ส
เจย์พูดว่า “ผมไม่มีเงินในตอนนี้ แต่ผมจะหาวิธีชำระค่ารักษา”แองเจลีนแทบจะหัวเราะใส่เขาชายคนนี้จะไม่มีเงินได้อย่างไรในเมื่อทั้งแกรนด์ เอเซียเป็นของเขา?“ถ้านายไม่มีเงิน บางทีนายจ่ายด้วตัวของนายก็ได้นะ” เธอหัวเราะอย่างบ้าคลั่งมันยากที่เจย์จะเริ่มพูดให้ถูกใจเธอ และในตอนนี้ทั้งหมดมันได้หลอมละลายไปในทันทีเขาจ้องเธอด้วยความแค้น…แองเจลีนรีบข่มตัวเองไว้เธอคิดว่าเธอควรจะเอ่ยเรื่องนั้นกับตัวเองดีกว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันหนึ่งเจย์ได้ความทรงจำกลับมา? แน่นอนว่า เขาจะมีความแค้น พิเคราะห์จากนิสัยของเขาในตอนเย็น เสียงไซเรนของรถพยาบาลก็เสียงดังผ่านอากาศ ไซเรนยังคงดังต่อเนื่องในขณะที่จอดอยู่หน้าทางเข้าของโรงพยาบาลแกรนด์ เอเซียเจย์ลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความวิตกกังวลมาริลินบอกกับเขาว่าอาการของเทมเพสแย่มากเทมเพสคือสำคัญสำหรับเขามากคนที่เต็มใจที่จะเสียสละตัวเองเพื่อเขาถือว่าเป็นครอบครัวสำหรับเจย์แองเจลีนเดินเข้าไปหาเจย์ วางมือบนไหล่ของเขาในขณะที่ปลอบและพูดว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ตราบใดที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะไม่ยอมให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา”เจย์ทำได้แค่จ้องเธออย่างเหม่อลอย เมื่อเธอพูดเช่นนั้น
พยาบาลคนนั้นจ้องเขาเขม็ง “อ๊ะ!... สำหรับเรื่องนั้น มันจะดีที่สุดถ้าคุณคุยเรื่องนั้นกับท่านประธาน!”เจย์พูดด้วยน้ำเสียงที่สมเหตุสมผล “นี่คือการตัดสินใจของผม เธอไม่เกี่ยวอะไรด้วย คุณก็แค่เอาสัญญามาให้กับผมและผมจะเซ็นมัน”พยาบาลคนนั้นไม่กล้าขัดคำขอที่ข่มขู่ของเจย์ “ได้ค่ะ”เมื่อพยาบาลมอบสัญญาให้กับเจย์ เจย์ก็เซ็นโดยไม่ลังเลขณะที่แองเจลีนเดินออกจากห้องประชุม พยาบาลคนนั้นก็มอบสัญญาให้กับเธอแองเจลีนตรวจดูสัญญาและบนนั้นมือคำว่า ‘เจย์ อาเรส’ อยู่ ลายมือราบเรียบและไม่ใส่ใจเธอเริ่มโกรธเคืองเธอตบเท้าไปยังห้องเขาเจย์และโยนสัญญาใส่หน้าเขา เธอตั้งคำถามเขาว่า “นายกำลังทำอะไร?”เจย์หยิบกระดาษออกจากหน้าอย่างใจเย็น จากนั้นเขาก็มองแองเจลีนและพูดว่า “ผมไม่อยากให้พวกคุณหยุดการรักษาเทมเพสกลางคันเพราะว่าผมจ่ายบิลค่ารักษาไม่ได้ เพราะแบบนั้น ทำไมผมจะให้ความหวังที่จะมีชีวิตต่อไปกับเขาไม่ได้ล่ะ?”แองเจลีนพูดว่า “เก็บความใจกว้างของนายไว้ซะ ฉันกำลังช่วยเทมเพส ฉันจะไม่เอาเงินจากนายแม้แต่แดงเดียว ที่จริงแล้ว ฉันรับรองว่าฉันจะประสบความสำเร็จที่จะพาเทมเพสกลับมา”เจย์ประหลาดใจ “ทำไมล่ะ?”เขาคิดไม่ออกว่าท
อารมณ์ของเด็กมักแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขาคิดถึงเซ็ตตี้น้อยมากจนทำให้เขาน้ำตาไหลลงมาเล็กน้อย“เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ไปให้ไปนะ”“อืม”หลังจากนั้นไม่นาน ฟินน์ก็พาเซ็ตตี้น้อยมาที่ที่เจย์อยู่“คุณคะ!” เซ็ตตี้น้อยโผเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนเขาทันทีที่เห็นเขาฟินน์ก้าวไปข้างหน้าอย่างเคารพด้วยความเคยชิน “หลังจากที่เธอรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน เธอก็ตื๊อให้ผมพาเธอมาที่นี่ให้ได้เลยครับคุณเบ็น ผมหวังว่าพวกเราจะไม่รบกวนคุณนะครับ”เจย์กอดลูบผมที่นุ่มสลวยของเซ็ตตี้น้อยแล้วก็ยิ้ม “เปล่านี่ ไม่เลย”หลังจากที่ฟินน์และเซ็ตตี้น้อยเข้าบ้านมา เจย์ก็รินน้ำให้พวกเขา แล้วจู่ ๆ ฟินน์ก็รีบตรงเข้าไป “คุณเบ็น ให้ผมทำเถอะครับ” เขาพูดอย่างตกใจกลัวเจย์รู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่อาจบอกได้ว่าสายตาของฟินน์กำลังหลอกลวงเขาอยู่หรือเปล่า แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าฟินน์ให้ความเคารพเขามากเกินไปนะ?ฟินน์รินน้ำและยื่นให้เจย์ด้วยความเคารพ แล้วเขาก็ตรงไปรินน้ำให้เซ็ตตี้น้อยเซ็ตตี้น้อยมองไปที่พี่ชายฟินน์ที่ไม่สามารถเก็บอารมณ์ของตัวเองได้ เธอไม่รู้จะช่วยอย่างไร จึงได้แต่พูดกับเขาว่า “พี่ฟินน์ หนูคิดว่าพี่ควรกลับบ้านไปได้แล้วล่ะ หนูจะค้างคื
เมื่อพวกเขาผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย เด็กก็เริ่มเชื่อใจฟินน์“แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ล่ะ?” เจย์มีความสงสัย พ่อแม่แบบไหนจะยอมยกลูกให้กับคนภายนอกอย่างง่ายดายเช่นนั้น? มันช่างดูน่าเหลวไหลสำหรับเขาเจย์และเซ็ตตี้น้อยได้พบกันสองครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยพบกับพ่อแม่ของเธอมาก่อนเขาคิดตามหลักการว่าพ่อแม่ของเซ็ตตี้น้อยต้องขาดการสั่งสอนและให้ความรู้แก่ลูกเป็นแน่ ชีวิตรักของพวกเขาคงต้องประหลาดแปลกน่าดูเซ็ตตี้น้อยมองเจย์ด้วยความเศร้าโศกในดวงตาของเธอ“พวกเขาหย่ากันเหรอ?” เขาสรุปออกมาอย่างใจกล้าเซ็ตตี้น้อยส่ายหัว “พวกเขาจะไม่หย่ากันหรอกค่ะ พ่อของหนูเชื่อว่าจะมีแค่พ่อม่ายและแม่ม่ายเท่านั้นค่ะ ไม่มีการหย่าร้าง คุณพ่อกับคุณแม่รักกันมาก ท้ายสุดแล้วคุณพ่อของหนูก็ยกทุกอย่างให้คุณแม่ รวมถึงชีวิตของเขาด้วยค่ะ”จู่ ๆ เจย์ก็นึกถึงวลีที่ว่า ‘ความรักที่เร่าร้อนมากเกินไปนั้นอยู่ได้ไม่นาน’เขาเป็นคนดีและเขาสงสัยว่าเขาได้รับกรรมที่เขาควรจะได้รับหรือยัง“แล้วคุณแม่ของหนูล่ะ?”เธอทิ้งลูกแล้วแต่งงานใหม่เหรอ?น้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตาของเซ็ตตี้น้อย “คุณแม่อยากไปกับคุณพ่อค่ะ คุณแม่ก็เลยกรีดข้อมือตัวเอง แต่คุณลุงของห