“เบ็น ท่านประธานต้องการให้นายดูแลพวกเราใช่ไหม? ตอนนี้พวกเราไม่มีเงินค่าอาหาร เพราะฉะนั้นนายช่วยไปบอกท่านประธานให้จ่ายค่าจ้างให้เราล่วงหน้าได้ไหม?” ชาวประมงอ้อนวอนเจย์เจย์มีสีหน้าเคร่งเครียด ชาวประมงพูดกับเขาอย่างโจ่งแจ้งให้เขาไปขอเหตุผลกับนางมารร้ายคนนั้น แต่เขาไม่ต้องการยุ่งอะไรกับเธอเลย“ฉันพอมีเงินสดอยู่บ้าง ฉันจะให้พวกนายทุกคนยืมก่อนก็แล้วกัน”สแตน ฮิทเชนส์พูดอย่างชั่วร้าย “เบ็น เงินทั้งหมดนั้นมาจากไหนกัน?” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยเจย์จ้องไปที่เขาด้วยความเย็นชาในดวงตาของเขา ซึ่งมันทำให้สแตนส่ายหน้าเล็กน้อย เขามักรู้สึกว่าเศษขยะที่ไม่ได้เรื่องคนนี้มีแววตาที่น่าสยดสยองมาตลอดทอมมี่รีบทำลายบรรยากาศนี้และพูดว่า “เอาสิ ฮิทเชนส์ ถ้าเบ็นยินดีให้เรายืมเงิน แปลว่าเขาจะช่วยเรา เราควรจะขอบคุณเขานะ ทำไมเราต้องสนใจว่าเงินของเขามาจากไหนด้วยล่ะ?”“ใช่ ใช่” ชาวประมงคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นด้วยสแตนมองชาวประมงคนอื่น ๆ ที่ทำตัวเคารพเจย์ในทันทีทันใด เขารู้สึกขมขื่นอยู่ภายในและหัวเราะเยาะ “หึหึ โรคของเขามันแพร่เชื้อได้ สิ่งที่เขามีมันคือเงินสกปรกทั้งหมดเลย เมื่อเรารับมันมา บางทีเราอาจจะติ
ชาวประมงลังเลอยู่ครู่หนึ่งขณะที่กำลังวิเคราะห์สถานการณ์ พวกเขาคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่จะตามการนำของสแตนมากกว่าเจย์ที่เป็นคนไร้ประโยชน์ นั่นเป็นเพราะว่าสแตนอาศัยอยู่ในเมืองเป็นเวลานานกว่าด้วยเหตุนี้ พวกเขาก็ระบายความโกรธไปที่เจย์ ทุบตีเขาด้วยความป่าเถื่อน“จัดการมัน!”“มันเป็นแค่คนนอกในหมู่บ้านของเรา ถ้าเราฆ่ามันให้ตายไปซะ ก็ไม่มีใครมาช่วยมันได้หรอก” สแตนพูดขณะขู่คำรามฟินน์หันหลังกลับมา เขาเห็นว่าเจย์เริ่มโกรธจัดและรับมือกับชาวประมงทั้งหมดด้วยตัวของเขาเองชาวประมงมักมีมัดกล้ามที่แข็งแรงและร่างใหญ่ตามธรรมชาติอยู่แล้ว ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง เจย์มีร่างกายที่อ่อนแอกว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาความจำเสื่อมมานานเกินไป เขาจึงลืมไปว่าเขาเคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาก่อน เขาปล่อยหมัดอย่างเรียบ ๆ ใส่คู่ต่อสู่ด้วยความอำมหิตที่มีภายในตัวเขาเปลวไฟลุกโชนออกมาจากนัยน์ตาของฟินน์ เขากัดฟันและคำรามออกมา “พวกแกรนหาที่ตายเองนะ”เขากระโจนเข้ามาเหมือนเสือจากัวร์ ลูกเตะวงกว้างฟาดเข้าใส่สแตน ทำให้เขาลอยขึ้นกลางอากาศ ลูกเตะและหมัดต่อยของฟินน์นั้นทรงพลังอย่างมากและใช้เวลาเพียงไม่นานในการจัดการชาวประมงเหล่านั้
จู่ ๆ แองเจลีนก็สารภาพกับเขาว่า “ฉันชอบนาย”ท่าทีของเจย์เต็มไปด้วยการปฏิเสธ “ผมไม่สนใจหรอก”แองเจลีนอ้าปากค้างเล็กน้อย… ความรู้สึกของความผิดหวังปะทะเธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“นายจะไม่คิดสักหน่อยเหรอ?”เจย์มองเธอราวกับว่าเขากำลังบอกเธออยู่ในใจว่า ‘จะเสียเวลากับเรื่องแบบนี้ไปทำไมกัน?’แองเจลีนทำหน้าบึ้งแต่ยังคงยืนกรานและเริ่มคุยโอ้อวดว่า “นายก็รู้ว่าฉันเป็นคนดี ฉันใสซื่อ รวย และฉันรู้วิธีเอาใจคน มีผู้ชายนับไม่ถ้วนในเมืองอิมพีเรียลที่ชอบฉัน”มุมปากของเจย์กระตุกอย่างแรง!“คุณแน่ใจเหรอว่าที่ผู้ชายพวกนั้นตามคุณไม่ใช่เป็นเพราะว่าเงินของคุณ?”แองเจลีนตอบ “เป็นไปไม่ได้ ฉันเป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูดอันดับหนึ่งของทั้งเมืองอิมพีเรียลนี้”เจย์มองไปที่ ‘หนังสือสุดยอดคนดัง’ เล่มใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อมาที่อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ ริมฝีปากของเขากระตุกขึ้น “นั่นเป็นเพราะชื่อคุณเป็นตัวอักษรแรกในรายชื่อต่างหาก”แองเจลีน “...”บทสนทนาจบลงที่ทางตันแองเจลีนคิดว่าวิธีการจีบของเธอต้องผิดพลาดตั้งแต่เริ่มบทสนทนาแล้วเป็นแน่การพูดว่า ‘ฉันชอบนาย’ กับผู้ชายนั้นมันล้าสมัยเกินไป“ตราบใดนายยอมรับฉันได้ ฉันก็ใ
ในตอนนั้นเอง เกรย์สันก็รีบเข้าไปในห้องและอยู่ในท่าทางตื่นตระหนก “ท่านประธานครับ อาการของเทมเพสแย่ลงครับ”แองเจลีนพูดอย่างโมโหกับเจย์ว่า “นายไม่ต้องไล่ฉันหรอก ฉันไปเองได้” เธอเดินออกไปและปล่อยให้เจย์ยืนอยู่ตรงนั้นเจย์รู้สึกอึ้งตกใจอย่างมากจนเขาลืมไปว่าเขาจะพูดอะไรต่อเทมเพสตกอยู่ในอันตราย?เขารีบวิ่งออกไปข้างนอก “คุณเซเวียร์?”แองเจลีนมองกลับมาที่เขา “อะไรอีกล่ะ?”“คุณพาผมไปด้วยได้ไหม?”“นายไม่ยอมขอร้องฉันไม่ใช่เหรอ?” แก้มของเธอป่องเหมือนขนมปังในร้านขายขนมปัง เธอก็ดูน่ารักดีเห็นได้ชัดเจนว่าเธอยังโกรธเขาอยู่เจย์ “...”ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงที่โกรธเคืองของแองเจลีนเรียกเขา “ขึ้นรถสิ”เจย์เดินขึ้นไปและนั่งข้างเธอแล้วเกรย์สันก็ออกรถแองเจลีนจ้องมองไปที่ดอกทานตะวันในรถ เธอพึมพำกับตัวเองว่า “ให้ดอกทานตะวันกับฉันทำไม? ความสุขนิรันดร์ไม่มีอยู่บนโลกใบนี้สักหน่อย ไม่ใช่เหรอ?”เจย์คิดว่าเธอกำลังพูดกับเขา แต่เขานึกไม่ออกว่าเขาเกี่ยวอะไรกับดอกทานตะวันในรถนี้ เขาจึงทำได้แค่ฟังแล้วเฟอร์รารี่ก็มาถึงทางเข้าของแกรนด์เอเซียหลังจากนั้นไม่นานเจย์รู้สึกว่าเขารีบเปิดประตูรถได้อย่างรวด
หลังจากที่เธอและเจย์เดินออกมาจากห้องไอซียู เจย์ก็ได้แสดงความรู้สึกขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ “ขอบคุณนะครับ”แองเจลีนพูดว่า “ถ้านายต้องการขอบคุณใครสักคน อย่างน้อยนายควรแสดงความจริงใจด้วยการเลี้ยงอาหารฉันนะ"“คุณอยากกินอะไร?” เจย์ดูไม่เต็มใจอย่างยิ่งราวกับว่าเขากำลังจะไปที่ลานประหารแองเจลีนครุ่นคิดอยู่นานพอสมควร “เดี๋ยวฉันพานายไปเอง”แองเจลีนพาเจย์ไปที่โรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองอิมพีเรียล และเลือกห้องอาหารส่วนตัวสำหรับคู่รักเมื่อเจย์เห็นห้องที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่แสนโรแมนติก แววตาของเขาก็ดูเหมือนทำอะไรไม่ถูก แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขากำลังจะตอบแทนบุญคุณแก่แองเจลีน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระงับความไม่พอใจของเขาไว้แองเจลีนนั่งลงฝั่งตรงข้ามโต๊ะ และเมื่อพนักงานเสิร์ฟนำเมนูอาหารมา เจย์ก็ยื่นให้แองเจลีนอย่างสุภาพบุรุษ“ทำไมคุณไม่สั่งล่ะ?”ดังนั้นแล้ว แองเจลีนจึงสั่งอาหารจานโปรดของเขาทั้งหหมดเจย์ยังคงลังเลว่าจะเขาควรสั่งอะไรเบา ๆ ให้ตัวเองดีไหม แต่ทว่าแองเจลีนได้ส่งเมนูอาหารคืนให้พนักงานเสิร์ฟแล้วพนักงานเสิร์ฟจากไปพร้อมกับรอยยิ้มเจย์แอบคิดว่านางมารร้ายคนนี้ต้องถูกตามใจจนน
นี่เขากำลังพยายามบอกเป็นนัย ๆ ว่าเธอดูน่าเกลียดใช่ไหม?แองเจลีนไม่อาจยอมที่จะตกลงไปในกับดักของเขาและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ตอนที่ฉันเห็นหน้าสดของฉัน มันทำให้ฉันสงสัยว่านางฟ้าผู้นี้ลงมาจุติจากที่ไหนกันนะ”ริมฝีปากของเจย์กระตุกอย่างแรง “ขี้โม้อะไรอย่างนี้”แองเจลีนพูดว่า “ฉันแค่พูดเรื่องจริง”เจย์มองแองเจลีนขณะที่เธอยิ้มหวาน และด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ เขาคิดว่านางมารร้ายคนนี้ก็ดูไม่ได้น่ารำคาญเสียเท่าไหร่ในทางตรงกันข้าม ความไร้เดียงสาของเธอกลับทำให้เธอดูน่ารักเลยทีเดียว“ทำไมคุณถึงทำธุรกิจล่ะ?” เขาถามด้วยความสงสัยเขาคิดมาเสมอว่าแองเจลีนมีบุคลิกที่อ่อนโยนและน่ารัก มากกว่าที่จะเป็นคนห้าวหาญและแข็งแกร่งอย่างที่เธอกำลังแสร้งทำอยู่การทำธุรกิจไม่เข้ากับบุคลิกของเธอเลยสักนิดแองเจลีนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “นี่เป็นสัญญาที่ฉันให้ไว้กับเขา”เจย์ฟังอย่างตั้งใจแองเจลีนพูดว่า “ฉันเคยสัญญากับเขาว่าฉันเป็นได้ทั้งไม้เลื้อยที่ต้องการการค้ำยันและต้นไม้แข็งแกร่งที่ยืนหยัดได้อย่างอิสรเสรี”เธอชะงักก่อนจะพูดต่อ “แล้วตอนนี้เขาจากไปแล้ว ฉันต้องแข็งแกร่งให้เหมือนต้นไม้ เหมือนกับที
เจย์สาวเท้ายาวของเขาไปข้างหน้าและกำลังเดินจากไปแองเจลีนยืนแน่นิ่งอยู่กับที่ด้วยความงุนงงใบหน้าที่เข้มคมของเธอมีสีหน้าที่ดูราวกับหญิงสาวที่โศกเศร้าและหม่นหมองใจ “เฮ้ ไม่ใช่ว่าหลังจากเลี้ยงข้าวฉันเสร็จ นายควรจะไปส่งฉันที่บ้านหรอกเหรอ?”รูปร่างสูงโปร่งและแข็งแรงของเจย์แข็งทื่อ แล้วเขาก็หันกลับมาและพูดว่า “คุณหญิงเซเวียร์ผู้ยิ่งใหญ่ คุณเป็นเหมือนราชินีผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองอิมพีเรียล ใครล่ะจะกล้าเผชิญหน้าสิงโตในถ้ำของมัน?”แล้วจู่ ๆ แองเจลีนก็มีท่าทีที่ดูน่าสงสารและหมดหนทางสู้ราวกับว่าเธอเป็นลูกแกะตัวน้อย ๆ เธอคว้าแขนเสื้อของเขาอย่างไม่เขินอายด้วยมือเล็ก ๆ ของเธอ “มีผู้ชายมากมายที่ละโมบอยากได้คนสวยที่เป็นธรรมชาติและไม่มีใครเทียบได้อย่างเช่นฉัน ปกติแล้วฉันจะมีบอดี้การ์ดของฉันอยู่ข้าง ๆ แต่วันนี้ไม่มีใครคอยปกป้องฉันเลย ฉันกลัวที่จะต้องกลับคนเดียว”ริมฝีปากของเจย์กระตุกขึ้นอย่างแรง “ผมจะเชื่อคุณมากกว่านะถ้าคุณบอกว่าพวกเขาอยากได้เงินของคุณ เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะตาบอด ใครจะละโมบโลภมากอยากได้คุณเพราะความสวยกัน?”แองเจลีนโกรธจัดจนมือของเธอกำหมัดแน่นแต่เขาไม่อาจมองเห็นได้ เธออยากจะต่อยผู้ชายปา
ดวงตาของแองเจลีนพร่ามัวไปด้วยน้ำตา เธอพูดด้วยท่าทีที่ไม่พอใจอย่างเหลืออด “ทำไมนายต้องด่าฉันด้วย?”เห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดของเขา ตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เธอมักจะจับมือเขาในทุกที่ที่เธอไป และนั่นทำให้เธอเป็นคนที่แย่ในเรื่องการจดจำทิศทางมากแล้วตอนนี้เขากลับมาโทษเธอแทน?เจย์อึ้งไปเล็กน้อย ทำไมเธอถึงร้องไห้อีกแล้วล่ะ?“บอกผมมาสิว่าตอนนี้เราควรจะไปไหน?” น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างบอกไม่ถูกแองเจลีนพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “ถ้าฉันบอกนายว่าฉันหลงทางแล้ว นายจะเชื่อฉันไหม?”แน่นอนว่าเจย์คงจะไม่เชื่อเธอ แต่ทว่าหลังจากเห็นสีหน้าที่ว่างเปล่าและน่ารักใสซื่อของแองเจลีนแล้ว เขาก็พบว่ามันเป็นการยากที่จะไม่เชื่อเธอเพื่อที่จะแก้ตัว เธอพึมพำผ่านลมหายใจของเธอ “ผู้หญิงทั่วไปมักจะแย่ในเรื่องทางอยู่แล้วนะ”เจย์โต้กลับอย่างฉุนเฉียว “แต่คุณไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปสักหน่อย!”ใบหน้าของแองเจลีนปรากฏรอยยิ้มที่ปลื้มปิติ “ฉันรู้หรอกพี่เบ็น ฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาในสายตาของนาย”เจย์พูดว่า “สำหรับผม คุณเป็นเหมือนยานรบที่พลังล้นเหลือและทำได้ทุกอย่างในบรรดาผู้หญิงพวกนั้น แต่สมองที่เชื่องช้าของคุณทำให้คุณไม่ต่างจา