หลังจากที่เธอและเจย์เดินออกมาจากห้องไอซียู เจย์ก็ได้แสดงความรู้สึกขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ “ขอบคุณนะครับ”แองเจลีนพูดว่า “ถ้านายต้องการขอบคุณใครสักคน อย่างน้อยนายควรแสดงความจริงใจด้วยการเลี้ยงอาหารฉันนะ"“คุณอยากกินอะไร?” เจย์ดูไม่เต็มใจอย่างยิ่งราวกับว่าเขากำลังจะไปที่ลานประหารแองเจลีนครุ่นคิดอยู่นานพอสมควร “เดี๋ยวฉันพานายไปเอง”แองเจลีนพาเจย์ไปที่โรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองอิมพีเรียล และเลือกห้องอาหารส่วนตัวสำหรับคู่รักเมื่อเจย์เห็นห้องที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่แสนโรแมนติก แววตาของเขาก็ดูเหมือนทำอะไรไม่ถูก แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขากำลังจะตอบแทนบุญคุณแก่แองเจลีน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระงับความไม่พอใจของเขาไว้แองเจลีนนั่งลงฝั่งตรงข้ามโต๊ะ และเมื่อพนักงานเสิร์ฟนำเมนูอาหารมา เจย์ก็ยื่นให้แองเจลีนอย่างสุภาพบุรุษ“ทำไมคุณไม่สั่งล่ะ?”ดังนั้นแล้ว แองเจลีนจึงสั่งอาหารจานโปรดของเขาทั้งหหมดเจย์ยังคงลังเลว่าจะเขาควรสั่งอะไรเบา ๆ ให้ตัวเองดีไหม แต่ทว่าแองเจลีนได้ส่งเมนูอาหารคืนให้พนักงานเสิร์ฟแล้วพนักงานเสิร์ฟจากไปพร้อมกับรอยยิ้มเจย์แอบคิดว่านางมารร้ายคนนี้ต้องถูกตามใจจนน
นี่เขากำลังพยายามบอกเป็นนัย ๆ ว่าเธอดูน่าเกลียดใช่ไหม?แองเจลีนไม่อาจยอมที่จะตกลงไปในกับดักของเขาและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ตอนที่ฉันเห็นหน้าสดของฉัน มันทำให้ฉันสงสัยว่านางฟ้าผู้นี้ลงมาจุติจากที่ไหนกันนะ”ริมฝีปากของเจย์กระตุกอย่างแรง “ขี้โม้อะไรอย่างนี้”แองเจลีนพูดว่า “ฉันแค่พูดเรื่องจริง”เจย์มองแองเจลีนขณะที่เธอยิ้มหวาน และด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ เขาคิดว่านางมารร้ายคนนี้ก็ดูไม่ได้น่ารำคาญเสียเท่าไหร่ในทางตรงกันข้าม ความไร้เดียงสาของเธอกลับทำให้เธอดูน่ารักเลยทีเดียว“ทำไมคุณถึงทำธุรกิจล่ะ?” เขาถามด้วยความสงสัยเขาคิดมาเสมอว่าแองเจลีนมีบุคลิกที่อ่อนโยนและน่ารัก มากกว่าที่จะเป็นคนห้าวหาญและแข็งแกร่งอย่างที่เธอกำลังแสร้งทำอยู่การทำธุรกิจไม่เข้ากับบุคลิกของเธอเลยสักนิดแองเจลีนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “นี่เป็นสัญญาที่ฉันให้ไว้กับเขา”เจย์ฟังอย่างตั้งใจแองเจลีนพูดว่า “ฉันเคยสัญญากับเขาว่าฉันเป็นได้ทั้งไม้เลื้อยที่ต้องการการค้ำยันและต้นไม้แข็งแกร่งที่ยืนหยัดได้อย่างอิสรเสรี”เธอชะงักก่อนจะพูดต่อ “แล้วตอนนี้เขาจากไปแล้ว ฉันต้องแข็งแกร่งให้เหมือนต้นไม้ เหมือนกับที
เจย์สาวเท้ายาวของเขาไปข้างหน้าและกำลังเดินจากไปแองเจลีนยืนแน่นิ่งอยู่กับที่ด้วยความงุนงงใบหน้าที่เข้มคมของเธอมีสีหน้าที่ดูราวกับหญิงสาวที่โศกเศร้าและหม่นหมองใจ “เฮ้ ไม่ใช่ว่าหลังจากเลี้ยงข้าวฉันเสร็จ นายควรจะไปส่งฉันที่บ้านหรอกเหรอ?”รูปร่างสูงโปร่งและแข็งแรงของเจย์แข็งทื่อ แล้วเขาก็หันกลับมาและพูดว่า “คุณหญิงเซเวียร์ผู้ยิ่งใหญ่ คุณเป็นเหมือนราชินีผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองอิมพีเรียล ใครล่ะจะกล้าเผชิญหน้าสิงโตในถ้ำของมัน?”แล้วจู่ ๆ แองเจลีนก็มีท่าทีที่ดูน่าสงสารและหมดหนทางสู้ราวกับว่าเธอเป็นลูกแกะตัวน้อย ๆ เธอคว้าแขนเสื้อของเขาอย่างไม่เขินอายด้วยมือเล็ก ๆ ของเธอ “มีผู้ชายมากมายที่ละโมบอยากได้คนสวยที่เป็นธรรมชาติและไม่มีใครเทียบได้อย่างเช่นฉัน ปกติแล้วฉันจะมีบอดี้การ์ดของฉันอยู่ข้าง ๆ แต่วันนี้ไม่มีใครคอยปกป้องฉันเลย ฉันกลัวที่จะต้องกลับคนเดียว”ริมฝีปากของเจย์กระตุกขึ้นอย่างแรง “ผมจะเชื่อคุณมากกว่านะถ้าคุณบอกว่าพวกเขาอยากได้เงินของคุณ เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะตาบอด ใครจะละโมบโลภมากอยากได้คุณเพราะความสวยกัน?”แองเจลีนโกรธจัดจนมือของเธอกำหมัดแน่นแต่เขาไม่อาจมองเห็นได้ เธออยากจะต่อยผู้ชายปา
ดวงตาของแองเจลีนพร่ามัวไปด้วยน้ำตา เธอพูดด้วยท่าทีที่ไม่พอใจอย่างเหลืออด “ทำไมนายต้องด่าฉันด้วย?”เห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดของเขา ตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เธอมักจะจับมือเขาในทุกที่ที่เธอไป และนั่นทำให้เธอเป็นคนที่แย่ในเรื่องการจดจำทิศทางมากแล้วตอนนี้เขากลับมาโทษเธอแทน?เจย์อึ้งไปเล็กน้อย ทำไมเธอถึงร้องไห้อีกแล้วล่ะ?“บอกผมมาสิว่าตอนนี้เราควรจะไปไหน?” น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างบอกไม่ถูกแองเจลีนพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “ถ้าฉันบอกนายว่าฉันหลงทางแล้ว นายจะเชื่อฉันไหม?”แน่นอนว่าเจย์คงจะไม่เชื่อเธอ แต่ทว่าหลังจากเห็นสีหน้าที่ว่างเปล่าและน่ารักใสซื่อของแองเจลีนแล้ว เขาก็พบว่ามันเป็นการยากที่จะไม่เชื่อเธอเพื่อที่จะแก้ตัว เธอพึมพำผ่านลมหายใจของเธอ “ผู้หญิงทั่วไปมักจะแย่ในเรื่องทางอยู่แล้วนะ”เจย์โต้กลับอย่างฉุนเฉียว “แต่คุณไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปสักหน่อย!”ใบหน้าของแองเจลีนปรากฏรอยยิ้มที่ปลื้มปิติ “ฉันรู้หรอกพี่เบ็น ฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาในสายตาของนาย”เจย์พูดว่า “สำหรับผม คุณเป็นเหมือนยานรบที่พลังล้นเหลือและทำได้ทุกอย่างในบรรดาผู้หญิงพวกนั้น แต่สมองที่เชื่องช้าของคุณทำให้คุณไม่ต่างจา
แองเจลีนทำหน้าซื่อ ๆ แล้วตอบว่า “ฉันไม่มีของมีค่าอะไรนอกจากนาย”เจย์ “...”“ส่งกระเป๋าสะพายให้พวกเขาไป”แองเจลีนจึงโยนกระเป๋าสะพายให้กลุ่มโจรไปพวกโจรพลิกกระเป๋าสะพายคว่ำลงและโกรธจัดเมื่อไม่พบของมีค่าในนั้น“ผู้หญิงคนนี้สวยดีนี่ บางทีพวกเราอาจจะทำเรื่องสนุก ๆ กับเธอได้”“แน่นอน”เจย์ลากแองเจลีนไปอยู่ข้างหลังเขา “ถอยไป” เขาสั่งและละอองเคร่งขรึมก็แผ่ออกมาละอองของเขามีพลังข่มขู่ที่ทำให้ใครก็ตามเกิดอาการหวาดผวาได้แองเจลีนรู้สึกว่าเธอกำลังมองดู เจย์ อาเรสที่แสนน่าเกรงขามที่เธอเคยรู้จักเธอยืนอยู่ข้างหลังเขา การที่เขายืนหันปะทะกับแสงไฟ มันทำให้เขาดูเหมือนราวกับเทือกเขาสีเขียวที่สูงตระหง่านและแข็งแกร่งมันทำให้ใจเธอรู้สึกสงบเมื่อกลุ่มโจรแกว่งมีดไปมา เจย์ก็สั่งแองเจลีนว่า “เร็วเข้า รีบวิ่งหนีไป”ในตอนนั้นเองเขาก็วิ่งเข้าหาคมมีดและเริ่มสู้กับกลุ่มโจรแองเจลีนจะทิ้งเขาไว้ข้างหลังได้อย่างไร? สายตาที่เหมือนเหยี่ยวของเธอจ้องไปที่เจย์เจย์กำลังสู้โดยที่ไม่มีอาวุธและเขาคิดว่าคงไม่มีทางรอดพ้นจากอันตรายครงนี้ในวันนี้ได้ พวกโจรล้อมเขาไว้ทุกด้านและพุ่งเข้าไปโดยไม่มีสัญญาณบอก ในขณะที่เขา
ในที่สุด แองเจลีนก็พาเจย์กลับมาที่ห้องพักของเขาเจย์เตือนสติเธอด้วยใบหน้ารูปปั้นน้ำแข็ง “ผมถึงบ้านแล้ว”แองเจลีนมองไปที่การริเริ่มของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนในสถานที่ก่อสร้างแล้วจู่ ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังฝันอยู่“ใช่ นายถึงบ้านแล้ว”อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนคือบ้านของเจย์บี้เธอมุ่งมั่นที่จะสร้างอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนขึ้นมาใหม่เพียงเพื่อที่เธอจะได้มีบ้านให้เขาเจย์หมุนตัวกลับและเดินเข้าไป“พี่เบ็น!” แองเจลีนเรียกเขาโดยไม่ทันคาดคิดเจย์หันกลับมา...แองเจลีนพุ่งตัวข้างหน้าโดยไม่เอยสิ่งใดแล้วเธอก็ประทับริมฝีปากของเธอลงบนริมฝีปากของเขาเจย์รู้สึกราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่าและยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเขาเกลียดชังนางมารร้ายคนนี้อย่างเห็นได้ชัด แต่ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกคลื่นไส้เลยตอนที่เธอจูบเขาด้วยริมฝีปากสีม่วงดำที่น่าขยะแขยงนั้น?ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกดีอย่างมหัศจรรย์จริง ๆหรือบางทีโรคกลัวเชื้อโรคของเขาอาจหายขาดอย่างน่าอัศจรรย์แล้ว?แองเจลีนเกรงกลัวที่จะอยู่ต่อหลังจากจูบเขา แล้วเธอก็รีบออกไปด้วยความรู้สึกผิด“พรุ่งนี้ฉันจะมาหานายอีก พี่เบ็น” เธอโบกมือให้เขาโดยที่หันหลัง
เมื่อเจย์รู้สึกว่านางมารร้ายคนนั้นได้เข้ามาครอบงำอารมณ์จิตใจของเขาเสียแล้ว เขาก็ลุกขึ้นมานั่งอย่างหนักใจ หลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้ว เขาก็ไปที่มุมห้องยืนตีลังกากลับหัวเขาต้องบังคับตัวเองให้ใจเย็นลงและคิดหาว่าทำไมเขาถึงมีความรู้สึกเช่นนี้กับแองเจลีนได้ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามหาคำตอบอย่างหนักแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อแองเจลีนนั้นเกิดจากความหลงใหล ความไว้ใจ หรือความเกลียดชังสุดขั้วกันแน่วันรุ่งขึ้น เจย์ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่โดยการยื่นจดหมายลาออกกับหัวหน้าแผนกวิศวกรรม จากนั้นเขาก็ย้ายออกจากหอพักและเช่าอพาร์ทเมนต์สองห้องนอนในหมู่บ้านจัดสรรเล็ก ๆ ในเมืองอิมพีเรียลเขาควรจะพามาริลินและลูก ๆ ของพวกเขามาที่นี่ตอนที่เขาหางานที่มั่นคงได้แล้วในขณะเดียวกัน มันอาจจะช่วยให้เขาพ้นจากความคิดบ้าบอทั้งหมดที่เขามีกับแองเจลีนได้ด้วยเมื่อแองเจลีนรู้ว่าเจย์ได้ออกไปจากสถานที่ก่อสร้างแล้ว เธอนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะในห้องทำงานของประธานและถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย“เฮ้อ”ไม่ใช่เป็นเพราะสิ่งใดเลยแต่มันเพราะการที่เธอไปลอบจูบเขาแล้วตอนนี้เขาก็ทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่แสนจะ
ทันทีที่เซย์นออกไป แองเจลีนก็มองไปที่บุปผาในกุณฑีทองด้วยสายตาเหม่อลอยหลังจากย้ายเข้ามาอยู่บ้านเช่าของเขา โลกของเจย์ก็เงียบและสงบลงเขาไม่ถูกชาวประมงรังควานรวมถึงไม่ถูกแองเจลีนคุกคามด้วยเช่นกันบ้านถูกห้อมล้อมไปด้วยความเงียบสงบในทุกวันแต่ถึงกระนั้น เขาก็รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างมากราวเหมือนกับว่ามีบางส่วนในหัวใจของเขาได้หายไปเลยทำให้หัวใจของเขารู้สึกว่างเปล่าเขาซื้อหนังสือหลายเล่ม อุปกรณ์วาดภาพ และเปียโนให้กับตัวเองตารางงานของเขาเต็มไปด้วยสิ่งที่เขาต้องเรียนรู้ แล้วความรู้ของเขาก็พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในเวลาไม่นาน เขาคิดว่ามันช่างแปลกประหลาดที่เขาเข้าใจข้อมูลส่วนใหญ่ในหนังสือได้หลังจากอ่านเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้เขายังสามารถเรียนรู้โดยการเปรียบเทียบและอนุมานสิ่ง ๆ หนึ่งกับข้อเท็จจริง และเชี่ยวชาญเรื่องนั้น ๆ ผ่านการศึกษาสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างครอบคลุมในวันนี้เขาเกิดอารมณ์พาไปแล้วตั้งกระดานวาดภาพขึ้น หลังจากผสมสีแล้วเขาก็เริ่มวาดภาพกระดาษแผ่นขาววางอยู่ตรงหน้าเขา เขายกพู่กันขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะวาดวิวทิวทัศน์อะไรดีท้ายที่สุดแล้วเขาก็ปล่อยพู่กันให้เคลื่อนไปตามความรู้สึกของเขาผล