อารมณ์ของเด็กมักแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขาคิดถึงเซ็ตตี้น้อยมากจนทำให้เขาน้ำตาไหลลงมาเล็กน้อย“เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ไปให้ไปนะ”“อืม”หลังจากนั้นไม่นาน ฟินน์ก็พาเซ็ตตี้น้อยมาที่ที่เจย์อยู่“คุณคะ!” เซ็ตตี้น้อยโผเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนเขาทันทีที่เห็นเขาฟินน์ก้าวไปข้างหน้าอย่างเคารพด้วยความเคยชิน “หลังจากที่เธอรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน เธอก็ตื๊อให้ผมพาเธอมาที่นี่ให้ได้เลยครับคุณเบ็น ผมหวังว่าพวกเราจะไม่รบกวนคุณนะครับ”เจย์กอดลูบผมที่นุ่มสลวยของเซ็ตตี้น้อยแล้วก็ยิ้ม “เปล่านี่ ไม่เลย”หลังจากที่ฟินน์และเซ็ตตี้น้อยเข้าบ้านมา เจย์ก็รินน้ำให้พวกเขา แล้วจู่ ๆ ฟินน์ก็รีบตรงเข้าไป “คุณเบ็น ให้ผมทำเถอะครับ” เขาพูดอย่างตกใจกลัวเจย์รู้สึกประหลาดใจมาก เขาไม่อาจบอกได้ว่าสายตาของฟินน์กำลังหลอกลวงเขาอยู่หรือเปล่า แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าฟินน์ให้ความเคารพเขามากเกินไปนะ?ฟินน์รินน้ำและยื่นให้เจย์ด้วยความเคารพ แล้วเขาก็ตรงไปรินน้ำให้เซ็ตตี้น้อยเซ็ตตี้น้อยมองไปที่พี่ชายฟินน์ที่ไม่สามารถเก็บอารมณ์ของตัวเองได้ เธอไม่รู้จะช่วยอย่างไร จึงได้แต่พูดกับเขาว่า “พี่ฟินน์ หนูคิดว่าพี่ควรกลับบ้านไปได้แล้วล่ะ หนูจะค้างคื
เมื่อพวกเขาผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย เด็กก็เริ่มเชื่อใจฟินน์“แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ล่ะ?” เจย์มีความสงสัย พ่อแม่แบบไหนจะยอมยกลูกให้กับคนภายนอกอย่างง่ายดายเช่นนั้น? มันช่างดูน่าเหลวไหลสำหรับเขาเจย์และเซ็ตตี้น้อยได้พบกันสองครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยพบกับพ่อแม่ของเธอมาก่อนเขาคิดตามหลักการว่าพ่อแม่ของเซ็ตตี้น้อยต้องขาดการสั่งสอนและให้ความรู้แก่ลูกเป็นแน่ ชีวิตรักของพวกเขาคงต้องประหลาดแปลกน่าดูเซ็ตตี้น้อยมองเจย์ด้วยความเศร้าโศกในดวงตาของเธอ“พวกเขาหย่ากันเหรอ?” เขาสรุปออกมาอย่างใจกล้าเซ็ตตี้น้อยส่ายหัว “พวกเขาจะไม่หย่ากันหรอกค่ะ พ่อของหนูเชื่อว่าจะมีแค่พ่อม่ายและแม่ม่ายเท่านั้นค่ะ ไม่มีการหย่าร้าง คุณพ่อกับคุณแม่รักกันมาก ท้ายสุดแล้วคุณพ่อของหนูก็ยกทุกอย่างให้คุณแม่ รวมถึงชีวิตของเขาด้วยค่ะ”จู่ ๆ เจย์ก็นึกถึงวลีที่ว่า ‘ความรักที่เร่าร้อนมากเกินไปนั้นอยู่ได้ไม่นาน’เขาเป็นคนดีและเขาสงสัยว่าเขาได้รับกรรมที่เขาควรจะได้รับหรือยัง“แล้วคุณแม่ของหนูล่ะ?”เธอทิ้งลูกแล้วแต่งงานใหม่เหรอ?น้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตาของเซ็ตตี้น้อย “คุณแม่อยากไปกับคุณพ่อค่ะ คุณแม่ก็เลยกรีดข้อมือตัวเอง แต่คุณลุงของห
“เบ็น ท่านประธานต้องการให้นายดูแลพวกเราใช่ไหม? ตอนนี้พวกเราไม่มีเงินค่าอาหาร เพราะฉะนั้นนายช่วยไปบอกท่านประธานให้จ่ายค่าจ้างให้เราล่วงหน้าได้ไหม?” ชาวประมงอ้อนวอนเจย์เจย์มีสีหน้าเคร่งเครียด ชาวประมงพูดกับเขาอย่างโจ่งแจ้งให้เขาไปขอเหตุผลกับนางมารร้ายคนนั้น แต่เขาไม่ต้องการยุ่งอะไรกับเธอเลย“ฉันพอมีเงินสดอยู่บ้าง ฉันจะให้พวกนายทุกคนยืมก่อนก็แล้วกัน”สแตน ฮิทเชนส์พูดอย่างชั่วร้าย “เบ็น เงินทั้งหมดนั้นมาจากไหนกัน?” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยเจย์จ้องไปที่เขาด้วยความเย็นชาในดวงตาของเขา ซึ่งมันทำให้สแตนส่ายหน้าเล็กน้อย เขามักรู้สึกว่าเศษขยะที่ไม่ได้เรื่องคนนี้มีแววตาที่น่าสยดสยองมาตลอดทอมมี่รีบทำลายบรรยากาศนี้และพูดว่า “เอาสิ ฮิทเชนส์ ถ้าเบ็นยินดีให้เรายืมเงิน แปลว่าเขาจะช่วยเรา เราควรจะขอบคุณเขานะ ทำไมเราต้องสนใจว่าเงินของเขามาจากไหนด้วยล่ะ?”“ใช่ ใช่” ชาวประมงคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นด้วยสแตนมองชาวประมงคนอื่น ๆ ที่ทำตัวเคารพเจย์ในทันทีทันใด เขารู้สึกขมขื่นอยู่ภายในและหัวเราะเยาะ “หึหึ โรคของเขามันแพร่เชื้อได้ สิ่งที่เขามีมันคือเงินสกปรกทั้งหมดเลย เมื่อเรารับมันมา บางทีเราอาจจะติ
ชาวประมงลังเลอยู่ครู่หนึ่งขณะที่กำลังวิเคราะห์สถานการณ์ พวกเขาคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่จะตามการนำของสแตนมากกว่าเจย์ที่เป็นคนไร้ประโยชน์ นั่นเป็นเพราะว่าสแตนอาศัยอยู่ในเมืองเป็นเวลานานกว่าด้วยเหตุนี้ พวกเขาก็ระบายความโกรธไปที่เจย์ ทุบตีเขาด้วยความป่าเถื่อน“จัดการมัน!”“มันเป็นแค่คนนอกในหมู่บ้านของเรา ถ้าเราฆ่ามันให้ตายไปซะ ก็ไม่มีใครมาช่วยมันได้หรอก” สแตนพูดขณะขู่คำรามฟินน์หันหลังกลับมา เขาเห็นว่าเจย์เริ่มโกรธจัดและรับมือกับชาวประมงทั้งหมดด้วยตัวของเขาเองชาวประมงมักมีมัดกล้ามที่แข็งแรงและร่างใหญ่ตามธรรมชาติอยู่แล้ว ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง เจย์มีร่างกายที่อ่อนแอกว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาความจำเสื่อมมานานเกินไป เขาจึงลืมไปว่าเขาเคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาก่อน เขาปล่อยหมัดอย่างเรียบ ๆ ใส่คู่ต่อสู่ด้วยความอำมหิตที่มีภายในตัวเขาเปลวไฟลุกโชนออกมาจากนัยน์ตาของฟินน์ เขากัดฟันและคำรามออกมา “พวกแกรนหาที่ตายเองนะ”เขากระโจนเข้ามาเหมือนเสือจากัวร์ ลูกเตะวงกว้างฟาดเข้าใส่สแตน ทำให้เขาลอยขึ้นกลางอากาศ ลูกเตะและหมัดต่อยของฟินน์นั้นทรงพลังอย่างมากและใช้เวลาเพียงไม่นานในการจัดการชาวประมงเหล่านั้
จู่ ๆ แองเจลีนก็สารภาพกับเขาว่า “ฉันชอบนาย”ท่าทีของเจย์เต็มไปด้วยการปฏิเสธ “ผมไม่สนใจหรอก”แองเจลีนอ้าปากค้างเล็กน้อย… ความรู้สึกของความผิดหวังปะทะเธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“นายจะไม่คิดสักหน่อยเหรอ?”เจย์มองเธอราวกับว่าเขากำลังบอกเธออยู่ในใจว่า ‘จะเสียเวลากับเรื่องแบบนี้ไปทำไมกัน?’แองเจลีนทำหน้าบึ้งแต่ยังคงยืนกรานและเริ่มคุยโอ้อวดว่า “นายก็รู้ว่าฉันเป็นคนดี ฉันใสซื่อ รวย และฉันรู้วิธีเอาใจคน มีผู้ชายนับไม่ถ้วนในเมืองอิมพีเรียลที่ชอบฉัน”มุมปากของเจย์กระตุกอย่างแรง!“คุณแน่ใจเหรอว่าที่ผู้ชายพวกนั้นตามคุณไม่ใช่เป็นเพราะว่าเงินของคุณ?”แองเจลีนตอบ “เป็นไปไม่ได้ ฉันเป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูดอันดับหนึ่งของทั้งเมืองอิมพีเรียลนี้”เจย์มองไปที่ ‘หนังสือสุดยอดคนดัง’ เล่มใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อมาที่อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ ริมฝีปากของเขากระตุกขึ้น “นั่นเป็นเพราะชื่อคุณเป็นตัวอักษรแรกในรายชื่อต่างหาก”แองเจลีน “...”บทสนทนาจบลงที่ทางตันแองเจลีนคิดว่าวิธีการจีบของเธอต้องผิดพลาดตั้งแต่เริ่มบทสนทนาแล้วเป็นแน่การพูดว่า ‘ฉันชอบนาย’ กับผู้ชายนั้นมันล้าสมัยเกินไป“ตราบใดนายยอมรับฉันได้ ฉันก็ใ
ในตอนนั้นเอง เกรย์สันก็รีบเข้าไปในห้องและอยู่ในท่าทางตื่นตระหนก “ท่านประธานครับ อาการของเทมเพสแย่ลงครับ”แองเจลีนพูดอย่างโมโหกับเจย์ว่า “นายไม่ต้องไล่ฉันหรอก ฉันไปเองได้” เธอเดินออกไปและปล่อยให้เจย์ยืนอยู่ตรงนั้นเจย์รู้สึกอึ้งตกใจอย่างมากจนเขาลืมไปว่าเขาจะพูดอะไรต่อเทมเพสตกอยู่ในอันตราย?เขารีบวิ่งออกไปข้างนอก “คุณเซเวียร์?”แองเจลีนมองกลับมาที่เขา “อะไรอีกล่ะ?”“คุณพาผมไปด้วยได้ไหม?”“นายไม่ยอมขอร้องฉันไม่ใช่เหรอ?” แก้มของเธอป่องเหมือนขนมปังในร้านขายขนมปัง เธอก็ดูน่ารักดีเห็นได้ชัดเจนว่าเธอยังโกรธเขาอยู่เจย์ “...”ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงที่โกรธเคืองของแองเจลีนเรียกเขา “ขึ้นรถสิ”เจย์เดินขึ้นไปและนั่งข้างเธอแล้วเกรย์สันก็ออกรถแองเจลีนจ้องมองไปที่ดอกทานตะวันในรถ เธอพึมพำกับตัวเองว่า “ให้ดอกทานตะวันกับฉันทำไม? ความสุขนิรันดร์ไม่มีอยู่บนโลกใบนี้สักหน่อย ไม่ใช่เหรอ?”เจย์คิดว่าเธอกำลังพูดกับเขา แต่เขานึกไม่ออกว่าเขาเกี่ยวอะไรกับดอกทานตะวันในรถนี้ เขาจึงทำได้แค่ฟังแล้วเฟอร์รารี่ก็มาถึงทางเข้าของแกรนด์เอเซียหลังจากนั้นไม่นานเจย์รู้สึกว่าเขารีบเปิดประตูรถได้อย่างรวด
หลังจากที่เธอและเจย์เดินออกมาจากห้องไอซียู เจย์ก็ได้แสดงความรู้สึกขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ “ขอบคุณนะครับ”แองเจลีนพูดว่า “ถ้านายต้องการขอบคุณใครสักคน อย่างน้อยนายควรแสดงความจริงใจด้วยการเลี้ยงอาหารฉันนะ"“คุณอยากกินอะไร?” เจย์ดูไม่เต็มใจอย่างยิ่งราวกับว่าเขากำลังจะไปที่ลานประหารแองเจลีนครุ่นคิดอยู่นานพอสมควร “เดี๋ยวฉันพานายไปเอง”แองเจลีนพาเจย์ไปที่โรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองอิมพีเรียล และเลือกห้องอาหารส่วนตัวสำหรับคู่รักเมื่อเจย์เห็นห้องที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่แสนโรแมนติก แววตาของเขาก็ดูเหมือนทำอะไรไม่ถูก แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขากำลังจะตอบแทนบุญคุณแก่แองเจลีน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระงับความไม่พอใจของเขาไว้แองเจลีนนั่งลงฝั่งตรงข้ามโต๊ะ และเมื่อพนักงานเสิร์ฟนำเมนูอาหารมา เจย์ก็ยื่นให้แองเจลีนอย่างสุภาพบุรุษ“ทำไมคุณไม่สั่งล่ะ?”ดังนั้นแล้ว แองเจลีนจึงสั่งอาหารจานโปรดของเขาทั้งหหมดเจย์ยังคงลังเลว่าจะเขาควรสั่งอะไรเบา ๆ ให้ตัวเองดีไหม แต่ทว่าแองเจลีนได้ส่งเมนูอาหารคืนให้พนักงานเสิร์ฟแล้วพนักงานเสิร์ฟจากไปพร้อมกับรอยยิ้มเจย์แอบคิดว่านางมารร้ายคนนี้ต้องถูกตามใจจนน
นี่เขากำลังพยายามบอกเป็นนัย ๆ ว่าเธอดูน่าเกลียดใช่ไหม?แองเจลีนไม่อาจยอมที่จะตกลงไปในกับดักของเขาและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ตอนที่ฉันเห็นหน้าสดของฉัน มันทำให้ฉันสงสัยว่านางฟ้าผู้นี้ลงมาจุติจากที่ไหนกันนะ”ริมฝีปากของเจย์กระตุกอย่างแรง “ขี้โม้อะไรอย่างนี้”แองเจลีนพูดว่า “ฉันแค่พูดเรื่องจริง”เจย์มองแองเจลีนขณะที่เธอยิ้มหวาน และด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ เขาคิดว่านางมารร้ายคนนี้ก็ดูไม่ได้น่ารำคาญเสียเท่าไหร่ในทางตรงกันข้าม ความไร้เดียงสาของเธอกลับทำให้เธอดูน่ารักเลยทีเดียว“ทำไมคุณถึงทำธุรกิจล่ะ?” เขาถามด้วยความสงสัยเขาคิดมาเสมอว่าแองเจลีนมีบุคลิกที่อ่อนโยนและน่ารัก มากกว่าที่จะเป็นคนห้าวหาญและแข็งแกร่งอย่างที่เธอกำลังแสร้งทำอยู่การทำธุรกิจไม่เข้ากับบุคลิกของเธอเลยสักนิดแองเจลีนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “นี่เป็นสัญญาที่ฉันให้ไว้กับเขา”เจย์ฟังอย่างตั้งใจแองเจลีนพูดว่า “ฉันเคยสัญญากับเขาว่าฉันเป็นได้ทั้งไม้เลื้อยที่ต้องการการค้ำยันและต้นไม้แข็งแกร่งที่ยืนหยัดได้อย่างอิสรเสรี”เธอชะงักก่อนจะพูดต่อ “แล้วตอนนี้เขาจากไปแล้ว ฉันต้องแข็งแกร่งให้เหมือนต้นไม้ เหมือนกับที