เซย์นหยิบโทรศัพท์ออกมาและด้วยนิ้วสั่น ๆ เขาได้จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวแรกสุดไปยังประเทศเอสสำหรับเขาและร็อบบี้น้อยจากนั้นเขาก็ส่งข้อความหาเจย์ว่า ‘เครื่องบินจะออกเวลา 13.00 น. วันนี้’ณ แกรนด์เอเซียเมื่อเจย์เห็นข้อความ เขาก็ยังคงไม่สามารถอดกลั้นความโศกเศร้าในใจไว้ได้ ทั้ง ๆ ที่เขาได้เตรียมใจไว้นานแล้วเขาเอนศีรษะลงบนพนักพิงเก้าอี้ทำงาน ร่องรอยของความหดหู่ใจที่หายากปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาดุจน้ำแข็งแกะสลัก“ฉันกำลังส่งลูก ๆ ไปยังที่ต่าง ๆ ทีละคน และทิ้งให้แองเจลีนอยู่คนเดียว แองเจลีนคงจะไม่มีวันยกโทษให้ฉันแน่ ๆ” เจย์พูดอย่างเศร้าสร้อยฟินน์ปลอบว่า “เมื่อหายนะมาถึงและคุณไม่เต็มใจที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว ผมเกรงว่าคุณผู้หญิงจะเจ็บปวดและทรมานทั้งวันยิ่งกว่า เธอจะมีแรงที่จะดูแลลูก ๆ ได้ยังไงกันครับ?”“ตอนนี้ฉันได้ทำให้เธอเกลียดฉันมากขึ้นไปอีก แต่ฉันหวังว่าความเจ็บปวดของเธอจะลดลงทีละน้อยในอนาคต” เจย์กล่าวในตอนนั้นเอง เกรย์สันก็ผลักประตูและเข้ามา เขาถือเอกสารกองใหญ่อยู่ในมือโดยมีตราประทับส่วนตัวของเจย์ประทับอยู่“ท่านประธานอาเรส เอกสารพวกนี้ต้องการลายเซ็นและตราประทับของคุณ หลังจาก
รถเข็นของเจย์หยุดอยู่ที่ใต้ตึก เขาหลุดไปอยู่ในห้วงความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังกลับฟินน์พูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านประธานอาเรส คุณจะไม่เข้าไปเยี่ยมคุณท่านปู่อาเรสหน่อยเหรอครับ?”เจย์กล่าว “ไม่ล่ะ หลังจากที่ฉันจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ของฉันเสร็จแล้ว ฉันจะย้ายกลับมาที่อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน "……แองเจลีนได้รับข้อความจากเจย์ ‘มาที่สวนบันทึกรัก’จะอย่างไรก็ตาม ประโยคสั้น ๆ ทำให้แองเจลีนคิดว่ามันไม่จริงใจเอาเสียเลยเขาต้องการให้เธอแก้ปัญหาความต้องการทางจิตใจของเขางั้นเหรอ?ในขณะที่แองเจลีนกำลังลังเลว่าจะตอบข้อความอย่างไร จู่ ๆ ร็อบบี้น้อยก็วิ่งเข้ามา เขาเอาหัวชนแขนแม่ของเขาและพูดอย่างกระมิดกระเมี้ยน “คุณแม่ครับ คุณลุงเซย์นจองเที่ยวบินไว้ตอน 13.00 น. ของวันนี้ พวกเรากำลังจะออกจากเมืองนางแอ่นแล้ว คุณแม่ครับ ผมจะคิดถึงคุณแม่นะครับ”แองเจลีนกอดร็อบบี้น้อยและยิ้มอย่างนุ่มนวล “ลูกรัก แม่ไปกับลูกที่การแข่งขันไม่ได้ แต่แม่เชื่อในตัวลูกนะ ลูกไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังเลย ลูกเก่งที่สุดแล้ว”ดวงตาที่มีเสน่ห์ของร็อบบี้น้อยเปล่งประกายด้วยความมั่นใจ “โอเคครับคุณแม่ ผมจะไม่ทำให้คุณแม่ผิดหวัง ผมจะเอ
เซย์นและร็อบบี้น้อยได้ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินเมืองนางแอ่นในเวลาเดียวกัน แองเจลีนรีบขับรถไปที่สวนบันทึกรักที่เมืองอิมพีเรียลเจย์นั่งอยู่ที่ระเบียงชั้นสอง มองออกไปตามทาง เมื่อเขาเห็นรถของแองเจลีนขับเข้ามาในวิสัยทัศน์ของเขา เขาก็ดันรถเข็นของเขาและลงไปชั้นล่างรถของแองเจลีนเพิ่งมาถึงสวนบันทึกรัก และก่อนที่เธอจะได้บีบแตร ประตูก็เปิดให้เธอแล้วหลังจากที่เธอจอดรถไว้ตรงที่จอดรถ เธอก็ลากร่างที่อ่อนล้าแล้วเดินไปที่ประตูของคฤหาสน์เจย์นั่งรอเธออยู่ที่หน้าประตู เมื่อเขาเห็นเธอ สายตาของเขาหยุดชั่วครู่ที่ใบหน้าซีดและผอมบางของเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดข้างในใจช่วงเวลาของเด็กผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะแย่มาก“เข้ามาสิ”เขาหันรถเข็นแล้วเข้าไปข้างในโดยมีแองเจลีนอยู่ด้านหลังเขาเธอถอดเสื้อผ้าออกขณะเดิน เมื่อเจย์หันกลับมาและเห็นเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ประกายไฟของการขาดความอดทนก็เต็มล้นอยู่ในดวงตาของนกอินทรีย์ของเขา“นี่เธอกำลังทำอะไร?” เจย์ถามเสียงเข้มใบหน้าของแองเจลีนหยุดนิ่งขณะที่เธอพูดว่า “ท่านอาเรส ความสัมพันธ์ของเราไม่มีอะไรมากไปกว่าการเป็นคู่รักตามสัญญาจ้าง ฉันคิดอะไรไม่อ
ใบหน้าที่เย็นชา เฉยเมย และเยือกเย็นของเจย์ได้ทลายลงไปเล็กน้อย เขายื่นมือออกไป นิ้วเรียวยาวไล่ไปตามคิ้วที่ละเอียดอ่อนและไร้ที่ติของเธอ“แองเจลีน นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เจย์บี้รักเธอแบบนี้ จากนี้ไปเธอต้องเข้มแข็งนะ”เขากอดเธอและผล็อยหลับไปเมื่อคุณหมอมาถึง เขาก็แต่งตัวให้เธอเขาได้ซื้อเสื้อผ้าสวยมากมายให้กับเธอ ซึ่งตอนนี้อยู่ในตู้เสื้อผ้าของเธอที่สวนบันทึกรัก เขาใช้เวลานานก่อนที่เขาจะหยิบชุดเดรสสีเขียวราวกับนางฟ้าดอกไม้ออกมาแล้วสวมให้เธอเขาจำได้ว่าเธอเคยสวมชุดลูกไม้ยาวถึงข้อเท้าสีเขียวแล้วสวยงามราวกับนางฟ้าเมื่อครั้นตอนที่พบกันครั้งแรก ซึ่งนั่นได้ทำให้เขาหลงใหลตั้งแต่แรกเห็นเขาหวังว่าเขายังจะได้จากไปพร้อมกับความทรงจำที่ดีที่สุดของแองเจลีนเมื่อตอนที่เขาได้บอกลาเธอในที่สุดเขาทำความสะอาดห้องนอนของพวกเขาอย่างระมัดระวัง เขาเปิดผ้าม่านหนาออกและผลักหน้าต่างออกเพียงเพื่อจะรู้ว่าค่ำคืนนั้นเพิ่งจะมาถึงคุณหมอเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์...เจย์ได้หลบออกไปสักพักเขานั่งตรงหัวโค้งทางเดินที่ชั้นสองและสูบบุหรี่อย่างขุ่นเคืองทีละมวน!ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกกระวนกระวายมากในเวลา
เซย์นหมุนตัวกลับและจากไป จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาของเขา แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่กล้าที่จะเช็ดมันออก เขาเพียงก้าวท้าวเดินให้เร็วขึ้นและในที่สุดก็ได้หายไปจากสายตาของร็อบบี้น้อยจากนั้นเขาก็นั่งยอง ๆ ที่มุม ๆ หนึ่ง ปิดหน้าของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง และสุดท้ายก็ร้องไห้ออกมาดัง ๆ“ร็อบบี้น้อย ฉันขอโทษ”ร็อบบี้น้อยจับมือสตอร์มและเดินออกจากสนามบิน“อาสตอร์ม ไปกันเถอะครับ”แต่ทว่า สตอร์มยืนนิ่งไม่ไหวติงร็อบบี้น้อยมองเขาด้วยความตกใจ“ลุงสตอร์ม มีอะไรเหรอครับ?”สตอร์มนั่งยอง ๆ ลง จับมือเล็ก ๆ ของร็อบบี้น้อยไว้แล้วพูดว่า “ร็อบบี้น้อย มันไม่มีการแข่งขัน ผมมาที่นี่เพื่อพาคุณไปที่อื่น”ร็อบบี้น้อยตระหนักรู้เป็นพิเศษถึงความปลอดภัยของเขาตั้งแต่ยังเล็ก เขามีความรู้สึกสะพรึงกลัวกับพฤติกรรมที่ขัดแย้งกันของสตอร์มเขาแยกตัวเองให้เป็นอิสระจากมือของสตอร์มและรีบออกมา“คุณเป็นคนไม่ดี ผมอยากกลับบ้าน”“ร็อบบี้น้อย ฟังคำอธิบายของผมก่อน…” สตอร์มวิ่งไล่ตามเขาสตอร์มเก่งในศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นการไล่ตามร็อบบี้น้อยเป็นเรื่องที่แสนง่ายดายแต่กระนั้น ร็อบบี้น้อยก็ไม่ง่ายเลยที่จะรับมือ เขาตัวเล็ก ปราดเปรี
“ร็อบบี้น้อย!”ณ สวนบันทึกรัก เมืองอิมพีเรียลแคปิตอลแองเจลีนตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ร่างกายของเธอจึงรู้สึกเบา เบามากราวกับกำลังลอยและเดินอยู่บนก้อนเมฆที่อ่อนนุ่ม เธอรู้สึกไร้น้ำหนักอย่างสิ้นเชิง“เกิดอะไรขึ้นกับฉันงั้นเหรอ?” แองเจลีนลืมตาพร่ามัวของเธอขึ้น สายตาของเธอมองห้องนอนที่ว่างเปล่าไปรอบ ๆจมูกของเธอดูเหมือนจะได้กลิ่นของยาฆ่าเชื้อลาง ๆเจย์กำลังถือชามโจ๊กอยู่ หลังจากเป่ามันอย่างระมัดระวัง เขาก็ป้อนมันเข้าปากเธอ“กินข้าวต้มหน่อย” เสียงของเขาแหบแห้ง ราวกับว่าคำพูดของเขามาจากเสียงของคนที่ร้องไห้จนเสียงหายไป มันก็เหมือนกับเสียงที่มาจากคนที่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และค่อนข้างบิดเพี้ยน“เกิดอะไรขึ้นกับฉันงั้นเหรอ?” เธอถามเพียงแค่หลังจากที่เธอพูดออกมา เธอก็ได้รู้ว่าเสียงของเธอนั้นช่างอ่อนแรง มันเกือบจะไม่ได้ยินเจย์เดินเข้าไปหาเธอและจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงบนหน้าผากของเธอ เขาพูดเบา ๆ ว่า “กินอะไรก่อน แล้วเธอถึงจะมีแรงที่จะพูด”เธออ้าปากของเธออย่างเชื่อฟังเขาป้อนเธอทีละน้อย อ่อนโยนและเห็นอกเห็นใจ เหมือนกับที่เขาเคยดูแลเธอตอนที่เธอยังเด็กดวงตาของเธอเปียก เธ
แองเจลีนนอนอยู่บนเตียง หลังจากกินข้าวต้มชามใหญ่ไป กระเพาะอาหารของเธอก็อิ่มอย่างเห็นได้ชัด แต่ทว่า…แองเจลีนก็รู้สึกประหลาดใจที่พบว่าท้องที่ตั้งครรภ์ของเธอหายไปแองเจลีนวางมือบนท้องของเธอเบา ๆ และรู้สึกว่ามันว่างเปล่าด้วยเหตุบางอย่างเจย์ถามเธอทันทีว่า “เที่ยงนี้อยากกินอะไร? ฉันจะไปทำมาให้”แองเจลีนตกตะลึงไปเล็กน้อย “พี่เลี้ยงจะไม่กลับมาเหรอ?”“ที่บ้านมีเหตุการณ์ฉุกเฉินน่ะ เธอเลยไม่สามารถกลับมาได้อีกสักสองสามวัน” เจย์พูดคร่าว ๆ อย่างไม่ใส่ใจเขาได้ส่งทุกคนออกไปและต้องการใช้เวลาครั้งสุดท้ายกับเธออย่างสงบสุขแองเจลีนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คุณทำสเต็กให้ฉันได้ไหม?”เธอจำได้ว่าสเต็กที่เขาเคยทำนั้นอร่อยมาก ราดด้วยซอสมะเขือเทศบาง ๆ เนื้อนั้นนุ่มและกรอบหอมและอร่อย“มีอะไรอย่างอื่นอีกไหม?” เขาถามแองเจลีนพูดอีกครั้งว่า “พิซซ่าแป้งกรอบสีทอง”เจย์พยักหน้า “โอเค รอสักพักนะ”เขาหันรถเข็นแล้วออกไปแองเจลีนมองไปที่แผ่นหลังที่ยาวและยืดตรงของเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยเขาอนุญาตให้เธอสั่งอาหารกับเขาด้วยมารยาทอย่างที่สุภาพบุรุษเขาทำกันอย่างนั้นเหรอ?นี่เป็นการดูแลที่เธอไม่ได้รับเลยใ
แองเจลีนโวยวายด้วยเสียงแตก พูดว่า “เพราะนายไม่รักฉันอีกแล้ว มันไม่ได้หมายความว่านายต้องลิดรอนชีวิตลูกของเรา!”เธออยากจะลุกออกจากเตียง แต่ร่างกายของเธอก็อ่อนแอเกินไป เธอไถลและล้มลงบนพื้น เธอคลานเข้าไปหาเจย์อย่างยากลำบาก กล่าวโทษกับความโหดเหี้ยมของเขา“โอ้ เจย์ อาเรส ทำไมฉันต้องตกหลุมรักนายด้วยนะ?”เจย์เริ่มน้ำตาคลอเบ้าเสียงในหัวใจของเขาดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า 'ฉันขอโทษนะ แองเจลีน ฉันไม่ควรตอแยเธอและทำให้เธอใช้ชีวิตด้วยความเจ็บปวดและทรมาณแบบนี้’น้ำตาของแองเจลีนทำให้ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอเปียกปอน แต่ทันในนั้น เธอก็เริ่มหัวเราะอย่างอ่อนแอ “ถึงฉันจะรู้ว่าจุดจบของการได้รักนายคือการถูกทิ้ง ทำไมฉันยังอยากจะเข้าหานายซ้ำแล้วซ้ำอีกกันนะ?”“ทำไมฉันไม่ยอมให้พระเจ้าเอาชีวิตของฉันไปในอุบัติรถยนต์นั่นซะ? กลับกัน ฉันอยากจะกลับมาสานต่อในสิ่งที่ฉันเคยทำไว้กับนาย”“ทำไมฉันถึงกัดฟันและทิ้งนายอย่างโหดร้ายไม่ได้ในตอนที่จิตวิญญาณของฉันผูกติดกับโรส ลอยล์หลังจากที่ถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเฉยชาของนาย? ฉันไม่ยอมแพ้และยังคงอยากที่จะกลับมาพร้อมกับร็อบบี้และเซ็ตตี้น้อย”“ทำไมเมื่อฉันมีโอกาสเป็นมนุษย์อีกครั้ง