“ร็อบบี้น้อย!”ณ สวนบันทึกรัก เมืองอิมพีเรียลแคปิตอลแองเจลีนตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ร่างกายของเธอจึงรู้สึกเบา เบามากราวกับกำลังลอยและเดินอยู่บนก้อนเมฆที่อ่อนนุ่ม เธอรู้สึกไร้น้ำหนักอย่างสิ้นเชิง“เกิดอะไรขึ้นกับฉันงั้นเหรอ?” แองเจลีนลืมตาพร่ามัวของเธอขึ้น สายตาของเธอมองห้องนอนที่ว่างเปล่าไปรอบ ๆจมูกของเธอดูเหมือนจะได้กลิ่นของยาฆ่าเชื้อลาง ๆเจย์กำลังถือชามโจ๊กอยู่ หลังจากเป่ามันอย่างระมัดระวัง เขาก็ป้อนมันเข้าปากเธอ“กินข้าวต้มหน่อย” เสียงของเขาแหบแห้ง ราวกับว่าคำพูดของเขามาจากเสียงของคนที่ร้องไห้จนเสียงหายไป มันก็เหมือนกับเสียงที่มาจากคนที่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และค่อนข้างบิดเพี้ยน“เกิดอะไรขึ้นกับฉันงั้นเหรอ?” เธอถามเพียงแค่หลังจากที่เธอพูดออกมา เธอก็ได้รู้ว่าเสียงของเธอนั้นช่างอ่อนแรง มันเกือบจะไม่ได้ยินเจย์เดินเข้าไปหาเธอและจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงบนหน้าผากของเธอ เขาพูดเบา ๆ ว่า “กินอะไรก่อน แล้วเธอถึงจะมีแรงที่จะพูด”เธออ้าปากของเธออย่างเชื่อฟังเขาป้อนเธอทีละน้อย อ่อนโยนและเห็นอกเห็นใจ เหมือนกับที่เขาเคยดูแลเธอตอนที่เธอยังเด็กดวงตาของเธอเปียก เธ
แองเจลีนนอนอยู่บนเตียง หลังจากกินข้าวต้มชามใหญ่ไป กระเพาะอาหารของเธอก็อิ่มอย่างเห็นได้ชัด แต่ทว่า…แองเจลีนก็รู้สึกประหลาดใจที่พบว่าท้องที่ตั้งครรภ์ของเธอหายไปแองเจลีนวางมือบนท้องของเธอเบา ๆ และรู้สึกว่ามันว่างเปล่าด้วยเหตุบางอย่างเจย์ถามเธอทันทีว่า “เที่ยงนี้อยากกินอะไร? ฉันจะไปทำมาให้”แองเจลีนตกตะลึงไปเล็กน้อย “พี่เลี้ยงจะไม่กลับมาเหรอ?”“ที่บ้านมีเหตุการณ์ฉุกเฉินน่ะ เธอเลยไม่สามารถกลับมาได้อีกสักสองสามวัน” เจย์พูดคร่าว ๆ อย่างไม่ใส่ใจเขาได้ส่งทุกคนออกไปและต้องการใช้เวลาครั้งสุดท้ายกับเธออย่างสงบสุขแองเจลีนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คุณทำสเต็กให้ฉันได้ไหม?”เธอจำได้ว่าสเต็กที่เขาเคยทำนั้นอร่อยมาก ราดด้วยซอสมะเขือเทศบาง ๆ เนื้อนั้นนุ่มและกรอบหอมและอร่อย“มีอะไรอย่างอื่นอีกไหม?” เขาถามแองเจลีนพูดอีกครั้งว่า “พิซซ่าแป้งกรอบสีทอง”เจย์พยักหน้า “โอเค รอสักพักนะ”เขาหันรถเข็นแล้วออกไปแองเจลีนมองไปที่แผ่นหลังที่ยาวและยืดตรงของเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยเขาอนุญาตให้เธอสั่งอาหารกับเขาด้วยมารยาทอย่างที่สุภาพบุรุษเขาทำกันอย่างนั้นเหรอ?นี่เป็นการดูแลที่เธอไม่ได้รับเลยใ
แองเจลีนโวยวายด้วยเสียงแตก พูดว่า “เพราะนายไม่รักฉันอีกแล้ว มันไม่ได้หมายความว่านายต้องลิดรอนชีวิตลูกของเรา!”เธออยากจะลุกออกจากเตียง แต่ร่างกายของเธอก็อ่อนแอเกินไป เธอไถลและล้มลงบนพื้น เธอคลานเข้าไปหาเจย์อย่างยากลำบาก กล่าวโทษกับความโหดเหี้ยมของเขา“โอ้ เจย์ อาเรส ทำไมฉันต้องตกหลุมรักนายด้วยนะ?”เจย์เริ่มน้ำตาคลอเบ้าเสียงในหัวใจของเขาดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า 'ฉันขอโทษนะ แองเจลีน ฉันไม่ควรตอแยเธอและทำให้เธอใช้ชีวิตด้วยความเจ็บปวดและทรมาณแบบนี้’น้ำตาของแองเจลีนทำให้ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอเปียกปอน แต่ทันในนั้น เธอก็เริ่มหัวเราะอย่างอ่อนแอ “ถึงฉันจะรู้ว่าจุดจบของการได้รักนายคือการถูกทิ้ง ทำไมฉันยังอยากจะเข้าหานายซ้ำแล้วซ้ำอีกกันนะ?”“ทำไมฉันไม่ยอมให้พระเจ้าเอาชีวิตของฉันไปในอุบัติรถยนต์นั่นซะ? กลับกัน ฉันอยากจะกลับมาสานต่อในสิ่งที่ฉันเคยทำไว้กับนาย”“ทำไมฉันถึงกัดฟันและทิ้งนายอย่างโหดร้ายไม่ได้ในตอนที่จิตวิญญาณของฉันผูกติดกับโรส ลอยล์หลังจากที่ถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเฉยชาของนาย? ฉันไม่ยอมแพ้และยังคงอยากที่จะกลับมาพร้อมกับร็อบบี้และเซ็ตตี้น้อย”“ทำไมเมื่อฉันมีโอกาสเป็นมนุษย์อีกครั้ง
เธออยากจะไปจากเจย์ ด้วยความคิดที่รุนแรงเช่นนี้ เธอจึงเดินโซเซและวิ่งออกจากสวนบันทึกรักอย่างไรก็ตาม เพราะเธอใช้แรงมากเกินไป เธอได้ใช้พลังงานที่สำรองไว้ในร่างกายจนหมด ในที่สุด เธอก็ล้มลงที่ประตูสวนและลุกขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้รถสปอร์ตของโคล ยอร์คบังเอิญผ่านสวนบันทึกรัก เมื่อเห็นแองเจลีนฟุบอยู่บนพื้น เขาก็กระโดดลงจากรถ“แองเจลีน”“โคล พาฉันไปที ได้โปรด”เมื่อเจย์ไล่ตามเธอ เขาก็ได้ยินแองเจลีนร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายอีกคนด้วยน้ำเสียงที่หมดหนทางเขารู้สึกปวดใจโคลยื่นมือออกไปปละกอดแองเจลีนในตอนที่เจย์ปรณามอย่างรุนแรงในทันที “หยุดนะ”เขาเอาชนะขาที่แข็งทื่อของเขาและวิ่งเข้าไป เขาอยากที่จะพาแองเจลีนกลับบ้านใครจะรู้ว่าในตอนที่แองเจลีนเห็นเขา เธอจะรู้สึกกลัวมากและไม่สบายใจราวกับว่าเธอเพิ่งจะเห็นปีศาจร้าย เธอบีบมือของโคลแน่นและอ้อนวอนเข้าว่า “โคล พาฉันไปจากที่นี่ที”โคลมองเจย์ด้วยความสงสัย การเยาะเย้ยอย่างเย็นชาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันสูงส่งและอ่อนโยนของเขาจากนั้น เขาก็อุ้มแองเจลีนขึ้นและเดินไปที่รถ“แองเจลีน!” เจย์คำรามเหมือนกับสิงโต“เขาไม่ใช่คนดี” เจย์เตือนเธอความเย้ยหยัน
แองเจลีนหยุดโจเซฟินอย่างอ่อนแอ “โจเซฟิน อย่าทำให้มันยุ่งยากสำหรับเขา เขากำลังช่วยฉัน”ในตอนนั้นโจเซฟินก็หยุดชกโคลและเชิญเขาเข้าไปในบ้านอย่างสงสัย“เข้ามาสิ”โคลวางแองเจลีนลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง เหลือบมองไปที่ที่แคบ ๆ เขาขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะเยาะเยาะเย้ยโจเซฟิน “อาศัยอยู่ในที่เล็ก ๆ แบบนี้ คุณเป็นหอยทากหรือไง?”โจเซฟินกลอกตาอย่างโหดเหี้ยมโคลตกใจมากกับสายตาที่เฉียบคมจนเขาแทบจะเป็นลมเล็กน้อยทำไมผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับเจย์ถึงรังแกเขาเหมือนเป็นแมวป่วยให้ทุก ๆ ครั้งที่เจอล่ะ?ความเหินห่างที่น่าจับใจของเจย์ก็เหมือนกับโคลนถล่มในแนวโน้มของชีวิตของการเสพสุรา ดูเหมือนว่าสาว ๆ ที่เขาพร่ำสอนคงจะไม่สนใจเขาอีกแล้ว ชายผู้มีเงินเป็นกอง“นายช่วยออกไปตอนนี้ได้ไหม?” โจเซย์ฟินเริ่มสั่งให้เขาบอกลาเพื่อที่จะกำจัดเขาโคลตกใจเล็กน้อยโจเซฟินพูดอีกครั้งว่า “ฉันอยากจะช่วยพี่แองเจลีนเปลี่ยนเสื้อผ้า และอย่างที่นายเห็น ไม่มีที่ว่างให้ปิดบังเราจากการมองเห็นของนายในบ้านหอยทากนี้ได้”โคออกไปอย่างขายหน้าทันทีที่เท้าหน้าของเขาเดินออกไป เขาก็ได้ยินเสียงประตูกำลังถูกล็อคสีหน้าของโคลดูน่าเกลียดราวกับว
สวนบันทึกรักเจย์มองบริษัทขนย้ายย้ายของของเขาด้วยท่าทีที่เฉยเมยขณะที่เขานั่งอยู่กลางห้องนั่งเล่นพนักงานของบริษัทขนย้ายจะเข้ามาแจกแจงกับเขาในบางครั้งเมื่อพวกเขาเจอบางอย่างที่พวกเขาไม่เข้าใจ “ท่านประธานอาเรสครับ ของใช้ในชีวิตประจำวันต้องย้ายออกไปด้วยไหมครับ?”“กระถางดอกไม้ในร่มต้องย้ายด้วยไหมครับ?”เจย์พูดว่า “ย้ายทุกอย่างที่เป็นของฉันออกจากบ้านหลังนี้”เขาอยากจะทิ้งสวนบันทึกรักให้กับแองเจลีน เนื่องจากแองเจลีนเกลียดเขามาก ถ้าเธอเห็นของของเขา เธอคงจะ… เจย์ส่ายหน้าและยิ้มอย่างข่มขื่น เขาไม่กล้าที่จะคิดถึงสีหน้าที่เกลียดชังของแองเจลีนเมื่อสวนบันทึกรักว่างเปล่า มันราวกับว่าไม่มีใครเคยอยู่ที่นี่ร่องรอยของเจย์ได้หายไปจากนั้นบริษัทขนย้ายก็ได้นำรถขนเฟอร์นิเจอร์จำนวนหนึ่งไปยังอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนรถโรลส์-รอยซ์ของเจย์ก็ปรากฏขึ้นที่ประตูของอสังหาริมทรัพย์ในหนึ่งชั่วโมงต่อมาคุณท่านปู่อาเรสทราบถึงข่าวของการกลับมาของเจย์ สีหน้าของเขาที่มักจะไม่เปลี่ยนแม้ว่าในตอนที่ภูเขาเอฟเวอร์เรสถล่ม ได้แตกสลายเป็นชิ้น ๆ ในทันทีด้วยความสิ้นหวังที่ไม่เต็มใจ“เจย์ ทำไมนายต้องทนทุกข์กับสิ่งนี้?”เจ
“แองเจลีน ฉันขอโทษ” เขาขอโทษอย่างเงียบ ๆ ในใจของเขา“เจย์บี้ผิดสัญญา”“เรามาถึงจุดนี้จริง ๆ แต่ฉันก็ยังไม่กล้าที่จะพาเธอไปกับฉัน”“เธอพูดถูก ถ้าการแต่งงานคือโซ่ตรวนและกรงที่ทำให้ผู้คนอึดอัดแล้ว ทำไมเราถึงไม่ปล่อยกันไปและอยู่อย่างสงบล่ะ?เจย์เงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ส่งเสียงเรียกว่า “ฟินน์”ฟินน์โค้งคำนับต่อหน้าเขา “ท่านประธานอาเรส”“เอาสัญญาการหย่าร้างมาให้ฉัน”ใบหน้าของฟินนเริ่มซีด “ท่านประธานอาเรส นายหญิงเซเวียร์จะไม่หย่ากับคุณ ทำไมคุณต้องทำแบบนี้?”มีน้ำชั้นบาง ๆ สะท้อนอยู่ในดวงตาของเจย์ “ฉันได้ผูกมัดเธอไว้กับฉันกว่าครึ่งชีวิตและมันได้ทำให้เธอเจ็บปวดมากว่าความหอมหวาน ฉันไม่สามารถเห็นแก่ตัวที่จะไม่ให้เธอมีทางรอดไปจนตายได้”ฟินน์ยืนนิ่งแองเจลีนไม่รู้ว่าท่านประธานอาเรสรักเธอมากแค่ไหน แต่เขารู้ท่านประธานอาเรสกำลังใช้เวลาที่เหลือที่เขามีในชีวิตเพื่อสร้างปราสาทที่แข็งแกร่งให้กับเธอเพื่อที่เธอจะไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารหรือเสื้อผ้าและร่ำรวยไปจนเธอแก่เฒ่า ทั้งทางวัตถุและจิตวิญญาณกลอุบายอันขมขื่นของท่านประธานอาเรสอาจจะทำให้แองเจลีนเกลียดเขาอย่างสุดซึ้ง ถ้าหากท่านประธานอาเรส
เจย์ไม่รอช้าที่จะรับโทรศัพท์บนโต๊ะกาแฟ แต่เมื่อเขาเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเซย์นแสดงบนหน้าจอ จากนั้นเจย์ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายด้วยเหตุผลบางอย่างทันทีที่เขารับโทรศัพท์ เขาก็ได้ยินเซย์นร้องไห้อย่างหวาดกลัว “ประธานอาเรส ฉันขอโทษ! ฉันทำร็อบบี้น้อยหาย”เจย์กำมือแน่นอย่างกะทันหัน นิ้วของเขาแทบจะจิกลงในเคสโทรศัพท์ นิ้วของเขาเป็นสีเลือดขณะที่เขากำลังใช้แรงอย่างมหาศาล“มันเกิดขึ้นได้ยังไง?” เจย์ไม่สามารถข่มเสียงสั่นไว้ได้ขณะที่โทษตัวเอง เซย์นบอกกับเจย์ถึงเรื่องการถูกลักพาตัวของร็อบบี้น้อย ในที่สุดเขาก็ร้องไห้และขอโทษว่า “ฉันขอโทษนะ ประธานอาเรส ฉันพยายามอย่างดีที่สุดแล้วจริง ๆ ฉันเดินทางไปทั่วถนนของประเทศเอสในหลายวันมานี้ แต่ก็ไม่เจอร็อบบี้น้อย”เมื่อฟังผ่านน้ำเสียงที่เหนื่อยล้าและเหือดแห้งของเซย์น มันจึงรู้สึกเป็นไปได้ที่จะนึกภาพเขาก้ม ๆ มอง ๆ ไปทั่วในขณะที่ตามหาร็อบบี้น้อยท่ามกลางถนนที่ว่างเปล่า มันช่างหมดหนทางและน่าหวาดกลัวเจย์ถาม “ชายลึกลับคนหนึ่งงั้นเหรอ?”“ใช่ มันเป็นผู้ชายตัวสูงมากพร้อมกับทักษะการต่อสู้ที่เหลือเชื่อ เขาทำให้เลือดอวัยวะภายในของสตอร์มฉีกขาดและเลือดออกด้วยหมัดวายุ สตอร์มย