แองเจลีนโวยวายด้วยเสียงแตก พูดว่า “เพราะนายไม่รักฉันอีกแล้ว มันไม่ได้หมายความว่านายต้องลิดรอนชีวิตลูกของเรา!”เธออยากจะลุกออกจากเตียง แต่ร่างกายของเธอก็อ่อนแอเกินไป เธอไถลและล้มลงบนพื้น เธอคลานเข้าไปหาเจย์อย่างยากลำบาก กล่าวโทษกับความโหดเหี้ยมของเขา“โอ้ เจย์ อาเรส ทำไมฉันต้องตกหลุมรักนายด้วยนะ?”เจย์เริ่มน้ำตาคลอเบ้าเสียงในหัวใจของเขาดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า 'ฉันขอโทษนะ แองเจลีน ฉันไม่ควรตอแยเธอและทำให้เธอใช้ชีวิตด้วยความเจ็บปวดและทรมาณแบบนี้’น้ำตาของแองเจลีนทำให้ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอเปียกปอน แต่ทันในนั้น เธอก็เริ่มหัวเราะอย่างอ่อนแอ “ถึงฉันจะรู้ว่าจุดจบของการได้รักนายคือการถูกทิ้ง ทำไมฉันยังอยากจะเข้าหานายซ้ำแล้วซ้ำอีกกันนะ?”“ทำไมฉันไม่ยอมให้พระเจ้าเอาชีวิตของฉันไปในอุบัติรถยนต์นั่นซะ? กลับกัน ฉันอยากจะกลับมาสานต่อในสิ่งที่ฉันเคยทำไว้กับนาย”“ทำไมฉันถึงกัดฟันและทิ้งนายอย่างโหดร้ายไม่ได้ในตอนที่จิตวิญญาณของฉันผูกติดกับโรส ลอยล์หลังจากที่ถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเฉยชาของนาย? ฉันไม่ยอมแพ้และยังคงอยากที่จะกลับมาพร้อมกับร็อบบี้และเซ็ตตี้น้อย”“ทำไมเมื่อฉันมีโอกาสเป็นมนุษย์อีกครั้ง
เธออยากจะไปจากเจย์ ด้วยความคิดที่รุนแรงเช่นนี้ เธอจึงเดินโซเซและวิ่งออกจากสวนบันทึกรักอย่างไรก็ตาม เพราะเธอใช้แรงมากเกินไป เธอได้ใช้พลังงานที่สำรองไว้ในร่างกายจนหมด ในที่สุด เธอก็ล้มลงที่ประตูสวนและลุกขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้รถสปอร์ตของโคล ยอร์คบังเอิญผ่านสวนบันทึกรัก เมื่อเห็นแองเจลีนฟุบอยู่บนพื้น เขาก็กระโดดลงจากรถ“แองเจลีน”“โคล พาฉันไปที ได้โปรด”เมื่อเจย์ไล่ตามเธอ เขาก็ได้ยินแองเจลีนร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายอีกคนด้วยน้ำเสียงที่หมดหนทางเขารู้สึกปวดใจโคลยื่นมือออกไปปละกอดแองเจลีนในตอนที่เจย์ปรณามอย่างรุนแรงในทันที “หยุดนะ”เขาเอาชนะขาที่แข็งทื่อของเขาและวิ่งเข้าไป เขาอยากที่จะพาแองเจลีนกลับบ้านใครจะรู้ว่าในตอนที่แองเจลีนเห็นเขา เธอจะรู้สึกกลัวมากและไม่สบายใจราวกับว่าเธอเพิ่งจะเห็นปีศาจร้าย เธอบีบมือของโคลแน่นและอ้อนวอนเข้าว่า “โคล พาฉันไปจากที่นี่ที”โคลมองเจย์ด้วยความสงสัย การเยาะเย้ยอย่างเย็นชาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันสูงส่งและอ่อนโยนของเขาจากนั้น เขาก็อุ้มแองเจลีนขึ้นและเดินไปที่รถ“แองเจลีน!” เจย์คำรามเหมือนกับสิงโต“เขาไม่ใช่คนดี” เจย์เตือนเธอความเย้ยหยัน
แองเจลีนหยุดโจเซฟินอย่างอ่อนแอ “โจเซฟิน อย่าทำให้มันยุ่งยากสำหรับเขา เขากำลังช่วยฉัน”ในตอนนั้นโจเซฟินก็หยุดชกโคลและเชิญเขาเข้าไปในบ้านอย่างสงสัย“เข้ามาสิ”โคลวางแองเจลีนลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง เหลือบมองไปที่ที่แคบ ๆ เขาขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะเยาะเยาะเย้ยโจเซฟิน “อาศัยอยู่ในที่เล็ก ๆ แบบนี้ คุณเป็นหอยทากหรือไง?”โจเซฟินกลอกตาอย่างโหดเหี้ยมโคลตกใจมากกับสายตาที่เฉียบคมจนเขาแทบจะเป็นลมเล็กน้อยทำไมผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับเจย์ถึงรังแกเขาเหมือนเป็นแมวป่วยให้ทุก ๆ ครั้งที่เจอล่ะ?ความเหินห่างที่น่าจับใจของเจย์ก็เหมือนกับโคลนถล่มในแนวโน้มของชีวิตของการเสพสุรา ดูเหมือนว่าสาว ๆ ที่เขาพร่ำสอนคงจะไม่สนใจเขาอีกแล้ว ชายผู้มีเงินเป็นกอง“นายช่วยออกไปตอนนี้ได้ไหม?” โจเซย์ฟินเริ่มสั่งให้เขาบอกลาเพื่อที่จะกำจัดเขาโคลตกใจเล็กน้อยโจเซฟินพูดอีกครั้งว่า “ฉันอยากจะช่วยพี่แองเจลีนเปลี่ยนเสื้อผ้า และอย่างที่นายเห็น ไม่มีที่ว่างให้ปิดบังเราจากการมองเห็นของนายในบ้านหอยทากนี้ได้”โคออกไปอย่างขายหน้าทันทีที่เท้าหน้าของเขาเดินออกไป เขาก็ได้ยินเสียงประตูกำลังถูกล็อคสีหน้าของโคลดูน่าเกลียดราวกับว
สวนบันทึกรักเจย์มองบริษัทขนย้ายย้ายของของเขาด้วยท่าทีที่เฉยเมยขณะที่เขานั่งอยู่กลางห้องนั่งเล่นพนักงานของบริษัทขนย้ายจะเข้ามาแจกแจงกับเขาในบางครั้งเมื่อพวกเขาเจอบางอย่างที่พวกเขาไม่เข้าใจ “ท่านประธานอาเรสครับ ของใช้ในชีวิตประจำวันต้องย้ายออกไปด้วยไหมครับ?”“กระถางดอกไม้ในร่มต้องย้ายด้วยไหมครับ?”เจย์พูดว่า “ย้ายทุกอย่างที่เป็นของฉันออกจากบ้านหลังนี้”เขาอยากจะทิ้งสวนบันทึกรักให้กับแองเจลีน เนื่องจากแองเจลีนเกลียดเขามาก ถ้าเธอเห็นของของเขา เธอคงจะ… เจย์ส่ายหน้าและยิ้มอย่างข่มขื่น เขาไม่กล้าที่จะคิดถึงสีหน้าที่เกลียดชังของแองเจลีนเมื่อสวนบันทึกรักว่างเปล่า มันราวกับว่าไม่มีใครเคยอยู่ที่นี่ร่องรอยของเจย์ได้หายไปจากนั้นบริษัทขนย้ายก็ได้นำรถขนเฟอร์นิเจอร์จำนวนหนึ่งไปยังอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนรถโรลส์-รอยซ์ของเจย์ก็ปรากฏขึ้นที่ประตูของอสังหาริมทรัพย์ในหนึ่งชั่วโมงต่อมาคุณท่านปู่อาเรสทราบถึงข่าวของการกลับมาของเจย์ สีหน้าของเขาที่มักจะไม่เปลี่ยนแม้ว่าในตอนที่ภูเขาเอฟเวอร์เรสถล่ม ได้แตกสลายเป็นชิ้น ๆ ในทันทีด้วยความสิ้นหวังที่ไม่เต็มใจ“เจย์ ทำไมนายต้องทนทุกข์กับสิ่งนี้?”เจ
“แองเจลีน ฉันขอโทษ” เขาขอโทษอย่างเงียบ ๆ ในใจของเขา“เจย์บี้ผิดสัญญา”“เรามาถึงจุดนี้จริง ๆ แต่ฉันก็ยังไม่กล้าที่จะพาเธอไปกับฉัน”“เธอพูดถูก ถ้าการแต่งงานคือโซ่ตรวนและกรงที่ทำให้ผู้คนอึดอัดแล้ว ทำไมเราถึงไม่ปล่อยกันไปและอยู่อย่างสงบล่ะ?เจย์เงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ส่งเสียงเรียกว่า “ฟินน์”ฟินน์โค้งคำนับต่อหน้าเขา “ท่านประธานอาเรส”“เอาสัญญาการหย่าร้างมาให้ฉัน”ใบหน้าของฟินนเริ่มซีด “ท่านประธานอาเรส นายหญิงเซเวียร์จะไม่หย่ากับคุณ ทำไมคุณต้องทำแบบนี้?”มีน้ำชั้นบาง ๆ สะท้อนอยู่ในดวงตาของเจย์ “ฉันได้ผูกมัดเธอไว้กับฉันกว่าครึ่งชีวิตและมันได้ทำให้เธอเจ็บปวดมากว่าความหอมหวาน ฉันไม่สามารถเห็นแก่ตัวที่จะไม่ให้เธอมีทางรอดไปจนตายได้”ฟินน์ยืนนิ่งแองเจลีนไม่รู้ว่าท่านประธานอาเรสรักเธอมากแค่ไหน แต่เขารู้ท่านประธานอาเรสกำลังใช้เวลาที่เหลือที่เขามีในชีวิตเพื่อสร้างปราสาทที่แข็งแกร่งให้กับเธอเพื่อที่เธอจะไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารหรือเสื้อผ้าและร่ำรวยไปจนเธอแก่เฒ่า ทั้งทางวัตถุและจิตวิญญาณกลอุบายอันขมขื่นของท่านประธานอาเรสอาจจะทำให้แองเจลีนเกลียดเขาอย่างสุดซึ้ง ถ้าหากท่านประธานอาเรส
เจย์ไม่รอช้าที่จะรับโทรศัพท์บนโต๊ะกาแฟ แต่เมื่อเขาเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเซย์นแสดงบนหน้าจอ จากนั้นเจย์ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายด้วยเหตุผลบางอย่างทันทีที่เขารับโทรศัพท์ เขาก็ได้ยินเซย์นร้องไห้อย่างหวาดกลัว “ประธานอาเรส ฉันขอโทษ! ฉันทำร็อบบี้น้อยหาย”เจย์กำมือแน่นอย่างกะทันหัน นิ้วของเขาแทบจะจิกลงในเคสโทรศัพท์ นิ้วของเขาเป็นสีเลือดขณะที่เขากำลังใช้แรงอย่างมหาศาล“มันเกิดขึ้นได้ยังไง?” เจย์ไม่สามารถข่มเสียงสั่นไว้ได้ขณะที่โทษตัวเอง เซย์นบอกกับเจย์ถึงเรื่องการถูกลักพาตัวของร็อบบี้น้อย ในที่สุดเขาก็ร้องไห้และขอโทษว่า “ฉันขอโทษนะ ประธานอาเรส ฉันพยายามอย่างดีที่สุดแล้วจริง ๆ ฉันเดินทางไปทั่วถนนของประเทศเอสในหลายวันมานี้ แต่ก็ไม่เจอร็อบบี้น้อย”เมื่อฟังผ่านน้ำเสียงที่เหนื่อยล้าและเหือดแห้งของเซย์น มันจึงรู้สึกเป็นไปได้ที่จะนึกภาพเขาก้ม ๆ มอง ๆ ไปทั่วในขณะที่ตามหาร็อบบี้น้อยท่ามกลางถนนที่ว่างเปล่า มันช่างหมดหนทางและน่าหวาดกลัวเจย์ถาม “ชายลึกลับคนหนึ่งงั้นเหรอ?”“ใช่ มันเป็นผู้ชายตัวสูงมากพร้อมกับทักษะการต่อสู้ที่เหลือเชื่อ เขาทำให้เลือดอวัยวะภายในของสตอร์มฉีกขาดและเลือดออกด้วยหมัดวายุ สตอร์มย
ด้วยความเมาอย่างเต็มที่เขายังคงเงียบและอดทนขณะที่โจเซฟินยังคงทุบหน้าอกของเขาต่อโจเซฟินทรุดตัวลงกับพื้นและจ้องไปในอากาศอย่างว่างเปล่าด้วยความเหนื่อยล้าและน้ำตาที่เหือดแห้ง“โจซี่!” เซย์นส่งเสียงเรียกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างไรก็ตาม โจเซฟินดึงเทปกาวสองหน้าออกมาเพื่อปิดปากของเขาเท่านั้นจากนั้นเธอยืนข้าง ๆ หัวเตียง เธอจ้องลงมาที่เซย์น เซเวียร์เหมือนกับนักล่าที่เจอเหยื่อ“เซย์น เซเวียร์ ไอ้คนสารเลว” เธอถุยน้ำลาย“นายทำลายชีวิตของฉัน ฉันจะตกหลุมรักนายไม่ได้อีกแล้วเพราะนายทำให้ฉันดูแย่สำหรับคนอื่น ฉันควรจะทำอะไรดีล่ะตอนนี้?”โจเซฟินหันหลัง ยิ่งรู้สึกท้อแท้ในตอนที่เธอบ่น ดึงไวน์อีกขวดจากตู้เก็บไวน์ เธอเปิดมันออกและดื่มจากขวดโดยตรงชีวิตของโจเซฟินถลำลึกกับแอลกอฮอล์มากเกินไปโดยที่เธอไม่รู้ตัวบางที่มันอาจจะเป็นคำคืนที่โดดเดี่ยวนับไม่ถ้วนที่มีแค่แอลกอฮอล์เท่านั้นที่ขจัดอาการนอนไม่หลับของเธอได้ ช้า ๆ แต่แน่นอน โจเซฟินกลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตด้วยแอลกอฮอล์ขวดแล้วขวดเล่าที่โจเซฟินกลืนมันลงไป ด้วยความหวังว่าแอลกอฮอล์จะขับความขุ่นเคืองที่เธอรู้สึกออกไป อนิจ
เซย์นยืนขึ้น อาการปวดในกระดูกของเขาทำให้เขาประหลาดใจเมื่อพับแขนเสื้อ เขาก็พบว่าหน้าแขนของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและรอยข่วนยาว ซึ่งน่าจะมาจากเล็บของใครบางคนเซย์นจ้องที่โจเซฟินอย่างสงสัย “เธอถอดมันออกจากฉันในตอนที่ฉันเมาใช่ไหม?”เจเซฟินรู้สึกผิดเล็กน้อย “อย่ามาโทษฉันในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำสิ นายเป็นคนที่ไปในบาร์และถูกหัวหน้าใหญ่ซ้อมเพราะไม่จ่ายเงิน ฉันเป็นคนดีที่พานายกลับนะ”“งั้น แล้วรอยข่วนนี้ล่ะ?” สายตาของเซย์นจ้องไปที่เล็บยาว ๆ ของโจเซฟินโจเซฟินแอบมองไปที่รอยข่วนยาว เธอไม่รู้ว่าบาดแผลที่น่าตกใจนั่นถูกทิ้งไว้ในตอนที่เธอทำร้ายเขาเมื่อคืน หรือตอนที่เขากลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอย่างแรง“ฉันอาจจะเผลอข่วนนายตอนที่ฉันลากนายกลับแหละ” โจเซฟีนกล่าวเซย์นเกาหัวตัวเอง “เธอลากฉันกลับมางั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลย?”“ก็นายหมดสติ”เมื่อนึกถึงเหตุผลว่าทำไมเขาไปที่บาร์เพื่อดื่มกับตัวเองอย่างโง่ ๆ ตั้งแต่แรก สีหน้าของเซย์นก็เริ่มเคร่งขรึม“โจเซฟิน ฉันทำร็อบบี้หาย”ไม่จำเป็นต้องซ่อนความรู้สึกต่อหน้าเธอเขาใช้มือจับไปที่ผมของเธอขณะที่น้ำตาที่ใจสลายไหลลงมาจากหัวตาของเขาโจเซฟินตอบกลับว่า “ฉ