เจย์ยิ้มออกมาด้วยความดีใจหลังอาหารเช้า เจย์ ส่งโรสไปที่โรงพยาบาลแกรนด์ เอเซียตามปกติ ก่อนแยกทาง เจย์เตือนและกล่าวว่า “สองสามวันนี้ ผู้อาวุโสของตระกูลอาเรส จะมาเยี่ยมอารองหากพวกเขารบกวนเธอ อย่าลืมบอกฉันนะ ฉันจะดูแลพวกเขาให้เธอเอง”"เข้าใจแล้วค่ะ" โรสยิ้มหวานเมื่อเวลาผ่านไป โรสก็ผลักประตูและลงจากรถก่อนจะวิ่งตรงไปข้างหน้าทันใดนั้น ก็มีเสียงแตรรถโรลส์-รอยซ์มาจากด้านหลังโรสหันศีรษะอย่างสับสนและเห็นใบหน้าที่เศร้าโศกของเจย์มองมาที่เธอราวกับว่าเขาเป็นคนที่เสียใจและถูกกักขังอยู่ที่บ้านจากนั้นเขาก็ใช้นิ้วชี้กวักไปที่เธอโรสหันกลับมาถาม “สามี มีอะไรอีกไหมคะ?”ทันใดนั้นเขาก็โน้มศีรษะของเธอ ผ่านหน้าต่างรถและจูบเธออย่างสำราญใจเขาปล่อยเธอไป หลังจากเวลาผ่านไปนาน “ครั้งหน้าอย่าลืมจูบลานะ” เขากล่าวโรสหน้าแดงเพราะการแสดงออกของเขา “อื้ม เข้าใจแล้ว”ความสนใจจากคนเดินถนนทำให้เธอวิ่งหนีไปด้วยความเขินอายหลังจากที่เธอมาถึงแผนกผู้ป่วยในของแกรนด์ เอเซีย หลังจากเปลี่ยนชุดพยาบาลตามปกติ เธอก็ไปที่ห้อง 11 เพื่อไปเยี่ยมคุณปู่ อาการของคุณปู่เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ อาจเป็นเพราะความร่วมมือระหว่างบริษัท
โรสถึงกับหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินคำใส่ร้ายจากแม่ของเจย์เธอหันกลับมาและเทน้ำร้อนหนึ่งแก้วให้แม่ของเจย์ เธอยื่นมันให้หล่อนพร้อมรอยยิ้ม “คุณแม่คะ เชิญดื่มน้ำสักแก้วก่อน”แม่ของเจย์ไม่เพียงแต่ไม่ซาบซึ้งในความเมตตาของเธอเท่านั้น แต่หล่อนยังหยิบแก้วขึ้นมาและราดน้ำลงบนใบหน้าของโรส “โรส เธอรู้ไหมว่าท่าทางอวดดีของเธอมันน่ารำคาญแค่ไหน?”น้ำเดือดสัมผัสกับผิวหนังที่บอบบางของโรสและทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าใบหน้าของเธอแสบร้อนด้วยความเจ็บปวดเธอมองแม่ของเจย์ด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มือทั้งสองข้างกำลังจับใบหน้าและพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า “คุณแม่ ต่อให้คุณไม่ชอบฉันแค่ไหน ฉันแต่งงานกับลูกชายของคุณแล้ว ฉันเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลอาเรส นี่คือความจริงที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่าพยายามทำลายฉันและเจย์อีกเลยค่ะ!”แม่ของเจย์เงยหน้าขึ้นและหัวเราะเหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องตลกใหญ่โต “โรส โอ้ โรส เธอเป็นผู้หญิงที่โง่ที่สุดในตระกูลลอยล์แล้วล่ะ ฉันจะบอกความจริงกับเธอให้นะ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม จำไว้นะว่างานแต่งงานของเธอกับเจย์ มันเป็นเรื่องไม่จริงทั้งสิ้น”การป้องกันหัวใจของโรสที่ได้รับการเสริมกำลังนั้นสั่นคลอนทัน
เธอหยิบใบทะเบียนสมรส โดยที่มือสั่นอย่างตกใจ เมื่อเห็นข้อมูลในทะเบียนสมรส เธอก็กลายเป็นหินแข็งทื่อทันทีนั่นคือชื่อของแองเจลีน นั่นคือรูปของแองเจลีนและมันคือหมายเลขประจำตัวของแองเจลีนด้วยแน่นอนว่าเขาไม่ต้องการแต่งงานกับ โรส ลอยล์โรสร้องไห้อย่างขมขื่นเธอฉีกรูปแต่งงานนั้นออกแล้วกำมันไว้ในมือ จากนั้นเธอก็นำทะเบียนสมรสกลับเข้าไปในตู้เซฟและเก็บเอกสารทุกอย่างกลับเข้าไปอย่างระมัดระวังแล้วเธอก็วิ่งออกไปด้วยน้ำตามีบางสิ่งที่เขาไม่ได้พูดและซ่อนไว้ในใจของเขามันเหมือนกับกล่องแพนดอร่าที่ซ่อนความชั่วร้ายถูกเปิดออก ซึ่งมันเหมือนกับว่าเขาอาจทำให้เธอได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงหากเขาบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้งั้นเหรอ?เป็นเพราะเธอคงไม่มีทางเหมือนที่เขาต้องการอยากให้เธอเป็นใช่ไหม?--------ในแกรนด์เอเซียห้องทำงานของท่านอาเรสเจย์นั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนหนังสีดำสุดพิเศษของเขาอย่างไม่สนใจอะไรตลอดทั้งวันเมื่อเกรย์สันเข้ามาและเห็นมุมปากของท่านอาเรสยกขึ้น เขารู้ได้เลยว่าท่านประธานของเขากำลังอารมณ์ดี“ท่านอาเรส แม่ของคุณมาที่นี่ครับ” เกรย์สันรายงานเมื่อได้ยินแบบนั้นเจย์มีท่าทีตกตะลึงเล็กน้อย “ให
หลังจากที่เกรย์สันเดินไปส่งแม่ของเจย์ เขาก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานของท่านอาเรส เขาเห็นเจย์เอนตัวอยู่บนโซฟาพลางขมวดคิ้ว ความโกรธราวกับน้ำแข็งติดอยู่ในดวงตาของนกอินทรีคู่นั้น“ท่านอาเรส…” เกรย์สันก้าวไปข้างหน้าแต่กลับหยุดพูด“พูดมาสิ”เกรย์สันจึงรายงานอย่างไม่สบายใจว่า “มีข่าวจากแผนกการแพทย์ วันนี้ภรรยาของคุณไม่สบายนิดหน่อยและขอเลิกงานเร็ว”เจย์ยืดตัวขึ้น ความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา “เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เมื่อเช้านี้ครับ” หน้าผากของเกรย์สันเริ่มเหงื่อออก“ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้?”เกรย์สันอธิบายอย่างหวาดกลัวว่า ท่านอาเรส คุณมีประชุมด่วนเมื่อเช้านี้ ผมไม่กล้ารบกวนคุณ”เจย์ขัดจังหวะเขาอย่างหยาบคายว่า “จำไว้ จากนี้ไป เรื่องภรรยาของฉันจะมีความสำคัญที่สุดเสมอ”“ได้ครับ” เกรย์สันกล่าวเจย์หยิบโทรศัพท์มือถือ Huawei รุ่นล่าสุดขึ้นมาจากโต๊ะทำงานทันที เขาปลดล็อกโทรศัพท์และกดหมายเลขที่เขาจำได้เสมอในใจของเขาโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังด้วยเสียงรอสายและเสียงที่ฟังอยู่คือ ‘red spider lily’ เป็นเสียงเพลงที่คุ้นเคยเขาเคยชินกับการฟังเสียงอันบริสุทธิ์ของแองเจลีนและเม
เมื่อเห็นเจย์ดูอ่อนแรง เกรย์สันเดินเข้าไปพยุงเจย์ให้พิงไหล่ของเขา เขาช่วยพยุงเจย์เดินเข้าไปในบ้านทีละก้าวอย่างยากลำบากเกรย์สันพยุงเจย์เข้าไปแล้วให้เขานั่งลงบนโซฟา จากนั้นเจย์ก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างนุ่มนวลราวกับว่าเขาหมดแรงที่จะพยุงร่างกายของตัวเขาเอง เขาจ้องมองไปที่เพดานด้วยร่องรอยของความโกรธที่ยังไม่หยุดนิ่งในดวงตาของเขาเกรย์สันเทน้ำอุ่น ๆ หนึ่งแก้วให้เขา เมื่อเขาเดินกลับมาหาเจย์ เขาเห็นน้ำตาหยดโตไหลออกมาจากหางตาของเจย์นี่เป็นครั้งแรกที่เกรย์สันเห็นน้ำตาท่านอาเรสไหลออกมาอย่างเศร้าโศกเสียใจ“เกรย์สัน ฉันมอบหัวใจทั้งหมดให้เธอไปแล้ว ทำไมเธอถึงยังอยากจะหนีไปอีก?”เขามีใบหน้าที่ว่างเปล่าและดวงตาของเขาก็ดูร่องรอยแม้แต่ตอนที่เขาพูดเขาก็ดูอ่อนแอ“ท่านอาเรส มีบางอย่างที่อยากจะบอก แต่ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดออกมาดีไหม” เกรย์สันพูดออกมาทันที“พูดมาสิ”“การหนีไปของภรรยาคุณอาจเกี่ยวข้องกับคุณนาย มีคนในแผนกการแพทย์เห็นคุณนายเข้าไปในห้องพักฟื้นผู้ป่วยห้อง 11 ในวันนี้ด้วย”สายตาของเจย์เลื่อนไปที่ใบหน้าของเกรย์สัน เขาสะดุ้งตกใจไปครู่หนึ่ง แต่ก็เริ่มเยาะเย้ย “ถ้าเธอมีความเชื่อมั่นว่าฉันจะไม่ทิ้
ปีเตอร์ดึงหน้ากากของโรสออก เขาตรวจสอบใบหน้าของเธอด้วยสายตาของเขาและเอื้อมมือไปจับใบหน้าแล้วหมุนหน้าเธอไปมา “โอ้พระเจ้าช่วย ดูเหมือนว่าบาดแผลบนใบหน้าของเธอจะอยู่ที่ผิวของเธอเท่านั้น งั้นตกลงล่ะกัน ฉันจะช่วยทำให้เธอกลับไปเป็นเหมือนเดิมให้ได้”ทว่า โรสกำลังถือรูปถ่ายอยู่ในมือ “งั้นดีล่ะ ได้โปรดช่วยทำให้ฉันเป็นเหมือนเธอ”ปีเตอร์มองไปที่หญิงสาวในรูป เมื่อดวงตาที่เห็นรูปนั่นชวนดึงดูดด้วยความงามอันน่าทึ่ง เขาก็กลับมามีสติหลังจากมองผ่านไปสักพักใหญ่“ในโลกนี้ยังมีสาวสวยอยู่” ปีเตอร์อุทานหญิงสาวในภาพคือ แองเจลีน เซเวียร์และความงามของเธอแตกต่างกับ โรส ลอยล์ เธอสวยจนอยู่เหนือคนทั่วไป ในภาพนี้ ดวงตาของเธอมีรอยย่นที่แสดงเป็นรอยยิ้มสื่อถึงความรู้สึกที่ไร้กังวลเมื่อมองแวบเดียว รู้ได้เลยว่าเธอเป็นเด็กที่ได้รับความรักจากคนหลายพันคนโรสเป็นคนสวย แต่ความสวยของเธอผสมผสานกับความอ่อนโยนที่พอดูได้ เธอสวยจนทำร้ายผู้คนปีเตอร์มองไปที่ใบหน้าในรูปของ แองเจลีน เซเวียร์และมองไปที่โรสที่อยู่ข้างหน้าเขา ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกว่าสายตาและเสน่ห์ของพวกเธอทั้งคู่ดูเหมือนกันทุกประการเมื่อตัดสินใจทันที เขาก
ใบหน้าของเซร่าเป็นสีแดงก่ำเจย์ขว้างแก้วด้วยความโกรธลงบนพื้น “พวกคุณออกไปให้หมด”เขาดูอารมณ์เสียเสมือนดั่งสิงโตที่ตื่นจากการหลับใหลเป็นเวลา 1,000 ปี ด้วยความหิวกระหายเลือดในขณะที่ต้องการกินสิ่งมีชีวิตทุกชนิดให้ราบคาบเซร่าตัวสั่นด้วยความกลัว แต่แล้วเธอนึกขึ้นได้ว่านี่คือช่วงที่อารมณ์ของเจย์เปราะบางที่สุดในตอนนี้ มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเธอที่จะใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้เช่นกันเธอรวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า “พี่เจย์คะ ฉันเข้าใจว่าคุณป้าอาจจะมีเจตนาที่ไม่ดีนัก แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอก จุดประสงค์ของการมาที่อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนของฉันไม่ใช่เพื่อเข้าใกล้คุณ แต่เพียงเพื่อ... เพื่อพี่แองเจลีน”ทว่าเซร่าได้เดินถอยออกห่างจากเขาไปและยิ่งไปกว่านั้น เธอรู้วิธีหลีกเลี่ยงเรื่องน่ารำคาญใจที่ทำให้หัวเสียของเขามาช่วยกลบความดุร้าย ด้วยเหตุนี้ความกังวลของเจย์เกี่ยวกับเธอจึงหายไป“เธอมาที่นี่เพื่อแองเจลีนเหรอ?” แสงแห่งความกระหายเลือดและเย็นยะเยือกไหลออกมาจากดวงตาของเจย์เซร่ารู้อยู่แล้วว่าเธอได้ทำถูกต้องแล้วสายตาที่มีน้ำตาคลอเบ้า เธอพูดอย่างเศร้า ๆ “ถึงแม้พี่แองเจลีนกับฉันจะเป็นพี่น้องกัน แต่
ในเวลากลางคืน หลังจากที่ทุกคนหลับกันไปหมดแล้ว เจย์เลือกที่จะเดินมาที่ห้องนอนบนชั้นสองที่ดูว่างเปล่าเงียบเหงามาเป็นเวลานานแล้วในตอนนั้น เมื่อเขาพบกับโรสในห้องนอนนี้ สีหน้าของเธอก็ไม่ค่อยจะดีนักเมื่อดูเหมือนว่าเธอพูดโกหกกับเขา โดยเธออ้างว่าเธอเดินหลงทางจนมาถึงห้องนี้ แต่เขาเชื่อในคำพูดเธอเสมอ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อมองย้อนกลับไป ณ เวลานั้น โรสรู้ดีว่ามีบางอย่างผิดปกติในบ้านหลังนี้ แต่เธอกลับไม่ไว้ใจเขาและเธอพลาดโอกาสที่ดีที่จะเอ่ยขอความช่วยเหลือจากเขาส่งผลให้เธอประสบอุบัติเหตุตกจากตึกในครั้งหลังจากวันนั้นเมื่อแสงสลัวจากโคมไฟส่องอยู่บริเวณตามทางเดิน เจย์เดินมาที่ประตูห้องนอนขณะที่เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องมืด จากนั้นเขาได้เปิดไฟฉายของโทรศัพท์มือถือขึ้น ลำแสงของไฟฉายพุ่งเข้ามาในห้อง ความมืดในห้องก็สว่างขึ้นทำให้พื้นที่ของทุกมุมในห้องสว่างเห็นได้ชัดกว่าเดิมนี่เป็นเพียงห้องนอนธรรมดา ๆ ที่มีเตียง ฉากกั้น กระถางธูปเย็นเยียบและภาพวาดที่แขวนอยู่บนผนังการตกแต่งนั้นเรียบง่าย แล้วสิ่งนี้จะทำให้โรสรู้สึกมืดมนได้ยังไง?เมื่อแสงจากไฟฉายของโทรศัพท์มือถือพุ่งผ่านกรอบภา