นอกห้องพยาบาลโรสเอียงคอพิงผนังดวงตาที่เฉียบคมของตระกูลอาเรสเหลือบมองไปที่ใบหน้าของเธอ ประหนึ่งว่าพวกเขาจะไม่พอใจ หากไม่สามารถดึงข้อมูลโดยละเอียดจากเธอได้“เจย์ ผู้ดูแลคนนี้เป็นใครกันแน่? ทำไมนายถึงดูแลเธอเป็นพิเศษ?” แม่ของเจย์ไม่สามารถควบคุมความอยากรู้อยากเห็นที่หลั่งไหลออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจเธอได้และเอ่ยถามขึ้นมาเจย์มองโรสด้วยรอยยิ้มเงียบ ๆ ด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความรัก“ฉันพูดได้ไหม?” เจย์ขออนุญาตโรสโรสจำได้ว่า เซร่า เคยบอกว่าอยากแต่งงานกับ เจย์ ต่อหน้าคุณปู่ เรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย“ท่านอาเรส ฉันขอเวลาเป็นการส่วนตัวกับคุณสักครู่ได้ไหมคะ?” โรสดึงมือของเจย์ และเดินไปอีกด้านหนึ่งของทางเดิน"เกิดอะไรขึ้น?" เจย์ยืนอยู่ตรงขอบบันไดและถามอย่างไม่แน่ใจโรสจ้องมาที่เขาอย่างโกรธจัดและพูดว่า “เซร่า บอกว่าหล่อนต้องการแต่งงานกับนาย นายต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ฉันฟัง”เมื่อเห็นแก้มที่ป่องของเธอ เขาคิดว่ามันดูเหมือนถุงลมนิรภัยสองใบ ช่างน่ารักจนเขาหยิกแก้มเธอทันที“โรส การมีคู่ครองทีเดียวสองคน มันผิดกฎหมายนะ”“แล้วทำไมหล่อนถึงพูดแบบนั้นล่ะ?”สีหน้าของเจย์ชะงัก “เธอคงไ
เจย์เงยหน้าขึ้นและบังคับให้เธอเผชิญหน้ากับเขาโรส ยิ้มแห้ง ๆ แล้วพูดว่า “อารอง อาสาม และน้องชายของนาย ไม่ใช่ว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นดอนฆวนและคาสโนว่าทั้งหมดหรอกเหรอ?”อย่างไรก็ตาม เจย์กำลังจริงจังอย่างมาก “โรส ช่วยอธิบายความหมายของคำว่า ‘ทั้งหมด’ ให้ฉันฟังหน่อยซิ?”โรสคิดที่จะแบกรับตำแหน่ง 'คนงี่เง่า' ของตระกูลลอยล์ คำพูดที่วิจิตรบรรจงไม่ใช่ลักษณะเฉพาะของคนงี่เง่า ดังนั้นเธอจึงแกล้งทำเป็นโง่และกล่าวว่า “มีผู้ชายเพียงไม่กี่คนในตระกูลอาเรสของนายและอีกสามคน นอกใจคู่รักของเขา ฉันใช้ 'ทั้งหมด' ไม่ได้เหรอ?”คำอธิบายที่กว้างขวางของโรสอาจหลอกคนอื่น ๆ ได้ แต่เจย์รู้ว่าเธอถูกนักปราชญ์ แองเจลีน เซเวียร์เข้าสิง เขาจะถูกเธอหลอกได้อย่างไร?เนื่องจากเธอไม่เต็มใจที่จะพูดตรง ๆ เจย์จึงทำได้เพียง 'ดึงคำสารภาพออกมา ด้วยการทำให้เกิดความเจ็บปวด'“โรส ให้ไปดูพจนานุกรมนะ แล้วลอกความหมายของคำว่า 'ทั้งหมด' ให้ฉันสักร้อยครั้ง” เจย์พูดด้วยสีหน้าเย็นชาเธอพยักหน้าหงึกหงัก "ได้เลย"ในตอนบ่าย เจย์ ได้รับสายโทรศัพท์ฉุกเฉินจากบริษัทโรสไปที่โรงอาหารของโรงพยาบาลเพื่อรับประทานอาหารกลางวันก่อนกลับ จากนั้นเธอก็นั่งท
โรสมีร่างกายที่อ่อนแอ ใช้เวลาไม่นานจึงหลับสนิทเจย์ลูบไล้ใบหน้าของเธอที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ นิ้วเรียวยาวของเขาแตะคิ้วที่ขมวดของเธอ“แองเจลีน เธอซ่อนความลับแบบไหนเอาไว้กันนะ? บอกฉันไม่ได้เหรอ?”เขาไตร่ตรองเกี่ยวกับผู้ชายในตระกูลอาเรส อารองและอาสามของเขามีความรักมากมายเมื่อตอนที่พวกเขายังเด็ก จอห์น อาเรส อาสี่ของเขา ยังไม่ได้แต่งงานและ เป็นคนเจ้าชู้มากกว่าอย่างไรก็ตาม ท่านปู่อาเรสและพ่อของเขาเป็นผู้ชายที่มีความเคารพและมีวินัยในตนเองเป็นอย่างมากทำไมแองเจลีนถึงบอกว่าผู้ชายทุกคนในตระกูลอาเรสมีนิสัยเจ้าชู้?ไม่ใช่ว่าเจย์ ไม่เคยสอบสวนตระกูลอาเรสเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว หลังจากที่แองเจลีน ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาสงสัยว่าอาจมีคนในตระกูลอาเรส มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดการแต่งงานของเขากับแองเจลีนคือความสวามิภักดิ์ของกองกำลังที่แข็งแกร่งที่มีพันธะกันเพื่อคุกคามผลประโยชน์ของตระกูลอื่น ๆ ภายในตระกูลอาเรสเขาสอบสวนมาเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่พบหลักฐานที่เจาะจง เกี่ยวกับแองเจลีน เขากลับพบเรื่องราวความรักอันสวยงามของอารองและอาสามของเขาเมื่อตอนที่พวกเขายังเด็กดูเหมือนว่า เขาจะละเลยสองคนที่อยู่ใ
เจย์ยิ้มออกมาด้วยความดีใจหลังอาหารเช้า เจย์ ส่งโรสไปที่โรงพยาบาลแกรนด์ เอเซียตามปกติ ก่อนแยกทาง เจย์เตือนและกล่าวว่า “สองสามวันนี้ ผู้อาวุโสของตระกูลอาเรส จะมาเยี่ยมอารองหากพวกเขารบกวนเธอ อย่าลืมบอกฉันนะ ฉันจะดูแลพวกเขาให้เธอเอง”"เข้าใจแล้วค่ะ" โรสยิ้มหวานเมื่อเวลาผ่านไป โรสก็ผลักประตูและลงจากรถก่อนจะวิ่งตรงไปข้างหน้าทันใดนั้น ก็มีเสียงแตรรถโรลส์-รอยซ์มาจากด้านหลังโรสหันศีรษะอย่างสับสนและเห็นใบหน้าที่เศร้าโศกของเจย์มองมาที่เธอราวกับว่าเขาเป็นคนที่เสียใจและถูกกักขังอยู่ที่บ้านจากนั้นเขาก็ใช้นิ้วชี้กวักไปที่เธอโรสหันกลับมาถาม “สามี มีอะไรอีกไหมคะ?”ทันใดนั้นเขาก็โน้มศีรษะของเธอ ผ่านหน้าต่างรถและจูบเธออย่างสำราญใจเขาปล่อยเธอไป หลังจากเวลาผ่านไปนาน “ครั้งหน้าอย่าลืมจูบลานะ” เขากล่าวโรสหน้าแดงเพราะการแสดงออกของเขา “อื้ม เข้าใจแล้ว”ความสนใจจากคนเดินถนนทำให้เธอวิ่งหนีไปด้วยความเขินอายหลังจากที่เธอมาถึงแผนกผู้ป่วยในของแกรนด์ เอเซีย หลังจากเปลี่ยนชุดพยาบาลตามปกติ เธอก็ไปที่ห้อง 11 เพื่อไปเยี่ยมคุณปู่ อาการของคุณปู่เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ อาจเป็นเพราะความร่วมมือระหว่างบริษัท
โรสถึงกับหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินคำใส่ร้ายจากแม่ของเจย์เธอหันกลับมาและเทน้ำร้อนหนึ่งแก้วให้แม่ของเจย์ เธอยื่นมันให้หล่อนพร้อมรอยยิ้ม “คุณแม่คะ เชิญดื่มน้ำสักแก้วก่อน”แม่ของเจย์ไม่เพียงแต่ไม่ซาบซึ้งในความเมตตาของเธอเท่านั้น แต่หล่อนยังหยิบแก้วขึ้นมาและราดน้ำลงบนใบหน้าของโรส “โรส เธอรู้ไหมว่าท่าทางอวดดีของเธอมันน่ารำคาญแค่ไหน?”น้ำเดือดสัมผัสกับผิวหนังที่บอบบางของโรสและทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าใบหน้าของเธอแสบร้อนด้วยความเจ็บปวดเธอมองแม่ของเจย์ด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มือทั้งสองข้างกำลังจับใบหน้าและพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า “คุณแม่ ต่อให้คุณไม่ชอบฉันแค่ไหน ฉันแต่งงานกับลูกชายของคุณแล้ว ฉันเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลอาเรส นี่คือความจริงที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่าพยายามทำลายฉันและเจย์อีกเลยค่ะ!”แม่ของเจย์เงยหน้าขึ้นและหัวเราะเหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องตลกใหญ่โต “โรส โอ้ โรส เธอเป็นผู้หญิงที่โง่ที่สุดในตระกูลลอยล์แล้วล่ะ ฉันจะบอกความจริงกับเธอให้นะ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม จำไว้นะว่างานแต่งงานของเธอกับเจย์ มันเป็นเรื่องไม่จริงทั้งสิ้น”การป้องกันหัวใจของโรสที่ได้รับการเสริมกำลังนั้นสั่นคลอนทัน
เธอหยิบใบทะเบียนสมรส โดยที่มือสั่นอย่างตกใจ เมื่อเห็นข้อมูลในทะเบียนสมรส เธอก็กลายเป็นหินแข็งทื่อทันทีนั่นคือชื่อของแองเจลีน นั่นคือรูปของแองเจลีนและมันคือหมายเลขประจำตัวของแองเจลีนด้วยแน่นอนว่าเขาไม่ต้องการแต่งงานกับ โรส ลอยล์โรสร้องไห้อย่างขมขื่นเธอฉีกรูปแต่งงานนั้นออกแล้วกำมันไว้ในมือ จากนั้นเธอก็นำทะเบียนสมรสกลับเข้าไปในตู้เซฟและเก็บเอกสารทุกอย่างกลับเข้าไปอย่างระมัดระวังแล้วเธอก็วิ่งออกไปด้วยน้ำตามีบางสิ่งที่เขาไม่ได้พูดและซ่อนไว้ในใจของเขามันเหมือนกับกล่องแพนดอร่าที่ซ่อนความชั่วร้ายถูกเปิดออก ซึ่งมันเหมือนกับว่าเขาอาจทำให้เธอได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงหากเขาบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้งั้นเหรอ?เป็นเพราะเธอคงไม่มีทางเหมือนที่เขาต้องการอยากให้เธอเป็นใช่ไหม?--------ในแกรนด์เอเซียห้องทำงานของท่านอาเรสเจย์นั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนหนังสีดำสุดพิเศษของเขาอย่างไม่สนใจอะไรตลอดทั้งวันเมื่อเกรย์สันเข้ามาและเห็นมุมปากของท่านอาเรสยกขึ้น เขารู้ได้เลยว่าท่านประธานของเขากำลังอารมณ์ดี“ท่านอาเรส แม่ของคุณมาที่นี่ครับ” เกรย์สันรายงานเมื่อได้ยินแบบนั้นเจย์มีท่าทีตกตะลึงเล็กน้อย “ให
หลังจากที่เกรย์สันเดินไปส่งแม่ของเจย์ เขาก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานของท่านอาเรส เขาเห็นเจย์เอนตัวอยู่บนโซฟาพลางขมวดคิ้ว ความโกรธราวกับน้ำแข็งติดอยู่ในดวงตาของนกอินทรีคู่นั้น“ท่านอาเรส…” เกรย์สันก้าวไปข้างหน้าแต่กลับหยุดพูด“พูดมาสิ”เกรย์สันจึงรายงานอย่างไม่สบายใจว่า “มีข่าวจากแผนกการแพทย์ วันนี้ภรรยาของคุณไม่สบายนิดหน่อยและขอเลิกงานเร็ว”เจย์ยืดตัวขึ้น ความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา “เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เมื่อเช้านี้ครับ” หน้าผากของเกรย์สันเริ่มเหงื่อออก“ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้?”เกรย์สันอธิบายอย่างหวาดกลัวว่า ท่านอาเรส คุณมีประชุมด่วนเมื่อเช้านี้ ผมไม่กล้ารบกวนคุณ”เจย์ขัดจังหวะเขาอย่างหยาบคายว่า “จำไว้ จากนี้ไป เรื่องภรรยาของฉันจะมีความสำคัญที่สุดเสมอ”“ได้ครับ” เกรย์สันกล่าวเจย์หยิบโทรศัพท์มือถือ Huawei รุ่นล่าสุดขึ้นมาจากโต๊ะทำงานทันที เขาปลดล็อกโทรศัพท์และกดหมายเลขที่เขาจำได้เสมอในใจของเขาโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังด้วยเสียงรอสายและเสียงที่ฟังอยู่คือ ‘red spider lily’ เป็นเสียงเพลงที่คุ้นเคยเขาเคยชินกับการฟังเสียงอันบริสุทธิ์ของแองเจลีนและเม
เมื่อเห็นเจย์ดูอ่อนแรง เกรย์สันเดินเข้าไปพยุงเจย์ให้พิงไหล่ของเขา เขาช่วยพยุงเจย์เดินเข้าไปในบ้านทีละก้าวอย่างยากลำบากเกรย์สันพยุงเจย์เข้าไปแล้วให้เขานั่งลงบนโซฟา จากนั้นเจย์ก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างนุ่มนวลราวกับว่าเขาหมดแรงที่จะพยุงร่างกายของตัวเขาเอง เขาจ้องมองไปที่เพดานด้วยร่องรอยของความโกรธที่ยังไม่หยุดนิ่งในดวงตาของเขาเกรย์สันเทน้ำอุ่น ๆ หนึ่งแก้วให้เขา เมื่อเขาเดินกลับมาหาเจย์ เขาเห็นน้ำตาหยดโตไหลออกมาจากหางตาของเจย์นี่เป็นครั้งแรกที่เกรย์สันเห็นน้ำตาท่านอาเรสไหลออกมาอย่างเศร้าโศกเสียใจ“เกรย์สัน ฉันมอบหัวใจทั้งหมดให้เธอไปแล้ว ทำไมเธอถึงยังอยากจะหนีไปอีก?”เขามีใบหน้าที่ว่างเปล่าและดวงตาของเขาก็ดูร่องรอยแม้แต่ตอนที่เขาพูดเขาก็ดูอ่อนแอ“ท่านอาเรส มีบางอย่างที่อยากจะบอก แต่ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดออกมาดีไหม” เกรย์สันพูดออกมาทันที“พูดมาสิ”“การหนีไปของภรรยาคุณอาจเกี่ยวข้องกับคุณนาย มีคนในแผนกการแพทย์เห็นคุณนายเข้าไปในห้องพักฟื้นผู้ป่วยห้อง 11 ในวันนี้ด้วย”สายตาของเจย์เลื่อนไปที่ใบหน้าของเกรย์สัน เขาสะดุ้งตกใจไปครู่หนึ่ง แต่ก็เริ่มเยาะเย้ย “ถ้าเธอมีความเชื่อมั่นว่าฉันจะไม่ทิ้