เมื่อตื่นขึ้น โรสก็ตระหนักถึงความจริงที่น่าสยดสยอง เธอเป็นโรคภูมิแพ้"อ๊ากกก!"เสียงเหมือนหมูถูกฆ่า ดังออกมาจากห้องน้ำ ทำให้โจเซฟินตกจากเตียงด้วยความตกใจ"เกิดอะไรขึ้น?"โจซี่รีบไปที่ห้องน้ำเพื่อดู ผิวขาวของโรสที่มีผื่นแดงประปรายใต้คอเสื้อหลวม ๆ ของเธอมันเข้ากับสีผิวหน้าของเธอโจเซฟินจ้องมองด้วยความตกใจ “เธอแพ้เกสรดอกไม้เหรอ?”โรสส่ายหน้าไปมา “ร่างกายของโรส ลอยล์ นั้นอ่อนแอโดยธรรมชาติ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันลืมเรื่องนี้ไปได้น่ะ”โจซี่รีบเดินออกไป เพื่อส่งข้อความหาพี่ชายของเธอ ดวยโทรศัพท์ของโรส ' มาเอาดอกกุหลาบของนายออกไป!' ตอนนี้! เดี๋ยวนี้เลย!ได้รับข้อความดังกล่าวในตอนเช้า ทำให้อารมณ์ของเจย์แย่ลงทันทีเห็นได้ชัดว่าเธอรักดอกไม้ที่คนอื่นส่งให้เธอ แต่ในขณะเดียวกันก็กวาดดอกไม้อันล้ำค่าของเขาออกไปนอกประตูนี่หมายความว่าอย่างไร?เขาตอบอย่างเฉยเมยว่า 'กำจัดเองสิ'หลังจากรับประทานอาหารเช้าแบบเรียบง่าย เจย์ ก็มาถึงบริษัทเกรย์สันจึงเล่าสิ่งที่ค้นพบครั้งสำคัญของเขาต่อท่านประธาน อย่างมืออาชีพ "นายท่านครับ นายหญิงโยนดอกกุหลาบที่นายท่านส่งให้ลงในถังขยะชุมชน เมื่อเช้านี้ครับ”เจ
เจย์ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างเห็นได้ชัดและเกรย์สันก็รีบไล่ตามเขาไปทันที “ท่านประธานครับ คนพาลคนนั้นได้พานายหญิงไปที่บาร์เมื่อชั่วโมงที่แล้ว”เปลวไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวไหลออกมาจากดวงตาที่เย็นชาของเจย์ “ไอ้บ้าเอ้ย!”เขายืนอย่างสง่างาม น้ำค้างแข็งไหลออกมาจากร่างที่อ่อนแรงของเขาด้วยคลื่นที่ซัดเข้ามาจากการแสดงอารมณ์นั้นวินาทีต่อมา ขาเรียวยาวของเขาก็เดินไปที่ประตูเกรย์สันไม่กล้าพูดออกมาขณะที่เขาคิดว่าเขาควรยืนอยู่มุมไหนสักที่อย่างเงียบ ๆ ท้ายที่สุด ในการยุติคนพาลนี้ ท่านประธานคงต้องมีความขัดแย้งกับนายหญิง“ขอโทษที่รบกวนนะคะ เจนิสต้องการพบคุณค่ะ ท่านประธาน” เลขารายงานขณะที่เธอมีน้ำเสียงที่หอบเพราะรีบวิ่งมาผู้หญิงคนนี้คือเจนิส เป็นคนออสเตรเลียที่ติดต่อโครงการใหม่ระหว่างแกรนด์ เอเซียและโครงการในปรเทศออสเตรเลีย“ปล่อยให้เธอรอไปก่อน”เลขารีบตอบกลับว่า “เจนิสบอกว่าเวลาคือสิ่งสำคัญ ท่านประธาน เธอต้องขึ้นเครื่องหลังจากเจรจารายละเอียดกับคุณเสร็จ”“บอกเธอไปว่าตอนนี้สวนหลังบ้านของฉันถูกไฟไหม้”เลขาอ้าปากค้างขณะมองไปที่เขาเกรย์สันโบกมือไล่เธอออกไป “ตามนั้นเลย ไปบอกให้เธอรอสักครู่”แต่ทว่า เจ
“จะพาคนของฉันไปไหน?”โรสเดินเซไปมาขณะที่เธอพยายามเดินตามพวกเขาไป ทว่า ระหว่างทางของเธอได้ถูกขวางไว้โดย เจย์ อาเรส ที่กำลังโกรธเกรี้ยวอยู่“มองหน้าฉันสิ ฉันเป็นใคร?”โรสจ้องมองไปที่เขา เธอกระพริบตาอย่างไร้เดียงสา เธอยกมือขึ้นขยี้ตาที่งัวเงียกับความมึนเมาด้วยท่าทางสับสน “เราไม่เคยเจอกันมาก่อนเลยไม่ใช่เหรอ สุดหล่อ?”เจย์จ้องเธออย่างเย็นชาพลางกดกรามด้วยความโกรธ “ฉันก็ว่างั้น”โรสยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ฉันเป็นคนเปิดเผยมากเมื่อพูดถึงผู้ชายที่หล่อเหลา รู้ไหม ถึงแม้นายจะดูคุ้น ๆ แต่ฉันไม่คิดว่าฉันเคยเจอนายมาก่อนนะ เนื่องจากทุกโชคชะตาของฉันจากชีวิตก่อนหน้าและปัจจุบันของฉันได้สูญเปล่าไปกับ เจย์ อาเรส ไอ้สารเลวที่หล่อเหลาคนนั้นไปหมดแล้ว”รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งของเจย์เริ่มกระตุกโรสทั้งชมเชยและดุเขาในประโยคเดียวกัน การแสดงออกอย่างเงียบ ๆ ของเขาเปิดเผยว่าเขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเขามองดูโรสวางแขนที่เป็นมิตรบนไหล่ของเขาในลักษณะเปิดเผยออกมา เธอเมาเกินกว่าจะเข้าใจเธอต้องดื่มไปเยอะมากแน่ ๆ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้“นายรู้จักวิธีการต่อสู้ไหม สุดหล่อ?”การแสดงออกของเจย์ยังคงเฉยเมย “รู้”เธ
โจซี่ร้องเพลงท่อนต่อไปว่า “Ooh, you know I love it when you call me señoritaI wish it wasn't so damn hard to leave ya”โรสกล่าวต่อว่า “But every touch is ooh, la-la-la It's true, la-la-la Ooh, I should be running Ooh, you keep me coming for ya”แม้จะมีท่วงทำนองไพเราะ แต่เพลงกลับบิดเบี้ยวจนคนขี้เมาสองคนจำไม่ได้และฟังดูแย่ยิ่งกว่าเสียงสวดไว้ทุกข์ในงานศพเสียอีกหัวใจของเกรย์สันลื่นไถลและตกลงไปที่น้ำเสียงของหญิงสาวทั้งสอง เขาเหมือนจะพุ่งขึ้นไปบนก้อนเมฆเพียงเพื่อตกลงสู่นรก เกรย์สันถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ และคิดว่า ‘วิธีที่พวกเธอร้องเพลง เขาคิดว่าพวกเขาต้องเสียเลือดแน่!’หลังจากพยายามอย่างหนัก ในที่สุดพวกเขาก็พาผู้หญิงสองคนไปพักที่บ้านพักพนักงาน จากนั้น เจย์สั่งเกรย์สันและคนอื่นๆ ว่า “ออกไปรอฉันข้างนอก!”ทันใดนั้น สีหน้าของเกรย์สันและบอร์ดี้การ์ดก็สว่างขึ้นเมื่อมีโอกาสได้รับอิสรภาพที่รู้ว่าพวกเขารอดตายแบบหวุดหวิดพวกเขารีบเดินหนีออกไปเร็วกว่ากระต่ายหนีจากผู้ล่าเสียอีกเมื่อหมดแรงร้องเพลงแล้ว โจเซฟินก็นอนบนโซฟาขณะที่เสียงของเธอค่อย ๆ หายไป “I love it when you call me señorita”แล้วเธอก็ห
เจย์นึกขึ้นได้ว่าโรสแพ้ละอองเกสร เธอเพียงโยนดอกกุหลาบของเขาทิ้งไปเพราะเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเช่นนั้นทันใดนั้น ความโกรธในอกก็เดือดพล่านสั่นไหวเล็กน้อยเขาช่วยเหลือโรสในตอนนี้และในที่สุดเธอก็เข้านอนหลังจากจัดการกับความยุ่งยากที่เธอทำไว้ในความฝันของเธอ โรสพึมพำอย่างไม่หยุดหย่อน “มาแต่งงานกันเถอะ โจซี่ ทั้ง เซย์น เซเวียร์และเจย์ อาเรสจะได้ตกนรกไปเลย!”ดวงตาของเจย์เริ่มเย็นลงเมื่อมุมริมฝีปากของเขาดึงออกแสดงความรู้สึกเยาะเย้ย “นายจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากยั่วยุฉันสินะ เซย์น เซเวียร์?”โจเซฟินล้มลงราวกับเสียงฟ้าลั่นจากโซฟาเขาจ้องไปที่ผู้หญิงที่ยังคงนอนหลับต่อไปแม้หลังจากตีลังกาลงบนพื้นแล้ว เขาคิดมาโดยตลอดว่าเธอเป็นคนงี่เง่าไร้เดียงสาที่เขาต้องการจะปกป้อง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าน้องสาวปัญญาอ่อนคนนี้จะกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาในสักวันหนึ่งอันที่จริง เราไม่ควรตัดสินคนจากภายนอก!เจย์รู้สึกว่าจำเป็นต้องเรียกร้องให้มีมาตรการพิเศษก่อนที่เพื่อนสนิทสองคนนี้จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นแบบ ‘ความสัมพันธ์คู่รัก’!“ทุกคน”เกรย์สันผลักประตูเข้าไป “ครับท่า
บอร์ดี้การ์ดเดินเข้ามาหาเธอ “ไปกันเถอะ นายหญิงโจเซฟิน”โจเซฟินตะโกนกลับใส่บอดี้การ์ดว่า “‘บ้าเอ้ย! ทั้งครอบครัวของพวกนายจะฉิบหายแน่!”บอดี้การ์ดตกตะลึง!เมื่อถูกบังคับให้เข้าไปในรถ โจซี่ก็จ้องเขม็งไปที่บ้านพักเจ้าหน้าที่ของแผนกการแพทย์และโบกมือ “ลาก่อนนะ พี่สะใภ้”ข้าง ๆ โจเซฟิน เจย์ได้นั่งมองเธออย่างเย็นชาเมื่อนึกถึงการแสดงความรักของโจเซฟินที่พูดออกมาก่อนหน้านี้ยิ่งทำให้แววตาของเขาแข็งกระด้างขึ้นเท่านั้น“เธอต้องการที่จะแต่งงานกับหล่อนเหรอ?”โจซี่พยักหน้า “ใช่”เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอพูดอะไร เธอจึงหันไปมองเจย์อย่างหวาดกลัวก่อนจะส่ายหัวคล้ายกับเสียงกลองดังรัว ๆ“นายเข้าใจผิดแน่ ๆ ระหว่างพี่สะใภ้และฉัน เจย์ เราเป็นผู้หญิงด้วยกัน แล้วเราจะแต่งงานกันได้ยังไง?”สายตาของเจย์จ้องมาที่เธอ “ก็ไปแต่งงานกันที่ต่างประเทศที่มีให้จดทะเบียนสำหรับคู่รักหญิงกับหญิงได้หนิ”แม้ว่าพี่ชายของเธอจะดูไม่เป็นอันตราย แต่โจเซฟินก็แทบจะสัมผัสได้ถึงเสียงนุ่ม ๆ ของเขาที่ทำให้เธอหายใจไม่ออกราวกับมือของปีศาจมาเกาะอยู่ที่คอของเธอโจเซฟินยังคงเก็บอาการของเธอเพื่อตั้งสติเอาไว้ “ถ้าบอกว่าเธอกับฉันจะแต่งงานกัน
มันเป็นคืนที่อ้างว้างสำหรับผู้ชายที่โดดเดี่ยวเจย์ยืนอยู่ข้างหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานในห้องทำงานของเขา เจย์เงยหน้ามองออกไปไกล ๆ สายตาของเขาจ้องมองไปที่ตึกสูงที่โดดเด่นที่สุดของเมืองอิมพีเรียล นั่นก็คือแกรนด์ เอเซียเขาสงสัยว่าเมื่อไหร่จะได้กลับบ้านที่รักของเขาแล็ปท็อปบนโต๊ะทำงานแสดงฉากที่มีสีสันของเกมอย่างเงียบ ๆ แต่การแจ้งเตือนที่คุ้นเคยของการออนไลน์ไม่ได้ดังขึ้นมาเลยแม้ว่าเขาจะต้องการด้วยจุดประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะเข้าไปเล่นก็ตามเจย์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกท้อแท้ บางทีเธออาจพบว่าไม่จำเป็นต้องเข้ามาเล่นออนไลน์หากไม่มีโจซี่อยู่ด้วยติ้ง ติ๊ง!การแจ้งเตือนของการออนไลน์ร่วมกันก็ดังขึ้นจากแล็ปท็อปเจย์รีบเดินมาที่โต๊ะของเขา เมื่อเห็นไอคอนโปรไฟล์ของ ‘ไล่ล่าเหล่าบุรุษด้วยการชักดาบ’ เด้งสว่างขึ้นด้วยสีสัน ความโกรธทำให้เจย์มีรูปลักษณ์ที่ดูมีแรงดึงดูด‘ไล่ล่าเหล่าบุรุษด้วยการชักดาบ’ ส่งข้อความสั้น ๆ ให้เขา ‘นายว่างไหม?’เจย์ตอบไปว่า ‘ว่าง’ไล่ล่าเหล่าบุรุษด้วยการชักดาบพูดว่า ‘ฉันนอนไม่หลับ เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?’เจย์พิมพ์ว่า ‘ด้วยความยินดี!’ไล่ล่าเหล่าบุรุษด้วยการชักดาบพูดว่า ‘วั
โจซี่คร่ำครวญว่า “ไม่มีทางเป็นไปได้ เจย์ นายคือคนที่ลากฉันกลับบ้านและตอนนี้นายกำลังบอกให้ฉันกลับไปเนี่ยนะ? นายกลายเป็นคนไร้ศีลธรรมตั้งแต่เมื่อไหร่?“ฉันจะไม่กลับไป” โจเซฟินไม่พอใจ“เธอต้องกลับไป” น้ำเสียงของเขาไม่มีที่ว่างสำหรับการปฏิเสธ“งั้นฉันจะกลับพรุ่งนี้เช้า โอเคไหม?” เมื่อเป็นเวลาดึกมากแล้วเธอรู้สึกง่วงนอน โจเซฟินไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการล้มตัวลงนอนบนเตียง เธอรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกับคำขอที่ไม่สุภาพของเจย์เจย์ยังคงยืนอยู่และมีสีหน้าไม่ยอมแพ้ดวงตาของโจเซฟินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “นายกำลังแสดงบทบาทในรายการโปรดอยู่ เจย์ ตั้งแต่เรายังเด็ก นายก็เล่นเป็นตัวเต็งด้วยท่าทางแบบนี้เสมอเลย”เจย์ชะงักกับคำพูดที่ออกจากปากเธอคำกล่าวอ้างของโจเซฟินไม่มีมูลความจริง ในเมื่อเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตนี้ไปกับแองเจลีนเสียมากกว่าเป็นผลให้เขาไม่รู้ถึงความรู้สึกของโจเซฟินด้วยซ้ำกระนั้น เขาก็ไม่เสียใจที่ทำเช่นนั้นกับใครก็ตาม เนื่องจากแองเจลีนมีค่าควรแก่ทุกห้องหัวใจของเขา“มากับฉัน” จากนั้น เขาก็เดินหันหลังกลับไปโจเซฟินเดินตามเขาไปในห้องทำงานที่ ๆ เจย์ต้องการบอกให้เธออ่านข้อความบางอย่างบนหน