ดวงตาของเจย์หดแคบลงในขณะที่เขาครุ่นคิดว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับความลับของโรสบ้างไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาจ้างคนไปสืบเธอ เธอปลอมเรื่องการศึกษาอันต่ำเตี้ยไม่ได้แน่ เธอเรียนเอกวรรณกรรมและวารสารศาสตร์สมัยมหาวิทยาลัย มันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางไซเบอร์สักนิดแล้วเธอไปเรียนเทคนิคแฮ็คกิ้งอันร้ายกาจแบบนั้นมาจากไหน?โรสคิดได้ว่าหากเธอไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนกับเจย์ ความสงสัยของเจย์จะคงอยู่ตลอดไป ถ้าเขาส่งใครมาสืบเรื่องของเธอเพราะเรื่องนี้ เขาจะต้องรู้เรื่องของร็อบบี้น้อยและเซ็ตตี้น้อยแน่ ถ้าเป็นแบบนั้น เธอจะเสียเปรียบมากกว่าได้กำไร"ฉันเรียนรู้ด้วยตัวเอง" โรสรีบตอบเจย์มองไปที่ดวงตาของเธอด้วยความสับสนในหัว "เธอเก่งขนาดนี้เพราะเรียนด้วยตัวเอง?" เขาถามอย่างไม่ค่อยเชื่อนักนักศึกษาวิทยาลัยขนาดเล็กชั้นสามที่ไม่ได้มีคุณภาพนัก เรียนด้วยตัวเองว่าต้องแฮ็คอย่างไรถึงแฮ็คเข้าเครื่องเขาได้?'หรือว่าเธอเป็นอัจฉริยะแฝงตัว?'สายตาของเจย์สอดส่องเข้าไปในดวงตาของโรส ขนตายาวเป็นแพของเธอสั่นไหวอย่างนุ่มนวล เขามั่นใจ นี่เธอโกหกอีกแล้ว?"จำไว้ด้วยว่ามาทำงานให้ทันในวันจันทร์หน้า" เจย์พูดออกมาหลังจากเงี
แววตาของเจย์แคบลงดูอันตรายเมื่อเขาเห็นโรสที่กำลังบัง "เจนสัน" ไว้เหมือนแม่ไก่ปกป้องลูกเจี๊ยบเขารู้สึกหุงดหงิด ยังไงก็ตาม เจนสันก็เป็นลูกชายของเขา 'เธอคิดว่าเธอเป็นใคร จะมาเอาเจนสันไปจากฉัน?'"มานี่สิเจนสัน" เจย์เอิ้อมมือไปเพื่อจะพาตัว "เจนสัน" ไปร็อบบี้น้อยก้มหน้า คำสั่งนั้นยากที่จะทำตามแต่เมื่อคิดถึงเหตผลที่ว่าตัวจนของเขาตอนนี้คือ "เจนสัน" เขาจึงควรตามพ่ออย่างไรก็ตาม คุณแม่เห็นเขาเป็นร็อบบี้น้อย และเธอไม่มีทางยอมปล่อยให้เขาโดนลักพาตัวไปโดยพ่อแน่ คุณพ่อกับคุณแม่กำลังแย่งชิงเขา เขาควรทำอะไร?โรสอุ้มร็อบบี้น้อยไว้แน่นในอ้อมแขน แสดงอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่เธอกลัวว่าร็อบบี้น้อยจะถูกพาตัวกลับไปที่บ้านอาเรส และเจย์จะรู้ว่าเขามีลูกชายสองคนเมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะต้องนำตัวทั้งเจนสันและร็อบบี้น้อยไป และเธอจะสูญเสียลูกชายทั้งสองและนั่นเธอยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน"เจนสัน?" ดวงตาของเจย์มีความฉงน'แม้ว่าเจนสันจะชอบโรสมาก แต่เขาจะยอมทิ้งพ่อจริง ๆ เพื่อเธอเลยเหรอ?' เขาคิด'และเจนสันเองก็ยังไม่รู้ว่าโรสเป็นแม่แท้ ๆ เลยด้วยซ้ำ! มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เขาจะยึดติดกับโรสขนาดนี้
"แต่ถ้าคุณหายไป คุณพ่อจะลงโทษผมอย่างไร?" ร็อบบี้น้อยถามอย่างใสซื่อเกรยส์สันลดการป้องกันลงเพราะคำถามของเขา "ถ้าผมหายไป" เขากล่าวเสียงน่าขนลุก "คุณอาเรสคงจะไม่ได้คิดมากอะไร"ร็อบบี้น้อยขยิบตาใส "โอ้ ถ้าอย่างนั้นมันคงดีกว่าถ้าคุณหายไป"เกรย์สันมองร็อบบี้น้อยด้วยความสงสัย "ฮึ่ม นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันตกรึเปล่าวันนี้? คุณดูแปลกไปเล็กน้อยนะครับ ท่านเจนสัน"ร็อบบี้น้อยลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปหาเกรย์สันพร้อมแขนที่กำลังบิดขี้เกียจ มีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าจองเขา"คุณผู้ชาย มันเป็นเพราะวันนี้ผมพูดมากรึเปล่า?""ไม่ใช่แค่นั้นครับ ใบหน้าของคุณเองก็ดูมีความรู้สึกมากขึ้นในวันนี้เช่นกัน" เกรย์สันกล่าวด้วยความคิดร็อบบี้น้อยเดินไปหาเขา "คุณผู้ชาย ถ้าคุณชูมือขึ้น มันมีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นอีกล่ะ!"เกรยส์สันค่อย ๆ ยกมือของเขาขึ้นโดยไม่ถาม ทันใดนั้น ร็อบบี้น้อยก็ดึงไทออก แล้วมัดแขนของเกรย์สันแนบคอของเขาไปด้วย"ท่านเจนสัน คุณกำลังทำอะไรครับ?" เกรย์สันส่งเสียง"ไม่ต้องกลัวนะ คุณผู้ชาย ผมก็แค่อยากเล่นเกมกับคุณ" ร็อบบี้น้อยเอาเชือกมาจากในห้องทำงานแล้วมัดเกรย์สัน"เจนสัน คุณกำลังพยายามทำอะไร?""คุ
หลังจากที่ร็อบบี้น้อยถูกทิ้งไว้ที่แกรนด์เอเซีย เขาก็โทรหาเจนสันผ่านบนสมาร์ทวอชท์ทันที และบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เจนสันฟังถึงวิธีที่คุณพ่อแลคุณแม่แย่งชิงเขาตั้งแต่ต้นจนจบเมื่อเขาเล่าจบเขาก็ถามเจนสันอย่างลนลาน “เจนสัน นายคิดว่าตอนนี้ฉันควรทำอย่างไร? แม่ดูเหมือนจะจำฉันได้แล้วสิ คุณแม่ต้องคิดว่าคุณพ่อพาฉันไปด้วย ฉันพนันเลยว่าตอนนี้แม่ต้องเสียใจจริง ๆ”เจนสันคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เปลี่ยนกลับกันเถอะ”ร็อบบี้น้อยตระหนักถึงความหมายที่เจนสันหมายถึงอยู่พักหนึ่ง “นายหมายถึงเปลี่ยนกลับไปใช้ ตัวตนจริง ๆ ของเราน่ะเหรอ?”“ใช่ มันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พ่อกับแม่สงสัยน้อยลง” เจนสันกล่าวอย่างหนักแน่น“ฉันเดาได้ว่านี่คือวิธีเดียวในตอนนี้” ร็อบบี้น้อยกล่าว “ฉันจะกลับไปที่ชุมชนเจิดจรัสในตอนนี้เลย ส่วนนายก็กลับไปที่โฮไรซอน คอลเลอร์”“ตามนั้น”ในขณะที่เด็กสองคนวางแผนการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ทั้งเจย์และโรสต่างก็ต้องใจสลายไปพร้อม ๆ กันโรสรู้สึกหวั่นไหวกับความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียร็อบบี้น้อยไปตลอดกาลในทางกลับกันเจย์รู้สึกว้าวุ่นใจอย่างมากเพราะดูเหมือนว่าเจนสันจะชอบแม่ผู้ให้กำเนิดมากกว่าพ่อของเขาเสียอีก
‘เขาใข้น้ำเสียงเหมือนโรสเป๊ะ! เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าโรสจะปลูกความคิดประเภทนี้ไว้ในหัวของลูก!‘โรส เธอเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากผู้หญิงที่เลวร้าย’"ใครเป็นคนบอกลูก?" เจย์ถามเขา อารมณ์ของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเจนสันเห็นใบหน้าของคุณพ่อที่กำลังโกรธ เขาก็หยุดพูดทันที เพราะเขารู้ว่ายิ่งพูดไปก็จะทำให้คุณพ่อโกรธมากขึ้นเท่านั้นเจย์เริ่มหมายหัวความผิดของโรสเช้าวันรุ่งขึ้นแนนซี่ มาถึงที่บ้านของเจนสันตามที่กำหนดไว้ เธอนำของขวัญและเสื้อผ้ามาให้เจนสันมากมาย“ขอบคุณมากครับ คุณแนนซี่” เจย์เอ่ยอย่างสุภาพ “เจย์ คุณก็พูดเกินไป” แนนซี่พูด “เจนสันเป็นเด็กน่ารัก ฉันรู้สึกดีที่ได้ดูแลเขา”เจนสันทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ เจย์อย่างไม่สบอารมณ์ เขาจ้องมองไปที่กองเสื้อผ้าหรูหราที่แนนซี่ซื่อมาให้เขา…แนนซี่ เมื่อเธอเห็นเขาจ้องมอง เธอก็รีบถามเจนสันว่า “หนูชอบเสื้อผ้าที่ฉันซื้อมาไหม?” เจนสันชอบเสื้อยืดที่ดูเรียบ ๆ ใส่สบายที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าของร็อบบี๊น้อยมากกว่า ลวดลายสีสันบนเสื้อผ้าพวกนั้นก็ดูดี เสื้อผ้าพวกนั้นราคาก็เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าสตางค์อยู่มาก เขารู้สึกสบายตัวหลังจากที่ได้ลองสวมใส่ในสองวันนั้น
เจนสัน ไม่เคยใส่เสื้อผ้าเท่ ๆ และสบายเหมือนกับตอนที่ใส่ ‘สมาร์ท เบบี้ ไทเกอร์’ มาก่อนหลังจากที่แนนซี่พยายามค้นหาเสื้อผ้าของ ‘สมาร์ท เบบี้ ไทเกอร์’ และแล้วเธอก็โทรศัพท์ให้เจย์ดู เมื่อเขาเห็นเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาด เขาขมวดคิ้วทันที “ลูกไปหัดใส่เสื้อผ้าแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? สีมันดูฉูดฉาดเกินไป!”เจนสันเริ่มรู้สึกแย่ “ผมก็เป็นแค่เด็ก!” เขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจเจย์สังเกตดูที่ป้ายราคา มีตั้งหลักสิบหยวนไปจนถึงร้อยหยวน แล้วเขาก็กลับไปจ้องมองที่เจนสันอย่างสงสัย “แน่ใจนะว่า จะใส่เสื้อผ้าถูก ๆ แบบนี้?”เจนสันรีบพยักหน้า เขาแค่อยากใส่เสื้อผ้าที่เหมือนกับร็อบบี้น้อย มันจะได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น เจย์ถอนหายใจ เขาแสดงสีหน้าดูถูกออกมา “คุณพ่อไม่เคยซื้อเสื้อผ้าออนไลน์พวกนี้เลย”เจนสันรีบโต้กลับอย่างหน้าตาย “มันไม่ได้มีไว้สำหรับคุณพ่อนี่ครับ”เจย์สบตาของเจนสัน เขาเริ่มโตขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพยายามต่อสู้ในสิ่งที่เขาอยากได้เจย์เลือกที่จะรักษาน้ำใจของลูก เขายื่นโทรศัพท์ให้เจนสัน “ลูกเลือกของที่ลูกต้องการลงไปในรถเข็น เดี๋ยวพ่อจะจ่ายเงินให้”เจนสันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาเลือกเสื้อผ้าอย่างกระตืนรือ
โจเซฟินเดินลงไปชั้นล่างพร้อมกับเอามือกุมหน้าผากที่ฟกช้ำของเธอไว้ เธอเดินเข้าไปหาเจย์ ร้องไห้เข้าฟ้องเขา “เจย์ ลูกชายของนายทำร้ายฉัน นายจะไม่ทำอะไรหน่อยเหรอ?”เจย์มองโจเซฟินเงียบ ๆ… “เธอก็รู้ว่าเขาไม่ชอบให้เธอไปแตะต้องเนื้อตัวเขา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกระด้าง “แต่เธอก็ยังจะหาเรื่องใส่ตัวเอง”โจเซฟินรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก “ก็ฉันคิดว่าเขาคงดีขึ้นแล้ว ฉันถึงได้มาหาเขาที่นี่เพื่อดูแลเขา ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นอีก”ใบหน้าอันหล่อเหลาของเจย์เริ่มบูดบึ้ง “เจนสันไม่ได้ป่วย”โจเซฟินพูดด้วยน้ำเสียงที่แห้งแหบ “นายรู้ดีแก่ใจว่าเขาป่วยหรือไม่ป่วยเจย์ ฉันขอเตือนนายไว้เลยนะว่า เจนสันคนเดิมนั้นมีนิสัยเย็นชาและหยิ่งจองหอง นายก็เคยเห็นมันด้วยตาของนายที่วันนั้นนายพาเขามาที่บ้าน เขาแตกต่างจากเดิมวันนั้นเขาดูมีชีวิตชีวา สดใสร่างเริงและสุภาพ เดิมทีฉันคิดว่าแม่ของเขาสามารถรักษาอาการที่เขาเป็นอยู่ได้ แต่นี่มันดูเหมือนจะเลวร้ายลงไปอีก เจนสันดูเงียบมากขึ้นไปอีก เขากลายเป็นคนต่อต้านสังคม ฉันพูดจริง ๆ นะ ฉันอดสงสัยไม่ได้เขาป่วยเป็นโรคจิต!”เงาดำกระจายไปทั่วใบหน้าหล่อเหลาของเจย์“นายรีบพาเขาไปหาจิตแพทย์ในโรงพยาบาลแก
เจนสันจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เย็นชาก่อนที่จะพยักหน้าหงึก ๆ โจเซฟินกอดเจนสันอย่างมีความสุข เธอส่งเสียงให้กำลัง “เจนสัน เธอเปลี่ยนไป เธอน่ารักขึ้นเรื่อย ๆ เลย น้าขอคืนคำพูดที่หาว่าเธอเป็นโรคออทสติกหรือโรคจิต เธอเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในโลกเลย”เจนสันแสดงสีหน้ารังเกียจบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา“เจย์ พวกเราไปกันก่อน”“กลับมากันเร็ว ๆ ล่ะ” เจย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ยังไม่แน่ใจ โจเซฟินพาเจนสันออกจากบ้านพัก และเข้าไปนั่งในรถซุปเปอร์คาร์สีแดงของเธอ เธอกำลังรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ อยู่ในห้วงความฝันที่เธอปรารถนานั้นเป็นจริงเสียงที่เย็นชาของเจนสันได้ขัดฝันกลางวันของเธอ “ผมอยากไปเที่ยวสวนสนุก”รอยยิ้มสดใสของโจเซฟินหยุดชะงักทันที "ทำไมล่ะ?"เธอโตกว่าเขาตั้งมากมาย ทำไมถึงต้องให้เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างเจนสันต้องมาบอกเธอว่าจะไปที่ไหน?“เจนสัน ฉันจะไปที่กองถ่ายภาพยนตร์ก่อน” โจเซฟินตอบด้วยรอยยิ้ม เธอตัดสินใจที่จะหลอกพาเจนสันไปที่กองถ่ายให้ได้ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม เธอตั้งใจว่าจะให้ผู้กำกับหนัง ได้เห็นใบหน้าของเจนสัน ใบหน้าที่หล่อเหลาดูเป็นธรรมชาติของเขาที่สามารถเป็นดาราได้อย่างสยาย ไม่แน่ในอน