“ท่านอาเรส ทำไมห้องนี้ถึงได้รับการตกแต่งที่แตกต่างจากห้องอื่น ๆ?” โรส ลอยล์ รู้สึกประหลาดใจคฤหาสน์เน้นความเรียบง่ายและสง่างามโดยรวม เว้นแต่ว่า ห้องนั้นดูคลาสสิกและชวนฝันเหมือนกับห้องส่วนตัวของเด็กผู้หญิงในสมัยโบราณเจย์ อาเรส จ้องไปที่โรสที่มีสีหน้าประหลาดใจบนใบหน้าของเธอ ต่อจากนั้น เขาเม้มริมฝีปากอย่างร่าเริง “เดาสิ?”โรสจ้องมองเขาอย่างว่างเปล่าและความทรงจำของเธอย้อนกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนแองเจลีน เซเวียร์ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งร้ายแรง และหลังจากดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดเธอก็ได้ยินข่าวที่น่าตกใจว่าเจย์กำลังจะแต่งงาน แต่ว่า เจ้าสาวไม่สามารถปรากฏตัวในฉากแต่งงานได้ด้วยเหตุผลบางประการ -สำหรับเธอตัวตนตอนนี้ เธอใช้กลอุบายบางอย่างเพื่อดึงดูดความสนใจของเขาได้สำเร็จและทำให้เขาเลือกตัวเธอเองเป็นภรรยาของเขาท่ามกลางฝูงชนเธออยากรู้มาตลอดว่าใครคือเจ้าสาวที่ไม่ใช่สำหรับเขา?เธอเป็นผู้หญิงที่เจย์ห่วงใยอยู่ ใช่ไหม?“การออกแบบนี้ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงที่คุณชอบ!” เธอไม่สามารถซ่อนความขุ่นมัวของเธอได้ และเสียงของเธอก็ฟังดูต่ำมากเจย์พยักหน้า “ใช่”ห้องนี้ออกแบบมาสำหรับแองเจลีนจริง ๆ! เขาเพีย
เจย์มองไปที่โรสที่งุนงง เขาก้มหน้าลงทันทีทันใด แล้วจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างหลงใหลทันใดนั้น โรสก็เหมือนวิญญารออกจากร่างเขาเป็นเหมือนดั่งทะเลเพลิง และเธอกลายเป็นประกายไฟที่ลุกโชนโดยเขา เกือบจะในทันที เธอเหมือนถูกลดขนาดเป็นขี้เถ้าในวินาทีนี้หลังจากได้สติ เธอก็ผลักเขาออกไป ในทางกลับกัน เขาเลียริมฝีปากบาง ๆ ที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์ของเขาโรสรู้สึกเขินอายทำให้แก้มของเธอเริ่มแดง“ท่านอาเรส ถ้านายไม่ชอบฉัน อย่ายั่วโมโหฉัน” เธอตำหนิเขาอย่างไม่พอใจเจย์ยกคางของเธอขึ้น “โรส ลอยล์ เรากำลังจะแต่งงานกันอีกไม่นานนะ เธอคิดว่าฉันจะยังคงยอมบริสุทธิ์หลังจากที่เราแต่งงานกันเหรอ?”โรสมองเขาด้วยความประหลาดใจ——ความปรารถนาของเขากำลังเผาไหม้ในร่างกายที่เย็นฉ่ำของเขา“ท่านอาเรส นายไม่รู้สึกผิดเหรอ?”“ฉันดีใจที่ได้อดทนกับความยากลำบากนี้” เขาพูดออกมา“แต่ฉันรู้สึกผิด——” เธอลุกขึ้นยืนและพูดทั้งน้ำตา “ฉันไม่สามารถเผชิญหน้ากับผู้ชายที่เกลียดฉันได้ ในขณะที่ตัวฉันยังคงรักษาท่าทางที่เป็นกุลสตรีของตัวเองเอาไว้ ฉันก็ไม่สามารถ——เผชิญหน้ากับผู้ชายที่ทำร้ายฉันมาก่อน ตั้งแต่ตอนที่ฉันมอบหัวใจให้กับเขาได้”ใครบอก
หุ้นของบริษัท เบล แตะจุดต่ำสุดในแต่ละครั้งติดต่อกันสามวันแล้วสินทรัพย์ของบริษัท เบล อาจลดลงอย่างรวดเร็วในอัตราที่มองเห็นได้ ดังนั้น มันจึงนำไปสู่การลดลงและเป็นผลต่อความน่าเชื่อถือของธนาคารสแตนลีย์ เบล รู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้คณะกรรมการกำลังเริ่มขอเรียกร้องพิจารณากันเป็นอย่างมากกับเรื่องนี้ เพียงแค่ แนนซี่ เบล ผู้ก่อเหตุไปขอโทษ โรส ลอยล์ ไม่เช่นนั้น ความโกรธของท่านอาเรสก็ยากที่จะหายไปและบริษัท เบล ก็ใกล้จะล้มละลายเต็มทีแม้ว่าสแตนลีย์มักจะตามใจให้ท้ายลูกสาวของเขาตลอด แต่ภายใต้แรงกดดันของคณะกรรมการบริหาร ทำให้เขาก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของพวกเขาอย่างไรก็ตาม หลังจากที่แนนซี่รู้ข่าวเธอก็เหวี่ยงอารมณ์ฉุนเฉียวเหมือนเจ้าหญิงในคฤหาสน์ของตัวเอง“พ่อคะ หนูขอโทษผู้หญิงบ้านนอกที่ต่ำต้อยอย่าง โรส ลอยล์ ไม่ได้”นายหญิงเบลมองลูกสาวที่ร้องไห้และรู้สึกปวดใจอย่างรุนแรง“โรสใช้กลอุบายเพื่อยกเลิกการแต่งงานที่ดีระหว่างแนนซี่และท่านอาเรส แนนซี่ควรจะเกลียดเธอ แต่ในเมื่อ ตอนนี้คุณกำลังบังคับให้เธอขอโทษหล่อน แนนซี่จะรู้สึกแย่แค่ไหน?”ฌอน เบล กำลังนั่งอยู่บนโซฟา เขาถือรีโมทคอนโทรลของทีวีไว้ในม
แนนซี่คิดว่าเรื่องนี้แปลกมาก ทำไมซอนเดอร์จึงทำงานเป็นคนรับใช้เองทั้งหมด? “โรสอยู่ไหนหรอคะ?” เธอถามอย่างสงสัย“ออกไปกับเด็ก ๆ” เจย์พูดอย่างเย็นชาเจย์เป็นคนที่หวงแหนคำพูดเหมือนทองคำที่หลุดออกจากปาก ดังนั้นหลังจากทักทายเสร็จ เขาก็นั่งที่นั่นอย่างสง่างามโดยไม่พูดอะไรสักคำบรรยากาศเริ่มหดหู่เป็นพิเศษซอนเดอร์ถือชามาให้และยิ้ม “ท่านคะ ฉันควรไปตามนายหญิงลอยล์ดีไหมคะ?”“ไม่เป็นไร ให้เธอเล่นกับเด็ก ๆ ไปเถอะ”มีความอบอุ่นในน้ำเสียงของเขาโชคดีที่โรสรู้ว่าฌอนจะมา เธอจึงเดินกลับมาในบ้านพร้อมกับเด็ก ๆ ในไม่ช้าจากนั้นทุกคนในบ้านหันไปมองด้วยความประหลาดใจ ซึ่งเห็นเป็นผู้ใหญ่หนึ่งคนและเด็กสามคนถูกปกคลุมเลอะเทอะไปด้วยโคลนทั่วร่างพวกเขาพวกเขามีรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าแนนซี่รู้สึกแอบภูมิใจเมื่อเห็นโรสอยู่ในสภาพสกปรกเช่นนั้นผู้หญิงคนนี้โง่มากที่เปิดเผยภาพลักษณ์ที่บ้านนอกของเธอต่อหน้าท่านอาเรสผู้สูงศักดิ์เช่นนี้ คนอย่างท่านอาเรสที่เป็นโรคกลัวเชื้อโรค จะตกหลุมรักคนอย่างเธอได้อย่างไร?“ฌอน!” โรสวิ่งไปอย่างกระตือรือร้น“คุณฌอน!” เจย์แก้ไขเธอด้วยความไม่พอใจโรสสะดุ้ง นี่เป็นชื่อเรียกทางการไป!“ทำ
โรสเดินไปนั่งข้างเจย์ อย่างกลัวจนคิดอะไรไไม่ออกจู่ ๆ แนนซี่ก็ลุกขึ้นและโค้งขยับตัวไปเพื่อให้โรสนั่ง “คุณโรส ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรื่องล่าสุด ฉันหวังว่าเธอจะให้อภัยความประมาทและความหุนหันพลันแล่นของฉันได้”โรสมองแนนซี่ด้วยความตกใจ จิตใจของเธอไม่สามารถเข้าใจได้แนนซี่ เบล ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่กำลังขอโทษเธองั้นเหรอ?โรสมองไปทางเจย์ เป็นไปได้ไหมว่าเขาใช้อำนาจของแกรนด์ เอเซีย กดดันบริษัท เบล และบังคับให้ผู้หญิงคนนี้ขอโทษเธอ?ใบหน้าของโรสพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีด้วยความละอายใจแบบบอกไม่ถูกเธอไม่ต้องการพึ่งพาผู้ชายเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของเธอศักดิ์ศรีและสถานะของเธอจำเป็นต้องได้รับจากพรสวรรค์ของตัวเธอเองก่อนแล้วมันจะดูน่าชื่นชมได้ดีกว่า“คุณเบล เรื่องที่แล้วมาปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ!” โรสกล่าวแนนซี่ “ ... ”เธอให้อภัยหล่อนง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?เธอแอบดีใจอยู่ในใจ อืมม! ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะรู้แนวทางของเธอ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่ทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยาก ถ้าเธอกล้าที่จะทำให้หล่อนอับอายในวันนี้ เธอก็จะไม่สามารถเจอเรื่องง่าย ๆ ได้สำหรับเธอในอนาคตเช่นกันสายตาข
โรสมองเจย์อย่างเศร้า ๆ “ท่านอาเรส ทุกคนที่หลงรักนายต้องทนกับคำสบประมาทและถูกนายทำร้าย นั่นดูไม่น่าสงสารไปหน่อยเหรอ?”เจย์ “...”โรสหันหลังเดินไปที่บันไดทันใดนั้นเจย์ก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา เขาพูดด้วยเสียงแหบว่า “ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว”โรสได้ยินทำให้รู้สึกตกใจอย่างมาก“ปล่อยแม่ของหนูไปนะ” ดูเหมือนว่าเซ็ตตี้น้อยจะถือปืนของเล่นไว้ในมือ ขณะที่เธอชี้ไปที่เจย์และสั่งอย่างน่ารักเมื่อเห็นว่าเจย์อารมณ์เสียและเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นานเขาเพิ่งทำร้ายใครบางคนไป แต่ในตอนนี้เธอก็กลัวว่าเขาจะทำร้ายแม่ของเธอเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ เซ็ตตี้น้อยจึงวิ่งเข้าไปในบ้านและใช้ปืนของเล่นเพื่อที่เธอจะได้เป็นผู้ช่วยชีวิตแม่ของเธอโรสไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ในขณะที่เธอผลักเจย์ออกไปการแสดงออกบนใบหน้าหล่อเหลาของเจย์ดูบูดบึ้งทำไมเด็กคนนี้ถึงทำลายแผนการของเขาอยู่เสมอ?‘แผนการร้ายกาจ’ ก่อตัวขึ้นในใจของเขา“เซ็ตตี้น้อย หนูอยากเป็นดาราเด็กไหม?”ดวงตาของเซ็ตตี้น้อยเป็นประกายเมื่อเธอถามว่า “ดาราเด็กอย่าง เชอร์ลีย์ เทมเพิล เหรอคะ?”“ใช่”เซ็ตตี้น้อย ผู้ชื่นชอบการแสดง ไม่รู้ว่านี่เป็นแผน ‘คุณลุงชั่วร้า
ที่นี่ไม่มีทองคำ! จู่ ๆ โจเซฟินพูดแทรกเพิ่มมาเธอกลัวว่าโจเซฟีนจะพูดผิด โรสรีบวางสายและหยิบแก้วนมของเธอขึ้นมาก่อนจะดื่มหมดลงในไม่กี่อึก เธอกังวลว่าเจย์จะซักถามเธอ เธอเลยหลบหนีไปอย่างรวดเร็วเหมือนหนู“เซ็ตตี้น้อย รีบหน่อย อย่าปล่อยให้น้าโจเซฟินรอนาน!” โรสวิ่งขึ้นไปชั้นบนก่อนจะเตือนเซ็ตตี้น้อยเจย์มองไปที่เซ็ตตี้น้อยก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปลูบหัวเธอ “โชคดีนะ! คุณลุงขอให้หนูทำสำเร็จนะ”นิ้วยาวของเขาลูบไล้ไปตามเส้นผมสีเข้มที่อ่อนนุ่มของเธอขณะที่เส้นผมบาง ๆ ยาว ๆ พันกันอยู่รอบ ๆ ปลายนิ้วของเขาเจย์ดึงผมของเธอมาแล้วกำไว้ที่มือเก็บมันแน่นเซ็ตตี้น้อยวางเครื่องใช้ของเธอลงและเช็ดปากด้วยผ้าเช็ดปากขณะที่เธอทำหน้าทะเล้นใส่เจย์ “ ขอบคุณค่ะ คุณลุง ไม่ต้องกังวล หนูจะทำสำเร็จอย่างแน่นอน เมื่อหนูหาเงินได้มากแล้ว หนูจะให้คุณลุงเป็นพ่อบ้านของคุณแม่ของหนูนะ ฮึ่ม!”เจย์ “...”อาหารเช้าแสนอร่อยพลันเปลี่ยนเป็นไร้รสชาติในทันใดยัยซาลาเปาตัวน้อยเก่งในการทำให้คนโกรธจนตายได้เสมอเมื่อเธอกำลังจากไปพร้อมกับโรส เจนสันและร็อบบี้น้อยต่างก็เข้าไปให้เซ็ตตี้น้อยกอดกันใหญ่ เจนสันกล่าวว่า “ขอให้โชคดี!”ร็อบบี้
เขาจะสามารถสืบย้อนไปได้สักกี่รุ่น? มันน่าจะเป็นงานที่หนัก...“ไม่จำเป็นต้องไปตามสืบหาใครหลังจากรุ่นเธอหรอก เพราะรุ่นก่อนหน้าเธอก็สูญหายไปหมดแล้วแหละ”เกรย์สันถูคิ้วของเขา ก่อนที่เขาจะรู้สึกยินดีปรีดาที่ตระหนักขึ้นมาได้ว่าท่านอาเรสได้เปิดเบียร์เย็น ๆ รอไว้ให้เขาแล้ว“เซ็ตตี้น้อยนั้นยังเด็กเกินไป เช่นนั้นแล้วจะสามารถสืบค้นต้นตระกูลของเธอได้อย่างไรกันล่ะ?”หลังจากกระบวนการทั้งหลายเสร็จสิ้น เกรย์สันกลับมาอยู่ข้าง ๆ เจย์อีกครั้ง“เราจะได้ผลภายในกี่วัน?” เจย์ถามเกรย์สันชูสามนิ้วการทดสอบทางพันธุกรรมนั้นช่างน่ารำคาญเสียจริง โรงพยาบาลส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาในการรอผลการทดสอบถึงครึ่งเดือน อย่างเร็วก็ประมาณ 1 อาทิตย์ถึงจะเสร็จสิ้นเกรย์สันสามารถต่อรองให้ได้ผลการทดสอบเพียง 3 วัน ด้วยการใช้เส้นสายที่กว้างขว้างของเขานั่นเองแต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเจย์แล้วเขายังไม่ค่อยพอใจ “มันนานเกินไป”เกรย์สันทำหน้ายู่เข้าหากัน “โธ่ ท่านอาเรสครับ ที่นี่ไม่ใช่แกรนด์ เอเชีย นะครับ เราต้องทำตามกฏของเขา”“งั้นก็ไปติดตั้งโปรแกรมการตรวจสอบทางพันธุกรรมที่แกรนด์ เอเชีย ด้วย นายจะต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้”หมดคำ
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ