มีเสียงเย้ยหยันอย่างเย็นชาดังมาจากหมู่ผู้เข้าร่วมประชุม “เฮอะ ไหนจะเรื่องที่ระบบภายในโดนแฮ็กแล้วยังเรื่องที่ประธานเซเวียร์ป่วยอีก ตอนนี้แกรนด์ เอเซียเจอศึกหนักทุกด้าน ประธานเซเวียร์ คุณจะคืนหุ้นให้เราแค่นั้นเหรอ? ทำไมคุณไม่คืนบริษัทที่คุณยึดไปเมื่อสามปีก่อนด้วยล่ะ?”แม้ว่าแองเจลีนจะมองไม่เห็น เธอก็สามารถบอกได้จากเสียงว่านั่นคือ แสตนลีย์เบล เอนเตอร์ไพรส์นั้นร่วมมือกับไททัส เอนเตอร์ไพรส์นำหลายบริษัทให้ก่อหวอดขึ้นเพื่อจะบีบบังคับแองเจลีนให้ก้าวลงจากตำแหน่งในงานประชุมผู้ร่วมหุ้นในครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับแองเจลีนที่จะยึดครองบริษัทที่อยู่สายธุรกิจเดียวกัน และในที่สุดก็ได้ตระหนักว่า ตนมีสถานะเป็นยักษ์ใหญ่เพียงเจ้าเดียวในแวดวงนี้ แกรนด์ เอเซียอาจจะประสบปัญหาอยู่ในตอนนี้แต่เธอก็ตั้งใจที่จะใช้เงินฟาดเพื่อไล่พวกผู้ถือหุ้นที่สร้างปัญหาพวกนี้ออกไป เธอไม่มีความคิดที่จะแยกบริษัทในเครือของแกรนด์ เอเซียเลยสักนิดแองเจลีนกล่าวอย่างมีโทสะ “แกรนด์ เอเซียได้จ่ายเงินไปจำนวนมากในตอนที่เราซื้อบริษัทเหล่านี้มาเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้บริษัทก็เป็นของแกรนด์ เอเซียแล้ว คุณเองเป็นแค่ผู้ถือหุ้นของแกรนด์
แองเจลีนฉุนเฉียว “ฉันไม่เห็นด้วย”สตีเฟนบอก “คุณเซ็นสัญญาไปแล้ว ประธานเซเวียร์ มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”สตีเฟนหันไปบอกเซร่า “เซร่าเอาเอกสารพวกนั้นมาสิ แล้วให้แน่ใจว่า ประธานเซเวียร์จะเปิดตากว้าง ๆ และอ่านให้ชัด เธอเป็นคนที่ประทับตราเอกสารพวกนั้นเอง ฉันไม่คิดว่า ประธานเซเวียร์จะเป็นคนที่คืนคำพูดหรอกนะ”เซร่าตอบด้วยรอยยิ้ม “ได้ค่ะ”จากนั้นเธอก็เดินไปที่แท่นหน้าห้องประชุมพร้อมเอกสารปึกใหญ่ “เชิญดูสิคะ ประธานเซเวียร์”ฮิโรชิ ไททัสจากไททัส เอนเตอร์ไพรส์ไม่อยากตกขบวน เขาก็เดินไปหาพร้อมด้วยเอกสารปึกใหญ่เช่นกัน “ตระกูลไททัสก็เช่นกันครับ ประธานเซเวียร์ คุณเป็นคนที่ประทับตราเอกสารพวกนี้เอง คุณคงไม่กลับคำพูดหรอกนะ”เมื่อเห็นว่าแกรนด์ เอเซียได้คืนบริษัทให้ทั้งเบล เอนเตอร์ไพรส์และไททัส เอนเตอร์ไพรส์แล้ว ผู้ถือหุ้นรายอื่นก็กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน พวกเขาต่างก็พากันยืนขึ้นแล้วกดดันให้แองเจลีนลงจากตำแหน่ง “ไหน ๆ ประธานเซเวียร์ก็คืนไททัสและเบล เอนเตอร์ไพรส์ไปแล้ว พวกเรายาช เอนเตอร์ไพรส์ก็อยากได้บริษัทของเราคืนมาเหมือนกัน…”เมื่อรู้สึกได้ว่าเรื่องราวเริ่มปั่นป่วนวุ่นวายมากขึ้น
”หน้าไม่อาย”คำนั้นยิ่งฟังดูทุ้มลึกก้องกังวานหลังที่ดังผ่านไมค์ ทำให้ยากที่จะบอกถึงตัวตนของเจ้าของเสียงห้องประชุมที่แสนอึกทึกเปลี่ยนเป็นเงียบสนิทในพริบตา“ใครกันน่ะ?”“ใครพูดน่ะ?”ตอนนั้นเองบางสิ่งที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น ภาพที่อยู่บนจอซึ่งเป็นภาพของคอมพิวเตอร์ที่วางบนแท่นหน้าห้องประชุมก็เลื่อนด้วยตัวเองจู่ ๆ ระบบภายในของแกรนด์ เอเซียก็ถูกปลดล็อก ทั้งรูปแบบผังและโครงสร้างของแต่ละแผนกต่างก็เปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตา เว็บโฉมใหม่นี้ดูมีประสิทธิภาพและทรงพลังยิ่งขึ้นแองเจลีนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เธอกระซิบถามเกรย์สัน “เกิดอะไรขึ้น เกรย์สัน?”เกรย์สันเดินเข้ามาหาแองเจลีนและกระซิบตอบ “มีใครบางคนแอบช่วยเราอย่างลับ ๆ ด้วยการปลดล็อกระบบภายในของแกรนด์ เอเซียครับ”ใบหน้างดงามของแองเจลีนฉายแววประหลาดใจจากนั้นแองเจลีนก็สั่งเกรย์สันหลายเรื่อง เขาคว้าไมค์มาและเดินไปที่กึ่งกลางแท่นหน้าห้องประชุม ด้วยทีท่าหนักแน่นเขาก็ตอบกลับการโจมตีไปว่า “นี่ก็เหมือนกระจกวิเศษที่เผยตัวตนของปิศาจร้าย การที่ระบบภายในของแกรนด์ เอเซียโดนแฮ็กนั้นช่วยเผยให้เราเห็นสันดานอันชั่วร้ายน่ารังเกียจของมนุษย์ในตัวของบรรด
หน่วยภูตผีต่างก็เข้ามาจับกุมตัวผู้ถือหุ้นของเบลและไททัส เอนเตอร์ไพรส์อย่างรวดเร็วสตีเฟนหัวเราะเสียงดังก้องอย่างขมขื่น “เจนสัน นายคิดว่าจะแก้ปัญหากองทุนของแกรนด์ เอเซียที่เหลือน้อยนิดได้ด้วยการจับพวกเราเหรอ?”เขากลัวว่าเจนสันจะไม่เข้าใจสิ่งที่พูด สตีเฟนก็ย้ำอีกครั้ง “นายอยากเห็นไหมเจนสัน ว่ามีเงินเหลือในบัญชีของแกรนด์ เอเซียอยู่เท่าไร? ถ้านายปล่อยพวกเราไป ฉันก็จะช่วยให้ทุนแกรนด์ เอเซียเพื่อให้รอดวิกฤตินี้ไปได้”สตีเฟนเป็นคนฉลาดที่ยอมจำนนต่อหลักฐาน ตอนนี้เขาทำได้แค่เพียงเอาเงินมาฟาดเพื่อให้รอดตัวเท่านั้นรอยยิ้มเหยียดหยามปรากฏขึ้นบนใบหน้าเย็นชาของเจนสัน “คุณไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาตกลงธุรกิจอะไรกับผม”จากนั้นเขาก็เดินไปที่แท่นหน้าห้องประชุมเขาลงนั่งหน้าคอมพิวเตอร์และด้วยนิ้วมือเรียวยาวของเขา ก็ดึงภาพของหน้าเว็บเบล เอนเตอร์ไพรส์ขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเจนสันกำลังพิมพ์ URL ของเว็บเบล เอนเตอร์ไพรส์ รอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏบนใบหน้าของสตีเฟน เขารู้ว่าตอนนี้เว็บของเบล เอนเตอร์ไพรส์ติดไวรัสร้ายแรงและใครก็ตามที่เข้าไปในหน้าเว็บก็จะทำให้หน้าจอดำมืดลงกะทันหันแต่น่าเสียดายที่สตีเฟนต้องผิดหวัง
เมื่อได้รับรู้ถึงความรักและความห่วงใยจากลูกและได้ยินเสียงกระซิบของเจนส์ แองเจลีนก็น้ำตาเอ่อคลอ“เจนส์ลูกแม่”“ผมจะพากลับบ้านนะครับ คุณแม่”เจนสันจับมือผู้เป็นแม่ จากนั้นก็แบกเธอขึ้นหลังก่อนเดินออกไปด้านนอกการประชุมผู้ถือหุ้นจบลงแล้วขณะที่บรรดาผู้เข้าร่วมประชุมพากันทยอยออกจากห้อง เซร่าก็ทรุดฮวบลงนั่งกองกับพื้นราวกับใบไม้ที่ปลิดปลิวจากกิ่งในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อคิดถึงว่าสตีเฟนผู้หนุนหลังของเธอก็ถูกเจนสันโยนเข้าตะรางอย่างไร้ความปรานี เซร่ารู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบของเธอถล่มลงมาแล้วสุดท้ายเซร่าก็คิดถึงแม่ของเธอ… คุณนายอาเรสโซซัดโซเซลุกขึ้นยืนอย่างสิ้นหวังและรีบกลับบ้านเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ทั้งคุณนายอาเรสและแอนต่างก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาแต่เก่าก่อน ตอนนี้ทั้งสองต่างก็เข้ามาร่วมกับเบล เอนเตอร์ไพรส์แล้ว พวกเธอต่างคิดว่าเมื่อเบล เอนเตอร์ไพรส์ได้หวนคืนสู่ความรุ่งโรจน์หลังจากที่แองเจลีนจำต้องก้าวลงจากตำแหน่ง พวกเธอก็จะได้เพลิดเพลินไปกับความรุ่งเรืองของเบล เอนเตอร์ไพรส์ด้วยเช่นกันแต่ว่าเมื่อพวกเธอเห็นเซร่ากระหืดกระหอบกลับมาที่บ้านด้วยท่าทางเศร้าซึมและหมดหวัง ใจพวกเธอก็ตกวูบ“แม่คะ พ่อโด
ที่โรงพยาบาลเรย์ลี่เพราะฤทธิ์อันรุนแรงของยาสลบทำให้เจย์นั้นยังคงหลับลึกเมื่อเซร่าพาคุณนายอาเรสมาที่ห้องพักผู้ป่วยของเจย์ คุณนายอาเรสรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเจย์ขมวดคิ้วแน่นด้วยความทรมาน“แล้วแม่ควรจะพูดอะไรกับเขาดีล่ะ เซร่า?”เซร่าตอบ “ก็แค่ยอมรับผิดค่ะแม่ ขอร้องเขาไปเรื่อย ๆ ถ้านายท่านอาเรสไม่ยอมให้อภัยแม่ แม่ก็ต้องยอมคุกเข่าขอร้อง ตราบใดที่แม่จริงใจพอ หนูแน่ใจว่าเขาจะต้องยอมใจอ่อน”คุณนายอาเรสพยักหน้าอย่างกระวนกระวายเจย์นั้นฝันอยู่ยาวนานในความฝันของเขานั้น ความตายได้พรากเขากับแองเจลีนที่รักจากกันหลายต่อหลายหน ความเจ็บปวดนั้นทำให้หัวใจเขาแหลกสลายเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นภายใต้ความเจ็บปวดราวกับโดนแยกร่างออกเป็นพัน ๆ ชิ้น เขาก็หลุดพ้นจากฤทธิ์ของยาสลบและลุกพรวดขึ้นนั่งบนเตียงอย่างทันทีทันใด เขาตะโกนก้องคำรามราวกับสิงโตหนุ่มซึ่งเพิ่งตื่นจากการจำศีลมานานนับพันปี “แองเจลีน”เขานั่งตัวตรงด้วยตาแดงก่ำ มือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดสีเขียวเข้มบนหลังมือปูดโปนปรากฏให้เห็นเด่นชัดเซร่าและคุณนายอาเรสตกใจกลัวเมื่อเห็นความดุร้ายของเจย์คุณนายอาเรสกล่าวด้วยเสียงสั่นเทา “ตื่นแล้วเห
เมื่อขาขวาของเซร่าหัก เธอก็ล้มลงนอนกองกับพื้น ใบหน้าเซร่าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เธอมองเจย์ด้วยแววตาไม่ยินยอมชายโหดร้ายและไร้ความปรานีได้กลับมาแล้วคุณนายอาเรสจ้องเซร่าด้วยดวงตาหวาดกลัว ทั้งร่างเธอสั่นเทาอย่างรุนแรง“เซร่า เซร่า…”บางทีการได้เห็นสภาพน่าสมเพชของลูกสาวก็กระตุ้นความรักฉันท์มารดาในตัวของคุณนายอาเรสขึ้นมา ทำให้เธอตะคอกใส่เจย์ “แกกล้าทำแบบนั้นกับเธอได้ยังไงกัน เจย์? ให้ตายสิ ฉันเลี้ยงแกมาหลายปีแล้วแกตอบแทนฉันแบบนี้เหรอ? ตอบแทนด้วยการทำร้ายลูกสาวฉันเนี่ยนะ?”เจย์หันไปมองคุณนายอาเรสด้วยสายตาคมกล้าเย็นเยียบ ก่อนเอื้อมมือไปบีบคอเธอไว้แน่นดุจคีมเหล็ก “เธอไม่มีค่าพอจะมาเป็นแม่ฉัน เธอฉวยโอกาสที่ฉันความจำเสื่อมแล้วก็ใช้ฉันทำร้ายแองเจลีน ให้เธอตายสัก 10,000 รอบก็ยังลบล้างความเกลียดในใจฉันไม่ได้เลย”คุณนายอาเรสจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาแต่จริงจังและไร้ปรานีของเจย์ จากนั้นเธอก็ได้เข้าใจลึกซึ้ง…จากวินาทีที่เธอทำร้ายแองเจลีน ตอนนั้นก็เท่ากับเธอตัดขาดความสัมพันธ์ฉันท์แม่ลูกระหว่างเธอกับเจย์ไปจนไม่เหลือซากแล้ว“เจย์ แองเจลีนป่วยอยู่นะ ลูกควรจะไปหาเธอ…” คุณนายอาเรสหาทางออกในช่วงคอขาดบ
ที่คฤหาสน์อาเรสเมื่อคุณนายอาเรสมาปรากฏกายที่หน้าประตูวิลล่า เธอก็โดนยามเฝ้าประตูขวางทางเอาไว้ “คุณนายอาเรสครับ คุณท่านแจ็คบอกว่าไม่ให้เปิดประตูให้คุณถ้าคุณกลับมาครับ”คุณนายอาเรสหน้าซีดเผือด “เขา… เขาหมายความว่ายังไงกัน? เรายังไม่ได้หย่ากันเลยนะ”ยามเฝ้าประตูตอบ “คุณท่านอาเรสบอกว่าเขายื่นส่งเอกสารขอหย่าไปที่ศาลแล้วครับ ขั้นตอนการหย่าของคุณทั้งสองคนจะมีมืออาชีพเป็นผู้จัดการเดินเรื่อง ดังนั้นพวกคุณทั้งคู่จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องพบหน้ากัน”คุณนายอาเรสร้องไห้โฮ เธอถอดสร้อยข้อมือทองที่สวมอยู่ออกมาแล้วยัดใส่มือยามหน้าประตู จากนั้นเธอก็อ้อนวอนขอร้องเขาว่า “ได้โปรดเถอะ ช่วยเข้าไปบอกเขาหน่อยว่าฉันมา บอกเขาว่าไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องพบเขาให้ได้ แม้ว่าเรากำลังจะหย่าขาดกันแต่เราก็ควรจะเลิกรากันในฐานะของสามีภรรยาด้วยดี ฉันแค่อยากพบหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น”ยามเฝ้าประตูคืนสร้อยทองให้เธอ “รับคืนไปเถอะครับคุณนายอาเรส ผมจะเข้าไปบอกคุณท่านแจ็คให้ว่าคุณมา แต่ผมบอกไม่ได้ว่าเขาจะยอมออกมาพบคุณไหมนะครับ”คุณนายอาเรสหลั่งน้ำตาด้วยความซึ้งใจ “ขอบคุณมาก”ยามเฝ้าประตูรุดเข้าไปในวิลล่าและบอกแจ็คว่าคุณ