”หน้าไม่อาย”คำนั้นยิ่งฟังดูทุ้มลึกก้องกังวานหลังที่ดังผ่านไมค์ ทำให้ยากที่จะบอกถึงตัวตนของเจ้าของเสียงห้องประชุมที่แสนอึกทึกเปลี่ยนเป็นเงียบสนิทในพริบตา“ใครกันน่ะ?”“ใครพูดน่ะ?”ตอนนั้นเองบางสิ่งที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น ภาพที่อยู่บนจอซึ่งเป็นภาพของคอมพิวเตอร์ที่วางบนแท่นหน้าห้องประชุมก็เลื่อนด้วยตัวเองจู่ ๆ ระบบภายในของแกรนด์ เอเซียก็ถูกปลดล็อก ทั้งรูปแบบผังและโครงสร้างของแต่ละแผนกต่างก็เปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตา เว็บโฉมใหม่นี้ดูมีประสิทธิภาพและทรงพลังยิ่งขึ้นแองเจลีนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เธอกระซิบถามเกรย์สัน “เกิดอะไรขึ้น เกรย์สัน?”เกรย์สันเดินเข้ามาหาแองเจลีนและกระซิบตอบ “มีใครบางคนแอบช่วยเราอย่างลับ ๆ ด้วยการปลดล็อกระบบภายในของแกรนด์ เอเซียครับ”ใบหน้างดงามของแองเจลีนฉายแววประหลาดใจจากนั้นแองเจลีนก็สั่งเกรย์สันหลายเรื่อง เขาคว้าไมค์มาและเดินไปที่กึ่งกลางแท่นหน้าห้องประชุม ด้วยทีท่าหนักแน่นเขาก็ตอบกลับการโจมตีไปว่า “นี่ก็เหมือนกระจกวิเศษที่เผยตัวตนของปิศาจร้าย การที่ระบบภายในของแกรนด์ เอเซียโดนแฮ็กนั้นช่วยเผยให้เราเห็นสันดานอันชั่วร้ายน่ารังเกียจของมนุษย์ในตัวของบรรด
หน่วยภูตผีต่างก็เข้ามาจับกุมตัวผู้ถือหุ้นของเบลและไททัส เอนเตอร์ไพรส์อย่างรวดเร็วสตีเฟนหัวเราะเสียงดังก้องอย่างขมขื่น “เจนสัน นายคิดว่าจะแก้ปัญหากองทุนของแกรนด์ เอเซียที่เหลือน้อยนิดได้ด้วยการจับพวกเราเหรอ?”เขากลัวว่าเจนสันจะไม่เข้าใจสิ่งที่พูด สตีเฟนก็ย้ำอีกครั้ง “นายอยากเห็นไหมเจนสัน ว่ามีเงินเหลือในบัญชีของแกรนด์ เอเซียอยู่เท่าไร? ถ้านายปล่อยพวกเราไป ฉันก็จะช่วยให้ทุนแกรนด์ เอเซียเพื่อให้รอดวิกฤตินี้ไปได้”สตีเฟนเป็นคนฉลาดที่ยอมจำนนต่อหลักฐาน ตอนนี้เขาทำได้แค่เพียงเอาเงินมาฟาดเพื่อให้รอดตัวเท่านั้นรอยยิ้มเหยียดหยามปรากฏขึ้นบนใบหน้าเย็นชาของเจนสัน “คุณไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาตกลงธุรกิจอะไรกับผม”จากนั้นเขาก็เดินไปที่แท่นหน้าห้องประชุมเขาลงนั่งหน้าคอมพิวเตอร์และด้วยนิ้วมือเรียวยาวของเขา ก็ดึงภาพของหน้าเว็บเบล เอนเตอร์ไพรส์ขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเจนสันกำลังพิมพ์ URL ของเว็บเบล เอนเตอร์ไพรส์ รอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏบนใบหน้าของสตีเฟน เขารู้ว่าตอนนี้เว็บของเบล เอนเตอร์ไพรส์ติดไวรัสร้ายแรงและใครก็ตามที่เข้าไปในหน้าเว็บก็จะทำให้หน้าจอดำมืดลงกะทันหันแต่น่าเสียดายที่สตีเฟนต้องผิดหวัง
เมื่อได้รับรู้ถึงความรักและความห่วงใยจากลูกและได้ยินเสียงกระซิบของเจนส์ แองเจลีนก็น้ำตาเอ่อคลอ“เจนส์ลูกแม่”“ผมจะพากลับบ้านนะครับ คุณแม่”เจนสันจับมือผู้เป็นแม่ จากนั้นก็แบกเธอขึ้นหลังก่อนเดินออกไปด้านนอกการประชุมผู้ถือหุ้นจบลงแล้วขณะที่บรรดาผู้เข้าร่วมประชุมพากันทยอยออกจากห้อง เซร่าก็ทรุดฮวบลงนั่งกองกับพื้นราวกับใบไม้ที่ปลิดปลิวจากกิ่งในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อคิดถึงว่าสตีเฟนผู้หนุนหลังของเธอก็ถูกเจนสันโยนเข้าตะรางอย่างไร้ความปรานี เซร่ารู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบของเธอถล่มลงมาแล้วสุดท้ายเซร่าก็คิดถึงแม่ของเธอ… คุณนายอาเรสโซซัดโซเซลุกขึ้นยืนอย่างสิ้นหวังและรีบกลับบ้านเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ทั้งคุณนายอาเรสและแอนต่างก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาแต่เก่าก่อน ตอนนี้ทั้งสองต่างก็เข้ามาร่วมกับเบล เอนเตอร์ไพรส์แล้ว พวกเธอต่างคิดว่าเมื่อเบล เอนเตอร์ไพรส์ได้หวนคืนสู่ความรุ่งโรจน์หลังจากที่แองเจลีนจำต้องก้าวลงจากตำแหน่ง พวกเธอก็จะได้เพลิดเพลินไปกับความรุ่งเรืองของเบล เอนเตอร์ไพรส์ด้วยเช่นกันแต่ว่าเมื่อพวกเธอเห็นเซร่ากระหืดกระหอบกลับมาที่บ้านด้วยท่าทางเศร้าซึมและหมดหวัง ใจพวกเธอก็ตกวูบ“แม่คะ พ่อโด
ที่โรงพยาบาลเรย์ลี่เพราะฤทธิ์อันรุนแรงของยาสลบทำให้เจย์นั้นยังคงหลับลึกเมื่อเซร่าพาคุณนายอาเรสมาที่ห้องพักผู้ป่วยของเจย์ คุณนายอาเรสรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเจย์ขมวดคิ้วแน่นด้วยความทรมาน“แล้วแม่ควรจะพูดอะไรกับเขาดีล่ะ เซร่า?”เซร่าตอบ “ก็แค่ยอมรับผิดค่ะแม่ ขอร้องเขาไปเรื่อย ๆ ถ้านายท่านอาเรสไม่ยอมให้อภัยแม่ แม่ก็ต้องยอมคุกเข่าขอร้อง ตราบใดที่แม่จริงใจพอ หนูแน่ใจว่าเขาจะต้องยอมใจอ่อน”คุณนายอาเรสพยักหน้าอย่างกระวนกระวายเจย์นั้นฝันอยู่ยาวนานในความฝันของเขานั้น ความตายได้พรากเขากับแองเจลีนที่รักจากกันหลายต่อหลายหน ความเจ็บปวดนั้นทำให้หัวใจเขาแหลกสลายเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นภายใต้ความเจ็บปวดราวกับโดนแยกร่างออกเป็นพัน ๆ ชิ้น เขาก็หลุดพ้นจากฤทธิ์ของยาสลบและลุกพรวดขึ้นนั่งบนเตียงอย่างทันทีทันใด เขาตะโกนก้องคำรามราวกับสิงโตหนุ่มซึ่งเพิ่งตื่นจากการจำศีลมานานนับพันปี “แองเจลีน”เขานั่งตัวตรงด้วยตาแดงก่ำ มือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดสีเขียวเข้มบนหลังมือปูดโปนปรากฏให้เห็นเด่นชัดเซร่าและคุณนายอาเรสตกใจกลัวเมื่อเห็นความดุร้ายของเจย์คุณนายอาเรสกล่าวด้วยเสียงสั่นเทา “ตื่นแล้วเห
เมื่อขาขวาของเซร่าหัก เธอก็ล้มลงนอนกองกับพื้น ใบหน้าเซร่าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เธอมองเจย์ด้วยแววตาไม่ยินยอมชายโหดร้ายและไร้ความปรานีได้กลับมาแล้วคุณนายอาเรสจ้องเซร่าด้วยดวงตาหวาดกลัว ทั้งร่างเธอสั่นเทาอย่างรุนแรง“เซร่า เซร่า…”บางทีการได้เห็นสภาพน่าสมเพชของลูกสาวก็กระตุ้นความรักฉันท์มารดาในตัวของคุณนายอาเรสขึ้นมา ทำให้เธอตะคอกใส่เจย์ “แกกล้าทำแบบนั้นกับเธอได้ยังไงกัน เจย์? ให้ตายสิ ฉันเลี้ยงแกมาหลายปีแล้วแกตอบแทนฉันแบบนี้เหรอ? ตอบแทนด้วยการทำร้ายลูกสาวฉันเนี่ยนะ?”เจย์หันไปมองคุณนายอาเรสด้วยสายตาคมกล้าเย็นเยียบ ก่อนเอื้อมมือไปบีบคอเธอไว้แน่นดุจคีมเหล็ก “เธอไม่มีค่าพอจะมาเป็นแม่ฉัน เธอฉวยโอกาสที่ฉันความจำเสื่อมแล้วก็ใช้ฉันทำร้ายแองเจลีน ให้เธอตายสัก 10,000 รอบก็ยังลบล้างความเกลียดในใจฉันไม่ได้เลย”คุณนายอาเรสจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาแต่จริงจังและไร้ปรานีของเจย์ จากนั้นเธอก็ได้เข้าใจลึกซึ้ง…จากวินาทีที่เธอทำร้ายแองเจลีน ตอนนั้นก็เท่ากับเธอตัดขาดความสัมพันธ์ฉันท์แม่ลูกระหว่างเธอกับเจย์ไปจนไม่เหลือซากแล้ว“เจย์ แองเจลีนป่วยอยู่นะ ลูกควรจะไปหาเธอ…” คุณนายอาเรสหาทางออกในช่วงคอขาดบ
ที่คฤหาสน์อาเรสเมื่อคุณนายอาเรสมาปรากฏกายที่หน้าประตูวิลล่า เธอก็โดนยามเฝ้าประตูขวางทางเอาไว้ “คุณนายอาเรสครับ คุณท่านแจ็คบอกว่าไม่ให้เปิดประตูให้คุณถ้าคุณกลับมาครับ”คุณนายอาเรสหน้าซีดเผือด “เขา… เขาหมายความว่ายังไงกัน? เรายังไม่ได้หย่ากันเลยนะ”ยามเฝ้าประตูตอบ “คุณท่านอาเรสบอกว่าเขายื่นส่งเอกสารขอหย่าไปที่ศาลแล้วครับ ขั้นตอนการหย่าของคุณทั้งสองคนจะมีมืออาชีพเป็นผู้จัดการเดินเรื่อง ดังนั้นพวกคุณทั้งคู่จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องพบหน้ากัน”คุณนายอาเรสร้องไห้โฮ เธอถอดสร้อยข้อมือทองที่สวมอยู่ออกมาแล้วยัดใส่มือยามหน้าประตู จากนั้นเธอก็อ้อนวอนขอร้องเขาว่า “ได้โปรดเถอะ ช่วยเข้าไปบอกเขาหน่อยว่าฉันมา บอกเขาว่าไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องพบเขาให้ได้ แม้ว่าเรากำลังจะหย่าขาดกันแต่เราก็ควรจะเลิกรากันในฐานะของสามีภรรยาด้วยดี ฉันแค่อยากพบหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น”ยามเฝ้าประตูคืนสร้อยทองให้เธอ “รับคืนไปเถอะครับคุณนายอาเรส ผมจะเข้าไปบอกคุณท่านแจ็คให้ว่าคุณมา แต่ผมบอกไม่ได้ว่าเขาจะยอมออกมาพบคุณไหมนะครับ”คุณนายอาเรสหลั่งน้ำตาด้วยความซึ้งใจ “ขอบคุณมาก”ยามเฝ้าประตูรุดเข้าไปในวิลล่าและบอกแจ็คว่าคุณ
คำก่นด่าของเซร่านั้นรุนแรงมาก “ด้วยความที่เป็น ‘แม่ของหนู’ คุณโอ๋และตามใจหนู คุณรู้อยู่แก่ใจดีว่าหนูอิจฉาแองเจลีน และไม่มีทางที่จะแย่งเจย์มาได้ แต่เพราะว่าต้องการจะแสดงความรักของแม่ คุณไม่เพียงไม่ห้ามหนู แต่คุณยังยิ่งส่งเสริมให้หนูจมดิ่งไปกับความต้องการนี้ คุณถึงกับขอให้หนูพลีกายให้แจ็ค ความคิดคุณมันบิดเบี้ยวแค่ไหน…”คุณนายอาเรสตัวสั่นเทาและยืนทื่อเหมือนต้นไม้ใกล้ล้มเซร่าดึงผ้าห่มออกและลากขาบาดเจ็บกะเผลกออกไปด้านนอกคุณนายอาเรสทรุดลงนั่งกองกับพื้นอย่างหมดหวังขณะที่ทั้งเซร่าและคุณนายอาเรสต่างก็จมอยู่กับความสิ้นหวัง มีอีกคนหนึ่งที่ทุกข์ทรมานและปวดร้าวยิ่งกว่าคนนั้นก็คือเจย์การมาคิดว่านิสัยหูเบาและไม่เชื่อใจเธอนั้นทำให้เจ้าหญิงที่แสนอิสรเสรีของเขา ผู้ที่เขาถนอมเหมือนประคองไว้ในอุ้งมือต้องพบจุดจบน่าเศร้า ถึงขนาดที่ทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธอผิดปกติและเป็นอัมพาต ตอนนี้เขาก็แค่อยากจะซ้อมตัวเองให้ตายเท่านั้นเมื่อเขาออกมาจากโรงพยาบาลเรย์ลี่ เขาก็รีบพุ่งไปที่สวนบันทึกรักเหมือนคนบ้าแต่ว่าที่สวนบันทึกรักนั้นว่างเปล่า ไม่มีใครสักคนอยู่ที่นั่น ด้วยสาเหตุบางอย่างนี่ทำให้เจย์เกิดความ
เขาผลักเซย์นให้พ้นทางและพุ่งตัวขึ้นไปชั้นบนเสมือนอยู่ในบ้านตัวเองเซย์นพยายามเข้าไปขวางแต่คุณนายเซเวียร์ก็ส่ายหน้าให้เซย์นและบอกว่า “ปล่อยให้เขาไปเถอะ น้องสาวของลูกป่วยเพราะรัก และต้องรักษาด้วยความรัก เขาเป็นยาถอนพิษของน้อง”เซย์นกระทืบเท้าด้วยความขัดใจ “ยาถอนพิษเหรอ? ผมว่าเป็นยาพิษมากกว่า”ที่ชั้นบนเจย์ไปที่ห้องนอนของแองเจลีนและเปิดประตูห้องเข้าไปด้วยความหวาดหวั่นแองเจลีนนอนขดตัวอยู่บนเตียง ผมสีดำเงางามของเธอยุ่งเหยิงและปรกใบหน้าซีดขาวของเธอไว้ มันยิ่งทำให้หน้าของเธอดูยิ่งซีดเซียวละผอมบางยิ่งขึ้นดวงตาของเธอเบิกกว้าง เผยให้เห็นตาดำสนิทคู่สวยของเธอ ตาของเธอลึกโหลทำให้เธอยิ่งดูผอม แววตาเธอเหม่อลอยและหม่นหมองเมื่อเข้ามาในห้อง เจย์ก็ปิดประตูอย่างแผ่วเบาเขาเดินลากขาที่หนักอึ้งไปที่เตียงจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ คุกเข่าลงแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า ก่อนนอนลงบนเตียงและจ้องมองไปที่ใบหน้างดงามของแองเจลีน น้ำตาเขาไหลอย่างห้ามไม่ได้นี่คือสาวน้อยที่เขาหลงรักตั้งแต่ยังเป็นเด็กเขานั้นไม่ได้มีเป้าหมายหรือแรงผลักดันในชีวิตอะไรนักหนา แต่มีเพียงข้อเดียวเท่านั้นก็คือการหาเงินเยอะ ๆ เพื่อให้เธอได้อย