ทันใดก็มีรถหลายคันพุ่งเข้ามาจอดตรงหน้าเจย์ขณะที่ล้อรถหมุนก็สาดน้ำขังบนพื้นสาดมาใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวของเจย์เจย์ขมวดคิ้ว และใช้ตาคมดุจเหยี่ยวจ้องไปยังรถคันนั้นประตูรถเปิดออก และมีประกายของมีดยาวพุ่งตรงมาหาเขาเจย์เอนตัวหลบมีดยาวได้อย่างรวดเร็วตอนนั้นเองประตูรถทุกคันต่างถูกเตะเปิดออก แล้วมีชายนับสิบคนออกมาจากรถชายเหล่านี้เข้ามาล้อมเจย์ไว้ เขาหันหลังพิงกำแพงของร้านสะดวกซื้อขณะที่กวาดสายตามองพวกชายตรงหน้าอย่างรวดเร็วเขาไม่รู้ว่าจะสู้พวกมันได้หรือไม่ เพราะว่าเขาต้องรับมือเพียงคนเดียว เขาอดหวั่นใจไม่ได้จังหวะนั้นเขาก็หวนนึกถึงตอนที่เล่นเกมต่อสู้กับแองเจลีนในห้องเกมอีสปอร์ตเขาเลยนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากเกมมาปรับใช้…เจย์ยกขายาว ๆ ของเขาขึ้นและเตะไปที่เป้าของชายที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่บอกกล่าว ชายคนนั้นเจ็บมากเสียจนถือมีดต่อไปไม่ไหว เขาตัวงอลงนอนกับพื้นและร้องเสียงดัง“เอาจริงสิ? นายน้อยอย่างแกสิ้นท่าขนาดใช้ลูกไม้ใต้เข็มขัดแบบนี้เลยเหรอ?”เจย์ยิ้ม กระบวนท่าที่แองเจลีนสอนเขานับว่าใช้การได้ดีทีเดียวขณะที่ชายพวกนั้นเริ่มถอย เจย์ก็ก้าวไปด้านหน้าและฉวยมีดของชายคนแรกมา ทันใดนั้นมีดยา
เซร่าเกลียดแองเจลีนมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ดังนั้นเธอจึงไม่อยากจะติดหนี้บุญคุณอะไรของแองเจลีน เธอเด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาและเดินไปหายูมิพร้อมพูดอย่างกระตือรือร้น “ถ้าเป็นแบบนั้น เรื่องแต่งงานของฉันคงต้องรบกวนเธอแล้วยูมิ”แอนน์จ้องเซร่าอย่างหัวเสียและพยายามอธิบายเหตุผล “แม่พยายามทั้งชีวิตเพื่อที่จะเข้าใจแองเจลีนพี่สาวลูก แม้ว่าเธอจะอารมณ์ร้อนและปากร้ายไปบ้าง แต่เธอก็ไม่ใช่คนเลวร้าย แถมเธอยังรู้จักใส่ใจครอบครัว เซร่าลูกก็อย่าไปโมโหพี่เขาเลยไม่งั้นวันหนึ่งจะเสียใจ”แต่เซร่านั้นรับฟังแม่ของเธอไหม?เมื่อยูมิเห็นว่าเซร่าทำตัวห่างเหินจากแองเจลีนแค่ไหน รอยยิ้มชั่วร้ายก็เต้นระยิบในดวงตาเธอ“ฉันมีอะไรจะบอกเซร่า มากับฉันสิ”เพื่อเก็บให้เรื่องนี้เป็นความลับ ยูมิก็พาเซร่าออกมาที่สวนก่อนกอดอกและมองเซร่าหัวจดเท้า“เธอนี่สวยไม่เบานะ” เธอพูดอย่างเสแสร้ง“ถ้ารูปร่างหน้าตาสวย ๆ แบบนี้ไม่เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ก็เสียดายแย่”เซร่าจ้องเธอ และพูดอย่างหมดความอดทน “เลิกพูดจาไร้สาระเถอะน่า เข้าเรื่องสักที”ดวงตาของยูมิฉายแววยิ้มร้าย ทันใดนั้นเธอก็เอนตัวเข้าหาเซร่าแล้วกระซิบเบา ๆ “เธอรู้ไหมว่าเขากลับมาแล้ว?”
เซร่ามองยูมิอย่างมีลับลมคมในก่อนจะจากไปพร้อมรอยยิ้มตอนนี้เธอไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออกอีกแล้ว แม้แต่ฝีเท้าทุกก้าวย่างก็เบาเหมือนขนนกยูมิยกมือขึ้นแตะริมฝีปากแดงสด แววตาฉาบพิษร้ายเต้นระริกในดวงตา“โถ แองเจลีน ถึงเซร่าจะทำไม่สำเร็จแต่ฉันก็มั่นใจว่าสภาพร่างกายเธอคงทนรับความกดดันครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ไหวแน่ใช่ไหม? เมื่อสุดท้ายเธอตาบอดหูหนวกแล้ว ฉันก็อยากรู้ว่าเธอจะจัดการกับแกรนด์เอเซียยังไง?”“สิ่งที่เธอแย่งชิงไปจากฉัน ฉันจะต้องให้เธอจ่ายคืนมาพร้อมดอกเบี้ยอย่างสาสม”วันต่อมาเซร่าก็มาที่วิลล่าคริสโซเพรส ในเมืองอิมพีเรียลวิลล่าคริสโซเพรสเป็นวิลล่าอีกแห่งที่แองเจลีนเตรียมไว้ให้พวกตระกูลอาเรส แม้ว่าจะไม่ใหญ่เท่าอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน แต่ที่นี่ก็เพียงพอให้พวกตระกูลอาเรสอยู่อย่างสงบปลอดภัยบางทีอาจจะเป็นเพราะการสูญเสียหลานชายไป หรือพวกตระกูลอาเรสอาจจะได้รับบทเรียนแล้ว พวกเขาก็เลยอยู่อย่างสงบทำตัวไม่โดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของพวกองค์กรโลกาวินาศนอกจากพวกหลานชายวัยหนุ่มไม่กี่คนที่ออกไปบริหารอาเรสฟิล์ม พวกรุ่นผู้ใหญ่ต่างก็อยู่อย่างกบดานและติดต่อกับค
”บอกสิว่าจะให้ฉันช่วยเธอยังไง?” คุณนายอาเรสปลอบเซร่าพูดทั้งน้ำตา “หนูแน่ใจว่าคุณรู้ว่าสิ่งเดียวในชีวิตที่หนูต้องการคืออะไร นั่นก็คือเจย์ หนูต้องทนทุกข์สารพัดและโดนเหยียดหยามมากมายเพื่อเขา หนูขอร้องนะคะคุณนายอาเรส ช่วยทำให้หนูสมปรารถนาได้ไหมคะ?” หลังจากพูดจบเซร่าก็เริ่มลงไปเกาะเท้าคุณนายอาเรสคุณนายอาเรสรู้สึกเจ็บปวดใจเมื่อเห็นแบบนี้ เธอดึงเซร่าให้ลุกขึ้นและแนะนำอย่างจริงจัง “เซร่า หนูรู้ดีกว่าใครว่าเจย์รักแค่แองเจลีนเท่านั้น”เซร่าตอบ “ถ้าเขายังเป็นเหมือนเดิม หนูก็ไม่ใจกล้าหน้าด้านมาขอหรือคาดหวังหรอกค่ะ คุณนายอาเรสคะ ตอนนี้เขาความจำเสื่อมแล้วก็มีข่าวลือมาว่าเขาเย็นชาแล้วก็ไม่ใส่ใจแองเจลีนแล้ว บางทีพระเจ้าอาจจะให้โอกาสหนูอีกครั้งก็ได้นะคะ?”คุณนายอาเรสเริ่มลังเลเซร่าอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร “คุณเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่ดูแลหนูอย่างดี คุณนายอาเรสคะถ้าแม้แต่คุณยังหันหลังให้หนู หนูก็คงเหลือแค่ทางตายเท่านั้น”“โอเค ฉันจะช่วยเธออีกสักครั้ง”เซร่าหลุดยิ้มคุณนายอาเรสถาม “หนูรู้เหรอว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”เซร่าพยักหน้าด้วยความช่วยเหลือของยูมิ เธอก็หาที่อยู่ของเจย์ได้ไม่ยากที่ห้องทำงาน
ทันใดนั้นออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น เจย์วางยี่หร่าไว้บนโต๊ะกาแฟก่อนลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูคุณนายอาเรสและเซร่ายืนอยู่หน้าประตู เซร่านั้นเกาะแขนของคุณนายไว้อย่างสนิทแนบแน่น วันนี้ตัวเธอเองก็ดูสวยสง่ามีระดับเพราะเธอทุ่มเทความคิดไปกับการแต่งตัววันนี้มากเจย์เปิดประตูที่มีระบบนิรภัยออกมาและงุนงงไปเล็กน้อยเมื่อเห็นพวกเธอ“ลูกแม่” เมื่อคุณนายอาเรสได้เห็นเจย์อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน เธอก็รู้สึกตื้นตันอารมณ์ท่วมท้นจนน้ำตาไหลพรากเธอพยายามจะเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าเจย์ แต่เจย์ก็หันหน้าไปด้านข้างเพื่อหลบการสัมผัสนั้นเมื่อเซร่าเห็นว่าเจย์นิ่วหน้า เธอก็รีบอธิบายให้เขาฟังอย่างเร็วว่า “เธอเป็นแม่ของคุณค่ะ เจย์บี้”เจย์ยังคงจ้องพวกเธอหลังจากที่โดนมาริลินหลอกและยังมาโดนพวกนักฆ่าทำร้าย เจย์ก็ได้รับรู้ว่าเขามีตัวตนที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงระมัดระวังทุกคนที่เข้ามาหาเขาคุณนายอาเรสไม่รู้ถึงความกังวลใจของเจย์ เธอเริ่มแนะนำตนเองกับเขา “นี่ลูกจำพวกเราไม่ได้แล้วเหรอ ลูกแม่? แม่เป็นแม่ของลูกไงและนี่… เป็นผู้หญิงที่ลูกรักที่สุด”เจย์หันไปมองหน้าเซร่าพอเป็นพิธี ความรู้สึกเฉยชาในใจก็ทำให้ตัวเ
เซร่าร้องรับลูก “เจย์บี้คะ ถ้าคุณคิดว่าเราเข้าหาคุณด้วยเจตนาแอบแฝง ทำไมคุณไม่ลองทดสอบเราดูล่ะ? แม่เป็นคนที่เลี้ยงคุณมานะ เธอรู้นิสัยของคุณทุกอย่าง”คุณนายอาเรสพยักหน้า “ใช่แล้วลูก แม่รู้ว่าลูกแพ้แอลกอฮอล์แล้วก็ท้องไส้ไม่ดี ลูกกินอาหารรสจัดไม่ได้ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า แล้วก็ไม่มีงานอดิเรกที่ไม่ดี ลูกชอบอ่านหนังสือชุดอาณาจักรแฮกเกอร์ ชอบเล่นเปียโน แล้วก็มีทักษะเหนือชั้น…”แววตาเย็นชาดุจน้ำแข็งของเจย์เริ่มอ่อนลงทุกอย่างที่คุณนายอาเรสพูดมาถูกเกือบหมดเขาคงทำไม่ถูกถ้าด่วนตัดสินแค่เพียงเพราะเด็กผู้หญิงในรูปดูไม่เหมือนเซร่า“คุณชื่ออะไร?” เขาถามเซร่า“เซร่า เซเวียร์ค่ะ”เจย์เลิกคิ้ว “คุณนามสกุลเซเวียร์เหรอ?”ทำไมเขาถึงหนีจากพวกเซเวียร์ไม่พ้นเลยนะ?เซร่าอธิบาย “เจย์บี้ค่ะ ตระกูลของฉันเป็นตระกูลเก่าแก่ในเมืองนางแอ่น พี่สาวฉันก็คือแองเจลีน เซเวียร์ประธานของแกรนด์ เอเซีย เพราะงั้นถ้าคุณเคยได้ยินนามสกุลนี้มาก่อนก็ไม่แปลก”สีหน้าเจย์มืดครึ้ม “แองเจลีน เซเวียร์เป็นพี่สาวคุณเหรอ?”เซร่าพยักหน้าพร้อมยิ้ม “ค่ะ”เจย์เริ่มคิดทบทวน นี่เขามีคำสาปความรักอะไรกับสามสาวพี่น้องตระกูลเซเวียร์กัน
เซร่าเกาะแขนคุณนายอาเรสอย่างเจียมตัว ราวกับว่าเธอกำลังกลัวแองเจลีนเมื่อเห็นเซร่าเป็นแบบนี้ คุณนายอาเรสก็รู้สึกปวดใจ เธอตำหนิแองเจลีนด้วยสีหน้าโกรธขึ้ง “ตอนที่เซร่าบอกว่าเธอทำตัวจองหองหลังได้ขึ้นเป็นประธานแกรนด์เอเซีย ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อหรอกนะ ตอนนี้เหมือนเธอไม่ใช่แค่จองหองแต่ยังทำตัวนักเลงข่มขู่คนอื่นด้วย”แองเจลีนเข้ามาหาคุณนายอาเรสและเชิดหน้าขึ้น “ถ้าคุณอยากให้ฉันนับถือคุณนะ คุณนายอาเรส คุณเองก็ต้องทำตัวให้สมวัยด้วย”คุณนายอาเรสโมโหเดือด “แองเจลีน เซเวียร์ นี่… นี่ เธอกล้าดียังไงมาใช้น้ำเสียงถือดีพูดกับฉัน?”ขณะที่บรรยากาศระหว่างคุณนายอาเรสและแองเจลีนเริ่มร้อนระอุ จู่ ๆ เซร่าก็เดินเข้ามาเพื่อตบหน้าแองเจลีนแต่แองเจลีนจับข้อมือเธอไว้ได้อย่างสบาย ๆเซร่าต่อว่าแองเจลีน “แองเจลีน เซเวียร์ ฉันรู้มาตลอดว่าเธอเป็นพวกชอบใช้อำนาจจอมบงการ แต่การทำตัวหยาบคายกับคุณนายอาเรสแบบนี้ไม่ใช่แค่เธอไร้มารยาทเท่านั้น ยังเหมือนเป็นพวกไร้การศึกษาด้วย”แองเจลีนบีบข้อมือเซร่าแน่นจนเซร่าหน้าซีดด้วยความเจ็บปวด“โอ๊ย” เซร่าร้องอย่างเจ็บปวดคุณนายอาเรสร้อง “ปล่อยเธอนะ แองเจลีน”“ได้เลย”พร้อมคำพูด เธอ
ขณะที่เจย์และคนอื่น ๆ กำลังยืนรอลิฟต์ แองเจลีนนั้นโมโหมากจนเหมือนเลือดไม่ขึ้นไปเลี้ยงสมองเมื่อเจย์ก้าวเข้าไปในลิฟต์ก่อนที่ประตูจะปิด จู่ ๆ แองเจลีนก็ตะโกนก้อง “ฉันเป็นภรรยาตัวจริงของนายนะ”ดวงตาเซร่าฉายแววเยาะเย้น เธอคิดว่าเจย์ไม่มีทางเชื่อสิ่งที่แองเจลีนพูดมาแน่ ๆ ดูจากความเกลียดชังที่เขามีต่อแองเจลีนที่เธอเห็นวันนี้แองเจลีนก็แค่รนหาที่เท่านั้นหล่อนมีใบหน้าที่สวยสะกดใจ แต่ดันยืนกรานที่จะแต่งหน้าหนา ๆ น่าเกลียดกลบไว้แล้วเจย์จะไปชอบผู้หญิงบ้าแบบนี้ได้อย่างไรกัน?ขณะที่เซร่ากำลังคิดไปไกลนั้น เธอก็รู้สึกว่าแขนที่เธอกำลังเกาะไว้แน่นหลุดไปจากการเกาะกุมของเธอ ขณะต่อมาแขนเรียวนั้นก็ยื่นไปขวางประตูลิฟต์โดยไม่บอกกล่าวเจย์ก้าวออกไปเซร่ารีบดึงคุณนายอาเรสตามออกไปเจย์เดินไปหาแองเจลีนแล้วถามอย่างเกรี้ยวกราด “เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?”แองเจลีนจ้องลึกไปในดวงตาเขา…ดวงตาสีดำเข้มของเธอมีแววกระจ่าง สว่างใสทันใดนั้น เธอก็ยื่นมือออกมาจากด้านหลังแล้วใส่กุญแจมือเจย์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้อีกด้านใส่กุญแจมือตัวเองไว้เจย์ถอนหายใจ “ลูกไม้เดิมอีกแล้วเหรอ? นี่คุณไม่อายบ้างเลยเหรอไง?”แองเจลีน
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ