ความรักอบอวลในอากาศบรรดาพนักงานต่างอึ้งมองเจย์และแองเจลีนอย่างโง่งมเมื่อเจย์รู้ตัวว่าพลาดเผยความรู้สึกออกไป ก็รีบปั้นหน้าเย็นชาเป็นน้ำแข็งเหมือนเดิมก่อนเดินไปเล่นเลโก้กับไทเกอร์แองเจลีนจำที่เซย์นบอกเธอก่อนหน้านี้ได้ว่า หากเธอรุกเขามากไป มีแต่จะทำให้เขายิ่งหนี แต่หากเธอไม่ทำอะไรเลยเธอก็คงไม่มีโอกาสสักนิดเธอยกมือเกาหัวอย่างวุ่นวายใจ ก่อนจะรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหาเขาเจย์กำลังสอนให้ไทเกอร์ต่อเลโก้เป็นชั้น ๆ อยู่ แต่ไม่ว่าเขาจะต่อขึ้นสูงไปแค่ไหน ไทเกอร์ก็จะผลักมันล้มลงอย่างเริงร่าตอนนี้เจย์เริ่มจะหงุดหงิดแล้ว “พ่อกำลังสอนให้ลูกต่อเลโก้เป็นชั้น ๆ อยู่ ทำไมต้องป่วนด้วย”เดิมไทเกอร์ก็ไม่ได้สนิทสนมกับเจย์อยู่แล้ว เมื่อเจอแบบนั้นเด็กน้อยจึงร้องไห้จ้าพร้อมร้องหาแม่เจย์เสยผมอย่างขัดเคืองใจเขาอยู่เป็นเพื่อนไทเกอร์ในโรงพยาบาลมาหลายวัน แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนก็เหมือนไม่สามารถสื่อความอ่อนโยนออกไปได้ ไทเกอร์ยังคงต่อต้านเขาอย่างมากแองเจลีนอุ้มไทเกอร์ขึ้นมา “อย่าร้องสิจ๊ะไทเกอร์ ไปเล่นเครื่องเป่าลูกโป่งดีกว่า”พอหันเหความสนใจเขาไปที่ของเล่นใหม่ได้ ไทเกอร์ก็หยุดร้องไห้ทันใดแต
ฉับพลันเขาก็รู้สึกราวตนจมดิ่งอยู่ในความทุกข์ ครอบครัวที่แม้ไม่สมบูรณ์ของเขาสลายหายไปราวกับฟองสบู่ตอนนี้เขาเจอกับสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าความยากไร้และความไม่สมบูรณ์แบบเสียอีก… นั่นคือการไม่เหลืออะไรเลยตอนนี้เขาไม่เหลืออะไรแล้วจริง ๆ ทั้งในแง่วัตถุและในทางจิตใจจู่ ๆ เขาก็รู้สึกวิงเวียนหน้ามืดขณะที่กำลังรอลิฟต์ มาริลินก็ไล่ตามเจย์มาทันก่อนคว้ามือเขาไว้อย่างหน้าด้าน ๆ พร้อมร้องอ้อนวอน “อย่าเมินฉันสิคะ ที่รักได้โปรดเถอะ ฉันรักคุณจริง ๆ นะคะ”เจย์แค่นเสียง “ถ้าคุณรักผม แล้วคุณไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นทำไมกัน?”มาริลินโอดครวญทั้งน้ำตา “เขาบังคับฉันนะ ฉันไม่ได้ต้องการจะทำแบบนั้นแลย”เจย์ตาแดงก่ำด้วยโทสะ “คุณคิดว่าผมโง่มากนักเหรอ?”เมื่อเห็นความเกรี้ยวกราดดุร้ายของเขา มาริลินก็หวาดกลัวจนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรพอประตูลิฟต์เปิดออก เจย์และมาริลินก็เดินตามกันออกมาตอนที่พวกเขามาถึงบ้าน แองเจลีนหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเธอเห็นเส้นเลือดเจย์กระตุก เธอรีบเข้าไปหาเขาและถามด้วยความเป็นห่วง “นายโอเคไหม เบ็น?”ถ้าไม่มีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้น ก็เป็นการยากที่จะเห็นคนเย็นชาไร้อารมณ์อย่างเจย์ดู
”ตอนที่ฉันหนีมา ฉันก็กลายเป็นเหมือนเหยื่อล่อตาพวกผู้ชาย ตอนที่มีผู้ชายคนหนึ่งข่มเหงฉัน เคนก็ไล่ตามฉันมาแล้วก็ฆ่าชายคนนั้นตาย แม้ว่าจะเป็นการป้องกันตัวแต่เคนก็โดนข้อหาว่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ เขาก็เลยต้องติดคุก”มาริลินสะอื้น “ฉันรู้ค่ะ ว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณเพราะว่าอดีตที่เลวร้ายของฉัน แต่ฉันก็เป็นเหมือนแมลงที่จมอยู่ในขุมนรก ฉันพยายามดื้นรนและหนีให้พ้นจากนรกที่แสนเลวร้ายนั่น แต่ไม่มีใครยอมช่วยฉันเลย”เจย์หลับตาลง สกัดดั้นความสงสารเห็นใจที่มีให้เธอซ่อนไว้ในดวงตา แม้ว่าเธอจะน่าเวทนาแค่ไหนแต่เขาก็รู้สึกรังเกียจเธออยู่เช่นกันมาริลินพึมพำ “พอในที่สุดฉันก็ได้เจอคุณ ฉันคิดว่าในที่สุดโชคก็เข้าข้างฉันแล้วหลังจากที่ต้องฝ่าฟันความลำบากยากเข็ญมา แต่ใครจะไปคิดกัน? ตอนนี้เคนออกมาจากคุกแล้ว เขายังบังคับให้ฉันกลับไปกับเขา…”พูดถึงตอนนี้มาริลินก็คุมตัวเองไม่ได้ น้ำตาเธอไหลพราก “คุณคิดว่าฉันไม่อยากหนีให้พ้นจากเขาเหรอหลังจากเจอเรื่องพวกนั้นมา? คุณดูแผลเป็นบนตัวฉันสิ เบ็น พวกนี้เป็นแผลที่เขาทิ้งไว้ทั้งนั้น”มาริลินถกกระโปรงขึ้น แผลเป็นน่ากลัวบนต้นขาของเธอ รวมถึงรอยแผลไหม้มากมายทำให้เจย์นิ่วหน้ามาริล
เมื่อคิดถึงว่ามาริลินปั่นหัวแล้วบงการชีวิตเขาด้วยจิตใจที่ชั่วร้ายแบบนั้นไปอย่างไรบ้าง เจย์ก็รู้สึกได้ถึงโทสะที่พลุ่งพล่านในตัว ท่วมท้นไปทั้งร่างจนไม่มีที่ปะทุออกทันใดนั้นก็มีเสียงดนตรีแว่วมากลางดึกที่เงียบงัน เสียงเปียโนนั้นนุ่มนวลอ่อนโยนเหมือนสายลมแผ่วเบาที่ปลอบประโลมหัวใจเขา บรรเทาความทุกข์และพลุ่งพล่านทั้งหลายเขาค่อย ๆ รู้สึกสงบลงทันใดนั้น เขาก็จำได้ว่ายังไม่ได้รับข้อความตอบหลังจากที่เขาบอกแม่ของเซ็ตตี้น้อยเรื่องขอลาออกเขาสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่าด้วยเสียงดนตรีที่กล่อมผ่อนคลาย เขาเริ่มรู้สึกง่วงงุนและหลับไปเมื่อก้าวขึ้นเตียงวันต่อมาแองเจลีนมาถึงห้องเก็บขยะใต้ดินของแกรนด์เอเซียตั้งแต่เช้าตรู่ เกรย์สันและสมาชิกคนอื่นของโกสต์ต่างก็รออยู่ด้านนอกแล้ว เมื่อพวกเขาแองเจลีนก็ทักทายเธอด้วยความเคารพ “ท่านประธานเซเวียร์”แองเจลีนถอดเสื้อโค้ตสีขาวออกและส่งให้เกรย์สันก่อนถาม “เขายังไม่สารภาพเหรอ?”เกรย์สันตอบ “ชายคนนี้จิตใจแข็งแกร่งมากครับ เขาไม่ยอมหลุดปากอะไรออกมาเลยไม่ว่าเราจะคาดคั้นและทรมานเขาแค่ไหน”ริมฝีปากสีแดงสดของแองเจลีนเม้มยิ้มเยาะ “พาฉันเข้าไปซิ”เกรย์สันพ
”ทำไมแกเห็นชีวิตคนไม่มีค่าแบบนี้?” เคนว่า “ฉันไม่รู้ว่ามาริลินเป็นใคร”“แกไม่รู้ว่ามาริลินเป็นใครเหรอ? งั้นไทเกอร์คงเกิดมาจากก้อนหินสินะ?” แองเจลีนจับผมหยิกหยอยของเคนไว้แล้วกระชากอย่างแรงจนผมหลุดติดมือมาเป็นกระจุกเธอส่งผมพวกนั้นให้เกรย์สัน “เอาไปแล้วส่งไปตรวจ DNA หาความเป็นพ่อระหว่างเขากับไทเกรอ์ นี่น่าจะเป็นหลักฐานได้ว่าเขาสมคบคิดกับมาริลิน”ข้อแก้ตัวต่าง ๆ นา ๆ ที่เคนคิดไว้พังไม่เป็นท่า เขาไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้มีอำนาจมากขนาดนั้นแองเจลีนให้โอกาสเขาเป็นครั้งสุดท้าย “ถ้าแกโดนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวประธานคนก่อนของแกรนด์ เอเซีย ถึงกฎหมายจะเอาผิดแกถึงตายไม่ได้ แต่ฉันกลัวว่าคนที่จงรักภักดีกับเขาคงไม่ปล่อยแกไว้แน่ ตอนนี้แกมีสองทางเลือกว่าจะติดคุกตลอดชีวิตหรือตาย”“แกเป็นใครกันแน่?” เคนมองแองเจลีนอย่างตื่นกลัวแองเจลีนตอบ “ประธานของแกรนด์เอเซีย”เคนทรุดลงไปกอง“ก็ได้ ฉันจะบอก”เคนยอมจำนน “มาริลินกับฉันเคยเป็นผัวเมียกัน เมื่อสี่ปีก่อนมาริลินโดนชายคนหนึ่งในหมู่บ้านข่มขืน ทำให้ฉันเลือดขึ้นหน้าแล้วฆ่าไอ้หมอนั่น สุดท้ายก็ต้องไปติดคุกข้อหาป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ”“และเพราะว่าฉันทำตัวด
”อ๊ากกกก!” เสียงเคนกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานดังมาเข้าหูเธอแองเจลีนเดินออกมาจากห้องใต้ดิน ความโศกเศร้าเสียใจของเธอก็ถูกแสงแดดสว่างจ้าภายนอกพัดหายทลายไปอารมณ์เธอดีขึ้นเล็กน้อยอย่างน้อยเบื้องหลังเรื่องราวที่แสนน่าเจ็บปวดใจนี้ก็ไม่ได้มีเรื่องให้น่าผิดหวังไปเสียทั้งหมดอย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าเจย์บี้และมาริลินไม่ได้รักกันไม่นานเจย์บี้อาจจะได้กลับมาอยู่ข้างกายเธอผ่านไปครู่ใหญ่ เกรย์สันก็เดินออกมาจากห้องใต้ดิน เสื้อสีขาวของเขาเปรอะไปด้วยเลือดแองเจลีนชะงักไปเล็กน้อย เกรย์สันคงระบายความแค้นลงไปกับเคนสินะ?เพราะอย่างไรเจย์ก็เหมือนเป็นพ่อและครูของเกรย์สัน สิ่งที่เคนทำก็เหมือนการกระชากผมของเจย์ ดังนั้นเมื่อเขามาอยู่ในเงื้อมมือเกรย์สันก็ต้องจบลงที่ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างอธิบายไม่ได้“เกรย์สัน หาโอกาสส่งเคนกลับไปให้มาริลินด้วย” แองเจลีนสั่งเกรย์สันแค่นเสียงโหดร้ายออกมา “เป็นความคิดที่ดีมากเลยครับ ท่านประธานเซเวียร์”วิธีการตีวัวกระทบคราดของแองเจลีนเป็นการลงโทษที่เหมาะสมที่สุดสำหรับมาริลินถึงแม้มาริลินจะชั่วร้ายน่ารังเกียจที่หลอกลวงเจย์ แต่ความจริงที่ว่าเธอเป็นคนช่วยชีวิตเจย์ไว
เจย์จ้องมาริลินด้วยแววตามืดครึ้มเต็มไปด้วยความเกลียดชังมาริลินกอดไทเกอร์ร้องไห้น้ำตาไหลพรากอยู่เงียบ ๆ เพราะไม่กล้าที่จะสบสายตาลึกล้ำคมดุจเหยี่ยวของเขาทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูมาริลินชำเลืองมองเจย์ก่อนเดินออกไปเปิดประตูคนที่ยืนรออยู่นั้นเป็นพนักงานส่งของใส่ชุดหมีสีฟ้าพร้อมหมวกเบสบอล มีกล่องพัสดุขนาดมหึมาวางอยู่ตรงหน้า เขาพูดเสียงแหบว่า “นี่พัสดุคุณครับ ช่วยเซ็นรับด้วย”มาริลินถามอย่างสงสัย “พัสดุของฉันเหรอคะ?”ช่วงนี้เธอไม่ได้ซื้อของออนไลน์อะไรเลยนี่นาคนส่งของอธิบาย “น่าจะเป็นพวกตู้เย็นหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรน่ะครับ”มาริลินหันหลังไปชำเลืองมองเจย์ คิดว่าอาจจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เขาซื้อมาก็เป็นได้ ดังนั้นเธอจึงบอกคนส่งของ “ช่วยเอาเข้ามาด้านในแล้วกัน”คนส่งของดัดกล่องพัสดุเข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วยรถเข็น และเหลือบมองเจย์และไทเกอร์ที่ยืนอยู่อีกฟากของห้องด้วยดวงตาดำขลับ“คุณอยากให้ช่วยแกะไหมครับ?” คนส่งของถามอย่างใส่ใจมาริลินพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ”คนส่งของดึงมีดคมกริบออกมาก่อนตัดเทปกาวที่ห่อพัสดุไว้ และบอกมาริลิน “คุณเปิดได้แล้วครับตอนนี้”มาริลินเดินไปที่ห่อพัสดุและเปิด
”นังจิ้งจอก! ตั้งแต่ฉันได้เจอแก ก็ถูกส่งไปติดคุกแถมตอนนี้ยังเกือบโดนฆ่าตายอีก ฉันนี่มันซวยจริง ๆ”“หวังว่าไม่ต้องได้พบได้เจอกันอีกแล้วนะ ชาติหน้าก็ไม่ต้องมาเจอกัน!”มาริลินนิ่งเงียบเมื่อเจอเคนด่าสาดเสียเทเสียทั้งเธอและเคนต่างก็มีบุญคุณและความเกลียดให้กันเจย์มองเคนด้วยสายตาทะมึนและจริงจัง ก่อนถาม “ใครทำแบบนี้กับนาย?”เคนตอบอย่างหงุดหงิด “ฉันบอกไม่ได้”เขาโดนเกรย์สันข่มขู่มาว่า ถ้าหากกล้าแพร่งพรายให้เบ็นรู้แม้สักน้อย เขาก็จะถูกถลกหนังทั้งเป็นและเสียบประจานใบหน้ามาริลินซีดเผือดไร้สีเลือด เธอหวาดกลัวจนวิญญาณแทบหลุดจากร่างเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเคนไทเกอร์วิ่งเขามาหาเธอด้วยขาสั้นป้อม “แม่จ๋า”มาริลินอุ้มไทเกอร์ขึ้นมาและเอามือปิดตาเขาไว้ พร้อมขอร้องเจย์ “ช่วยส่งเขาไปให้พ้นทีเบ็น อย่าให้เขาทำลูกเราตกใจ”เจย์มองมาริลินด้วยสายตาเย็นเยียบและมาดร้าย เขารู้สึกขัดใจกับสิ่งที่เธอพูดแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น เขาเองก็ไม่อยากให้เด็กน้อยที่บริสุทธิ์ต้องโดนกระทบจากความขัดแย้งของพวกเขา เจย์จึงบอกกับคนส่งของว่า “ส่งเขากลับไปที่ที่เขาถูกส่งมา”คนส่งของปิดฝาและห่อเคนกลับโดยไม่ชักช้าลังเล ก่อ
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ