แชร์

บทที่ 230

ผู้เขียน: เมิ่งซานเชียน
ใบหน้าขององค์ชายรองแทบจะกลั่นเป็นหยดน้ำได้แล้ว อึมครึมจนน่ากลัว แต่เพื่อรักษาตำแหน่งของหูหมิงชิง เขาจึงได้แต่กัดฟันเสี่ยง

“เหอะ เกินไป? แต่นี่ก็ไม่สำคัญ ข้าไม่สนใจหัวใจภายใต้หน้ามะระขมของท่านสักนิด สำหรับท่านจะเป็นยังไง ข้าหรือจะไม่รู้?”

ฉินอวิ๋นฟานแค่นเสียงหัวเราะ “เอาละ ท่านทำตามที่พูดไว้ก่อนจะดีกว่า ขอขมาต่อข้า”

“ขอขมาต่อเจ้า?”

จิตใจของฉินอวิ๋นฮุยในเวลานี้ราวกับพนังเขื่อนแม่น้ำเหลืองแตก ครั้นปะทุมิอาจเก็บ เขาแพ้ย่อยยับจนถึงขั้นนี้แล้ว ยังต้องขอขมากับฉินอวิ๋นฟานอีกรึ?!

ยามนี้ฉินอวิ๋นฮุยไม่ยินยอมอย่างยิ่ง สะกดไฟโกรธในใจอย่างหนัก ถ้าสายตาสามารถเอาชีวิตคนได้ เช่นนั้นฉินอวิ๋นฟานตรงหน้าคงถูกฆ่าไปแล้วแปดร้อยหน!

“ยังไง? ลืมคำพูดที่ตัวเองพูดไปเมื่อกี้แล้วหรือ? ถ้าข้าสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ ท่านต้องขอขมาต่อข้าไง”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก

“ดี ดี ทำดีมาก!”

ฉินอวิ๋นฮุยโกรธจนควันจะออกจากหูแล้ว แต่สถานการณ์ไม่เป็นผลดีกับเขาอย่างยิ่ง จึงได้แต่กลั้นเพลิงโทสะ “ข้าขอขมาต่อน้องเจ็ด ข้าเข้าใจเจ้าผิดเอง!”

“ท่านก็ขอขมาแล้ว ข้าย่อมไม่ถือสาเอาความกับท่านอีก”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย “เสด็จป
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
หนุ่ย ป่าติ้ว
แต่ละตอนที่ต้องเปิดใจดาวสั้นไปหน่อย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 231

    ไท่ซั่งหวงรู้ความสำคัญของตำแหน่งเจ้ากรมอาญาต่อองค์ชายรอง หลังจากตีทีหนึ่งยังต้องให้พุทราหวาน จะบีบคั้นให้จนตรอกเลยก็ไม่ได้ การไว้ชีวิตหูหมิงชิงถือว่าถอยให้แล้วหนึ่งก้าว บางครั้งการข่มขวัญยังจะดีกว่าตีให้ตายมากตอนนี้เขาอายุปูนนี้แล้ว จะอยู่ได้อีกกี่ปีก็ยังไม่รู้ สำหรับเขา การถ่วงดุลอำนาจและรักษาเสถียรภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด“เสด็จปู่ กรมอาญาคือหน่วยงานแกนกลางที่สุดของต้าเฉียนเรา มีคดีใหญ่น้อยมากมายให้รอตรวจสอบ ตัดสินและหาหลักฐานทุกวี่วัน หากไม่มีเจ้ากรมอาญาคงดำเนินงานได้ยากพ่ะย่ะค่ะ”องค์ชายใหญ่ฉวยโอกาส เอ่ยปากทันที“อื่ม คังเอ๋อร์พูดถูกต้อง การปลดเจ้ากรมอาญาจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อกรมอาญาจริง ถ้าไม่มีคนคอยกำกับดูแลส่วนรวมจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก”ไท่ซั่งหวงพยักหน้าแสดงออกว่าเห็นด้วย กรมอาญาดูแลความยุติธรรมของทั่วราชอาณาจักร ตำแหน่งเจ้ากรมอาญาสำคัญอย่างยิ่งยวดชัดเจน หากทิ้งว่างเป็นเวลานานต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่“เสด็จปู่ หม่อมฉันคิดว่าเหอเทียนหมิงรองเจ้ากรมฝ่ายขวารับหน้าที่เป็นเจ้ากรมอาญาได้พ่ะย่ะค่ะ เขาทำงานอยู่ในกรมอาญามานาน เชี่ยวชาญกฎหมายต้าเฉียนทุกข้อ สามารถรับช่วงต่อจากหูหมิงชิงได

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 232

    องค์ชายใหญ่ใบหน้าฉายอารมณ์กระหยิ่มยิ้มย่อง ในวาจาล้วนเป็นกลิ่นอายของการยั่วยุ ความรู้สึกถึงชัยชนะเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกสะใจอย่างยิ่ง ดีที่เชื่อฟังแผนการของพ่อตา มิเช่นนั้นคงได้ขายหน้าจริง ๆ แล้วเขาต้องยอมรับฝีมือของฉินอวิ๋นฟาน ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา การร่วมมือกับฉินอวิ๋นฟานคือการเลือกอันชาญฉลาด“บัดซบ!!!”เวลานี้องค์ชายรองจนปัญญาอย่างหนัก กระทั่งรู้สึกโดดเดี่ยวไร้ความช่วยเหลือ หูหมิงชิงลงจากตำแหน่งกะทันหัน โจมตีเขาไม่ทันตั้งตัว เรื่องนี้เสียฮูหยินแล้วยังต้องเสียรี้พล[1]โดยแท้“ฟานเอ๋อร์ เจ้าคือผู้เคราะห์ร้ายคนสำคัญของเรื่องนี้ และเป็นผู้สร้างผลงานใหญ่ในการบรรเทาภัยพิบัติ เจ้ามีความเห็นอย่างไรกับตำแหน่งเจ้ากรมอาญา?”ไท่ซั่งหวงมองฉินอวิ๋นฟานอย่างนึกสนุก ฉินอวิ๋นฟานจับมือกับองค์ชายใหญ่จะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนแน่ หรือจะเป็นตำแหน่งเจ้ากรมอาญา?หากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นฉินอวิ๋นฟานก็มีฝีมือร้ายกาจน่ากลัวยิ่งแล้ว สถานการณ์ทั้งราชสำนักอยู่ในการควบคุมของเขาตั้งแต่ทีแรก“ทูลเสด็จปู่ หม่อมฉันไม่ค่อยรู้เรื่องกรมอาญาสักเท่าไร และไม่อาจเลือกคนที่เหมาะสมได้จริง ๆ แต่ยามนี้ต้าเฉียนเรากำลังอยู่

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 233

    “พวกเจ้าสองคนต่างเป็นยอดองค์ชายของต้าเฉียน คนหนึ่งเคยเป็นขุนศึกประจำอยู่ที่เมืองจัว อีกคนคือผู้รับผิดชอบการบูรณะเมืองจัวหลังเกิดภัยพิบัติ แม้เมืองจัวจะเป็นเมืองชายแดนที่สำคัญ แต่ในเมื่อมีพวกเจ้าอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องให้ตาแก่อย่างข้าห่วงแล้ว”หลังจากไท่ซั่งหวงพิจารณาครู่หนึ่งจึงตัดสินใจมอบอำนาจ เขาได้กลิ่นผิดปกติสายหนึ่ง นี่น่าจะเป็นแผนการที่ฉินอวิ๋นฟานวางไว้แต่แรก หากเขาแทรกแซงมากเกินไป เกรงจะทำให้องค์ชายองค์อื่นระแวง กระทั่งเป็นผลเสียต่อฉินอวิ๋นฟานกอปรกับคำสัญญาที่ฉินอวิ๋นฟานให้ไว้เมื่อก่อนหน้านี้ เขากลับอยากดูสิว่าถ้ามอบกรรมสิทธิ์เมืองจัวให้เขา เขาจะสร้างปาฏิหาริย์อะไรได้“สำหรับจะจัดการเมืองจัวอย่างไร ฟานเอ๋อร์ตัดสินใจเองก็แล้วกัน แต่ข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง นั่นคือต้องพิทักษ์ชายแดนต้าเฉียนให้ดีและให้ประชาชนมีชีวิตบริบูรณ์”“ขอบพระทัยเสด็จปู่ หม่อมฉันต้องทำอย่างสุดความสามารถแน่พ่ะย่ะค่ะ!” ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยอย่างจริงจัง“เอาละ จบการประชุมเถอะ!” ไท่ซั่งหวงโบกมือ จากนั้นก็ค่อย ๆ ออกไปด้วยการประคองของนางกำนัลสองคนเมื่อจบเรื่องวุ่นวาย ไท่ซั่งหวงไม่มีกะจิดกะใจสะสางราชกิจเหล่านี้ ขอเพียงไม่

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 234

    “วันที่สามแล้ว ยังไม่เห็นเงารัชทายาทเลย พวกเราตาบอดกันจริง ๆ กลับเชื่อมันได้ จนตายก็ไม่ได้รู้ความจริง!”จางเฟยค่อนข้างแข็งแรง ภายใต้ทัณฑ์ทรมานอย่างหนัก สภาพเขาดีที่สุดในบรรดาหกคน เขามีนิสัยตรงไปตรงมา หุนหันพลันแล่น บัดนี้ทุ่มสุดตัวเพื่อฉินอวิ๋นฟานจนต้องตกอยู่ในสภาพถูกประหาร เขาอัดอั้นตันใจยิ่งนัก“เฮ้อ! พี่ใหญ่เถรตรงเกินไป คงโดนรัชทายาทหลอกแล้วละ พวกคนในราชวงศ์มันเชื่อถือไม่ได้ ถ้ามีประโยชน์กับพวกเขายังดี แต่พอเกิดปัญหาก็ไม่สนใจความเป็นความตายของพวกเราพี่น้อง!”กวนอวี่ก็ถอนหายใจจนปัญญาอยู่ข้าง ๆ เหมือนกัน“เฮอะ มันจะเรื่องใหญ่เพียงใด ก็แค่ตัดหัวมิใช่รึ? อีกสิบแปดปียังเป็นลูกผู้ชาย! [1] ตอนนี้มาโทษรัชทายาท ก่อนหน้านี้เจ้ามัวทำอะไร?!”ลิ่งหูเสี่ยวชักจะทนดูไม่ได้จึงเริ่มเอ่ยปากแย้ง ตลอดหลายปีมานี้ ฉินอวิ๋นฟานคือป๋อเล่อเพียงหนึ่งเดียวของเขา ฉินอวิ๋นฟานเสนอแนะและมอบวิธีการด้านการสร้างนาขั้นบันไดกับเขามากมาย ทั้งสนับสนุนการก่อสร้างของเขาอย่างไร้เงื่อนไขได้พบนายผู้ปรีชาสามารถเช่นนี้ เขาตายก็ไม่เสียดาย อย่างน้อยการสร้างชลประทานบนเนินเขาและนาขั้นบันไดก็ได้รับการยืนยันแล้ว“เจ้านี่พูดจาย

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 235

    “อยู่เป็นคนต้องโดดเด่น ตายต้องเป็นวีรบุรุษในหมู่ผีดี!”ในตอนที่ทั้งหกกำลังพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในวาระสุดท้ายของชีวิต ฉินอวิ๋นฟานปรากฏตัวขึ้นทันใด เดินไปหาทุกคนช้า ๆ จังหวะที่เห็นฉินอวิ๋นฟาน พวกเขาก็ตะลึงงัน“รัช รัชทายาท!”ทีแรกหลิวเป้ยนึกว่าฉินอวิ๋นฟานจะทิ้งพวกเขาแล้ว จึงไม่คาดหวังใด ๆ คิดไม่ถึงว่าในช่วงความเป็นความตาย ฉินอวิ๋นฟานกลับปรากฏตัวที่ลานประหารทันกาล“จะถูกตัดหัวอยู่แล้ว พวกเจ้ากลัวหรือไม่?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยปากถาม“ความตายมีอะไรน่ากลัว? ก็แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น”หลิวเป้ยส่ายหน้าพูด“พวกเรากลับไม่กลัวตาย เราแค่กลัวติดตามคนผิด สุดท้ายจนตายก็ยังไม่รู้ว่าตายเพราะอะไร!”จางเฟยเปล่งเสียงพูด“พวกเราสามคนพี่น้องเห็นคุณธรรมเป็นที่ตั้ง ไม่เคยเกรงกลัวอะไรทั้งนั้น ขอเพียงรัชทายาทไม่ผิดต่อมโนธรรม พวกเราก็ถือว่าตายอย่างคุ้มค่าแล้ว!”กวนอวี่เอ่ย“ได้เจอรัชทายาทก่อนตาย ชาตินี้ไม่เสียใจ!”หานซิ่นและลิ่งหูเสี่ยวเอ่ยขึ้นพร้อมกันมีแต่มู่หรงโหลวที่เงียบ เส้นประสาทตึงเครียด จ้องฉินอวิ๋นฟานด้วยสายตาเหม่อลอย“ใครก็ได้ ปล่อยตัวพวกเขา!”ฉินอวิ๋นฟานสั่งออกไป องครักษ์สองสามคนรีบวิ่งไปถึงต

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 236

    ในฐานะที่เป็นราชวงศ์ผู้อยู่เหนือสุดคนหนึ่ง ไท่ซั่งหวงย่อมมีสายตาการมองคนที่ต่างจากปุถุชนทั่วไป พวกเขาเอาตัวออกจากอำนาจไม่ได้ กลับเจ็บแค้นอำนาจนัก การแสดงออกของฉินอวิ๋นฮุยอาจสามารถเป็นจักรพรรดิคนหนึ่งได้ หากเป็นตัวตนผู้อำมหิตไร้หลักความเป็นมนุษย์“พ่ะย่ะค่ะ นับจากรัชทายาทแจ้งเกิด องค์ชายรองรีบร้อนไปบ้างจริง ๆ เขาอยากข่มรัชทายาทให้ได้เร็วที่สุด ให้เห็นว่าเขามีความสามารถ ทว่าผลลัพธ์กลับต้องปราชัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาเริ่มตื่นตระหนกลนลาน”เฉาเจิ้งฉุนกล่าวเสริมอยู่ด้านข้าง“ทุกครั้งฟานเอ๋อร์มักทำให้ข้าสะดุดตา เป็นพันธุ์ไม้ที่หาได้ยาก สามารถมองใต้หล้าด้วยมุมมองของจักรพรรดิ เสียดายที่ไร้สมัครพรรคพวก คิดจะเฉิดฉายท่ามกลางความสัมพันธ์ของตระกูลใหญ่ซึ่งฝังรากหยั่งลึกในต้าเฉียนมันยากมากจริง ๆ”ไท่ซั่งหวงส่ายหน้าพลางเอ่ย“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองต่างมีตระกูลใหญ่สนับสนุน หลังจากครองตำแหน่งจะสามารถกุมราชสำนักได้เร็ว ส่วนราชทายาท แม้จะได้ขึ้นครองราชย์ แต่เกรงว่าไม่นานต้องร่วงลงมาอีก นอกเสียจากเขาจะมีความสามารถเหนือฟ้า”เฉาเจิ้งฉุนติดตามจักรพรรดิสองรุ่นสี่สิบกว่าปี รอบรู้สถานการณ์ของต้

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 237

    “เจ้า เจ้าจะเอาจริงหรือ?”เหอเหวินเย่าพูดแบบไม่อยากจะเชื่อ“ท่านเห็นข้าเหมือนพูดล้อเล่นหรือ?”องค์ชายรองกล่าวด้วยใบหน้าชั่วร้าย “น้าสาม บอกอู๋อีฝาน ให้เขากำจัดฉินอวิ๋นฟานให้ข้า!”“อวิ๋นฮุย เจ้าใจเย็นก่อน เจ้าน่าจะรู้ดีว่าอู๋อีฝานเป็นใคร เขาเป็นคนในยุทธภพ ถ้าให้อู๋อีฝานลงมือกับองค์ชายต้าเฉียนจะเท่ากับทำลายสัญญาระหว่างราชวงศ์กับยุทธภพ จะเกิดเรื่องใหญ่เอานะ!” เหอเหวินเย่าสีหน้าปั้นยากกว่าปกติ ใช่ว่าจะใช้ขั้วอิทธิพลของยุทธภพไม่ได้ แต่จะใช้ง่าย ๆ ไม่ได้ และจะใช้อย่างโจ่งแจ้งก็ไม่ได้ด้วย การสังหารองค์ชายยิ่งเป็นข้อห้ามร้ายแรง และไม่ต้องพูดถึงว่าฉินอวิ๋นฟานมีสถานะพิเศษเป็นรัชทายาทอีก “แล้วยังไง? ต่อให้ข้าฆ่าฉินอวิ๋นฟานแล้วพวกเขาจะทำอะไรข้าได้? ยังจะแก้แค้นกับข้าหรือ? อีกอย่าง อู๋อีฝานเป็นสุดยอดนักฆ่าที่ข้าฝึกฝนอย่างลับ ๆ เชี่ยวชาญการหลบซ่อนที่สุด ไม่มีใครรู้ข้อมูลตัวตนของเขาหรอก มันจะเกิดเรื่องง่ายขนาดนั้นที่ไหน”ฉินอวิ๋นฮุยยิ้มร้ายพลางพูด“องค์ชายรอง ท่านจะไม่ไตร่ตรองอีกสักหน่อยจริง ๆ หรือ?”ลิ่งหูชงขมวดคิ้วแน่น สุดท้ายยังเตือนอีกคำ อย่างไรเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงส่วนรวม และตอนนี้ยัง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 238

    หลัวเหิงซาบซึ้งใจเสียไม่มี กรอบดวงตาชื้นแฉะ“เรียนรัชทายาท พวกหานซิ่นมาแล้วขอรับ” ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนา ทหารคนหนึ่งรายงานอยู่นอกกระโจม“ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ!”ได้รับการอนุญาตจากฉินอวิ๋นฟาน หานซิ่น หลิวเป้ยและคนอื่น ๆ ก็เดินเข้ามา หลังจากทำแผลบนตัวและกินข้าวแล้ว พวกเขาก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้ากลับมามีสีเลือดเล็กน้อย“รัชทายาท!” พวกหานซิ่นคำนับฉินอวิ๋นฟานด้วยท่าทีเคารพนบนอบ“นั่งเถอะ!”ฉินอวิ๋นฟานแสดงเจตนารมณ์ “หลังจากผ่านปัญหาครั้งนี้ พวกเราสมควรนั่งลงคุยกันดี ๆ เริ่มจากหลัวเหิงก่อนเถอะ!”ยามนี้ไม่มีใครล่วงรู้ว่าฉินอวิ๋นฟานกำลังคิดอะไรอยู่ในใจกันแน่ และไม่รู้ว่าแผนการลำดับต่อไปของเขาคืออะไร กลับไม่รู้เลยว่าฉินอวิ๋นฟานมีแผนอยู่ในใจชัดเจนแล้วหลัวเหิงพูดอย่างจริงจัง “หลังจากพัฒนามาครึ่งเดือน ค่ายทานหลางมีพี่น้องหนึ่งหมื่นคนแล้ว และยังจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พี่น้องทุกคนต่างพยายามอย่างเต็มที่ ทุกหน่วยย่อยพัฒนาฝีมือไม่หยุดหย่อน ฝึกฝนจนชำนาญแล้วขอรับ”พอได้ยินการรายงานของหลัวเหิง ฉินอวิ๋นฟานพึงพอใจมาก เขามองไปทางหานซิ่นแล้วถาม “ทางเจ้าล่ะเป็นยังไงบ้าง?”หานซิ่นตอบ

บทล่าสุด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status