ใบหน้าขององค์ชายรองแทบจะกลั่นเป็นหยดน้ำได้แล้ว อึมครึมจนน่ากลัว แต่เพื่อรักษาตำแหน่งของหูหมิงชิง เขาจึงได้แต่กัดฟันเสี่ยง“เหอะ เกินไป? แต่นี่ก็ไม่สำคัญ ข้าไม่สนใจหัวใจภายใต้หน้ามะระขมของท่านสักนิด สำหรับท่านจะเป็นยังไง ข้าหรือจะไม่รู้?”ฉินอวิ๋นฟานแค่นเสียงหัวเราะ “เอาละ ท่านทำตามที่พูดไว้ก่อนจะดีกว่า ขอขมาต่อข้า”“ขอขมาต่อเจ้า?”จิตใจของฉินอวิ๋นฮุยในเวลานี้ราวกับพนังเขื่อนแม่น้ำเหลืองแตก ครั้นปะทุมิอาจเก็บ เขาแพ้ย่อยยับจนถึงขั้นนี้แล้ว ยังต้องขอขมากับฉินอวิ๋นฟานอีกรึ?!ยามนี้ฉินอวิ๋นฮุยไม่ยินยอมอย่างยิ่ง สะกดไฟโกรธในใจอย่างหนัก ถ้าสายตาสามารถเอาชีวิตคนได้ เช่นนั้นฉินอวิ๋นฟานตรงหน้าคงถูกฆ่าไปแล้วแปดร้อยหน!“ยังไง? ลืมคำพูดที่ตัวเองพูดไปเมื่อกี้แล้วหรือ? ถ้าข้าสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ ท่านต้องขอขมาต่อข้าไง”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก“ดี ดี ทำดีมาก!”ฉินอวิ๋นฮุยโกรธจนควันจะออกจากหูแล้ว แต่สถานการณ์ไม่เป็นผลดีกับเขาอย่างยิ่ง จึงได้แต่กลั้นเพลิงโทสะ “ข้าขอขมาต่อน้องเจ็ด ข้าเข้าใจเจ้าผิดเอง!”“ท่านก็ขอขมาแล้ว ข้าย่อมไม่ถือสาเอาความกับท่านอีก”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย “เสด็จป
ไท่ซั่งหวงรู้ความสำคัญของตำแหน่งเจ้ากรมอาญาต่อองค์ชายรอง หลังจากตีทีหนึ่งยังต้องให้พุทราหวาน จะบีบคั้นให้จนตรอกเลยก็ไม่ได้ การไว้ชีวิตหูหมิงชิงถือว่าถอยให้แล้วหนึ่งก้าว บางครั้งการข่มขวัญยังจะดีกว่าตีให้ตายมากตอนนี้เขาอายุปูนนี้แล้ว จะอยู่ได้อีกกี่ปีก็ยังไม่รู้ สำหรับเขา การถ่วงดุลอำนาจและรักษาเสถียรภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด“เสด็จปู่ กรมอาญาคือหน่วยงานแกนกลางที่สุดของต้าเฉียนเรา มีคดีใหญ่น้อยมากมายให้รอตรวจสอบ ตัดสินและหาหลักฐานทุกวี่วัน หากไม่มีเจ้ากรมอาญาคงดำเนินงานได้ยากพ่ะย่ะค่ะ”องค์ชายใหญ่ฉวยโอกาส เอ่ยปากทันที“อื่ม คังเอ๋อร์พูดถูกต้อง การปลดเจ้ากรมอาญาจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อกรมอาญาจริง ถ้าไม่มีคนคอยกำกับดูแลส่วนรวมจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก”ไท่ซั่งหวงพยักหน้าแสดงออกว่าเห็นด้วย กรมอาญาดูแลความยุติธรรมของทั่วราชอาณาจักร ตำแหน่งเจ้ากรมอาญาสำคัญอย่างยิ่งยวดชัดเจน หากทิ้งว่างเป็นเวลานานต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่“เสด็จปู่ หม่อมฉันคิดว่าเหอเทียนหมิงรองเจ้ากรมฝ่ายขวารับหน้าที่เป็นเจ้ากรมอาญาได้พ่ะย่ะค่ะ เขาทำงานอยู่ในกรมอาญามานาน เชี่ยวชาญกฎหมายต้าเฉียนทุกข้อ สามารถรับช่วงต่อจากหูหมิงชิงได
องค์ชายใหญ่ใบหน้าฉายอารมณ์กระหยิ่มยิ้มย่อง ในวาจาล้วนเป็นกลิ่นอายของการยั่วยุ ความรู้สึกถึงชัยชนะเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกสะใจอย่างยิ่ง ดีที่เชื่อฟังแผนการของพ่อตา มิเช่นนั้นคงได้ขายหน้าจริง ๆ แล้วเขาต้องยอมรับฝีมือของฉินอวิ๋นฟาน ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา การร่วมมือกับฉินอวิ๋นฟานคือการเลือกอันชาญฉลาด“บัดซบ!!!”เวลานี้องค์ชายรองจนปัญญาอย่างหนัก กระทั่งรู้สึกโดดเดี่ยวไร้ความช่วยเหลือ หูหมิงชิงลงจากตำแหน่งกะทันหัน โจมตีเขาไม่ทันตั้งตัว เรื่องนี้เสียฮูหยินแล้วยังต้องเสียรี้พล[1]โดยแท้“ฟานเอ๋อร์ เจ้าคือผู้เคราะห์ร้ายคนสำคัญของเรื่องนี้ และเป็นผู้สร้างผลงานใหญ่ในการบรรเทาภัยพิบัติ เจ้ามีความเห็นอย่างไรกับตำแหน่งเจ้ากรมอาญา?”ไท่ซั่งหวงมองฉินอวิ๋นฟานอย่างนึกสนุก ฉินอวิ๋นฟานจับมือกับองค์ชายใหญ่จะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนแน่ หรือจะเป็นตำแหน่งเจ้ากรมอาญา?หากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นฉินอวิ๋นฟานก็มีฝีมือร้ายกาจน่ากลัวยิ่งแล้ว สถานการณ์ทั้งราชสำนักอยู่ในการควบคุมของเขาตั้งแต่ทีแรก“ทูลเสด็จปู่ หม่อมฉันไม่ค่อยรู้เรื่องกรมอาญาสักเท่าไร และไม่อาจเลือกคนที่เหมาะสมได้จริง ๆ แต่ยามนี้ต้าเฉียนเรากำลังอยู่
“พวกเจ้าสองคนต่างเป็นยอดองค์ชายของต้าเฉียน คนหนึ่งเคยเป็นขุนศึกประจำอยู่ที่เมืองจัว อีกคนคือผู้รับผิดชอบการบูรณะเมืองจัวหลังเกิดภัยพิบัติ แม้เมืองจัวจะเป็นเมืองชายแดนที่สำคัญ แต่ในเมื่อมีพวกเจ้าอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องให้ตาแก่อย่างข้าห่วงแล้ว”หลังจากไท่ซั่งหวงพิจารณาครู่หนึ่งจึงตัดสินใจมอบอำนาจ เขาได้กลิ่นผิดปกติสายหนึ่ง นี่น่าจะเป็นแผนการที่ฉินอวิ๋นฟานวางไว้แต่แรก หากเขาแทรกแซงมากเกินไป เกรงจะทำให้องค์ชายองค์อื่นระแวง กระทั่งเป็นผลเสียต่อฉินอวิ๋นฟานกอปรกับคำสัญญาที่ฉินอวิ๋นฟานให้ไว้เมื่อก่อนหน้านี้ เขากลับอยากดูสิว่าถ้ามอบกรรมสิทธิ์เมืองจัวให้เขา เขาจะสร้างปาฏิหาริย์อะไรได้“สำหรับจะจัดการเมืองจัวอย่างไร ฟานเอ๋อร์ตัดสินใจเองก็แล้วกัน แต่ข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง นั่นคือต้องพิทักษ์ชายแดนต้าเฉียนให้ดีและให้ประชาชนมีชีวิตบริบูรณ์”“ขอบพระทัยเสด็จปู่ หม่อมฉันต้องทำอย่างสุดความสามารถแน่พ่ะย่ะค่ะ!” ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยอย่างจริงจัง“เอาละ จบการประชุมเถอะ!” ไท่ซั่งหวงโบกมือ จากนั้นก็ค่อย ๆ ออกไปด้วยการประคองของนางกำนัลสองคนเมื่อจบเรื่องวุ่นวาย ไท่ซั่งหวงไม่มีกะจิดกะใจสะสางราชกิจเหล่านี้ ขอเพียงไม่
“วันที่สามแล้ว ยังไม่เห็นเงารัชทายาทเลย พวกเราตาบอดกันจริง ๆ กลับเชื่อมันได้ จนตายก็ไม่ได้รู้ความจริง!”จางเฟยค่อนข้างแข็งแรง ภายใต้ทัณฑ์ทรมานอย่างหนัก สภาพเขาดีที่สุดในบรรดาหกคน เขามีนิสัยตรงไปตรงมา หุนหันพลันแล่น บัดนี้ทุ่มสุดตัวเพื่อฉินอวิ๋นฟานจนต้องตกอยู่ในสภาพถูกประหาร เขาอัดอั้นตันใจยิ่งนัก“เฮ้อ! พี่ใหญ่เถรตรงเกินไป คงโดนรัชทายาทหลอกแล้วละ พวกคนในราชวงศ์มันเชื่อถือไม่ได้ ถ้ามีประโยชน์กับพวกเขายังดี แต่พอเกิดปัญหาก็ไม่สนใจความเป็นความตายของพวกเราพี่น้อง!”กวนอวี่ก็ถอนหายใจจนปัญญาอยู่ข้าง ๆ เหมือนกัน“เฮอะ มันจะเรื่องใหญ่เพียงใด ก็แค่ตัดหัวมิใช่รึ? อีกสิบแปดปียังเป็นลูกผู้ชาย! [1] ตอนนี้มาโทษรัชทายาท ก่อนหน้านี้เจ้ามัวทำอะไร?!”ลิ่งหูเสี่ยวชักจะทนดูไม่ได้จึงเริ่มเอ่ยปากแย้ง ตลอดหลายปีมานี้ ฉินอวิ๋นฟานคือป๋อเล่อเพียงหนึ่งเดียวของเขา ฉินอวิ๋นฟานเสนอแนะและมอบวิธีการด้านการสร้างนาขั้นบันไดกับเขามากมาย ทั้งสนับสนุนการก่อสร้างของเขาอย่างไร้เงื่อนไขได้พบนายผู้ปรีชาสามารถเช่นนี้ เขาตายก็ไม่เสียดาย อย่างน้อยการสร้างชลประทานบนเนินเขาและนาขั้นบันไดก็ได้รับการยืนยันแล้ว“เจ้านี่พูดจาย
“อยู่เป็นคนต้องโดดเด่น ตายต้องเป็นวีรบุรุษในหมู่ผีดี!”ในตอนที่ทั้งหกกำลังพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในวาระสุดท้ายของชีวิต ฉินอวิ๋นฟานปรากฏตัวขึ้นทันใด เดินไปหาทุกคนช้า ๆ จังหวะที่เห็นฉินอวิ๋นฟาน พวกเขาก็ตะลึงงัน“รัช รัชทายาท!”ทีแรกหลิวเป้ยนึกว่าฉินอวิ๋นฟานจะทิ้งพวกเขาแล้ว จึงไม่คาดหวังใด ๆ คิดไม่ถึงว่าในช่วงความเป็นความตาย ฉินอวิ๋นฟานกลับปรากฏตัวที่ลานประหารทันกาล“จะถูกตัดหัวอยู่แล้ว พวกเจ้ากลัวหรือไม่?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยปากถาม“ความตายมีอะไรน่ากลัว? ก็แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น”หลิวเป้ยส่ายหน้าพูด“พวกเรากลับไม่กลัวตาย เราแค่กลัวติดตามคนผิด สุดท้ายจนตายก็ยังไม่รู้ว่าตายเพราะอะไร!”จางเฟยเปล่งเสียงพูด“พวกเราสามคนพี่น้องเห็นคุณธรรมเป็นที่ตั้ง ไม่เคยเกรงกลัวอะไรทั้งนั้น ขอเพียงรัชทายาทไม่ผิดต่อมโนธรรม พวกเราก็ถือว่าตายอย่างคุ้มค่าแล้ว!”กวนอวี่เอ่ย“ได้เจอรัชทายาทก่อนตาย ชาตินี้ไม่เสียใจ!”หานซิ่นและลิ่งหูเสี่ยวเอ่ยขึ้นพร้อมกันมีแต่มู่หรงโหลวที่เงียบ เส้นประสาทตึงเครียด จ้องฉินอวิ๋นฟานด้วยสายตาเหม่อลอย“ใครก็ได้ ปล่อยตัวพวกเขา!”ฉินอวิ๋นฟานสั่งออกไป องครักษ์สองสามคนรีบวิ่งไปถึงต
ในฐานะที่เป็นราชวงศ์ผู้อยู่เหนือสุดคนหนึ่ง ไท่ซั่งหวงย่อมมีสายตาการมองคนที่ต่างจากปุถุชนทั่วไป พวกเขาเอาตัวออกจากอำนาจไม่ได้ กลับเจ็บแค้นอำนาจนัก การแสดงออกของฉินอวิ๋นฮุยอาจสามารถเป็นจักรพรรดิคนหนึ่งได้ หากเป็นตัวตนผู้อำมหิตไร้หลักความเป็นมนุษย์“พ่ะย่ะค่ะ นับจากรัชทายาทแจ้งเกิด องค์ชายรองรีบร้อนไปบ้างจริง ๆ เขาอยากข่มรัชทายาทให้ได้เร็วที่สุด ให้เห็นว่าเขามีความสามารถ ทว่าผลลัพธ์กลับต้องปราชัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาเริ่มตื่นตระหนกลนลาน”เฉาเจิ้งฉุนกล่าวเสริมอยู่ด้านข้าง“ทุกครั้งฟานเอ๋อร์มักทำให้ข้าสะดุดตา เป็นพันธุ์ไม้ที่หาได้ยาก สามารถมองใต้หล้าด้วยมุมมองของจักรพรรดิ เสียดายที่ไร้สมัครพรรคพวก คิดจะเฉิดฉายท่ามกลางความสัมพันธ์ของตระกูลใหญ่ซึ่งฝังรากหยั่งลึกในต้าเฉียนมันยากมากจริง ๆ”ไท่ซั่งหวงส่ายหน้าพลางเอ่ย“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองต่างมีตระกูลใหญ่สนับสนุน หลังจากครองตำแหน่งจะสามารถกุมราชสำนักได้เร็ว ส่วนราชทายาท แม้จะได้ขึ้นครองราชย์ แต่เกรงว่าไม่นานต้องร่วงลงมาอีก นอกเสียจากเขาจะมีความสามารถเหนือฟ้า”เฉาเจิ้งฉุนติดตามจักรพรรดิสองรุ่นสี่สิบกว่าปี รอบรู้สถานการณ์ของต้
“เจ้า เจ้าจะเอาจริงหรือ?”เหอเหวินเย่าพูดแบบไม่อยากจะเชื่อ“ท่านเห็นข้าเหมือนพูดล้อเล่นหรือ?”องค์ชายรองกล่าวด้วยใบหน้าชั่วร้าย “น้าสาม บอกอู๋อีฝาน ให้เขากำจัดฉินอวิ๋นฟานให้ข้า!”“อวิ๋นฮุย เจ้าใจเย็นก่อน เจ้าน่าจะรู้ดีว่าอู๋อีฝานเป็นใคร เขาเป็นคนในยุทธภพ ถ้าให้อู๋อีฝานลงมือกับองค์ชายต้าเฉียนจะเท่ากับทำลายสัญญาระหว่างราชวงศ์กับยุทธภพ จะเกิดเรื่องใหญ่เอานะ!” เหอเหวินเย่าสีหน้าปั้นยากกว่าปกติ ใช่ว่าจะใช้ขั้วอิทธิพลของยุทธภพไม่ได้ แต่จะใช้ง่าย ๆ ไม่ได้ และจะใช้อย่างโจ่งแจ้งก็ไม่ได้ด้วย การสังหารองค์ชายยิ่งเป็นข้อห้ามร้ายแรง และไม่ต้องพูดถึงว่าฉินอวิ๋นฟานมีสถานะพิเศษเป็นรัชทายาทอีก “แล้วยังไง? ต่อให้ข้าฆ่าฉินอวิ๋นฟานแล้วพวกเขาจะทำอะไรข้าได้? ยังจะแก้แค้นกับข้าหรือ? อีกอย่าง อู๋อีฝานเป็นสุดยอดนักฆ่าที่ข้าฝึกฝนอย่างลับ ๆ เชี่ยวชาญการหลบซ่อนที่สุด ไม่มีใครรู้ข้อมูลตัวตนของเขาหรอก มันจะเกิดเรื่องง่ายขนาดนั้นที่ไหน”ฉินอวิ๋นฮุยยิ้มร้ายพลางพูด“องค์ชายรอง ท่านจะไม่ไตร่ตรองอีกสักหน่อยจริง ๆ หรือ?”ลิ่งหูชงขมวดคิ้วแน่น สุดท้ายยังเตือนอีกคำ อย่างไรเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงส่วนรวม และตอนนี้ยัง