แชร์

บทที่ 8

คำพูดของหลี่เฉิน ทำให้หลี่เสวียนหน้าซีด

เขารีบตอบไปตามจิตใต้สำนึกว่า “ข้า ข้าไม่ได้กบฏ เสด็จแม่และท่านอาจารย์ตกลงจะให้ข้าดูพวกนั้น พวกเขาบอกว่าข้าควรเรียนรู้กิจการของรัฐล่วงหน้า...”

ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ เว่ยเสียนที่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆ ก็แทบกระอักเลือดออกมา

องค์ชายเก้าเหตุใดจึงไร้ความคิดเช่นนี้ คำพูดเช่นนั้นกล่าวออกมาง่ายๆ ได้อย่างไร

“เรียนรู้กิจการของรัฐล่วงหน้า?”

หลี่เฉินจับจุดอ่อนของหลี่เสวียนได้ น้ำเสียงของเขาสูงขึ้นสองส่วน “เรียนรู้กิจการของรัฐล่วงหน้าเพื่ออะไร? หรือว่าเจ้าอยากให้เสด็จทรงสวรรคต จากนั้นก็เอาตำแหน่งของข้าไป?”

ในที่สุดหลี่เสวียนก็รู้ตัวว่าเพิ่งพูดอะไรออกไป

เขาหน้าซีด คุกเข่าลงเสียงดังตุบ รีบอธิบายด้วยความตื่นกลัวว่า “พี่รอง ข้า ข้าไม่ได้มีความหมายเช่นนั้น...”

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น สาวใช้ส่วนตัวของหลี่เสวียนจึงถอยหลังออกไปอย่างเงียบๆ และวิ่งตรงไปที่วังฮองเฮา

“จะมีความหมายเช่นนั้นหรือไม่ ข้าจะมาคิดบัญชีกับเจ้าทีหลัง”

หลี่เฉินพูดจบ เขาก็หันไปสั่งขันทีซานเป่าว่า “หูหนวกเหรอ? หรือจะให้ข้าลงมือเอง?”

ขันทีซานเป่าได้ยินก็รีบลุกขึ้นยืน สั่งองครักษ์เสื้อแพรสองนายให้ลากเว่ยเสียนออกไป

บาดแผลบนใบหน้าของเว่ยเสียนยังคงอยู่ และเลือดก็ยังไหลไม่หยุดเมื่อเขาถูกลากออกไป ก็ทิ้งรอยเลือดเป็นทางยาวไว้ใต้ร่างของเขา มีเพียงเสียงกรีดร้อง “องค์รัชทายาท ไว้ชีวิตกระหม่อมด้วย ข้าเพียงแต่ทำตามคำสั่ง ไว้ชีวิตกระหม่อมด้วย!”

เสียงของเว่ยเสียนค่อยๆ ห่างออกไป สุดท้ายก็ไม่เห็นตัวคน

หลี่เฉินเดินเข้าไปในห้องโถงสำนักขันทีฝ่ายตรวจฎีกาด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ออก

ตอนนี้ กลุ่มขันทีของสำนักขันทีฝ่ายตรวจฎีกากำลังนั่งคุกเข่าบนพื้นและตัวสั่น

พวกเขาเห็นด้วยตาตนเองว่า เว่ยเสียนผู้หยิ่งผยองในสำนักขันทีฝ่ายตรวจฎีกานั้น ถูกคำพูดของหลี่เฉินไม่กี่คำก็โดนลากไปตัดหัว เวลานี้พวกเขายิ่งตกใจและหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น และไม่กล้ามองไปที่หลี่เฉิน

“ซานเป่า”

หลี่เฉินเรียกเบาๆ

ขันทีซานเป่ารีบคุกเข่าข้างหลี่เฉิน รอฟังคำสั่งลงมา

“ในสำนักขันทีฝ่ายตรวจฎีกา มีใครบ้างที่ไม่ได้เป็นพันธมิตรของเว่ยเสียน และสามารถดำรงตำแหน่งแทนเว่ยเสียนได้?”

ประโยคนี้ ซานเป่าสูดหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “ทูลองค์รัชทายาท เรื่องนี้ใหญ่เกินไป บ่าวไม่กล้าอวดดี”

“ไม่ใช่ว่าเจ้าวางแผนยืมมือข้าเพื่อกำจัดเว่ยเสียนหรอกหรือ? ในเมื่อข้าสังหารขันทีคนนั้นไปแล้ว ใยถึงไม่ฉวยโอกาสรับตำแหน่งเล่า?” หลี่เฉินกล่าวอย่างใจเย็น

ประโยคนี้ ทำให้ซานเป่ารู้สึกหนาวจากภายในสู่แขนขา

เขาหมอบลงกับพื้นในทันที หน้าผากของเขาแตะพื้น ชื่อเสียงอันโหดเหี้ยม ในฐานะกวางกงของหน่วยงานบูรพาซึ่งแพร่กระจายในหมู่ขุนนางบุ๋นบู๊ และทำให้ทุกคนต่างหวาดกลัวและเกลียดชัง เวลานี้ เขาตกต่ำราวกับหมาแก่

“องค์รัชทายาท บ่าวมิกล้า...”

“เอาล่ะ ข้าคร้านจะคุยกับเจ้า จำไว้ว่า ข้าชอบแค่สุนัขที่ซื่อสัตย์และมีประโยชน์เท่านั้น ไม่เช่นนั้น ชะตากรรมของเว่ยเสียนอาจจะตกเป็นของเจ้า”

“เหตุผลที่ขุนนางบุ๋นบู๊กลัวเจ้า นั่นก็เพราะฮ่องเต้มอบอำนาจให้เจ้า เจ้าเป็นขันทีและจะเป็นขันทีตลอดไป อำนาจของเจ้ามาจากราชวงศ์ ฮ่องเต้ได้มอบอำนาจการปกครองประเทศให้แก่ข้า เช่นนั้นข้าก็มีอำนาจกุมชะตากรรมของเจ้าไว้ ดูแลตัวเองให้ดี”

“ส่งรายชื่อบุคคลที่ยังว่างและเหมาะแก่การเป็นขันทีผู้ถือพู่กันฝ่ายตรวจฎีกามา ข้าจะเลือกคนใหม่ ส่วนพันธมิตรของเว่ยเสียน ก็ให้ไปเหมือนเว่ยเสียนก็แล้วกัน”

หลี่เฉินพูดเสร็จ เขาก็เพิกเฉยต่อเสียงอ้อนวอนและเสียงร้องขอความเมตตาที่ก้องกังวานตรงหน้าประตูสำนักขันทีฝ่ายตรวจฎีกา จากนั้นก็หันไปมองหลี่เสวียนที่ยืนตัวสั่นที่หน้าประตู

“เจ้าเข้ามา”

เมื่อหลี่เสวียนได้ยินหลี่เฉินเรียก เขาก็ก้าวมาตรงหน้าหลี่เฉินอย่างระมัดระวัง

ก่อนที่เขาจะได้พูด หลี่เฉินก็ยกมือตบหน้าหลี่เสวียน

เพี๊ยะ

เสียงตบดังชัดเจนมาก ทำให้ใบหน้าขาวซีดของหลี่เสวียนพลันแดงก่ำขึ้นมา และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก

การตบครั้งนี้ ยังระงับเสียงร้องและขอความเมตตาจากพวกขันทีอีกด้วย

หลี่เสวียนถูกตบจนเซ่อ

เขาคิดไม่ถึงว่าหลี่เฉินจะกล้าลงมือกับเขา

“เจ้าและข้าเป็นพี่น้องต่างมารดา ข้าไม่ต้องการฆ่าคนในสายเลือดเดียวกัน แต่มีบางสิ่งที่ไม่ควรเป็นของเจ้า ดังนั้นอย่าแตะต้องมัน และข้าสัญญาว่าชีวิตครึ่งหลังของเจ้าจะมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าเจ้ามีใจคิดเป็นอย่างอื่น ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างอนาถ”

ครอบครัวราชวงศ์เป็นครอบครัวที่โหดเหี้ยมที่สุดตั้งแต่สมัยโบราณ

ต่อหน้าราชบัลลังก์ ไม่ต้องพูดถึงพี่น้องต่างมารดาเลย แม้แต่พ่อลูกทางสายเลือดก็ยังหันมาทะเลาะกันเองด้วยซ้ำ

หลี่เฉินทะลุมิติมา เขารู้ดีว่า ตัวเองทำได้เพียงปีนขึ้นไปบนเก้าอี้มังกรเท่านั้น และไม่มีใครจะหยุดเขาได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องตาย

ไม่ว่าจะเป็นเพื่ออำนาจสูงสุดในใต้หล้า หรือเพื่อชีวิตน้อยๆ ของเขาเอง หลี่เฉินก็ตัดสินใจว่าใครก็ตามที่กล้าจะโลภในราชบัลลังก์ จะถูกฆ่าอย่างแน่นอน

หลี่เสวียนตัวสั่นเทิ้ม

ความเจ็บปวดบนใบหน้ายังรู้สึก แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การจ้องมองที่เย็นชาของหลี่เฉินที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวถึงกระดูก

ในขณะเดียวกัน ความอัปยศและความโกรธในกระดูก ก็ทำให้หลี่เสวียนตาแดงก่ำขึ้นมา

หลี่เฉินแสดงสีหน้าเย็นชา เขายังหวังว่าหลี่เสวียนจะพุ่งเข้ามาโจมตีเขาตอนนี้ บวกกับหลี่เสวียนได้อ่านสาส์นกราบทูลข้อราชการ แค่นั้นก็ทำให้หลี่เสวียนโดนโทษประหารแล้ว ถึงตอนนั้น แม้แต่ฮองเฮากับจ้าวเสวียนจีก็ไม่สามารถปกป้องเขาได้

ตอนนี้เอง สาวใช้ในวังคนหนึ่งและกลุ่มองค์รักษ์ก็รีบเดินเข้ามา

“คารวะองค์รัชทายาท คารวะองค์ชายเก้า บ่าวชื่อหลี่ชุ่ยเออร์เป็นนางกำนัลคนสนิทของฮองเฮา ฮองเฮาทรงมีรับสั่งเชิญองค์รัชทายาทและองค์ชายเก้าไปเข้าเฝ้าที่พระราชวังหงส์สราญ”

เมื่อพระราชดำรัสของฮองเฮามาถึง แผนการของหลี่เฉินก็ล้มเหลว

ในขณะนั้นหลี่เสวียนก็ค่อยๆ ได้สติกลับมาบ้างแล้ว

“ลูกรับพระบัญชา” หลี่เสวียนรีบตอบรับ

หลี่เฉินพูดเสียงเรียบว่า “นำทางไป”

เมื่อมองแผ่นหลังของหลี่เฉินที่เดินจากไป ขันทีซานเป่าก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น และหายใจลึกๆ ด้วยความโล่งอก

เขาเป็นกวางกงแห่งหน่วยงานบูรพา ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร เหล่าขุนนางบู๊บุ๋นล้วนกลัวจนตัวสั่น

นอกจากจ้าวเสวียนจีกับลูกน้องข้างกายพวกนั้น ที่เขากวางกงไม่อาจลงมือได้ ส่วนคนอื่นๆ ไม่มีใครที่ไม่กลัวเขา

แต่ซานเป่ารู้ดีว่า องค์รัชทายาทหลี่เฉินพูดถูก อำนาจของเขามาจากราชวงศ์ หากราชวงศ์พ่ายแพ้ พวกขุนนางบู๊บุ๋นเหล่านั้นก็จะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ ในทันที โดยที่ราชวงศ์ไม่ต้องทำอะไรเลย

เพราะเหตุนี้เขาจึงสามารถพึ่งพาอำนาจของฮ่องเต้ได้เท่านั้น

“องค์รัชทายาท...น่ากลัวจริงๆ”

ขันทีซานเป่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพึมพำออกมาว่า “ดูเหมือนทุกคนจะประเมินวิธีการขององค์รัชทายาทต่ำไป… เขามีความเด็ดขาดในการฆ่า แต่การลงมือทุกครั้งล้วนสมเหตุสมผล เกรงว่าคงไม่มีใครพูดว่าเขาไร้ค่าได้อีก... ”

“กวางกง”

องครักษ์เสื้อแพรนายหนึ่งเดินเข้ามาหาซานเป่า เขาเหลือบมองไปยังขันทีในสำนักขันทีฝ่ายตรวจฎีกาที่กำลังร่ำไห้เหล่านั้น แล้วกระซิบถามว่า “คนพวกนี้...”

“ไม่ได้ยินที่องค์รัชทายาทรับสั่งหรือ? ยกเว้นชื่อที่ข้าเอ่ยถึง ที่เหลือฆ่าให้หมด”

ซานเป่ามองขันทีเหล่านั้นอย่างเย็นชา และพูดอย่างไม่แยแส

ภายในพระราชวังหงส์สราญ

ในห้องโถงบรรทม

จ้าวชิงหลานสวมมงกุฎหงส์ และเสื้อคลุมฮองเฮานั่งอยู่ในห้องโถง รัศมีสูงส่งยิ่งใหญ่ของมารดาแผ่นดินแผ่ออกมาจากตัวนาง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสถานะอันสูงส่ง หรือเพราะนางเป็นสตรีที่สูงศักดิ์ที่สุดในใต้หล้า แต่กล่าวโดยสรุปว่า จ้าวชิงหลานซึ่งสวมเสื้อคลุมฮองเฮานั้น เพียงแค่นั่งอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางสูงส่ง ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเกรงขามอยู่ในใจ และไม่อาจดูหมิ่นได้

ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวก็คือหลี่เฉิน

“อวดดีเกินไปแล้ว!”

จ้าวชิงหลานตบพนักพิงและกล่าวด้วยความโมโหว่า “พวกเจ้าสองคน คนหนึ่งคือองค์รัชทายาท ส่วนอีกคนคือองค์ชายเก้า ล้วนแต่เป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งนั้น เป็นพี่น้องต่างมารดา มีอะไรก็พูดคุยกันดีๆ จะลงไม้ลงมือทำไม?”

จ้าวชิงหลานเอนเอียงไปทางองค์ชายเก้ามากกว่า นางชี้ไปที่แก้มที่บวมแดงของหลี่เสวียน แล้วถามหลี่เฉินว่า “องค์รัชทายาท เจ้าตีองค์ชายเก้าจนเป็นเช่นนี้ มันเป็นความผิดของเจ้า!”

ราวกับไม่เห็นว่าฮองเฮาโกรธมากเพียงใด หลี่เฉินตอบเสียงเรียบว่า “ที่ข้าไม่ฆ่าเขาก็เพราะเห็นแก่หน้าเสด็จพ่อ”

ประโยคนี้ ทำเอาจ้าวชิงหลานตาค้าง

นางพูดด้วยความโกรธ “เจ้าว่าอะไรนะ!?”

“ฮองเฮาฟังไม่เข้าใจหรือ?”

หลี่เฉินเหลือบมองหลี่ซวนที่ปิดหน้าตัวเองอย่างอับอายแล้วพูดว่า “ข้าไม่ฆ่าเขา เพราะเห็นแก่หน้าเสด็จพ่อ”

จ้าวชิงหลานโกรธมากจนหายใจแรง และพูดว่า “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นองค์รัชทายาท แล้วข้าจะสั่งสอนเจ้าไม่ได้หรือ ข้ายังเป็นฮองเฮาอยู่นะ!”

“ใช่แล้ว ท่านเป็นฮองเฮา เป็นมารดาแผ่นดิน แต่วังหลังห้ามเข้าไปยุ่งกับกิจการของรัฐ ข้าไม่เพียงแต่เป็นองค์รัชทายาท แต่ยังได้รับการแต่งตั้งจากเสด็จพ่อให้เป็นผู้ดูแลประเทศ องค์ชายเก้าอ่านสาส์นกราบทูลข้อราชการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเสด็จพ่อ ฮองเฮาไม่รู้หรือว่านี่เป็นโทษที่ร้ายแรงเพียงใด? แม้ข้าจะสังหารเขา แล้วใครจะกล้าว่าข้า?”

จ้าวชิงหลานกัดฟันแน่น นางแทบรอไม่ไหวที่จะปลดหลี่เฉินลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาท แต่นางก็รู้ว่า นางไม่มีอำนาจนั้น

ยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งโกรธเคืองมากขึ้นเท่านั้น นางหายใจเข้าลึกๆ แทบจะระงับความโกรธในใจไว้ไม่ได้เลย จากนั้นก็หันไปหาหลี่เสวียนแล้วพูดว่า “เจ้าไปที่ห้องโถงข้างๆ ก่อน แล้วทบทวนบทเรียนของวันนี้ ข้ามีเรื่องจะพูดคุยกับองค์รัชทายาท”

หลี่เสวียนเหลือบมองหลี่เฉินอย่างหวาดกลัว จากนั้นก็คุกเข่าคารวะตามธรรมเนียม แล้วถอยออกไป

รอจนหลี่เสวียนเดินออกไปแล้ว จ้าวชิงหลานจึงหันมาพูดกับหลี่เฉินว่า “เสด็จพ่อของเจ้าหมดสติ และไม่สามารถจัดการกิจการของรัฐได้อีกต่อไป ข้าจึงขอให้องค์ชายเก้าอ่านสาส์นกราบทูลข้อราชการบางส่วน เพราะต้องการให้เขาแบ่งเบาภาระงานราชการบางส่วนของเจ้ากับเสด็จพ่อ”

“อืม ข้าเชื่อ”

ทัศนคติของหลี่เฉิน กระตุ้นความโกรธของจ้าวชิงหลานอีกครั้ง

แต่ก่อนที่นางจะพูดต่อ หลี่เฉินก็โบกมือ และพูดกับสาวใช้ที่อยู่รอบตัวว่า “พวกเจ้าถอยไปซะ ข้ามีเรื่องจะคุยกับฮองเฮาตามลำพัง”

สาวใช้ในวังหงส์สราญล้วนเป็นคนสนิทของจ้าวชิงหลาน พวกนางทั้งหมดมองไปที่จ้าวชิงหลานโดยไม่พูดอะไร

จ้าวชิงหลานขมวดคิ้ว ร้องหึออกมาเบาๆ คิดว่าหลี่เฉินคงไม่กล้าทำอะไรเป็นแน่ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของหลี่เสวียนก็ไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ หากคนนอกได้ยินเข้า ไม่ว่าเจตนาดีหรือไม่ก็ยังดูแย่อยู่ดี ดังนั้นนางจึงโบกมือแล้วพูดว่า “ออกไป”

รอจนสาวใช้ออกไปทุกคนแล้ว เหลือเพียงจ้าวชิงหลานและหลี่เฉินในห้องโถงใหญ่ของวังหงส์สราญ จ้าวชิงหลานจึง กล่าวว่า “ว่ามา เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้า”

หลี่เฉินไม่พูด แต่เดินไปหาจ้าวชิงหลาน

จ้าวชิงหลานตกตะลึงเล็กน้อย รอจนหลี่เฉินเดินมาถึงตรงหน้า นางก็เพิ่งตระหนักได้ว่า คนผู้นี้กล้าหาญชาญชัยเพียงใด

“กล้าดี เจ้า..."

จ้าวชิงหลานต้องการจะใช้คำพูดหยุดหลี่เฉิน แต่หลี่เฉินมีหรือจะฟัง

นางพูดได้เพียงสามคำเท่านั้น หลี่เฉินก็นั่งอย่างสง่าผ่าเผยอยู่ข้างๆ จ้าวชิงหลาน แล้วยกมือขึ้นมาเพื่อคว้ามือที่เยือกเย็นและนุ่มนวลของจ้าวชิงหลาน

จ้าวชิงหลานตกตะลึง นางดึงมือของนางออกตามสัญชาตญาณ ราวกับถูกไฟฟ้าช็อต

แต่หลังจากออกแรงดึงจนสุดแรงแล้ว ก็ไม่อาจดึงออกมาได้

หลี่เฉินจับมือเล็กๆ ของจ้าวชิงหลาน จับปอยผมของจ้าวชิงหลานเข้ามาใกล้อย่างอุกอาจ จากนั้นก็พูดกระซิบว่า “ฮองเฮา อย่าโมโหอีกเลยนะ ไม่ว่าเจ้าจะงดงามเพียงใด แต่ถ้าโกรธทุกวันเช่นนี้ คงหลีกเลี่ยงริ้วรอยไม่ได้”

จ้าวชิงหลานทั้งโมโหทั้งอับอาย นางอยากจะตะคอกด่า แต่ก็กลัวว่าจะทำให้คนที่อยู่ห้องข้างๆ ตกใจ

“เจ้า รีบปล่อยมือของข้าซะ!” จ้าวชิงหลานพูดอย่างร้อนใจ

หลี่เฉินหัวเราะเบา ๆ และแทนที่จะถอยกลับไป เขากลับกอดเอวของจ้าวชิงหลานให้ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก เมื่อสัมผัสได้ถึงรูปร่างอันงดงามของฮองเฮา หลี่เฉินจึงพูดว่า “เจ้างดงามเพียงนี้ ข้าจะทำใจปล่อยได้เยี่ยงไร?”

จ้าวชิงหลานต้องการลุกหนี แต่กลับถูกหลี่เฉินกอดแน่นจนขยับตัวไม่ได้

“หลี่เสวียนอยู่ในห้องโถงด้านข้าง ส่วนนอกวังมีคนนับไม่ถ้วนรออยู่ เจ้าอยากให้ทุกคนเห็นฉากนี้ไหม” หลี่เฉินยิ้มน้อยๆ

ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
โต ธนสมบัติ
พระเอกจัดการแบบโหด
goodnovel comment avatar
ต.ตระกูล แก้ว
นุกดีพระเอกโหด
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status