บานประตูห้องนอนของมิกกี้เปิดออก เขาก้าวเท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า หยุดอยู่กลางห้องก่อนจะยกมือกุมหน้าตัวเอง ความเสียใจที่ถูกแฟนสาวบอกเลิกเหมือนจะหายไปภายในค่ำคืนเดียวและถูกแทนที่ด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่มีสติสัมปชัญญะ สมองมึนเบลอเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควร อยากเอาหัวโขลกพื้นหรือหายตัวกลับอเมริกาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อมีหน้าที่ใหญ่ต้องช่วยงานบริหารของน้องชายรออยู่ตรงหน้า มือหนาที่กุมใบหน้าร้อนผ่าวลูบขึ้นไปที่ศีรษะสางเส้นผมดำหนาแล้วกำแรงๆ เหมือนพยายามจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็เป็นไปแล้ว
เผลอมีอะไรกับแฟนน้องเพราะความเมามาย...
หงายตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกหวั่นกลัว กลัวว่าแม็กเวลล์จะรู้เรื่องนี้ กลัวว่าน้องจะเกลียดกันอีกครั้ง นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างกังวลครั้นตอนนี้ความมึนเมาเริ่มสร่างและสติเริ่มกลับมา
“ทำยังไงต่อวะมิก ถ้าแม็กรู้ขึ้นมา...”
เหมือนจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องเก็บเงียบงำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงคนเดียว ความกลัวและกังวลยังสุมอยู่ในหัวก็พลันส่ายใบหน้าไปมา อยากจะสลัดความคิดกังวลแล้วทำเป็นเพิกเฉยก็ทำไม่ได้ กระทั่งลุกหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ หวังจะให้น้ำเย็นๆ ช่วยตบสติให้กลับมาเป็นปกติ
มิกกี้ถอดกางเกงแล้วสลัดกองไว้กับพื้นหน้าประตู ยืนเปลือยใต้ฝักบัว ปล่อยให้น้ำเย็นๆ ไหลรดลงกายหนา หวังว่าจะช่วยคลายกังวลกับเหตุการณ์ที่ไม่ตั้งใจนั้นได้ น้ำเย็นๆ ที่ชโลมรดตั้งแต่ศีรษะ ไหลผ่านกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ จนมาถึงปลายเท้าก็เหมือนจะไม่ได้ผล หลับตาลงเพื่อหวังจะตั้งสติ ก็มีภาพเหตุการณ์อันร้อนเร้าฉายเข้ามาในโสตประสาทอย่างต่อเนื่อง
ภาพผู้หญิงตัวเล็กนอนเปลือยบนเตียง แฟนน้องชายยั่วเย้าอยู่ใต้อกและความรู้สึกการสัมผัสกายกันเริ่มชัดขึ้นทั้งที่ไม่อยากจำ พลันนั้นมิกกี้ก็รู้สึกวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง น้ำที่ว่าเย็นในตอนนี้กลับรู้สึกอุ่นขึ้นทันที ราวกับว่ามีคนเปิดระบบทำน้ำอุ่น ใบหน้าสวยหวานแต่เซ็กซี่ผุดขึ้น พร้อมเสียงครางและจังหวะร่างกายที่กระแทกกันเคล้าอยู่ในโสตประสาทอย่างน่าประหลาดใจ
ชายหนุ่มยกมือเข้าผนังหินอ่อนหนึ่งข้าง เลียริมฝีปากพลางลูบแก่นกายตัวเองจนกระทั่งมันแข็งขึ้นมา สมองที่กังวลไปต่างๆ นานาคราวนี้มีแต่ผู้หญิงชื่อกวางแล่นวน เสียงครางที่แว่วมาในหูไม่ต่างจากหลอกหลอน ทั้งที่จริงเขาต้องเสียใจกับการอกหักครั้งนี้ แต่เปล่าเลย เขากลับไม่รู้สึกแบบนั้น เขาอยากสัมผัสผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาอีกครั้งทั้งที่มันไม่ควร
ไม่ควรแม้แต่จะคิด...
“อ่า เป็นบ้าอะไร”
มิกกี้พูดออกมาอย่างหัวเสียเพราะไม่อยากให้รู้สึกแบบนั้น
ข้อมือสะบัดแล้วรูดท่อนลำ ในหัวก็มีแต่ภาพผู้หญิงคนนั้นฉายเข้ามา เขากำลังเป็นอะไร ทำไมต้องเป็นแบบนี้ แต่มันก็ไม่ได้คำตอบ ความเสียวซ่านเล่นงานขึ้นเรื่อยๆ มิกกี้รัวชักท่อนลำตัวเองในห้องน้ำ แล้วครางเสียงกระเส่า เร่งจังหวะแรงขึ้นจนในที่สุดก็พ่นน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะผนังห้องน้ำ
“อ๊า!!”
ร่างกายรู้สึกสดชื่นแบบเต็มร้อยหลังจากได้ปลดปล่อยและอาบน้ำ มิกกี้ก็เดินลงมาข้างล่างเพื่อจะหาอะไรกิน น้าแรมเตรียมมื้อเช้าไว้ตั้งแต่เจ็ดโมง ทว่าเขาเพิ่งลงมาตอนเก้าโมงครึ่ง บนโต๊ะมีเมนูไม่กี่อย่างและมีโน้ตจากน้าแรมแปะไว้
น้าออกไปซื้อของนะมิก เมื่อคืนน่าจะดื่มหนักกัน น้าเลยไม่อยากปลุก ตื่นแล้วก็กินข้าว ถ้าปวดหัวมียาอยู่ในตู้ข้างประตูห้องครัว
ยังไม่ทันจะตักข้าวใส่จาน ประตูบ้านก็เปิดและมีคนเดินเข้ามา แม็กเวลล์มาในสภาพแฮงก์หนัก ถอดรองเท้าได้ก็ทิ้งตัวลงบนโซฟากลางบ้าน ครั้นเห็นว่าเป็นน้อง มิกกี้ก็เดินเข้าไปดู
“มาแล้ว”
“ไม่ไหว ปวดหัวมากเลยพี่”
“แกดื่มแบบไม่พักเลย”
“เมื่อคืนกลับกับใครเหรอ”
คำถามนั้นทำมิกกี้อึกอัก กลืนน้ำลายลงคอก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับน้องชาย
“เรียกแท็กซี่ แกล่ะ อยู่ไหนทั้งคืน”
“นอนในคลับนั่นแหละ ดีที่เพื่อนมันลากไปหลังร้านและมันก็เพิ่งมาส่งด้วย”
อาการของแม็กเวลล์ดูท่าไม่รอด ปวดหัวถึงขั้นกุมขมับ อีกทั้งมีท่าทางเหมือนคนไม่สบาย ที่ผ่านมาพักผ่อนน้อยเพราะเอาเวลาไปทุ่มกับธุรกิจจนลืมดูแลสุขภาพแล้วยังมาดื่มหนักแบบไม่ดูกำลังตัวเอง
“อ่ะนี้ ยาแก้ปวด กินแล้วขึ้นไปนอนพัก ไม่ดีขึ้นไปหาหมอกัน”
“อืม”
แม็กเวลล์รับยาแล้วตามด้วยน้ำ แต่ไม่ได้เดินขึ้นไปห้องตัวเอง เขาล้มตัวลงโซฟา หลับตาแล้วยังนอนขดครั้นโซฟาสั้นกว่าขา ขณะที่มิกกี้ก็ไม่อยากกวน หาผ้าห่มมาให้น้องแล้วเดินกลับไปนั่งกินข้าวมื้อเช้าในช่วงสาย
แม็กเวลล์นอนตั้งแต่ช่วงสายจนตอนนี้ปาไปเกือบสองทุ่มก็ยังไม่ลุก อาหารมื้อเย็นถูกเตรียมและตั้งโต๊ะพร้อมกิน น้าแรมเดินมาปลุก ทว่าก็ต้องตกใจเมื่อหลานชายคนแฝดคนเล็กตัวร้อนราวกับโดนไฟอัง
“มิก...มิกกี้!!”
“ครับน้า”
“ตาแม็กตัวร้อนจี๋เลย”
ได้ยินเสียงน้าแรมร้องอย่างตื่นตระหนก มิกกี้ก็วางงานในมือที่กำลังดูให้น้องลง เดินมาด้วยความเร่งรีบแล้วแตะมือไปที่หน้าผากน้องด้วยความเป็นห่วง แม็กเวลล์ตัวร้อนมาก อุณหภูมิในร่างกายสูงและตัวก็ยังสั่น หากขืนปล่อยวันแบบนี้อาจมีอาการช็อกได้
“ต้องพาไปหาหมอ แม็กไข้สูงมาก”
“ไปเลยมิก พาน้องไปเลย”
พยายามปลุกน้องให้ลุกเดินก็ดูท่าไม่ไหว อุ้มกันขึ้นรถอย่างทุลักทุเลแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
เครื่องบินโบอิ้งลำใหญ่กำลังแลนดิ้งลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินจากอเมริกาไฟลท์ TG9397 เดินทางมาถึงในเวลาสามทุ่มเศษ แม็กเวลล์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปีเพิ่งเดินทางกลับหลังจากมีธุระต้องบินไปต่างประเทศด่วน เขาเป็นลูกชายคนเล็กของกมลเนตร แต่ทว่าในช่วงวัยเด็ก ครอบครัวมีปัญหาทำให้เขาและแม่ต้องแยกกันอยู่ มีช่วงหนึ่งคือขาดการติดต่อนับสิบปี แต่ก็ยังรู้ข่าวคราวบ้างจากคนรอบตัว เมื่อพ่อแม่เลิกกันลูกชายฝาแฝดเลยถูกแบ่งกันเลี้ยงดู คนโตคือมิกกี้ไปอยู่กับแม่ คนเล็กคือตัวเขาเองไปอยู่กับพ่อ แม้จะไม่รู้ปัญหาลึกๆ ของผู้ใหญ่แต่มันทำให้เขาโกรธแม่และพี่ชายมากทีเดียว ชีวิตที่มีแค่พ่อลำบากมากถึงขั้นหลั่งน้ำตา แต่ชีวิตแม่กับพี่ชายดันสุขสบายและมีครอบครัวใหม่อยู่ที่นั่นจนกระทั่งพ่อได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในตอนเขาอายุ 15 ปี เมื่อไม่มีญาติผู้ใหญ่คอยดูแล กมลเนตรหวังจะกลับมารับลูกไปอยู่ด้วยกัน ทว่าเขายังที่รู้สึกว่าแม่เห็นแก่ตัว หาความสุขสบายใส่ตัว เลยเลือกที่จะอยู่กับน้องสาวแม่ นั่นก็คือเดือนแรมหรือน้าแรมที่เขาเรียกติดปากมาจนทุกวันนี้แต่เมื่อเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน วันเวลาเปลี่ยน เขาเริ่มโตขึ้น ความโกรธที่เคยสุมอกใ
ห้องสวีทชั้นที่เก้าถูกเปิดหนึ่งคืนสำหรับคู่รักที่ห่างจากกันเป็นเดือน แม็กเวลล์แค่อยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับคนที่รัก อยากมีเวลาส่วนตัวแบบที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ด้านในโรแมนติกกว่าที่คิด มันถูกออกแบบเพื่อคู่รักโดยเฉพาะ เตียงนอนนิ่มสีขาวขนาดใหญ่ แบบกลิ้งสองคนก็ยังมีพื้นที่เหลือ ตกแต่งออกแนวเซ็กซี่เล็กน้อย ห้องน้ำเป็นกระจกสามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านในและด้านนอก ระเบียงกว้างมีโต๊ะขนาดเล็กให้พอได้นั่งจิบไวน์รับลมและมองวิวที่มีแม่น้ำไหลผ่านกวางวางกระเป๋าสะพายของตัวเองไปรับลมที่มุมระเบียง มองวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนก็สวยงามมากทีเดียว ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เธอหันมองแต่ก็ไม่ได้ใส่มากกว่าวิวแสงสีระยิบระยับด้านหน้า แม็กเวลล์ออเดอร์เครื่องดื่มขึ้นมา ครั้นอยากผ่อนคลายกับแฟนสาวหลังจากนั่งเครื่องบินเดินทางทั้งวัน“ไหนบอกอยากพัก”“ก็ถือว่าเป็นการผ่อนคลาย”ชายหนุ่มเทเครื่องดื่มสีแดงเข้มลงแก้วทรงสูง นั่งเก้าอี้โดยมีกวางขยับตัวมายืนด้านหลัง เพราะรู้ว่าแฟนหนุ่มคงเมื่อยตัว บีบมือลงที่ลาดไหล่หนาช่วยนวดให้ผ่อนคลาย ก็รู้สึกดีไม่น้อย เหมือนกล้ามเนื้อได้ยืดตัวก็พลันเคลิ้มขึ้นมา แม็กเวลล์เอื้อมมือหนาของตนเตะ
รุ่งเช้าหนึ่งคืนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผ่านไปเร็วมาก แม็กเวลล์แทบไม่อยากออกไปจากตรงนี้ก็ได้แต่งอแงหน้ามุ่ยเหมือนเด็กน้อย นอนทิ้งตัวไม่ยอมขยับสักที จนกวางต้องฉุดคะเย้อดึงคนตัวใหญ่ขึ้นมา“ลุกอาบน้ำแต่งตัวค่ะ”"อือ...กวาง""ลุกได้แล้ว"“ยังไม่หายคิดถึงเลย”ชายหนุ่มงัวเงียนั่งหลังโก่งบนเตียง สภาพล่อนจ้อนเพราะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงผ้าห่มที่ยังปิดส่วนล่าง ส่วนกวางก็สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำสีขาว รอเสื้อผ้าตัวเองที่ใช้บริการของทางโรงแรมให้แม่บ้านซักรีดแล้วนำมาคืน ส่วนแฟนหนุ่มไม่ต้องห่วงเพราะมีมาเต็มกระเป๋า“กวางต้องพาแม่ไปคุยงาน”“ทำไมต้องเอง”“คนขับรถป่วยแอดมิตที่โรงพยาบาล”“ขับรถเป็น แล้วเอาใหญ่เลย”ชายหนุ่มแอบว่ากวาง แฟนสาวเพิ่งขับรถเป็นก็ห่วงในความปลอดภัย“จะได้ไม่กวนพี่ไปรับไปส่งไง อีกอย่างธุรกิจของคุณแม่กำลังไปได้ดี มีนัดกับผู้ใหญ่หลายท่าน จะมาผิดคำพูดเพราะไม่มีคนขับรถให้เหรอ”กวางตอบแบบมีเหตุมีผล ทำแม็กเวลล์ที่อยากงอแงต่อก็ได้แค่หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองในเข่ง คว้าผ้าเช็ดตัวที่กวางวางไว้รอ พันรอบเอวแบบลวกๆ แล้วเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ห้องพั
ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา แม็กเวลล์ก็เริ่มเข้าสู่โหมดการทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัว อาคารที่ปล่อยเช่าสำหรับทำออฟฟิศเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ไอทีและมีอุปกรณ์สำนักงานอื่นทยอยตามมา“เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว”เสียงแหบของน้าแรมเอ่ยขึ้น วันนี้เธอติดรถมากับหลานชาย ครั้นอยากเห็นความคืบหน้าของบริษัท เอ็มไอที จำกัด ที่ลงทุนจดทะเบียนบริษัทตั้งยี่สิบล้าน และเมื่อมาถึงก็กับอ้าปากค้าง เบิกดวงตากว้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันใหญ่โตกว่าที่คิดไว้ซะอีก“ใกล้เสร็จแล้วครับน้าแรม ไม่น่าเกินอาทิตย์นี้”แม็กเวลล์เดินสำรวจออฟฟิศที่คืบหน้าไปมากกว่า 90% เหลือเพียงตกแต่งวางอุปกรณ์ส่วนอื่นเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นเดือน และหากนับเวลามันก็เหลือเพียงสิบกว่าวันเท่านั้น“แม่เขาเทให้หมดหน้าตักเลยนะแม็ก เห็นไหมว่าแม่เขาคิดถึงเราตลอดเวลา”“ครับน้าแรม”แม้กมลเนตรจะมีธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้ใหญ่โตหรือทำกำไรให้แบบล้นมือ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีขาดทุนบ้างบางไตรมาสตามพิษเศรษฐกิจที่กระทบกันทั่วโลก ผลประกอบที่ได้มาก็ต้องนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในธุรกิจและเหลือเข้ากระเป๋าเพียงเล็กน้อยแม็
3 วันต่อมาหลังจากที่มิกกี้มาถึงประเทศไทยก็พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพียงหนึ่งคืน จากนั้นก็เข้ามายังออฟฟิศของน้องชายเพื่อช่วยดูระบบงานต่างๆ ครั้นผู้เป็นแม่ไหว้วานให้เขามาดูช่วยน้องชายฝาแฝด ขณะที่แม็กเวลล์ก็ยุ่งไม่ต่าง วางระบบไอทีที่ทันสมัยเพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในทุกวันมิกกี้ที่กำลังวางแผนงานบริหารให้น้องชาย ก็ต้องละสายตาออกจากงานสำคัญนั้น เมื่อจอมือถือมีข้อความแจ้งเข้ามา“Let’ s break up” (เราเลิกกันเถอะ)เหมือนโดนไฟช็อตทั่วทั้งร่าง เมื่อมาเรียมแฟนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกา รุ่นน้องอายุอ่อนกว่าเขาเพียงสองปีส่งข้อความมาหาเพื่อขอตัดความสัมพันธ์อย่างเลือดเย็น แม้จะมีสัญญาณบอกเหตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรวดเร็วขนาด เพราะก่อนหน้าเขาและแฟนสาวมีเรื่องบาดหมางใจกันตามประสาคนคบกัน การใช้ชีวิตและทัศนคติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อประคับประคองความรักให้มันตลอดรอดฝั่ง และแทนที่เขาจะมีเวลาได้อยู่ปรับความเข้าใจกับมาเรียม ทว่าจำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยงานน้องเพราะแม่เร่งรัดและร้องขอ แต่กลับกลายเป็นการเว้นช่องว่างให้แฟนสาวได้ตีตัวออกห่าง
การประคองคนเมาที่ตัวสูงใหญ่ทุลักทุเลจนต้องเรียกพนักงานผู้ชายช่วยอีกแรง ในตอนนี้กวางกำลังเข้าใจผิดแบบมหันต์ว่าชายที่เมาแทบหมดสตินั้นเป็นแฟนของตัวเอง“วางพี่เขาตรงนี้เลย”กวางรีบเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับ เอนเบาะลงเล็กน้อยให้ชายหนุ่มได้นอนหลับไปในรถ พนักงานประคองมิกกี้เข้าไปแล้วช่วยรัดเข็มขัดคนเมาในท่ากึ่งนอนเพื่อให้อยู่ในความปลอดภัย“เรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบใจนะ นี่ติป”เธอควักเงินในกระเป๋าส่งเป็นน้ำใจที่ช่วยกันแบกคนไร้สตินี้มา ก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเข้าไปดูอาการชายหนุ่มที่นอนรอในรถ ส่วนพนักงานของคลับก็ยืนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สายตาส่องมองหาชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกัน“อีกคนไปไหน หรือกลับไปแล้ว”เพราะเขาเห็นว่าคนที่เมาอยู่ตอนนี้มากับผู้ชายที่เหมือนกันเพราะเป็นแฝด แต่เมื่อมองหาแล้วไม่เห็นก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ รีบเดินกลับเข้าไปในคลับทำหน้าที่ของตัวเองต่อกวางสตาร์จเครื่องยนต์เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท เสดวงตามองชายหนุ่มที่คิดว่าคือคนรักของตัวเอง สองสามวันมานี่เธอและแม็กเวลล์คุยกันน้อยลงเพราะต่างคนต่างยุ่ง โดยเฉพาะแฟนหนุ่มที่ทุ่มเวลาให้กับกิจการส่วนตัว มีเพียงส่งข้อความถามไถ่และบอกรักกันทิ้งไว้
ร่างขาวสะดุ้งทุกครั้งที่ข้อนิ้วตำเข้ามาแรง กัดปากตัวเองแน่นแล้วบิดเร้าเรือนร่างยามที่คนด้านบนกระแทกนิ้วเข้าใส่รัวจนเกิดเสียงแจ๊ะๆ มิกกี้มองช่องทางสวยฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่น มองหน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบเต่งตึงอย่างพึงพอใจ แม้ตอนนี้ความเมามายที่มีจะเริ่มส่างขึ้น แต่อารมณ์ความต้องการกลับเข้ามาแทนที่จนไม่อาจหยุดได้“เลียไหม”เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชิดริมหู อีกฝ่ายที่นอนเสียวซ่านกัดปากแล้วครางอื้อออกมาเป็นคำตอบ ก่อนที่ศีรษะของมิกกี้จะมุดลงไปกลางหว่างขาชายหนุ่มมุดหน้าลงไป แม้ดวงตาพร่าเบลอจากความเมาก็พอมองเห็นรางๆ ว่าส่วนนั้นสวยงามแค่ไหน รอยแยกที่ปริออกแล้วมีเม็ดสีชมพูคล้ำโผล่ขึ้นมาจากการใช้งานและเสียดสีมาหลายปีประจักษ์ต่อดวงตาของชายแฝดคนพี่ พลันยั่วยวนจนอดไม่ได้ที่อยากใช้ปากสัมผัสมัน กวางตัวแอ่นเร่ามองศีรษะทุยที่กำลังซุกลงพร้อมกับการจูบเบาๆ ไปก่อนหนึ่งที เพียงแค่ลมหายใจร้อนจากปลายจมูกของชายหนุ่มปะทะเข้าเนื้อผิวกลีบกุหลาบบางก็ทำร่างขาวเสียวสะดุ้ง สะท้านไปทั้งร่างก่อนที่เจ้าของกลีบกุหลาบนั้นจะกัดปากแน่น จิกสองมือลงผ้าปูที่คุ้นเคยครั้นริมฝีปากหนาดูดดึงเม็ดคลิตอริสของเธออย่างร้ายกาจ“อะอ่า...แม็ก
บานประตูห้องนอนของมิกกี้เปิดออก เขาก้าวเท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า หยุดอยู่กลางห้องก่อนจะยกมือกุมหน้าตัวเอง ความเสียใจที่ถูกแฟนสาวบอกเลิกเหมือนจะหายไปภายในค่ำคืนเดียวและถูกแทนที่ด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่มีสติสัมปชัญญะ สมองมึนเบลอเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควร อยากเอาหัวโขลกพื้นหรือหายตัวกลับอเมริกาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อมีหน้าที่ใหญ่ต้องช่วยงานบริหารของน้องชายรออยู่ตรงหน้า มือหนาที่กุมใบหน้าร้อนผ่าวลูบขึ้นไปที่ศีรษะสางเส้นผมดำหนาแล้วกำแรงๆ เหมือนพยายามจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็เป็นไปแล้วเผลอมีอะไรกับแฟนน้องเพราะความเมามาย...หงายตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกหวั่นกลัว กลัวว่าแม็กเวลล์จะรู้เรื่องนี้ กลัวว่าน้องจะเกลียดกันอีกครั้ง นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างกังวลครั้นตอนนี้ความมึนเมาเริ่มสร่างและสติเริ่มกลับมา“ทำยังไงต่อวะมิก ถ้าแม็กรู้ขึ้นมา...”เหมือนจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องเก็บเงียบงำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงคนเดียว ความกลัวและกังวลยังสุมอยู่ในหัวก็พลันส่ายใบหน้าไปมา อยากจะสลัดความคิดกังวลแล้วทำเป็นเพิกเฉยก็ทำไม่ไ
ร่างขาวสะดุ้งทุกครั้งที่ข้อนิ้วตำเข้ามาแรง กัดปากตัวเองแน่นแล้วบิดเร้าเรือนร่างยามที่คนด้านบนกระแทกนิ้วเข้าใส่รัวจนเกิดเสียงแจ๊ะๆ มิกกี้มองช่องทางสวยฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่น มองหน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบเต่งตึงอย่างพึงพอใจ แม้ตอนนี้ความเมามายที่มีจะเริ่มส่างขึ้น แต่อารมณ์ความต้องการกลับเข้ามาแทนที่จนไม่อาจหยุดได้“เลียไหม”เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชิดริมหู อีกฝ่ายที่นอนเสียวซ่านกัดปากแล้วครางอื้อออกมาเป็นคำตอบ ก่อนที่ศีรษะของมิกกี้จะมุดลงไปกลางหว่างขาชายหนุ่มมุดหน้าลงไป แม้ดวงตาพร่าเบลอจากความเมาก็พอมองเห็นรางๆ ว่าส่วนนั้นสวยงามแค่ไหน รอยแยกที่ปริออกแล้วมีเม็ดสีชมพูคล้ำโผล่ขึ้นมาจากการใช้งานและเสียดสีมาหลายปีประจักษ์ต่อดวงตาของชายแฝดคนพี่ พลันยั่วยวนจนอดไม่ได้ที่อยากใช้ปากสัมผัสมัน กวางตัวแอ่นเร่ามองศีรษะทุยที่กำลังซุกลงพร้อมกับการจูบเบาๆ ไปก่อนหนึ่งที เพียงแค่ลมหายใจร้อนจากปลายจมูกของชายหนุ่มปะทะเข้าเนื้อผิวกลีบกุหลาบบางก็ทำร่างขาวเสียวสะดุ้ง สะท้านไปทั้งร่างก่อนที่เจ้าของกลีบกุหลาบนั้นจะกัดปากแน่น จิกสองมือลงผ้าปูที่คุ้นเคยครั้นริมฝีปากหนาดูดดึงเม็ดคลิตอริสของเธออย่างร้ายกาจ“อะอ่า...แม็ก
การประคองคนเมาที่ตัวสูงใหญ่ทุลักทุเลจนต้องเรียกพนักงานผู้ชายช่วยอีกแรง ในตอนนี้กวางกำลังเข้าใจผิดแบบมหันต์ว่าชายที่เมาแทบหมดสตินั้นเป็นแฟนของตัวเอง“วางพี่เขาตรงนี้เลย”กวางรีบเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับ เอนเบาะลงเล็กน้อยให้ชายหนุ่มได้นอนหลับไปในรถ พนักงานประคองมิกกี้เข้าไปแล้วช่วยรัดเข็มขัดคนเมาในท่ากึ่งนอนเพื่อให้อยู่ในความปลอดภัย“เรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบใจนะ นี่ติป”เธอควักเงินในกระเป๋าส่งเป็นน้ำใจที่ช่วยกันแบกคนไร้สตินี้มา ก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเข้าไปดูอาการชายหนุ่มที่นอนรอในรถ ส่วนพนักงานของคลับก็ยืนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สายตาส่องมองหาชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกัน“อีกคนไปไหน หรือกลับไปแล้ว”เพราะเขาเห็นว่าคนที่เมาอยู่ตอนนี้มากับผู้ชายที่เหมือนกันเพราะเป็นแฝด แต่เมื่อมองหาแล้วไม่เห็นก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ รีบเดินกลับเข้าไปในคลับทำหน้าที่ของตัวเองต่อกวางสตาร์จเครื่องยนต์เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท เสดวงตามองชายหนุ่มที่คิดว่าคือคนรักของตัวเอง สองสามวันมานี่เธอและแม็กเวลล์คุยกันน้อยลงเพราะต่างคนต่างยุ่ง โดยเฉพาะแฟนหนุ่มที่ทุ่มเวลาให้กับกิจการส่วนตัว มีเพียงส่งข้อความถามไถ่และบอกรักกันทิ้งไว้
3 วันต่อมาหลังจากที่มิกกี้มาถึงประเทศไทยก็พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพียงหนึ่งคืน จากนั้นก็เข้ามายังออฟฟิศของน้องชายเพื่อช่วยดูระบบงานต่างๆ ครั้นผู้เป็นแม่ไหว้วานให้เขามาดูช่วยน้องชายฝาแฝด ขณะที่แม็กเวลล์ก็ยุ่งไม่ต่าง วางระบบไอทีที่ทันสมัยเพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในทุกวันมิกกี้ที่กำลังวางแผนงานบริหารให้น้องชาย ก็ต้องละสายตาออกจากงานสำคัญนั้น เมื่อจอมือถือมีข้อความแจ้งเข้ามา“Let’ s break up” (เราเลิกกันเถอะ)เหมือนโดนไฟช็อตทั่วทั้งร่าง เมื่อมาเรียมแฟนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกา รุ่นน้องอายุอ่อนกว่าเขาเพียงสองปีส่งข้อความมาหาเพื่อขอตัดความสัมพันธ์อย่างเลือดเย็น แม้จะมีสัญญาณบอกเหตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรวดเร็วขนาด เพราะก่อนหน้าเขาและแฟนสาวมีเรื่องบาดหมางใจกันตามประสาคนคบกัน การใช้ชีวิตและทัศนคติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อประคับประคองความรักให้มันตลอดรอดฝั่ง และแทนที่เขาจะมีเวลาได้อยู่ปรับความเข้าใจกับมาเรียม ทว่าจำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยงานน้องเพราะแม่เร่งรัดและร้องขอ แต่กลับกลายเป็นการเว้นช่องว่างให้แฟนสาวได้ตีตัวออกห่าง
ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา แม็กเวลล์ก็เริ่มเข้าสู่โหมดการทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัว อาคารที่ปล่อยเช่าสำหรับทำออฟฟิศเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ไอทีและมีอุปกรณ์สำนักงานอื่นทยอยตามมา“เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว”เสียงแหบของน้าแรมเอ่ยขึ้น วันนี้เธอติดรถมากับหลานชาย ครั้นอยากเห็นความคืบหน้าของบริษัท เอ็มไอที จำกัด ที่ลงทุนจดทะเบียนบริษัทตั้งยี่สิบล้าน และเมื่อมาถึงก็กับอ้าปากค้าง เบิกดวงตากว้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันใหญ่โตกว่าที่คิดไว้ซะอีก“ใกล้เสร็จแล้วครับน้าแรม ไม่น่าเกินอาทิตย์นี้”แม็กเวลล์เดินสำรวจออฟฟิศที่คืบหน้าไปมากกว่า 90% เหลือเพียงตกแต่งวางอุปกรณ์ส่วนอื่นเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นเดือน และหากนับเวลามันก็เหลือเพียงสิบกว่าวันเท่านั้น“แม่เขาเทให้หมดหน้าตักเลยนะแม็ก เห็นไหมว่าแม่เขาคิดถึงเราตลอดเวลา”“ครับน้าแรม”แม้กมลเนตรจะมีธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้ใหญ่โตหรือทำกำไรให้แบบล้นมือ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีขาดทุนบ้างบางไตรมาสตามพิษเศรษฐกิจที่กระทบกันทั่วโลก ผลประกอบที่ได้มาก็ต้องนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในธุรกิจและเหลือเข้ากระเป๋าเพียงเล็กน้อยแม็
รุ่งเช้าหนึ่งคืนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผ่านไปเร็วมาก แม็กเวลล์แทบไม่อยากออกไปจากตรงนี้ก็ได้แต่งอแงหน้ามุ่ยเหมือนเด็กน้อย นอนทิ้งตัวไม่ยอมขยับสักที จนกวางต้องฉุดคะเย้อดึงคนตัวใหญ่ขึ้นมา“ลุกอาบน้ำแต่งตัวค่ะ”"อือ...กวาง""ลุกได้แล้ว"“ยังไม่หายคิดถึงเลย”ชายหนุ่มงัวเงียนั่งหลังโก่งบนเตียง สภาพล่อนจ้อนเพราะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงผ้าห่มที่ยังปิดส่วนล่าง ส่วนกวางก็สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำสีขาว รอเสื้อผ้าตัวเองที่ใช้บริการของทางโรงแรมให้แม่บ้านซักรีดแล้วนำมาคืน ส่วนแฟนหนุ่มไม่ต้องห่วงเพราะมีมาเต็มกระเป๋า“กวางต้องพาแม่ไปคุยงาน”“ทำไมต้องเอง”“คนขับรถป่วยแอดมิตที่โรงพยาบาล”“ขับรถเป็น แล้วเอาใหญ่เลย”ชายหนุ่มแอบว่ากวาง แฟนสาวเพิ่งขับรถเป็นก็ห่วงในความปลอดภัย“จะได้ไม่กวนพี่ไปรับไปส่งไง อีกอย่างธุรกิจของคุณแม่กำลังไปได้ดี มีนัดกับผู้ใหญ่หลายท่าน จะมาผิดคำพูดเพราะไม่มีคนขับรถให้เหรอ”กวางตอบแบบมีเหตุมีผล ทำแม็กเวลล์ที่อยากงอแงต่อก็ได้แค่หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองในเข่ง คว้าผ้าเช็ดตัวที่กวางวางไว้รอ พันรอบเอวแบบลวกๆ แล้วเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ห้องพั
ห้องสวีทชั้นที่เก้าถูกเปิดหนึ่งคืนสำหรับคู่รักที่ห่างจากกันเป็นเดือน แม็กเวลล์แค่อยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับคนที่รัก อยากมีเวลาส่วนตัวแบบที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ด้านในโรแมนติกกว่าที่คิด มันถูกออกแบบเพื่อคู่รักโดยเฉพาะ เตียงนอนนิ่มสีขาวขนาดใหญ่ แบบกลิ้งสองคนก็ยังมีพื้นที่เหลือ ตกแต่งออกแนวเซ็กซี่เล็กน้อย ห้องน้ำเป็นกระจกสามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านในและด้านนอก ระเบียงกว้างมีโต๊ะขนาดเล็กให้พอได้นั่งจิบไวน์รับลมและมองวิวที่มีแม่น้ำไหลผ่านกวางวางกระเป๋าสะพายของตัวเองไปรับลมที่มุมระเบียง มองวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนก็สวยงามมากทีเดียว ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เธอหันมองแต่ก็ไม่ได้ใส่มากกว่าวิวแสงสีระยิบระยับด้านหน้า แม็กเวลล์ออเดอร์เครื่องดื่มขึ้นมา ครั้นอยากผ่อนคลายกับแฟนสาวหลังจากนั่งเครื่องบินเดินทางทั้งวัน“ไหนบอกอยากพัก”“ก็ถือว่าเป็นการผ่อนคลาย”ชายหนุ่มเทเครื่องดื่มสีแดงเข้มลงแก้วทรงสูง นั่งเก้าอี้โดยมีกวางขยับตัวมายืนด้านหลัง เพราะรู้ว่าแฟนหนุ่มคงเมื่อยตัว บีบมือลงที่ลาดไหล่หนาช่วยนวดให้ผ่อนคลาย ก็รู้สึกดีไม่น้อย เหมือนกล้ามเนื้อได้ยืดตัวก็พลันเคลิ้มขึ้นมา แม็กเวลล์เอื้อมมือหนาของตนเตะ
เครื่องบินโบอิ้งลำใหญ่กำลังแลนดิ้งลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินจากอเมริกาไฟลท์ TG9397 เดินทางมาถึงในเวลาสามทุ่มเศษ แม็กเวลล์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปีเพิ่งเดินทางกลับหลังจากมีธุระต้องบินไปต่างประเทศด่วน เขาเป็นลูกชายคนเล็กของกมลเนตร แต่ทว่าในช่วงวัยเด็ก ครอบครัวมีปัญหาทำให้เขาและแม่ต้องแยกกันอยู่ มีช่วงหนึ่งคือขาดการติดต่อนับสิบปี แต่ก็ยังรู้ข่าวคราวบ้างจากคนรอบตัว เมื่อพ่อแม่เลิกกันลูกชายฝาแฝดเลยถูกแบ่งกันเลี้ยงดู คนโตคือมิกกี้ไปอยู่กับแม่ คนเล็กคือตัวเขาเองไปอยู่กับพ่อ แม้จะไม่รู้ปัญหาลึกๆ ของผู้ใหญ่แต่มันทำให้เขาโกรธแม่และพี่ชายมากทีเดียว ชีวิตที่มีแค่พ่อลำบากมากถึงขั้นหลั่งน้ำตา แต่ชีวิตแม่กับพี่ชายดันสุขสบายและมีครอบครัวใหม่อยู่ที่นั่นจนกระทั่งพ่อได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในตอนเขาอายุ 15 ปี เมื่อไม่มีญาติผู้ใหญ่คอยดูแล กมลเนตรหวังจะกลับมารับลูกไปอยู่ด้วยกัน ทว่าเขายังที่รู้สึกว่าแม่เห็นแก่ตัว หาความสุขสบายใส่ตัว เลยเลือกที่จะอยู่กับน้องสาวแม่ นั่นก็คือเดือนแรมหรือน้าแรมที่เขาเรียกติดปากมาจนทุกวันนี้แต่เมื่อเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน วันเวลาเปลี่ยน เขาเริ่มโตขึ้น ความโกรธที่เคยสุมอกใ