ห้องสวีทชั้นที่เก้าถูกเปิดหนึ่งคืนสำหรับคู่รักที่ห่างจากกันเป็นเดือน แม็กเวลล์แค่อยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับคนที่รัก อยากมีเวลาส่วนตัวแบบที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ด้านในโรแมนติกกว่าที่คิด มันถูกออกแบบเพื่อคู่รักโดยเฉพาะ เตียงนอนนิ่มสีขาวขนาดใหญ่ แบบกลิ้งสองคนก็ยังมีพื้นที่เหลือ ตกแต่งออกแนวเซ็กซี่เล็กน้อย ห้องน้ำเป็นกระจกสามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านในและด้านนอก ระเบียงกว้างมีโต๊ะขนาดเล็กให้พอได้นั่งจิบไวน์รับลมและมองวิวที่มีแม่น้ำไหลผ่าน
กวางวางกระเป๋าสะพายของตัวเองไปรับลมที่มุมระเบียง มองวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนก็สวยงามมากทีเดียว ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เธอหันมองแต่ก็ไม่ได้ใส่มากกว่าวิวแสงสีระยิบระยับด้านหน้า แม็กเวลล์ออเดอร์เครื่องดื่มขึ้นมา ครั้นอยากผ่อนคลายกับแฟนสาวหลังจากนั่งเครื่องบินเดินทางทั้งวัน
“ไหนบอกอยากพัก”
“ก็ถือว่าเป็นการผ่อนคลาย”
ชายหนุ่มเทเครื่องดื่มสีแดงเข้มลงแก้วทรงสูง นั่งเก้าอี้โดยมีกวางขยับตัวมายืนด้านหลัง เพราะรู้ว่าแฟนหนุ่มคงเมื่อยตัว บีบมือลงที่ลาดไหล่หนาช่วยนวดให้ผ่อนคลาย ก็รู้สึกดีไม่น้อย เหมือนกล้ามเนื้อได้ยืดตัวก็พลันเคลิ้มขึ้นมา แม็กเวลล์เอื้อมมือหนาของตนเตะมือขาวที่กำลังบีบๆ นวดๆ อย่างตั้งใจ แล้วดึงมาจูบเพราะความคิดถึง
“หอมเหมือนเดิม”
“...”
“ถ้าได้ดมทั้งตัวจะหอมมากกว่านี้ไหมนะ”
คำพูดคำจาพอเดาได้ว่าแฟนหนุ่มต้องการอะไร แม็กเวลล์ลุกจากเก้าอี้ รวบเอวบางแล้วกอดแน่นบนระเบียง สายตาที่มองกันไม่ต่างกับราชสีห์อยากกลืนกินเหยื่อ
“ไม่อาบน้ำก่อนเหรอ”
“ไม่อ่ะ อยากกินเนื้อกวางมากกว่า”
หญิงสาวยิ้มขึ้นอย่างอายๆ ความหมายของแฟนหนุ่มไม่ต่างจากขอมีอะไรกัน ร่างเล็กถูกดันเข้ามาแนบชิดกลางอกจนตั้งเขย่งปลายเท้าขึ้นสูง เมื่อแม็กเวลล์ดันให้เธอเชิดใบหน้าขึ้น ริมฝีปากแนบเข้าหากัน ปลายลิ้นอันเร่าร้อนสอดผ่านเข้ามาพันเกี่ยวลิ้นอ่อนอย่างไม่เกรงใจ มือหนาที่โอบเอวร่นต่ำลงมาเค้นคลึงสะโพกเบาๆ กวางที่สวมกระโปรงผ้าชีฟองปลิวตามแรงลมที่กำลังพัดจนเปิดเห็นกางเกงชั้นในสีหวาน พลันนั้นมือหนาอันซุกซนก็บีบเสียจนมันล้นออกมาตามง่าม ก่อนจะล้วงผ่านกางเกงลายลูกไม้ตัวนั้นเข้าไปด้านใน แทรกนิ้วลงที่ร่องก้นแล้วแยงเข้าบริเวณปากรูจีบ
ฮื่อ...พี่แม็ก”
“ขอตรงนี้ได้ไหม”
“เตียงนอนก็มี”
“พี่หมายถึง เอาหนูรูด้านหลัง”
แม็กเวลล์หมายถึงรูจีบที่เขากำลังคลึง กระซิบข้างริมหูเสียจนกวางร้อนผ่าวแดงไปทั้งหน้า มือน้อยๆ ฟาดลงที่อกแกร่งเพราะความเขิน พลางยิ้มแล้วกัดริมฝีปากข่มตัวเองไม่ให้แสดงออกมา แต่ทว่าก็ไม่ปฏิเสธออกมาเป็นคำพูด ก่อนจะค่อยๆ ถอยเข้าไปด้านใน กระทั่งร่างคนทั้งสองทิ้งตัวลงเตียง
แสงไฟสีขาวสว่างส่องให้เห็นใบหน้าสวยหวานและผิวพรรณอันขาวผ่องเต็มตา หนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอกันตัวเป็นๆ กวางดูขาวขึ้นมากกว่าเดิม อาจเป็นเพราะเธออยู่แต่บ้านและมีเวลามากขึ้นได้ดูแลตัวเอง ชายหนุ่มดึงกระโปรงชีฟองพร้อมกางเกงชั้นในสีหวานออกทางปลายเท้า เสื้อตัวจิ๋วเพียงแค่กระตุกปมด้านหน้าก็หลุดออกอย่างง่ายดาย กวางไม่สวมเสื้อชั้นใน เธอแปะที่ปิดจุกก็เท่านั้น
ริมฝีปากหยาบคาบแผ่นแปะออกจากยอดอก แลบปลายลิ้นแตะลงเบาๆ ให้อีกฝ่ายสยิวขึ้นทีละน้อย แล้วค่อยดูดยอดถันสีสวยเข้าเต็มปาก หน้าอกอันอวบอิ่มช่างล้นหลาม ชวนชายหนุ่มให้กระพือความปรารถนาอย่างเต็มพิกัด
“อะฮื่อ...”
“คิดถึงกลิ่นหอมๆ ของกวางนะคะ”
“รู้แล้ว พี่แม็กถอดออก”
เธอสั่งแฟนหนุ่มให้จัดการเสื้อผ้าอันเกะกะ แม็กเวลล์ขยับกาย สะบัดเสื้อยืดสีขาวแบรนด์แนวและกางเกงยีนราคาหลักหมื่นกองลวกๆ แบบไม่สนใจ มากกว่าเรือนร่างของแฟนสาวที่โหยหามานาน ร่างสองร่างโอบกอดกันบนเตียงนอนนิ่ม ส่งรสจูบอันหวานฉ่ำให้กันจนเกิดเสียงเฉอะแฉะของน้ำลาย แม็กเวลล์ขยับลงมาต่ำ แยกเรียวขาของกวางให้ออกจากกัน จากนั้นตวัดปลายลิ้นละเลงเม็ดคลิตอริสจนอีกฝ่ายสะดุ้งยกก้นลอยเหนือเตียง
ชายหนุ่มเก่งในเรื่องการใช้ลิ้น เลียจนกวางเสร็จมาแล้วก็หลายครั้ง และครั้งนี้เหมือนเธอจะเสร็จเหมือนกัน
แผล็บ! แผล็บ!
“อะพี่แม็ก อย่าดูดแรงมันบวมแล้ว”
แม็กเวลล์เงยหน้าขึ้น ฉีกยิ้มหนึ่งที่แล้วมุดหน้าลงไปใหม่ คำร้องห้ามไม่เป็นผลเขาดูดดึงเสียจนแฟนสาวร้องลั่น เม็ดคลิตอริสบวมเจ่ออย่างหนัก นูนออกมาโผล่พ้นเนื้อกลีบสองข้าง
“อ๊า...อย่าแกล้งนะ ฮื่อเสียว”
“ไม่แกล้งแล้วค่ะ พี่เอาจริง”
ก้อนลายถ่มออกลงปลายมือ ป้ายเข้าที่รูจีบด้านหลังของแฟนสาว อีกก้อนถ่มแล้วป้ายเข้าที่ท่อนอันแข็งขืนของตัวเอง ขยับสะโพกเข้ามาชิดบั้นท้ายคนนอน แล้วกดปลายหัวหยักสีคล้ำเข้าทีละนิดลงที่รูทวารของกวาง
กึก!
ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำ แม็กเวลล์ชอบสอดใส่เข้าที่รูนี้มากกว่าด้านหน้า มันรัดรึงเสียจนเขาแทบหมดมหายใจ
“อ่า...แน่นเหมือนเดิม”
“เบานะ ครั้งก่อนแทบฉีก”
“เดี๋ยวนี้มันปรับตัวได้แล้วนี้”
ก็ไม่คิดจะเบาให้กันเลย เขาจับเรียวขาเนียนขาวพาดบ่าหนึ่งข้าง อีกข้างอ้าออกกว้างให้ได้มองกลีบกุหลาบที่มีเม็ดอันบวมเจ่อโผล่ออกมา เขามาไม่ปล่อยรู้รักด้านหน้าว่างเปล่า สอดนิ้วมือเข้าไปคาไว้พร้อมกับการขยับท่อนลำเสียดสีรูด้านหลังที่ขยุ้มรัดรึงท่อนลำอย่างหนัก
“ฮื่อ”
บั้นท้ายอวบลอยไม่ติดเตียง ยามอีกฝ่ายรวบขาขึ้นมาบนบ่าแล้วออกแรงกระแทกจนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ข้อนิ้วแกร่งก็ขยับแล้วควานอยู่ภายใน ทำกวางเสียวรูทั้งสองพร้อมกัน
ตับ! ตับ! ตับ!
จังหวะรัวและแรงขึ้นตามอารมณ์ที่โหนสูง กวางที่รับความเสียวซ่านแบบเต็มดิ้นเสียจนเตียงนอนยับยู่ มือขาวประดับไปด้วยเล็บเจลสีแดงกำผ้าปูเตียงจนแทบขาดติดมือ หนึ่งเดือนที่ห่างช่างสุขสมเสียเหลือเกิน
“อะอ่า ซีด”
“พะพี่แม็ก อะอ้า อื๊อ กวางเสียว”
“แรงกว่านี้ได้ไหม”
“แรงๆ อะอื๊อ แรงกว่านี้ อ๊าอื๊อ”
แม็กเวลล์ถอนนิ้วที่เกี่ยวเบ็ดไปพร้อมกับการขยับท่อนลำ ดึงคนตัวบางขยับเข้าชิดจนรูรักกลืนมันเข้าไปจนสุด วางเรียวขาที่ชันสูงลงเตียง แยกออกให้กว้าง มองรอบรูที่เริ่มปริจากการผลุบเข้าผลุบออกของแก่นกายใหญ่ วางมือที่สะโพกกลมกลึงล็อกให้มั่นแล้วกระแทกเข้าใส่หนัก กวางกระเพื่อมตามแรงรักที่แฟนหนุ่มส่งมา หน้าอกอวบโยกคลอนขึ้นลงต่อดวงตารัตติกาล เป็นชั่วโมงแห่งความสุขที่ได้มอบให้กัน ผสานร่างกายรับรสความเสียวให้กันอยู่แบบนั้นนานนับครึ่งชั่วโมง จนร่างกายหนาของแม็กเวลล์ท่วมไปด้วยเหงื่อ
“กวาง...อ่า ซี้ด”
“อะอ้า อะ อะอ๊า พี่แม็ก...อ๊า”
สองกายบนเตียงกระตุกพร้อมกันอย่างสุขสม แม็กเวลล์ปล่อยน้ำรักออกมา เช่นเดียวกับแฟนสาวที่เสร็จสมไม่ต่าง เหลือเพียงลมหายใจที่ยังหอบแรง แม็กเวลล์ยังไม่ถอนท่อนเอ็นแม้มันจะเริ่มอ่อนลงแล้วก็ตาม
“คิดถึงมาก”
“ก็เลยทำกับกวางแรงๆ”
“ไม่ชอบเหรอ...ถ้าไม่ชอบวันหลังพี่-”
“ชอบสิ ทำไมจะไม่ชอบ”
พูดแล้วก็ต่างยิ้มให้กัน เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นก็ถึงเวลาที่ต้องพักผ่อนจริงๆ เพราะพรุ่งนี้เช้าก็ต้องแยกย้ายไปรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง
รุ่งเช้าหนึ่งคืนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผ่านไปเร็วมาก แม็กเวลล์แทบไม่อยากออกไปจากตรงนี้ก็ได้แต่งอแงหน้ามุ่ยเหมือนเด็กน้อย นอนทิ้งตัวไม่ยอมขยับสักที จนกวางต้องฉุดคะเย้อดึงคนตัวใหญ่ขึ้นมา“ลุกอาบน้ำแต่งตัวค่ะ”"อือ...กวาง""ลุกได้แล้ว"“ยังไม่หายคิดถึงเลย”ชายหนุ่มงัวเงียนั่งหลังโก่งบนเตียง สภาพล่อนจ้อนเพราะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงผ้าห่มที่ยังปิดส่วนล่าง ส่วนกวางก็สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำสีขาว รอเสื้อผ้าตัวเองที่ใช้บริการของทางโรงแรมให้แม่บ้านซักรีดแล้วนำมาคืน ส่วนแฟนหนุ่มไม่ต้องห่วงเพราะมีมาเต็มกระเป๋า“กวางต้องพาแม่ไปคุยงาน”“ทำไมต้องเอง”“คนขับรถป่วยแอดมิตที่โรงพยาบาล”“ขับรถเป็น แล้วเอาใหญ่เลย”ชายหนุ่มแอบว่ากวาง แฟนสาวเพิ่งขับรถเป็นก็ห่วงในความปลอดภัย“จะได้ไม่กวนพี่ไปรับไปส่งไง อีกอย่างธุรกิจของคุณแม่กำลังไปได้ดี มีนัดกับผู้ใหญ่หลายท่าน จะมาผิดคำพูดเพราะไม่มีคนขับรถให้เหรอ”กวางตอบแบบมีเหตุมีผล ทำแม็กเวลล์ที่อยากงอแงต่อก็ได้แค่หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองในเข่ง คว้าผ้าเช็ดตัวที่กวางวางไว้รอ พันรอบเอวแบบลวกๆ แล้วเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ห้องพั
ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา แม็กเวลล์ก็เริ่มเข้าสู่โหมดการทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัว อาคารที่ปล่อยเช่าสำหรับทำออฟฟิศเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ไอทีและมีอุปกรณ์สำนักงานอื่นทยอยตามมา“เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว”เสียงแหบของน้าแรมเอ่ยขึ้น วันนี้เธอติดรถมากับหลานชาย ครั้นอยากเห็นความคืบหน้าของบริษัท เอ็มไอที จำกัด ที่ลงทุนจดทะเบียนบริษัทตั้งยี่สิบล้าน และเมื่อมาถึงก็กับอ้าปากค้าง เบิกดวงตากว้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันใหญ่โตกว่าที่คิดไว้ซะอีก“ใกล้เสร็จแล้วครับน้าแรม ไม่น่าเกินอาทิตย์นี้”แม็กเวลล์เดินสำรวจออฟฟิศที่คืบหน้าไปมากกว่า 90% เหลือเพียงตกแต่งวางอุปกรณ์ส่วนอื่นเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นเดือน และหากนับเวลามันก็เหลือเพียงสิบกว่าวันเท่านั้น“แม่เขาเทให้หมดหน้าตักเลยนะแม็ก เห็นไหมว่าแม่เขาคิดถึงเราตลอดเวลา”“ครับน้าแรม”แม้กมลเนตรจะมีธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้ใหญ่โตหรือทำกำไรให้แบบล้นมือ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีขาดทุนบ้างบางไตรมาสตามพิษเศรษฐกิจที่กระทบกันทั่วโลก ผลประกอบที่ได้มาก็ต้องนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในธุรกิจและเหลือเข้ากระเป๋าเพียงเล็กน้อยแม็
3 วันต่อมาหลังจากที่มิกกี้มาถึงประเทศไทยก็พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพียงหนึ่งคืน จากนั้นก็เข้ามายังออฟฟิศของน้องชายเพื่อช่วยดูระบบงานต่างๆ ครั้นผู้เป็นแม่ไหว้วานให้เขามาดูช่วยน้องชายฝาแฝด ขณะที่แม็กเวลล์ก็ยุ่งไม่ต่าง วางระบบไอทีที่ทันสมัยเพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในทุกวันมิกกี้ที่กำลังวางแผนงานบริหารให้น้องชาย ก็ต้องละสายตาออกจากงานสำคัญนั้น เมื่อจอมือถือมีข้อความแจ้งเข้ามา“Let’ s break up” (เราเลิกกันเถอะ)เหมือนโดนไฟช็อตทั่วทั้งร่าง เมื่อมาเรียมแฟนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกา รุ่นน้องอายุอ่อนกว่าเขาเพียงสองปีส่งข้อความมาหาเพื่อขอตัดความสัมพันธ์อย่างเลือดเย็น แม้จะมีสัญญาณบอกเหตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรวดเร็วขนาด เพราะก่อนหน้าเขาและแฟนสาวมีเรื่องบาดหมางใจกันตามประสาคนคบกัน การใช้ชีวิตและทัศนคติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อประคับประคองความรักให้มันตลอดรอดฝั่ง และแทนที่เขาจะมีเวลาได้อยู่ปรับความเข้าใจกับมาเรียม ทว่าจำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยงานน้องเพราะแม่เร่งรัดและร้องขอ แต่กลับกลายเป็นการเว้นช่องว่างให้แฟนสาวได้ตีตัวออกห่าง
การประคองคนเมาที่ตัวสูงใหญ่ทุลักทุเลจนต้องเรียกพนักงานผู้ชายช่วยอีกแรง ในตอนนี้กวางกำลังเข้าใจผิดแบบมหันต์ว่าชายที่เมาแทบหมดสตินั้นเป็นแฟนของตัวเอง“วางพี่เขาตรงนี้เลย”กวางรีบเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับ เอนเบาะลงเล็กน้อยให้ชายหนุ่มได้นอนหลับไปในรถ พนักงานประคองมิกกี้เข้าไปแล้วช่วยรัดเข็มขัดคนเมาในท่ากึ่งนอนเพื่อให้อยู่ในความปลอดภัย“เรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบใจนะ นี่ติป”เธอควักเงินในกระเป๋าส่งเป็นน้ำใจที่ช่วยกันแบกคนไร้สตินี้มา ก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเข้าไปดูอาการชายหนุ่มที่นอนรอในรถ ส่วนพนักงานของคลับก็ยืนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สายตาส่องมองหาชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกัน“อีกคนไปไหน หรือกลับไปแล้ว”เพราะเขาเห็นว่าคนที่เมาอยู่ตอนนี้มากับผู้ชายที่เหมือนกันเพราะเป็นแฝด แต่เมื่อมองหาแล้วไม่เห็นก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ รีบเดินกลับเข้าไปในคลับทำหน้าที่ของตัวเองต่อกวางสตาร์จเครื่องยนต์เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท เสดวงตามองชายหนุ่มที่คิดว่าคือคนรักของตัวเอง สองสามวันมานี่เธอและแม็กเวลล์คุยกันน้อยลงเพราะต่างคนต่างยุ่ง โดยเฉพาะแฟนหนุ่มที่ทุ่มเวลาให้กับกิจการส่วนตัว มีเพียงส่งข้อความถามไถ่และบอกรักกันทิ้งไว้
ร่างขาวสะดุ้งทุกครั้งที่ข้อนิ้วตำเข้ามาแรง กัดปากตัวเองแน่นแล้วบิดเร้าเรือนร่างยามที่คนด้านบนกระแทกนิ้วเข้าใส่รัวจนเกิดเสียงแจ๊ะๆ มิกกี้มองช่องทางสวยฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่น มองหน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบเต่งตึงอย่างพึงพอใจ แม้ตอนนี้ความเมามายที่มีจะเริ่มส่างขึ้น แต่อารมณ์ความต้องการกลับเข้ามาแทนที่จนไม่อาจหยุดได้“เลียไหม”เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชิดริมหู อีกฝ่ายที่นอนเสียวซ่านกัดปากแล้วครางอื้อออกมาเป็นคำตอบ ก่อนที่ศีรษะของมิกกี้จะมุดลงไปกลางหว่างขาชายหนุ่มมุดหน้าลงไป แม้ดวงตาพร่าเบลอจากความเมาก็พอมองเห็นรางๆ ว่าส่วนนั้นสวยงามแค่ไหน รอยแยกที่ปริออกแล้วมีเม็ดสีชมพูคล้ำโผล่ขึ้นมาจากการใช้งานและเสียดสีมาหลายปีประจักษ์ต่อดวงตาของชายแฝดคนพี่ พลันยั่วยวนจนอดไม่ได้ที่อยากใช้ปากสัมผัสมัน กวางตัวแอ่นเร่ามองศีรษะทุยที่กำลังซุกลงพร้อมกับการจูบเบาๆ ไปก่อนหนึ่งที เพียงแค่ลมหายใจร้อนจากปลายจมูกของชายหนุ่มปะทะเข้าเนื้อผิวกลีบกุหลาบบางก็ทำร่างขาวเสียวสะดุ้ง สะท้านไปทั้งร่างก่อนที่เจ้าของกลีบกุหลาบนั้นจะกัดปากแน่น จิกสองมือลงผ้าปูที่คุ้นเคยครั้นริมฝีปากหนาดูดดึงเม็ดคลิตอริสของเธออย่างร้ายกาจ“อะอ่า...แม็ก
บานประตูห้องนอนของมิกกี้เปิดออก เขาก้าวเท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า หยุดอยู่กลางห้องก่อนจะยกมือกุมหน้าตัวเอง ความเสียใจที่ถูกแฟนสาวบอกเลิกเหมือนจะหายไปภายในค่ำคืนเดียวและถูกแทนที่ด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่มีสติสัมปชัญญะ สมองมึนเบลอเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควร อยากเอาหัวโขลกพื้นหรือหายตัวกลับอเมริกาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อมีหน้าที่ใหญ่ต้องช่วยงานบริหารของน้องชายรออยู่ตรงหน้า มือหนาที่กุมใบหน้าร้อนผ่าวลูบขึ้นไปที่ศีรษะสางเส้นผมดำหนาแล้วกำแรงๆ เหมือนพยายามจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็เป็นไปแล้วเผลอมีอะไรกับแฟนน้องเพราะความเมามาย...หงายตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกหวั่นกลัว กลัวว่าแม็กเวลล์จะรู้เรื่องนี้ กลัวว่าน้องจะเกลียดกันอีกครั้ง นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างกังวลครั้นตอนนี้ความมึนเมาเริ่มสร่างและสติเริ่มกลับมา“ทำยังไงต่อวะมิก ถ้าแม็กรู้ขึ้นมา...”เหมือนจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องเก็บเงียบงำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงคนเดียว ความกลัวและกังวลยังสุมอยู่ในหัวก็พลันส่ายใบหน้าไปมา อยากจะสลัดความคิดกังวลแล้วทำเป็นเพิกเฉยก็ทำไม่ไ
แม็กเวลล์ถูกห้ามเข้าโรงพยาบาลในเวลาต่อมา นอนนิ่งบนเตียงผู้ป่วยจนเดือนแรมแอบใจเสีย ครั้งสุดท้ายที่หลานคนเล็กป่วยหนักก็ตอนเป็นไข้เลือดออกในช่วงมัธยมต้น ถึงขั้นนอนโรงพยาบาลและเฝ้ากันเป็นอาทิตย์และก็ครั้งนี้ไข้ขึ้นสูงจนลุกไม่ขึ้น คนป่วยถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน ตรวจอาการในท่วงทีเพราะแม็กเวลล์ตัวร้อนจัด เสี่ยงมีอาการช็อกจากไข้ขึ้นสูง ด้านนอกก็รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ น้าแรมนั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินวนไปวนมาอย่างร้อนใจ ชะเง้อส่องหลานคนเล็กด้วยความเป็นห่วงมากทีเดียว ส่วนมิกกี้ก็เป็นห่วงน้องมากเช่นกัน ทว่ายังมีสตินั่งกุมมือตัวเองอยู่กับที่ ไม่ลุกเพ่นพ่านครั้นคนป่วยและญาติคนป่วยเดินสวนสนามอย่างกับเป็นตลาดนัด อีกทั้งการนั่งบนเก้าอี้ช่วยลดการเกะกะต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังเดินส่งคนไข้ “มิก หมอออกมาแล้ว” ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมาพร้อมกับคุณหมอผู้ชายอายุราวๆ สี่สิบปี “น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ” “คุณเป็นพี่ชายใช่ไหม” คุณหมอถามเพื่อความแน่ใจ แต่เพราะหน้าตาที่เหมือนกันจนเผลอตกใจนึกว่าคนไข้ลุกจากเตียงออกมา ทว่าก็เดาได้ว่าเป็นฝาแฝดที่หน้าเหมือนกันจนแยกไม่ออก “ใช่ครับ ผมเป็นพี่ชาย” “คุณแ
บริษัท เอ็มไอที จำกัด มิกกี้เข้ามาดูงานต่อให้น้อง หลังจากที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลได้คืนที่สอง มีน้าแรมคอยดูแลไม่ห่าง อยู่เป็นเพื่อนทั้งวันและจะกลับมาบ้านแค่ตอนกลางคืน จากเดิมที่เขาต้องเข้ามาดูแลและคอยช่วยเหลือในระบบงานบริหาร กลายเป็นว่าทั้งหมดในบริษัทมิกกี้ต้องเข้ามาดูแลแทนน้องไปก่อน แม้กระทั่งพนักงานจากส่วนอื่นที่เข้ามาติดตั้งระบบต่างๆ ต่างก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาคือแม็กเวลล์ น้องชายฝาแฝดที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก “เรียบร้อยแล้วครับคุณแม็ก พร้อมส่งงานเลย” ระบบซอฟต์แวร์บริษัทถูกติดตั้งสมบูรณ์พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารการติดตั้งและเอกสารการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์นี้แต่เพียงผู้เดียวให้มิกกี้ที่เข้าใจว่าคือแม็กเวล์ ทว่าเจ้าตัวก็ปล่อยให้คนอื่นเข้าใจไปแบบนั้นเพื่อง่ายต่อการมอบงาน เพราะหากอีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ใช่เจ้าของบริษัทนี้ก็คงชะงักและรอให้แม็กเวลล์หายดี ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ทันอย่างที่น้องชายเขาตั้งใจเอาไว้ เขาเซ็นรับงานโดยเป็นชื่อของแม็กเวลล์และไม่ได้ทำโดยพลการ เมื่อน้องชายเขาอนุญาตให้ทำแทนได้ ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์รอแค่วันเปิดตัว เจ้าหน้าที่จากส่วนอื่นทยอยกันกลับบ้าน เหลือเพ
บริษัท เอ็มไอที จำกัด มิกกี้เข้ามาดูงานต่อให้น้อง หลังจากที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลได้คืนที่สอง มีน้าแรมคอยดูแลไม่ห่าง อยู่เป็นเพื่อนทั้งวันและจะกลับมาบ้านแค่ตอนกลางคืน จากเดิมที่เขาต้องเข้ามาดูแลและคอยช่วยเหลือในระบบงานบริหาร กลายเป็นว่าทั้งหมดในบริษัทมิกกี้ต้องเข้ามาดูแลแทนน้องไปก่อน แม้กระทั่งพนักงานจากส่วนอื่นที่เข้ามาติดตั้งระบบต่างๆ ต่างก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาคือแม็กเวลล์ น้องชายฝาแฝดที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก “เรียบร้อยแล้วครับคุณแม็ก พร้อมส่งงานเลย” ระบบซอฟต์แวร์บริษัทถูกติดตั้งสมบูรณ์พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารการติดตั้งและเอกสารการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์นี้แต่เพียงผู้เดียวให้มิกกี้ที่เข้าใจว่าคือแม็กเวล์ ทว่าเจ้าตัวก็ปล่อยให้คนอื่นเข้าใจไปแบบนั้นเพื่อง่ายต่อการมอบงาน เพราะหากอีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ใช่เจ้าของบริษัทนี้ก็คงชะงักและรอให้แม็กเวลล์หายดี ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ทันอย่างที่น้องชายเขาตั้งใจเอาไว้ เขาเซ็นรับงานโดยเป็นชื่อของแม็กเวลล์และไม่ได้ทำโดยพลการ เมื่อน้องชายเขาอนุญาตให้ทำแทนได้ ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์รอแค่วันเปิดตัว เจ้าหน้าที่จากส่วนอื่นทยอยกันกลับบ้าน เหลือเพ
แม็กเวลล์ถูกห้ามเข้าโรงพยาบาลในเวลาต่อมา นอนนิ่งบนเตียงผู้ป่วยจนเดือนแรมแอบใจเสีย ครั้งสุดท้ายที่หลานคนเล็กป่วยหนักก็ตอนเป็นไข้เลือดออกในช่วงมัธยมต้น ถึงขั้นนอนโรงพยาบาลและเฝ้ากันเป็นอาทิตย์และก็ครั้งนี้ไข้ขึ้นสูงจนลุกไม่ขึ้น คนป่วยถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน ตรวจอาการในท่วงทีเพราะแม็กเวลล์ตัวร้อนจัด เสี่ยงมีอาการช็อกจากไข้ขึ้นสูง ด้านนอกก็รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ น้าแรมนั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินวนไปวนมาอย่างร้อนใจ ชะเง้อส่องหลานคนเล็กด้วยความเป็นห่วงมากทีเดียว ส่วนมิกกี้ก็เป็นห่วงน้องมากเช่นกัน ทว่ายังมีสตินั่งกุมมือตัวเองอยู่กับที่ ไม่ลุกเพ่นพ่านครั้นคนป่วยและญาติคนป่วยเดินสวนสนามอย่างกับเป็นตลาดนัด อีกทั้งการนั่งบนเก้าอี้ช่วยลดการเกะกะต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังเดินส่งคนไข้ “มิก หมอออกมาแล้ว” ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมาพร้อมกับคุณหมอผู้ชายอายุราวๆ สี่สิบปี “น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ” “คุณเป็นพี่ชายใช่ไหม” คุณหมอถามเพื่อความแน่ใจ แต่เพราะหน้าตาที่เหมือนกันจนเผลอตกใจนึกว่าคนไข้ลุกจากเตียงออกมา ทว่าก็เดาได้ว่าเป็นฝาแฝดที่หน้าเหมือนกันจนแยกไม่ออก “ใช่ครับ ผมเป็นพี่ชาย” “คุณแ
บานประตูห้องนอนของมิกกี้เปิดออก เขาก้าวเท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า หยุดอยู่กลางห้องก่อนจะยกมือกุมหน้าตัวเอง ความเสียใจที่ถูกแฟนสาวบอกเลิกเหมือนจะหายไปภายในค่ำคืนเดียวและถูกแทนที่ด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่มีสติสัมปชัญญะ สมองมึนเบลอเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควร อยากเอาหัวโขลกพื้นหรือหายตัวกลับอเมริกาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อมีหน้าที่ใหญ่ต้องช่วยงานบริหารของน้องชายรออยู่ตรงหน้า มือหนาที่กุมใบหน้าร้อนผ่าวลูบขึ้นไปที่ศีรษะสางเส้นผมดำหนาแล้วกำแรงๆ เหมือนพยายามจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็เป็นไปแล้วเผลอมีอะไรกับแฟนน้องเพราะความเมามาย...หงายตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกหวั่นกลัว กลัวว่าแม็กเวลล์จะรู้เรื่องนี้ กลัวว่าน้องจะเกลียดกันอีกครั้ง นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างกังวลครั้นตอนนี้ความมึนเมาเริ่มสร่างและสติเริ่มกลับมา“ทำยังไงต่อวะมิก ถ้าแม็กรู้ขึ้นมา...”เหมือนจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องเก็บเงียบงำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงคนเดียว ความกลัวและกังวลยังสุมอยู่ในหัวก็พลันส่ายใบหน้าไปมา อยากจะสลัดความคิดกังวลแล้วทำเป็นเพิกเฉยก็ทำไม่ไ
ร่างขาวสะดุ้งทุกครั้งที่ข้อนิ้วตำเข้ามาแรง กัดปากตัวเองแน่นแล้วบิดเร้าเรือนร่างยามที่คนด้านบนกระแทกนิ้วเข้าใส่รัวจนเกิดเสียงแจ๊ะๆ มิกกี้มองช่องทางสวยฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่น มองหน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบเต่งตึงอย่างพึงพอใจ แม้ตอนนี้ความเมามายที่มีจะเริ่มส่างขึ้น แต่อารมณ์ความต้องการกลับเข้ามาแทนที่จนไม่อาจหยุดได้“เลียไหม”เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชิดริมหู อีกฝ่ายที่นอนเสียวซ่านกัดปากแล้วครางอื้อออกมาเป็นคำตอบ ก่อนที่ศีรษะของมิกกี้จะมุดลงไปกลางหว่างขาชายหนุ่มมุดหน้าลงไป แม้ดวงตาพร่าเบลอจากความเมาก็พอมองเห็นรางๆ ว่าส่วนนั้นสวยงามแค่ไหน รอยแยกที่ปริออกแล้วมีเม็ดสีชมพูคล้ำโผล่ขึ้นมาจากการใช้งานและเสียดสีมาหลายปีประจักษ์ต่อดวงตาของชายแฝดคนพี่ พลันยั่วยวนจนอดไม่ได้ที่อยากใช้ปากสัมผัสมัน กวางตัวแอ่นเร่ามองศีรษะทุยที่กำลังซุกลงพร้อมกับการจูบเบาๆ ไปก่อนหนึ่งที เพียงแค่ลมหายใจร้อนจากปลายจมูกของชายหนุ่มปะทะเข้าเนื้อผิวกลีบกุหลาบบางก็ทำร่างขาวเสียวสะดุ้ง สะท้านไปทั้งร่างก่อนที่เจ้าของกลีบกุหลาบนั้นจะกัดปากแน่น จิกสองมือลงผ้าปูที่คุ้นเคยครั้นริมฝีปากหนาดูดดึงเม็ดคลิตอริสของเธออย่างร้ายกาจ“อะอ่า...แม็ก
การประคองคนเมาที่ตัวสูงใหญ่ทุลักทุเลจนต้องเรียกพนักงานผู้ชายช่วยอีกแรง ในตอนนี้กวางกำลังเข้าใจผิดแบบมหันต์ว่าชายที่เมาแทบหมดสตินั้นเป็นแฟนของตัวเอง“วางพี่เขาตรงนี้เลย”กวางรีบเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับ เอนเบาะลงเล็กน้อยให้ชายหนุ่มได้นอนหลับไปในรถ พนักงานประคองมิกกี้เข้าไปแล้วช่วยรัดเข็มขัดคนเมาในท่ากึ่งนอนเพื่อให้อยู่ในความปลอดภัย“เรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบใจนะ นี่ติป”เธอควักเงินในกระเป๋าส่งเป็นน้ำใจที่ช่วยกันแบกคนไร้สตินี้มา ก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเข้าไปดูอาการชายหนุ่มที่นอนรอในรถ ส่วนพนักงานของคลับก็ยืนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สายตาส่องมองหาชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกัน“อีกคนไปไหน หรือกลับไปแล้ว”เพราะเขาเห็นว่าคนที่เมาอยู่ตอนนี้มากับผู้ชายที่เหมือนกันเพราะเป็นแฝด แต่เมื่อมองหาแล้วไม่เห็นก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ รีบเดินกลับเข้าไปในคลับทำหน้าที่ของตัวเองต่อกวางสตาร์จเครื่องยนต์เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท เสดวงตามองชายหนุ่มที่คิดว่าคือคนรักของตัวเอง สองสามวันมานี่เธอและแม็กเวลล์คุยกันน้อยลงเพราะต่างคนต่างยุ่ง โดยเฉพาะแฟนหนุ่มที่ทุ่มเวลาให้กับกิจการส่วนตัว มีเพียงส่งข้อความถามไถ่และบอกรักกันทิ้งไว้
3 วันต่อมาหลังจากที่มิกกี้มาถึงประเทศไทยก็พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพียงหนึ่งคืน จากนั้นก็เข้ามายังออฟฟิศของน้องชายเพื่อช่วยดูระบบงานต่างๆ ครั้นผู้เป็นแม่ไหว้วานให้เขามาดูช่วยน้องชายฝาแฝด ขณะที่แม็กเวลล์ก็ยุ่งไม่ต่าง วางระบบไอทีที่ทันสมัยเพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในทุกวันมิกกี้ที่กำลังวางแผนงานบริหารให้น้องชาย ก็ต้องละสายตาออกจากงานสำคัญนั้น เมื่อจอมือถือมีข้อความแจ้งเข้ามา“Let’ s break up” (เราเลิกกันเถอะ)เหมือนโดนไฟช็อตทั่วทั้งร่าง เมื่อมาเรียมแฟนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกา รุ่นน้องอายุอ่อนกว่าเขาเพียงสองปีส่งข้อความมาหาเพื่อขอตัดความสัมพันธ์อย่างเลือดเย็น แม้จะมีสัญญาณบอกเหตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรวดเร็วขนาด เพราะก่อนหน้าเขาและแฟนสาวมีเรื่องบาดหมางใจกันตามประสาคนคบกัน การใช้ชีวิตและทัศนคติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อประคับประคองความรักให้มันตลอดรอดฝั่ง และแทนที่เขาจะมีเวลาได้อยู่ปรับความเข้าใจกับมาเรียม ทว่าจำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยงานน้องเพราะแม่เร่งรัดและร้องขอ แต่กลับกลายเป็นการเว้นช่องว่างให้แฟนสาวได้ตีตัวออกห่าง
ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา แม็กเวลล์ก็เริ่มเข้าสู่โหมดการทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัว อาคารที่ปล่อยเช่าสำหรับทำออฟฟิศเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ไอทีและมีอุปกรณ์สำนักงานอื่นทยอยตามมา“เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว”เสียงแหบของน้าแรมเอ่ยขึ้น วันนี้เธอติดรถมากับหลานชาย ครั้นอยากเห็นความคืบหน้าของบริษัท เอ็มไอที จำกัด ที่ลงทุนจดทะเบียนบริษัทตั้งยี่สิบล้าน และเมื่อมาถึงก็กับอ้าปากค้าง เบิกดวงตากว้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันใหญ่โตกว่าที่คิดไว้ซะอีก“ใกล้เสร็จแล้วครับน้าแรม ไม่น่าเกินอาทิตย์นี้”แม็กเวลล์เดินสำรวจออฟฟิศที่คืบหน้าไปมากกว่า 90% เหลือเพียงตกแต่งวางอุปกรณ์ส่วนอื่นเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นเดือน และหากนับเวลามันก็เหลือเพียงสิบกว่าวันเท่านั้น“แม่เขาเทให้หมดหน้าตักเลยนะแม็ก เห็นไหมว่าแม่เขาคิดถึงเราตลอดเวลา”“ครับน้าแรม”แม้กมลเนตรจะมีธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้ใหญ่โตหรือทำกำไรให้แบบล้นมือ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีขาดทุนบ้างบางไตรมาสตามพิษเศรษฐกิจที่กระทบกันทั่วโลก ผลประกอบที่ได้มาก็ต้องนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในธุรกิจและเหลือเข้ากระเป๋าเพียงเล็กน้อยแม็
รุ่งเช้าหนึ่งคืนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผ่านไปเร็วมาก แม็กเวลล์แทบไม่อยากออกไปจากตรงนี้ก็ได้แต่งอแงหน้ามุ่ยเหมือนเด็กน้อย นอนทิ้งตัวไม่ยอมขยับสักที จนกวางต้องฉุดคะเย้อดึงคนตัวใหญ่ขึ้นมา“ลุกอาบน้ำแต่งตัวค่ะ”"อือ...กวาง""ลุกได้แล้ว"“ยังไม่หายคิดถึงเลย”ชายหนุ่มงัวเงียนั่งหลังโก่งบนเตียง สภาพล่อนจ้อนเพราะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงผ้าห่มที่ยังปิดส่วนล่าง ส่วนกวางก็สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำสีขาว รอเสื้อผ้าตัวเองที่ใช้บริการของทางโรงแรมให้แม่บ้านซักรีดแล้วนำมาคืน ส่วนแฟนหนุ่มไม่ต้องห่วงเพราะมีมาเต็มกระเป๋า“กวางต้องพาแม่ไปคุยงาน”“ทำไมต้องเอง”“คนขับรถป่วยแอดมิตที่โรงพยาบาล”“ขับรถเป็น แล้วเอาใหญ่เลย”ชายหนุ่มแอบว่ากวาง แฟนสาวเพิ่งขับรถเป็นก็ห่วงในความปลอดภัย“จะได้ไม่กวนพี่ไปรับไปส่งไง อีกอย่างธุรกิจของคุณแม่กำลังไปได้ดี มีนัดกับผู้ใหญ่หลายท่าน จะมาผิดคำพูดเพราะไม่มีคนขับรถให้เหรอ”กวางตอบแบบมีเหตุมีผล ทำแม็กเวลล์ที่อยากงอแงต่อก็ได้แค่หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองในเข่ง คว้าผ้าเช็ดตัวที่กวางวางไว้รอ พันรอบเอวแบบลวกๆ แล้วเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ห้องพั
ห้องสวีทชั้นที่เก้าถูกเปิดหนึ่งคืนสำหรับคู่รักที่ห่างจากกันเป็นเดือน แม็กเวลล์แค่อยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับคนที่รัก อยากมีเวลาส่วนตัวแบบที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ด้านในโรแมนติกกว่าที่คิด มันถูกออกแบบเพื่อคู่รักโดยเฉพาะ เตียงนอนนิ่มสีขาวขนาดใหญ่ แบบกลิ้งสองคนก็ยังมีพื้นที่เหลือ ตกแต่งออกแนวเซ็กซี่เล็กน้อย ห้องน้ำเป็นกระจกสามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านในและด้านนอก ระเบียงกว้างมีโต๊ะขนาดเล็กให้พอได้นั่งจิบไวน์รับลมและมองวิวที่มีแม่น้ำไหลผ่านกวางวางกระเป๋าสะพายของตัวเองไปรับลมที่มุมระเบียง มองวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนก็สวยงามมากทีเดียว ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เธอหันมองแต่ก็ไม่ได้ใส่มากกว่าวิวแสงสีระยิบระยับด้านหน้า แม็กเวลล์ออเดอร์เครื่องดื่มขึ้นมา ครั้นอยากผ่อนคลายกับแฟนสาวหลังจากนั่งเครื่องบินเดินทางทั้งวัน“ไหนบอกอยากพัก”“ก็ถือว่าเป็นการผ่อนคลาย”ชายหนุ่มเทเครื่องดื่มสีแดงเข้มลงแก้วทรงสูง นั่งเก้าอี้โดยมีกวางขยับตัวมายืนด้านหลัง เพราะรู้ว่าแฟนหนุ่มคงเมื่อยตัว บีบมือลงที่ลาดไหล่หนาช่วยนวดให้ผ่อนคลาย ก็รู้สึกดีไม่น้อย เหมือนกล้ามเนื้อได้ยืดตัวก็พลันเคลิ้มขึ้นมา แม็กเวลล์เอื้อมมือหนาของตนเตะ