ร่างขาวสะดุ้งทุกครั้งที่ข้อนิ้วตำเข้ามาแรง กัดปากตัวเองแน่นแล้วบิดเร้าเรือนร่างยามที่คนด้านบนกระแทกนิ้วเข้าใส่รัวจนเกิดเสียงแจ๊ะๆ มิกกี้มองช่องทางสวยฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่น มองหน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบเต่งตึงอย่างพึงพอใจ แม้ตอนนี้ความเมามายที่มีจะเริ่มส่างขึ้น แต่อารมณ์ความต้องการกลับเข้ามาแทนที่จนไม่อาจหยุดได้
“เลียไหม”
เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชิดริมหู อีกฝ่ายที่นอนเสียวซ่านกัดปากแล้วครางอื้อออกมาเป็นคำตอบ ก่อนที่ศีรษะของมิกกี้จะมุดลงไปกลางหว่างขา
ชายหนุ่มมุดหน้าลงไป แม้ดวงตาพร่าเบลอจากความเมาก็พอมองเห็นรางๆ ว่าส่วนนั้นสวยงามแค่ไหน รอยแยกที่ปริออกแล้วมีเม็ดสีชมพูคล้ำโผล่ขึ้นมาจากการใช้งานและเสียดสีมาหลายปีประจักษ์ต่อดวงตาของชายแฝดคนพี่ พลันยั่วยวนจนอดไม่ได้ที่อยากใช้ปากสัมผัสมัน กวางตัวแอ่นเร่ามองศีรษะทุยที่กำลังซุกลงพร้อมกับการจูบเบาๆ ไปก่อนหนึ่งที เพียงแค่ลมหายใจร้อนจากปลายจมูกของชายหนุ่มปะทะเข้าเนื้อผิวกลีบกุหลาบบางก็ทำร่างขาวเสียวสะดุ้ง สะท้านไปทั้งร่างก่อนที่เจ้าของกลีบกุหลาบนั้นจะกัดปากแน่น จิกสองมือลงผ้าปูที่คุ้นเคยครั้นริมฝีปากหนาดูดดึงเม็ดคลิตอริสของเธออย่างร้ายกาจ
“อะอ่า...แม็ก”
ความเสียวซ่านกำลังไต่ระดับขึ้น สมองก็พลันขาวโพลน กวางรู้แค่ว่าครั้งนี้แฟนหนุ่มไม่ได้จู่โจมเธอมากเหมือนทุกๆ ครั้ง ก็คงเป็นเพราะว่าเขาเมา จนเป็นผลให้เรี่ยวแรงจากที่เอาแต่ดุเดือดใส่กันอ่อนลง แต่กระนั้นก็ยังคงทำมันได้ดี เขาใช้ริมฝีปากขบดูดจนส่วนนั้นแทบจะบวมเป่ง สลับการใช้ปลายลิ้นดุนดันเข้ามาภายในแล้วยังโลมเลียจนร่างขาวสะดุ้งก้นลอยเหนือเตียง
“พะพี่...ฮื่อ เลียเก่งจัง”
แผล็บ!!
แผล็บ!!
จังหวะการตวัดทำกวางเคลิบเคลิ้ม กระเส่าครางหนักครั้นเนินอวบอูมมีลิ้นสากปาดขึ้นลง ความเสียวกระสันทำร่างกายเกร็งขึ้นทีละส่วน สองมือจากที่จิกผ้าปูแน่นจนยับยู่ยี่ สอดสางเข้ากลุ่มผมดำที่อยู่ด้านล่างแล้วจิกทึ้งแรงๆ อย่างลืมตัว
“เสียว อ้า...”
“หวานจัง...หวานมากกว่าเดิม”
มิกกี้เอ่ยชมที่ได้ลิ้มรสน้ำเหนียวไหลหลั่งออกมาจากภายใน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำหวานที่กลืนลงคอนั้นเป็นของแฟนน้องชาย อารมณ์กระสันและความเมาเข้าครอบงำมิกกี้จนไม่ฉุกคิด ขณะที่กวางก็นอนแอ่นเร้าร่างกายไปมาหนักขึ้นจับจุดสังเกตอะไรไม่ได้เลยว่าไม่ใช่แฟนหนุ่ม
เรียวลิ้นร้อนโลมเลียอย่างหนัก พลางดูดดื่มและซดช่องทางจนเกิดเสียงลามก กวางที่ได้แต่นอนบิดสะโพก ปล่อยร่างกายให้อีกฝ่ายได้ครอบครองอย่างเป็นอิสระ
ชายหนุ่มยกตัวกลับขึ้นมาคร่อม เขาป้อนจูบให้กับคนนอนไปพร้อมกับการปลดเข็มขัดตัวเองอย่างทุลักทุเล แต่ทว่าก็ถอดมันได้ภายในไม่กี่วินาทีครั้นคนใต้ร่างช่วยปลดและรูดซิป ขอบกางเกงร่นไปกองที่หัวเข่า มิกกี้จับแก่นกายตัวเอง มันแข็งขึ้นเป็นลำพร้อมใช้งานครั้นมีร่างขาวสวยนอนยั่วยวนอยู่ตรงหน้า เขาขยับเข้าไปชิดหว่างขาขาวที่อ้ากว้างพร้อมรับแรงกระแทก ชายหนุ่มค่อยๆ กดความใหญ่โตไปทั้งความเมา มองดวงหน้าสวยแบบเบลอๆ ก็ยังคิดว่าคือแฟนสาวมาเรียว
ท่อนลำใหญ่แทรกเข้าไปทีละนิด เสียดเสียวมากทีเดียวแม้แค่ค้างเอาไว้ภายในก็ตาม
“อ๊อส์...เข้ามาอีก เข้ามาลึกๆ”
กวางบอกจังหวะให้คนบนร่างกดเข้ามา มิกกี้ช้อนข้อพับขาสองข้างดันขึ้นจนหัวเข่าแทบชนกับหน้าอกของหญิงสาว กดท่อนลำใหญ่ลงไปลึก พร้อมกับเสียงครางที่เปล่งออกมาเพราะความเสียว กวางนิ่วหน้ารับความใหญ่โตที่กดเข้าใส่จนสุด จากนั้นจังหวะการกระแทกก็เริ่มขึ้น มิกกี้สอบเอวหนาเข้าใส่คนใต้ร่าง ก้มหน้าลงส่งลิ้นร้อนเข้าโพรงปากเกี่ยวกับกระหวัดไปพร้อมกับจังหวะที่ขยับโยกเข้าออกแรงขึ้น
ตับ!!
ตับ!!
ตับ!!
ช่องทางภายในตอดรัดรึงอย่างหนัก ทำเลือดในกายสูบฉีดวิ่งพล่านราวกับกองไฟกำลังลุกโชน กวางนอนกระเพื่อมมองใบหน้าหล่อเหลาของคนเหนืออาณัติก็อดที่จะยกไปมือแก้มร้อนผ่าวไม่ได้ มีความสุขทุกครั้งที่ได้แนบชิดร่างกายกับแฟนหนุ่ม และครั้งนี้เธอกลับรู้สึกว่าร่างกายตื่นเต้นผิดปกติทั้งที่มีอะไรกันมาก็นับไม่ถ้วน แม้ท่าทางรักจะถูกทำกันด้วยท่าเดียว ทว่ามันก็เสียดเสียวไม่น้อย เมื่ออีกฝ่ายกระแทกเข้าใส่อย่างตรงจุด เวลานี้มีเพียงความรู้สึกกระสันซ่านที่แล่นร่างสองร่าง จนไม่อาจฉุกคิดว่าใครเป็นใคร
“อะๆ อ่า อ้าเสียว...อ๊า!!”
“ฮืมมม...ซีดดดด”
มิกกี้เชิดหน้าแล้วสูดปาก ขยับเอวกระแทกเข้าใส่ เนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นแบบไม่มีพัก พลางบดและควงท่อนลำหนาเป็นวงกลมคว้านอยู่ภายใน ทำกวางครางเสียงหลงครั้นปลายหัวหยักตำจุดกระสันเข้าจังๆ กระทั่งชายหนุ่มกระตุกขึ้นมาและปลดปล่อยน้ำรักเข้าช่องทางของคนใต้ร่าง กวางเองไม่ได้ตกใจเพราะตลอดที่คบกับแฟนหนุ่มก็ป้องกันด้วยการคุมกำเนิดอย่างดี
“ซีดดดด”
“เมาหนัก แต่ก็ยังกระแทกกวางได้ พี่นี่มันน่าตีจริงๆ”
กวางแอบค้อนและหมั่นไส้ชายหนุ่มในเวลาเดียวกัน ก่อนที่มิกกี้จะล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปในที่สุด
....
เช้าตรู่
ไฟในห้องเปิดเพียงดวงที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง กวางลุกขึ้นแต่เช้าเพราะเมื่อคืนไม่ได้บอกแม่ว่ามาค้างที่นี่ ต้องรีบกลับก่อนแม่จะตื่นมากินอาหารเช้าและยังมีหน้าที่ขับรถพาแม่ไปทำธุระที่ช่วงนี้ยุ่งจนรัดตัว
เสียงก๊อกแก๊กที่ดังอยู่รอบๆ ทำมิกกี้ที่ยังมีอาการแฮงก์รู้สึก ดวงตาที่หนักอึ้งค่อยเปิดหรี่ก็เห็นว่าในห้องนี้มีอีกคนอยู่ด้วย
!!
ภาพที่เห็นคือเธอกำลังสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย มิกกี้ตกใจไม่น้อย สับสนมึนงงครั้นเห็นผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักและไม่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ด้วยกัน ในใจแอบคิดว่าเมาหนักถึงขั้นหิ้วคนแปลกหน้าเข้ามาบ้าน จะอ้าปากเอ่ยถามก็มึนเบลอจนไม่รู้จะเรียบเรียงอะไรก่อนหลัง
“กวางทำพี่ตื่นเหรอ”
“...”
น้ำเสียงและคำถามนั้นมันไม่เหมือนคนแปลกหน้าเลยสักนิด พลันนั้นเรียวคิ้วหนาของมิกกี้ก็ขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
“ปวดหัวไหม”
หญิงสาวลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งมานั่งข้างเตียง วางมือเกลี่ยข้างแก้มของชายหนุ่มแล้วจูบลงเบาๆ หนึ่งที มิกกี้พลันตกใจก็ได้แต่ทำตาโตก็เท่านั้น เมื่อดวงตาที่เริ่มปรับโฟกัสได้เห็นรูปถ่ายเจ้าของห้องนี้กับผู้หญิงที่เพิ่งจะหอมแก้มเข้าเสร็จไปหมาดๆ แขวนไว้ข้างผนังของห้อง
“...”
“กวางกลับก่อนนะพี่แม็ก เดี๋ยวคุณแม่เป็นห่วง”
“อืม...”
มิกกี้พยักน้าแล้วตอบเพียงสั้นๆ พร้อมกับความรู้สึกอันตกใจปนมึนงง เมื่อร่างน้อยๆ เดินหายลับออกไป ก็รีบลุกจากเตียง มองรอบห้องนอนที่ไม่ใช่ห้องตัวเอง แต่มันคือห้องนอนของน้องชาย ภาพถ่ายหลายชิ้นที่วางตั้ง รวมทั้งของขวัญที่ให้กันได้วันเกิดก็ยืนยันได้เลยว่าแม็กเวลล์กับผู้หญิงที่ชื่อกวางเป็นแฟนกัน
“เวรแล้วไอ้มิก เมื่อคืน...”
เหตุการณ์นั้นยังพอจำได้รางๆ เมื่อคืนเขากับแฟนน้องชายมีอะไรกัน มิกกี้ยกมือกุมขมับกับสิ่งที่ทำลงไป ถ้าแม็กเวลล์รู้ขึ้นจะเป็นยังไง เพิ่งดีกันตามประสาพี่น้องจากปัญหาผู้ใหญ่ได้ไม่นาน แต่จะมาทะเลาะกันเพราะเขาเมาจนเผลอไผลไปกับแฟนน้องชายอีกหรือนี่
บานประตูห้องนอนของมิกกี้เปิดออก เขาก้าวเท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า หยุดอยู่กลางห้องก่อนจะยกมือกุมหน้าตัวเอง ความเสียใจที่ถูกแฟนสาวบอกเลิกเหมือนจะหายไปภายในค่ำคืนเดียวและถูกแทนที่ด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่มีสติสัมปชัญญะ สมองมึนเบลอเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควร อยากเอาหัวโขลกพื้นหรือหายตัวกลับอเมริกาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อมีหน้าที่ใหญ่ต้องช่วยงานบริหารของน้องชายรออยู่ตรงหน้า มือหนาที่กุมใบหน้าร้อนผ่าวลูบขึ้นไปที่ศีรษะสางเส้นผมดำหนาแล้วกำแรงๆ เหมือนพยายามจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็เป็นไปแล้วเผลอมีอะไรกับแฟนน้องเพราะความเมามาย...หงายตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกหวั่นกลัว กลัวว่าแม็กเวลล์จะรู้เรื่องนี้ กลัวว่าน้องจะเกลียดกันอีกครั้ง นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างกังวลครั้นตอนนี้ความมึนเมาเริ่มสร่างและสติเริ่มกลับมา“ทำยังไงต่อวะมิก ถ้าแม็กรู้ขึ้นมา...”เหมือนจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องเก็บเงียบงำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงคนเดียว ความกลัวและกังวลยังสุมอยู่ในหัวก็พลันส่ายใบหน้าไปมา อยากจะสลัดความคิดกังวลแล้วทำเป็นเพิกเฉยก็ทำไม่ไ
แม็กเวลล์ถูกห้ามเข้าโรงพยาบาลในเวลาต่อมา นอนนิ่งบนเตียงผู้ป่วยจนเดือนแรมแอบใจเสีย ครั้งสุดท้ายที่หลานคนเล็กป่วยหนักก็ตอนเป็นไข้เลือดออกในช่วงมัธยมต้น ถึงขั้นนอนโรงพยาบาลและเฝ้ากันเป็นอาทิตย์และก็ครั้งนี้ไข้ขึ้นสูงจนลุกไม่ขึ้น คนป่วยถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน ตรวจอาการในท่วงทีเพราะแม็กเวลล์ตัวร้อนจัด เสี่ยงมีอาการช็อกจากไข้ขึ้นสูง ด้านนอกก็รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ น้าแรมนั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินวนไปวนมาอย่างร้อนใจ ชะเง้อส่องหลานคนเล็กด้วยความเป็นห่วงมากทีเดียว ส่วนมิกกี้ก็เป็นห่วงน้องมากเช่นกัน ทว่ายังมีสตินั่งกุมมือตัวเองอยู่กับที่ ไม่ลุกเพ่นพ่านครั้นคนป่วยและญาติคนป่วยเดินสวนสนามอย่างกับเป็นตลาดนัด อีกทั้งการนั่งบนเก้าอี้ช่วยลดการเกะกะต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังเดินส่งคนไข้ “มิก หมอออกมาแล้ว” ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมาพร้อมกับคุณหมอผู้ชายอายุราวๆ สี่สิบปี “น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ” “คุณเป็นพี่ชายใช่ไหม” คุณหมอถามเพื่อความแน่ใจ แต่เพราะหน้าตาที่เหมือนกันจนเผลอตกใจนึกว่าคนไข้ลุกจากเตียงออกมา ทว่าก็เดาได้ว่าเป็นฝาแฝดที่หน้าเหมือนกันจนแยกไม่ออก “ใช่ครับ ผมเป็นพี่ชาย” “คุณแ
บริษัท เอ็มไอที จำกัด มิกกี้เข้ามาดูงานต่อให้น้อง หลังจากที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลได้คืนที่สอง มีน้าแรมคอยดูแลไม่ห่าง อยู่เป็นเพื่อนทั้งวันและจะกลับมาบ้านแค่ตอนกลางคืน จากเดิมที่เขาต้องเข้ามาดูแลและคอยช่วยเหลือในระบบงานบริหาร กลายเป็นว่าทั้งหมดในบริษัทมิกกี้ต้องเข้ามาดูแลแทนน้องไปก่อน แม้กระทั่งพนักงานจากส่วนอื่นที่เข้ามาติดตั้งระบบต่างๆ ต่างก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาคือแม็กเวลล์ น้องชายฝาแฝดที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก “เรียบร้อยแล้วครับคุณแม็ก พร้อมส่งงานเลย” ระบบซอฟต์แวร์บริษัทถูกติดตั้งสมบูรณ์พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารการติดตั้งและเอกสารการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์นี้แต่เพียงผู้เดียวให้มิกกี้ที่เข้าใจว่าคือแม็กเวล์ ทว่าเจ้าตัวก็ปล่อยให้คนอื่นเข้าใจไปแบบนั้นเพื่อง่ายต่อการมอบงาน เพราะหากอีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ใช่เจ้าของบริษัทนี้ก็คงชะงักและรอให้แม็กเวลล์หายดี ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ทันอย่างที่น้องชายเขาตั้งใจเอาไว้ เขาเซ็นรับงานโดยเป็นชื่อของแม็กเวลล์และไม่ได้ทำโดยพลการ เมื่อน้องชายเขาอนุญาตให้ทำแทนได้ ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์รอแค่วันเปิดตัว เจ้าหน้าที่จากส่วนอื่นทยอยกันกลับบ้าน เหลือเพ
เครื่องบินโบอิ้งลำใหญ่กำลังแลนดิ้งลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินจากอเมริกาไฟลท์ TG9397 เดินทางมาถึงในเวลาสามทุ่มเศษ แม็กเวลล์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปีเพิ่งเดินทางกลับหลังจากมีธุระต้องบินไปต่างประเทศด่วน เขาเป็นลูกชายคนเล็กของกมลเนตร แต่ทว่าในช่วงวัยเด็ก ครอบครัวมีปัญหาทำให้เขาและแม่ต้องแยกกันอยู่ มีช่วงหนึ่งคือขาดการติดต่อนับสิบปี แต่ก็ยังรู้ข่าวคราวบ้างจากคนรอบตัว เมื่อพ่อแม่เลิกกันลูกชายฝาแฝดเลยถูกแบ่งกันเลี้ยงดู คนโตคือมิกกี้ไปอยู่กับแม่ คนเล็กคือตัวเขาเองไปอยู่กับพ่อ แม้จะไม่รู้ปัญหาลึกๆ ของผู้ใหญ่แต่มันทำให้เขาโกรธแม่และพี่ชายมากทีเดียว ชีวิตที่มีแค่พ่อลำบากมากถึงขั้นหลั่งน้ำตา แต่ชีวิตแม่กับพี่ชายดันสุขสบายและมีครอบครัวใหม่อยู่ที่นั่นจนกระทั่งพ่อได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในตอนเขาอายุ 15 ปี เมื่อไม่มีญาติผู้ใหญ่คอยดูแล กมลเนตรหวังจะกลับมารับลูกไปอยู่ด้วยกัน ทว่าเขายังที่รู้สึกว่าแม่เห็นแก่ตัว หาความสุขสบายใส่ตัว เลยเลือกที่จะอยู่กับน้องสาวแม่ นั่นก็คือเดือนแรมหรือน้าแรมที่เขาเรียกติดปากมาจนทุกวันนี้แต่เมื่อเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน วันเวลาเปลี่ยน เขาเริ่มโตขึ้น ความโกรธที่เคยสุมอกใ
ห้องสวีทชั้นที่เก้าถูกเปิดหนึ่งคืนสำหรับคู่รักที่ห่างจากกันเป็นเดือน แม็กเวลล์แค่อยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับคนที่รัก อยากมีเวลาส่วนตัวแบบที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ด้านในโรแมนติกกว่าที่คิด มันถูกออกแบบเพื่อคู่รักโดยเฉพาะ เตียงนอนนิ่มสีขาวขนาดใหญ่ แบบกลิ้งสองคนก็ยังมีพื้นที่เหลือ ตกแต่งออกแนวเซ็กซี่เล็กน้อย ห้องน้ำเป็นกระจกสามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านในและด้านนอก ระเบียงกว้างมีโต๊ะขนาดเล็กให้พอได้นั่งจิบไวน์รับลมและมองวิวที่มีแม่น้ำไหลผ่านกวางวางกระเป๋าสะพายของตัวเองไปรับลมที่มุมระเบียง มองวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนก็สวยงามมากทีเดียว ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เธอหันมองแต่ก็ไม่ได้ใส่มากกว่าวิวแสงสีระยิบระยับด้านหน้า แม็กเวลล์ออเดอร์เครื่องดื่มขึ้นมา ครั้นอยากผ่อนคลายกับแฟนสาวหลังจากนั่งเครื่องบินเดินทางทั้งวัน“ไหนบอกอยากพัก”“ก็ถือว่าเป็นการผ่อนคลาย”ชายหนุ่มเทเครื่องดื่มสีแดงเข้มลงแก้วทรงสูง นั่งเก้าอี้โดยมีกวางขยับตัวมายืนด้านหลัง เพราะรู้ว่าแฟนหนุ่มคงเมื่อยตัว บีบมือลงที่ลาดไหล่หนาช่วยนวดให้ผ่อนคลาย ก็รู้สึกดีไม่น้อย เหมือนกล้ามเนื้อได้ยืดตัวก็พลันเคลิ้มขึ้นมา แม็กเวลล์เอื้อมมือหนาของตนเตะ
รุ่งเช้าหนึ่งคืนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผ่านไปเร็วมาก แม็กเวลล์แทบไม่อยากออกไปจากตรงนี้ก็ได้แต่งอแงหน้ามุ่ยเหมือนเด็กน้อย นอนทิ้งตัวไม่ยอมขยับสักที จนกวางต้องฉุดคะเย้อดึงคนตัวใหญ่ขึ้นมา“ลุกอาบน้ำแต่งตัวค่ะ”"อือ...กวาง""ลุกได้แล้ว"“ยังไม่หายคิดถึงเลย”ชายหนุ่มงัวเงียนั่งหลังโก่งบนเตียง สภาพล่อนจ้อนเพราะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงผ้าห่มที่ยังปิดส่วนล่าง ส่วนกวางก็สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำสีขาว รอเสื้อผ้าตัวเองที่ใช้บริการของทางโรงแรมให้แม่บ้านซักรีดแล้วนำมาคืน ส่วนแฟนหนุ่มไม่ต้องห่วงเพราะมีมาเต็มกระเป๋า“กวางต้องพาแม่ไปคุยงาน”“ทำไมต้องเอง”“คนขับรถป่วยแอดมิตที่โรงพยาบาล”“ขับรถเป็น แล้วเอาใหญ่เลย”ชายหนุ่มแอบว่ากวาง แฟนสาวเพิ่งขับรถเป็นก็ห่วงในความปลอดภัย“จะได้ไม่กวนพี่ไปรับไปส่งไง อีกอย่างธุรกิจของคุณแม่กำลังไปได้ดี มีนัดกับผู้ใหญ่หลายท่าน จะมาผิดคำพูดเพราะไม่มีคนขับรถให้เหรอ”กวางตอบแบบมีเหตุมีผล ทำแม็กเวลล์ที่อยากงอแงต่อก็ได้แค่หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองในเข่ง คว้าผ้าเช็ดตัวที่กวางวางไว้รอ พันรอบเอวแบบลวกๆ แล้วเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ห้องพั
ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา แม็กเวลล์ก็เริ่มเข้าสู่โหมดการทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัว อาคารที่ปล่อยเช่าสำหรับทำออฟฟิศเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ไอทีและมีอุปกรณ์สำนักงานอื่นทยอยตามมา“เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว”เสียงแหบของน้าแรมเอ่ยขึ้น วันนี้เธอติดรถมากับหลานชาย ครั้นอยากเห็นความคืบหน้าของบริษัท เอ็มไอที จำกัด ที่ลงทุนจดทะเบียนบริษัทตั้งยี่สิบล้าน และเมื่อมาถึงก็กับอ้าปากค้าง เบิกดวงตากว้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันใหญ่โตกว่าที่คิดไว้ซะอีก“ใกล้เสร็จแล้วครับน้าแรม ไม่น่าเกินอาทิตย์นี้”แม็กเวลล์เดินสำรวจออฟฟิศที่คืบหน้าไปมากกว่า 90% เหลือเพียงตกแต่งวางอุปกรณ์ส่วนอื่นเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นเดือน และหากนับเวลามันก็เหลือเพียงสิบกว่าวันเท่านั้น“แม่เขาเทให้หมดหน้าตักเลยนะแม็ก เห็นไหมว่าแม่เขาคิดถึงเราตลอดเวลา”“ครับน้าแรม”แม้กมลเนตรจะมีธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้ใหญ่โตหรือทำกำไรให้แบบล้นมือ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีขาดทุนบ้างบางไตรมาสตามพิษเศรษฐกิจที่กระทบกันทั่วโลก ผลประกอบที่ได้มาก็ต้องนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในธุรกิจและเหลือเข้ากระเป๋าเพียงเล็กน้อยแม็
3 วันต่อมาหลังจากที่มิกกี้มาถึงประเทศไทยก็พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพียงหนึ่งคืน จากนั้นก็เข้ามายังออฟฟิศของน้องชายเพื่อช่วยดูระบบงานต่างๆ ครั้นผู้เป็นแม่ไหว้วานให้เขามาดูช่วยน้องชายฝาแฝด ขณะที่แม็กเวลล์ก็ยุ่งไม่ต่าง วางระบบไอทีที่ทันสมัยเพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในทุกวันมิกกี้ที่กำลังวางแผนงานบริหารให้น้องชาย ก็ต้องละสายตาออกจากงานสำคัญนั้น เมื่อจอมือถือมีข้อความแจ้งเข้ามา“Let’ s break up” (เราเลิกกันเถอะ)เหมือนโดนไฟช็อตทั่วทั้งร่าง เมื่อมาเรียมแฟนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกา รุ่นน้องอายุอ่อนกว่าเขาเพียงสองปีส่งข้อความมาหาเพื่อขอตัดความสัมพันธ์อย่างเลือดเย็น แม้จะมีสัญญาณบอกเหตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรวดเร็วขนาด เพราะก่อนหน้าเขาและแฟนสาวมีเรื่องบาดหมางใจกันตามประสาคนคบกัน การใช้ชีวิตและทัศนคติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อประคับประคองความรักให้มันตลอดรอดฝั่ง และแทนที่เขาจะมีเวลาได้อยู่ปรับความเข้าใจกับมาเรียม ทว่าจำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยงานน้องเพราะแม่เร่งรัดและร้องขอ แต่กลับกลายเป็นการเว้นช่องว่างให้แฟนสาวได้ตีตัวออกห่าง
บริษัท เอ็มไอที จำกัด มิกกี้เข้ามาดูงานต่อให้น้อง หลังจากที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลได้คืนที่สอง มีน้าแรมคอยดูแลไม่ห่าง อยู่เป็นเพื่อนทั้งวันและจะกลับมาบ้านแค่ตอนกลางคืน จากเดิมที่เขาต้องเข้ามาดูแลและคอยช่วยเหลือในระบบงานบริหาร กลายเป็นว่าทั้งหมดในบริษัทมิกกี้ต้องเข้ามาดูแลแทนน้องไปก่อน แม้กระทั่งพนักงานจากส่วนอื่นที่เข้ามาติดตั้งระบบต่างๆ ต่างก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาคือแม็กเวลล์ น้องชายฝาแฝดที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก “เรียบร้อยแล้วครับคุณแม็ก พร้อมส่งงานเลย” ระบบซอฟต์แวร์บริษัทถูกติดตั้งสมบูรณ์พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารการติดตั้งและเอกสารการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์นี้แต่เพียงผู้เดียวให้มิกกี้ที่เข้าใจว่าคือแม็กเวล์ ทว่าเจ้าตัวก็ปล่อยให้คนอื่นเข้าใจไปแบบนั้นเพื่อง่ายต่อการมอบงาน เพราะหากอีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ใช่เจ้าของบริษัทนี้ก็คงชะงักและรอให้แม็กเวลล์หายดี ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ทันอย่างที่น้องชายเขาตั้งใจเอาไว้ เขาเซ็นรับงานโดยเป็นชื่อของแม็กเวลล์และไม่ได้ทำโดยพลการ เมื่อน้องชายเขาอนุญาตให้ทำแทนได้ ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์รอแค่วันเปิดตัว เจ้าหน้าที่จากส่วนอื่นทยอยกันกลับบ้าน เหลือเพ
แม็กเวลล์ถูกห้ามเข้าโรงพยาบาลในเวลาต่อมา นอนนิ่งบนเตียงผู้ป่วยจนเดือนแรมแอบใจเสีย ครั้งสุดท้ายที่หลานคนเล็กป่วยหนักก็ตอนเป็นไข้เลือดออกในช่วงมัธยมต้น ถึงขั้นนอนโรงพยาบาลและเฝ้ากันเป็นอาทิตย์และก็ครั้งนี้ไข้ขึ้นสูงจนลุกไม่ขึ้น คนป่วยถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน ตรวจอาการในท่วงทีเพราะแม็กเวลล์ตัวร้อนจัด เสี่ยงมีอาการช็อกจากไข้ขึ้นสูง ด้านนอกก็รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ น้าแรมนั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินวนไปวนมาอย่างร้อนใจ ชะเง้อส่องหลานคนเล็กด้วยความเป็นห่วงมากทีเดียว ส่วนมิกกี้ก็เป็นห่วงน้องมากเช่นกัน ทว่ายังมีสตินั่งกุมมือตัวเองอยู่กับที่ ไม่ลุกเพ่นพ่านครั้นคนป่วยและญาติคนป่วยเดินสวนสนามอย่างกับเป็นตลาดนัด อีกทั้งการนั่งบนเก้าอี้ช่วยลดการเกะกะต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังเดินส่งคนไข้ “มิก หมอออกมาแล้ว” ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมาพร้อมกับคุณหมอผู้ชายอายุราวๆ สี่สิบปี “น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ” “คุณเป็นพี่ชายใช่ไหม” คุณหมอถามเพื่อความแน่ใจ แต่เพราะหน้าตาที่เหมือนกันจนเผลอตกใจนึกว่าคนไข้ลุกจากเตียงออกมา ทว่าก็เดาได้ว่าเป็นฝาแฝดที่หน้าเหมือนกันจนแยกไม่ออก “ใช่ครับ ผมเป็นพี่ชาย” “คุณแ
บานประตูห้องนอนของมิกกี้เปิดออก เขาก้าวเท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า หยุดอยู่กลางห้องก่อนจะยกมือกุมหน้าตัวเอง ความเสียใจที่ถูกแฟนสาวบอกเลิกเหมือนจะหายไปภายในค่ำคืนเดียวและถูกแทนที่ด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่มีสติสัมปชัญญะ สมองมึนเบลอเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควร อยากเอาหัวโขลกพื้นหรือหายตัวกลับอเมริกาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อมีหน้าที่ใหญ่ต้องช่วยงานบริหารของน้องชายรออยู่ตรงหน้า มือหนาที่กุมใบหน้าร้อนผ่าวลูบขึ้นไปที่ศีรษะสางเส้นผมดำหนาแล้วกำแรงๆ เหมือนพยายามจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็เป็นไปแล้วเผลอมีอะไรกับแฟนน้องเพราะความเมามาย...หงายตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกหวั่นกลัว กลัวว่าแม็กเวลล์จะรู้เรื่องนี้ กลัวว่าน้องจะเกลียดกันอีกครั้ง นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างกังวลครั้นตอนนี้ความมึนเมาเริ่มสร่างและสติเริ่มกลับมา“ทำยังไงต่อวะมิก ถ้าแม็กรู้ขึ้นมา...”เหมือนจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องเก็บเงียบงำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงคนเดียว ความกลัวและกังวลยังสุมอยู่ในหัวก็พลันส่ายใบหน้าไปมา อยากจะสลัดความคิดกังวลแล้วทำเป็นเพิกเฉยก็ทำไม่ไ
ร่างขาวสะดุ้งทุกครั้งที่ข้อนิ้วตำเข้ามาแรง กัดปากตัวเองแน่นแล้วบิดเร้าเรือนร่างยามที่คนด้านบนกระแทกนิ้วเข้าใส่รัวจนเกิดเสียงแจ๊ะๆ มิกกี้มองช่องทางสวยฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่น มองหน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบเต่งตึงอย่างพึงพอใจ แม้ตอนนี้ความเมามายที่มีจะเริ่มส่างขึ้น แต่อารมณ์ความต้องการกลับเข้ามาแทนที่จนไม่อาจหยุดได้“เลียไหม”เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชิดริมหู อีกฝ่ายที่นอนเสียวซ่านกัดปากแล้วครางอื้อออกมาเป็นคำตอบ ก่อนที่ศีรษะของมิกกี้จะมุดลงไปกลางหว่างขาชายหนุ่มมุดหน้าลงไป แม้ดวงตาพร่าเบลอจากความเมาก็พอมองเห็นรางๆ ว่าส่วนนั้นสวยงามแค่ไหน รอยแยกที่ปริออกแล้วมีเม็ดสีชมพูคล้ำโผล่ขึ้นมาจากการใช้งานและเสียดสีมาหลายปีประจักษ์ต่อดวงตาของชายแฝดคนพี่ พลันยั่วยวนจนอดไม่ได้ที่อยากใช้ปากสัมผัสมัน กวางตัวแอ่นเร่ามองศีรษะทุยที่กำลังซุกลงพร้อมกับการจูบเบาๆ ไปก่อนหนึ่งที เพียงแค่ลมหายใจร้อนจากปลายจมูกของชายหนุ่มปะทะเข้าเนื้อผิวกลีบกุหลาบบางก็ทำร่างขาวเสียวสะดุ้ง สะท้านไปทั้งร่างก่อนที่เจ้าของกลีบกุหลาบนั้นจะกัดปากแน่น จิกสองมือลงผ้าปูที่คุ้นเคยครั้นริมฝีปากหนาดูดดึงเม็ดคลิตอริสของเธออย่างร้ายกาจ“อะอ่า...แม็ก
การประคองคนเมาที่ตัวสูงใหญ่ทุลักทุเลจนต้องเรียกพนักงานผู้ชายช่วยอีกแรง ในตอนนี้กวางกำลังเข้าใจผิดแบบมหันต์ว่าชายที่เมาแทบหมดสตินั้นเป็นแฟนของตัวเอง“วางพี่เขาตรงนี้เลย”กวางรีบเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับ เอนเบาะลงเล็กน้อยให้ชายหนุ่มได้นอนหลับไปในรถ พนักงานประคองมิกกี้เข้าไปแล้วช่วยรัดเข็มขัดคนเมาในท่ากึ่งนอนเพื่อให้อยู่ในความปลอดภัย“เรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบใจนะ นี่ติป”เธอควักเงินในกระเป๋าส่งเป็นน้ำใจที่ช่วยกันแบกคนไร้สตินี้มา ก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเข้าไปดูอาการชายหนุ่มที่นอนรอในรถ ส่วนพนักงานของคลับก็ยืนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สายตาส่องมองหาชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกัน“อีกคนไปไหน หรือกลับไปแล้ว”เพราะเขาเห็นว่าคนที่เมาอยู่ตอนนี้มากับผู้ชายที่เหมือนกันเพราะเป็นแฝด แต่เมื่อมองหาแล้วไม่เห็นก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ รีบเดินกลับเข้าไปในคลับทำหน้าที่ของตัวเองต่อกวางสตาร์จเครื่องยนต์เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท เสดวงตามองชายหนุ่มที่คิดว่าคือคนรักของตัวเอง สองสามวันมานี่เธอและแม็กเวลล์คุยกันน้อยลงเพราะต่างคนต่างยุ่ง โดยเฉพาะแฟนหนุ่มที่ทุ่มเวลาให้กับกิจการส่วนตัว มีเพียงส่งข้อความถามไถ่และบอกรักกันทิ้งไว้
3 วันต่อมาหลังจากที่มิกกี้มาถึงประเทศไทยก็พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพียงหนึ่งคืน จากนั้นก็เข้ามายังออฟฟิศของน้องชายเพื่อช่วยดูระบบงานต่างๆ ครั้นผู้เป็นแม่ไหว้วานให้เขามาดูช่วยน้องชายฝาแฝด ขณะที่แม็กเวลล์ก็ยุ่งไม่ต่าง วางระบบไอทีที่ทันสมัยเพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในทุกวันมิกกี้ที่กำลังวางแผนงานบริหารให้น้องชาย ก็ต้องละสายตาออกจากงานสำคัญนั้น เมื่อจอมือถือมีข้อความแจ้งเข้ามา“Let’ s break up” (เราเลิกกันเถอะ)เหมือนโดนไฟช็อตทั่วทั้งร่าง เมื่อมาเรียมแฟนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกา รุ่นน้องอายุอ่อนกว่าเขาเพียงสองปีส่งข้อความมาหาเพื่อขอตัดความสัมพันธ์อย่างเลือดเย็น แม้จะมีสัญญาณบอกเหตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรวดเร็วขนาด เพราะก่อนหน้าเขาและแฟนสาวมีเรื่องบาดหมางใจกันตามประสาคนคบกัน การใช้ชีวิตและทัศนคติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อประคับประคองความรักให้มันตลอดรอดฝั่ง และแทนที่เขาจะมีเวลาได้อยู่ปรับความเข้าใจกับมาเรียม ทว่าจำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยงานน้องเพราะแม่เร่งรัดและร้องขอ แต่กลับกลายเป็นการเว้นช่องว่างให้แฟนสาวได้ตีตัวออกห่าง
ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา แม็กเวลล์ก็เริ่มเข้าสู่โหมดการทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัว อาคารที่ปล่อยเช่าสำหรับทำออฟฟิศเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ไอทีและมีอุปกรณ์สำนักงานอื่นทยอยตามมา“เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว”เสียงแหบของน้าแรมเอ่ยขึ้น วันนี้เธอติดรถมากับหลานชาย ครั้นอยากเห็นความคืบหน้าของบริษัท เอ็มไอที จำกัด ที่ลงทุนจดทะเบียนบริษัทตั้งยี่สิบล้าน และเมื่อมาถึงก็กับอ้าปากค้าง เบิกดวงตากว้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันใหญ่โตกว่าที่คิดไว้ซะอีก“ใกล้เสร็จแล้วครับน้าแรม ไม่น่าเกินอาทิตย์นี้”แม็กเวลล์เดินสำรวจออฟฟิศที่คืบหน้าไปมากกว่า 90% เหลือเพียงตกแต่งวางอุปกรณ์ส่วนอื่นเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นเดือน และหากนับเวลามันก็เหลือเพียงสิบกว่าวันเท่านั้น“แม่เขาเทให้หมดหน้าตักเลยนะแม็ก เห็นไหมว่าแม่เขาคิดถึงเราตลอดเวลา”“ครับน้าแรม”แม้กมลเนตรจะมีธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้ใหญ่โตหรือทำกำไรให้แบบล้นมือ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีขาดทุนบ้างบางไตรมาสตามพิษเศรษฐกิจที่กระทบกันทั่วโลก ผลประกอบที่ได้มาก็ต้องนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในธุรกิจและเหลือเข้ากระเป๋าเพียงเล็กน้อยแม็
รุ่งเช้าหนึ่งคืนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผ่านไปเร็วมาก แม็กเวลล์แทบไม่อยากออกไปจากตรงนี้ก็ได้แต่งอแงหน้ามุ่ยเหมือนเด็กน้อย นอนทิ้งตัวไม่ยอมขยับสักที จนกวางต้องฉุดคะเย้อดึงคนตัวใหญ่ขึ้นมา“ลุกอาบน้ำแต่งตัวค่ะ”"อือ...กวาง""ลุกได้แล้ว"“ยังไม่หายคิดถึงเลย”ชายหนุ่มงัวเงียนั่งหลังโก่งบนเตียง สภาพล่อนจ้อนเพราะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงผ้าห่มที่ยังปิดส่วนล่าง ส่วนกวางก็สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำสีขาว รอเสื้อผ้าตัวเองที่ใช้บริการของทางโรงแรมให้แม่บ้านซักรีดแล้วนำมาคืน ส่วนแฟนหนุ่มไม่ต้องห่วงเพราะมีมาเต็มกระเป๋า“กวางต้องพาแม่ไปคุยงาน”“ทำไมต้องเอง”“คนขับรถป่วยแอดมิตที่โรงพยาบาล”“ขับรถเป็น แล้วเอาใหญ่เลย”ชายหนุ่มแอบว่ากวาง แฟนสาวเพิ่งขับรถเป็นก็ห่วงในความปลอดภัย“จะได้ไม่กวนพี่ไปรับไปส่งไง อีกอย่างธุรกิจของคุณแม่กำลังไปได้ดี มีนัดกับผู้ใหญ่หลายท่าน จะมาผิดคำพูดเพราะไม่มีคนขับรถให้เหรอ”กวางตอบแบบมีเหตุมีผล ทำแม็กเวลล์ที่อยากงอแงต่อก็ได้แค่หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองในเข่ง คว้าผ้าเช็ดตัวที่กวางวางไว้รอ พันรอบเอวแบบลวกๆ แล้วเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ห้องพั
ห้องสวีทชั้นที่เก้าถูกเปิดหนึ่งคืนสำหรับคู่รักที่ห่างจากกันเป็นเดือน แม็กเวลล์แค่อยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับคนที่รัก อยากมีเวลาส่วนตัวแบบที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ด้านในโรแมนติกกว่าที่คิด มันถูกออกแบบเพื่อคู่รักโดยเฉพาะ เตียงนอนนิ่มสีขาวขนาดใหญ่ แบบกลิ้งสองคนก็ยังมีพื้นที่เหลือ ตกแต่งออกแนวเซ็กซี่เล็กน้อย ห้องน้ำเป็นกระจกสามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านในและด้านนอก ระเบียงกว้างมีโต๊ะขนาดเล็กให้พอได้นั่งจิบไวน์รับลมและมองวิวที่มีแม่น้ำไหลผ่านกวางวางกระเป๋าสะพายของตัวเองไปรับลมที่มุมระเบียง มองวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนก็สวยงามมากทีเดียว ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เธอหันมองแต่ก็ไม่ได้ใส่มากกว่าวิวแสงสีระยิบระยับด้านหน้า แม็กเวลล์ออเดอร์เครื่องดื่มขึ้นมา ครั้นอยากผ่อนคลายกับแฟนสาวหลังจากนั่งเครื่องบินเดินทางทั้งวัน“ไหนบอกอยากพัก”“ก็ถือว่าเป็นการผ่อนคลาย”ชายหนุ่มเทเครื่องดื่มสีแดงเข้มลงแก้วทรงสูง นั่งเก้าอี้โดยมีกวางขยับตัวมายืนด้านหลัง เพราะรู้ว่าแฟนหนุ่มคงเมื่อยตัว บีบมือลงที่ลาดไหล่หนาช่วยนวดให้ผ่อนคลาย ก็รู้สึกดีไม่น้อย เหมือนกล้ามเนื้อได้ยืดตัวก็พลันเคลิ้มขึ้นมา แม็กเวลล์เอื้อมมือหนาของตนเตะ