บริษัท เอ็มไอที จำกัด
มิกกี้เข้ามาดูงานต่อให้น้อง หลังจากที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลได้คืนที่สอง มีน้าแรมคอยดูแลไม่ห่าง อยู่เป็นเพื่อนทั้งวันและจะกลับมาบ้านแค่ตอนกลางคืน จากเดิมที่เขาต้องเข้ามาดูแลและคอยช่วยเหลือในระบบงานบริหาร กลายเป็นว่าทั้งหมดในบริษัทมิกกี้ต้องเข้ามาดูแลแทนน้องไปก่อน แม้กระทั่งพนักงานจากส่วนอื่นที่เข้ามาติดตั้งระบบต่างๆ ต่างก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาคือแม็กเวลล์ น้องชายฝาแฝดที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก “เรียบร้อยแล้วครับคุณแม็ก พร้อมส่งงานเลย” ระบบซอฟต์แวร์บริษัทถูกติดตั้งสมบูรณ์พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารการติดตั้งและเอกสารการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์นี้แต่เพียงผู้เดียวให้มิกกี้ที่เข้าใจว่าคือแม็กเวล์ ทว่าเจ้าตัวก็ปล่อยให้คนอื่นเข้าใจไปแบบนั้นเพื่อง่ายต่อการมอบงาน เพราะหากอีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ใช่เจ้าของบริษัทนี้ก็คงชะงักและรอให้แม็กเวลล์หายดี ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ทันอย่างที่น้องชายเขาตั้งใจเอาไว้ เขาเซ็นรับงานโดยเป็นชื่อของแม็กเวลล์และไม่ได้ทำโดยพลการ เมื่อน้องชายเขาอนุญาตให้ทำแทนได้ ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์รอแค่วันเปิดตัว เจ้าหน้าที่จากส่วนอื่นทยอยกันกลับบ้าน เหลือเพียงเขาที่ยังตรวจตราเช็กความเรียบร้อยรอแม็กเวลล์หายจากอาการป่วยแล้วมาดูอีกรอบ เดินสำรวจในตัวออฟฟิศ ตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นชั้นบนอย่างละเอียดเพราะหากยังมีจุดผิดพลาดจะได้แก้ไขทัน แต่ทว่าทุกอย่างก็เรียบร้อยดี มิกกี้เดินกลับลงชั้นล่างอีกครั้ง เข้าไปยังห้องสำหรับเจ้าของบริษัทหรือห้องทำงานส่วนตัวของแม็กเวลล์ เปิดโน้ตบุ๊กราคาแพงที่วางระบบงานทั้งหมดเข้าเรียบร้อย เพราะจะได้ดูว่าสามารถโปรโมตทางการตลาดต่อไปได้แบบไหนเพื่อให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่นี่ให้มากๆ นั่งดูระบบงานเพียงลำพังอย่างใจเย็น ครั้นเวลาในตอนนี้ไม่ดึกมาก อีกอย่างเขาไม่ต้องรีบไปไหน ไปเยี่ยมน้องไม่ได้เพราะมันเลยเวลาเยี่ยมมาแล้ว แต่ทว่าก็ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ๆ มีมือปริศนาเอื้อมมาปิดที่ตาเขาสองข้าง มิกกี้ตกใจแต่ก็ยังพอมีสติ ทีแรกคิดว่าต้องเป็นโจรเข้ามาขโมยทรัพย์สิน เพราะประตูด้านหน้าบริษัทปิดไว้แต่ไม่ได้ล็อก แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าฝ่ามือที่ปิดบนเปลือกมันเล็กและนิ่ม ที่สำคัญมีกลิ่นหอมเหมือนมือผู้หญิง จากที่ตั้งท่าโวยวายหากเป็นโจรจะต่อยให้หงายสักตั้ง ก็เงียบลงและนั่งนิ่ง จากนั้นก็ถูกคนด้านหลังจูบลงที่แก้ม !! “ยังไม่กลับเหรอคะ” เสียงที่เอ่ยออกมามันหวานหู พลันนั้นก็จำได้เลยว่านี่คือเสียงของกวาง แฟนของแม็กเวลล์ มิกกี้ตกใจหนักแล้วยังตื่นเต้น ไม่ใช่โจรแต่คือผู้หญิงในคืนนั้น เมื่อมือขาวละออกจากเปลือกตา เขาก็ค่อยๆ หน้ามอง ก็เห็นว่าเป็นคนตัวเล็กยืนฉีกยิ้มหวานให้ กวางขยับตัวขึ้นมาเกยบนตักแล้วกอดคอก็ยิ่งทำมิกกี้ประหม่าไปใหญ่ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายตัวเกร็งขึ้นมาเมื่อแฟนน้องนั่งอยู่บนตัก ภายในอกข้างซ้ายก็อดใจสั่นไม่ได้ “กวาง...” “กำลังจะไปหาที่บ้าน แต่เห็นรถพี่จอดหน้าบริษัทเลยเลี้ยวเข้ามา ก็เห็นพี่แม็กอยู่ข้างในจริงๆ ด้วย” “...” มิกกี้ทำตัวไม่ถูก ไม่นึกว่าต้องมาเจอแฟนน้องอีกครั้ง “โทรหาไม่รับเลย เป็นอะไรเหรอ” “ไม่รับ...คือผม เอ่อพี่งานยุ่งน่ะ กวางก็รู้ว่าต้องเตรียมตัวเปิดบริษัท” มิกกี้ตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ทว่าการไม่รับสายเพราะแฟนตัวจริงของเธอนอนป่วยที่โรงพยาบาลต่างหาก กวางไม่ได้เอะใจครั้นคนตรงหน้าไม่มีอะไรแตกต่างไปจากแม็กเวลล์ อีกทั้งแฟนหนุ่มก็ยุ่งอยู่กับบริษัทที่ตั้งใจทำ กวางนั่งบนตักกอดคอแล้วจูบลงแก้มซ้ายแก้มขวาอยู่อย่างนั้น ทำมิกกี้วูบวาบร้อนผ่าวไปทั้งตัว “จะกลับบ้านหรือยัง” “หยะยังหรอก พี่เช็กระบบงานอีกแป๊บหนึ่ง” “ให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง” “หมายถึงอะไร” แม็กเวลล์ทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจที่กวางพูด ทว่าคนเด็กกว่านั่งอมยิ้มก่อนจะจุมพิตลงที่ริมฝีปาก “ก็คิดถึง” ระหว่างเธอกับแม็กเวลล์ไม่ได้เจอกันมาเป็นอาทิตย์ เพราะเดินทางไปต่างจังหวัดกับแม่ โทรหากันบ้างพิมพ์แชตคุยกันบ้าง จนวันนั้นเธอตามมาที่คลับแต่กลับมาเจอพี่ชายฝาแฝดแทน “พี่...” “ไม่เอา ไม่ปฏิเสธ ไม่คิดถึงกวางเลยเหรอ” น้ำเสียงที่ออดอ้อนทำคนฟังใจสั่น รู้สึกหวั่นไหวเป็นทุนเดิมพอเจอแบบนี้มิกกี้ก็ยิ่งถลำลึกลงไป ทั้งที่พยายามจะลืมครั้งแรกที่เผลอลึกซึ้งกับแฟนน้อง แต่เหมือนว่าจะไม่ลืมลงเสียแล้ว และตรงนี้มีกวางตัวน้อยยั่วยวนอีกต่างหาก คนบนตักเป็นฝ่ายรุก ป้อนจูบให้คนตรงหน้าอย่างชำนาญ ไม่สนใจเลยว่าเขาต้องเช็กงานต่อและรู้เพียงว่าคิดถึงชายอันเป็นที่รักมากที่สุด ริมฝีปากที่แนบเข้าหากันมันสัมผัสได้อย่างลึกซึ้ง ตอนนี้มิกกี้ไม่ได้เมาอย่างวันนั้น เขารับรสจูบอันแสนหวานของแฟนน้องได้เต็มที่ มือหนาที่จับข้างสะโพกหมายจะดันกวางให้ลุกออกไปก่อน ก็เปลี่ยนเป็นโอบกระชับแน่น มิกกี้ให้ความร่วมมือทั้งที่อยากห้ามใจ แต่ความหวั่นไหวมันเข้ามาครอบงำจนเผลอคล้อยตามคนบนตักเข้าให้ “กวาง” “คะ” “พี่...” อยากพูดเต็มทนว่าตัวเองไม่ใช่แม็กเวลล์ แต่ก็เหมือนน้ำท่วมปากและหวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีบทสนทนาอะไรต่อ นอกจากริมฝีปากที่บดเข้าหากันอย่างหนักหน่วง กวางขยับบั้นท้ายกลมกลึงบดลงตักชายหนุ่มอย่างยั่วยวนตามนิสัยที่รู้กันดีระหว่างเธอกับแม็กเวลล์ แต่ทว่าความยั่วยวนที่เผยออกมามันไม่ต่างจากกับดักความลุ่มหลง มิกกี้ลงตกลงหลุมของแม่กวางน้อย... ระบบงานบนโต๊ะถูกลอยแพ ครั้นตรงหน้ามีอย่างอื่นให้สนใจ นั่งจูบนัวเนียกันบนเก้าอี้ ดูดดื่มริมฝีปากฉ่ำจนแทบบวมเจ่อ กวางออกลีลาท่าทางยั่วยวน ร่อนบั้นท้ายบดลงใส่ท่อนลำที่กำลังขยายตัวแข็งคับเป้ากางเกง “ไหนบอกให้เวลาพี่ครึ่งชั่วโมง” “แล้วตอนนี้ไหวไหมล่ะ ถ้าไหวกวางจะลุกให้” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ้อยอิ่ง รู้ดีว่าตอนนี้ชายตรงหน้าก็ทนแทบไม่ไหว แต่แกล้งทำเป็นพูดไปเท่านั้น ว่าแล้วก็ลุกออกจากตักของชายหนุ่มคล้ายเป็นการกลั่นแกล้งกลับ กระตุกเสื้อสีอ่อนบนกายให้เข้าที่แล้วลูบผมยาวสลวยให้เป็นทรง กำลังจะเดินออกเพื่อให้เวลามิกกี้ได้ทำงานต่อ ยังก้าวขาไม่ทันพ้นประตู ร่างน้อยๆ ก็ถูกดึงเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับถูกผลักจนหลังบางกระแทกกับผนังห้อง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด กวางเชิดดวงตามองใบหน้าหล่อเหลาแล้วยังกระตุกยิ้ม เป็นจังหวะที่คนตรงหน้าประสานดวงตาคมลงมามองกัน กวางเพ่งมองนัยน์ตาคู่นั้น ครั้นที่คิดว่าคุ้นเคยอย่างดีและวันนี้รู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เธอสงสัย ครั้นแววตาของแม็กเวลล์มันไม่เหมือนเดิมหรือแค่คิดมากไป กวางไม่มีเวลาหาคำตอบในความสงสัยนั้น ครั้นอีกฝ่ายโฉบหน้าลงมา กดปลายจมูกลงที่ลำคอระหง มิกกี้ไซ้ไปมาพลางขบเบาๆ จนรู้สึกสยิว ซาบซ่านจนสติที่มีกำลังจะแล่นกระเจิง ร่างน้อยๆ โดนมือหนาสัมผัส ลูบข้างเอวลงมาสะโพกผาย ก่อนที่เขาจะล้วงเข้าไปด้านในแล้วบีบบั้นท้ายกลมกลึงได้เต็มมือ “ฮื่อ พี่แม็ก” มิกกี้ที่ได้ยินก็แอบหัวเสียแต่นั่นคือชื่อน้องชายและกวางก็เรียกแฟนของเธอ เขาทำได้แค่ทนฟังก็เท่านั้น ถึงอย่างไรเขาไม่มีสิทธิ์เรียกร้องเพราะตัวเองสวมการเป็นแม็กเวลล์ไว้อยู่เครื่องบินโบอิ้งลำใหญ่กำลังแลนดิ้งลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินจากอเมริกาไฟลท์ TG9397 เดินทางมาถึงในเวลาสามทุ่มเศษ แม็กเวลล์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปีเพิ่งเดินทางกลับหลังจากมีธุระต้องบินไปต่างประเทศด่วน เขาเป็นลูกชายคนเล็กของกมลเนตร แต่ทว่าในช่วงวัยเด็ก ครอบครัวมีปัญหาทำให้เขาและแม่ต้องแยกกันอยู่ มีช่วงหนึ่งคือขาดการติดต่อนับสิบปี แต่ก็ยังรู้ข่าวคราวบ้างจากคนรอบตัว เมื่อพ่อแม่เลิกกันลูกชายฝาแฝดเลยถูกแบ่งกันเลี้ยงดู คนโตคือมิกกี้ไปอยู่กับแม่ คนเล็กคือตัวเขาเองไปอยู่กับพ่อ แม้จะไม่รู้ปัญหาลึกๆ ของผู้ใหญ่แต่มันทำให้เขาโกรธแม่และพี่ชายมากทีเดียว ชีวิตที่มีแค่พ่อลำบากมากถึงขั้นหลั่งน้ำตา แต่ชีวิตแม่กับพี่ชายดันสุขสบายและมีครอบครัวใหม่อยู่ที่นั่นจนกระทั่งพ่อได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในตอนเขาอายุ 15 ปี เมื่อไม่มีญาติผู้ใหญ่คอยดูแล กมลเนตรหวังจะกลับมารับลูกไปอยู่ด้วยกัน ทว่าเขายังที่รู้สึกว่าแม่เห็นแก่ตัว หาความสุขสบายใส่ตัว เลยเลือกที่จะอยู่กับน้องสาวแม่ นั่นก็คือเดือนแรมหรือน้าแรมที่เขาเรียกติดปากมาจนทุกวันนี้แต่เมื่อเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน วันเวลาเปลี่ยน เขาเริ่มโตขึ้น ความโกรธที่เคยสุมอกใ
ห้องสวีทชั้นที่เก้าถูกเปิดหนึ่งคืนสำหรับคู่รักที่ห่างจากกันเป็นเดือน แม็กเวลล์แค่อยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับคนที่รัก อยากมีเวลาส่วนตัวแบบที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ด้านในโรแมนติกกว่าที่คิด มันถูกออกแบบเพื่อคู่รักโดยเฉพาะ เตียงนอนนิ่มสีขาวขนาดใหญ่ แบบกลิ้งสองคนก็ยังมีพื้นที่เหลือ ตกแต่งออกแนวเซ็กซี่เล็กน้อย ห้องน้ำเป็นกระจกสามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านในและด้านนอก ระเบียงกว้างมีโต๊ะขนาดเล็กให้พอได้นั่งจิบไวน์รับลมและมองวิวที่มีแม่น้ำไหลผ่านกวางวางกระเป๋าสะพายของตัวเองไปรับลมที่มุมระเบียง มองวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนก็สวยงามมากทีเดียว ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เธอหันมองแต่ก็ไม่ได้ใส่มากกว่าวิวแสงสีระยิบระยับด้านหน้า แม็กเวลล์ออเดอร์เครื่องดื่มขึ้นมา ครั้นอยากผ่อนคลายกับแฟนสาวหลังจากนั่งเครื่องบินเดินทางทั้งวัน“ไหนบอกอยากพัก”“ก็ถือว่าเป็นการผ่อนคลาย”ชายหนุ่มเทเครื่องดื่มสีแดงเข้มลงแก้วทรงสูง นั่งเก้าอี้โดยมีกวางขยับตัวมายืนด้านหลัง เพราะรู้ว่าแฟนหนุ่มคงเมื่อยตัว บีบมือลงที่ลาดไหล่หนาช่วยนวดให้ผ่อนคลาย ก็รู้สึกดีไม่น้อย เหมือนกล้ามเนื้อได้ยืดตัวก็พลันเคลิ้มขึ้นมา แม็กเวลล์เอื้อมมือหนาของตนเตะ
รุ่งเช้าหนึ่งคืนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผ่านไปเร็วมาก แม็กเวลล์แทบไม่อยากออกไปจากตรงนี้ก็ได้แต่งอแงหน้ามุ่ยเหมือนเด็กน้อย นอนทิ้งตัวไม่ยอมขยับสักที จนกวางต้องฉุดคะเย้อดึงคนตัวใหญ่ขึ้นมา“ลุกอาบน้ำแต่งตัวค่ะ”"อือ...กวาง""ลุกได้แล้ว"“ยังไม่หายคิดถึงเลย”ชายหนุ่มงัวเงียนั่งหลังโก่งบนเตียง สภาพล่อนจ้อนเพราะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงผ้าห่มที่ยังปิดส่วนล่าง ส่วนกวางก็สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำสีขาว รอเสื้อผ้าตัวเองที่ใช้บริการของทางโรงแรมให้แม่บ้านซักรีดแล้วนำมาคืน ส่วนแฟนหนุ่มไม่ต้องห่วงเพราะมีมาเต็มกระเป๋า“กวางต้องพาแม่ไปคุยงาน”“ทำไมต้องเอง”“คนขับรถป่วยแอดมิตที่โรงพยาบาล”“ขับรถเป็น แล้วเอาใหญ่เลย”ชายหนุ่มแอบว่ากวาง แฟนสาวเพิ่งขับรถเป็นก็ห่วงในความปลอดภัย“จะได้ไม่กวนพี่ไปรับไปส่งไง อีกอย่างธุรกิจของคุณแม่กำลังไปได้ดี มีนัดกับผู้ใหญ่หลายท่าน จะมาผิดคำพูดเพราะไม่มีคนขับรถให้เหรอ”กวางตอบแบบมีเหตุมีผล ทำแม็กเวลล์ที่อยากงอแงต่อก็ได้แค่หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองในเข่ง คว้าผ้าเช็ดตัวที่กวางวางไว้รอ พันรอบเอวแบบลวกๆ แล้วเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ห้องพั
ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา แม็กเวลล์ก็เริ่มเข้าสู่โหมดการทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัว อาคารที่ปล่อยเช่าสำหรับทำออฟฟิศเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ไอทีและมีอุปกรณ์สำนักงานอื่นทยอยตามมา“เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว”เสียงแหบของน้าแรมเอ่ยขึ้น วันนี้เธอติดรถมากับหลานชาย ครั้นอยากเห็นความคืบหน้าของบริษัท เอ็มไอที จำกัด ที่ลงทุนจดทะเบียนบริษัทตั้งยี่สิบล้าน และเมื่อมาถึงก็กับอ้าปากค้าง เบิกดวงตากว้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันใหญ่โตกว่าที่คิดไว้ซะอีก“ใกล้เสร็จแล้วครับน้าแรม ไม่น่าเกินอาทิตย์นี้”แม็กเวลล์เดินสำรวจออฟฟิศที่คืบหน้าไปมากกว่า 90% เหลือเพียงตกแต่งวางอุปกรณ์ส่วนอื่นเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นเดือน และหากนับเวลามันก็เหลือเพียงสิบกว่าวันเท่านั้น“แม่เขาเทให้หมดหน้าตักเลยนะแม็ก เห็นไหมว่าแม่เขาคิดถึงเราตลอดเวลา”“ครับน้าแรม”แม้กมลเนตรจะมีธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้ใหญ่โตหรือทำกำไรให้แบบล้นมือ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีขาดทุนบ้างบางไตรมาสตามพิษเศรษฐกิจที่กระทบกันทั่วโลก ผลประกอบที่ได้มาก็ต้องนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในธุรกิจและเหลือเข้ากระเป๋าเพียงเล็กน้อยแม็
3 วันต่อมาหลังจากที่มิกกี้มาถึงประเทศไทยก็พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพียงหนึ่งคืน จากนั้นก็เข้ามายังออฟฟิศของน้องชายเพื่อช่วยดูระบบงานต่างๆ ครั้นผู้เป็นแม่ไหว้วานให้เขามาดูช่วยน้องชายฝาแฝด ขณะที่แม็กเวลล์ก็ยุ่งไม่ต่าง วางระบบไอทีที่ทันสมัยเพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในทุกวันมิกกี้ที่กำลังวางแผนงานบริหารให้น้องชาย ก็ต้องละสายตาออกจากงานสำคัญนั้น เมื่อจอมือถือมีข้อความแจ้งเข้ามา“Let’ s break up” (เราเลิกกันเถอะ)เหมือนโดนไฟช็อตทั่วทั้งร่าง เมื่อมาเรียมแฟนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกา รุ่นน้องอายุอ่อนกว่าเขาเพียงสองปีส่งข้อความมาหาเพื่อขอตัดความสัมพันธ์อย่างเลือดเย็น แม้จะมีสัญญาณบอกเหตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรวดเร็วขนาด เพราะก่อนหน้าเขาและแฟนสาวมีเรื่องบาดหมางใจกันตามประสาคนคบกัน การใช้ชีวิตและทัศนคติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อประคับประคองความรักให้มันตลอดรอดฝั่ง และแทนที่เขาจะมีเวลาได้อยู่ปรับความเข้าใจกับมาเรียม ทว่าจำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยงานน้องเพราะแม่เร่งรัดและร้องขอ แต่กลับกลายเป็นการเว้นช่องว่างให้แฟนสาวได้ตีตัวออกห่าง
การประคองคนเมาที่ตัวสูงใหญ่ทุลักทุเลจนต้องเรียกพนักงานผู้ชายช่วยอีกแรง ในตอนนี้กวางกำลังเข้าใจผิดแบบมหันต์ว่าชายที่เมาแทบหมดสตินั้นเป็นแฟนของตัวเอง“วางพี่เขาตรงนี้เลย”กวางรีบเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับ เอนเบาะลงเล็กน้อยให้ชายหนุ่มได้นอนหลับไปในรถ พนักงานประคองมิกกี้เข้าไปแล้วช่วยรัดเข็มขัดคนเมาในท่ากึ่งนอนเพื่อให้อยู่ในความปลอดภัย“เรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบใจนะ นี่ติป”เธอควักเงินในกระเป๋าส่งเป็นน้ำใจที่ช่วยกันแบกคนไร้สตินี้มา ก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเข้าไปดูอาการชายหนุ่มที่นอนรอในรถ ส่วนพนักงานของคลับก็ยืนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สายตาส่องมองหาชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกัน“อีกคนไปไหน หรือกลับไปแล้ว”เพราะเขาเห็นว่าคนที่เมาอยู่ตอนนี้มากับผู้ชายที่เหมือนกันเพราะเป็นแฝด แต่เมื่อมองหาแล้วไม่เห็นก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ รีบเดินกลับเข้าไปในคลับทำหน้าที่ของตัวเองต่อกวางสตาร์จเครื่องยนต์เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท เสดวงตามองชายหนุ่มที่คิดว่าคือคนรักของตัวเอง สองสามวันมานี่เธอและแม็กเวลล์คุยกันน้อยลงเพราะต่างคนต่างยุ่ง โดยเฉพาะแฟนหนุ่มที่ทุ่มเวลาให้กับกิจการส่วนตัว มีเพียงส่งข้อความถามไถ่และบอกรักกันทิ้งไว้
ร่างขาวสะดุ้งทุกครั้งที่ข้อนิ้วตำเข้ามาแรง กัดปากตัวเองแน่นแล้วบิดเร้าเรือนร่างยามที่คนด้านบนกระแทกนิ้วเข้าใส่รัวจนเกิดเสียงแจ๊ะๆ มิกกี้มองช่องทางสวยฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่น มองหน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบเต่งตึงอย่างพึงพอใจ แม้ตอนนี้ความเมามายที่มีจะเริ่มส่างขึ้น แต่อารมณ์ความต้องการกลับเข้ามาแทนที่จนไม่อาจหยุดได้“เลียไหม”เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชิดริมหู อีกฝ่ายที่นอนเสียวซ่านกัดปากแล้วครางอื้อออกมาเป็นคำตอบ ก่อนที่ศีรษะของมิกกี้จะมุดลงไปกลางหว่างขาชายหนุ่มมุดหน้าลงไป แม้ดวงตาพร่าเบลอจากความเมาก็พอมองเห็นรางๆ ว่าส่วนนั้นสวยงามแค่ไหน รอยแยกที่ปริออกแล้วมีเม็ดสีชมพูคล้ำโผล่ขึ้นมาจากการใช้งานและเสียดสีมาหลายปีประจักษ์ต่อดวงตาของชายแฝดคนพี่ พลันยั่วยวนจนอดไม่ได้ที่อยากใช้ปากสัมผัสมัน กวางตัวแอ่นเร่ามองศีรษะทุยที่กำลังซุกลงพร้อมกับการจูบเบาๆ ไปก่อนหนึ่งที เพียงแค่ลมหายใจร้อนจากปลายจมูกของชายหนุ่มปะทะเข้าเนื้อผิวกลีบกุหลาบบางก็ทำร่างขาวเสียวสะดุ้ง สะท้านไปทั้งร่างก่อนที่เจ้าของกลีบกุหลาบนั้นจะกัดปากแน่น จิกสองมือลงผ้าปูที่คุ้นเคยครั้นริมฝีปากหนาดูดดึงเม็ดคลิตอริสของเธออย่างร้ายกาจ“อะอ่า...แม็ก
บานประตูห้องนอนของมิกกี้เปิดออก เขาก้าวเท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า หยุดอยู่กลางห้องก่อนจะยกมือกุมหน้าตัวเอง ความเสียใจที่ถูกแฟนสาวบอกเลิกเหมือนจะหายไปภายในค่ำคืนเดียวและถูกแทนที่ด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่มีสติสัมปชัญญะ สมองมึนเบลอเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควร อยากเอาหัวโขลกพื้นหรือหายตัวกลับอเมริกาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อมีหน้าที่ใหญ่ต้องช่วยงานบริหารของน้องชายรออยู่ตรงหน้า มือหนาที่กุมใบหน้าร้อนผ่าวลูบขึ้นไปที่ศีรษะสางเส้นผมดำหนาแล้วกำแรงๆ เหมือนพยายามจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็เป็นไปแล้วเผลอมีอะไรกับแฟนน้องเพราะความเมามาย...หงายตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกหวั่นกลัว กลัวว่าแม็กเวลล์จะรู้เรื่องนี้ กลัวว่าน้องจะเกลียดกันอีกครั้ง นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างกังวลครั้นตอนนี้ความมึนเมาเริ่มสร่างและสติเริ่มกลับมา“ทำยังไงต่อวะมิก ถ้าแม็กรู้ขึ้นมา...”เหมือนจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องเก็บเงียบงำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงคนเดียว ความกลัวและกังวลยังสุมอยู่ในหัวก็พลันส่ายใบหน้าไปมา อยากจะสลัดความคิดกังวลแล้วทำเป็นเพิกเฉยก็ทำไม่ไ
บริษัท เอ็มไอที จำกัด มิกกี้เข้ามาดูงานต่อให้น้อง หลังจากที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลได้คืนที่สอง มีน้าแรมคอยดูแลไม่ห่าง อยู่เป็นเพื่อนทั้งวันและจะกลับมาบ้านแค่ตอนกลางคืน จากเดิมที่เขาต้องเข้ามาดูแลและคอยช่วยเหลือในระบบงานบริหาร กลายเป็นว่าทั้งหมดในบริษัทมิกกี้ต้องเข้ามาดูแลแทนน้องไปก่อน แม้กระทั่งพนักงานจากส่วนอื่นที่เข้ามาติดตั้งระบบต่างๆ ต่างก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาคือแม็กเวลล์ น้องชายฝาแฝดที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก “เรียบร้อยแล้วครับคุณแม็ก พร้อมส่งงานเลย” ระบบซอฟต์แวร์บริษัทถูกติดตั้งสมบูรณ์พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารการติดตั้งและเอกสารการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์นี้แต่เพียงผู้เดียวให้มิกกี้ที่เข้าใจว่าคือแม็กเวล์ ทว่าเจ้าตัวก็ปล่อยให้คนอื่นเข้าใจไปแบบนั้นเพื่อง่ายต่อการมอบงาน เพราะหากอีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ใช่เจ้าของบริษัทนี้ก็คงชะงักและรอให้แม็กเวลล์หายดี ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ทันอย่างที่น้องชายเขาตั้งใจเอาไว้ เขาเซ็นรับงานโดยเป็นชื่อของแม็กเวลล์และไม่ได้ทำโดยพลการ เมื่อน้องชายเขาอนุญาตให้ทำแทนได้ ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์รอแค่วันเปิดตัว เจ้าหน้าที่จากส่วนอื่นทยอยกันกลับบ้าน เหลือเพ
แม็กเวลล์ถูกห้ามเข้าโรงพยาบาลในเวลาต่อมา นอนนิ่งบนเตียงผู้ป่วยจนเดือนแรมแอบใจเสีย ครั้งสุดท้ายที่หลานคนเล็กป่วยหนักก็ตอนเป็นไข้เลือดออกในช่วงมัธยมต้น ถึงขั้นนอนโรงพยาบาลและเฝ้ากันเป็นอาทิตย์และก็ครั้งนี้ไข้ขึ้นสูงจนลุกไม่ขึ้น คนป่วยถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน ตรวจอาการในท่วงทีเพราะแม็กเวลล์ตัวร้อนจัด เสี่ยงมีอาการช็อกจากไข้ขึ้นสูง ด้านนอกก็รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ น้าแรมนั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินวนไปวนมาอย่างร้อนใจ ชะเง้อส่องหลานคนเล็กด้วยความเป็นห่วงมากทีเดียว ส่วนมิกกี้ก็เป็นห่วงน้องมากเช่นกัน ทว่ายังมีสตินั่งกุมมือตัวเองอยู่กับที่ ไม่ลุกเพ่นพ่านครั้นคนป่วยและญาติคนป่วยเดินสวนสนามอย่างกับเป็นตลาดนัด อีกทั้งการนั่งบนเก้าอี้ช่วยลดการเกะกะต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังเดินส่งคนไข้ “มิก หมอออกมาแล้ว” ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมาพร้อมกับคุณหมอผู้ชายอายุราวๆ สี่สิบปี “น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ” “คุณเป็นพี่ชายใช่ไหม” คุณหมอถามเพื่อความแน่ใจ แต่เพราะหน้าตาที่เหมือนกันจนเผลอตกใจนึกว่าคนไข้ลุกจากเตียงออกมา ทว่าก็เดาได้ว่าเป็นฝาแฝดที่หน้าเหมือนกันจนแยกไม่ออก “ใช่ครับ ผมเป็นพี่ชาย” “คุณแ
บานประตูห้องนอนของมิกกี้เปิดออก เขาก้าวเท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า หยุดอยู่กลางห้องก่อนจะยกมือกุมหน้าตัวเอง ความเสียใจที่ถูกแฟนสาวบอกเลิกเหมือนจะหายไปภายในค่ำคืนเดียวและถูกแทนที่ด้วยความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่มีสติสัมปชัญญะ สมองมึนเบลอเผลอทำในสิ่งที่ไม่ควร อยากเอาหัวโขลกพื้นหรือหายตัวกลับอเมริกาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อมีหน้าที่ใหญ่ต้องช่วยงานบริหารของน้องชายรออยู่ตรงหน้า มือหนาที่กุมใบหน้าร้อนผ่าวลูบขึ้นไปที่ศีรษะสางเส้นผมดำหนาแล้วกำแรงๆ เหมือนพยายามจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็เป็นไปแล้วเผลอมีอะไรกับแฟนน้องเพราะความเมามาย...หงายตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานสีขาวด้วยความรู้สึกหวั่นกลัว กลัวว่าแม็กเวลล์จะรู้เรื่องนี้ กลัวว่าน้องจะเกลียดกันอีกครั้ง นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างกังวลครั้นตอนนี้ความมึนเมาเริ่มสร่างและสติเริ่มกลับมา“ทำยังไงต่อวะมิก ถ้าแม็กรู้ขึ้นมา...”เหมือนจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องเก็บเงียบงำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงคนเดียว ความกลัวและกังวลยังสุมอยู่ในหัวก็พลันส่ายใบหน้าไปมา อยากจะสลัดความคิดกังวลแล้วทำเป็นเพิกเฉยก็ทำไม่ไ
ร่างขาวสะดุ้งทุกครั้งที่ข้อนิ้วตำเข้ามาแรง กัดปากตัวเองแน่นแล้วบิดเร้าเรือนร่างยามที่คนด้านบนกระแทกนิ้วเข้าใส่รัวจนเกิดเสียงแจ๊ะๆ มิกกี้มองช่องทางสวยฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำหล่อลื่น มองหน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบเต่งตึงอย่างพึงพอใจ แม้ตอนนี้ความเมามายที่มีจะเริ่มส่างขึ้น แต่อารมณ์ความต้องการกลับเข้ามาแทนที่จนไม่อาจหยุดได้“เลียไหม”เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชิดริมหู อีกฝ่ายที่นอนเสียวซ่านกัดปากแล้วครางอื้อออกมาเป็นคำตอบ ก่อนที่ศีรษะของมิกกี้จะมุดลงไปกลางหว่างขาชายหนุ่มมุดหน้าลงไป แม้ดวงตาพร่าเบลอจากความเมาก็พอมองเห็นรางๆ ว่าส่วนนั้นสวยงามแค่ไหน รอยแยกที่ปริออกแล้วมีเม็ดสีชมพูคล้ำโผล่ขึ้นมาจากการใช้งานและเสียดสีมาหลายปีประจักษ์ต่อดวงตาของชายแฝดคนพี่ พลันยั่วยวนจนอดไม่ได้ที่อยากใช้ปากสัมผัสมัน กวางตัวแอ่นเร่ามองศีรษะทุยที่กำลังซุกลงพร้อมกับการจูบเบาๆ ไปก่อนหนึ่งที เพียงแค่ลมหายใจร้อนจากปลายจมูกของชายหนุ่มปะทะเข้าเนื้อผิวกลีบกุหลาบบางก็ทำร่างขาวเสียวสะดุ้ง สะท้านไปทั้งร่างก่อนที่เจ้าของกลีบกุหลาบนั้นจะกัดปากแน่น จิกสองมือลงผ้าปูที่คุ้นเคยครั้นริมฝีปากหนาดูดดึงเม็ดคลิตอริสของเธออย่างร้ายกาจ“อะอ่า...แม็ก
การประคองคนเมาที่ตัวสูงใหญ่ทุลักทุเลจนต้องเรียกพนักงานผู้ชายช่วยอีกแรง ในตอนนี้กวางกำลังเข้าใจผิดแบบมหันต์ว่าชายที่เมาแทบหมดสตินั้นเป็นแฟนของตัวเอง“วางพี่เขาตรงนี้เลย”กวางรีบเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับ เอนเบาะลงเล็กน้อยให้ชายหนุ่มได้นอนหลับไปในรถ พนักงานประคองมิกกี้เข้าไปแล้วช่วยรัดเข็มขัดคนเมาในท่ากึ่งนอนเพื่อให้อยู่ในความปลอดภัย“เรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบใจนะ นี่ติป”เธอควักเงินในกระเป๋าส่งเป็นน้ำใจที่ช่วยกันแบกคนไร้สตินี้มา ก่อนจะเดินอ้อมมาฝั่งคนขับเข้าไปดูอาการชายหนุ่มที่นอนรอในรถ ส่วนพนักงานของคลับก็ยืนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สายตาส่องมองหาชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกัน“อีกคนไปไหน หรือกลับไปแล้ว”เพราะเขาเห็นว่าคนที่เมาอยู่ตอนนี้มากับผู้ชายที่เหมือนกันเพราะเป็นแฝด แต่เมื่อมองหาแล้วไม่เห็นก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ รีบเดินกลับเข้าไปในคลับทำหน้าที่ของตัวเองต่อกวางสตาร์จเครื่องยนต์เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท เสดวงตามองชายหนุ่มที่คิดว่าคือคนรักของตัวเอง สองสามวันมานี่เธอและแม็กเวลล์คุยกันน้อยลงเพราะต่างคนต่างยุ่ง โดยเฉพาะแฟนหนุ่มที่ทุ่มเวลาให้กับกิจการส่วนตัว มีเพียงส่งข้อความถามไถ่และบอกรักกันทิ้งไว้
3 วันต่อมาหลังจากที่มิกกี้มาถึงประเทศไทยก็พักให้หายเหนื่อยจากการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพียงหนึ่งคืน จากนั้นก็เข้ามายังออฟฟิศของน้องชายเพื่อช่วยดูระบบงานต่างๆ ครั้นผู้เป็นแม่ไหว้วานให้เขามาดูช่วยน้องชายฝาแฝด ขณะที่แม็กเวลล์ก็ยุ่งไม่ต่าง วางระบบไอทีที่ทันสมัยเพื่อให้ทันกับวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปในทุกวันมิกกี้ที่กำลังวางแผนงานบริหารให้น้องชาย ก็ต้องละสายตาออกจากงานสำคัญนั้น เมื่อจอมือถือมีข้อความแจ้งเข้ามา“Let’ s break up” (เราเลิกกันเถอะ)เหมือนโดนไฟช็อตทั่วทั้งร่าง เมื่อมาเรียมแฟนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกา รุ่นน้องอายุอ่อนกว่าเขาเพียงสองปีส่งข้อความมาหาเพื่อขอตัดความสัมพันธ์อย่างเลือดเย็น แม้จะมีสัญญาณบอกเหตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรวดเร็วขนาด เพราะก่อนหน้าเขาและแฟนสาวมีเรื่องบาดหมางใจกันตามประสาคนคบกัน การใช้ชีวิตและทัศนคติที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อประคับประคองความรักให้มันตลอดรอดฝั่ง และแทนที่เขาจะมีเวลาได้อยู่ปรับความเข้าใจกับมาเรียม ทว่าจำเป็นต้องเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยงานน้องเพราะแม่เร่งรัดและร้องขอ แต่กลับกลายเป็นการเว้นช่องว่างให้แฟนสาวได้ตีตัวออกห่าง
ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา แม็กเวลล์ก็เริ่มเข้าสู่โหมดการทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัว อาคารที่ปล่อยเช่าสำหรับทำออฟฟิศเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ไอทีและมีอุปกรณ์สำนักงานอื่นทยอยตามมา“เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว”เสียงแหบของน้าแรมเอ่ยขึ้น วันนี้เธอติดรถมากับหลานชาย ครั้นอยากเห็นความคืบหน้าของบริษัท เอ็มไอที จำกัด ที่ลงทุนจดทะเบียนบริษัทตั้งยี่สิบล้าน และเมื่อมาถึงก็กับอ้าปากค้าง เบิกดวงตากว้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันใหญ่โตกว่าที่คิดไว้ซะอีก“ใกล้เสร็จแล้วครับน้าแรม ไม่น่าเกินอาทิตย์นี้”แม็กเวลล์เดินสำรวจออฟฟิศที่คืบหน้าไปมากกว่า 90% เหลือเพียงตกแต่งวางอุปกรณ์ส่วนอื่นเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายในสิ้นเดือน และหากนับเวลามันก็เหลือเพียงสิบกว่าวันเท่านั้น“แม่เขาเทให้หมดหน้าตักเลยนะแม็ก เห็นไหมว่าแม่เขาคิดถึงเราตลอดเวลา”“ครับน้าแรม”แม้กมลเนตรจะมีธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้ใหญ่โตหรือทำกำไรให้แบบล้นมือ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีขาดทุนบ้างบางไตรมาสตามพิษเศรษฐกิจที่กระทบกันทั่วโลก ผลประกอบที่ได้มาก็ต้องนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในธุรกิจและเหลือเข้ากระเป๋าเพียงเล็กน้อยแม็
รุ่งเช้าหนึ่งคืนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผ่านไปเร็วมาก แม็กเวลล์แทบไม่อยากออกไปจากตรงนี้ก็ได้แต่งอแงหน้ามุ่ยเหมือนเด็กน้อย นอนทิ้งตัวไม่ยอมขยับสักที จนกวางต้องฉุดคะเย้อดึงคนตัวใหญ่ขึ้นมา“ลุกอาบน้ำแต่งตัวค่ะ”"อือ...กวาง""ลุกได้แล้ว"“ยังไม่หายคิดถึงเลย”ชายหนุ่มงัวเงียนั่งหลังโก่งบนเตียง สภาพล่อนจ้อนเพราะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงผ้าห่มที่ยังปิดส่วนล่าง ส่วนกวางก็สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำสีขาว รอเสื้อผ้าตัวเองที่ใช้บริการของทางโรงแรมให้แม่บ้านซักรีดแล้วนำมาคืน ส่วนแฟนหนุ่มไม่ต้องห่วงเพราะมีมาเต็มกระเป๋า“กวางต้องพาแม่ไปคุยงาน”“ทำไมต้องเอง”“คนขับรถป่วยแอดมิตที่โรงพยาบาล”“ขับรถเป็น แล้วเอาใหญ่เลย”ชายหนุ่มแอบว่ากวาง แฟนสาวเพิ่งขับรถเป็นก็ห่วงในความปลอดภัย“จะได้ไม่กวนพี่ไปรับไปส่งไง อีกอย่างธุรกิจของคุณแม่กำลังไปได้ดี มีนัดกับผู้ใหญ่หลายท่าน จะมาผิดคำพูดเพราะไม่มีคนขับรถให้เหรอ”กวางตอบแบบมีเหตุมีผล ทำแม็กเวลล์ที่อยากงอแงต่อก็ได้แค่หน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลองในเข่ง คว้าผ้าเช็ดตัวที่กวางวางไว้รอ พันรอบเอวแบบลวกๆ แล้วเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ห้องพั
ห้องสวีทชั้นที่เก้าถูกเปิดหนึ่งคืนสำหรับคู่รักที่ห่างจากกันเป็นเดือน แม็กเวลล์แค่อยากใช้เวลาตรงนี้อยู่กับคนที่รัก อยากมีเวลาส่วนตัวแบบที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ด้านในโรแมนติกกว่าที่คิด มันถูกออกแบบเพื่อคู่รักโดยเฉพาะ เตียงนอนนิ่มสีขาวขนาดใหญ่ แบบกลิ้งสองคนก็ยังมีพื้นที่เหลือ ตกแต่งออกแนวเซ็กซี่เล็กน้อย ห้องน้ำเป็นกระจกสามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านในและด้านนอก ระเบียงกว้างมีโต๊ะขนาดเล็กให้พอได้นั่งจิบไวน์รับลมและมองวิวที่มีแม่น้ำไหลผ่านกวางวางกระเป๋าสะพายของตัวเองไปรับลมที่มุมระเบียง มองวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนก็สวยงามมากทีเดียว ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น เธอหันมองแต่ก็ไม่ได้ใส่มากกว่าวิวแสงสีระยิบระยับด้านหน้า แม็กเวลล์ออเดอร์เครื่องดื่มขึ้นมา ครั้นอยากผ่อนคลายกับแฟนสาวหลังจากนั่งเครื่องบินเดินทางทั้งวัน“ไหนบอกอยากพัก”“ก็ถือว่าเป็นการผ่อนคลาย”ชายหนุ่มเทเครื่องดื่มสีแดงเข้มลงแก้วทรงสูง นั่งเก้าอี้โดยมีกวางขยับตัวมายืนด้านหลัง เพราะรู้ว่าแฟนหนุ่มคงเมื่อยตัว บีบมือลงที่ลาดไหล่หนาช่วยนวดให้ผ่อนคลาย ก็รู้สึกดีไม่น้อย เหมือนกล้ามเนื้อได้ยืดตัวก็พลันเคลิ้มขึ้นมา แม็กเวลล์เอื้อมมือหนาของตนเตะ