ผ่านไป 1 ชั่วโมงบ้านที่ว่ามันยังไม่ถึงและเหมือนว่าจะออกนอกเขตกรุงเทพมหานครไปแล้ว คนตัวเล็กนั่งหาวด้วยความง่วงปนความเหนื่อยจากการโหวกเหวกโวยวายเป็นเวลานาน ตัวค่อยๆเอียงเอนในยามที่เหมือนจะหลับอยู่รอมร่อ หัวทุยเล็กเผลอเอียงลงไหล่หนาของอีกฝ่าย ราเชนทร์ผลักหัวทุยออกจากไหล่หนาจับเอนลงที่พิงหัวของเบาะทว่าก็เอนกลับมาซบไหล่หนาหลายครั้ง น้ำหนึ่งหลับลึกจะโดนผลักจนหัวเขยื้อนแค่ไหนก็ไม่รู้สึกตัว ในยามที่จะผงกหน้าทิ่มลงที่วางเท้ามือหนารีบช้อนกลัวใบหน้าเล็กกระทบกับของแข็ง โดยมีสายตาลูกน้องคนสนิทมองผ่านกระจกหลังสังเกตพฤติกรรมของผู้เป็นเจ้านาย
“เฮียจะเอาไปอยู่ด้วยเหรอ”
“เปล่า” ตอบเสียงเรียบด้วยสีหน้านิ่ง
“แล้วเอาขึ้นรถมาทำไม”
“….” คราวนี้ราเชนทร์ไม่ตอบ แต่กลับส่งสายตาดุดันจ้องไปที่ตุลย์เป็นการตอบว่าไม่ต้องยุ่งและไม่เป็นจำเป็นต้องบอก สายตาดั่งคนพิโรธทำตุลย์รีบหลบและจดจ่อที่เบื้องหน้าไปในทันที การจราจรช่วงดึกไร้การแออัดง่ายต่อการเหยียบคันเร่งเข็มไมล์วิ่งขึ้นทะลุ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนในที่สุดรถคันหรูเคลื่อนตัวช้าลงและจอดหน้าบ้านคล้ายรีสอร์ตขนาดใหญ่แต่ทว่าเป็นบ้านตากอากาศที่สร้างทิ้งไว้นานๆจะมีโอกาสมาพักบ้าง
"ถึงแล้วครับ" ราเชนทร์ยังนั่งใช้มือค้ำใบหน้าเล็กของน้ำหนึ่งอยู่อย่างนั้น โดยที่มีตุลย์นั่งรอเป็นเพื่อนบนเบาะหน้า
จากนั้นราเชนทร์ยกมือหนาของใบหน้าของน้ำหนึ่งทำให้เจ้าตัวหัวคะมำกระทบกับเบาะคนนั่งด้านหน้าจนสะดุ้งตื่นด้วยอาการงงๆ
"โอ๊ย" ร้องลั่นออกมาไม่ถึงกับเจ็บมาก มือน้อยๆจับหน้าผากตัวเองมองไปยังแสงสว่างด้านหน้าที่สาดมาจากตัวบ้าน
ยังไม่ทันได้อ้าปากถามราเชนทร์และลูกน้องคนสนิทก็ลงจากรถเดินเข้าไปโดยไม่บอกไม่กล่าว ทิ้งคนตัวเล็กนั่งอยู่ในรถคนเดียวงงๆท่ามกลางความมืด ด้านข้างไม่มีบ้านคนอื่นสักหลังมีแต่ต้นไม้สูงใหญ่สลับกันไปมายิ่งดึกก็ยิ่งเงียบ น้ำหนึ่งเปิดประตูลงยืนมองรอบๆอีกครั้ง สายลมพัดเบาหวิวเย็นยะเยือกช่างวังเวงน่ากลัวผิดปกติ
"มีผีหรือเปล่าเนี่ย" วิ่งตามคนร่างสูงไปติดๆ พอเข้าอาณาเขตของบ้านก็รู้สึกดีขึ้น แสงสว่างจากหลอดไฟทำให้ดวงตาต้องหรี่ปรับโฟกัสเล็กน้อยเพราะมันค่อนข้างแสบตาหลังจากหลับไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ตุลย์เดินเลี่ยงออกไปทางหลังบ้านเป็นบ้านพักเรือนเล็กส่วนตัวของเขา ส่วนเราเชนทร์นั่งถอดรองเท้าถุงเท้าบนโซฟาที่เป็นห้องโถงกว้างโดยไม่สนใจน้ำหนึ่งที่ยืนด้วยท่าทีงง
"พาฉันมาทำไม"
"อายุกี่ปี" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ยืนค้ำหัว
"ยี่สิบเอ็ด"
"เรียนหนังสือหรือเปล่า"
"จบ ปวส" น้ำหนึ่งอายุห่างจากเขา 8 ปี ในตอนนี้ราเชนทร์มีอายุครบ 29 บริบูรณ์เมื่อไม่นานมานี้
"นอนโซฟาแล้วกัน" เขาสั่งให้คนเด็กกว่านอนโซฟาตัวเขานั่ง ทว่าที่นี่ห้องนอนมีเพียงห้องเดียว บ้านค่อนข้างหลังใหญ่แต่มันไม่ได้ถูกสร้างมาหลายห้องเพราะทำไว้แค่ส่วนตัว
คนแก่กว่าลุกหยิบบุหรี่ในลิ้นชักบิ้วอินติดผนังบ้าน แน่นอนว่าราเชนทร์หยิบบุหรี่แล้วเดินปลีกตัวออกไปด้านซ้ายเป็นระเบียงโล่งเพื่อรับลมจากทางทิศตะวันตก
ชายหนุ่มยืนดูดบุหรี่ในช่วงตี 3 ดวงตาสีน้ำตาลมองไปยังอีกฝ่ายและยังไม่มีคำตอบให้เธอ
"แล้วตกลงจะตอบได้หรือยัง"
"....." ราเชนทร์หันกลับมามองปากก็ยังดูดสารนิโคตินกลืนลงปอด
"พาฉันมาทำไม"
"เรียกฉันว่าเฮีย" สั่งให้คนตัวเล็กเรียกเขาว่าเฮีย
"ทำไมต้องเรียก คุณไม่ใช่พี่ฉันสักหน่อย เราเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน"
"งั้นต่อไปเราจะเป็นคนสนิทกัน"
"ใครอยากสนิทด้วยอ่ะ" คนเด็กกว่าเริ่มมีเสียงต่อกลับ โดยที่ราเชนทร์ยังดูดบุหรี่และพ่นควันออกมาเป็นระยะ
"แล้วทำไมไม่ตอบว่าพามาทำไม" คราวนี้น้ำหนึ่งเสียงดังขึ้น เริ่มโมโหที่ถามไปแล้วอีกฝ่ายไม่ยอมบอกเหตุผล พอจะตอบก็เป็นคนละเรื่องที่พูดไป เมื่ออีกคนมีท่าทีเพิกเฉยเด็กซนอย่างน้ำหนึ่งเริ่มปี๊ดแตก มองหาข้างของมีค่าที่พอจะทำให้ราเชนทร์เปิดปาก
ยกแจกันโบราณมีลวดลายแปลกตาชูขึ้นสูง นัยน์ตาสวยเย้ยคนตรงหน้า
"ไม่บอกใช่ไหม" คล้ายจะทุ่มมันลง ยิ้มเยาะสิ่งของมีค่าอยู่ในกำมือเธอ ยังไม่ทันจะขว้างราเชนทร์ก็ยกมือชี้หน้าคนเด็กกว่า ดวงตาคมกริบสาดราวกับดาบที่เตรียมจะเฉือน ทว่าน้ำหนึ่งไม่ได้สนใจหรือกลัวในตอนนี้ ในยามที่โมโหจวนตัวเช่นกันมือเล็กปล่อยแจกันทิ้งลงตรงหน้าของราเชนทร์ทันที
เพล้ง !!
ขบสันกรามแน่น ไม่เคยมีใครทำพฤติกรรมไม่เกรงกลัวเขาเช่นนี้ น้ำหนึ่งค่อนข้างพอใจสุดท้ายราเชนทร์ก็ไม่กล้าทำอะไรเธอ
"ฉันให้เวลาคุณอีกหนึ่งนาที ถ้าไม่บอก" มองไปยังกรอบรูปที่แขวนไว้บนผนังเป็นรูปผู้หญิงหน้าตาสะสวย ทว่าให้เดาต้องหญิงคนรักของผู้ชายตรงหน้า
"จะทำอะไร"
"....." คราวนี้เป็นฝ่ายไม่ตอบ กระตุกเรียวปากบางยิ้มเยาะคนมอง ปีนโซฟาเหยียบมันขึ้นไปปลดรูปภาพลงมา และเช่นเดิมน้ำหนึ่งทำท่าจะขว้างมันลงกับพื้น สีหน้าเกรี้ยวโกรธของราเชนทร์ปรากฏขึ้นทันทีเมื่อถูกเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าสัมผัสรูปอันหวงแหน
"อย่ายุ่งกับรูปนี้" เค้นเสียงสั่งห้ามออกตามไรฟัน ทว่าคนตัวเล็กยืนย่ำเท้าหากลัวไม่ น้ำหนึ่งโยนมันลงต่อหน้าต่อตา
เพล้ง !!!
ทันทีที่กรอบรูปตกกระทบลงพื้น ราเชนทร์เดินสาวเท้ายาวไม่กี่ก้าวก็คว้าร่างแน่งน้อยแล้วผลักลงโซฟา น้ำหนึ่งถูกคนตัวโตกว่ากดลงโซฟาจมมิดชนิดไม่มีที่ว่างให้อากาศได้เข้าแทรก
"โอ๊ย"
"ฉันเตือนแล้วใช่ไหม"
"ปล่อยฉันนะ ปล่อย"
"รู้ตัวหรือเปล่าว่าล้อเล่นอยู่กับใคร" น้ำเสียงโมโหอย่างมากที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอวดเก่งและกล้าทำถึงเพียงนี้ เรียวแขนเล็กถูกไขว้พาดกลางหลังขัดกันไว้แน่น
"ฉันเจ็บ ปล่อย โอ๊ย" ฝ่ามือหนากดกระแทกคนตัวบางจมลงโซฟาโน้มใบหน้าต่ำข้างใบหน้าที่บดบี้กับหนังโซฟาสีดำ
"ที่ฉันพามาเพราะสงสารเด็กไม่มีที่ซุกหัวนอน อย่าสำคัญตัวว่าฉันจะพิศวาสเธอ" เสียงแหบพร่าด้วยความโมโหเปล่งอยู่ข้างลำคอน้ำหนึ่ง
"ไม่พิศวาสก็ปล่อยฉันสิ คุณมานอนทับฉันแบบนี้ไม่ได้"
ออกแรงดิ้นอย่างสุดกำลังก็ไม่สามารถหลุดจากการถูกล็อก ผมเผ้าที่หล่นปิดหน้าถูกมือหนาเสยเปิดออกให้ ราเชนทร์ยิ้มเยาะคนไร้ทางสู้เพราะเอาเข้าจริงก็ไม่สามารถทำอะไรได้
"ปล่อยฉัน เจ็บแขน"
"เรียกฉันว่าเฮีย"
"ไม่ ปล่อย"
"เรียกฉันว่าเฮีย"
"อ๊ะ" กดแขนลงจมโซฟาอีกครั้ง ใบหน้าเหยเกจากความเจ็บปวดอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือทว่าบ้านหลังนี้มันไม่มีใครนอกจากเธอราเชนทร์และลูกน้องของเขา
กึก!!
"อ๊ะ เฮียหนูเจ็บ"
ตุลย์เมื่อได้ยินเสียงสิ่งของตกกระทบอยู่หลายครั้งก็วิ่งถือปืนมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวอย่างหมิ่นเหม่เพียงตัวเดียว บนหัวมีแชมพูสระผมขาวเป็นฟองทั่วทั้งหัว ทว่าวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางทะมัดทะแมงมือถือปืนเล็งเข้าพร้อมจะยิงกับศัตรูทุกเมื่อ ก็ต้องลดระดับมันลงเมื่อเห็นเจ้านายกำลังนอนทับร่างผู้หญิงที่พามาด้วยกันบนโซฟาจนแทบจะหลอมเป็นคนเดียวกัน"มีอะไรกันหรือเปล่าครับ"เมื่อได้ยินเสียงจากตุลย์และโผล่เข้ามา ราเชนทร์ก็ลุกขึ้นยืนเท้าสะเอวมองน้ำหนึ่งนอนจมบนโซฟาหลังจากถูกกดจนปวดแขนไปหมด ร่างเล็กดันตัวเองขึ้นทรงตัวนั่งเบ้หน้าจากความเจ็บปวดก่อนจะเอียงหางตามองคนอายุมากกว่าที่อยู่ใกล้ๆ"เด็กมันซนไปหน่อย"พับแขนเสื้อขึ้นแล้วแกะกระดุมปลดลงถึงกลางอกด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ในขณะที่น้ำหนึ่งก็ยังนั่งนวดแขนตัวเองไปมาไม่พูดไม่จามีเพียงสีหน้าของความเจ็บปรากฏออกมาเท่านั้น"คืนนี้ก็นอนบนโซฟาแล้วกัน"ราเชนทร์บอกคนตัวบางให้นอนบนโซฟาตัวนี้ จากนั้นก็เดินสะบัดคอขึ้นชั้นบนเข้าห้องนอนของตัวเองโดยไม่สนใจน้ำหนึ่ง"ไปทำอะไรให้เฮียไม่พอใจ" ตุลย์กระซิบถามทันทีที่ราเชนทร์เลี้ยวตัวขึ้นบันไดจนหายไปชั้นบน"เปล่า หนึ่งแค่โมโหที่เฮียเขาไม่ยอม
ที่นอนสำหรับคืนนี้ก็เป็นโซฟาตัวแคบ แต่เมื่อเทียบกับร่างบอบบางของน้ำหนึ่งก็ถือว่ากว้างมาก วางศีรษะลงหมอนนิ่มและห่มผ้านอนยังไม่ทันจะหลับ เสียงพื้นไม้ก็ดังเอี๊ยดอ๊าดจนน้ำหนึ่งกลัวอีกครั้ง ลุกขึ้นนั่งคว้าพระพุทธรูปเข้ากอด รู้สึกได้ว่ามีมวลความร้อนมหาศาลกำลังปกคลุม มองไปด้านนอกต้นไม้ก็โย้เย้โยกตัวมองไปมาราวกับผีเปรตไหนจะเสียงกอไผ่ที่เสียดสีกันดังเป็นระยะชวนหลอนไปกันใหญ่ตั๊กแก !!!ตุ๊กแกร้องพร้อมกันสองตัวสลับไปมาพร้อมสายลมโชยโกรกเย็นยะเยือก น้ำหนึ่งเด้งตัวลอยวืดเหนือพื้นแล้วกระทบฝ่าเท้าน้อยๆ ลงพื้น จากนั้นวิ่งหน้าตั้งขึ้นบันไดไปในความมืด สัญชาตญาณความกลัวทำให้ก้าวขาขึ้นบันไดได้อย่างรวดเร็วทะลุไปชั้นบนของบ้านโดยไม่ตกขั้นบันไดเลยสักนิด ด้านบนมีเพียงห้องนอนห้องเดียวและราเชนทร์นอนอยู่ในนั้น"เฮีย"ปังๆ!!"เฮีย ผีหลอก" กระหน่ำเคาะประตูจนคนด้านในตื่น ราเชนทร์ถือกระบอกไฟฉายที่วางไว้หัวเตียงออกมาเปิดเห็นน้ำหนึ่งหน้าตื่นตกใจกลัวทั้งยังหอบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นมาด้วย"มีอะไร""ผีหลอก ขอหนึ่งนอนด้วย" มุดตัวลอดหว่างแขนที่ราเชนทร์จับประตูแล้วกระโดดขึ้นเตียงดึงผ้าห่มกระชับตัวและยังนอนกอดพระพุทธรูปไม่ปล่
ในช่วงสายหลังจากอาบน้ำเสร็จ ราเชนทร์ย้ายตัวเองลงมาข้างล่างนั่งด้านนอกชมนกชมไม้ปล่อยดวงตาได้มองความเขียวชอุ่มของทัศนวิสัยเบื้องหน้า ส่วนน้ำหนึ่งก็นั่งอยู่บนโซฟาตัวเมื่อคืนมองตุลย์ที่กำลังประกอบกรอบรูปใบใหญ่แทนอันเดิมที่น้ำหนึ่งตั้งใจทำมันแตก"เฮียตุลย์" น้ำหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นคนในรูปชัดเจนมากกว่าเมื่อคืนในความสงสัย ตลุย์ขานรับอีกฝ่ายในขณะที่นั่งขัดสมาธิบนพื้น ดวงตาก็จ้องกับสิ่งที่จดจ่ออยู่ตรงหน้า"เมียเฮียเชนทร์เหรอ"ได้ยินเช่นนั้นคนฟังหัวเราะออกมาในทันที แต่กระนั้นก็ไม่ตอบอะไรตั้งใจทำสิ่งที่ถือขึ้นในมือขันน็อตประกอบเพื่อยึดโครงกรอบรูป"สวยดีเนาะ" น้ำหนึ่งเพ่งมองไปยังกระดาษใบใหญ่ที่เป็นรูปผู้หญิงหน้าตาดีอายุน่าจะราวๆ กับเธอ คนในรูปผมยาวกลางหลังยกเรียวปากยิ้มเล็กน้อยผิวค่อนข้างขาวและมีดวงตาชั้นเดียวดูเหมือนอาหมวยด้วยซ้ำ"เขาบอกว่าเนื้อคู่กันมักหน้าตาเหมือนกัน"น้ำหนึ่งยังพูดไม่หยุดและชื่นชมผู้หญิงบนแผ่นกระดาษที่มีหน้าตาละม้ายคลายราเชนทร์อย่างมาก"พูดเก่งนะเรา ไม่เหมือนเมื่อวานกลัวเจ้าหนี้จนหน้าสั่นงกๆ"ตุลย์แซวน้ำหนึ่งผู้หญิงในวันนั้นกับวันนี้ช่างต่างกันอย่างกับคนละคน ในตอนนั้นเธอต
"พูดให้มันเบากว่านี้ นกฉันตกใจ" เตือนน้ำหนึ่งให้ลดเสียงแหลมลงมาหน่อยและทอดมองร่างแน่งน้อยด้วยสายตาเรียบเฉย"เลี้ยงนกพันธุ์อะไร?" ดันสนใจสัตว์เลี้ยงของราเชนทร์ ทั้งที่มีจุดประสงค์จะมาขออนุญาตออกไปข้างนอกตั้งแต่แรก ทว่าเป็นแค่การปูทางเกริ่นเรื่องอื่นออกไปก่อน"พูดธุระของเธอมา""คือ..จะขอออก-""ไม่" พูดยังไม่จบประโยค ราเชนทร์ก็ตัดจบด้วยคำว่าไม่"เอ้า จะไม่ฟังหนึ่งก่อนเหรอ จะขอออกไปข้างนอกกับเฮียตุลย์" แค่อ้าปากราเชนทร์ก็เดาได้ว่าน้ำหนึ่งหวังผลอย่างอื่นเธอคงต้องการจะออกไปจากที่นี่ คนอย่างราเชนทร์หว่านพืชก็ต้องหวังผล การจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากอาณาเขตของดิลกก้องเกียรติก็สมองกลวงเต็มทน"ฉันไม่ได้โง่" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นทำให้น้ำหนึ่งกลืนน้ำลายพูดไม่ออก ราเชนทร์เดินเลยผ่านคนตัวบางเข้าไปในบ้านกลิ่นตัวหอมจางๆ ปะทะจมูกคนตัวเล็กกว่าแล้วขึ้นห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ในขณะที่น้ำหนึ่งเดินตามมาติดๆ ยืนข้างบันไดด้วยความผิดหวัง"หนึ่งอยู่ที่นี่ ไม่ต้องออกไปไหน" ตุลย์เอ่ยขึ้นและกำชับไม่ให้เธอออกไปไหนทั้งยังถือเป็นการสั่งห้าม"แต่หนึ่ง-""ไม่ใช่แค่เฮียเชนทร์ที่มองออก เฮียเองก็รู้ว่าหนึ่งคิดอะไร"คน
บรรยากาศที่มีแต่เสียงช้อนเสียงเคี้ยวนั่งกันอยู่สองคนโดยที่ตลย์เดินออกไปหลังบ้านไปทำธุระส่วนตัวหลังจากจัดโต๊ะอาหารให้คนเป็นนายเสร็จ“อดอยากมาจากไหน”“เปล่า” แต่ก็ยังตักเข้าปากไม่เลิกทั้งยังลุกไปตักข้าวในหม้อมาอีกสองทัพพีนั่งกินตามเดิมอย่างเอร็ดอร่อย“เดี๋ยวติดคอตาย”คนฟังเลิกสนใจตอบตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว ส่วนราเชนทร์กินไปแค่ไม่กี่คำชายหนุ่มก็ยกแก้วน้ำมาดื่ม“อิ่มแล้วเหรอ”“อืม” ลุกจากเก้าอี้ขึ้นห้องนอนตามเดิม ปล่อยคนตัวเล็กนั่งกินข้าวคนเดียวต่ออย่างเอร็ดอร่อย แม้น้ำหนึ่งจะมองตามราเชนท์ทว่าก็ไม่ได้สนใจอะไร ดีซะอีกจะได้กินแบบไม่ต้องเกรงใจ ไม่ยอมให้กลับบ้านเลานจ์จะกินให้เกลี้ยงเลยคอยดูแน่นอนว่าคืนนี้น้ำหนึ่งยังคงต้องค้างที่นี่ต่อและจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำของราเชนทร์แต่เธอกับเลือกจะเดินออกจากตัวบ้านไปสักหน่อยแล้วใช้ห้องน้ำของตุลย์แทน“ชั้นบนก็มี”“หนึ่งไม่สบายใจที่จะต้องเดินขึ้นห้องเฮียเชนทร์”ตุยล์พยักหน้าตอบก็คงจะไม่ชอบราเชนทร์เหมือนคนอื่นๆ ความหน้านิ่งดูไม่เป็นมิตรไม่แปลกที่จะมีคนไม่ชอบและมันก็เป็นส่วนใหญ่ตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกันมา“แล้วชุดของคุณรันที่เฮียตุลย์เอามาให้ใส่ หนึ่งก็ไม่ส
การแข่งขันเริ่มขึ้น น้ำหนึ่งถือไม้สนุ๊กด้วยท่าทีทะมัดทะแมงพอตัว เดินสำรวจมุมและจังหวะของตัวเองหมายช่วงชิงตำแหน่งของผู้ชนะเพื่อจะขอแลกกับการออกไปจากที่นี่ ในขณะที่ราเชนทร์ถอยตัวออกห่างยืนผิงโต๊ะด้านข้างและจิบน้ำเปล่าผสมโซดาและยังมีแอลกอฮอล์เจือจางบางๆ ครั้นชงมาดื่มเมื่อนอนไม่หลับในค่ำคืนนี้ ท่าทางของคนเด็กกว่าถือว่าใช้ได้ ราเชนทร์เริ่มเลิ่กลั่กหากเธอเป็นผู้ชนะเข้าต้องให้ทุกอย่างในข้อต่อรองทว่า..... ปัก!!ยิงครั้งสุดท้ายของการแข่งขันทว่ากลับไม่ลง น้ำหนึ่งกำลังพลาดเป็นเกมส์ที่รู้สึกประหม่าอย่างมากเมื่ออีกฝ่ายถึงคิวที่ต้องเล็งลูกสนุ๊ก ชายหนุ่มเดินรอบโต๊ะอย่างเชื่องช้าจ้องไปที่ลูกกลมๆ ทั้งกระจายตัวกันอยู่สองสามลูกก่อนจะสลัดหางตามองคนตัวเล็กที่ยืนหายใจแรงด้วยสีหน้าประหม่าราเชนทร์ก้มตัวต่ำระนาบลงกับโต๊ะพู เหยียดแขนข้างซ้ายออกสุดและใช้หลังมือรองไม้สนุ๊กที่พาดผ่านเป็นทางยาว ดวงตาสีคมเข้มจ้องไม่กะพริบเป็นการเล็งเพ่งเป้าหมายจากนั้นก็กระตุกไม้ชนลูกกลมๆ กระทบกันกระจุยกระจาย ยิ่งทำให้น้ำหนึ่งทำตัวไม่ถูก เมื่อมันไหลลงรูอย่างแม่นยำ ราวกับมีแม่เหล็กหน่วงลงไปเสียงปรบมือของผู้ชนะดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มแส
เสียงหวานที่แผดร้องถูกกลืนหายลงลำคอของอีกฝ่ายในยามที่ราเชนทร์ประกบริมฝีปากอุ่นลง คนตัวเล็กทำได้แค่สะบัดไหล่ไปมาเมื่อแขนสองข้างถูกมัดไขว้หลังไปแล้วก็ไม่อาจใช้มือทุบตีเป็นการห้ามปราบอีกฝ่ายได้“สำหรับคนไม่รักษาคำพูด” น้ำหนึ่งอ้าปากโกยเอาออกซิเจนครั้นอีกฝ่ายถอนจูบและใช้ฝ่ามือประคองใบหน้ารูปไข่“อึ่ก” สอดชำแรกปลายลิ้นทั้งบดริมฝีปากลงอีกครั้ง ตักความหวานของผู้หญิงตรงหน้าออกมาชิมจนเกิดเสียงเฉอะแฉะ ในขณะที่อีกฝ่ายยังตาเหลือกส่งเสียงอู้อี้ดังแผ่วเบาในเพียงลำคอ แม้พยายามจะเม้มปากแน่นกันลิ้นร้อนฉกฉวยก็ไม่อาจต้านทาน ราเชนทร์ยังขยี้มันอยู่แบบนั้นเกิดกลิ่นเลือดคาวคลุ้งเมื่อริมฝีปากของน้ำหนึ่งเริ่มแตกจากการบดเบียด“และสำหรับที่เอากรอบรูปน้องสาวเฮียทิ้งอย่างไม่แยแส”เขาโกรธเธอมากพอสมควรกับเหตุการณ์วันนั้นแต่ต้องระงับอารมณ์เพราะคนตัวบางก็โมโหพอๆ กับเขาในครั้นที่ราเชนทร์ไม่เอ่ยปากตอบ“หนึ่งไม่รู้ ขอ..อึ่ก” จะเอ่ยปากขอโทษก็ถูกฉกฉวยแย่งชิงออกซิเจนในทันที ราเชนร์สูบเรียวปากสวยจนแดงก่ำราวกับทาลิปสติกอย่างหนำใจ จากนั้นหันมาสนใจลำคอสวยลากไซร้มันอยู่แบบนั้น หนวดพอรำไรทิ่มตามเนื้อผิวสร้างความสยิวให้คนตัวบางอย
เสียงฝ่าเท้าวิ่งตุบตับขึ้นบันไดไปยังชั้นบนเป็นเหตุให้น้ำหนึ่งลืมตาตื่นในช่วงเจ็ดโมงเช้า ตุลย์หน้าตื่นตามหาเจ้านายทั้งส่งเสียงเรียกเสียงดังจนกระทั่งออกไปยังด้านนอกที่เป็นพื้นที่ของกรงนก ร่างแน่งน้อยสะลึมสะลือเพราะถูกก่อกวนจากเรื่องเมื่อคืนเป็นผลให้นอนไม่หลับทั้งครุ่นคิดอยู่คนเดียวบนโซฟาไปจนถึงตีสามและเพิ่งหลับตาได้สนิทไปได้ไม่กี่ชั่วโมงน้ำหนึ่งได้ยินเพียงเสียงสนทนาของเจ้านายกับลูกน้องมีน้ำเสียงเคร่งเครียดและจะข่มตาหลับตาหลับต่อ ทว่าแสงแดดเริ่มแยงลอดผ่านเข้ามากระทบเปลือกตาก็ไม่อาจหลับต่อได้ อ้าปากหาวนั่งมองชายสองคนยืนคุยกันด้านนอกแบบนั้นโดยไม่รู้จะลุกจากโซฟาไปทำอะไร“เอารถออก” เสียงทุ้มต่ำสั่งตุลย์ให้เตรียมรถแต่โดยเร็ว อีกคนรับคำสั่งอีกคนกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นห้องไปหยิบของสำคัญ“รีบอะไรกันขนาดนั้น”ลุกจากโซฟาเพื่อจะเข้าอาบน้ำล้างหน้าที่ห้องตุลย์ ยังไม่ทันจะก้าวขาซ้ายพ้นประตูด้านหลังของบ้านเรียวแขนเล็กถูกกระชากจนหงายไปด้านหลังชนเข้าแผงอกของราเชนทร์อย่างจัง ชายหนุ่มรีบใช้มือหนาอีกข้างโอบเอวกิ่วน้ำหนึ่งกันล้มเพราะแรงดึงกระชากแรงที่ทำคนเด็กกว่าไม่ทันตั้งตัว“เฮีย กระชากหนึ่งอีกแล้ว” โวยวายทั
ร่างเล็กก้าวเท้าข้ามเข้ามาปิดประตูล็อคมันมิดชิดก่อนจะนั่งย่อลงคุกเข่าก้มตัวใช้มือฝ่ามือน้อยๆ สองข้างยันค้ำจากนั้นคืบตัวเป็นลักษณะการคลานเข้าไปทีละนิด ดวงตาคมกริบที่เห่อล้อมไปด้วยความหื่นจ้องมองอย่างพอใจ เขาชอบที่มีผู้หญิงคลานเข่าเข้ามาในยามอารมณ์พลุ่งพล่าน หากเปรียบตัวเองเป็นดั่งราชสีห์ที่มีแต่คนก้มหัวให้ ทันทีที่น้ำหนึ่งถึงตัวของอีกฝ่ายก็ถูกราเชนทร์ดันต้นคอประกบเข้าจูบอย่างดูดดื่มในขณะที่เธอยังใช้หัวเข่ายันพื้นเป็นการทรงตัว ริมฝีปากหนาโอบงับอีกฝ่ายไม่ได้มีโอกาสตั้งตัวเบียดประกบแน่นจนรู้สึกถึงกลิ่นคาวคลุ้ง“อึก” ลิ้นร้อนสอดต้อนเข้าหาทั้งดูดดึงเสียจนคนโดนตัวโยกตามจังหวะการส่งจูบอย่างหื่นกระหายจ๊วบ!!“อื้อ อย่ากัดลิ้น” ผละริมฝีปากรับรู้ว่าลิ้นอ่อนกำลังถูกฟันแหลมแทะกัดจนเจ็บปวด เมื่อน้ำหนึ่งผละใบหน้าออก เป้าหมายต่อไปคือลำคอระหงราเชนทร์จุมพิตดูดดึงต้นคอสวยขบเน้นบดขยี้ย้ำๆ หลายจุด คนโดนกระทำย่นคอหนีทว่ามือหนาก็จับล็อคไม่ให้ขยับ“เป็นแวมไพร์ทหรือไง ~ โอ๊ย” ร้องลั่นจนราเชนทร์ต้องหยุดกระทำ เมื่อน้อยยกดันลาดไหล่คนตรงหน้าให้ถอยห่าง“เจ็บเหรอ”“เจ็บสิ” เบะใบหน้าเจ็บปวดทำให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำหั
เป็นอีกคืนที่น้ำหนึ่งยังต้องวนเวียนอยู่กับราเชนทร์ในคฤหาสน์หลังโต ตั้งแต่มาถึงก็มักเห็นชายหนุ่มคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่บ่อยครั้งและยังหมกตัวอยู่ในห้องทำงานโดยมีลูกน้องคนสนิทอย่างตุลย์และอีกคนคือปืนที่เดินสับเปลี่ยนกันเดินเข้าออกอย่างกับขบวนพาเหรด“แล้วแบบนี้จะมีโอกาสได้คุยไหมล่ะ” น้ำหนึ่งอยากจะถามเจ้าของบ้านให้รู้เรื่องว่าเธอต้องอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหน แม้จะสะดวกสบายราวเจ้าหญิง ทว่าวันหนึ่งราเชนทร์จะเฉดหัวออกไปแล้วจะตั้งตัวยังไงทันคนตัวเล็กนั่งนอนบนโซฟาหลังจากกินข้าวมื้อเย็นโดยมีเจ้าคัพเค้กแมวสีขาวขนปุยเล่นเป็นเพื่อน ยกเจ้าขนปุยขึ้นมาวางบนหน้าพลางใช้ใบหน้าถูไถขนนิ่ม“เมื่อไหร่เจ้านายแกจะออกมาเนี่ย ฉันนั่งรอหลายชั่วโมงแล้ว” บ่นกับแมวเหมียวที่ไม่รู้ภาษาคนมันได้แต่มองตาปริบๆ ในยามที่น้ำหนึ่งคุยด้วย“ทำไม คิดถึงฉันเหรอ” เสียงทุ้มต่ำดังกรอกข้างใบหูทางด้านหลัง ราเชนทร์เป็นประเภทบ่นปุ๊บโผล่มาปั๊บ“เฮีย! มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ตกใจหมด” ยกมือทาบอกหนึ่งข้าง มืออีกข้างยังอุ้มเจ้าคัพเค้กไว้ในอ้อมกอด“ถามหาทำไมอยากเจอหน้าหรืออยากได้คว..”“หุบปากไปเลย” น้ำหนึ่งรีบแทรกเพราะอีกฝ่ายกำลังจะชั
เท้าหนายันประตูแทนการใช้มือ ห้องนอนกว้างโทนสีทองขาวไม่ต่างจากชั้นล่างมีกลิ่นหอมอบอวลลอยเข้าจมูกจนน้ำหนึ่งเคลิ้มราวมนต์สะกด ราเชนทร์วางร่างแน่งน้อยลงเตียงแล้วใช้มือลูบหน้าผากอย่างอ่อนโยน จากนั้นขยับตัวออกไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้งถอดเสื้อเชิ้ตนาฬิกาออกจากตัวโดยที่สายตาของคนอายุน้อยกว่ามองปะทะกันผ่านกระจก“เฮียพาขึ้นมานอนแค่นั้นจริงๆ เหรอ” ราเชนทร์หันมาแล้วเดินกลับมานั่งด้านข้างบนเตียงกับคนตัวบาง“ง่วงก็พามานอน”“ถ้าหนึ่งอยากทำมากกว่าการนอน”ดวงตารัตติกาลมองปากสวยที่เพิ่งอ้าเปล่งออกมา ก่อนจะหุบมันแล้วเม้มกันไว้คล้ายกับได้สติว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไปอย่างน่าเกลียด“อยากให้เฮียทำอะไร” ขยับกายหนาเข้าใกล้ทั้งกระซิบถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“แล้วแต่ หนึ่งยอมได้หมด” เป็นการอนุญาตไปในตัวว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำอะไรกับเธอก็ได้ ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอพูดออกมาแบบนี้ ในส่วนของคนฟังยิ่งชอบใจที่น้ำหนึ่งยินดีจะมอบในสิ่งที่เขาต้องการ ปลายคางรูปไข่ถูกช้อนด้วยนิ้วมือหนาให้อีกฝ่ายได้เอียงรับกับริมฝีปากหยาบ ราเชนทร์ป้อนความหวานให้อย่างครั้งก่อนและคราวนี้เธอก็อ้าปากตอบรับมันอย่างรู้งานจ๊วบ!!เรียวปากประกบกันอย่างดูดดื่ม
แกร๊ก!!!“ทีมแพทย์จะเร่งกันอย่างเต็มที่ คุณราเชนทร์ไม่ต้องห่วง”บุคคลที่น้ำหนึ่งยืนรอออกมาพร้อมกับหมอมีอายุท่านหนึ่ง แต่เมื่อบุรุษในชุดกาวน์เห็นเธอก็มีอาการตกใจทั้งดวงตาเบิกกว้าง“ไม่เป็นไร ผู้หญิงคนนี้มากับผม”เมื่อคุณหมอได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจคล้ายโล่งอกแล้วกลับเข้าห้องไปตามเดิม น้ำหนึ่งยังยืนอยู่แบบนั้นด้วยแววตาสงสัยว่าด้านในมันมีอะไรทำไมทุกอย่างมันมีความลับและพิเศษกว่าคนอื่นๆ ทว่าดวงตานั้นก็ไม่ได้รับคำตอบจากคนฝั่งตรงข้าม นอกจากการถูกคว้ามือน้อยๆ เดินเข้าลิฟต์“เฮียมาหาใคร ทำไมดูซีเรียสกันจัง”ความอยากรู้อยากเห็นผุดขึ้นเป็นคำถาม ทว่าราเชนทร์ก็ยังยืนจับมือเล็กและใช้นิ้วหัวแม่มือลูบวนลงหลังมือของน้ำหนึ่ง“…”“มาเยี่ยมใคร แฟนใหม่หรือแฟนเก่า”ก็ยังวนและคิดว่าต้องเป็นผู้หญิงของราเชนทร์เหมือนครั้งก่อน และแน่นอนราเชนทร์กับปิดปากเงียบไม่แม้จะเปิดปากตอบคนเด็กกว่าอีกตามเคย คราวนี้น้ำหนึ่งเกิดอารมณ์โมโหเธอไม่ชอบการถามแล้วไม่มีอะไรกลับมา มันเหมือนเป็นอากาศเหมือนไม่มีตัวตนแต่ถ้าราเชนทร์เป็นคนรักก็คงเปรียบได้ว่าเธอไม่มีความสำคัญ“…”“ไม่ตอบก็ไม่ต้องมาจับมือหนึ่ง”สะบัดจนหลุดแล้วขยับตัวไปชิดอีกฝ
เสียงฝ่าเท้าวิ่งตุบตับขึ้นบันไดไปยังชั้นบนเป็นเหตุให้น้ำหนึ่งลืมตาตื่นในช่วงเจ็ดโมงเช้า ตุลย์หน้าตื่นตามหาเจ้านายทั้งส่งเสียงเรียกเสียงดังจนกระทั่งออกไปยังด้านนอกที่เป็นพื้นที่ของกรงนก ร่างแน่งน้อยสะลึมสะลือเพราะถูกก่อกวนจากเรื่องเมื่อคืนเป็นผลให้นอนไม่หลับทั้งครุ่นคิดอยู่คนเดียวบนโซฟาไปจนถึงตีสามและเพิ่งหลับตาได้สนิทไปได้ไม่กี่ชั่วโมงน้ำหนึ่งได้ยินเพียงเสียงสนทนาของเจ้านายกับลูกน้องมีน้ำเสียงเคร่งเครียดและจะข่มตาหลับตาหลับต่อ ทว่าแสงแดดเริ่มแยงลอดผ่านเข้ามากระทบเปลือกตาก็ไม่อาจหลับต่อได้ อ้าปากหาวนั่งมองชายสองคนยืนคุยกันด้านนอกแบบนั้นโดยไม่รู้จะลุกจากโซฟาไปทำอะไร“เอารถออก” เสียงทุ้มต่ำสั่งตุลย์ให้เตรียมรถแต่โดยเร็ว อีกคนรับคำสั่งอีกคนกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นห้องไปหยิบของสำคัญ“รีบอะไรกันขนาดนั้น”ลุกจากโซฟาเพื่อจะเข้าอาบน้ำล้างหน้าที่ห้องตุลย์ ยังไม่ทันจะก้าวขาซ้ายพ้นประตูด้านหลังของบ้านเรียวแขนเล็กถูกกระชากจนหงายไปด้านหลังชนเข้าแผงอกของราเชนทร์อย่างจัง ชายหนุ่มรีบใช้มือหนาอีกข้างโอบเอวกิ่วน้ำหนึ่งกันล้มเพราะแรงดึงกระชากแรงที่ทำคนเด็กกว่าไม่ทันตั้งตัว“เฮีย กระชากหนึ่งอีกแล้ว” โวยวายทั
เสียงหวานที่แผดร้องถูกกลืนหายลงลำคอของอีกฝ่ายในยามที่ราเชนทร์ประกบริมฝีปากอุ่นลง คนตัวเล็กทำได้แค่สะบัดไหล่ไปมาเมื่อแขนสองข้างถูกมัดไขว้หลังไปแล้วก็ไม่อาจใช้มือทุบตีเป็นการห้ามปราบอีกฝ่ายได้“สำหรับคนไม่รักษาคำพูด” น้ำหนึ่งอ้าปากโกยเอาออกซิเจนครั้นอีกฝ่ายถอนจูบและใช้ฝ่ามือประคองใบหน้ารูปไข่“อึ่ก” สอดชำแรกปลายลิ้นทั้งบดริมฝีปากลงอีกครั้ง ตักความหวานของผู้หญิงตรงหน้าออกมาชิมจนเกิดเสียงเฉอะแฉะ ในขณะที่อีกฝ่ายยังตาเหลือกส่งเสียงอู้อี้ดังแผ่วเบาในเพียงลำคอ แม้พยายามจะเม้มปากแน่นกันลิ้นร้อนฉกฉวยก็ไม่อาจต้านทาน ราเชนทร์ยังขยี้มันอยู่แบบนั้นเกิดกลิ่นเลือดคาวคลุ้งเมื่อริมฝีปากของน้ำหนึ่งเริ่มแตกจากการบดเบียด“และสำหรับที่เอากรอบรูปน้องสาวเฮียทิ้งอย่างไม่แยแส”เขาโกรธเธอมากพอสมควรกับเหตุการณ์วันนั้นแต่ต้องระงับอารมณ์เพราะคนตัวบางก็โมโหพอๆ กับเขาในครั้นที่ราเชนทร์ไม่เอ่ยปากตอบ“หนึ่งไม่รู้ ขอ..อึ่ก” จะเอ่ยปากขอโทษก็ถูกฉกฉวยแย่งชิงออกซิเจนในทันที ราเชนร์สูบเรียวปากสวยจนแดงก่ำราวกับทาลิปสติกอย่างหนำใจ จากนั้นหันมาสนใจลำคอสวยลากไซร้มันอยู่แบบนั้น หนวดพอรำไรทิ่มตามเนื้อผิวสร้างความสยิวให้คนตัวบางอย
การแข่งขันเริ่มขึ้น น้ำหนึ่งถือไม้สนุ๊กด้วยท่าทีทะมัดทะแมงพอตัว เดินสำรวจมุมและจังหวะของตัวเองหมายช่วงชิงตำแหน่งของผู้ชนะเพื่อจะขอแลกกับการออกไปจากที่นี่ ในขณะที่ราเชนทร์ถอยตัวออกห่างยืนผิงโต๊ะด้านข้างและจิบน้ำเปล่าผสมโซดาและยังมีแอลกอฮอล์เจือจางบางๆ ครั้นชงมาดื่มเมื่อนอนไม่หลับในค่ำคืนนี้ ท่าทางของคนเด็กกว่าถือว่าใช้ได้ ราเชนทร์เริ่มเลิ่กลั่กหากเธอเป็นผู้ชนะเข้าต้องให้ทุกอย่างในข้อต่อรองทว่า..... ปัก!!ยิงครั้งสุดท้ายของการแข่งขันทว่ากลับไม่ลง น้ำหนึ่งกำลังพลาดเป็นเกมส์ที่รู้สึกประหม่าอย่างมากเมื่ออีกฝ่ายถึงคิวที่ต้องเล็งลูกสนุ๊ก ชายหนุ่มเดินรอบโต๊ะอย่างเชื่องช้าจ้องไปที่ลูกกลมๆ ทั้งกระจายตัวกันอยู่สองสามลูกก่อนจะสลัดหางตามองคนตัวเล็กที่ยืนหายใจแรงด้วยสีหน้าประหม่าราเชนทร์ก้มตัวต่ำระนาบลงกับโต๊ะพู เหยียดแขนข้างซ้ายออกสุดและใช้หลังมือรองไม้สนุ๊กที่พาดผ่านเป็นทางยาว ดวงตาสีคมเข้มจ้องไม่กะพริบเป็นการเล็งเพ่งเป้าหมายจากนั้นก็กระตุกไม้ชนลูกกลมๆ กระทบกันกระจุยกระจาย ยิ่งทำให้น้ำหนึ่งทำตัวไม่ถูก เมื่อมันไหลลงรูอย่างแม่นยำ ราวกับมีแม่เหล็กหน่วงลงไปเสียงปรบมือของผู้ชนะดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มแส
บรรยากาศที่มีแต่เสียงช้อนเสียงเคี้ยวนั่งกันอยู่สองคนโดยที่ตลย์เดินออกไปหลังบ้านไปทำธุระส่วนตัวหลังจากจัดโต๊ะอาหารให้คนเป็นนายเสร็จ“อดอยากมาจากไหน”“เปล่า” แต่ก็ยังตักเข้าปากไม่เลิกทั้งยังลุกไปตักข้าวในหม้อมาอีกสองทัพพีนั่งกินตามเดิมอย่างเอร็ดอร่อย“เดี๋ยวติดคอตาย”คนฟังเลิกสนใจตอบตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว ส่วนราเชนทร์กินไปแค่ไม่กี่คำชายหนุ่มก็ยกแก้วน้ำมาดื่ม“อิ่มแล้วเหรอ”“อืม” ลุกจากเก้าอี้ขึ้นห้องนอนตามเดิม ปล่อยคนตัวเล็กนั่งกินข้าวคนเดียวต่ออย่างเอร็ดอร่อย แม้น้ำหนึ่งจะมองตามราเชนท์ทว่าก็ไม่ได้สนใจอะไร ดีซะอีกจะได้กินแบบไม่ต้องเกรงใจ ไม่ยอมให้กลับบ้านเลานจ์จะกินให้เกลี้ยงเลยคอยดูแน่นอนว่าคืนนี้น้ำหนึ่งยังคงต้องค้างที่นี่ต่อและจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำของราเชนทร์แต่เธอกับเลือกจะเดินออกจากตัวบ้านไปสักหน่อยแล้วใช้ห้องน้ำของตุลย์แทน“ชั้นบนก็มี”“หนึ่งไม่สบายใจที่จะต้องเดินขึ้นห้องเฮียเชนทร์”ตุยล์พยักหน้าตอบก็คงจะไม่ชอบราเชนทร์เหมือนคนอื่นๆ ความหน้านิ่งดูไม่เป็นมิตรไม่แปลกที่จะมีคนไม่ชอบและมันก็เป็นส่วนใหญ่ตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกันมา“แล้วชุดของคุณรันที่เฮียตุลย์เอามาให้ใส่ หนึ่งก็ไม่ส
"พูดให้มันเบากว่านี้ นกฉันตกใจ" เตือนน้ำหนึ่งให้ลดเสียงแหลมลงมาหน่อยและทอดมองร่างแน่งน้อยด้วยสายตาเรียบเฉย"เลี้ยงนกพันธุ์อะไร?" ดันสนใจสัตว์เลี้ยงของราเชนทร์ ทั้งที่มีจุดประสงค์จะมาขออนุญาตออกไปข้างนอกตั้งแต่แรก ทว่าเป็นแค่การปูทางเกริ่นเรื่องอื่นออกไปก่อน"พูดธุระของเธอมา""คือ..จะขอออก-""ไม่" พูดยังไม่จบประโยค ราเชนทร์ก็ตัดจบด้วยคำว่าไม่"เอ้า จะไม่ฟังหนึ่งก่อนเหรอ จะขอออกไปข้างนอกกับเฮียตุลย์" แค่อ้าปากราเชนทร์ก็เดาได้ว่าน้ำหนึ่งหวังผลอย่างอื่นเธอคงต้องการจะออกไปจากที่นี่ คนอย่างราเชนทร์หว่านพืชก็ต้องหวังผล การจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากอาณาเขตของดิลกก้องเกียรติก็สมองกลวงเต็มทน"ฉันไม่ได้โง่" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นทำให้น้ำหนึ่งกลืนน้ำลายพูดไม่ออก ราเชนทร์เดินเลยผ่านคนตัวบางเข้าไปในบ้านกลิ่นตัวหอมจางๆ ปะทะจมูกคนตัวเล็กกว่าแล้วขึ้นห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ในขณะที่น้ำหนึ่งเดินตามมาติดๆ ยืนข้างบันไดด้วยความผิดหวัง"หนึ่งอยู่ที่นี่ ไม่ต้องออกไปไหน" ตุลย์เอ่ยขึ้นและกำชับไม่ให้เธอออกไปไหนทั้งยังถือเป็นการสั่งห้าม"แต่หนึ่ง-""ไม่ใช่แค่เฮียเชนทร์ที่มองออก เฮียเองก็รู้ว่าหนึ่งคิดอะไร"คน