บรรยากาศที่มีแต่เสียงช้อนเสียงเคี้ยวนั่งกันอยู่สองคนโดยที่ตลย์เดินออกไปหลังบ้านไปทำธุระส่วนตัวหลังจากจัดโต๊ะอาหารให้คนเป็นนายเสร็จ
“อดอยากมาจากไหน”
“เปล่า” แต่ก็ยังตักเข้าปากไม่เลิกทั้งยังลุกไปตักข้าวในหม้อมาอีกสองทัพพีนั่งกินตามเดิมอย่างเอร็ดอร่อย
“เดี๋ยวติดคอตาย”
คนฟังเลิกสนใจตอบตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว ส่วนราเชนทร์กินไปแค่ไม่กี่คำชายหนุ่มก็ยกแก้วน้ำมาดื่ม
“อิ่มแล้วเหรอ”
“อืม” ลุกจากเก้าอี้ขึ้นห้องนอนตามเดิม ปล่อยคนตัวเล็กนั่งกินข้าวคนเดียวต่ออย่างเอร็ดอร่อย แม้น้ำหนึ่งจะมองตามราเชนท์ทว่าก็ไม่ได้สนใจอะไร ดีซะอีกจะได้กินแบบไม่ต้องเกรงใจ ไม่ยอมให้กลับบ้านเลานจ์จะกินให้เกลี้ยงเลยคอยดู
แน่นอนว่าคืนนี้น้ำหนึ่งยังคงต้องค้างที่นี่ต่อและจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำของราเชนทร์แต่เธอกับเลือกจะเดินออกจากตัวบ้านไปสักหน่อยแล้วใช้ห้องน้ำของตุลย์แทน
“ชั้นบนก็มี”
“หนึ่งไม่สบายใจที่จะต้องเดินขึ้นห้องเฮียเชนทร์”
ตุยล์พยักหน้าตอบก็คงจะไม่ชอบราเชนทร์เหมือนคนอื่นๆ ความหน้านิ่งดูไม่เป็นมิตรไม่แปลกที่จะมีคนไม่ชอบและมันก็เป็นส่วนใหญ่ตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกันมา
“แล้วชุดของคุณรันที่เฮียตุลย์เอามาให้ใส่ หนึ่งก็ไม่สบายใจเหมือนกัน”
“กลัวเหรอ”
“ใครจะไม่กลัว เสื้อผ้าคนที่ตายไปแล้วมาใส่”
เอียงสายตามองรอบๆ กับบรรยากาศช่วงกลางคืนที่มีแต่ความเงียบ จากนั้นตุลย์ก็เดินออกไปห้องข้างๆ ที่เอาไว้เก็บของ ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมเสื้อตัวสีขาวลักษณะเป็นคอกลมและกางเกงตัวยาวลายสก็อตสีแดงม่วง
“ถ้าไม่อยากใส่ของคุณรันก็เอาของเฮียเชนทร์ไปใส่”
“ของเฮียตุลย์ไม่มีเหรอ”
“ไม่มี เฮียประจำที่กรุงเทพเป็นหลักข้าวของหรือเสื้อผ้าที่มีก็มีแค่ติดตัวมา”
น้ำหนึ่งไม่อยากใส่เสื้อผ้าของราเชนทร์ อีกทั้งตัวมันใหญ่โคร่งมากเกินกว่าคนตัวบางๆ จะสวมเข้า เมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องจำยอมรับมันจากมือของตุลย์แล้วเดินกลับไปเปลี่ยนชุดออกมา ทว่ากางเกงคนเอวหนากับคนหุ่นบางเอว 24 นิ้วก็ต้องใช้ยางแดงมัดถุงแกงมัดขอบกางเกงเอาไว้กันมันหลุด
“เฮ่อ ดูลำบากไปซะทุกอย่าง ให้กลับไปเลานจ์ยังจะง่ายกว่าการมานั่งหายใจทิ้งที่นี่”
เธอบ่นตั้งแต่ยังไม่เปิดประตูห้องน้ำ เมื่อออกมาได้ก็หอบพระพุทธรูปองค์เดิมกลับไปยังที่นอนบนโซฟาตัวแคบและคราวนี้มีตะเกียงโบราณจุดเพื่อเป็นแสงไฟในยามที่ไฟโซล่าเซลล์ถูกตัดในช่วงกลางดึก แน่นอนว่าการอยู่ที่นี่น้ำหนึ่งไม่มีแม้กระทั่งมือถือมันหล่นหายไปตั้งแต่ตอนถูกวิ่งไล่และตัดหน้ารถของราเชนท์ ไม่รู้มันหายไปตอนไหน นอกจากทีวีก็ไม่มีอะไรให้ทำ ไม่เข้าใจราเชนทร์จะให้เธออยู่ทำไมทั้งที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลยสักนิดนอกจากการกินการนอนเท่านั้น
ปัก!!
ปัก!!
เสียงอะไรบางอย่างกระทบกันในช่วงเที่ยงคืน น้ำหนึ่งที่กำลังสะลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งตื่นก็ต้องลืมตาเต็มดวงด้วยความตกใจ
“ผี” ตาเบิกโพลงกับการคิดไปต่างๆ นานา ทว่าเสียงมันก็ดังต่อเนื่องหลายครั้ง
ปัก!!
เสียงมันมาจากทางด้านซ้าย น้ำหนึ่งลุกขึ้นทั้งกล้าทั้งกลัวจะลองสักหน่อยเสียงที่ว่ามันจะเป็นผีจริงๆ ไหม เดินหอบพระพุทธรูปย่องไปช้าๆ กันผีรู้ตัว ยืนแอบข้างผนังบ้านแล้วชะโงกหัวพร้อมดวงตาที่ปิดไว้หนึ่งข้างและเปิดอีกหนึ่ง หากเป็นผีจริงก็จะได้เห็นไม่ชัดเจน ทว่าเมื่อเพ่งออกไปปรากฏเป็นผู้ชายร่างโตยืนสวมแค่กางเกงนอนตัวยาวด้านบนเปลือยจนเห็นแผ่นหลังที่ลายสักรูปกะโหลกบริเวณด้านขวา ราเชนทร์กำลังเล่นสนุ๊กเกอร์คนเดียวในช่วงเที่ยงคืนเมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่ผีก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาหน่อย ทั้งยังแอบมองชายหนุ่มรูปงามที่เดินรอบโต๊ะพูลเล็งยิงลูกกลมๆ สีแดงสีเขียว
ปัก!!
ลูกสีน้ำเงินกระเด็นออกนอกโต๊ะตกกระทบไหลมาทางน้ำหนึ่ง เป็นผลให้ดวงตาคมกริบมองตามลูกสนุ๊กแล้วเห็นคนตัวบางยืนแอบมอง น้ำหนึ่งเกิดอาการประหม่าเมื่อราเชนทร์เห็นเธออยู่บริเวณนี้ ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนเกาหัวและกรอกสายตาไม่มาคล้ายคนเขินถูกจับไว้ว่าเธอแอบดู
“เก็บมันมาสิ” เขาสั่งให้เธอเก็บลูกสนุ๊กมาให้ น้ำหนึ่งทำตามอย่างไม่คัดค้านเก็บเจ้าลูกกลมๆ และเดินเอามาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นเตรียมจะหันหลังกลับมานอน ทว่าก็มีเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นตามหลัง
“อยู่เล่นด้วยกันก่อน"
"ว่าอะไรนะ" เธอหันกลับมาทวนคำถาม ทั้งที่ปกติราเชนทร์ไม่เคยเอ่ยปากพูดก่อน
"หรือเล่นไม่เป็น"
"เล่นเป็น ทำไมจะเล่นไม่เป็น" น้ำหนึ่งมีอาการขึ้นมาเมื่อถูกกล่าวหาเช่นนั้น คนอย่างน้ำหนึ่งทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
"ลองมาแข่งกันไหม อยากรู้ฝีมือว่าจะแน่สักแค่ไหน" เป็นการท้าคนตัวเล็กที่ยืนแยกเขี้ยวเป็นแมวขู่
"ไม่มีปัญหา คนแพ้ต้องทำอะไร"
ราเชนทร์เช็ดหัวไม้สนุ๊กจากนั้นก้มตัวเล็งไปยังลูกกลมๆ แล้วแทงลูกสีเหลืองลงไปเกือบเกลี้ยงโต๊ะ
"ไม่ต้องทำอะไร" เดินมาอีกฝั่งเพื่อยิงลูกที่เหลือลงโต๊ะ
ปัก!!!
ยิงครั้งเดียวลูกสนุ๊กดีดตัวแตกกระจายไปลงไปทั้งสาม เป็นผลให้คนดูยืนกลืนน้ำลายแต่ยังมั่นใจในตัวเองว่าเก่งพอตัวเหมือนกัน
"แค่คนชนะจะทำอะไรก็ได้"
"อะไรก็ได้" เกิดความคิดในทันที หากเธอชนะก็จะสามารถออกไปจากบ้านหลังนี้เพราะกติกาของคนชนะคือทำอะไรก็ได้ ฉะนั้นมันก็คงไม่น่ามีอะไรเสียหาย
น้ำหนึ่งรีบตกปากรับคำแข่งเล่นสนุ๊กเกอร์กับราเชนทร์โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าชายหนุ่มเคยเป็นนักกีฬาเก่าประจำโรงเรียนไฮสคูลสมัยเรียนอยู่ต่างประเทศ
การแข่งขันเริ่มขึ้น น้ำหนึ่งถือไม้สนุ๊กด้วยท่าทีทะมัดทะแมงพอตัว เดินสำรวจมุมและจังหวะของตัวเองหมายช่วงชิงตำแหน่งของผู้ชนะเพื่อจะขอแลกกับการออกไปจากที่นี่ ในขณะที่ราเชนทร์ถอยตัวออกห่างยืนผิงโต๊ะด้านข้างและจิบน้ำเปล่าผสมโซดาและยังมีแอลกอฮอล์เจือจางบางๆ ครั้นชงมาดื่มเมื่อนอนไม่หลับในค่ำคืนนี้ ท่าทางของคนเด็กกว่าถือว่าใช้ได้ ราเชนทร์เริ่มเลิ่กลั่กหากเธอเป็นผู้ชนะเข้าต้องให้ทุกอย่างในข้อต่อรองทว่า..... ปัก!!ยิงครั้งสุดท้ายของการแข่งขันทว่ากลับไม่ลง น้ำหนึ่งกำลังพลาดเป็นเกมส์ที่รู้สึกประหม่าอย่างมากเมื่ออีกฝ่ายถึงคิวที่ต้องเล็งลูกสนุ๊ก ชายหนุ่มเดินรอบโต๊ะอย่างเชื่องช้าจ้องไปที่ลูกกลมๆ ทั้งกระจายตัวกันอยู่สองสามลูกก่อนจะสลัดหางตามองคนตัวเล็กที่ยืนหายใจแรงด้วยสีหน้าประหม่าราเชนทร์ก้มตัวต่ำระนาบลงกับโต๊ะพู เหยียดแขนข้างซ้ายออกสุดและใช้หลังมือรองไม้สนุ๊กที่พาดผ่านเป็นทางยาว ดวงตาสีคมเข้มจ้องไม่กะพริบเป็นการเล็งเพ่งเป้าหมายจากนั้นก็กระตุกไม้ชนลูกกลมๆ กระทบกันกระจุยกระจาย ยิ่งทำให้น้ำหนึ่งทำตัวไม่ถูก เมื่อมันไหลลงรูอย่างแม่นยำ ราวกับมีแม่เหล็กหน่วงลงไปเสียงปรบมือของผู้ชนะดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มแส
เสียงหวานที่แผดร้องถูกกลืนหายลงลำคอของอีกฝ่ายในยามที่ราเชนทร์ประกบริมฝีปากอุ่นลง คนตัวเล็กทำได้แค่สะบัดไหล่ไปมาเมื่อแขนสองข้างถูกมัดไขว้หลังไปแล้วก็ไม่อาจใช้มือทุบตีเป็นการห้ามปราบอีกฝ่ายได้“สำหรับคนไม่รักษาคำพูด” น้ำหนึ่งอ้าปากโกยเอาออกซิเจนครั้นอีกฝ่ายถอนจูบและใช้ฝ่ามือประคองใบหน้ารูปไข่“อึ่ก” สอดชำแรกปลายลิ้นทั้งบดริมฝีปากลงอีกครั้ง ตักความหวานของผู้หญิงตรงหน้าออกมาชิมจนเกิดเสียงเฉอะแฉะ ในขณะที่อีกฝ่ายยังตาเหลือกส่งเสียงอู้อี้ดังแผ่วเบาในเพียงลำคอ แม้พยายามจะเม้มปากแน่นกันลิ้นร้อนฉกฉวยก็ไม่อาจต้านทาน ราเชนทร์ยังขยี้มันอยู่แบบนั้นเกิดกลิ่นเลือดคาวคลุ้งเมื่อริมฝีปากของน้ำหนึ่งเริ่มแตกจากการบดเบียด“และสำหรับที่เอากรอบรูปน้องสาวเฮียทิ้งอย่างไม่แยแส”เขาโกรธเธอมากพอสมควรกับเหตุการณ์วันนั้นแต่ต้องระงับอารมณ์เพราะคนตัวบางก็โมโหพอๆ กับเขาในครั้นที่ราเชนทร์ไม่เอ่ยปากตอบ“หนึ่งไม่รู้ ขอ..อึ่ก” จะเอ่ยปากขอโทษก็ถูกฉกฉวยแย่งชิงออกซิเจนในทันที ราเชนร์สูบเรียวปากสวยจนแดงก่ำราวกับทาลิปสติกอย่างหนำใจ จากนั้นหันมาสนใจลำคอสวยลากไซร้มันอยู่แบบนั้น หนวดพอรำไรทิ่มตามเนื้อผิวสร้างความสยิวให้คนตัวบางอย
เสียงฝ่าเท้าวิ่งตุบตับขึ้นบันไดไปยังชั้นบนเป็นเหตุให้น้ำหนึ่งลืมตาตื่นในช่วงเจ็ดโมงเช้า ตุลย์หน้าตื่นตามหาเจ้านายทั้งส่งเสียงเรียกเสียงดังจนกระทั่งออกไปยังด้านนอกที่เป็นพื้นที่ของกรงนก ร่างแน่งน้อยสะลึมสะลือเพราะถูกก่อกวนจากเรื่องเมื่อคืนเป็นผลให้นอนไม่หลับทั้งครุ่นคิดอยู่คนเดียวบนโซฟาไปจนถึงตีสามและเพิ่งหลับตาได้สนิทไปได้ไม่กี่ชั่วโมงน้ำหนึ่งได้ยินเพียงเสียงสนทนาของเจ้านายกับลูกน้องมีน้ำเสียงเคร่งเครียดและจะข่มตาหลับตาหลับต่อ ทว่าแสงแดดเริ่มแยงลอดผ่านเข้ามากระทบเปลือกตาก็ไม่อาจหลับต่อได้ อ้าปากหาวนั่งมองชายสองคนยืนคุยกันด้านนอกแบบนั้นโดยไม่รู้จะลุกจากโซฟาไปทำอะไร“เอารถออก” เสียงทุ้มต่ำสั่งตุลย์ให้เตรียมรถแต่โดยเร็ว อีกคนรับคำสั่งอีกคนกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นห้องไปหยิบของสำคัญ“รีบอะไรกันขนาดนั้น”ลุกจากโซฟาเพื่อจะเข้าอาบน้ำล้างหน้าที่ห้องตุลย์ ยังไม่ทันจะก้าวขาซ้ายพ้นประตูด้านหลังของบ้านเรียวแขนเล็กถูกกระชากจนหงายไปด้านหลังชนเข้าแผงอกของราเชนทร์อย่างจัง ชายหนุ่มรีบใช้มือหนาอีกข้างโอบเอวกิ่วน้ำหนึ่งกันล้มเพราะแรงดึงกระชากแรงที่ทำคนเด็กกว่าไม่ทันตั้งตัว“เฮีย กระชากหนึ่งอีกแล้ว” โวยวายทั
แกร๊ก!!!“ทีมแพทย์จะเร่งกันอย่างเต็มที่ คุณราเชนทร์ไม่ต้องห่วง”บุคคลที่น้ำหนึ่งยืนรอออกมาพร้อมกับหมอมีอายุท่านหนึ่ง แต่เมื่อบุรุษในชุดกาวน์เห็นเธอก็มีอาการตกใจทั้งดวงตาเบิกกว้าง“ไม่เป็นไร ผู้หญิงคนนี้มากับผม”เมื่อคุณหมอได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจคล้ายโล่งอกแล้วกลับเข้าห้องไปตามเดิม น้ำหนึ่งยังยืนอยู่แบบนั้นด้วยแววตาสงสัยว่าด้านในมันมีอะไรทำไมทุกอย่างมันมีความลับและพิเศษกว่าคนอื่นๆ ทว่าดวงตานั้นก็ไม่ได้รับคำตอบจากคนฝั่งตรงข้าม นอกจากการถูกคว้ามือน้อยๆ เดินเข้าลิฟต์“เฮียมาหาใคร ทำไมดูซีเรียสกันจัง”ความอยากรู้อยากเห็นผุดขึ้นเป็นคำถาม ทว่าราเชนทร์ก็ยังยืนจับมือเล็กและใช้นิ้วหัวแม่มือลูบวนลงหลังมือของน้ำหนึ่ง“…”“มาเยี่ยมใคร แฟนใหม่หรือแฟนเก่า”ก็ยังวนและคิดว่าต้องเป็นผู้หญิงของราเชนทร์เหมือนครั้งก่อน และแน่นอนราเชนทร์กับปิดปากเงียบไม่แม้จะเปิดปากตอบคนเด็กกว่าอีกตามเคย คราวนี้น้ำหนึ่งเกิดอารมณ์โมโหเธอไม่ชอบการถามแล้วไม่มีอะไรกลับมา มันเหมือนเป็นอากาศเหมือนไม่มีตัวตนแต่ถ้าราเชนทร์เป็นคนรักก็คงเปรียบได้ว่าเธอไม่มีความสำคัญ“…”“ไม่ตอบก็ไม่ต้องมาจับมือหนึ่ง”สะบัดจนหลุดแล้วขยับตัวไปชิดอีกฝ
เท้าหนายันประตูแทนการใช้มือ ห้องนอนกว้างโทนสีทองขาวไม่ต่างจากชั้นล่างมีกลิ่นหอมอบอวลลอยเข้าจมูกจนน้ำหนึ่งเคลิ้มราวมนต์สะกด ราเชนทร์วางร่างแน่งน้อยลงเตียงแล้วใช้มือลูบหน้าผากอย่างอ่อนโยน จากนั้นขยับตัวออกไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้งถอดเสื้อเชิ้ตนาฬิกาออกจากตัวโดยที่สายตาของคนอายุน้อยกว่ามองปะทะกันผ่านกระจก“เฮียพาขึ้นมานอนแค่นั้นจริงๆ เหรอ” ราเชนทร์หันมาแล้วเดินกลับมานั่งด้านข้างบนเตียงกับคนตัวบาง“ง่วงก็พามานอน”“ถ้าหนึ่งอยากทำมากกว่าการนอน”ดวงตารัตติกาลมองปากสวยที่เพิ่งอ้าเปล่งออกมา ก่อนจะหุบมันแล้วเม้มกันไว้คล้ายกับได้สติว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไปอย่างน่าเกลียด“อยากให้เฮียทำอะไร” ขยับกายหนาเข้าใกล้ทั้งกระซิบถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“แล้วแต่ หนึ่งยอมได้หมด” เป็นการอนุญาตไปในตัวว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำอะไรกับเธอก็ได้ ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอพูดออกมาแบบนี้ ในส่วนของคนฟังยิ่งชอบใจที่น้ำหนึ่งยินดีจะมอบในสิ่งที่เขาต้องการ ปลายคางรูปไข่ถูกช้อนด้วยนิ้วมือหนาให้อีกฝ่ายได้เอียงรับกับริมฝีปากหยาบ ราเชนทร์ป้อนความหวานให้อย่างครั้งก่อนและคราวนี้เธอก็อ้าปากตอบรับมันอย่างรู้งานจ๊วบ!!เรียวปากประกบกันอย่างดูดดื่ม
เป็นอีกคืนที่น้ำหนึ่งยังต้องวนเวียนอยู่กับราเชนทร์ในคฤหาสน์หลังโต ตั้งแต่มาถึงก็มักเห็นชายหนุ่มคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่บ่อยครั้งและยังหมกตัวอยู่ในห้องทำงานโดยมีลูกน้องคนสนิทอย่างตุลย์และอีกคนคือปืนที่เดินสับเปลี่ยนกันเดินเข้าออกอย่างกับขบวนพาเหรด“แล้วแบบนี้จะมีโอกาสได้คุยไหมล่ะ” น้ำหนึ่งอยากจะถามเจ้าของบ้านให้รู้เรื่องว่าเธอต้องอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหน แม้จะสะดวกสบายราวเจ้าหญิง ทว่าวันหนึ่งราเชนทร์จะเฉดหัวออกไปแล้วจะตั้งตัวยังไงทันคนตัวเล็กนั่งนอนบนโซฟาหลังจากกินข้าวมื้อเย็นโดยมีเจ้าคัพเค้กแมวสีขาวขนปุยเล่นเป็นเพื่อน ยกเจ้าขนปุยขึ้นมาวางบนหน้าพลางใช้ใบหน้าถูไถขนนิ่ม“เมื่อไหร่เจ้านายแกจะออกมาเนี่ย ฉันนั่งรอหลายชั่วโมงแล้ว” บ่นกับแมวเหมียวที่ไม่รู้ภาษาคนมันได้แต่มองตาปริบๆ ในยามที่น้ำหนึ่งคุยด้วย“ทำไม คิดถึงฉันเหรอ” เสียงทุ้มต่ำดังกรอกข้างใบหูทางด้านหลัง ราเชนทร์เป็นประเภทบ่นปุ๊บโผล่มาปั๊บ“เฮีย! มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ตกใจหมด” ยกมือทาบอกหนึ่งข้าง มืออีกข้างยังอุ้มเจ้าคัพเค้กไว้ในอ้อมกอด“ถามหาทำไมอยากเจอหน้าหรืออยากได้คว..”“หุบปากไปเลย” น้ำหนึ่งรีบแทรกเพราะอีกฝ่ายกำลังจะชั
ร่างเล็กก้าวเท้าข้ามเข้ามาปิดประตูล็อคมันมิดชิดก่อนจะนั่งย่อลงคุกเข่าก้มตัวใช้มือฝ่ามือน้อยๆ สองข้างยันค้ำจากนั้นคืบตัวเป็นลักษณะการคลานเข้าไปทีละนิด ดวงตาคมกริบที่เห่อล้อมไปด้วยความหื่นจ้องมองอย่างพอใจ เขาชอบที่มีผู้หญิงคลานเข่าเข้ามาในยามอารมณ์พลุ่งพล่าน หากเปรียบตัวเองเป็นดั่งราชสีห์ที่มีแต่คนก้มหัวให้ ทันทีที่น้ำหนึ่งถึงตัวของอีกฝ่ายก็ถูกราเชนทร์ดันต้นคอประกบเข้าจูบอย่างดูดดื่มในขณะที่เธอยังใช้หัวเข่ายันพื้นเป็นการทรงตัว ริมฝีปากหนาโอบงับอีกฝ่ายไม่ได้มีโอกาสตั้งตัวเบียดประกบแน่นจนรู้สึกถึงกลิ่นคาวคลุ้ง“อึก” ลิ้นร้อนสอดต้อนเข้าหาทั้งดูดดึงเสียจนคนโดนตัวโยกตามจังหวะการส่งจูบอย่างหื่นกระหายจ๊วบ!!“อื้อ อย่ากัดลิ้น” ผละริมฝีปากรับรู้ว่าลิ้นอ่อนกำลังถูกฟันแหลมแทะกัดจนเจ็บปวด เมื่อน้ำหนึ่งผละใบหน้าออก เป้าหมายต่อไปคือลำคอระหงราเชนทร์จุมพิตดูดดึงต้นคอสวยขบเน้นบดขยี้ย้ำๆ หลายจุด คนโดนกระทำย่นคอหนีทว่ามือหนาก็จับล็อคไม่ให้ขยับ“เป็นแวมไพร์ทหรือไง ~ โอ๊ย” ร้องลั่นจนราเชนทร์ต้องหยุดกระทำ เมื่อน้อยยกดันลาดไหล่คนตรงหน้าให้ถอยห่าง“เจ็บเหรอ”“เจ็บสิ” เบะใบหน้าเจ็บปวดทำให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำหั
“ขณะนี้ชุดเครื่องเพชรของเราถูกประมูลอยู่ที่ 35 ล้านครับ มีใครจะเสนอราคามากกว่านี้ไหมครับ” เสียงพิธีการชายประกาศดังขึ้นหลังจากมีผู้คนสนใจอย่างล้นหลาม “เจ็ดสิบล้าน” ชายหนุ่มหน้าตาดียกป้ายประมูลเสนอราคาที่มากกว่าเสี่ยหนุ่มใหญ่วัย 50 ปีถูกเด็กอายุน้อยกว่าชิงตัดหน้าเสนอราคาที่เพิ่มเป็นเท่าตัว แขกเหรื่อต่างหันไปในทิศทางเดียวกันมองชายหนุ่มที่เพิ่งเปล่งเสียงเพิ่มมูลค่าการประมูลเพิ่มโดยใบหน้าไม่สะทกสะท้านกับเงินจำนวนมาก"ขณะนี้ราคาอยู่ที่เจ็ดสิบล้าน"โห !!!"เจ็ดสิบล้านมีใครสู้ไหมครับ” เสียงฮือฮาแตกตื่นกันอย่างหนักเมื่อจู่ๆ ผู้ยกป้ายประมูลมาแบบม้ามืดเสนอราคาไปเท่าตัว โดยผู้ประมูลท่านอื่นเริ่มลังเลกับราคาที่สูงลิ่วเกินจะสู้ไหว“มีใครจะยกไหมครับ” “….”“เจ็ดสิบล้านครั้งที่หนึ่ง ,เจ็ดสิบล้านครั้งที่สองและ เจ็ดสิบล้านครั้งที่สาม” กระดิ่งดังขึ้นเป็นอันสิ้นสุดของเครื่องเพชรชุดแรกและตกเป็นของราเชนทร์ ชายหนุ่มอายุ 32 ปี นักธุรกิจผู้ที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเป็นใคร เข้ามาประมูลเครื่องเพชรที่มีแต่เหล่าบรรดาคุณหญิงคุณนายและเหล่าบรรดานักการเมืองตำแหน่งใหญ่โต ไม่มีใครกล้าสู้เพราะยังมีชุดเครื่องเพชรอีกหลาย
ร่างเล็กก้าวเท้าข้ามเข้ามาปิดประตูล็อคมันมิดชิดก่อนจะนั่งย่อลงคุกเข่าก้มตัวใช้มือฝ่ามือน้อยๆ สองข้างยันค้ำจากนั้นคืบตัวเป็นลักษณะการคลานเข้าไปทีละนิด ดวงตาคมกริบที่เห่อล้อมไปด้วยความหื่นจ้องมองอย่างพอใจ เขาชอบที่มีผู้หญิงคลานเข่าเข้ามาในยามอารมณ์พลุ่งพล่าน หากเปรียบตัวเองเป็นดั่งราชสีห์ที่มีแต่คนก้มหัวให้ ทันทีที่น้ำหนึ่งถึงตัวของอีกฝ่ายก็ถูกราเชนทร์ดันต้นคอประกบเข้าจูบอย่างดูดดื่มในขณะที่เธอยังใช้หัวเข่ายันพื้นเป็นการทรงตัว ริมฝีปากหนาโอบงับอีกฝ่ายไม่ได้มีโอกาสตั้งตัวเบียดประกบแน่นจนรู้สึกถึงกลิ่นคาวคลุ้ง“อึก” ลิ้นร้อนสอดต้อนเข้าหาทั้งดูดดึงเสียจนคนโดนตัวโยกตามจังหวะการส่งจูบอย่างหื่นกระหายจ๊วบ!!“อื้อ อย่ากัดลิ้น” ผละริมฝีปากรับรู้ว่าลิ้นอ่อนกำลังถูกฟันแหลมแทะกัดจนเจ็บปวด เมื่อน้ำหนึ่งผละใบหน้าออก เป้าหมายต่อไปคือลำคอระหงราเชนทร์จุมพิตดูดดึงต้นคอสวยขบเน้นบดขยี้ย้ำๆ หลายจุด คนโดนกระทำย่นคอหนีทว่ามือหนาก็จับล็อคไม่ให้ขยับ“เป็นแวมไพร์ทหรือไง ~ โอ๊ย” ร้องลั่นจนราเชนทร์ต้องหยุดกระทำ เมื่อน้อยยกดันลาดไหล่คนตรงหน้าให้ถอยห่าง“เจ็บเหรอ”“เจ็บสิ” เบะใบหน้าเจ็บปวดทำให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำหั
เป็นอีกคืนที่น้ำหนึ่งยังต้องวนเวียนอยู่กับราเชนทร์ในคฤหาสน์หลังโต ตั้งแต่มาถึงก็มักเห็นชายหนุ่มคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่บ่อยครั้งและยังหมกตัวอยู่ในห้องทำงานโดยมีลูกน้องคนสนิทอย่างตุลย์และอีกคนคือปืนที่เดินสับเปลี่ยนกันเดินเข้าออกอย่างกับขบวนพาเหรด“แล้วแบบนี้จะมีโอกาสได้คุยไหมล่ะ” น้ำหนึ่งอยากจะถามเจ้าของบ้านให้รู้เรื่องว่าเธอต้องอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหน แม้จะสะดวกสบายราวเจ้าหญิง ทว่าวันหนึ่งราเชนทร์จะเฉดหัวออกไปแล้วจะตั้งตัวยังไงทันคนตัวเล็กนั่งนอนบนโซฟาหลังจากกินข้าวมื้อเย็นโดยมีเจ้าคัพเค้กแมวสีขาวขนปุยเล่นเป็นเพื่อน ยกเจ้าขนปุยขึ้นมาวางบนหน้าพลางใช้ใบหน้าถูไถขนนิ่ม“เมื่อไหร่เจ้านายแกจะออกมาเนี่ย ฉันนั่งรอหลายชั่วโมงแล้ว” บ่นกับแมวเหมียวที่ไม่รู้ภาษาคนมันได้แต่มองตาปริบๆ ในยามที่น้ำหนึ่งคุยด้วย“ทำไม คิดถึงฉันเหรอ” เสียงทุ้มต่ำดังกรอกข้างใบหูทางด้านหลัง ราเชนทร์เป็นประเภทบ่นปุ๊บโผล่มาปั๊บ“เฮีย! มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ตกใจหมด” ยกมือทาบอกหนึ่งข้าง มืออีกข้างยังอุ้มเจ้าคัพเค้กไว้ในอ้อมกอด“ถามหาทำไมอยากเจอหน้าหรืออยากได้คว..”“หุบปากไปเลย” น้ำหนึ่งรีบแทรกเพราะอีกฝ่ายกำลังจะชั
เท้าหนายันประตูแทนการใช้มือ ห้องนอนกว้างโทนสีทองขาวไม่ต่างจากชั้นล่างมีกลิ่นหอมอบอวลลอยเข้าจมูกจนน้ำหนึ่งเคลิ้มราวมนต์สะกด ราเชนทร์วางร่างแน่งน้อยลงเตียงแล้วใช้มือลูบหน้าผากอย่างอ่อนโยน จากนั้นขยับตัวออกไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้งถอดเสื้อเชิ้ตนาฬิกาออกจากตัวโดยที่สายตาของคนอายุน้อยกว่ามองปะทะกันผ่านกระจก“เฮียพาขึ้นมานอนแค่นั้นจริงๆ เหรอ” ราเชนทร์หันมาแล้วเดินกลับมานั่งด้านข้างบนเตียงกับคนตัวบาง“ง่วงก็พามานอน”“ถ้าหนึ่งอยากทำมากกว่าการนอน”ดวงตารัตติกาลมองปากสวยที่เพิ่งอ้าเปล่งออกมา ก่อนจะหุบมันแล้วเม้มกันไว้คล้ายกับได้สติว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไปอย่างน่าเกลียด“อยากให้เฮียทำอะไร” ขยับกายหนาเข้าใกล้ทั้งกระซิบถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“แล้วแต่ หนึ่งยอมได้หมด” เป็นการอนุญาตไปในตัวว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำอะไรกับเธอก็ได้ ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอพูดออกมาแบบนี้ ในส่วนของคนฟังยิ่งชอบใจที่น้ำหนึ่งยินดีจะมอบในสิ่งที่เขาต้องการ ปลายคางรูปไข่ถูกช้อนด้วยนิ้วมือหนาให้อีกฝ่ายได้เอียงรับกับริมฝีปากหยาบ ราเชนทร์ป้อนความหวานให้อย่างครั้งก่อนและคราวนี้เธอก็อ้าปากตอบรับมันอย่างรู้งานจ๊วบ!!เรียวปากประกบกันอย่างดูดดื่ม
แกร๊ก!!!“ทีมแพทย์จะเร่งกันอย่างเต็มที่ คุณราเชนทร์ไม่ต้องห่วง”บุคคลที่น้ำหนึ่งยืนรอออกมาพร้อมกับหมอมีอายุท่านหนึ่ง แต่เมื่อบุรุษในชุดกาวน์เห็นเธอก็มีอาการตกใจทั้งดวงตาเบิกกว้าง“ไม่เป็นไร ผู้หญิงคนนี้มากับผม”เมื่อคุณหมอได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจคล้ายโล่งอกแล้วกลับเข้าห้องไปตามเดิม น้ำหนึ่งยังยืนอยู่แบบนั้นด้วยแววตาสงสัยว่าด้านในมันมีอะไรทำไมทุกอย่างมันมีความลับและพิเศษกว่าคนอื่นๆ ทว่าดวงตานั้นก็ไม่ได้รับคำตอบจากคนฝั่งตรงข้าม นอกจากการถูกคว้ามือน้อยๆ เดินเข้าลิฟต์“เฮียมาหาใคร ทำไมดูซีเรียสกันจัง”ความอยากรู้อยากเห็นผุดขึ้นเป็นคำถาม ทว่าราเชนทร์ก็ยังยืนจับมือเล็กและใช้นิ้วหัวแม่มือลูบวนลงหลังมือของน้ำหนึ่ง“…”“มาเยี่ยมใคร แฟนใหม่หรือแฟนเก่า”ก็ยังวนและคิดว่าต้องเป็นผู้หญิงของราเชนทร์เหมือนครั้งก่อน และแน่นอนราเชนทร์กับปิดปากเงียบไม่แม้จะเปิดปากตอบคนเด็กกว่าอีกตามเคย คราวนี้น้ำหนึ่งเกิดอารมณ์โมโหเธอไม่ชอบการถามแล้วไม่มีอะไรกลับมา มันเหมือนเป็นอากาศเหมือนไม่มีตัวตนแต่ถ้าราเชนทร์เป็นคนรักก็คงเปรียบได้ว่าเธอไม่มีความสำคัญ“…”“ไม่ตอบก็ไม่ต้องมาจับมือหนึ่ง”สะบัดจนหลุดแล้วขยับตัวไปชิดอีกฝ
เสียงฝ่าเท้าวิ่งตุบตับขึ้นบันไดไปยังชั้นบนเป็นเหตุให้น้ำหนึ่งลืมตาตื่นในช่วงเจ็ดโมงเช้า ตุลย์หน้าตื่นตามหาเจ้านายทั้งส่งเสียงเรียกเสียงดังจนกระทั่งออกไปยังด้านนอกที่เป็นพื้นที่ของกรงนก ร่างแน่งน้อยสะลึมสะลือเพราะถูกก่อกวนจากเรื่องเมื่อคืนเป็นผลให้นอนไม่หลับทั้งครุ่นคิดอยู่คนเดียวบนโซฟาไปจนถึงตีสามและเพิ่งหลับตาได้สนิทไปได้ไม่กี่ชั่วโมงน้ำหนึ่งได้ยินเพียงเสียงสนทนาของเจ้านายกับลูกน้องมีน้ำเสียงเคร่งเครียดและจะข่มตาหลับตาหลับต่อ ทว่าแสงแดดเริ่มแยงลอดผ่านเข้ามากระทบเปลือกตาก็ไม่อาจหลับต่อได้ อ้าปากหาวนั่งมองชายสองคนยืนคุยกันด้านนอกแบบนั้นโดยไม่รู้จะลุกจากโซฟาไปทำอะไร“เอารถออก” เสียงทุ้มต่ำสั่งตุลย์ให้เตรียมรถแต่โดยเร็ว อีกคนรับคำสั่งอีกคนกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นห้องไปหยิบของสำคัญ“รีบอะไรกันขนาดนั้น”ลุกจากโซฟาเพื่อจะเข้าอาบน้ำล้างหน้าที่ห้องตุลย์ ยังไม่ทันจะก้าวขาซ้ายพ้นประตูด้านหลังของบ้านเรียวแขนเล็กถูกกระชากจนหงายไปด้านหลังชนเข้าแผงอกของราเชนทร์อย่างจัง ชายหนุ่มรีบใช้มือหนาอีกข้างโอบเอวกิ่วน้ำหนึ่งกันล้มเพราะแรงดึงกระชากแรงที่ทำคนเด็กกว่าไม่ทันตั้งตัว“เฮีย กระชากหนึ่งอีกแล้ว” โวยวายทั
เสียงหวานที่แผดร้องถูกกลืนหายลงลำคอของอีกฝ่ายในยามที่ราเชนทร์ประกบริมฝีปากอุ่นลง คนตัวเล็กทำได้แค่สะบัดไหล่ไปมาเมื่อแขนสองข้างถูกมัดไขว้หลังไปแล้วก็ไม่อาจใช้มือทุบตีเป็นการห้ามปราบอีกฝ่ายได้“สำหรับคนไม่รักษาคำพูด” น้ำหนึ่งอ้าปากโกยเอาออกซิเจนครั้นอีกฝ่ายถอนจูบและใช้ฝ่ามือประคองใบหน้ารูปไข่“อึ่ก” สอดชำแรกปลายลิ้นทั้งบดริมฝีปากลงอีกครั้ง ตักความหวานของผู้หญิงตรงหน้าออกมาชิมจนเกิดเสียงเฉอะแฉะ ในขณะที่อีกฝ่ายยังตาเหลือกส่งเสียงอู้อี้ดังแผ่วเบาในเพียงลำคอ แม้พยายามจะเม้มปากแน่นกันลิ้นร้อนฉกฉวยก็ไม่อาจต้านทาน ราเชนทร์ยังขยี้มันอยู่แบบนั้นเกิดกลิ่นเลือดคาวคลุ้งเมื่อริมฝีปากของน้ำหนึ่งเริ่มแตกจากการบดเบียด“และสำหรับที่เอากรอบรูปน้องสาวเฮียทิ้งอย่างไม่แยแส”เขาโกรธเธอมากพอสมควรกับเหตุการณ์วันนั้นแต่ต้องระงับอารมณ์เพราะคนตัวบางก็โมโหพอๆ กับเขาในครั้นที่ราเชนทร์ไม่เอ่ยปากตอบ“หนึ่งไม่รู้ ขอ..อึ่ก” จะเอ่ยปากขอโทษก็ถูกฉกฉวยแย่งชิงออกซิเจนในทันที ราเชนร์สูบเรียวปากสวยจนแดงก่ำราวกับทาลิปสติกอย่างหนำใจ จากนั้นหันมาสนใจลำคอสวยลากไซร้มันอยู่แบบนั้น หนวดพอรำไรทิ่มตามเนื้อผิวสร้างความสยิวให้คนตัวบางอย
การแข่งขันเริ่มขึ้น น้ำหนึ่งถือไม้สนุ๊กด้วยท่าทีทะมัดทะแมงพอตัว เดินสำรวจมุมและจังหวะของตัวเองหมายช่วงชิงตำแหน่งของผู้ชนะเพื่อจะขอแลกกับการออกไปจากที่นี่ ในขณะที่ราเชนทร์ถอยตัวออกห่างยืนผิงโต๊ะด้านข้างและจิบน้ำเปล่าผสมโซดาและยังมีแอลกอฮอล์เจือจางบางๆ ครั้นชงมาดื่มเมื่อนอนไม่หลับในค่ำคืนนี้ ท่าทางของคนเด็กกว่าถือว่าใช้ได้ ราเชนทร์เริ่มเลิ่กลั่กหากเธอเป็นผู้ชนะเข้าต้องให้ทุกอย่างในข้อต่อรองทว่า..... ปัก!!ยิงครั้งสุดท้ายของการแข่งขันทว่ากลับไม่ลง น้ำหนึ่งกำลังพลาดเป็นเกมส์ที่รู้สึกประหม่าอย่างมากเมื่ออีกฝ่ายถึงคิวที่ต้องเล็งลูกสนุ๊ก ชายหนุ่มเดินรอบโต๊ะอย่างเชื่องช้าจ้องไปที่ลูกกลมๆ ทั้งกระจายตัวกันอยู่สองสามลูกก่อนจะสลัดหางตามองคนตัวเล็กที่ยืนหายใจแรงด้วยสีหน้าประหม่าราเชนทร์ก้มตัวต่ำระนาบลงกับโต๊ะพู เหยียดแขนข้างซ้ายออกสุดและใช้หลังมือรองไม้สนุ๊กที่พาดผ่านเป็นทางยาว ดวงตาสีคมเข้มจ้องไม่กะพริบเป็นการเล็งเพ่งเป้าหมายจากนั้นก็กระตุกไม้ชนลูกกลมๆ กระทบกันกระจุยกระจาย ยิ่งทำให้น้ำหนึ่งทำตัวไม่ถูก เมื่อมันไหลลงรูอย่างแม่นยำ ราวกับมีแม่เหล็กหน่วงลงไปเสียงปรบมือของผู้ชนะดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มแส
บรรยากาศที่มีแต่เสียงช้อนเสียงเคี้ยวนั่งกันอยู่สองคนโดยที่ตลย์เดินออกไปหลังบ้านไปทำธุระส่วนตัวหลังจากจัดโต๊ะอาหารให้คนเป็นนายเสร็จ“อดอยากมาจากไหน”“เปล่า” แต่ก็ยังตักเข้าปากไม่เลิกทั้งยังลุกไปตักข้าวในหม้อมาอีกสองทัพพีนั่งกินตามเดิมอย่างเอร็ดอร่อย“เดี๋ยวติดคอตาย”คนฟังเลิกสนใจตอบตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว ส่วนราเชนทร์กินไปแค่ไม่กี่คำชายหนุ่มก็ยกแก้วน้ำมาดื่ม“อิ่มแล้วเหรอ”“อืม” ลุกจากเก้าอี้ขึ้นห้องนอนตามเดิม ปล่อยคนตัวเล็กนั่งกินข้าวคนเดียวต่ออย่างเอร็ดอร่อย แม้น้ำหนึ่งจะมองตามราเชนท์ทว่าก็ไม่ได้สนใจอะไร ดีซะอีกจะได้กินแบบไม่ต้องเกรงใจ ไม่ยอมให้กลับบ้านเลานจ์จะกินให้เกลี้ยงเลยคอยดูแน่นอนว่าคืนนี้น้ำหนึ่งยังคงต้องค้างที่นี่ต่อและจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำของราเชนทร์แต่เธอกับเลือกจะเดินออกจากตัวบ้านไปสักหน่อยแล้วใช้ห้องน้ำของตุลย์แทน“ชั้นบนก็มี”“หนึ่งไม่สบายใจที่จะต้องเดินขึ้นห้องเฮียเชนทร์”ตุยล์พยักหน้าตอบก็คงจะไม่ชอบราเชนทร์เหมือนคนอื่นๆ ความหน้านิ่งดูไม่เป็นมิตรไม่แปลกที่จะมีคนไม่ชอบและมันก็เป็นส่วนใหญ่ตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกันมา“แล้วชุดของคุณรันที่เฮียตุลย์เอามาให้ใส่ หนึ่งก็ไม่ส
"พูดให้มันเบากว่านี้ นกฉันตกใจ" เตือนน้ำหนึ่งให้ลดเสียงแหลมลงมาหน่อยและทอดมองร่างแน่งน้อยด้วยสายตาเรียบเฉย"เลี้ยงนกพันธุ์อะไร?" ดันสนใจสัตว์เลี้ยงของราเชนทร์ ทั้งที่มีจุดประสงค์จะมาขออนุญาตออกไปข้างนอกตั้งแต่แรก ทว่าเป็นแค่การปูทางเกริ่นเรื่องอื่นออกไปก่อน"พูดธุระของเธอมา""คือ..จะขอออก-""ไม่" พูดยังไม่จบประโยค ราเชนทร์ก็ตัดจบด้วยคำว่าไม่"เอ้า จะไม่ฟังหนึ่งก่อนเหรอ จะขอออกไปข้างนอกกับเฮียตุลย์" แค่อ้าปากราเชนทร์ก็เดาได้ว่าน้ำหนึ่งหวังผลอย่างอื่นเธอคงต้องการจะออกไปจากที่นี่ คนอย่างราเชนทร์หว่านพืชก็ต้องหวังผล การจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากอาณาเขตของดิลกก้องเกียรติก็สมองกลวงเต็มทน"ฉันไม่ได้โง่" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นทำให้น้ำหนึ่งกลืนน้ำลายพูดไม่ออก ราเชนทร์เดินเลยผ่านคนตัวบางเข้าไปในบ้านกลิ่นตัวหอมจางๆ ปะทะจมูกคนตัวเล็กกว่าแล้วขึ้นห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ในขณะที่น้ำหนึ่งเดินตามมาติดๆ ยืนข้างบันไดด้วยความผิดหวัง"หนึ่งอยู่ที่นี่ ไม่ต้องออกไปไหน" ตุลย์เอ่ยขึ้นและกำชับไม่ให้เธอออกไปไหนทั้งยังถือเป็นการสั่งห้าม"แต่หนึ่ง-""ไม่ใช่แค่เฮียเชนทร์ที่มองออก เฮียเองก็รู้ว่าหนึ่งคิดอะไร"คน