หน้าหลัก / LGBTQ+ / รักลงทัณฑ์ / ทุกอย่างเริ่มกระจ่าง

แชร์

ทุกอย่างเริ่มกระจ่าง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-15 08:38:55

“คุณตะวัน เจอนายพงศ์หรือเปล่าคะ...”

ป้าปุกที่เดินสวนมาพอดีเอ่ยถาม เพราะหากยังไม่เจอ เธอจะได้ไปตามหานายพงศ์ให้ หากแต่เจ้าของบ้านหนุ่มไม่แม้แต่จะมองหน้าแถมก้มหน้าเดินกลับเข้าไปด้านใน เหมือนใครทำให้ไม่สบอารมณ์ ป้าปุกได้แต่ยืนเอ๋อ มองจนอีกฝ่ายเดินหายไป และเดินกลับออกมาอีกครั้ง อย่างกับคนพร้อมไปทำงาน...

“คุณตะวันจะเข้าบริษัทหรือคะ แล้วไม่กินข้าวเช้าก่อนหรือคะ...” เป็นอีกครั้งที่ป้าปุกถามและไม่ได้คำตอบ จากเจ้านาย “โอ๊ย มันเกิดอะไรขึ้นกันละเนี่ย...”

ตะวันเข้ามาในบริษัทเพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อยซึ่งพนักงานคนสนิทที่เป็นลูกมือให้อาพงศ์ก็ให้ความร่วมมือและรายงานความเคลื่อนไหวของพนักงานทุกคนในบริษัทว่าไม่มีใครมีปัญหา และงานทุกอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆ ซึ่งตรงกับที่อาพงศ์ได้รายงานไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

“งั้นเอารายการเบิกจ่ายย้อนหลังมาให้ผมดูหน่อย แล้วมีเอกสารอะไรที่ต้องให้ผมเซ็นอีกไหม ไปเอามาให้หมด”

“ได้ครับ รอสักครู่นะครับ”

ไม่ถึงห้านาทีพนักงานคนเดิมพร้อมแฟ้มเอกสารปึกใหญ่ก็นำมาวางตรงหน้า

“ปกติอาพงศ์เข้ามาดูงานตอนไหน...” จู่ๆ ตะวันก็ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

เกริกวัยห้าสิบสองปีที่ทำงานมาตั้งแต่รุ่นพ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รักลงทัณฑ์   ข้อมูลที่แน่นขึ้น

    ตะวันบอกความต้องการไป เดร์หรี่ตามองเหมือนไม่แน่ใจ แต่ก็คิดว่าเพื่อนคงมีเหตุผลพอสมควรจึงกล้ามาขอให้ทำเรื่องเช่นนี้ ว่าแต่ใครถึงทำให้คนอย่างตะวันผู้ไม่สนใจเรื่องชาวบ้านชาวช่องหันมาทำเช่นนี้ได้...“เมื่อไหร่ หากเกินหนึ่งเดือนไม่ได้นะ”“อาทิตย์ก่อน”“ได้...”แล้วเดร์ก็ลุกขึ้นไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ “นายอยากดูช่วงเวลาไหนก็เลื่อนเอา แต่ต้องช่วงเวลาสามทุ่มจะมีแขกมาเกือบเต็มร้าน”“แล้วนายไม่เคยเห็นแขกที่พอสะดุดตานายบ้างหรือไง”“ปกติก็แขกทั่วไป ฉันก็ไม่จำเป็นต้องมาส่องตลอดเวลานะ เลยไม่รู้หรอกว่าใครบ้างที่น่าจะสนใจกว่า...คนของฉัน”“คนของนาย”“ใช่ คนของฉัน”“แน่ใจ...”“อืม...”“อยากเห็นหน้าคนของนาย...”“ถึงเวลาจะพาไปเปิดตัวนะ”“ได้ แต่หากฉันกลับไร่ไปก่อน ฉันอนุญาตให้นายพาคนของนายไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศที่ไร่ตะวันได้นะ...”“จริงดิ” เดร์ถามเสียงระรื่น“จริงสิ...” ตะวันยืนยัน เดร์จึงขยับออกเพื่อให้เพื่อนเข้าไปยืนตรงหน้าจอ และย้อนดูช่วงเวลาที่ต้องการผ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ เดร์ที่นั่งมองเพื่อนเป็นระยะ ก็เห็นถึงสีหน้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปของตะวัน“มีอะไร ฉันขอดูหน่อยได้ไหม...” ตะวันไม่ตอบแต่สายตาเหมือนคนเจ็บป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • รักลงทัณฑ์   มือที่ไม่เคยปล่อย

    “ตอนที่น้องชายเสียชีวิต นายก็ไม่ได้เห็นศพใช่ไหม”“ไม่เห็น และไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้นฉันขึ้นลงติดต่องานที่ต่างประเทศเป็นว่าเล่น อาพงศ์กลัวฉันไม่มีสมาธิ เลยไม่ได้บอกในตอนนั้น และเผาศพในวันถัดมา แกบอกแค่นี้...”“มันเป็นไปได้เหรอที่จะไม่รอนายมาเผาศพน้องตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย”“ฉันมัวแต่เสียใจและมัวแต่หาเหตุผลกับการฆ่าตัวตายของเตชิน เลยไม่ได้สนใจตรงจุดนี้...”“แล้วหากศพนั้นไม่ใช่กระดูกของเตชินล่ะ”ดวงตาที่ดูสิ้นหวังกระจ่างวาบขึ้น แล้วสลดลงอย่างเดิม “มันมีด้วยเหรอวะ ที่ต้องทำกันขนาดนี้”“แล้วมีอะไรที่คนเราจะทำไม่ได้...ในเมื่อนายก็เห็นแล้วนี่ ว่าสิ่งที่นายพงศ์กับเตชินทำ มันก็เกินเหลือเชื่อ” เดร์หยุดพูดแล้วมองอาการของเพื่อนรักอย่างรู้สึกเห็นใจมาก “นายไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวฉันจะส่งคนตามดูอาพงศ์ให้เอง ส่วนคนที่นายควรสนใจตอนนี้คือคนที่นายไปทำร้ายเขา นายจะไปแก้ตัวกับเขายังไง หรือนายมีแผนในใจอยู่แล้ว”“ยังเลย...” ตะวันตอบน้ำเสียงเครียดอย่างคนสิ้นหนทาง...หลังจากที่คุยกับเดร์ในทุกๆ เรื่อง ตะวันก็กลับมาบ้าน และเห็นป้าปุกยืนรดน้ำต้นไม้อยู่“ทำไมมารดน้ำต้นไม้เอง”“ว่างๆ ก็เลยอยากช่วยค่ะ”“อาพงศ์ล่ะ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • รักลงทัณฑ์   โลกที่ไม่ได้โหดร้ายกับทุกคน

    ในขณะหนึ่งที่ตะวันยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่ม สายตาก็ปะทะกับเจ้าของใบหน้าขาวผ่องที่กระทบแสงไฟสลัวอยู่ไม่ไกลน้ำเหนือ...แล้วแก้ววิสกี้ก็ถูกวางลงที่เดิม เจ้าของร่างสูงใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ตัดสินใจลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“จะกลับแล้วหรือครับ” บาร์เทนเดอร์ที่มองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาอยู่เป็นระยะถามขึ้นตะวันหันมามองสายตาด้วยสายตาเป็นมิตร...อย่างน้อย ก็มีคนสนใจว่าเขาจะไปจะมาตอนไหน “เปล่า ว่าจะไปทักทายคนรู้จักหน่อย” แล้วมองไปยังหนุ่มหล่อที่กำลังคุยโทรศัพท์สีหน้าเคร่งเครียดอยู่“คนรู้จัก...ใช่น้ำหนือหรือเปล่าครับ” เพราะเห็นว่าสายตาที่ว่างเปล่าก่อนหน้านี้เป็นประกายหวามไหวขึ้นทันทีที่มองไปตรงจุดนั้น“รู้จักด้วยเหรอ...”“เป็นรุ่นน้องของเพื่อนที่ทำงานนี่แหละครับ...”“รุ่นน้อง หรือแฟน” ตะวันแกล้งโยนหินถามทาง“โอ๊ย เคนเขาชอบผู้หญิงครับ...” น้ำเสียงกลั้วขำรีบบอก “ส่วนน้ำเหนือเคยได้ยินว่าเขาปิดกั้นตัวเองนะครับ แล้วให้เพื่อนพี่ชายคนสนิท เป็นไม้...รับหน้าอยู่ครับ”“เชื่อได้แน่เหรอ...” เจ้าของดวงตาเรียบลึกถามไม่มั่นใจ“ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ...แต่ถ้าคุณอยากรู้ ผมแนะนำให้ไปถามเพื่อนผมที่ชื่อเคนเลยครับ”“เพื่อนนายชื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • รักลงทัณฑ์   ไม่ว่าเวลาไหนก็มีแค่คุณ

    ตะวันถอนหายใจเป็นช่วงจังหวะที่เครื่องดื่มถูกส่งมาพร้อมกัน ต่างคนจึงยกขึ้นดื่ม แต่น้ำเหนือกระดกทีเดียวหมดแก้ว“นี่ ทำไมไม่ค่อยๆ กิน เดี๋ยวก็สำลักตาย”“มันขมเฝื่อนติดคอ...ต้องยกซดแบบนี้แหละ” แล้ววางแก้วดันไปให้พนักงานชงต่อตะวันส่ายหน้า คิดจะมาเป็นนักดื่มแต่ท่าทางไม่ให้เอาเสียเลย...“เฮอะ ไม่เมาให้รู้ไป...” ตะวันเปรยโดยไม่ได้สนใจสีหน้าคนที่ได้ยินนักซึ่งช่วงจังหวะนั้นรุ่นพี่ที่น้ำเหนือสนิทด้วยเดินเข้ามาเห็น “เหนือมาแล้วเหรอ...อ้าว ไม่ใช่ไอ้กรนี่ แต่...อ้อ สวัสดีครับ...” ‘เพื่อนคุณแยม’ ประโยคหลังเคนคิดในใจแล้วยิ้มพาดผ่านเผื่อไปยังเพื่อนที่เป็นบาร์เทนเดอร์ด้วย อีกฝ่ายก็ยิ้มรับ“ตามสบายนะครับ...วันนี้รู้สึกว่าคุณแยมไม่อยู่” เคนเอ่ยบอกหนุ่มหล่อที่นั่งพูดคุยอยู่กับรุ่นน้องด้วยท่าทางเป็นกันเอง ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย“อืม...” ตะวันตอบในลำคอ ท่าทางปกติ เคนสลัดความคลางแคลงใจทิ้ง เพราะสถานที่แบบนี้ ความสัมพันธ์ที่เพียงถูกตาถูกใจ ก็คลิกเข้าหากันได้ไม่ยาก“งั้นไม่กวนนะ...เออ หากเมากลับบ้านไม่ไหวก็บอกนะ จะเรียกแท็กซี่ให้” บอกรุ่นน้องที่สนิทด้วยแววตากรุ้มกริ่ม“โธ่พี่ ผมนึกว่าพี่จะพาผมไปส่งบ้าน”“เชอะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • รักลงทัณฑ์   กระจกสะท้อน

    นอกชานเมืองที่ไม่มีรถวิ่งพลุกพล่านตะวันจึงเร่งความเร็ว ไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทาง บ้านพักหลังใหญ่มีรั้วรอบขอบชิด ด้านกำแพงและทางเดินมีไฟส่องสว่างเป็นระยะๆ ตะวันเลือกจอดรถเลยประตูรั้วไปและมองหาคนของเดร์ แต่สองข้างทางไม่มีรถใครอื่นจึงเลิกมองหา ก่อนจะก้าวลงจากรถมองไปที่ประตูรั้วจึงเห็นว่ามันไม่ได้ล็อกไว้ไม่นานรถเก๋งอีกคันก็แล่นเข้ามาจอดใกล้ๆ และเมื่อเห็นว่าเป็นเดร์ ตะวันก็เดินเข้าไปหาสีหน้ากังวล“ไม่เห็นคนของนาย...”“พวกมันเฝ้ามาทั้งวัน เลยขอตัวไปหาอะไรกินแถวๆ นี้ ก่อนที่นายจะมาถึงนี่แหละ ไม่ถึงสิบห้านาทีคงกลับมาสมทบ”ตะวันพยักหน้า แต่ก็ยังติดใจจึงถามย้ำ “...นายมั่นใจว่าเป็นบ้านของอาพงศ์จริงๆ เหรอ”“คนของฉันเฝ้าดูจนมั่นใจ ว่าอาพงศ์เข้าไปและยังไม่ออกมา...”“อาพงศ์อาจจะมาหาใคร...”“แล้วนายคิดว่ามาหาใคร...”“ก็ไม่รู้...”“นั่นไง เพราะไม่รู้ว่ามาหาใครกันแน่ นายถึงต้องมาให้เห็นกับตา เพราะหากเราจะง้างปากเขา นายก็ไม่ได้คำตอบหรอก...” หยุดมองหน้าเพื่อนที่เห็นว่ากำลังใช้ความคิด แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อนคิดนานไป เดร์จึงถามขึ้นอีก “นายจะเข้าไปคนเดียวหรือว่าไง” คนพร้อมเคียงข้างหรี่ตารอคำตอบตะวันถอนหายใจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • รักลงทัณฑ์   คนร้ายตัวจริง

    ทั้งที่มือสั่นประหนึ่งคนจับไข้ ค่อยๆ ยื่นไปจับลูกบิดแล้วหมุนช้าๆ ซึ่งมันไม่ได้ล็อก ยิ่งทำให้ใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม จนหยุดกลั้นหายใจ แล้วผลักประตูเปิด...ภาพตรงหน้าคือใครคนหนึ่งที่ถูกล่ามโซ่ไว้“เตชิน” เหมือนยืนอยู่ใจกลางพายุ ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลตีวุ่นเข้าหากัน “เตชินนายยังไม่ตาย...” เสียงที่เรียกดังพอให้คนที่ก้มหน้าฟุบอยู่บนเข่าเงยหน้าขึ้นมาดวงตาอิดโรยหรี่ตาเพ่งมอง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อมั่นใจว่าใช่คนที่ตัวเองรู้จักดี “น้ำเหนือ...นายมาได้ยังไง” น้ำเสียงแห้งแหบเปรยขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา “น้ำเหนือจริงด้วย ช่วยฉันด้วย” เตชินผู้ถูกขังมาแรมปีตะเกียกตะกายคลานมาหา แต่ติดตรงที่ข้อเท้าถูกล่ามโซ่เส้นใหญ่เอาไว้จึงมาไม่ถึงน้ำเหนือเมื่อมั่นใจว่าคนตรงหน้าที่ถูกกรอกหูว่าตายไปแล้วยังมีชีวิตอยู่ ก็วิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจแล้วทรุดตัวลงนั่ง สวมกอดกันด้วยความดีใจ ก่อนจะดันคนที่ผ่ายผอมออกห่าง สองมือจับไปบนแขนที่บัดนี้เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก อย่างคนถูกทิ้งให้อดอยาก“ทำไมถึงเป็นแบบนี้...” น้ำเหนือขอบตาร้อนผ่าว ก่อนจะไล่สายตามองสำรวจไปบนร่างกายของเพื่อนรัก หยุดอยู่ที่ข้อเท้า ซึ่งถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ บนผิว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • รักลงทัณฑ์   ความรู้สึกที่ไม่เคยลืมเลือน

    น้ำเหนือน้ำตาร่วงริน เมื่อเห็นภาพสองพี่น้องที่กอดคอกันสะอื้นไห้ โดยไม่ห่วงภาพพจน์โดยเฉพาะตะวัน อีกทั้งไม่สนใจว่าตัวเองจะเสียเลือดมากแค่ไหน...“เชี่ย” เดร์ที่เข้ามาไม่ทันการร้องเสียงหลง และยิ่งเห็นภาพตรงหน้า โดยที่ไม่รู้ว่าจะตกใจสภาพของใครก่อน ระหว่างน้องชายเพื่อนที่ถูกล่ามด้วยโซ่หรือคนเป็นเพื่อนที่ตอนนี้หัวแตกเลือดอาบไปทั้งหน้า“คุณตะวันไปหาหมอก่อนนะครับ” เสียงน้ำเหนือร้อนรนขึ้น เมื่อเห็นว่าเลือดไม่หยุดไหลแต่คนเจ็บไม่ได้มีทีท่าใส่ใจ กลับส่งสายตาเศร้าผิดหวังมองคนของตัวเอง แต่แล้วก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกร้าวของเดร์สั่งขึ้น“จับอาพงศ์ไว้” เดร์หันไปสั่งลูกน้อง“อย่ามายุ่ง” พงศ์ต่อต้าน ไม่ยอมให้ชายฉกรรจ์ทั้งสองเข้าถึงตัว“หรือจะให้เรียกตำรวจ” เดร์ตะคอกถามเสียงกร้าว หากแต่คนผิดไม่ได้มีทีท่าสะทกสะท้านตะวันออกอาการตกใจกับคำพูดของเดร์อย่างเห็นได้ชัด แล้วรีบพูดขึ้น “ไม่ๆ ฉันจัดการเอง...” เจ็บจนเกือบทนไม่ไหวแต่ยังประคองตัวกัดฟันเพื่อห้ามเพื่อนไว้ เพราะไม่อยากให้ใครทำรุนแรงกับอาพงศ์“นี่เขาทำกับนาย ทำกับเตชินขนาดนี้ นายยังจะกลัวอะไรอีก”“นายไม่ได้มาอยู่จุดนี้ นายไม่รู้หรอก...”“เออ...ฉันไม่รู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
  • รักลงทัณฑ์   อยากได้อ้อมกอดใครสักคน

    น้ำเหนือเงยหน้าสบตาอย่างไม่เชื่อหู...จากที่อยากต่อว่าคนทำตัวรุ่มร่ามก็ต้องเก็บคำเอาไว้ เหลือไว้เพียงสายตาเห็นใจที่เต็มไปด้วยความสับสนทำไมต้องเป็นเรา...น้ำเหนือครุ่นคิด และทำไมตัวเองถึงใจง่ายปล่อยให้อีกฝ่ายจูบ...“ลำบากใจหรือเปล่า” ตะวันถามด้วยความข้องใจเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองจูบไปนั้นยืนนิ่งเหมือนคนคิดหนัก“ทำไมต้องเป็นผม” ถามด้วยความไม่มั่นใจดวงตาที่แฝงความดุดันไม่ยอมใครก่อนหน้านั้นอ่อนแสงลงไปมาก “หากใจไม่ตรงกัน นายคงไม่ยอมให้ฉันทำแบบนั้นกับนายไม่ใช่เหรอ”น้ำเหนืออึกอัก ดวงหน้าเป็นสีระเรื่อ “ตอบไม่ตรงคำถาม...ผมถามว่าทำไมต้องเป็นผม” สายตาเร่งเร้าเอาคำตอบสายตาหวั่นไหวตอบกลับเสียงทุ้มนุ่ม “ถ้าคนมันไม่ใช่ใครเขาอยากไปทำ...”“แล้วไม่คิดว่าผมจะชกหน้าคุณเหรอ” น้ำเหนือชักสีหน้าดื้อใส่ตอบกลับ“หรือจะบอกว่าเราใจไม่ตรงกัน...”“ก็มันไวเกินไป...พูดกับคุณแล้วไม่รู้เรื่อง นี่เห็นว่าเป็นพี่ชายเพื่อนนะ...หึย...จะไปดูเตชินจะไปด้วยกันไหม” ไม่รู้จะต่อว่าหรือจับประเด็นตรงไหนก่อนดีจึงตัดบท“ก็นำไปสิ...”เมื่ออีกฝ่ายออกปาก น้ำเหนือจึงรีบเดินออกไป พร้อมหัวใจที่เต้นแรงและใบหน้าฉาบสีเรื่อกว่าเดิม โดยตะวันย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15

บทล่าสุด

  • รักลงทัณฑ์   ความรักความไว้ใจที่มีหนึ่งเดียวแค่คุณ

    ณ ไร่ตะวัน“นี่จะไม่ให้ลุกไปไหนเลยหรือไง” น้ำเหนือถามเสียงเข้ม เพราะพยายามปลดแขนที่กอดรัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนออกจากตัว แต่อีกฝ่ายก็ขืนไว้ไม่ยอมให้ปลดออก“ผมยังไม่อิ่มเลย”“นี่ฟ้าจะเปลี่ยนสีอยู่แล้ว ลุกขึ้นไปดูคนงานบ้างเถอะ...” ว่าแล้วก็ตีไปบนต้นแขนแข็งแรง แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่เปลี่ยนท่าที “ไหนบอกว่าจะพามาดูไร่ นี่อะไร ขังไว้ในห้องตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ”“ก็คนมันคิดถึง”“คิดถึงหรือเงี่ยน”“โธ่...ปากคอเราะรายขึ้นนะ” ว่าแล้วก็ปล่อยแขนออกจากเอวน้ำเหนือจึงดีดตัวลุกขึ้น มองร่างใหญ่ล่ำที่นอนแผ่โชว์กล้ามเนื้อแน่น ซึ่งน้ำเหนือหน้าเห่อร้อนทุกครั้งที่เห็นและสัมผัส...“ผมอยากไปดูสวนผัก...”“จะเปลี่ยนไปนอนกระท่อมไหมล่ะ บรรยากาศท่าจะดี หรือริมลำธารดีล่ะ...”รู้ว่าตะวันแกล้งพูดยั่ว ซึ่งน้ำเหนือก็ไม่ได้ใส่ใจ หากแต่สนใจกระท่อมไม้ที่ตัวเองเคยซุกหัวนอน“ยังไม่พังอีกเหรอ”ในเมื่อสภาพกระท่อมเป็นเพียงไม้ไผ่สานบางๆ และใบไม้แห้งจะทนแดดทนฝนไปได้นานเท่าไหร่กัน“ผมสั่งให้ลุงมิ่งดูแลอย่างดีเลยนะ”“เพื่อ...”“ความทรงจำผมอยู่ที่นั่นไง”“ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ ผมอยากเห็นแล้ว” พูดพลางก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มเดินตรงไปยังห้อ

  • รักลงทัณฑ์   ทางเดินที่เลือกแล้ว

    ณ ธงชัยสิทธิ์เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เตชินทำเรื่องขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปต่างประเทศเรียบร้อย และกำลังจัดกระเป๋าเสื้อผ้าเตรียมตัวเดินทางในอีกสองวัน“แน่ใจนะว่าไปอยู่คนเดียวได้” ตะวันเดินเข้ามาแล้วเอามือวางไปบนไหล่น้องชาย เตชินเงยหน้าขึ้นมาแล้วฉีกยิ้มให้“อยู่ได้สิครับ ผมน้องพี่ตะวันนะ...” ดวงตากลมใสเป็นประกาย หากแต่ตะวันมองออกว่านั่นคือการพยายามแสดงออกให้เห็นว่าตัวเองไม่เป็นไร แต่ใจร้องไห้...“มันเป็นไปไม่ได้แล้วใช่ไหม...” เพราะสองอาทิตย์ที่ตัวเองนอนเป็นเจ้าชายนิทรา ทางนี้ก็ได้พายุเป็นคนรับหน้าที่ดูแล มันคงมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปได้บ้าง...คำถามของคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน สะท้อนตรงลงมากลางอก เตชินดวงตาอ่อนแสง แล้วตอบเสียงสั่นเครือ “แค่พี่เขาไม่รังเกียจผมก็ดีมากแล้ว”“อืม...อาจจะไม่ใช่เวลาที่ใช่”“แล้วเรื่องพี่ตะวันกับน้ำเหนือล่ะครับ...” เตชินเปลี่ยนเรื่อง“พี่ก็ไม่ท้อหรอก พยายามตามจีบเขาอยู่”“งั้นผมเอาใจช่วยนะครับ” แล้วสองพี่น้องก็สวมกอดส่งกำลังใจให้กันสนามบินสุวรรณภูมิ“น้ำเหนือบอกว่าจะมาส่งเหรอ” ตะวันเอ่ยถามหลังจากที่เห็นน้องชายชะเง้อคอยาวมองไปยังประตูทางเข้า“เห็นบอกว่าจะมา...” น้ำเ

  • รักลงทัณฑ์   ความในใจตลอดมา

    ปัง ปัง ปัง“ไม่ อึก...” น้ำเหนือวิ่งถลาไปหาร่างที่ทรุดลงไปบนพื้นหญ้าอย่างตกใจสุดขีดในขณะที่เตชินทรุดตัวสลบไปพร้อมภาพสุดท้าย คือร่างของพี่ชายที่เต็มไปด้วยเลือด ซึ่งถูกน้ำเหนือประคองกอดไว้ ส่วนพายุวิ่งไปดูเตชินและประคองศีรษะไม่ให้กระแทกลงบนพื้นพายุมองใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือดฝาดด้วยความหดหู่ใจ ความโกรธเกลียดก่อนหน้านั้นหายไปหมดสิ้น เมื่อคนที่ตัวเองประคองอยู่นั้น เจอเรื่องหนักหนาเกินกว่าจะซ้ำเติม และตัวเองก็ไม่ควรเก็บเรื่องราวในอดีตเอามาเป็นทุกข์อีกต่อไป...ช่วงชุลมุนนั้นภาคินระเบิดกระสุนใส่มือของพงศ์จนปืนกระเด็น พงศ์ลงไปนอนกุมมือร้องโอดโอยอยู่ตรงนั้นสองอาทิตย์ต่อมาตะวันเริ่มรู้สึกตัวหลังจากที่มีอาการโคม่าและผ่าตัดถึงสองครั้ง เพื่อเอากระสุนที่อยู่ใกล้จุดสำคัญออกมา และได้น้ำเหนืออยู่ดูแลไม่ห่างโดยมีเดร์เข้ามาช่วยเป็นบางครั้ง จนพายุและภาคินยอมใจอ่อนไม่ห้ามปรามและปล่อยให้ไปตามใจที่น้องชายต้องการ ส่วนพงศ์ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และเข้ารับการรักษาเนื่องจากมีอาการจิตหลอน ในขณะที่เตชินยังมีอาการหวาดผวาก็ได้พายุเป็นคนดูแลในระหว่างที่ตะวันรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล...“ฟื้นแล้ว” น้ำเหนือดีดตัวลุกขึ้

  • รักลงทัณฑ์   ปิดจบ

    ตั้งแคมป์กันเหรอ...ตะวันคิดสรุป เพราะเห็นว่ามีอุปกรณ์ครบไม่ว่าจะของกินหรือของใช้ อีกทั้งเห็นว่ามีเสื้อผ้าเปียกน้ำผึ่งแดดไว้“ไม่ยักรู้ว่าพี่ภาคินก็แม่นปืนกับเขาด้วย”เสียงคุ้นหูดังระรื่นมาแต่ไกล ทำให้คนได้ยินถึงกับหูอื้อ ใจเต้นแรงทันที“คุณตะวัน...” ภาคินเรียกผ่านริมฝีปาก ส่วนน้ำเหนือหน้าถอดสีแล้วขยับไปจับไหล่ของภาคินไว้ภาคินเหลือบตามองน้ำเหนือด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันมาพูดกับผู้ชายหน้าบอกบุญไม่รับตรงหน้า“ไม่ทราบว่ามีอะไรด่วนหรือเปล่า ถึงได้เดินตัดเข้ามาในอาณาเขตของคนอื่นแบบนี้.. ระวังเถอะ เจ้าของไร่อาจตาลายนึกว่าเป็นสัตว์ร้ายจะโดนเป่าเอาง่ายๆ นะครับ”“อยากเป่าก็เป่าสิ แต่ต้องเป่าทีเดียวให้ตายนะ” ในขณะที่พูดตาก็มองกร้าวไปยังหนุ่มที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังลูกชายเจ้าของไร่“ผมไม่ใจร้ายใจดำขนาดยิงคนเหมือนกันได้หรอกครับ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า”“ก็ไม่มีอะไร แค่ตกใจเสียงปืนก็เท่านั้น”“อ้อ ครับ ผมไม่ทันคิดว่าผมซ้อมมือที่ไร่ผม แล้วจะไปรบกวนคนอื่น”“ครับ บังเอิญว่าทิศทางลมมันไปทางไร่ผมกับน้องชายพอดีเลยทำให้ตกใจ ที่สำคัญคุณก็รู้ว่าน้องชายผมไปเจออะไรมา หากผมจะหวาดระแวงก็คงไม่แปลกนะครับ...แต่ตอนนี้

  • รักลงทัณฑ์   เดินตามเสียงหัวใจ

    สองวันต่อมา ตะวันทนการรบเร้าของเตชินไม่ไหวจึงเล่าเรื่องตนเองกับน้ำเหนือให้ฟังจนหมด“พี่ตะวัน พี่ทำกับเพื่อนผมแบบนั้นได้ไง”เตชินได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างน้ำเหนือกับพี่ชายของตัวเองก็รับไม่ได้“พี่ทำแบบนั้นทำไม แล้วนี่พี่จะเอายังไงต่อ...ไม่สิ ผมอยากไปขอโทษน้ำเหนือ” เตชินร้อนใจกลัวความบาดหมางครั้งนี้จะทำให้ความเป็นเพื่อนขาดสะบั้นลงส่วนเรื่องพายุ เตชินเตรียมใจไว้แล้วว่า ความรู้สึกคงไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ โดยเฉพาะพายุ คงยากที่จะกลับมามองหน้าตัวเองได้อีก...“ตอนนี้ พี่ไม่อยากให้เตชินอยู่ห่างพี่เลยนะ”“ผมก็ไม่อยากห่างพี่เหมือนกัน ผมกลัว...”“พี่ขอโทษ...” ดึงตัวน้องชายเข้ามากอดปลอบน้องชายและปลอบใจตัวเอง...“ผมก็ขอโทษพี่เหมือนกัน ที่สร้างเรื่องยุ่งยากมาให้...แต่ตอนนี้ผมเป็นห่วงน้ำเหนือมาก จะเป็นอะไรบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้”“เขาอาจจะเกลียดพี่ไปแล้ว...” ตะวันเปรยขึ้น เสียงเศร้าเตชินรับรู้ได้ว่าพี่ชายตนรู้สึกผิดจริงๆ เพราะคนอย่างนายตะวันไม่เคยทำอะไรฝืนใจตัวเอง“ถึงยังไงผมก็อยากไปเจอน้ำเหนือก่อนจะเดินทาง”เตชินตัดสินใจแล้วว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ แต่ต้องรอให้เรื่องทุ

  • รักลงทัณฑ์   เส้นตาย

    พงศ์เส้นเลือดตรงขมับบวมเต็ง เมื่อเห็นเตชินแสดงสีหน้าเจ็บปวดขณะมองชายอดีตคนรักที่เสมือนหนามยอกอก...เวลาผ่านไป ใจของเตชินก็ยังอยู่กับมันพงศ์คิดอย่างแค้นเคืองเลือดหึงขึ้นหน้า แล้วด้วยความโกรธแค้น จึงคิดหาทางเอาคืนอีกฝ่ายให้สาแก่ใจ ดวงตาคมกล้ามองไปใต้เสื้อแจ็กเก็ตสีดำของชายฉกรรจ์ที่ยืนแนบข้างจดจ้องอยู่ที่บางอย่างตรงเข็มขัด เมื่อได้จังหวะ ก็เข้าไปกระแทกไหล่จนอีกฝ่ายเสียหลักยื่นมือไปคว้าสิ่งที่เล็งไว้มาถือได้สำเร็จอย่างมั่นเหมาะความอลหม่านเกิดขึ้นเมื่อปลายกระบอกปืนจ่อไปยังพายุ ส่วนลูกน้องอีกคนรีบดึงอาวุธของตัวเองออกมาแล้วเล็งตรงไปยังพงศ์ทันทีทุกคนต่างตะลึงตกใจ พายุหน้าถอดสีแต่ทำใจดีสู้เสือตะวันร้อนใจ กลัวเรื่องบานปลายใหญ่โต โดยที่ไม่อยากให้มีการสูญเสียไม่ว่าเรื่องใด ตัดสินใจเดินตรงไปหาพงศ์ ในขณะที่พายุกำลังพูดโต้“จะยิงผมเหรอ...ผมผิดอะไร ในเมื่อผมแพ้พวกอาพงศ์แล้วนี่ น้องชายของผมก็โดนลากไปแก้แค้นทั้งที่ไม่ผิด แล้วผมกับน้ำเหนือสมควรได้รับสิ่งที่ธงชัยสิทธิ์ทำงั้นเหรอ...”คำพูดของพายุทำให้ทุกคนในที่นั้นตะลึงงัน ส่วนภาคินเดินเข้ามาจับแขนเพื่อนไว้เพื่อส่งกำลังใจให้ หากแต่อาพงศ์ยกยิ้มสะใจ“กู

  • รักลงทัณฑ์   เก็บกวาดคนเลว

    จากคนเงียบๆ และดูสุขุมของพงศ์ทำให้ป้าปุกที่อยู่ด้วยกันมานานก็สังเกตเห็นอาการหงุดหงิดเช่นนี้มาหลายวัน แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรให้มากความ เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว...“ทำไมไม่กินข้าวอีก” หลังจากที่กลับมาจากดูว่าปุกและอิงนั่งรถแท็กซี่ออกไปแล้ว พงศ์เห็นว่ากับข้าวที่เขาเป็นคนยกมาให้ยังไม่พร่องไปเลย“ผมกินไม่ลง...อาพงศ์แก้มัดผมเถอะนะ” น้ำเสียงเว้าวอน แต่พงศ์คนใส่ใจและอบอุ่นคนเดิมไม่มีแล้ว“ไม่ รีบกินจะได้ไปกันเสียที” เขาตอบเสียงสะบัดจากที่สีหน้าเศร้าหงอย ก็ตื่นพรืด ร้องถามเสียงหลง “ไปไหน อาพงศ์จะเอาผมไปไหน...ผมไม่ไป ป้าปุก ป้าปุกช่วยผมด้วยป้า...” เตชินตะโกนร้องเรียกพร้อมกับขยับลงจากเตียงตุบเพราะขาทั้งสองถูกมัดไว้จึงร่วงลงมานอนอยู่บนพื้น เตชินกัดริมฝีปากกลั้นความเจ็บเอาไว้จนห้อเลือดพงศ์มองอย่างดูแคลน “อยากเรียกใครก็เชิญ”ประโยคที่ท้าทายและไม่เกรงกลัว ทำให้เตชินเงียบเสียง ตาหรี่มองคนตรงหน้า “ลุงทำอะไรกับพวกเขา”“แค่ไล่ให้กลับบ้าน” สีหน้าราบเรียบไม่แสดงอาการเดือดเนื้อร้อนใจ เป็นเตชินที่หน้าตื่นตกใจ“ไล่กลับบ้าน ไล่ทำไม”“ไม่ต้องถามมาก จะกินไม่กิน”“ไม่ ตอบผมมาสิ ว่าไล่ป้าปุกทำไม”“ไม่ต้องถา

  • รักลงทัณฑ์   ทางสะดวก

    “กว่าจะมาได้...แล้วนี่แต่งตัวจะไปไหนอีก” พอเห็นว่าคนที่ตัวเองตั้งตารอเดินผ่านประตูเข้ามา อีกทั้งแต่งตัวเหมือนเตรียมจะออกข้างนอก ก็ถามเสียงขุ่นสีหน้าไม่พอใจ“อาพงศ์วุ่นวายกับผมเกินไปแล้วนะ...อย่าให้ผมรู้สึกไม่ดีกับอามากไปกว่านี้เลยนะครับ ผมขอร้อง...” เตชินเอ่ยเสียงเศร้าแกมขอร้อง หากแต่ผู้สูงวัยกว่ากลับยืนนิ่งเหมือนไม่รับรู้สิ่งที่พูด เตชินจึงพูดต่อ “เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เรากลับไปแก้ไขไม่ได้ ผมขอให้มันจบไปได้ไหมครับ...ผมไม่อยากให้อาพงศ์มาจมอยู่กับเรื่องที่เราได้ทำผิดพลาดไป อาจจะเป็นผมที่วางตัวไม่ดี ผมขอโทษอาพงศ์ด้วยนะครับ” เตชินเป็นฝ่ายยอมรับผิดเสียเองเพื่อตัดจบทุกปัญหาหากแต่คนสูงวัยกว่ากลับยิ้มร้าย “มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ...ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะนั้นเยียบเย็นจนน่ากลัวเตชินขนลุกซู่ ประหวั่นกับอาการและท่าทางที่เปลี่ยนไปของอาพงศ์ ไม่มีแล้วสายตาและคำพูดที่อบอุ่นใจอย่างเมื่อก่อนเตชินถอยหลัง รู้สึกหวาดกลัวท่าทางแปลกๆ ของอาพงศ์ที่ตอนนี้เหมือนคนไร้สติไปเสียแล้ว“มานี่...มาดูอะไรนี่ อาอุตส่าห์ไปทำมาเลยนะ” มืออาพงศ์คว้าหมับที่ข้อมือเล็กกระชากอย่างแรงจนร่างเตชินเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด“อาพงศ์ปล่อย

  • รักลงทัณฑ์   จุดเริ่มต้นที่ต้องตัดจบ

    เตซินสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่ม แล้วดึงชายผ้าห่มคลุมใบหน้าอย่างรำคาญเมื่อได้ยินดังอยู่ใกล้ๆ แต่แรงขยับทำให้จากที่ไม่อยากตื่น ตาก็สว่างโร่ เมื่อรับรู้ได้ว่าบนเตียงตัวเอง มีคนอื่นนอนอยู่ด้วย ใจพลันคิด เมื่อคืนพี่พายุไม่ได้กลับไปนอนบ้านเหรอ...ดึงผ้าห่มออกจากศีรษะแล้วมองไปยังคนข้างๆ“เฮ้ย อาพงศ์” แล้วรีบเลิกผ้าห่มขึ้นเพื่อมองสำรวจร่างกายใต้ผ้าห่มของตัวเองเตชินตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเสื้ออาภรณ์ใดๆ บนร่างกายไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว“ใช่ครับ...” พงศ์ตอบสีหน้าราบเรียบ หากแต่เตชินหน้าบิดเบี้ยวเหยเก แล้วมองสำรวจไปรอบห้องด้วยแววตาตื่นตระหนก และพบว่าเสื้อผ้าของตัวเองวางกองอยู่บนพื้นอย่างไม่ไยดี และใกล้ๆ กันนั้นก็เป็นเสื้ออีกชุด ซึ่งไม่ต้องบอกว่าเป็นของใคร...“หมายความว่าไง อาพงศ์ทำอะไรผมเมื่อคืน”ไม่อยากเดา และไม่อยากยอมรับความจริงเสียงทุ้มหนักหัวเราะออกมาแล้วเอ่ยถาม “ทำไม รับไม่ได้เหรอ เมื่อคืนคุณเตชินยังบอกว่าชอบอยู่เลย” แล้วยกมือถือในมือขึ้นสูงอีกครั้งเตชินหน้าตื่นแล้วค่อยๆ กลายเป็นสีเรื่อ เมื่อจำได้เลือนรางว่ามันรู้สึกดีจริงๆ ในตอนนั้น“นี่อาพงศ์ถ่ายภาพผมเก็บไว้หรือครับ” แล้วรีบเบี่ยงตัวหลบ“ก็เอาไว้ดูต

DMCA.com Protection Status