Chapter 5
'นกน้อยในดงอสูร'
.
.
"เราต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอคะ? " ทิพย์ถามเสกที่กำลังผสมว่านมหาเสน่ห์และมวลสารอาถรรพ์เข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นยาเสน่ห์ปลุกกำหนัดในตัวของผู้ที่กินเข้าไป
"ถ้าไม่ทำแบบนี้จะให้กันต์มันทำเองเหรอไง คงได้พลั้งฆ่าเธอตายพอดี" เสกตอบขณะบดมวลสารทุกอย่างเข้าด้วยกันจะได้นำไปทำพิธีต่อ
"ความจริงมัทนาเองก็เข้าตำราทุกอย่างนะ" ย่าแรมพูดแทรกขึ้น
"ตำราอะไรคะ?" ทิพย์หันไปถามด้วยความสงสัย
"ผู้หญิงแบบมัทนาเหมาะจะให้กำเนิดสายเลือดเผ่าพันธุ์ของเราไง เธอผิวพรรณดี ร่างกายแข็งแรง บริสุทธิ์ผุดผ่อง อยู่ในจารีตประเพณีไม่ผิดศีลธรรม มันตรงตามตำราทุกอย่าง ในเมื่อเธอจะต้องร่วมเตียงกับเจ้ากันต์แล้วก็ใช้โอกาสนี้ให้เธอตั้งท้องลูกของเจ้ากันต์ด้วยเลย"
คำพูดของย่าแรมมันทำให้สองผัวเมียหันมองหน้ากันเหมือนต่างฝ่ายต่างขอความคิดเห็นจากกันโดยไม่พูดอะไร ใช้เพียงสายตาเท่านั้น แต่เสกเองก็เห็นด้วยกับแม่แหละเพราะเขามีลูกคนเดียวการมีหลานไวมันย่อมดีกว่าอย่างน้อยเผ่าพันธุ์ของเขาที่เหลือน้อยนิดก็ยังมีทายาท
"เอาตามที่แม่ว่าก็ได้ มัทนาเองก็ไม่แย่ถึงจะเป็นสาวใช้แต่ก็เป็นคนดีมีศีลธรรม คงเป็นแม่ที่ดีได้ แล้วเธอว่าไง?" เสกหันมาถามทิพย์
"คุณกับแม่ว่ายังไงฉันก็ว่าอย่างงั้นค่ะ" ทิพย์เองก็ขัดไม่ได้ต่อให้ไม่เห็นด้วยก็พูดอะไรไม่ได้หรอกเพราะเธอแค่แม่เลี้ยงของกันต์
"งั้นฉันจะเข้าไปทำพิธี อย่าให้ใครมากวนฉัน" เมื่อตกลงกันได้เสกก็เอามวลสารเสน่ห์เข้าไปทำพิธีในห้องเพื่อให้มันเข้มขลังจะได้เอาไปให้มัทนากินให้มันจบ ๆ เรื่องไป
กันต์เดินเข้ามาในห้องของมัทนาที่เธอยังคงนอนหมดสติบนเตียง ร่างสูงที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ร่างเล็กแล้วใช้มือเปื้อนเลือดลูบไปตามใบหน้าหวาน ดวงตาสีดำทมิฬจับจ้องความงดงามเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้ม
เลือดสีสดเปื้อนไปตามใบหน้าและลำคอของมัทนาจนเขาหักห้ามใจไม่ไหวโน้มใบหน้าลงไปหาแก้มใสแล้วตวัดลิ้นเลียคราบเลือดที่เกาะติดหน้าหวานด้วยลิ้นสากจนน้ำลายเหนียวหยาดเยิ้มไปทั่วหน้า จมูกสันคมไล่ดมกลิ่นหอมบนเนื้ออ่อนลากสัมผัสเปียกชื้นลงมาถึงลำคอหงส์
"ฉันอยากจะกินเธอจริง ๆ เลย" เขาจับแขนเล็กขึ้นมาจ้องมองด้วยความกระหาย "อยากจะฉีกแขนของเธอออกให้เลือดมันสาดกระจาย อยากจะแทะเล็มเนื้ออ่อน ๆ ให้เกลี้ยงไม่เหลือติดกระดูกสักนิดเดียว"
"ฉันอยากจะกระชากหัวของเธอออกแล้วเอาไปตั้งโชว์ไว้ในตู้เหมือนที่พ่อชอบเอาเครื่องเงินเครื่องทองออกมาโชว์แต่ของฉันมันจะเป็นหัวเธอแทน"
เขาซบใบหน้าลงบนหน้าอกของเธอด้วยท่าทางออดอ้อนออเซาะ สองแขนโอบกอดร่างเล็กที่ยังคงไร้สติเอาไว้ "เธอต้องเป็นของฉัน ของฉันคนเดียวเท่านั้น"
หลังจากทำพิธีเสร็จเสกกับทิพย์ก็มาหามัทนา แต่ก็ต้องตกใจที่เห็นเนื้อตัวของหญิงสาวมีแต่คราบเลือด ทิพย์รีบเข้าไปสำรวจร่างกายเพื่อดูว่ามีบาดแผลตรงไหนไหมแต่ก็ไม่มี "ไม่มีบาดแผลค่ะ สงสัยกันต์คงเอาเลือดมาละเลง"
"ไอ้เจ้านี่มันก็จริง ๆ เชียว" เสกได้แต่หนักใจกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
"ช่างเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้มัทนาเอง ตอนนี้เอายาป้อนเธอก่อนดีกว่า" ทิพย์จับหัวของมัทนาให้ยกขึ้น
เสกหยิบขวดยาเสน่ห์ที่ถูกทำให้เป็นน้ำหยดใส่ปากของมัทนาอย่างช้า ๆ เพียงแค่หยดเดียวยาก็จะออกฤทธิ์ให้ร้อนรุ่มเนื้อกายเหมือนโดนไฟเผา อยู่ไม่เป็นสุข เต็มไปด้วยความกระหายในกามราคะจนควบคุมตัวเองไม่ได้
"อยากลองกินไหม?" เขาเงยหน้าถามเมียรัก
"ไม่ต้องกิน ฉันก็หลงคุณจะตายแล้ว" ทิพย์ตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะค่อย ๆ วางหัวมัทนาให้ลงนอนบนหมอนเหมือนเดิม "แล้วยังไงต่อคะ?"
"ก็แค่รอเธอฟื้น พอมีสติยาก็จะออกฤทธิ์เอง"
"โธ่ นกน้อยผู้น่าสงสาร" ทิพย์ลูบมือลงบนหัวของมัทนาด้วยความสงสาร
"บางอย่างมันก็ถูกกำหนดไว้แล้ว ที่มัทนามาทำงานไกลถึงที่นี่ บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้วให้เธอต้องมาเจอกับกันต์ ได้ร่วมหอลงโรงกัน" เสกพูดปลอบทิพย์ที่กำลังคิดมากก่อนจะจับมือของเธอให้ลุกขึ้นยืน "ไปกันเถอะ"
"ค่ะ" ทิพย์ยอมเดินตามสามีของเธอออกจากห้องไป
เวลาผ่านไปเพียงไม่นานร่างกายของมัทนาก็เริ่มมีหยาดเหงื่อผุดออกมาจนเนื้อตัวเปียกชื้น มันทำให้ร่างเล็กที่หลับใหลไม่ได้สติเริ่มขยับร่างกายเล็กน้อยเมื่อรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งร่างกาย มือเล็กจิกลงบนผ้าปูแน่นปลายเท้างองุ้มเข้าหากันภายใต้จิตใจที่หลับลึกนั้นฝันว่าตัวเองกำลังระเริงสวาทสาดรสกามอยู่กับกันต์อย่างเร่าร้อน จนมือไม้ในโลกความจริงอยู่ไม่เป็นสุขดึงรั้งถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
"เฮือกกก!" มัทนาสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อในฝันนั้นกันต์ดันกัดเธอจนเลือดไหลอาบ เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองแค่ฝันไปแต่ร่างกายกลับเปลือยเปล่า เสื้อถูกถอดออกแถมโยนไปคนละทิศคนละทาง
แต่แทนที่หญิงสาวจะตกใจในสภาพของตัวเองเธอกลับยกมือขึ้นบีบเคล้นหน้าอกเต่งตึงเขี่ยนิ้วลงบนเม็ดบัวงามจนมันชูช่อแข็งเป็นไตสร้างความรู้สึกวาบหวาม มวนท้องน้อยไปหมดเลย สัมผัสได้ถึงน้ำอะไรบางอย่างที่ไหลออกมาจากความเป็นสาวที่อยู่กลางกาย
มือเล็กค่อย ๆ เลื่อนไปสัมผัสความเป็นสาวลากไล้นิ้วถูไถไปตามกลีบดอกไม้งามที่กำลังชูช่อเปล่งปลั่ง บานสะพรั่งพร้อมผลิน้ำหวานหยาดเยิ้มออกมาจนชุ่มฉ่ำ นิ้วที่ถูไถเริ่มเร่งจังหวะมากขึ้น ถูขึ้นลงจนเสียวซ่านทำเอามัทนาหลุดเสียงครางหวานฉ่ำออกมา เธอไม่เข้าใจว่ากำลังทำอะไร ทำไมต้องทำแบบนี้ แต่มันรู้สึกดีเป็นบ้าเลย มันดีจนหยุดไม่ได้และต้องการมากกว่านี้อีก
"ทำอะไรอยู่"
"ว้ายยยย!"
การปรากฏตัวของกันต์มันทำเอามัทนาถึงกับตกใจจนสะดุ้งโหยง หญิงสาวรีบก้าวขาลงจากเตียงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหนียมอายจนต้องเอาอะไรมาปกปิดร่างกาย แต่มันกลับรู้สึกต้องการอยากจะโชว์เรือนร่างนี้ให้เขาเห็นมากกว่า ดวงตาคู่สวยจ้องมองบุรุษเพศตรงหน้าด้วยความกระหายในตัวเขา อยากให้มาช่วยเติมเต็มความรู้สึกตอนนี้จนอยู่ไม่เป็นสุขยืนบิดเร้าร่างกายไปมา มือไม้ก็เอาแต่ลูบไล้ไปตามหน้าอกและความเป็นสาวที่บานสะพรั่งของตน
กันต์มองการกระทำของมัทนาก็รูัได้ทันทีว่าเธอต้องมนต์เสน่ห์เข้าเสียแล้วถึงได้กำหนัดกระซ่านสวาทเสียขนาดนี้ แต่ก็ช่างมันสิเขาไม่ได้สนใจขนาดนั้น อยากได้เธอไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ไม่เห็นจะต้องสนใจแค่ได้สมใจอยากก็พอแล้ว ร่างสูงเดินเข้าไปหาร่างเล็กก่อนจะดึงเธอเข้ามาโอบกอดแล้วเริ่มล่วงเกินอย่างจาบจ้วงในทันที
"อ๊ะ!" มัทนาร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ สัญชาตญาณสั่งให้ขัดขืนเลยพยายามดิ้นแต่ร่างกายกลับไม่ฟังคำสั่งเท่าไหร่ อ่อนระทวยยามนิ้วใหญ่กำลังถูไถไปตามกลีบดอกไม้ของเธอ
"ให้ฉันช่วยเถอะมัทนามันฉ่ำเสียขนาดนี้แล้ว”
ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นก่อนจะจับขาเรียวให้แยกออกจากกัน ใบหน้าคมมุดเข้าไปหากลีบดอกไม้อวบอูมเปล่งปลั่งแล้วใช้ลิ้นสากของตนตวัดเลียกวาดต้อนน้ำหวานเข้าปากจนมัทนาหลุดเสียงครางกระเส่าร่างกายแทบยืนไม่อยู่เมื่อเจอกันต์บรรเลงลิ้นใส่แบบนี้ แขนขาถึงกับสั่นเทาจนต้องหาที่ยึดเกาะเอาไว้ พวงแก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อรู้สึกอายแต่ในความอายมันกลับรู้สึกดีจนอยากได้มากกว่านี้ แค่นี้มันยังไม่อิ่มหนำหรอก
"...ทะ...ทำให้ฉันมากกว่านี้ได้ไหมคะ"
"มากขนาดไหนล่ะ?" เขาเงยหน้าถามเธอที่ยืนอยู่สูงกว่าด้วยรอยยิ้มกริ่ม
"ฉันอยากเป็นเมียคุณ"
Chapter 6'ป่าเถื่อน'.."อ๊า~"เสียงครางหวานดังออกมายามมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างเล็ก มัทนาถูกผลักลงไปยังเตียงโดยมีกันต์ยืนจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทำเอาหญิงสาวหน้าแดงระเรื่อด้วยความรู้สึกอายที่ถูกจับจ้องกันขนาดนี้กางเกงสะดอถูกถอดออกจากเอวของเขาเหลือเพียงกางเกงชั้นในที่คับตุงขึ้นเป็นรูปลำยาว ร่างสูงยกปลายเท้าเล็กขึ้นมาก่อนจะประทับจูบลงบนเนื้ออ่อนของเธอจนมัทนาตกใจที่เขาทำแบบนี้"หอมจังเลยร่างกายของเธอ"จมูกโด่งคมไล่ดมและพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้าบางขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาถึงกลางกายสาวที่หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำหวานสีใส ลิ้นสากตวัดเลียลงบนกลีบดอกไม้อวบอูมอีกครั้ง ลากไล้สัมผัสของเขาไปทั่วทุกช่อทุกกลีบจนร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน สองมือกำผ้าปูแน่น ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันเพื่อไม่ให้หลุดเสียงครางกระเส่าออกไปลิ้นสากดุนเข้าไปในโพรงสวาทเพื่อกวาดต้อนน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาจนหมดจด ทำเอามัทนาหลุดเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างเสียวซ่าน เสียงหวานมันปลุกเร้าอารมณ์ของกันต์จนพลุ่งพล่าน เขาลากมือไปตามเนื้ออ่อนบีบเคล้นมันจนขึ้นรอยแดงด้วยความมันเขี้ยว เหงื่อเม็ดเล็กไหลชโลมร่างกายของทั้งสองคนภายใต้ความร้อน
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'..เสียงนกน้อยเจื้อยแจ้วไปทั่วผืนป่า ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในห้องนอนจนหน้าต่างปลิวไสวมันทำให้มัทนาที่กำลังหลับค่อย ๆ เปิดเปลือกตาสวยขึ้น ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าด้วยความมึนเบลอ สายตายังคงพร่ามัว เธอขยับตัวเล็กน้อยกลับรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรพาดทับบนหน้าอก"ว้ายยยย!" แต่เมื่อหันไปมองหญิงสาวก็ต้องตกใจจนร้องกรี๊ดออกมาเมื่อพบว่ากันต์ในสภาพเปลือยเปล่ากำลังนอนกอดเธออยู่และไม่ใช่เขาที่เปลือย เธอเองก็เหมือนกันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรเลย"ตื่นแล้วเหรอจ้ะเมีย" กันต์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหน้าตาตื่นตกใจของมัทนา"กรี๊ดดดด!" แต่แทนที่มัทนาจะตอบเขากลับส่งเสียงกรี๊ดอัดหน้าชายหนุ่มแทน หญิงสาวรีบก้าวขาลงจากเตียงด้วยความตกใจมือก็หยิบเอาผ้าห่มมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้สมองพยายามคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพความทรงจำมากมายก็ไหลพรั่งพรูเข้ามา ภาพที่เธอกำลังเล่นบทรักบทสวาทอันเร่าร้อนกับเขา ทั้งบนเตียง บนพื้น เกาะผนัง เรียกว่าทำหมดทุกพื้นที่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้ให้ตายสิทำไมเธอร่านสวาทขนาดนั้น!แต่มันน่าตกใจกว่าตรงที่เธอไม่ขัดขืนเขาเลย สมยอมเขาทุกอย่าง มันน่าแปลกจังเพราะเธอไม่อ
Chapter 8'ไม่สมฐานะ'.."ใช่ แต่งงาน มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร"เมื่อได้ฟังแบบนั้นมัทนาก็เกิดความลังเลใจขึ้นมา มันถูกต้องแล้วที่คนได้เสียเป็นผัวเป็นเมีย ผิดผีกันแล้วมันจะต้องแต่งงานกัน ขอขมาญาติผู้ใหญ่ ทำตามประเพณีให้มันถูกต้องเพื่อเกียรติของตัวเองด้วย แต่ที่เธอลังเลเพราะขนาดยังไม่แต่งงานเขายังเกือบจะฆ่าเธอถ้าไม่มีคนมาช่วยคงตายไปแล้วและถ้าแต่งงานไปเธอจะไม่ตายคาเรือนหอเลยเหรอไง"ไม่ต้องคิดมากนะ ทำใจให้สบาย ฉันกับคุณเสกจะจัดการเรื่องนี้ให้ ตอนนี้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ อะไรที่มันเสียไปแล้วเราเรียกคืนไม่ได้เพราะฉะนั้นให้มันเป็นอดีตดีกว่า อย่าเก็บมาคิดให้เราทุกข์"มัทนาไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ แต่เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งจนเนื้อตัวสั่นเทา ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมน้ำตาที่เจิ่งนองไปทั่วใบหน้า ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำรอยแดงจ้ำมันตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ในตอนนี้สูญสิ้นแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ตั้งใจรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่จะร่วมหอลงโรงด้วย มันถูกกันต์ย่ำยีและกระชากเอาไปหมดแล้วเธอยังคงสับสน ยังคงไม่เข้
Chapter 1'ยินดีต้อนรับสู่พรรณภูมิ'..รถสองแถวขับมาจอดยังหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หญิงสาวร่างเล็กผิวขาวเนียนก้าวลงจากรถสองมือก็ถือกระเป๋าสานใบใหญ่ลงมาด้วย เธอเดินมาหยุดยังหน้าป้ายไม้ที่เขียนว่า บ้านพรรณภูมิ ก่อนจะทอดสายตามองเข้าไปตามถนนเล็ก ๆ ที่เป็นดินลูกรังสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าดงดูน่ากลัวแถมรอบตัวของเธอก็มีแต่ขุนเขาล้อมรอบเหมือนตัวเธอกำลังอยู่กลางแอ่งกระทะอย่างงั้นแหละ บรรยากาศมันชนบทสุด ๆตอนนั้นเองก็มีรถยนต์ขับตรงมาทางเธอ เป็นรถรุ่นราคาแพงเชียวบงบอกถึงสถานะของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดีว่าต้องร่ำรวยมาก ๆ เพราะรถยนต์แบบนี้น่าจะไปวิ่งในเมืองกรุงมากกว่า แต่นี่กลับมาอยู่ในชนบทไกลปืนเที่ยงแบบนี้ แต่ถึงมันจะดูชนบทมากแค่ไหนก็ยังดีที่มีรถประจำทางวิ่งผ่านเพราะมันติดกับถนนใหญ่ ถ้าเข้าไปลึกกว่านี้ก็คงไม่มีรถเข้าถึงเหมือนกัน“คุณมัทนาใช่ไหมครับ?” ลุงคนขับยื่นหน้าออกมาถามหญิงสาว“ใช่ค่ะ ฉันเอง” มัทนา หญิงสาววัย 19 ตอบเสียงหวาน ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม“งั้นขึ้นรถเลยครับ ผมจะพาไปบ้านพรรณภูมิ”“ค่ะ” มัทนาก้าวขึ้นมานั่งบนรถอย่างไม่คิดอะไรมากรถเลี้ยวกลับแล้วขับเข้าไปในหมู่บ้านที่เห็นบ้านค
Chapter 2'คืนแรกต่างถิ่น'.."ที่นี่ร่มรื่นดีนะคะ"มัทนาหันไปชวนกันต์คุยเพราะเขาเอาแต่เงียบ ตลอดทางที่เดินมาส่งเธอเนี่ยไม่พูดไม่จาเลย บรรยากาศรอบตัวก็เงียบวังเวงเหมือนหลุดเข้ามาในป่าจริง ๆ แต่เป็นป่าร้างที่ไม่มีสิงสาราสัตว์ มันก็น่าแปลกนะทำไมไม่มีเสียงนกเสียงแมลงเลย ทั้งที่ต้นไม้ใบหญ้าเยอะขนาดนี้"มันเป็นป่าเขานิ่" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"แต่ไม่ค่อยมีเสียงนกเสียงกาเลยนะคะ"คำพูดของมัทนามันทำให้กันต์ต้องหันมองเธอเล่นเอาหญิงสาวรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมากับสายตาเย็นชาของเขาที่แสนน่ากลัว แค่เธอพูดเรื่องแค่นี้ทำไมจะต้องทำหน้าตาไม่พอใจด้วย"ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะ?""นี่มันเย็นแล้วจะมีเสียงนกเสียงกาได้ยังไง มันกลับเข้ารังหมดแล้ว"คำพูดของเขาทำเอาเธอมึนงงเพราะปกติช่วงเย็นนกเข้ารังเนี่ยจะส่งเสียงเจื้อยแจ้วจะตายไป เธอไม่เคยเจอนกกลับรังแล้วเงียบสักนิด มันแปลกจัง แต่ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปเพราะท่าทางของกันต์ดูไม่ชอบใจที่เธอชวนคุยเขาพาเธอเดินมาส่งที่บ้านพักหลังเรือนใหญ่ หญิงสาวจึงหันไปส่งยิ้มหวานให้ "ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์เดินมาส่ง""กลางค่ำกลางคืนถ้าไม่จำเป็นก็อย่าออกไปไหนละ""ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ"
Chapter 3'เป็นเมียฉันเถอะ'..มัทนาเดินถือตะกร้าเสื้อผ้าออกมายังด้านหลังบ้าน เธอเดินไปตามทางที่ทิพย์บอกเพื่อไปยังบ่อน้ำที่อยู่ในบริเวณเขตบ้านของพรรณภูมิเพื่อซักผ้า เมื่อเดินมาสักพักก็มาถึงที่ริมบ่อมีท่าน้ำและกะละมังคว่ำไว้อยู่แล้ว หญิงสาวหยิบเอาเก้าอี้ไม้มานั่งแล้วตักน้ำใส่กะละมังเพื่อลงมือซักผ้าจะได้ไปทำงานอื่นต่อโดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอมีกันต์กำลังแอบมองอยู่ เขาตามเธอไปทุกที่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็คอยเฝ้ามองเงียบ ๆ ดวงตาคู่คมจับจ้องไปยังผิวกายขาวเนียน เนื้ออ่อน ๆ ของมัทนาก็ทำเอาความกระหายในตัวของเขาพลุ่งพล่านจนแววตาสีดำทมิฬแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ลิ้นสากตวัดเลียริมฝีปากของตนด้วยความอยากลิ้มลองในรสชาติของสาวพรหมจรรย์"อย่าไปยุ่งกับเธอ" เสียงของเสกดังขึ้นที่ด้านหลังจนกันต์ต้องหันกลับไปมองพ่อ"ทำไม?" เขาถามคนเป็นพ่อกลับด้วยน้ำเสียงหวน ๆ"เพราะฉันเบื่อหน่ายที่จะต้องคอยหาคนมาทำงานใหม่แล้วไง คนเข้ามาตลอดแต่ไม่เคยมีออกไปจนชาวบ้านเขาสงสัยไปทั่วแล้ว""แต่ผมอยากได้เธอ" เขาบอกความต้องการกับพ่อไปตรง ๆ"แกจะอยากได้ทุกคนไม่ได้หรอกนะ""แต่คนนี้มันพิเศษกว่าคนอื่น""แกหมายความว่ายังไง?""ผมอยากไ
Chapter 4'ยักษ์แห่งเขากุมภกรรณ'.."ทำไมถึงทำแบบนี้ มันจะหักห้ามใจไม่ไหวเลยหรือไง""คุณเสกใจเย็น ๆ ค่ะ" ทิพย์รีบห้ามเสกที่พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของกันต์"จะให้ใจเย็นได้ยังไงดูมันทำสิ!" เสกง้างหมัดจะต่อยลูกชายแต่ทิพย์ก็รีบดึงแขนเอาไว้"อย่าค่ะคุณเสก ทิพย์ขอ""ก็แค่แม่เลี้ยงไม่ต้องมาปกป้องหรอก""โอ๊ย!" กันต์ผลักตัวทิพย์ออกไปจนเธอถึงกับล้มก้นจ้ำเบ้า"จะมากไปแล้วนะเจ้ากันต์ถึงจะเป็นแม่เลี้ยงแต่ก็เลี้ยงแกมา" ย่าแรมรีบเข้ามาห้ามหลาน"ยกยอกันเข้าไปก็แค่คนใช้ตกถังข้าวสาร" แต่กันต์ก็ยังคงหันไปดูถูกทิพย์ที่เคยเป็นเพียงสาวรับใช้ในบ้านต่อ"แต่แกอย่าลืมสิว่าแกเองก็กำลังจะจับคนใช้ทำเมียเหมือนกัน" เสกหันไปมองมัทนาที่หมดสติอยู่บนเตียง"แต่ผมคงจะไม่ยกย่องเชิดชูพวกสกุนต่ำขึ้นมาเป็นเมียแต่งหรอก อย่างดีก็แค่ของไว้คอยหยิบจับเล่นก็เท่านั้น" ว่าจบกันต์ก็หันตัวเดินออกจากห้องไป"ไอ้กันต์!""พอเถอะค่ะคุณเสกอย่าให้มันบานปลายไปมากกว่านี้เลย" ทิพย์รีบห้ามเสกที่กำลังฉุนลูกชายจนเลือดขึ้นหน้า"ใช่ ปล่อยเจ้ากันต์มันเถอะ พวกคนหนุ่มมันก็แบบเนี่ยควบคุมตัวเองยังไม่ได้" ย่าแรมพูดก่อนจะหันตัวเดินไปหามัทนา มือเหี่ยวลูบไล
Chapter 8'ไม่สมฐานะ'.."ใช่ แต่งงาน มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร"เมื่อได้ฟังแบบนั้นมัทนาก็เกิดความลังเลใจขึ้นมา มันถูกต้องแล้วที่คนได้เสียเป็นผัวเป็นเมีย ผิดผีกันแล้วมันจะต้องแต่งงานกัน ขอขมาญาติผู้ใหญ่ ทำตามประเพณีให้มันถูกต้องเพื่อเกียรติของตัวเองด้วย แต่ที่เธอลังเลเพราะขนาดยังไม่แต่งงานเขายังเกือบจะฆ่าเธอถ้าไม่มีคนมาช่วยคงตายไปแล้วและถ้าแต่งงานไปเธอจะไม่ตายคาเรือนหอเลยเหรอไง"ไม่ต้องคิดมากนะ ทำใจให้สบาย ฉันกับคุณเสกจะจัดการเรื่องนี้ให้ ตอนนี้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ อะไรที่มันเสียไปแล้วเราเรียกคืนไม่ได้เพราะฉะนั้นให้มันเป็นอดีตดีกว่า อย่าเก็บมาคิดให้เราทุกข์"มัทนาไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ แต่เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งจนเนื้อตัวสั่นเทา ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมน้ำตาที่เจิ่งนองไปทั่วใบหน้า ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำรอยแดงจ้ำมันตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ในตอนนี้สูญสิ้นแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ตั้งใจรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่จะร่วมหอลงโรงด้วย มันถูกกันต์ย่ำยีและกระชากเอาไปหมดแล้วเธอยังคงสับสน ยังคงไม่เข้
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'..เสียงนกน้อยเจื้อยแจ้วไปทั่วผืนป่า ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในห้องนอนจนหน้าต่างปลิวไสวมันทำให้มัทนาที่กำลังหลับค่อย ๆ เปิดเปลือกตาสวยขึ้น ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าด้วยความมึนเบลอ สายตายังคงพร่ามัว เธอขยับตัวเล็กน้อยกลับรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรพาดทับบนหน้าอก"ว้ายยยย!" แต่เมื่อหันไปมองหญิงสาวก็ต้องตกใจจนร้องกรี๊ดออกมาเมื่อพบว่ากันต์ในสภาพเปลือยเปล่ากำลังนอนกอดเธออยู่และไม่ใช่เขาที่เปลือย เธอเองก็เหมือนกันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรเลย"ตื่นแล้วเหรอจ้ะเมีย" กันต์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหน้าตาตื่นตกใจของมัทนา"กรี๊ดดดด!" แต่แทนที่มัทนาจะตอบเขากลับส่งเสียงกรี๊ดอัดหน้าชายหนุ่มแทน หญิงสาวรีบก้าวขาลงจากเตียงด้วยความตกใจมือก็หยิบเอาผ้าห่มมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้สมองพยายามคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพความทรงจำมากมายก็ไหลพรั่งพรูเข้ามา ภาพที่เธอกำลังเล่นบทรักบทสวาทอันเร่าร้อนกับเขา ทั้งบนเตียง บนพื้น เกาะผนัง เรียกว่าทำหมดทุกพื้นที่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้ให้ตายสิทำไมเธอร่านสวาทขนาดนั้น!แต่มันน่าตกใจกว่าตรงที่เธอไม่ขัดขืนเขาเลย สมยอมเขาทุกอย่าง มันน่าแปลกจังเพราะเธอไม่อ
Chapter 6'ป่าเถื่อน'.."อ๊า~"เสียงครางหวานดังออกมายามมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างเล็ก มัทนาถูกผลักลงไปยังเตียงโดยมีกันต์ยืนจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทำเอาหญิงสาวหน้าแดงระเรื่อด้วยความรู้สึกอายที่ถูกจับจ้องกันขนาดนี้กางเกงสะดอถูกถอดออกจากเอวของเขาเหลือเพียงกางเกงชั้นในที่คับตุงขึ้นเป็นรูปลำยาว ร่างสูงยกปลายเท้าเล็กขึ้นมาก่อนจะประทับจูบลงบนเนื้ออ่อนของเธอจนมัทนาตกใจที่เขาทำแบบนี้"หอมจังเลยร่างกายของเธอ"จมูกโด่งคมไล่ดมและพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้าบางขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาถึงกลางกายสาวที่หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำหวานสีใส ลิ้นสากตวัดเลียลงบนกลีบดอกไม้อวบอูมอีกครั้ง ลากไล้สัมผัสของเขาไปทั่วทุกช่อทุกกลีบจนร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน สองมือกำผ้าปูแน่น ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันเพื่อไม่ให้หลุดเสียงครางกระเส่าออกไปลิ้นสากดุนเข้าไปในโพรงสวาทเพื่อกวาดต้อนน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาจนหมดจด ทำเอามัทนาหลุดเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างเสียวซ่าน เสียงหวานมันปลุกเร้าอารมณ์ของกันต์จนพลุ่งพล่าน เขาลากมือไปตามเนื้ออ่อนบีบเคล้นมันจนขึ้นรอยแดงด้วยความมันเขี้ยว เหงื่อเม็ดเล็กไหลชโลมร่างกายของทั้งสองคนภายใต้ความร้อน
Chapter 5'นกน้อยในดงอสูร'.."เราต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอคะ? " ทิพย์ถามเสกที่กำลังผสมว่านมหาเสน่ห์และมวลสารอาถรรพ์เข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นยาเสน่ห์ปลุกกำหนัดในตัวของผู้ที่กินเข้าไป"ถ้าไม่ทำแบบนี้จะให้กันต์มันทำเองเหรอไง คงได้พลั้งฆ่าเธอตายพอดี" เสกตอบขณะบดมวลสารทุกอย่างเข้าด้วยกันจะได้นำไปทำพิธีต่อ"ความจริงมัทนาเองก็เข้าตำราทุกอย่างนะ" ย่าแรมพูดแทรกขึ้น"ตำราอะไรคะ?" ทิพย์หันไปถามด้วยความสงสัย"ผู้หญิงแบบมัทนาเหมาะจะให้กำเนิดสายเลือดเผ่าพันธุ์ของเราไง เธอผิวพรรณดี ร่างกายแข็งแรง บริสุทธิ์ผุดผ่อง อยู่ในจารีตประเพณีไม่ผิดศีลธรรม มันตรงตามตำราทุกอย่าง ในเมื่อเธอจะต้องร่วมเตียงกับเจ้ากันต์แล้วก็ใช้โอกาสนี้ให้เธอตั้งท้องลูกของเจ้ากันต์ด้วยเลย"คำพูดของย่าแรมมันทำให้สองผัวเมียหันมองหน้ากันเหมือนต่างฝ่ายต่างขอความคิดเห็นจากกันโดยไม่พูดอะไร ใช้เพียงสายตาเท่านั้น แต่เสกเองก็เห็นด้วยกับแม่แหละเพราะเขามีลูกคนเดียวการมีหลานไวมันย่อมดีกว่าอย่างน้อยเผ่าพันธุ์ของเขาที่เหลือน้อยนิดก็ยังมีทายาท"เอาตามที่แม่ว่าก็ได้ มัทนาเองก็ไม่แย่ถึงจะเป็นสาวใช้แต่ก็เป็นคนดีมีศีลธรรม คงเป็นแม่ที่ดีได้ แล้วเธอว่าไง?"
Chapter 4'ยักษ์แห่งเขากุมภกรรณ'.."ทำไมถึงทำแบบนี้ มันจะหักห้ามใจไม่ไหวเลยหรือไง""คุณเสกใจเย็น ๆ ค่ะ" ทิพย์รีบห้ามเสกที่พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของกันต์"จะให้ใจเย็นได้ยังไงดูมันทำสิ!" เสกง้างหมัดจะต่อยลูกชายแต่ทิพย์ก็รีบดึงแขนเอาไว้"อย่าค่ะคุณเสก ทิพย์ขอ""ก็แค่แม่เลี้ยงไม่ต้องมาปกป้องหรอก""โอ๊ย!" กันต์ผลักตัวทิพย์ออกไปจนเธอถึงกับล้มก้นจ้ำเบ้า"จะมากไปแล้วนะเจ้ากันต์ถึงจะเป็นแม่เลี้ยงแต่ก็เลี้ยงแกมา" ย่าแรมรีบเข้ามาห้ามหลาน"ยกยอกันเข้าไปก็แค่คนใช้ตกถังข้าวสาร" แต่กันต์ก็ยังคงหันไปดูถูกทิพย์ที่เคยเป็นเพียงสาวรับใช้ในบ้านต่อ"แต่แกอย่าลืมสิว่าแกเองก็กำลังจะจับคนใช้ทำเมียเหมือนกัน" เสกหันไปมองมัทนาที่หมดสติอยู่บนเตียง"แต่ผมคงจะไม่ยกย่องเชิดชูพวกสกุนต่ำขึ้นมาเป็นเมียแต่งหรอก อย่างดีก็แค่ของไว้คอยหยิบจับเล่นก็เท่านั้น" ว่าจบกันต์ก็หันตัวเดินออกจากห้องไป"ไอ้กันต์!""พอเถอะค่ะคุณเสกอย่าให้มันบานปลายไปมากกว่านี้เลย" ทิพย์รีบห้ามเสกที่กำลังฉุนลูกชายจนเลือดขึ้นหน้า"ใช่ ปล่อยเจ้ากันต์มันเถอะ พวกคนหนุ่มมันก็แบบเนี่ยควบคุมตัวเองยังไม่ได้" ย่าแรมพูดก่อนจะหันตัวเดินไปหามัทนา มือเหี่ยวลูบไล
Chapter 3'เป็นเมียฉันเถอะ'..มัทนาเดินถือตะกร้าเสื้อผ้าออกมายังด้านหลังบ้าน เธอเดินไปตามทางที่ทิพย์บอกเพื่อไปยังบ่อน้ำที่อยู่ในบริเวณเขตบ้านของพรรณภูมิเพื่อซักผ้า เมื่อเดินมาสักพักก็มาถึงที่ริมบ่อมีท่าน้ำและกะละมังคว่ำไว้อยู่แล้ว หญิงสาวหยิบเอาเก้าอี้ไม้มานั่งแล้วตักน้ำใส่กะละมังเพื่อลงมือซักผ้าจะได้ไปทำงานอื่นต่อโดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอมีกันต์กำลังแอบมองอยู่ เขาตามเธอไปทุกที่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็คอยเฝ้ามองเงียบ ๆ ดวงตาคู่คมจับจ้องไปยังผิวกายขาวเนียน เนื้ออ่อน ๆ ของมัทนาก็ทำเอาความกระหายในตัวของเขาพลุ่งพล่านจนแววตาสีดำทมิฬแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ลิ้นสากตวัดเลียริมฝีปากของตนด้วยความอยากลิ้มลองในรสชาติของสาวพรหมจรรย์"อย่าไปยุ่งกับเธอ" เสียงของเสกดังขึ้นที่ด้านหลังจนกันต์ต้องหันกลับไปมองพ่อ"ทำไม?" เขาถามคนเป็นพ่อกลับด้วยน้ำเสียงหวน ๆ"เพราะฉันเบื่อหน่ายที่จะต้องคอยหาคนมาทำงานใหม่แล้วไง คนเข้ามาตลอดแต่ไม่เคยมีออกไปจนชาวบ้านเขาสงสัยไปทั่วแล้ว""แต่ผมอยากได้เธอ" เขาบอกความต้องการกับพ่อไปตรง ๆ"แกจะอยากได้ทุกคนไม่ได้หรอกนะ""แต่คนนี้มันพิเศษกว่าคนอื่น""แกหมายความว่ายังไง?""ผมอยากไ
Chapter 2'คืนแรกต่างถิ่น'.."ที่นี่ร่มรื่นดีนะคะ"มัทนาหันไปชวนกันต์คุยเพราะเขาเอาแต่เงียบ ตลอดทางที่เดินมาส่งเธอเนี่ยไม่พูดไม่จาเลย บรรยากาศรอบตัวก็เงียบวังเวงเหมือนหลุดเข้ามาในป่าจริง ๆ แต่เป็นป่าร้างที่ไม่มีสิงสาราสัตว์ มันก็น่าแปลกนะทำไมไม่มีเสียงนกเสียงแมลงเลย ทั้งที่ต้นไม้ใบหญ้าเยอะขนาดนี้"มันเป็นป่าเขานิ่" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"แต่ไม่ค่อยมีเสียงนกเสียงกาเลยนะคะ"คำพูดของมัทนามันทำให้กันต์ต้องหันมองเธอเล่นเอาหญิงสาวรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมากับสายตาเย็นชาของเขาที่แสนน่ากลัว แค่เธอพูดเรื่องแค่นี้ทำไมจะต้องทำหน้าตาไม่พอใจด้วย"ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะ?""นี่มันเย็นแล้วจะมีเสียงนกเสียงกาได้ยังไง มันกลับเข้ารังหมดแล้ว"คำพูดของเขาทำเอาเธอมึนงงเพราะปกติช่วงเย็นนกเข้ารังเนี่ยจะส่งเสียงเจื้อยแจ้วจะตายไป เธอไม่เคยเจอนกกลับรังแล้วเงียบสักนิด มันแปลกจัง แต่ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปเพราะท่าทางของกันต์ดูไม่ชอบใจที่เธอชวนคุยเขาพาเธอเดินมาส่งที่บ้านพักหลังเรือนใหญ่ หญิงสาวจึงหันไปส่งยิ้มหวานให้ "ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์เดินมาส่ง""กลางค่ำกลางคืนถ้าไม่จำเป็นก็อย่าออกไปไหนละ""ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ"
Chapter 1'ยินดีต้อนรับสู่พรรณภูมิ'..รถสองแถวขับมาจอดยังหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หญิงสาวร่างเล็กผิวขาวเนียนก้าวลงจากรถสองมือก็ถือกระเป๋าสานใบใหญ่ลงมาด้วย เธอเดินมาหยุดยังหน้าป้ายไม้ที่เขียนว่า บ้านพรรณภูมิ ก่อนจะทอดสายตามองเข้าไปตามถนนเล็ก ๆ ที่เป็นดินลูกรังสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าดงดูน่ากลัวแถมรอบตัวของเธอก็มีแต่ขุนเขาล้อมรอบเหมือนตัวเธอกำลังอยู่กลางแอ่งกระทะอย่างงั้นแหละ บรรยากาศมันชนบทสุด ๆตอนนั้นเองก็มีรถยนต์ขับตรงมาทางเธอ เป็นรถรุ่นราคาแพงเชียวบงบอกถึงสถานะของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดีว่าต้องร่ำรวยมาก ๆ เพราะรถยนต์แบบนี้น่าจะไปวิ่งในเมืองกรุงมากกว่า แต่นี่กลับมาอยู่ในชนบทไกลปืนเที่ยงแบบนี้ แต่ถึงมันจะดูชนบทมากแค่ไหนก็ยังดีที่มีรถประจำทางวิ่งผ่านเพราะมันติดกับถนนใหญ่ ถ้าเข้าไปลึกกว่านี้ก็คงไม่มีรถเข้าถึงเหมือนกัน“คุณมัทนาใช่ไหมครับ?” ลุงคนขับยื่นหน้าออกมาถามหญิงสาว“ใช่ค่ะ ฉันเอง” มัทนา หญิงสาววัย 19 ตอบเสียงหวาน ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม“งั้นขึ้นรถเลยครับ ผมจะพาไปบ้านพรรณภูมิ”“ค่ะ” มัทนาก้าวขึ้นมานั่งบนรถอย่างไม่คิดอะไรมากรถเลี้ยวกลับแล้วขับเข้าไปในหมู่บ้านที่เห็นบ้านค