Chapter 6
'ป่าเถื่อน'
.
.
"อ๊า~"
เสียงครางหวานดังออกมายามมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างเล็ก มัทนาถูกผลักลงไปยังเตียงโดยมีกันต์ยืนจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทำเอาหญิงสาวหน้าแดงระเรื่อด้วยความรู้สึกอายที่ถูกจับจ้องกันขนาดนี้
กางเกงสะดอถูกถอดออกจากเอวของเขาเหลือเพียงกางเกงชั้นในที่คับตุงขึ้นเป็นรูปลำยาว ร่างสูงยกปลายเท้าเล็กขึ้นมาก่อนจะประทับจูบลงบนเนื้ออ่อนของเธอจนมัทนาตกใจที่เขาทำแบบนี้
"หอมจังเลยร่างกายของเธอ"
จมูกโด่งคมไล่ดมและพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้าบางขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาถึงกลางกายสาวที่หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำหวานสีใส ลิ้นสากตวัดเลียลงบนกลีบดอกไม้อวบอูมอีกครั้ง ลากไล้สัมผัสของเขาไปทั่วทุกช่อทุกกลีบจนร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน สองมือกำผ้าปูแน่น ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันเพื่อไม่ให้หลุดเสียงครางกระเส่าออกไป
ลิ้นสากดุนเข้าไปในโพรงสวาทเพื่อกวาดต้อนน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาจนหมดจด ทำเอามัทนาหลุดเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างเสียวซ่าน เสียงหวานมันปลุกเร้าอารมณ์ของกันต์จนพลุ่งพล่าน เขาลากมือไปตามเนื้ออ่อนบีบเคล้นมันจนขึ้นรอยแดงด้วยความมันเขี้ยว เหงื่อเม็ดเล็กไหลชโลมร่างกายของทั้งสองคนภายใต้ความร้อนผ่าวที่ถูกขับออกมา
"...คะ...คุณกันต์" เสียงหวานเอ่ยเรียกเขาเบา ๆ แต่พอเขามองหน้า เธอก็ไม่กล้าจะพูดอะไร
"มีอะไร?" เขาเขยิบตัวขึ้นมาหาเธอก่อนจะไซ้ไปตามซอกคอขาว ฟันใหญ่ขบกัดลงบนเนื้ออ่อนจนมัทนาเจ็บจี๊ด
"โอ๊ย!" เธอส่งเสียงร้องออกมาแต่กันต์ก็ยังไม่ยอมหยุด เขายังคงขบกัดลงบนเนื้ออ่อนจนขึ้นรอยแดงช้ำจนน้ำตาใสเอ่อล้นคลอเบ้า แต่ถึงมันจะเจ็บมากแค่ไหนหญิงสาวกลับรู้สึกดีเสียอย่างงั้น ทุกสัมผัสของเขามันปรนเปรอความสุขให้เธอจริง ๆ
สองเต้าสวยถูกบีบเคล้นด้วยสองมือใหญ่ ริมฝีปากหนาเลื่อนต่ำลงมาก่อนจะครอบลงบนยอดเม็ดบัวงามสีอ่อน ดูดเลียและขบกัดจนร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน ฟันหนาที่ดึงรั้งยอดอกของเธอจนแทบจะฉีกขาด สร้างความเจ็บปวดที่สุขสมและเร้าใจให้หญิงสาวไม่น้อยจนส่งเสียงครางแผ่วออกมาตลอดเวลา
"อ๊า~" มือเล็กขยุ้มผมดกดำแน่น ดึงรั้งหัวของเขาเพื่อช่วยระบายอารมณ์ราคะที่มันกำลังพลุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย
กางเกงชั้นในถูกถอดออกแก่นกายแข็งได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกแต่เหมือนมันจะอยากเข้าข้างในมากกว่า เขาจับตัวเธอให้ลุกขึ้นนั่งแล้วดันหัวเล็กเข้าหาแท่งสวรรค์ที่กำลังชูช่อให้มัทนาได้เชยชิม ตอนแรกเธอเองก็เขินอายจนไม่กล้าจะสัมผัสมันแต่ก็ถูกกันต์บังคับกดหัวให้เข้าใกล้จนสุดท้ายต้องทำตามที่เขาต้องการ
ปากเล็กอ้าปากอมแก่นกายแข็งเข้าไปทั้งแท่งจนเต็มแน่น ความยาวไหลแทบจะลึกเข้าไปในลำคอจนแทบอาเจียนออกมาแต่ก็ถูกกันต์กดหัวเอาไว้ เขาเริ่มโยกหัวของเธอขึ้นลงเอง กำหนดจังหวะเอง ทำเอามัทนาที่เพิ่งเคยทำครั้งแรกไม่ชอบใจเอาเสียเลย มันรู้สึกอึดอัด รู้สึกเหมือนจะอาเจียนตลอดเวลาจนอยากจะถอนใบหน้าหนี
"อือออ!" แต่เหมือนกันต์จะรู้ทันจากตอนแรกที่จับหัวธรรมดาในตอนนี้ก็แปรเปลี่ยนเป็นจิกผมของเธอแทนแถมยังจิกแน่นจนหญิงสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ความรู้สึกเหมือนหนังหัวจะขาดออกมาจนไม่กล้าจะขัดขืนต้องยอมใช้ปากบำเรอความสุขตามที่เขาต้องการ จะขึ้นจะลงจะลึกจะตื้นต้องสุดแล้วแต่ใจเขา
น้ำหูน้ำตาเริ่มไหลเมื่อแก่นกายแข็งกระทุ้งเข้ามาในปากของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบจะอาเจียนแต่ก็ต้องกลืนทุกอย่างที่จะออกกลับลงไปใหม่ เสียงครางเข้มดังของกันต์ดังออกมาเป็นระยะจากความสุขสุม มือยังคงจิกผมมัทนาแน่นจนเธอแสบหนังหัวไปหมด แต่สุดท้ายแล้วน้ำรักแห่งสรวงสวรรค์ก็พวยพุ่งออกมาไหลหยาดเยิ้มลงคอของหญิงสาวจนเธอสำลักจนหน้าดำหน้าแดง
"แค่ก ๆ!"
"อ๊ะ!" แต่เขาไม่รอให้เธอได้ตั้งสติด้วยซ้ำมือใหญ่จับร่างเล็กให้นอนลงก่อนที่ร่างกายจะแทรกเข้าไปนั่งตรงกลางยกขาเรียวแยกออกจากกัน
"...คะ...ครั้งแรกของฉัน อ้ายยย!"
ยังไม่ทันจะพูดจบเสียด้วยซ้ำกันต์ก็กดแก่นกายแข็งของเขาเข้ามาในโพรงสวาทสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับมัทนาจนเธอจิกตัวเกร็งด้วยความจุกและเจ็บจนพูดไม่ออก ยามท่อนลำใหญ่คืบคลานเข้ามามันทำเอาเธอแทบกลั้นหายใจตาย มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก แต่ที่รู้แน่ ๆ คือเขาไม่เบากับเธอเลย
"...ชะ...ช้า ช้าหน่อยค่ะ" เธอขอร้องเขาแต่เหมือนกันต์จะทำตรงกันข้ามด้วยการอัดกระแทกสะโพกเข้าใส่กลางกายเธอจนตัวงอ
"โอ๊ยยย!" เสียงร้องหลงอย่างเจ็บปวดดังออกมาถึงแม้จะกระแทกเข้าไปเต็มที่แต่ก็ยังไม่สุดลำจนกันต์ต้องอัดกระแทกแก่นกายซ้ำเข้าไปอีกรอบและครั้งนี้มันเข้าลึก ลึกมากพอที่จะทำลายพรหมจรรย์ของมัทนา
"กรี๊ดดด!"
หญิงสาวกรีดร้องออกมาจนดังลั่นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเส้นพรหมจรรย์ของเธอขาดสะบั้นออกจากกัน เลือดสีสดไหลย้อนออกมาชโลมแท่งสวรรค์ที่เสียบคาร่องฉิมพลีเอาไว้จนกลิ่นคาวคละคลุ้งตีจมูกขึ้นมา มันปลุกอารมณ์ของกันตฺ์ให้พลุ่งพล่าน
เสี้ยวนาทีหนึ่งดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขี้ยวยาวงองุ้มงอกออกมาจากปากก่อนเพราะกลิ่นของเลือดไปปลุกสัญชาตญาณดิบ แต่เขาก็ดึงสติกลับมาได้ทันท่วงทีและแปรเปลี่ยนเป็นเช่นเดิมโดยที่มัทนาไม่ทันได้เห็นเพราะเธอเอาแต่ซุกใบหน้าไปกับหมอนร้องห่มร้องไห้ออกมา
"จะร้องไห้ทำไม เรากำลังจะมีความสุขด้วยกัน" เขาจับใบหน้าของเธอให้หันมาสบตา นิ้วใหญ่เช็ดคราบน้ำตาที่อาบแก้มแดงออกก่อนจะเลื่อนลงมายังคางเล็ก
"โอ๊ยยย!" แต่แทนที่เขาจะเชยคางเธออย่างอ่อนโยนกลับบีบลงบนเนื้ออ่อนจนเจ็บร้าวไปถึงกระดูกก่อนที่ใบหน้าคมจะโน้มลงมาแลกรสจูบอันหอมหวานกับเธอ ลิ้นใหญ่กวาดต้อนลิ้นเล็กเกี่ยวพันกันจนเกิดเสียงจูบชวนฝัน แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อเขาขบกัดลงบนริมฝีปากของเธออย่างแรงจนหญิงสาวถึงกับสะดุ้ง
"โอ๊ย! เจ็บนะคะ"
ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดแบบนี้กับสิ่งที่เขาทำกับเธอ เลือดสีสดไหลออกมาจากบาดแผลบนริมฝีปากแต่กันต์กลับก้มลงเลียเลือดเหล่านั้นด้วยท่าทางกระหายจนเผลอดูดปากบางอีกครั้งเพื่อเค้นเอาเลือดเพิ่มมันทำให้มัทนาต้องดันใบหน้าเขาออกไป
"กล้าดันหน้าฉันเหรอ?" เขาจ้องมองเธอด้วยความไม่พอใจ
"อ๊ะ! ...คะ...คุณกันต์ ฉันเจ็บ อ๊ะ...อ๊า~"
เขาไม่รอให้เธอพูดอะไรด้วยซ้ำเลือกจะขยับเอวเข้าออกอัดกระแทกแก่นกายเข้าใส่วิมานฉิมพลีของเธออย่างดุเดือดเลือดพล่านจนร่างเล็กสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นจากกลางกายสะท้านไปทั่วทุกอณูเหมือนจะฉีกร่างเธอให้ขาดเป็นสองท่อน
"...อ๊ะ...อ๊า ...บะ...เบาหน่อย"
"ฉันจะไม่เบา ไม่แผ่ว เพราะยิ่งเห็นเธอเจ็บฉันยิ่งมีอารมณ์"
"อ๊ะ! " เขาจับตัวของเธอให้พลิกหันหลังก่อนจะดึงสะโพกเล็กให้โด่งขึ้นแล้วกดแท่งสวรรค์เข้าไปในวิมานสวาทใหม่ โดยที่มัทนาไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำร่างกายของเธอก็ต้องโยกคลอนอีกรอบ แต่คราวนี้แรงกระแทกมันมาจากทางด้านหลังแทน บทรักที่เหมือนจะขยี้เธอให้แหลกลาญ
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
"โอ๊ยยย!" ฝ่ามือใหญ่ฟาดลงบนก้นงอนจนมันสั่นสะท้านไปตามแรงตีด้วยความมันเขี้ยวเขาเลยตีซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ จนเนื้อขาวในตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นเป็นรูปรอยนิ้วมือของเขา มัทนาเองได้แต่ทนรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธออย่างไม่อาจจะขัดขืนได้ มันเหมือนใจเธอไม่ยอมนะ ไม่อยากจะทำ แต่ร่างกายกับปฏิเสธเขาไม่ได้เลย
"...อ๊ะ...อ๊า…"
"สาวพรหมจรรย์นี่มันดีจริง ๆ กลิ่นความสาวมันหอมนัก"
เขาเร่งเอวมากขึ้น ทุกอย่างดุดันขึ้น บ้าคลั่งขึ้นจนเตียงไม้ถึงกับส่งเสียงเสียดสีเอี๊ยดอ๊าดออกมาประหนึ่งจะแข่งกับเสียงเนื้อกระทบกัน มัทนาได้แต่ซบไปหน้าลงกับหมอนในขณะที่ร่างกายก็โยกไปตามแรงกระแทกอันดุเดือดของกันต์ที่ใส่เธอไม่ยั้งเหมือนไปตายอดตายอยากที่ไหนมา เหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังคลุ้มคลั่ง
มันรุนแรงเหลือเกิน จนเกินกว่าจะรับไหว แต่แปลกเหลือเกินทำไมในตอนนี้ร่างกายกับต้องการมันอีก ต้องการบทรักอันป่าเถื่อนของเขาเพิ่มขึ้นอีก ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกันนะ ทำไมถึงได้ตกเป็นเบี้ยล่างเขาง่ายขนาดนี้
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'..เสียงนกน้อยเจื้อยแจ้วไปทั่วผืนป่า ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในห้องนอนจนหน้าต่างปลิวไสวมันทำให้มัทนาที่กำลังหลับค่อย ๆ เปิดเปลือกตาสวยขึ้น ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าด้วยความมึนเบลอ สายตายังคงพร่ามัว เธอขยับตัวเล็กน้อยกลับรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรพาดทับบนหน้าอก"ว้ายยยย!" แต่เมื่อหันไปมองหญิงสาวก็ต้องตกใจจนร้องกรี๊ดออกมาเมื่อพบว่ากันต์ในสภาพเปลือยเปล่ากำลังนอนกอดเธออยู่และไม่ใช่เขาที่เปลือย เธอเองก็เหมือนกันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรเลย"ตื่นแล้วเหรอจ้ะเมีย" กันต์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหน้าตาตื่นตกใจของมัทนา"กรี๊ดดดด!" แต่แทนที่มัทนาจะตอบเขากลับส่งเสียงกรี๊ดอัดหน้าชายหนุ่มแทน หญิงสาวรีบก้าวขาลงจากเตียงด้วยความตกใจมือก็หยิบเอาผ้าห่มมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้สมองพยายามคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพความทรงจำมากมายก็ไหลพรั่งพรูเข้ามา ภาพที่เธอกำลังเล่นบทรักบทสวาทอันเร่าร้อนกับเขา ทั้งบนเตียง บนพื้น เกาะผนัง เรียกว่าทำหมดทุกพื้นที่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้ให้ตายสิทำไมเธอร่านสวาทขนาดนั้น!แต่มันน่าตกใจกว่าตรงที่เธอไม่ขัดขืนเขาเลย สมยอมเขาทุกอย่าง มันน่าแปลกจังเพราะเธอไม่อ
Chapter 8'ไม่สมฐานะ'.."ใช่ แต่งงาน มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร"เมื่อได้ฟังแบบนั้นมัทนาก็เกิดความลังเลใจขึ้นมา มันถูกต้องแล้วที่คนได้เสียเป็นผัวเป็นเมีย ผิดผีกันแล้วมันจะต้องแต่งงานกัน ขอขมาญาติผู้ใหญ่ ทำตามประเพณีให้มันถูกต้องเพื่อเกียรติของตัวเองด้วย แต่ที่เธอลังเลเพราะขนาดยังไม่แต่งงานเขายังเกือบจะฆ่าเธอถ้าไม่มีคนมาช่วยคงตายไปแล้วและถ้าแต่งงานไปเธอจะไม่ตายคาเรือนหอเลยเหรอไง"ไม่ต้องคิดมากนะ ทำใจให้สบาย ฉันกับคุณเสกจะจัดการเรื่องนี้ให้ ตอนนี้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ อะไรที่มันเสียไปแล้วเราเรียกคืนไม่ได้เพราะฉะนั้นให้มันเป็นอดีตดีกว่า อย่าเก็บมาคิดให้เราทุกข์"มัทนาไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ แต่เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งจนเนื้อตัวสั่นเทา ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมน้ำตาที่เจิ่งนองไปทั่วใบหน้า ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำรอยแดงจ้ำมันตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ในตอนนี้สูญสิ้นแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ตั้งใจรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่จะร่วมหอลงโรงด้วย มันถูกกันต์ย่ำยีและกระชากเอาไปหมดแล้วเธอยังคงสับสน ยังคงไม่เข้
Chapter 1'ยินดีต้อนรับสู่พรรณภูมิ'..รถสองแถวขับมาจอดยังหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หญิงสาวร่างเล็กผิวขาวเนียนก้าวลงจากรถสองมือก็ถือกระเป๋าสานใบใหญ่ลงมาด้วย เธอเดินมาหยุดยังหน้าป้ายไม้ที่เขียนว่า บ้านพรรณภูมิ ก่อนจะทอดสายตามองเข้าไปตามถนนเล็ก ๆ ที่เป็นดินลูกรังสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าดงดูน่ากลัวแถมรอบตัวของเธอก็มีแต่ขุนเขาล้อมรอบเหมือนตัวเธอกำลังอยู่กลางแอ่งกระทะอย่างงั้นแหละ บรรยากาศมันชนบทสุด ๆตอนนั้นเองก็มีรถยนต์ขับตรงมาทางเธอ เป็นรถรุ่นราคาแพงเชียวบงบอกถึงสถานะของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดีว่าต้องร่ำรวยมาก ๆ เพราะรถยนต์แบบนี้น่าจะไปวิ่งในเมืองกรุงมากกว่า แต่นี่กลับมาอยู่ในชนบทไกลปืนเที่ยงแบบนี้ แต่ถึงมันจะดูชนบทมากแค่ไหนก็ยังดีที่มีรถประจำทางวิ่งผ่านเพราะมันติดกับถนนใหญ่ ถ้าเข้าไปลึกกว่านี้ก็คงไม่มีรถเข้าถึงเหมือนกัน“คุณมัทนาใช่ไหมครับ?” ลุงคนขับยื่นหน้าออกมาถามหญิงสาว“ใช่ค่ะ ฉันเอง” มัทนา หญิงสาววัย 19 ตอบเสียงหวาน ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม“งั้นขึ้นรถเลยครับ ผมจะพาไปบ้านพรรณภูมิ”“ค่ะ” มัทนาก้าวขึ้นมานั่งบนรถอย่างไม่คิดอะไรมากรถเลี้ยวกลับแล้วขับเข้าไปในหมู่บ้านที่เห็นบ้านค
Chapter 2'คืนแรกต่างถิ่น'.."ที่นี่ร่มรื่นดีนะคะ"มัทนาหันไปชวนกันต์คุยเพราะเขาเอาแต่เงียบ ตลอดทางที่เดินมาส่งเธอเนี่ยไม่พูดไม่จาเลย บรรยากาศรอบตัวก็เงียบวังเวงเหมือนหลุดเข้ามาในป่าจริง ๆ แต่เป็นป่าร้างที่ไม่มีสิงสาราสัตว์ มันก็น่าแปลกนะทำไมไม่มีเสียงนกเสียงแมลงเลย ทั้งที่ต้นไม้ใบหญ้าเยอะขนาดนี้"มันเป็นป่าเขานิ่" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"แต่ไม่ค่อยมีเสียงนกเสียงกาเลยนะคะ"คำพูดของมัทนามันทำให้กันต์ต้องหันมองเธอเล่นเอาหญิงสาวรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมากับสายตาเย็นชาของเขาที่แสนน่ากลัว แค่เธอพูดเรื่องแค่นี้ทำไมจะต้องทำหน้าตาไม่พอใจด้วย"ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะ?""นี่มันเย็นแล้วจะมีเสียงนกเสียงกาได้ยังไง มันกลับเข้ารังหมดแล้ว"คำพูดของเขาทำเอาเธอมึนงงเพราะปกติช่วงเย็นนกเข้ารังเนี่ยจะส่งเสียงเจื้อยแจ้วจะตายไป เธอไม่เคยเจอนกกลับรังแล้วเงียบสักนิด มันแปลกจัง แต่ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปเพราะท่าทางของกันต์ดูไม่ชอบใจที่เธอชวนคุยเขาพาเธอเดินมาส่งที่บ้านพักหลังเรือนใหญ่ หญิงสาวจึงหันไปส่งยิ้มหวานให้ "ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์เดินมาส่ง""กลางค่ำกลางคืนถ้าไม่จำเป็นก็อย่าออกไปไหนละ""ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ"
Chapter 3'เป็นเมียฉันเถอะ'..มัทนาเดินถือตะกร้าเสื้อผ้าออกมายังด้านหลังบ้าน เธอเดินไปตามทางที่ทิพย์บอกเพื่อไปยังบ่อน้ำที่อยู่ในบริเวณเขตบ้านของพรรณภูมิเพื่อซักผ้า เมื่อเดินมาสักพักก็มาถึงที่ริมบ่อมีท่าน้ำและกะละมังคว่ำไว้อยู่แล้ว หญิงสาวหยิบเอาเก้าอี้ไม้มานั่งแล้วตักน้ำใส่กะละมังเพื่อลงมือซักผ้าจะได้ไปทำงานอื่นต่อโดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอมีกันต์กำลังแอบมองอยู่ เขาตามเธอไปทุกที่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็คอยเฝ้ามองเงียบ ๆ ดวงตาคู่คมจับจ้องไปยังผิวกายขาวเนียน เนื้ออ่อน ๆ ของมัทนาก็ทำเอาความกระหายในตัวของเขาพลุ่งพล่านจนแววตาสีดำทมิฬแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ลิ้นสากตวัดเลียริมฝีปากของตนด้วยความอยากลิ้มลองในรสชาติของสาวพรหมจรรย์"อย่าไปยุ่งกับเธอ" เสียงของเสกดังขึ้นที่ด้านหลังจนกันต์ต้องหันกลับไปมองพ่อ"ทำไม?" เขาถามคนเป็นพ่อกลับด้วยน้ำเสียงหวน ๆ"เพราะฉันเบื่อหน่ายที่จะต้องคอยหาคนมาทำงานใหม่แล้วไง คนเข้ามาตลอดแต่ไม่เคยมีออกไปจนชาวบ้านเขาสงสัยไปทั่วแล้ว""แต่ผมอยากได้เธอ" เขาบอกความต้องการกับพ่อไปตรง ๆ"แกจะอยากได้ทุกคนไม่ได้หรอกนะ""แต่คนนี้มันพิเศษกว่าคนอื่น""แกหมายความว่ายังไง?""ผมอยากไ
Chapter 4'ยักษ์แห่งเขากุมภกรรณ'.."ทำไมถึงทำแบบนี้ มันจะหักห้ามใจไม่ไหวเลยหรือไง""คุณเสกใจเย็น ๆ ค่ะ" ทิพย์รีบห้ามเสกที่พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของกันต์"จะให้ใจเย็นได้ยังไงดูมันทำสิ!" เสกง้างหมัดจะต่อยลูกชายแต่ทิพย์ก็รีบดึงแขนเอาไว้"อย่าค่ะคุณเสก ทิพย์ขอ""ก็แค่แม่เลี้ยงไม่ต้องมาปกป้องหรอก""โอ๊ย!" กันต์ผลักตัวทิพย์ออกไปจนเธอถึงกับล้มก้นจ้ำเบ้า"จะมากไปแล้วนะเจ้ากันต์ถึงจะเป็นแม่เลี้ยงแต่ก็เลี้ยงแกมา" ย่าแรมรีบเข้ามาห้ามหลาน"ยกยอกันเข้าไปก็แค่คนใช้ตกถังข้าวสาร" แต่กันต์ก็ยังคงหันไปดูถูกทิพย์ที่เคยเป็นเพียงสาวรับใช้ในบ้านต่อ"แต่แกอย่าลืมสิว่าแกเองก็กำลังจะจับคนใช้ทำเมียเหมือนกัน" เสกหันไปมองมัทนาที่หมดสติอยู่บนเตียง"แต่ผมคงจะไม่ยกย่องเชิดชูพวกสกุนต่ำขึ้นมาเป็นเมียแต่งหรอก อย่างดีก็แค่ของไว้คอยหยิบจับเล่นก็เท่านั้น" ว่าจบกันต์ก็หันตัวเดินออกจากห้องไป"ไอ้กันต์!""พอเถอะค่ะคุณเสกอย่าให้มันบานปลายไปมากกว่านี้เลย" ทิพย์รีบห้ามเสกที่กำลังฉุนลูกชายจนเลือดขึ้นหน้า"ใช่ ปล่อยเจ้ากันต์มันเถอะ พวกคนหนุ่มมันก็แบบเนี่ยควบคุมตัวเองยังไม่ได้" ย่าแรมพูดก่อนจะหันตัวเดินไปหามัทนา มือเหี่ยวลูบไล
Chapter 5'นกน้อยในดงอสูร'.."เราต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอคะ? " ทิพย์ถามเสกที่กำลังผสมว่านมหาเสน่ห์และมวลสารอาถรรพ์เข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นยาเสน่ห์ปลุกกำหนัดในตัวของผู้ที่กินเข้าไป"ถ้าไม่ทำแบบนี้จะให้กันต์มันทำเองเหรอไง คงได้พลั้งฆ่าเธอตายพอดี" เสกตอบขณะบดมวลสารทุกอย่างเข้าด้วยกันจะได้นำไปทำพิธีต่อ"ความจริงมัทนาเองก็เข้าตำราทุกอย่างนะ" ย่าแรมพูดแทรกขึ้น"ตำราอะไรคะ?" ทิพย์หันไปถามด้วยความสงสัย"ผู้หญิงแบบมัทนาเหมาะจะให้กำเนิดสายเลือดเผ่าพันธุ์ของเราไง เธอผิวพรรณดี ร่างกายแข็งแรง บริสุทธิ์ผุดผ่อง อยู่ในจารีตประเพณีไม่ผิดศีลธรรม มันตรงตามตำราทุกอย่าง ในเมื่อเธอจะต้องร่วมเตียงกับเจ้ากันต์แล้วก็ใช้โอกาสนี้ให้เธอตั้งท้องลูกของเจ้ากันต์ด้วยเลย"คำพูดของย่าแรมมันทำให้สองผัวเมียหันมองหน้ากันเหมือนต่างฝ่ายต่างขอความคิดเห็นจากกันโดยไม่พูดอะไร ใช้เพียงสายตาเท่านั้น แต่เสกเองก็เห็นด้วยกับแม่แหละเพราะเขามีลูกคนเดียวการมีหลานไวมันย่อมดีกว่าอย่างน้อยเผ่าพันธุ์ของเขาที่เหลือน้อยนิดก็ยังมีทายาท"เอาตามที่แม่ว่าก็ได้ มัทนาเองก็ไม่แย่ถึงจะเป็นสาวใช้แต่ก็เป็นคนดีมีศีลธรรม คงเป็นแม่ที่ดีได้ แล้วเธอว่าไง?"
Chapter 8'ไม่สมฐานะ'.."ใช่ แต่งงาน มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร"เมื่อได้ฟังแบบนั้นมัทนาก็เกิดความลังเลใจขึ้นมา มันถูกต้องแล้วที่คนได้เสียเป็นผัวเป็นเมีย ผิดผีกันแล้วมันจะต้องแต่งงานกัน ขอขมาญาติผู้ใหญ่ ทำตามประเพณีให้มันถูกต้องเพื่อเกียรติของตัวเองด้วย แต่ที่เธอลังเลเพราะขนาดยังไม่แต่งงานเขายังเกือบจะฆ่าเธอถ้าไม่มีคนมาช่วยคงตายไปแล้วและถ้าแต่งงานไปเธอจะไม่ตายคาเรือนหอเลยเหรอไง"ไม่ต้องคิดมากนะ ทำใจให้สบาย ฉันกับคุณเสกจะจัดการเรื่องนี้ให้ ตอนนี้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ อะไรที่มันเสียไปแล้วเราเรียกคืนไม่ได้เพราะฉะนั้นให้มันเป็นอดีตดีกว่า อย่าเก็บมาคิดให้เราทุกข์"มัทนาไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ แต่เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งจนเนื้อตัวสั่นเทา ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมน้ำตาที่เจิ่งนองไปทั่วใบหน้า ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำรอยแดงจ้ำมันตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ในตอนนี้สูญสิ้นแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ตั้งใจรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่จะร่วมหอลงโรงด้วย มันถูกกันต์ย่ำยีและกระชากเอาไปหมดแล้วเธอยังคงสับสน ยังคงไม่เข้
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'..เสียงนกน้อยเจื้อยแจ้วไปทั่วผืนป่า ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในห้องนอนจนหน้าต่างปลิวไสวมันทำให้มัทนาที่กำลังหลับค่อย ๆ เปิดเปลือกตาสวยขึ้น ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าด้วยความมึนเบลอ สายตายังคงพร่ามัว เธอขยับตัวเล็กน้อยกลับรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรพาดทับบนหน้าอก"ว้ายยยย!" แต่เมื่อหันไปมองหญิงสาวก็ต้องตกใจจนร้องกรี๊ดออกมาเมื่อพบว่ากันต์ในสภาพเปลือยเปล่ากำลังนอนกอดเธออยู่และไม่ใช่เขาที่เปลือย เธอเองก็เหมือนกันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรเลย"ตื่นแล้วเหรอจ้ะเมีย" กันต์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหน้าตาตื่นตกใจของมัทนา"กรี๊ดดดด!" แต่แทนที่มัทนาจะตอบเขากลับส่งเสียงกรี๊ดอัดหน้าชายหนุ่มแทน หญิงสาวรีบก้าวขาลงจากเตียงด้วยความตกใจมือก็หยิบเอาผ้าห่มมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้สมองพยายามคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพความทรงจำมากมายก็ไหลพรั่งพรูเข้ามา ภาพที่เธอกำลังเล่นบทรักบทสวาทอันเร่าร้อนกับเขา ทั้งบนเตียง บนพื้น เกาะผนัง เรียกว่าทำหมดทุกพื้นที่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้ให้ตายสิทำไมเธอร่านสวาทขนาดนั้น!แต่มันน่าตกใจกว่าตรงที่เธอไม่ขัดขืนเขาเลย สมยอมเขาทุกอย่าง มันน่าแปลกจังเพราะเธอไม่อ
Chapter 6'ป่าเถื่อน'.."อ๊า~"เสียงครางหวานดังออกมายามมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างเล็ก มัทนาถูกผลักลงไปยังเตียงโดยมีกันต์ยืนจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทำเอาหญิงสาวหน้าแดงระเรื่อด้วยความรู้สึกอายที่ถูกจับจ้องกันขนาดนี้กางเกงสะดอถูกถอดออกจากเอวของเขาเหลือเพียงกางเกงชั้นในที่คับตุงขึ้นเป็นรูปลำยาว ร่างสูงยกปลายเท้าเล็กขึ้นมาก่อนจะประทับจูบลงบนเนื้ออ่อนของเธอจนมัทนาตกใจที่เขาทำแบบนี้"หอมจังเลยร่างกายของเธอ"จมูกโด่งคมไล่ดมและพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้าบางขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาถึงกลางกายสาวที่หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำหวานสีใส ลิ้นสากตวัดเลียลงบนกลีบดอกไม้อวบอูมอีกครั้ง ลากไล้สัมผัสของเขาไปทั่วทุกช่อทุกกลีบจนร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน สองมือกำผ้าปูแน่น ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันเพื่อไม่ให้หลุดเสียงครางกระเส่าออกไปลิ้นสากดุนเข้าไปในโพรงสวาทเพื่อกวาดต้อนน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาจนหมดจด ทำเอามัทนาหลุดเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างเสียวซ่าน เสียงหวานมันปลุกเร้าอารมณ์ของกันต์จนพลุ่งพล่าน เขาลากมือไปตามเนื้ออ่อนบีบเคล้นมันจนขึ้นรอยแดงด้วยความมันเขี้ยว เหงื่อเม็ดเล็กไหลชโลมร่างกายของทั้งสองคนภายใต้ความร้อน
Chapter 5'นกน้อยในดงอสูร'.."เราต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอคะ? " ทิพย์ถามเสกที่กำลังผสมว่านมหาเสน่ห์และมวลสารอาถรรพ์เข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นยาเสน่ห์ปลุกกำหนัดในตัวของผู้ที่กินเข้าไป"ถ้าไม่ทำแบบนี้จะให้กันต์มันทำเองเหรอไง คงได้พลั้งฆ่าเธอตายพอดี" เสกตอบขณะบดมวลสารทุกอย่างเข้าด้วยกันจะได้นำไปทำพิธีต่อ"ความจริงมัทนาเองก็เข้าตำราทุกอย่างนะ" ย่าแรมพูดแทรกขึ้น"ตำราอะไรคะ?" ทิพย์หันไปถามด้วยความสงสัย"ผู้หญิงแบบมัทนาเหมาะจะให้กำเนิดสายเลือดเผ่าพันธุ์ของเราไง เธอผิวพรรณดี ร่างกายแข็งแรง บริสุทธิ์ผุดผ่อง อยู่ในจารีตประเพณีไม่ผิดศีลธรรม มันตรงตามตำราทุกอย่าง ในเมื่อเธอจะต้องร่วมเตียงกับเจ้ากันต์แล้วก็ใช้โอกาสนี้ให้เธอตั้งท้องลูกของเจ้ากันต์ด้วยเลย"คำพูดของย่าแรมมันทำให้สองผัวเมียหันมองหน้ากันเหมือนต่างฝ่ายต่างขอความคิดเห็นจากกันโดยไม่พูดอะไร ใช้เพียงสายตาเท่านั้น แต่เสกเองก็เห็นด้วยกับแม่แหละเพราะเขามีลูกคนเดียวการมีหลานไวมันย่อมดีกว่าอย่างน้อยเผ่าพันธุ์ของเขาที่เหลือน้อยนิดก็ยังมีทายาท"เอาตามที่แม่ว่าก็ได้ มัทนาเองก็ไม่แย่ถึงจะเป็นสาวใช้แต่ก็เป็นคนดีมีศีลธรรม คงเป็นแม่ที่ดีได้ แล้วเธอว่าไง?"
Chapter 4'ยักษ์แห่งเขากุมภกรรณ'.."ทำไมถึงทำแบบนี้ มันจะหักห้ามใจไม่ไหวเลยหรือไง""คุณเสกใจเย็น ๆ ค่ะ" ทิพย์รีบห้ามเสกที่พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของกันต์"จะให้ใจเย็นได้ยังไงดูมันทำสิ!" เสกง้างหมัดจะต่อยลูกชายแต่ทิพย์ก็รีบดึงแขนเอาไว้"อย่าค่ะคุณเสก ทิพย์ขอ""ก็แค่แม่เลี้ยงไม่ต้องมาปกป้องหรอก""โอ๊ย!" กันต์ผลักตัวทิพย์ออกไปจนเธอถึงกับล้มก้นจ้ำเบ้า"จะมากไปแล้วนะเจ้ากันต์ถึงจะเป็นแม่เลี้ยงแต่ก็เลี้ยงแกมา" ย่าแรมรีบเข้ามาห้ามหลาน"ยกยอกันเข้าไปก็แค่คนใช้ตกถังข้าวสาร" แต่กันต์ก็ยังคงหันไปดูถูกทิพย์ที่เคยเป็นเพียงสาวรับใช้ในบ้านต่อ"แต่แกอย่าลืมสิว่าแกเองก็กำลังจะจับคนใช้ทำเมียเหมือนกัน" เสกหันไปมองมัทนาที่หมดสติอยู่บนเตียง"แต่ผมคงจะไม่ยกย่องเชิดชูพวกสกุนต่ำขึ้นมาเป็นเมียแต่งหรอก อย่างดีก็แค่ของไว้คอยหยิบจับเล่นก็เท่านั้น" ว่าจบกันต์ก็หันตัวเดินออกจากห้องไป"ไอ้กันต์!""พอเถอะค่ะคุณเสกอย่าให้มันบานปลายไปมากกว่านี้เลย" ทิพย์รีบห้ามเสกที่กำลังฉุนลูกชายจนเลือดขึ้นหน้า"ใช่ ปล่อยเจ้ากันต์มันเถอะ พวกคนหนุ่มมันก็แบบเนี่ยควบคุมตัวเองยังไม่ได้" ย่าแรมพูดก่อนจะหันตัวเดินไปหามัทนา มือเหี่ยวลูบไล
Chapter 3'เป็นเมียฉันเถอะ'..มัทนาเดินถือตะกร้าเสื้อผ้าออกมายังด้านหลังบ้าน เธอเดินไปตามทางที่ทิพย์บอกเพื่อไปยังบ่อน้ำที่อยู่ในบริเวณเขตบ้านของพรรณภูมิเพื่อซักผ้า เมื่อเดินมาสักพักก็มาถึงที่ริมบ่อมีท่าน้ำและกะละมังคว่ำไว้อยู่แล้ว หญิงสาวหยิบเอาเก้าอี้ไม้มานั่งแล้วตักน้ำใส่กะละมังเพื่อลงมือซักผ้าจะได้ไปทำงานอื่นต่อโดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอมีกันต์กำลังแอบมองอยู่ เขาตามเธอไปทุกที่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็คอยเฝ้ามองเงียบ ๆ ดวงตาคู่คมจับจ้องไปยังผิวกายขาวเนียน เนื้ออ่อน ๆ ของมัทนาก็ทำเอาความกระหายในตัวของเขาพลุ่งพล่านจนแววตาสีดำทมิฬแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ลิ้นสากตวัดเลียริมฝีปากของตนด้วยความอยากลิ้มลองในรสชาติของสาวพรหมจรรย์"อย่าไปยุ่งกับเธอ" เสียงของเสกดังขึ้นที่ด้านหลังจนกันต์ต้องหันกลับไปมองพ่อ"ทำไม?" เขาถามคนเป็นพ่อกลับด้วยน้ำเสียงหวน ๆ"เพราะฉันเบื่อหน่ายที่จะต้องคอยหาคนมาทำงานใหม่แล้วไง คนเข้ามาตลอดแต่ไม่เคยมีออกไปจนชาวบ้านเขาสงสัยไปทั่วแล้ว""แต่ผมอยากได้เธอ" เขาบอกความต้องการกับพ่อไปตรง ๆ"แกจะอยากได้ทุกคนไม่ได้หรอกนะ""แต่คนนี้มันพิเศษกว่าคนอื่น""แกหมายความว่ายังไง?""ผมอยากไ
Chapter 2'คืนแรกต่างถิ่น'.."ที่นี่ร่มรื่นดีนะคะ"มัทนาหันไปชวนกันต์คุยเพราะเขาเอาแต่เงียบ ตลอดทางที่เดินมาส่งเธอเนี่ยไม่พูดไม่จาเลย บรรยากาศรอบตัวก็เงียบวังเวงเหมือนหลุดเข้ามาในป่าจริง ๆ แต่เป็นป่าร้างที่ไม่มีสิงสาราสัตว์ มันก็น่าแปลกนะทำไมไม่มีเสียงนกเสียงแมลงเลย ทั้งที่ต้นไม้ใบหญ้าเยอะขนาดนี้"มันเป็นป่าเขานิ่" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"แต่ไม่ค่อยมีเสียงนกเสียงกาเลยนะคะ"คำพูดของมัทนามันทำให้กันต์ต้องหันมองเธอเล่นเอาหญิงสาวรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมากับสายตาเย็นชาของเขาที่แสนน่ากลัว แค่เธอพูดเรื่องแค่นี้ทำไมจะต้องทำหน้าตาไม่พอใจด้วย"ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะ?""นี่มันเย็นแล้วจะมีเสียงนกเสียงกาได้ยังไง มันกลับเข้ารังหมดแล้ว"คำพูดของเขาทำเอาเธอมึนงงเพราะปกติช่วงเย็นนกเข้ารังเนี่ยจะส่งเสียงเจื้อยแจ้วจะตายไป เธอไม่เคยเจอนกกลับรังแล้วเงียบสักนิด มันแปลกจัง แต่ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปเพราะท่าทางของกันต์ดูไม่ชอบใจที่เธอชวนคุยเขาพาเธอเดินมาส่งที่บ้านพักหลังเรือนใหญ่ หญิงสาวจึงหันไปส่งยิ้มหวานให้ "ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์เดินมาส่ง""กลางค่ำกลางคืนถ้าไม่จำเป็นก็อย่าออกไปไหนละ""ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ"
Chapter 1'ยินดีต้อนรับสู่พรรณภูมิ'..รถสองแถวขับมาจอดยังหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หญิงสาวร่างเล็กผิวขาวเนียนก้าวลงจากรถสองมือก็ถือกระเป๋าสานใบใหญ่ลงมาด้วย เธอเดินมาหยุดยังหน้าป้ายไม้ที่เขียนว่า บ้านพรรณภูมิ ก่อนจะทอดสายตามองเข้าไปตามถนนเล็ก ๆ ที่เป็นดินลูกรังสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าดงดูน่ากลัวแถมรอบตัวของเธอก็มีแต่ขุนเขาล้อมรอบเหมือนตัวเธอกำลังอยู่กลางแอ่งกระทะอย่างงั้นแหละ บรรยากาศมันชนบทสุด ๆตอนนั้นเองก็มีรถยนต์ขับตรงมาทางเธอ เป็นรถรุ่นราคาแพงเชียวบงบอกถึงสถานะของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดีว่าต้องร่ำรวยมาก ๆ เพราะรถยนต์แบบนี้น่าจะไปวิ่งในเมืองกรุงมากกว่า แต่นี่กลับมาอยู่ในชนบทไกลปืนเที่ยงแบบนี้ แต่ถึงมันจะดูชนบทมากแค่ไหนก็ยังดีที่มีรถประจำทางวิ่งผ่านเพราะมันติดกับถนนใหญ่ ถ้าเข้าไปลึกกว่านี้ก็คงไม่มีรถเข้าถึงเหมือนกัน“คุณมัทนาใช่ไหมครับ?” ลุงคนขับยื่นหน้าออกมาถามหญิงสาว“ใช่ค่ะ ฉันเอง” มัทนา หญิงสาววัย 19 ตอบเสียงหวาน ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม“งั้นขึ้นรถเลยครับ ผมจะพาไปบ้านพรรณภูมิ”“ค่ะ” มัทนาก้าวขึ้นมานั่งบนรถอย่างไม่คิดอะไรมากรถเลี้ยวกลับแล้วขับเข้าไปในหมู่บ้านที่เห็นบ้านค