ร่างเพรียวของ พาย พรพระพาย ยืนอยู่หน้าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่แทนไท คอร์ปอเรชั่น ใบหน้าสวยหวานแหงนเงยมองตึกสูงระฟ้าที่มีความหรูหรา ภายในก็ถูกตกแต่งอย่างเรียบหรู แต่ทว่ามีสไตล์อย่างเป็นเอกลักษณ์
"สวัสดีค่ะ ดิฉันมารายงานตัวในตำแหน่งเลขานุการค่ะ" พรพระพายเอ่ยบอกพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ในส่วนประชาสัมพันธ์
"อ๋อ คุณพรพระพาย เดี๋ยวดิฉันพาไปหาหัวหน้าฝ่ายบุคคลนะคะ" พนักงานสาวเอ่ยบอกอย่างเป็นมิตร
"ค่ะ" พรพระพายยิ้มอย่างมีไมตรีจิตตอบกลับไป แล้วเดินตามพนักงานสาวคนนั้นไปยังฝ่ายบุคคล
"พี่เพ็ญ น้องที่นัดรายงานตัวมาแล้วค่ะ" พนักงานสาวบอกผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูมีอายุ แต่ทว่ายังคงความสวยไว้อยู่ และคงจะเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลที่เธอกล่าวถึง
"ขอบใจมากแก้ว" ผู้หญิงคนนั้นหันมาบอกผู้หญิงที่มากับพรพระพาย
"เชิญนั่งจ้ะ" หัวหน้าฝ่ายบุคคลผายมือให้พรพระพายนั่งลงตรงเก้าอี้ด้านหน้าเธอ
"ค่ะ" พรพระพายตอบด้วยท่าทางนอบน้อม
"พรพระพาย ใช่ไหม อืม...ชื่อแปลกดีนะ หน้าตาสวย ความสามารถก็ดี พี่อ่านประวัติแล้วไม่ธรรมดาเลยนะ พูดได้ตั้งสี่ภาษา ไทย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส" หัวหน้าฝ่ายบุคคลอ่านแฟ้มประวัติแล้วเอ่ยชื่นชมในความสามารถด้านภาษาของพรพระพาย
"ขอบคุณค่ะ" พรพระพายไม่รู้จะตอบอะไรมากไปกว่านี้ มีท่าทีเขินอายเมื่อถูกชมซึ่งๆ หน้า
"พี่ชื่อเพ็ญนภานะ เป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล พรพระพายเรียกพี่เพ็ญก็ได้จ้ะ"
"ค่ะพี่เพ็ญ พี่เพ็ญเรียกหนูว่าพายก็ได้นะคะ" พรพระพายเอ่ยบอกชื่อเล่นของตนเอง
"โอเค พายจะเป็นเลขาของคุณอลงกรณ์ คุณอลงกรณ์เป็นผู้จัดการของบริษัท พายก็คอยดูแลเรื่องตารางนัดหมาย รายงานการประชุม แล้วตอนนี้บริษัทของเราขาดคนด้านการติดต่อสื่อสาร เพราะส่วนมากพนักงานจะพูดได้แค่สองภาษา คือภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ ได้พายมาคงจะช่วยงานบริษัทได้มากทีเดียวเชียว" เพ็ญนภาอธิบายงานที่พรพระพายต้องรับผิดชอบให้ฟัง
"ค่ะ พี่เพ็ญ" พรพระพายตอบ
"เดี๋ยวพี่พาไปพบคุณอลงกรณ์ เชิญจ้ะ" เพ็ญนภาลุกขึ้นแล้วพาพรพระพายไปพบกับอลงกรณ์ ผู้จัดการของที่นี่
ก๊อกๆๆ
"เชิญ" เสียงเอ่ยอนุญาตดังออกมาจากห้องทำงานของผู้จัดการ
"คุณอลงกรณ์ เพ็ญพาเลขาคนใหม่มาแนะนำตัวค่ะ ไหว้คุณอลงกรณ์สิจ๊ะพาย" เพ็ญนภาเอ่ยบอกเมื่อเข้ามาในห้องทำงานหรู
"สวัสดีค่ะ" พรพระพายยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
"เชิญนั่ง" อลงกรณ์บอกเสียงเรียบ
"ขอบคุณค่ะ" พรพระพายเดินเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
"คือผมลืมแจ้งคุณเพ็ญไป ว่าผมต้องย้ายไปประจำที่จีน" คำบอกเล่าของอลงกรณ์ทำเอาพรพระพายนิ่งอึ้งไป เธอจะตกงานตั้งแต่วันแรกเลยหรือนี่
"แล้วน้องพายล่ะคะ" เพ็ญนภาเอ่ยถาม
"ไม่มีปัญหา ก็ยังคงทำงานในตำแหน่งเลขาเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนจากเป็นเลขาของผม ไปเป็นเลขาของคุณแทนไทแทน จากที่ผมอ่านประวัติของคุณใช้ได้ทีเดียว น่าจะช่วยงานคุณแทนไทได้มาก คุณคงไม่มีปัญหานะครับ" อลงกรณ์กล่าว
"ไม่มีค่ะ" พรพระพายใจชื้นขึ้นมาทันทีที่ยังได้ทำงานที่นี่ต่อ
"ดี งั้นไปพบคุณแทนไทกับผมเลยละกัน ผมกำลังเข้าไปพบอยู่พอดี" อลงกรณ์บอก
อลงค์กรณ์นำพรพระพายเข้ามาในลิฟท์ แล้วกดไปที่ชั้น 34 ซึ่งเป็นชั้นของผู้บริหารก็คือคุณแทนไท เจ้าของแทนไท คอร์ปอเรชั่น อันยิ่งใหญ่
"คุณรอผมอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวผมเข้าไปพบคุณแทนไทก่อน" อลงกรณ์บอกแล้วเดินเข้าไปในห้องผู้บริหาร
พรพระพายกวาดสายตามองไปรอบๆ ชั้นนี้กว้างขวางมาก ถูกตกแต่งอย่างเรียบหรู มีบอดี้การ์ดชุดดำยืนเป็นจุดๆ คอยรักษาความปลอดภัย แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เด็กคนนั้นกำลังนั่งเล่นอยู่บนพื้นที่ปูพรมไว้อย่างดี มีของเล่นมากมายตรงบริเวณนั้น เหมือนแบ่งโซนไว้ให้เด็กโดยเฉพาะ
พรพระพายเดินตรงเข้าไปหาเด็กผู้ชายตัวเล็กที่นั่งเล่นอยู่คนเดียว แล้วนั่งลงตรงข้าม เธอมองเด็กน้อยน่ารัก แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ หล่อเหล่าแต่เด็ก พ่อกับแม่ต้องสวยหล่อมากแน่ๆ
"เล่นอะไรอยู่ค่ะคนเก่ง ให้พี่เล่นเป็นเพื่อนไหม" พรพระพายทักทาย เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองเธอเพียงครู่ แล้วก็ก้มหน้าเล่นของเล่นของตนต่อโดยไม่สนใจเธอ
"พี่ทำอะไรให้ดูเอาไหม" พรพระพายคิดหาวิธีที่จะให้เด็กน้อยตรงหน้าพูดด้วย คิดได้ดังนั้นก็หยิบเหรียญในกระเป๋าออกมา
"ดูนี่นะคะ" พรพระพายชูเหรียญขึ้นมาตรงหน้าของเด็กผู้ชายตัวเล็ก เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นมามองอย่างสนใจ
พรพระพายเอาเหรียญใส่ในฝ่ามือ แล้วพลิกมือเอาเหรียญใส่ไปอีกมือ แต่ทำเหมือนว่าเหรียญหายไป เด็กน้อยเริ่มตื่นตาตื่นใจ มองหาเหรียญว่าหายไปได้อย่างไร เธอสามารถหลอกล่อเด็กให้เล่นด้วยจนได้
"หูยยยย...หายไปไหนฮับ" เด็กน้อยตื่นตาตื่นใจ ยอมพูดกับพรพระพาย แม้จะพูดไม่ชัดตามภาษาเด็กแต่ก็น่ารักมากในสายตาของเธอ
"ต้องบอกพี่ก่อนว่าชื่ออะไร แล้วพี่จะบอกว่าเหรียญอยู่ไหน" พรพระพายหลอกล่อเด็กน้อยอีกครั้ง
"ชื่ออาชิฮับ" เด็กน้อยรีบบอกชื่อตนเองทันที แล้วมองมาที่มือของหญิงสาวตรงหน้าอย่างตั้งใจ
"อาชิดูนะครับ...นี่ไง เหรียญอยู่นี้" พรพระพายพลิกมือไปมาอีกนิดๆ หน่อยๆ แล้วชูเหรียญที่หายไปขึ้นมา
"หูยยยย..." อินทัชปรบมือด้วยความตื่นเต้นชอบใจ
"อาชิอยากทำเป็นไหมคะ"
"อยากฮับ" เด็กน้อยพูดไม่ชัดอีกตามเคย แล้วยังพยักหน้าหงึกหงักเหมือนตุ๊กตาติดสปริงหน้ารถด้วยท่าทางน่ารัก
"อาชิทำแบบนี้นะครับ" พรพระพายอุ้มเด็กน้อยขึ้นมานั่งบนตัก จับมือเล็กๆ ขึ้นมาแล้วสอนอย่างที่เธอทำ
"เย่ๆๆ อาชิทำได้แย้ว" อินทัชปรบมือร้องดีใจยกใหญ่
"อาชิเก่งที่สุดเลย" พรพระพายปรบมือให้เด็กชายตัวน้อย
การกระทำของพรพระพายอยู่ในสายตาของมาเฟียหนุ่ม เขามองด้วยความแปลกใจที่ลูกชายให้ความสนิทสนมกับคนแปลกหน้า แถมยังยอมเล่นด้วย มิหนำซ้ำยังหัวเราะชอบใจยกใหญ่ ปกติแล้วลูกชายของเขาจะไม่ยอมให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้มากขนาดนี้ นี้ยังยอมนั่งตักของเธออีกต่างหาก
"น่าแปลกที่อาชิยอมเล่นด้วย" ตรัยคุณตั้งข้อสงสัย
"พรพระพายครับ คนที่จะมาเป็นเลขาของคุณแทนไท" อลงกรณ์เอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม
"อาชิครับ" แทนไทเอ่ยเรียกลูกชายที่กำลังนั่งหัวเราะคิกคักกับหญิงสาวแปลกหน้า
"พ่อแทนฮับ" อินทัชรีบวิ่งมากอดขาผู้เป็นพ่อทันที พรพระพายรีบลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจที่เห็นผู้ชายสามคนยืนมองมาที่เธอ แล้วรีบเดินมาหาอลงกรณ์ทันที
"คุณแทนไทครับ พรพระพายคนที่จะมาเป็นเลขาของคุณครับ พรพระพาย นี้คือคุณแทนไท ประธานบริหารสูงสุดของแทนไท คอร์ปอเรชั่น แล้วนี่คุณตรัยคุณเป็นทั้งผู้ช่วยและบอดี้การ์ดของคุณแทนไท" อลงกรณ์แนะนำอย่างเป็นทางการ
"สวัสดีค่ะคุณแทนไท สวัสดีค่ะคุณตรัยคุณ" พรพระพายยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เธอมองชายหนุ่มด้วยความตะลึง ด้วยคิดว่าเขาจะอายุพอๆ กับอลงกรณ์
"พ่อแทนฮับ พี่เขาเป็นนางฟ้า" อินทัชเงยหน้าบอกผู้เป็นพ่อ
"หึ...นางฟ้าหรือแม่มดกันแน่ครับ" แทนไทย่อตัวลงไปคุยกับลูกชาย พรพระพายเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างควบคุมอารมณ์ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด
"นางฟ้าฮับ นางฟ้าของอาชิ" เด็กน้อยเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้ว
แทนไทเงยหน้าขึ้นมองพรพระพายด้วยสายตานิ่งเรียบ แววตาของเขาแฝงไปด้วยพลังบางอย่างที่ดึงดูดชวนให้หลงใหลในตัวเขาได้ไม่ยาก
"เออ...ขอโทษนะคะ คุณแทนไทจะให้ดิฉันเริ่มงานเมื่อไรคะ" พรพระพายนั่งนิ่งในห้องทำงานผู้บริหารสูงสุดของแทนไท คอร์ปอเรชั่นมาเกือบชั่วโมง ในขณะที่คนตรงหน้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสาร ไม่พูดอะไรสักคำ เธอจึงตัดสินใจเอ่ยถามออกไป"วันนี้ และตอนนี้" แทนไทเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เช่นเดียวกับน้ำเสียงของเขา แต่สายตาของเขากลับทำให้หัวใจของพรพระพายเต้นแรงกว่าปกติ เพียงแค่สบตากับเขาหัวใจของเธอก็เต้นแรงมากขึ้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ช่างมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามยิ่งนัก แต่ก็ต้องคอยบอกและย้ำเตือนตนเองเอาไว้ว่าเขามีลูกกับภรรยาแล้ว"แล้วโต๊ะทำงานของดิฉันล่ะคะ" พรพระพายถามคนตรงหน้าอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบ ประตูห้องทำงานก็เปิดเสียก่อน"พี่นางฟ้าฮับ พี่นางฟ้ายังไม่กลับอีกหยอฮับ หรือว่าพี่นางฟ้าจะมาอยู่กับอาชิฮับ" เด็กชายตัวน้อยเป็นผู้เปิดประตูเข้ามา เมื่อเห็นพรพระพายก็วิ่งมาเกาะแขนเธอทันที"ยังค่ะ อาชิ...คุณอาชิเรียกพี่ว่าพี่พายนะคะ พี่ชื่อพายค่ะไม่ใช่นางฟ้า" พรพระพายก้มหน้าลงไปคุยกับเด็กน้อย แต่พอนึกขึ้นได้ว่าอินทัชเป็นลูกของแทนไท ก็จำต้องเปลี่ยนสรรพนาม"ทำไมล่ะฮับ ก็พี่เป็นนางฟ้า ม
"ฝันดีนะครับลูกชายของพ่อแทน" แทนไทก้มลงจูบหน้าผากลูกชายเบาๆ หลายวันมานี้อินทัชจะตัวติดแจเลขานุการคนใหม่ของผู้เป็นพ่อตลอด กลับจากโรงเรียนก็จะวิ่งไปหาเธอทันที และรอคอยที่จะได้เล่นกับเธอ"ฝันดีฮับ" เด็กน้อยเอ่ยบอกแล้วค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงแทนไทกล่อมลูกชายเข้านอน และรอจนกระทั้งแน่ใจว่าลูกชายหลับสนิท หลังจากนั้นเขาก็จะออกไปผับของเขา เพื่อตรวจงานอย่างที่ทำเป็นประจำทุกคืน โดยมีป้าแช่มซึ่งเป็นป้าแท้ๆ ของตรัยคุณคอยดูแลต่อจากเขา"มึงไปสืบประวัติของผู้หญิงคนนี้มาให้กู อย่างละเอียด" แทนไทยื่นกระดาษใบหนึ่งให้ตรัยคุณบอดี้การ์ดที่รู้ใจเขาที่สุด เน้นย้ำว่าต้องได้ประวัติของผู้หญิงคนนี้อย่างละเอียด"นางฟ้าของอาชินี่ครับ" ตรัยคุณมองแผ่นกระดาษในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมาถามผู้เป็นนาย"ไปจัดการตามที่กูสั่ง และเร็วที่สุด" แทนไทบอกเสียงกร้าวอย่างต้องการให้ตรัยคุณปฏิบัติตามเสียงเร็วที่สุด"ครับ คุณเอมี่มารออยู่แล้วนะครับ จะให้เข้ามาเลยไหมครับ" ตรัยคุณก้มศีรษะรับคำสั่ง แต่ก็ไม่ลืมที่จะบอกเรื่องที่เขาตั้งใจจะเข้ามาบอกแต่แรก"อืม" มาเฟียหนุ่มตอบเพียงเท่านั้น ตรัยคุณจึงออกไปทำงานตามที่ได้รับคำสั่งทันที คำว่าเร็วที่สุดขอ
มาเฟียหนุ่มนั่งนิ่งอย่างคนใช้ความคิดอยู่บนโซฟาตัวยาวมาเกือบชั่วโมง หลังจากที่ตรัยคุณรายงานเรื่องของพรพระพาย เขาเอาแต่คิดถึงใบหน้าสวยๆ รอยยิ้มหวานๆ ของเธอ โดยที่ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าทำไม"ไอ้เดย์! ไอ้เดย์!!" แทนไทลุกเดินออกไปเรียกหาบอดี้การ์ดประจำตัว"ครับคุณแทน" บอดี้การ์ดหนุ่มรีบขานรับในทันทีเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นนายดังลั่น เขากำลังตรวจความเรียบร้อยอยู่ในบริเวณที่ไม่ไกลจากห้องทำงานของเจ้านายมากนักจึงขานรับได้ทันใจมาเฟียหนุ่ม เพราะตัวเขาเองมั่นใจว่าจะต้องถูกเรียกหาในไม่ช้าเป็นแน่ แล้วเขาก็คิดไม่ผิดจริงๆ สมกับเป็นบอดี้การ์ดที่รู้ใจเจ้านายคนนี้ที่สุด"เอากุญแจรถมา" แทนไทบอกพร้อมทั้งยื่นมือไปตรงหน้าบอดี้การ์ดคนสนิทที่เพิ่งวิ่งมาถึงเขา"คุณแทนจะไปไหนครับ บอกผมมาได้เลย ผมจะทำหน้าที่พลขับพาคุณแทนไปทุกที่ที่คุณแทนต้องการเลยครับ บัญชาไอ้เดย์มาได้เลย" ตรัยคุณถามพร้อมทั้งยกยิ้มมุมปากอย่างรู้จุดหมายปลายทางที่เจ้านายหนุ่มจะไป"เรื่องของกู เอากุญแจรถมา" แทนไทไม่ยอมบอก แถมยังพูดเสียงดังกว่าเดิม เหมือนกำลังกลบเกลื่อนการกระทำของตนเอง"แต่ปกติเวลาคุณแทนจะไปไหน ผมต้องเป็นคนขับรถให้ตลอดนะครับ" บอด
"ใส่ชุดนอนอะไรของเธอว่ะ ปิดนมก็ไม่มิด" แทนไทนั่งบ่นพึมพำกับตนเอง พลางลูบสัมผัสเจ้ามังกรผ่านเนื้อผ้าเหมือนจะกล่อมให้มันหลับใหลไปดั่งเดิม แต่ยิ่งลูบ กับสายตาที่ยังคงจับจ้องไปที่หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัว เจ้ามังกรก็ยิ่งอยากจะออกมาเจอโลกภายนอก อยากที่จะมุดเข้าไปสำรวจถ้ำของหญิงสาวตรงหน้า"ตัวก็เล็กนิดเดียวทำไมมันถึงล้นออกมาขนาดนั้นว่ะ" มาเฟียหนุ่มบ่นพึมพำขึ้นมาอีก สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ราวกับถูกสะกดไว้ด้วยมนตรา"คุณอาชิต้องทำแบบนี้...คุณอาชิเก่งจังเลย" จู่ๆ หญิงสาวที่กำลังหลับใหลก็พูดขึ้นมาทั้งที่ยังหลับตา ด้วยความตกใจแทนไทรีบทรุดตัวลงไปหลบข้างเตียง แล้วค่อยๆ ชำเรืองตามองขึ้นไปบนเตียงว่าเธอตื่นขึ้นมาหรือเปล่า"เฮ้อ!" มาเฟียหนุ่มถอยหายใจอย่างโล่งอก เพราะเธอเพียงนอนละเมอ คงเล่นกับลูกชายของเขาทั้งวันจนเก็บมาฝัน แล้วนอนละเมอแบบนี้เมื่อเห็นหญิงสาวยังคงหลับสนิท แทนไทก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้ตามเดิม แต่ผ้าห่มของเธอตอนนี้ถูกสลัดออกไปอยู่ข้างกายบาง จนเรียวขาขาวโผล่พ้นออกมา ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงคออีกอึกใหญ่ สายตาคมเคลื่อนไล้มองเรียวขาสวยตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาจนถึงส่วนกลางกายสาว
"พี่พาย พี่พายฮับ" วันนี้เป็นวันหยุดของอินทัช เด็กชายตัวน้อยติดตามผู้เป็นพ่อมาบริษัทด้วย อินทัชตะโกนเรียกเลขานุการสาวพร้อมทั้งแกะมือออกจากผู้เป็นพ่อ แล้วรีบวิ่งไปหาพรพระพายที่กำลังยืนรอลิฟท์ พนักงานที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองกันเป็นตาเดียว ต่างรู้สึกแปลกใจที่ลูกชายประธานบริหารสูงสุดของแทนไท คอร์ปอเรชั่น เรียกขานพนักงานใหม่ที่เพิ่งมาทำงานได้ไม่กี่วันอย่างสนิทสนม โดยปกติเวลาที่แทนไทพาลูกชายมาบริษัท เด็กน้อยจะไม่เคยให้ความสนิทสนมกับพนักงานคนไหน จะอยู่กับผู้เป็นพ่อแล้วก็บอดี้การ์ดประจำตัวเท่านั้นอินทัชวิ่งมาเกาะขาของพรพระพาย โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ร่างบางเซถอยหลังไปสองก้าว แต่มีพนักงานผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆ มารับไว้ได้ทัน"เออ...ขะ...ขอบคุณค่ะ" พรพระพายเอ่ยขอบคุณพนักงานชายที่ช่วยเธอไว้"ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี ผมธาวินนะครับ แล้ว...." ชายหนุ่มบอกพร้อมทั้งแนะนำตนเอง และส่งยิ้มให้อย่างสื่อความหมายว่าพึงใจในตัวหญิงสาว"พรพระพายค่ะ เรียกพายก็ได้" พรพระพายเอ่ยแนะนำตัว พร้อมกับยิ้มตอบตามมารยาท"อาชิขอโทษ พี่พายเจ็บไหมฮับ" เด็กชายตัวน้อยทำหน้าสำนึกผิดที่ทำให้พรพระพายเกือบล้ม"พี่พายไม่เจ็บค่ะ คนเ
"กาแฟมาแล้วค่ะ" พรพระพายวางถาดกาแฟกับแซนวิชทูน่าบนโต๊ะทำงานตรงหน้ามาเฟียหนุ่ม"ฉันสั่งกาแฟอย่างเดียวไม่ใช่เหรอ แล้วนี่คืออะไร" แทนไทเงยหน้าขึ้นมาถาม"แซนวิชทูน่าค่ะ พี่เดย์บอกว่าเมื่อเช้าคุณแทนไทไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามา ดิฉันก็เลยทำแซนวิชมาให้ด้วยค่ะ เผื่อคุณจะหิว" พรพระพายอธิบาย"พี่เดย์งั้นเหรอ ดูสนิทสนมกันดีนะ ฉันไม่หิว เธอเอาออกไป ฉันไม่ชอบ" ประโยคแรกแทนไทพูดพึมพำกับตนเอง ส่วนประโยคหลังเขาบอกเธอด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว"ค่ะๆ" พรพระพายพูดเสียงอ่อย ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องไม่พอใจขนาดนี้ด้วย แล้วเอื้อมมือไปหยิบจานแซนวิชกลับคืนมา แต่ยังไม่ทันจะได้หยิบมาถือไว้ ประตูห้องทำงานก็เปิดเสียก่อน"พี่พายฮับ" เสียงเด็กชายตัวน้อยเปิดประตูเข้ามา เมื่อเห็นหน้าพรพระพายก็รีบวิ่งมาหาเธอทันที"สงสัยอาชิจะลืมพ่อแทนไปแล้ว มาถึงก็เรียกหาแต่พี่พาย" มาเฟียหนุ่มแสร้งทำเสียงน้อยใจลูกชายตัวน้อยของเขา อินทัชรีบวิ่งไปหาผู้เป็นพ่อแล้วป่ายปีนขึ้นไปนั่งบนตัก"อาชิยักพ่อแทนฮับ" อินทัชรีบซบหน้าไปที่อกแกร่งออดอ้อนผู้เป็นพ่อทันที"พ่อแทนก็รักอาชิครับ" แทนไทก้มหน้าลงมาหอมแก้มลูกชาย"พ่อแทนฮับ อาชิขอยักพี่พายด้วยได้ไหมฮับ
มาเฟียหนุ่มนั่งเอนกายพิงพนักโซฟาหนังสุดหรูในห้องส่วนตัวที่ผับ หลังจากที่ส่งเจ้าลูกชายตัวน้อยเข้านอน ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง"คุณพัดชามารอแล้วนะครับ" ตรัยคุณเอ่ยบอกผู้เป็นนายเหมือนที่เขาทำในทุกๆ วัน อยู่ที่ว่าวันนั้นจะเป็นดารา นางแบบ หรือไฮโซคนไหนก็เท่านั้นเอง"กูอยากอยู่คนเดียว บอกให้เธอกลับไป" มาเฟียหนุ่มบอกเสียงกร้าว"ครับ" บอดี้การ์ดหนุ่มไม่อยากเซ้าซี้จึงเดินออกไปทำตามคำสั่งเวลาผ่านไปไม่รู้ว่ากี่นาที หรือนานนับชั่วโมง แทนไทก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม คิดถึงแต่ใบหน้าหวานๆ ดวงตากลมสดใสราวดวงดาว จมูกโด่งเรียวสวย ริมฝีปากบางสีแดงระเรื่อของพรพระพาย ทำไมเธอถึงเข้ามารบกวนจิตใจเขาได้มากขนาดนี้ จะบอกว่าเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น ก็ไม่อยากจะเชื่อในความรู้สึกนั้นเลย เขาปิดประตูรักไปนานกว่าสามปี นานจนไม่อยากจะเปิดรับใครอีก แต่มาวันนี้พรพระพายกับทำให้เขารู้สึกลังเล"ผมจัดการงานเรียบร้อยแล้ว คุณแทนจะกลับเลยหรือเปล่าครับ" ตรัยคุณเดินเข้ามาบอกเจ้านายหนุ่ม"ไอ้เดย์ มึงว่ากูควรทำยังไงดี" แทนไทเปรยถามตรัยคุณด้วยความจนใจ ไม่รู้จะหาทางออกให้กับตนเองอย่างไร"ถ้าคิดถึงก็ไปหาสิครับ คุณแทนก็มีคีย
พรพระพายตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียเหมือนคนนอนไม่เต็มอิ่ม พาลให้รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ เธอยืนแปรงฟันอยู่หน้ากระจกพลางนึกถึงความฝันเมื่อคืน เจ้านายหนุ่มกำลังลูบไล้ สัมผัสร่างกายของเธออย่างถ้วนทั่ว แม้แต่ตรงนั้น... ใบหน้าของเธอเห่อแดงด้วยความเขินอายที่ตนเองฝันถึงแทนไทแบบนั้น"เขามีลูกมีเมียแล้วจำไว้สิพรพระพาย" หญิงสาวบอกตนเองผ่านกระจก พอแปรงฟันเสร็จเธอก็ปลดปมผ้าเช็ดตัวออกเพื่อที่จะอาบน้ำ"เฮ้ย! รอยอะไรเนี่ย" พรพระพายร้องลั่นเมื่อเห็นร่างกายของตนเองผ่านกระจก ไม่ว่าจะเป็นไหล่ ลำคอ หน้าอก ไล่ลงมาถึงหน้าท้อง และต้นขาทั้งสองข้าง ล้วนมีแต่รอยจ้ำแดงเต็มไปหมด หรือว่าเมื่อคืนจะไม่ใช่ความฝัน ถ้าไม่ใช่ความฝันแล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรกันที่เจ้านายหนุ่มจะมาทำแบบนั้นกับร่างกายของเธอ มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก เขาจะเข้ามาในห้องของเธอได้อย่างไรกัน คงจะแพ้อะไรสักอย่าง รอดูอาการไปก่อนถ้าไม่ดีขึ้นค่อยไปหาหมอ พรพระพายคิดเช่นนั้น แล้วรีบอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานในขณะที่กำลังเดินขึ้นตึกแทนไท คอร์ปอเรชั่น เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรที่เข้ามาอยู่ในห้วงแห่งความฝันของเธอเมื่อคืนก็ปรากฏตัวอยู่
"ผมว่าเฮียกับผมเตรียมตัวเป็นลูกที่ถูกลืมได้เลย ดูท่าแล้วป๊ากับม๊าจะเห่อลูกสาวคนใหม่" บอลพูดขึ้น เมื่อพ่อกับแม่เอาแต่คุยกับมะปรางอย่างถูกอกถูกใจ"มะปรางมาหาม๊าลูก ม๊าจะสอนให้มะปรางดูลายทอง" มะปรางเดินไปหาแม่ของบาสอย่างว่าง่าย พร้อมที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่พวกท่านพร่ำสอนด้วยความเต็มใจ"ป๊าถูกใจลูกสะใภ้คนนี้นะ พามาหาป๊ากับม๊าบ่อยๆ มาเรียนรู้งานร้านทอง ต่อไปร้านนี้ก็ต้องเป็นของบาส เพราะบาสเป็นคนสร้างมันขึ้นมา""ป๊าพูดแบบนี้เดี๋ยวบอลมันก็น้อยใจแย่""ไม่เลยเฮีย ผมไม่มีความรู้สึกนั้นเลย""บอลมันจะชอบน่ะสิ จะได้มีคนมาคอยดูแลแทน ทุกวันนี้ทำหน้าเหมือนโดนบังคับ อยากแต่จะไปเปิดร้านอะไหล่รถบิ๊กไบค์อะไรของมัน""พร้อมเมื่อไรก็บอกล่ะ เฮียจะลงทุนให้""ไม่ต้องเลยเฮีย แค่เปอร์เซ็นต์จากกำไรร้านทองก็พอแล้ว ตอนนี้ผมแค่รอให้เฮียกลับมาดูแลร้านทองนี่แหละ ผมจะได้โบยบินไปตามความฝันผมเสียที""คงต้องรอให้มะปรางเรียนจบก่อน""อีกตั้งสี่ปีไม่ใช่เหรอเฮีย ผมแก่พอดี""ก็ให้มะปรางมาเรียนรู้กับม๊า หลังเลิกเรียนถ้าว่างก็มาร้าน ทำให้เคยชิน เพราะยังไงอนาคตก็ต้องดูแลกิจการกันเอง ป๊าจะได้พาม๊าเที่ยวรอบโลกเสียที ถ้ารอให้แก่กว่านี
"พรุ่งนี้ไปหาป๊ากับม๊าเฮียนะ ไปนอนค้างสักคืน" บาสเอ่ยบอกเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากพึ่งอาบน้ำเสร็จ"มันไม่เร็วไปเหรอคะ" มะปรางกำลังนอนเล่นเกมอยู่บนเตียง เธอรีบวางสมาร์ตโฟนลงบนเตียงแล้วลุกขึ้นมานั่งที่ปลายเตียง แสดงความกังวลออกมาให้เห็น"เฮียไม่เห็นรู้สึกเลยว่ามันเร็ว เราคบกันมาเกือบปีแล้วนะ""แล้วป๊ากับม๊าเฮียจะชอบปรางไหม ปรางไม่มีอะไรเลย แล้วพวกท่านจะคิดว่าปรางเป็นเด็กใจแตกหรือเปล่าที่ปรางมาอยู่กับเฮียแบบนี้ ปรางว่ารอให้ปรางเรียนจบก่อนดีไหม ปราง...." มะปรางคิดไปต่างๆ นานาด้วยความกลัวว่าพ่อแม่สามีจะไม่ชอบเธอ"ปราง ปรางฟังเฮียนะ ป๊ากับม๊าเฮียรู้เรื่องของเราแล้ว เฮียเล่าเรื่องปรางให้พวกท่านฟังแล้ว แล้วพวกท่านก็เป็นคนให้เฮียพาปรางไปหาเอง" บาสประคองกรอบหน้าของมะปรางให้มองมาที่หน้าของเขา เอ่ยบอกเสียงหนักแน่น"ทำไมเฮียไม่บอกปรางก่อนว่าเฮียเล่าเรื่องปรางให้ป๊ากับม๊าของเฮียฟัง ปรางกลัวว่าพวกท่านจะไม่ชอบปราง""ทำไมเป็นคนคิดมากแบบนี้" บาสรั้งมะปรางเข้ามากอดพลางลูบศีรษะทุยอย่างอ่อนโยน"..........""อย่าคิดมาก ปรางก็เป็นปราง ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรทั้งนั้น อยู่กับเฮียเป็นยังไง อยู่ต่อหน้าป๊าม๊าก็
"อื้ม...เฮียโทรมามีอะไรหรือเปล่า...ซี๊ดดด" บาสกดรับทันทีที่เห็นเจ้าของสายที่โทรเข้ามาขัดจังหวะ ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะมีเรื่องด่วน"เชี้ยบาส! แล้วมึงจะรับทำเชี้ยอะไร" เสียงของเดย์ตะโกนกลับมาตามสาย จนบาสต้องยกสมาร์ตโฟนออกห่างหู"หูแทบแตก...อ๊า...แต่ตอนนี้เฮียจะแตกแล้ว...เสียวหัวมากเบบี๋...อื้มมม"บาสครางเสียงกระเส่าเมื่อมะปรางยังคงตั้งหน้าตั้งตาดูดดุนเน้นๆไปที่ปลายหัวหยัก สลับไล้เลียไปตามเส้นสองสลึงตั้งแต่โครนจรดปลาย"อื้อ..." เสียงเล็กครางประท้วงเมื่อบาสอัดกระแทกเอวส่งแก่นกายใหญ่เข้าปากรัวเร็วเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน"โอ้ววว...ซี๊ดดด...เฮียจะแตกแล้ว...เบบี๋...อ๊า...อ๊าสสสสส"บาสเกร็งกระตุกไปทุกส่วนเมื่อปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นเข้าปากมะปรางหมดทุกหยาดหยด เขาทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาหายใจหอบเหนื่อย ก่อนจะผงกหัวมองมะปรางที่นั่งอยู่หว่างขา ที่กำลังใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำรักที่ไหลออกมาบางส่วน"มันยังแข็งอยู่เลย" มะปรางจ้องมองไปที่แก่นกายใหญ่พลางใช้นิ้วจิ้มไปมา มันก็เด้งสู้มือของเธอ"โอ้ววว...มะปราง...ซี๊ดดด...อ๊า" บาสร้องครางลั่นเมื่อมะปรางขึ้นมานั่งทับแล้วจับท่อนเอ็นใหญ่ดันเข้าไปในช่องทางรัก"อื้อออ...ของเฮ
"ตื่นได้แล้ว ไม่ไปโรงเรียนหรือไง" บาสใช้ปลายจมูกโด่งคลอเคลียไปตามกรอบหน้าของมะปราง"อื้ออออ กี่โมงแล้วคะ" มะปรางหลับตาถามพลางซุกหน้าเข้าหาอกแกร่ง"เจ็ดโมงแล้ว""ขอนอนอีกครึ่งชั่วโมงได้ไหม""ก็ได้ งั้นเฮียไปอาบน้ำก่อน" บาสบอกพลางจะลุกจากเตียง แต่มะปรางก็ตวัดแขนโอบกอดเขาไว้"ไม่เอา ปรางอยากนอนกอดเฮีย""อย่าอ้อนเยอะ แค่นี้ก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว" พูดจบบาสก็ก้มลงไปหอมแก้มป่องหนักๆ"ปรางอยากให้เฮียหลงปรางเยอะๆ เฮียจะได้ไม่ทิ้งปราง""คิดมากนะเรา เฮียไม่มีทางทิ้งมะปรางหรอก เฮียต่างหากที่ต้องเป็นคนกลัว""กลัวอะไรคะ""กลัวว่าถ้าสักวันมะปรางเจอคนที่ถูกใจ ที่อายุไล่เลี่ยกัน มะปรางก็จะเปลี่ยนใจไปจากเฮีย""ว่าแต่ปรางคิดมาก เฮียคิดมากยิ่งกว่าปรางอีก เฮียเป็นคนให้ชีวิตใหม่กับปราง ปรางก็จะตอบแทนเฮียด้วยความรักทั้งหมดของปราง เฮียเคยฟังเพลงนี้ไหม...อายุเป็นเพียง แค่สายลมผ่านพัดไป เธออย่าคิดมากได้ไหมความรักเป็นเรื่องของหัวใจ ไม่ใช่เรื่องใดไม่ต้องคิดอะไร อายุเป็นเพียง แค่สายลมผ่านพัดไป" (#เพลงเด็กกว่าแล้วไง AB Normal)"สงสัยวันนี้มะปรางคงไม่ได้ไปโรงเรียนแล้วล่ะ ส่วนเฮียก็คงต้องโทรไปลางาน""ทำไมล่ะคะ""เห
บาสดูดเลียน้ำหวานที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากดอกไม้งาม แล้วสอดนิ้วแกร่งเข้าไปให้ลึกกว่าเดิม แล้วรีบชักนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น มือหนาเลื่อนขึ้นไปบีบขยำนวดคลึงเต้าใหญ่พลางใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถัน"อ๊ายยยยยยยย"ร่างเล็กเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานสีใสออกมาอีกครั้ง นอนตาลอยตัวเบาหวิว หายใจหอบหนัก"ขอเฮียเข้าไปในตัวมะปรางนะครับ" บาสบอกหลังจากชักนิ้วออกจากร่องรักแล้วส่งเข้าปาก ดูดเลียน้ำหวานตามซอกนิ้ว แล้วแทรกกายเข้าไปอยู่กลางหว่างขา จับท่อนเอ็นร้อนถูไถขึ้นลงกับร่องรักที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานสีใส แล้วก้มลงไปประกบจูบริมฝีปากอิ่มพลางสอดลิ้นร้อนไปเกาะเกี่ยวลิ้นเล็ก มะปรางพยายามจูบตอบอย่างเงอะงะไม่เป็นประสาบาสค่อยๆ กดปลายหัวหยักสอดใส่เข้าไปในร่องรักทีละนิด พร้อมทั้งจูบปลุกเร่าให้เธอเคลิบเคล้มไปกับรสจูบแสนเร่าร้อนของเขา จนสามารถเข้าไปในตัวเธอได้ครึ่งลำ แต่ก็ต้องหยุดชะงักกับเยื่อบางๆ ที่ขวางทางรักบาสกอดจูบแลกลิ้น มือทั้งสองข้างบีบนวดขยำลูบไล้ไปทั่วเรือนร่าง ปลุกเร้าอารมณ์ให้ร่างเล็ก ก่อนจะถอดถอนแก่นกายใหญ่ออกมาเกือบสุดปลายหัวหยัก แล้วกดกระแทกเข้าไปใหม่ ให้ผ่านเยื่อพรหมจรรย์เข้าไปได้"อื้อออออออ" เสียงเล็
"ทำไมมันใหญ่จ้นล้นมือแบบนี้ นี่นมเด็กสิบแปดจริงไหมเนี่ย" บาสนวดคลึงสองเต้าใหญ่พลางพิจารณาขนาด ปากก็เอื้อนเอ่ยพึมพำ ตาก็จ้องไม่กะพริบ แล้วก็อดใจไม่ไหวรีบก้มลงเอาปากงาบงับยอดปทุมถันแล้วดูดแรงๆ"อื้ออออ ฮะ...เฮียอย่า" เสียงใสห้ามปนเสียงคราง พลางแหงนหน้ากัดริมฝีปากตัวเอง มือที่เคยทุบตีก็อ่อนแรงลงเอาดื้อๆ จนเปลี่ยนไปใช้เล็บจิกที่ไหล่แกร่งของเขาแทน บาสช้อนตามองใบหน้าจิ้มลิ้ม ที่ขณะนี้ช่างดูเซ็กซี่ยิ่งนักบาสดูดยอดปทุมถันสลับซ้ายขวา พลางลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง แล้วผละริมฝีปากจากเต้าใหญ่ จูบไล้ลงมาเรื่อยๆ ตามหน้าท้องแบนราบมาหยุดตรงกลางกายความเป็นสาว ก่อนจะยกเรียวขาข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าแล้วซุกหน้าเข้าหาดอกไม้งามเรียวลิ้นตวัดสัมผัสกลีบดอกไม้อันอวบอูม แล้วแยงลิ้นร้อนชอนไชไปตามรอยแยก"ฮะ...เฮีย...ยะ...หยุดเถอะ...ฮึก...ฮึก" บาสหยุดชะงักลงเมื่อหยดน้ำตาร่วงหล่นลงมาตรงหน้าผากเขาพอดี เขาจับขาเรียวลงจากบ่า แล้วหยัดกายลุกขึ้นยืน"ทำไม มะปรางรังเกียจสัมผัสจากเฮียหรือไง ถึงไม่ยอมให้เฮียทำ" บาสเอ่ยถามชิดพวงแก้มด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แล้วจูบซับน้ำตาให้เธอ"เปล่าค่ะ แต่ปรางกลัว กลัวว่าจะมองหน้าเฮียไม่ติดถ
"ทำไมห้องถึงมืดแบบนี้วะ...มะปราง!!...ทำไมถึงไม่เปิดไฟ...มะปราง!!...หายไปไหน" บาสเปิดประตูห้องเข้ามา แต่พบว่าห้องอยู่ในความมืดมิด เขาจึงเรียกขานหามะปราง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา"ทุ่มกว่าแล้ว หายไปไหน" บาสบ่นพึมพำกับตัวเอง เมื่อไม่พบมะปรางอยู่ในห้อง"หรือว่า..." เมื่อนึกได้ว่ามะปรางหายไปไหน เขาก็รีบหยิบหมวกกันน็อคกับกุญแจรถแล้วออกจากห้องไปทันที"เฮีย! เดี๋ยวสิเฮีย เฮีย!" มะปรางร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ บาสก็เข้ามายื้อยุดฉุดกระชากให้เธอเดินออกไปนอกร้าน ท่ามกลางสายตางุนงงของพนักงานคนอื่นๆ และลูกค้าที่กำลังนั่งรับประทานอาหาร"....." บาสลากมะปรางออกมายังหน้าร้าน เขามองเธอด้วยใบหน้าบึ้งตึงที่บ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจสุดๆ"เฮียลากปรางออกมาทำไม ปรางจะทำงาน" มะปรางสลัดแขนออกจากการเกาะกุม แต่บาสก็ยังคงจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย"ใครให้มาทำ" บาสถามด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ"ปรางก็ทำอยู่ทุกวัน""เมื่อวานเฮียบอกปรางว่าไง""บอก? บอกอะไร""เฮียจะเป็นคนดูแลมะปรางเอง""แล้ว?""เฮียจะเป็นคนดูแลมะปรางในทุกๆ เรื่อง คำว่าดูแลของเฮียคือ เฮียจะเป็นคนดูแลทั้งค่าเรียน ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เฮียจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด มะปรางไ
"ดึกแล้ว ค่อยจัดของพรุ่งนี้ก็ได้ มะปรางเข้าไปอาบน้ำก่อน จะได้นอนพัก พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า" บาสบอกเมื่อเข้ามายังห้องพักส่วนตัวของเขา"แล้วจะให้ปรางนอนที่ไหนเหรอคะ" มะปรางมองไปรอบๆ ห้องนอน เพราะเท่าที่สังเกตตั้งแต่ย่างกายเข้ามาในห้องพักของเขา ห้องนี้น่าจะมีแค่ห้องนอนเดียว"ก็บนเตียงในห้องนี้" บาสบอกพร้อมทั้งปรายตามองไปที่เตียง"แล้วพี่บาสจะนอนที่ไหน ให้ปรางไปนอนโซฟาข้างนอกก็ได้นะคะ""ก็นอนด้วยกันบนเตียงนี้แหละ เตียงออกจะกว้าง""เออ...ปรางนอนดิ้นมากๆ ปรางกลัวว่าจะทำให้เฮียนอนไม่หลับ""ไปอาบน้ำ แล้วมานอนบนเตียงนี้ เดี๋ยวนี้""แต่...""ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ไปอาบน้ำ เฮียง่วงแล้ว" พูดจบบาสก็เดินหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้มะปราง และหยิบของตัวเองแล้วเดินออกไปอาบน้ำยังห้องน้ำด้านนอกมะปรางที่อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้น เธอชะงักไปเล็กน้อยเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอบาสนั่งพิงหัวเตียงเล่น สมาร์ตโฟน เขาไม่ได้ใส่เสื้อ ใส่เพียงกางเกงนอนขายาว เผยให้เห็นรอยสักบนตัวของเขาอย่างชัดเจน"ปิดไฟ แล้วมานอนสิ""แล้วจะให้ปรางนอนตรงไหน""ตรงนี้" บาสบอกพลางตบเตียงตรงที่ว่างข้างๆ"เร็วสิ เฮียง่วงแล้
"ฉันเรียกค่าเลี้ยงดูยัยมะปรางหนึ่งล้านบาท นี่ยังถือว่าไม่คุ้มทะ...""ตกลงหนึ่งล้านบาท ต่อไปนี้ชีวิตมะปรางเป็นของผม พวกคุณห้ามมายุ่งกับชีวิตของมะปรางอีก""ได้สิ พวกฉันจะไม่มายุ่งกับมันอีก""พรุ่งนี้สิบโมงเช้ามารับเงินสดหนึ่งล้านบาทได้เลย""ตกลง พรุ่งนี้สิบโมงฉันจะมารับเงินที่นี่ แล้วอย่าคิดที่จะพายังมะปรางหนีล่ะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ...นี่ก็ยืนเมามึนไม่เลิก กลับบ้าน" แม่ของมะปรางพูดจบก็ลากผัวขี้เมากลับบ้านทันที"มะปราง" บาสเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา"ปรางขอตัว" มะปรางปัดมือของบาสออกจากตัว เดินอย่างคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง"มะปรางจะไปไหน เดี๋ยวเฮียไปส่ง" บาสถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อมะปรางเดินเหมือนคนไร้จุดหมาย"ปราง...ปรางอยากกลับห้อง ปรางปวดหัว วันนี้ปรางคงไปทำงานไม่ไหวแล้ว" พอตั้งสติได้ เธอก็หันหลังกลับเพื่อจะเดินเข้าหอพัก"เฮียไม่อยากให้ปรางอยู่คนเดียว""แต่ปรางอยากอยู่คนเดียว" พูดจบปรางก็เดินกลับเข้าไปในหอพักทันทีวันรุ่งขึ้น 10.00 น."ไหนล่ะเงิน" แม่ของมะปรางถามทันทีที่บาสกับมะปรางเดินมาถึงจุดที่นัดหมาย พวกเขามากันพร้อมหน้า พ่อ แม่ และปาร์ค"แล้วผมจะมั่นใจได้ยังไงว่าพวกคุณจะไม่กลับมายุ่งเก