เนยกระแทกแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะอย่างแรง เสียงดัง “ปัง!” ทำเอาแพรที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับสะดุ้ง ใบหน้าของเนยตึงเครียดและมีแววไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด จนทำให้คนรอบข้างเริ่มสนใจว่าใครทำให้เธอโกรธขนาดนี้
“เบาๆ หน่อยยัยเนย โต๊ะมันจะพังแล้ว!” แพรเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ ทำทีเป็นล้อเลียน แต่ดวงตายังคงเต็มไปด้วยความสงสัย
“ยุ่งอะไรด้วย!” เนยหันไปเอ็ดเพื่อนเสียงเขียว ทำเอาแพรถึงกับเงียบไปชั่วคราว
“อะไรล่ะเนี่ย คุณเนยที่รัก โดนใครกระตุกหนวดเสือมารึไง” แพรยังไม่วายแหย่ต่อ
“ก็อีตาบ้าเบียร์ ฝ่ายสารสนเทศนั่นยังไงล่ะ” เสียงของเนยแหลมสูงด้วยความโมโห ทำให้แพรถึงกับเลิกคิ้วสูง
“เบียร์? คนไหนเนี่ย?” แพรเริ่มงง
“ก็ใครซะอีก! ก็อีตาน้ำเมาที่ชอบแกล้งทำคอมพังนั่นแหละ! หมอนั่นหาว่าฉันทำคอมพัง ทั้งๆ ที่ฉันแค่ทำงานธรรมดา! หนอย...หาว่าฉันทำระบบคอมเสียอีก น่าอัดซะให้เข็ด” เนยบ่นพร้อมกับกัดฟันแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“อ๋อ...นายเบียร์ Outsource คนนั้นน่ะเหรอ” แพรถึงบางอ้อ ท่าทางของเนยที่โมโหสุดๆ กับเรื่องคอมพิวเตอร์มันไม่ใช่เรื่องใหม่หรอก แต่ทำให้แพรขำมากกว่า
“แหม...พี่เนยคะ ใครๆ ก็อยากให้พี่เบียร์มาดูแลคอมให้กันทั้งนั้นแหละ” เจี๊ยบที่เดินเข้ามาพอดีแอบแซวด้วยน้ำเสียงเคลิ้มฝัน เพราะเบียร์เป็นหนุ่มฮอตที่สาวๆ ในออฟฟิศต่างพากันกรี๊ด
“คนอื่นอาจจะใช่ แต่สำหรับฉัน...ไม่! ไม่มีวัน!” เนยย้ำเสียงแข็ง
“ว่าแต่ว่า ทำไมพักนี้พี่เบียร์ถึงต้องมาซ่อมคอมให้พี่เนยบ่อยๆ ล่ะคะ ปกติต้องเป็นพี่บีไม่ใช่เหรอ?” เจี๊ยบทำหน้าแปลกใจ
“เพราะบีเขายุ่งกับการทดสอบระบบใหม่ๆ น่ะสิ พี่เต้ยเลยส่งอีตาน้ำเมานั่นมาดูแลแทน ไม่รู้จะซ่อมคอมฯ หรือจะแกล้งฉันกันแน่!” เนยบ่นพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“เฮ้อ...เจี๊ยบขอเปลี่ยนตัวกับพี่เนยได้ไหมคะ อยากให้พี่เบียร์มาดูแลจัง” เจี๊ยบพูดพลางทำตาเคลิ้มฝัน
“ถ้างั้นก็ทำให้คอมฯ ของเธอพังสิ” เนยประชดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
ไม่ทันที่เจี๊ยบจะตอบอะไรต่อ หญิงสาวอีกคนก็เดินเข้ามาทักพวกเธอ
“เป็นอะไรเนี่ย บ่นเสียงดังเชียว” นุช เพื่อนจากแผนกบัญชีและการเงินทักด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องกวนใจนิดหน่อย” เนยยิ้มแหยๆ พลางพยายามปรับอารมณ์ตัวเอง
“ยัยนุช ไม่เจอกันนานเลยนะ” แพรหันไปทักพลางกอดคอเพื่อนเล่นอย่างสนิทสนม
“พอเลยแพร ทำแบบนี้เดี๋ยวคนเข้าใจผิดกันพอดี” นุชหัวเราะก่อนจะดันมือแพรออกไปอย่างเบาๆ
“มีเรื่องอะไรจะคุยกับเนยเหรอ?” เนยหันไปถามนุชด้วยความสงสัย นุชส่งสัญญาณให้เธอเดินตามไปยังมุมเงียบของห้องทำงาน
“มีเรื่องจะปรึกษาน่ะ...” นุชเริ่มพูดพร้อมกับกระซิบเสียงเบา
“เรื่องอะไรล่ะ ทำไมต้องทำลึกลับขนาดนี้” เนยหัวเราะเบาๆ แต่ก็ตั้งใจฟัง
“เรื่องนี้สำคัญนะ ฉันเจอรายการที่น่าสงสัยในบัญชีบริษัท ดูเหมือนว่ามันจะเกี่ยวกับการถ่ายโอนทรัพย์สินแบบผิดปกติ” นุชพูดเสียงเบา แต่น้ำเสียงของเธอแฝงด้วยความกังวล
“ถ่ายโอนทรัพย์สินผิดปกติ? หมายความว่ายังไง?” เนยทำหน้าฉงน
“ฉันพบว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินจากบัญชีของบริษัทฯ ไปเข้าบัญชีส่วนตัวของ...ผู้จัดการ!” นุชพยักเพยิดไปทางห้องของผู้จัดการแผนกการเงิน
“เฮ้ย! แบบนี้มันยักยอกทรัพย์ชัดๆ!” เนยอุทานออกมาเสียงดัง จนนุชรีบเอามือปิดปากเพื่อน
“เบาๆ สิ ใจเย็นหน่อย!” นุชกระซิบอย่างตื่นเต้น
“แล้วทำไมเธอไม่รายงานฝ่ายตรวจสอบล่ะ?” เนยถามด้วยความสงสัย
“ฉันกลัวน่ะสิ รายการพวกนี้มีมูลค่าเป็นร้อยล้าน! ถ้าฉันทำอะไรไม่ระวัง...อาจจะโดนอุ้มไปก็ได้” นุชพูดพลางตัวสั่นเล็กน้อย
“เธอก็มีหลักฐานนี่ เอาไปให้ฝ่ายตรวจสอบสิ พวกเขาจะได้จัดการให้” เนยปลอบใจเพื่อนสาว
“เธอแน่ใจเหรอว่าฉันจะปลอดภัย?” นุชถามอย่างไม่มั่นใจ
“แน่สิ ถ้ามีหลักฐาน ฝ่ายตรวจสอบเขาต้องรับฟังเธอแน่นอน เชื่อฉันสิ” เนยให้กำลังใจพร้อมพยักหน้าหนักแน่น
“โอเค ฉันจะลองดู” นุชถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นฉันจะไปหาคุณฐิติกาก่อนนะ” นุชพูดทิ้งท้ายก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไป
“อ้าว นุช ลืมแฟรชไดร์ฟไว้นี่” เนยบ่นเบาๆ พร้อมกับเก็บแฟลชไดร์ฟที่นุชฝากไว้ลงในลิ้นชัก
จังหวะนั้นพี่เหมยก็เข้ามาทัก
“เนย เธอนัดลูกค้าบ่ายสองไม่ใช่เหรอ?”
เนยรีบเหลือบมองนาฬิกาทันที
“อุ๊ย! ลืมไปเลย ต้องรีบไปแล้วล่ะค่ะ” เธอเก็บของอย่างรีบร้อน และกำลังจะวิ่งออกไป แต่ไม่ทันไรเธอก็เดินชนเข้ากับใครบางคน
“โอ๊ย!” เนยร้องเสียงหลง ก่อนจะเซไปด้านหลัง
“ซุ่มซ่ามเหมือนเดิมนะคุณ” เสียงทุ้มๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นก่อนที่มือหนาจะคว้าเอวบางของเธอไว้ไม่ให้ล้ม
“ปล่อยฉันนะ!” เนยสะบัดตัวออกจากมือของเบียร์ทันทีเมื่อเห็นว่าเขาเป็นคนช่วย
“ขอบคุณสักคำก็ไม่มีแฮะ” เบียร์พูดติดตลกพลางยักคิ้ว
“ขอบใจ!” เนยกระแทกเสียงใส่ ก่อนจะเบียดตัวผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว
“อย่าไปทำเครื่องคอมของลูกค้าเสียล่ะคุณ” เบียร์ตะโกนแซวตามหลัง ทำให้คนในออฟฟิศหันมามองกันเป็นตาเดียว
เนยได้แต่แอบกัดฟันหันไปแลบลิ้นใส่เบียร์อย่างข่มอารมณ์ ก่อนจะรีบเดินออกจากออฟฟิศไป
“เพื่อนคุณนี่ขำดีนะ” เบียร์หัวเราะเล็กๆ หันมาพูดกับแพรที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่
“คุณก็ชอบยั่วโมโหเขาอยู่เรื่อย” แพรส่ายหน้า
“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ” เบียร์พูดอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับผิวปากเบาๆ ขณะเดินกลับไป
เนยกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็น หลังจากวันที่เหนื่อยล้าเต็มไปด้วยปัญหาที่ทำงาน แต่ทันทีที่ก้าวลงจากรถ เธอก็เห็นฝูงคนจำนวนมากยืนมุงอยู่หน้าบ้านตรงข้าม สายตาของเธอหันไปยังบ้านหลังนั้นที่มีรั้วพังและหน้าต่างเปิดออก เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?” เนยถามหญิงวัยกลางคนที่ยืนมองด้วยท่าทางสนใจ“น่าจะขโมยขึ้นบ้านนะคะ เห็นว่าประตูเปิดทิ้งไว้แบบนี้” หญิงคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงคาดเดา ก่อนจะมีอีกเสียงหนึ่งเสริมขึ้นมา“แต่ของก็ไม่หาย ดูเหมือนจะเข้ามาขู่มากกว่านะคะ”เสียงชาวบ้านต่างพากันวิจารณ์สถานการณ์ ทำให้เนยรู้สึกอึดอัด เธอไม่อยากรับฟังอีกต่อไป จึงหันกลับเดินเข้าบ้านทันทีด้วยความรู้สึกหงุดหงิด“กลับมาแล้วเหรอ?” แม่ของเนยเอ่ยทัก ขณะที่เธอเดินเข้ามาในบ้าน“ค่ะ แม่ บ้านตรงข้ามเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” เนยถามแม้จะพอเดาเหตุการณ์ได้แล้วจากที่ได้ยินมา“ไม่ต้องไปสนใจเรื่องคนอื่นหรอกลูก ไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวดีกว่า” แม่ของเนยตอบอย่างเบาๆ ตัดบทเรื่องที่เนยสงสัยหลังจากที่เนยอาบน้ำเสร็จ เธอก็ลงไปนั่งทานข้าวร่วมกับพ่อและแม่ ขาดเพียงแต่เน น้องชายตัวดีของเธอที่ยังไม่กลับบ้าน ซึ่งเธอรู้ดีว่า เขาต้องไ
ที่ Night Owl เบียร์กับเนนั่งอยู่ในโซน VIP สายตาของทั้งสองคนเหลือบมองสาวๆ ที่กำลังสนุกอยู่กลางฟลอร์อย่างเพลินๆ เบียร์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบช้าๆ ในขณะที่เนนั่งพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ชายหนุ่มทั้งสองกำลังสนุกกับการพักผ่อน หลังจากทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์“เฮ้ พวกมึง” เสียงของคิง เจ้าของผับดังขึ้นเมื่อเขาเดินเข้ามาหาทั้งคู่“มีอะไรเหรอวะ?” เนหันไปถาม พร้อมยิ้มขำเล็กน้อย เพราะเห็นคิงเดินมาอย่างรีบๆ ไม่เหมือนปกติ“ไอ้นพเว้ย มันมาหาข้อตกลงเรื่องโปรแกรมเว้ย อยากให้พวกมึงช่วยเขียนโปรแกรมป้องกันไวรัสกับกันแฮกเกอร์ให้หน่อย” คิงอธิบายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ยังไงล่ะ?” เบียร์หรี่ตาอย่างสนใจทันที“เออ มันฝากบอกว่ามีปัญหากับระบบที่บริษัทน่ะ พวกมึงสนใจคุยธุรกิจกับมันหน่อยไหม?” คิงยักคิ้วอย่างเป็นนัย ขณะที่เบียร์กับเนสบตากันแล้วพยักหน้าเห็นพ้อง“ก็ดีนะ ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว" เนพูดพร้อมลุกขึ้นจากโซฟา เขายังรู้สึกเข็ดกับการโดนซ้อมจากพี่สาวอยู่ ช่วงนี้จึงพยายามทำตัวให้เรียบร้อย“งั้นไปคุยกันที่ห้องทำงานกูเลย จะได้เจอไอ้นพที่นั่น”คิงกล่าวพลางเดินนำทั้งสองคนไปยังห้องทำงานของเขา ที่ตั้งอยู่ด้านในสุดของโซน VIP
ทันทีที่พวกเบียร์เดินเข้ามาใน Eclipse Luxe Lounge บรรยากาศหรูหราและเสียงเพลงเร้าใจทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้น“ตามสบายนะครับ เดี๋ยวผมมา” คุณนพขอตัวไปบอกหุ้นส่วนของเขาก่อน โดยเขาสั่งลูกน้องคนสนิทให้คอยดูแลพวกเขาในช่วงที่เขาไม่อยู่ในขณะที่พวกเบียร์กำลังปรับตัวกับบรรยากาศในผับนั้น พลันสายตาคมเข้มของเบียร์ก็ปะทะกับร่างของหญิงสาวที่เขาจำได้ดี เนย—หญิงสาวคู่กรณีของเขา กำลังขยับร่างกายอย่างอิสระกลางฟลอร์เต้นรำ แสงไฟสีสลัวตัดกับชุดที่เซ็กซี่ของเธอทำให้เบียร์อดที่จะมองตามไม่ได้เขายืนจ้องเธออยู่นานพอสมควร รู้สึกได้ถึงความเย้ายวนและความมั่นใจในท่วงท่าของเธอ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกทั้งหงุดหงิดและดึงดูดในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้น เบียร์ตัดสินใจเดินตรงเข้าไปยังฟลอร์ทันที“เดี๋ยวมานะ”เบียร์บอกกับเนและคิง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังร่างของเนยที่ยังคงเต้นอยู่กลางฟลอร์ เขาเดินฝ่าฝูงชนไปจนถึงตัวเธอ เมื่อมาถึงใกล้ๆ เขาก็ยืนประกบอยู่ข้างๆ พร้อมกับยกยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ขณะที่เนยยังไม่รู้ตัวว่ามีคนมาประกบใกล้‘คืนนี้มันคงจะสนุกกว่าที่คิด’ เบียร์คิดในใจพลางขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้น“เจอกันอีกแล้วนะ”เบียร์กระซิบเบาๆ ที่ข้า
เมื่อมาถึงห้อง เนยปิดประตูทันที หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วน แต่ยิ่งดื่มก็ยิ่งรู้สึกไม่สงบ เธอพยายามทำใจให้เย็นลง“อ้าว ทำไมเรารีบกลับขึ้นมาล่ะ?” เคนถามอย่างแปลกใจ“ข้างล่างไม่สนุกแล้วค่ะ” เนยเริ่มโยกคอโยกไหล่ไปมายืดเส้นสาย“เดี๋ยวๆ ไอ้ท่าทางแบบนั้น จะไปฟาดใคร?” เคนถามอย่างรู้ทัน“หึ หนูฆ่าคนได้มั้ยเฮีย?”“ใจเย็น มานี่มา” เคนกวักมือ พร้อมกับตบที่นั่งข้างๆ เรียกให้เธอไปนั่ง หญิงสาวพ่นลมออกจมูกก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ“นี่ไอ้นพ เพื่อนและหุ้นส่วนคนสำคัญของเฮีย” เคนแนะนำชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเนยที่กำลังอารมณ์เดือดพล่าน หันไปมองคุณนพด้วยสายตาเย็นชา แต่ยังคงรักษามารยาทไว้ เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามปรับอารมณ์ให้สงบก่อนจะยกมือไหว้ทักทายตามมารยาท“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงของเธอออกมานิ่งๆ“สวัสดีครับ คุณเนย” คุณนพตอบรับพร้อมรอยยิ้มสุภาพ ท่าทางดูสุขุม แต่สายตายังคงสังเกตการเคลื่อนไหวทุกอย่างของเธออย่างไม่ละสายตา“เคนเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังบ่อยๆ ครับ ได้ยินว่าคุณเป็นคนที่ฝีมือไม่ธรรมดา”เนยหันไปเหล่เคนเล็กน้อยอย่างไม่พอใจที่เฮียดันไปเล่าเรื่องของเธอให้คนอื่นฟัง ก่อ
เบียร์นั่งลงที่เก้าอี้ด้วยท่าทีมั่นใจ เขายกแฟ้มเอกสารและโน้ตบุ๊กออกมาวางบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะเปิดจอสไลด์ให้เคนดู“เอาล่ะครับคุณเคน โปรแกรมที่ทีมของเราจะเขียนให้ จะเป็นระบบป้องกันไวรัสและป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ โปรแกรมนี้ไม่ใช่แค่การป้องกันทั่วไปนะครับ แต่เราจะสร้าง 'Firewall อัจฉริยะ' ที่สามารถเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการโจมตีใหม่ๆ ได้ในแบบเรียลไทม์”เบียร์พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ สายตาเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพ ขณะที่เขาคลิกเปลี่ยนสไลด์ เนยที่นั่งฟังอยู่ก็อดทึ่งไม่ได้ แม้ว่าเธอจะพยายามไม่แสดงออก“ระบบนี้จะทำการตรวจจับพฤติกรรมการเข้าถึงข้อมูลที่ผิดปกติ หรือการที่มีคนพยายามแฮกข้อมูลจากภายนอก โดยเราจะใช้ 'Machine Learning' หรือการเรียนรู้ของโปรแกรมในการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรูปแบบป้องกันที่ทันสมัยอยู่ตลอด ซึ่งจะแตกต่างจากโปรแกรมทั่วไปที่มักใช้การป้องกันแบบเดิมซ้ำๆ และต้องอัพเดตบ่อยๆ” เบียร์อธิบายอย่างละเอียด พลางกดให้ดูแผนภาพโครงสร้างของโปรแกรมที่จะแทรกเข้ากับระบบของผับและธุรกิจที่เคนดูแลเคนพยักหน้าอย่างตั้งใจฟัง เบียร์เลื่อนสไลด์ต่อไปเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่โปรแกรมจะทำได้
เนยเดินเข้าห้องน้ำและพยายามสงบสติอารมณ์ พลางพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลังจากยืนมองตัวเองในกระจกอยู่ครู่หนึ่ง เธอตัดสินใจว่าจะกลับบ้านทันทีที่เธอเดินออกจากห้องน้ำ จู่ๆ ก็มีมือใหญ่คว้าตัวเธอและดึงเข้าไปในซอกมืดข้างห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เนยตกใจมาก หัวใจเต้นรัว แต่ด้วยสัญชาตญาณ เธอเตรียมพร้อมจะป้องกันตัวและต่อสู้ทันทีที่ได้โอกาส“นี่นาย!!”เนยร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นเบียร์ที่รวบข้อมือของเธอไว้ทั้งสองข้าง แล้วดันเธอจนแผ่นหลังแนบชิดติดกับผนัง เบียร์ยิ้มมุมปากด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“อยู่ออฟฟิศไม่เห็นยั่วขนาดนี้” เขากระซิบเสียงทุ้มข้างหู ร่างสูงใหญ่ของเขาอยู่ใกล้จนลมหายใจของเขาระอุร้อนปะทะแก้มเธอเนยพยายามดิ้นรน แต่เขาใช้แรงทั้งหมดรวบข้อมือเธอขึ้นเหนือหัว พร้อมกับใช้ลำตัวของเขาดันร่างของเธอให้ติดผนัง ไม่ให้เธอขยับหนีไปไหนได้“ปล่อย!” เนยกัดฟันกรอด สถานการณ์ตอนนี้มันล่อแหลมจนเธอไม่สบายใจ“ทำหน้าบึ้งแบบนี้ ไม่สวยเลยนะ” เบียร์พูดเสียงเบา ยิ้มมุมปากอย่างยั่วเย้า ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอไม่วางตา แววตาของเนยสั่นระริกด้วยความโกรธที่พุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ“หรือว่า…จูบแรก?” เบียร์เหยียดยิ้มกว้างขึ้น เมื่อเห็นสีหน้
ในเช้าวันถัดมา ที่ทำงานของเนยเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ทุกคนกำลังเตรียมตัวสรุปยอดขายประจำเดือน เนยนั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังตั้งใจพิมพ์สรุปรายงานยอดขายบัตรเครดิตอย่างเคร่งเครียด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันขณะตรวจสอบตัวเลขอย่างละเอียด จนกระทั่งเสียงของแพรดังขึ้นจากด้านหลัง“เนยๆ มีข่าวมาบอก!” แพรพูดเสียงใส พลางเดินเข้ามาหาเนยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเนยเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์“อะไรเหรอ?”“ทางบริษัทเขาจะพาพนักงานไป Outing นอกสถานที่! ที่เขาใหญ่ 4 วัน 3 คืน ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เลย” แพรบอกอย่างตื่นเต้น“อ้อ...เหรอ น่าสนใจ” เนยพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉยๆ แต่สีหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความสนใจไม่น้อย“ฉันว่าดีนะ ไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไม่ต้องนั่งทำงานเคร่งเครียดแบบนี้” แพรยังคงพูดต่อเนยหรี่ตามองแพร “ขับรถไปเองได้ไหมอะ? ฉันไม่ค่อยชอบนั่งรถบัส”แพรส่ายหน้าเบาๆ“น่าจะไม่ได้ เพราะสถานที่พักเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่เขาใหญ่ เขาไม่ให้รถส่วนตัวจอดน่ะ ยังไงก็ต้องไปรถบัสของบริษัทน่ะแหละ”เนยถอนหายใจเล็กน้อย “โอเค ก็ต้องทนไปละกัน”“เอาน่า คิดในแง่ดีบ้าง อย่างน้อยก็ได้ไปเที่ยว ไม่ต้องนั่งทำงานจนหัวหมุนแบบนี้” แพรยิ้มหวาน ก
หลังเลิกงาน เนยกลับถึงบ้านพร้อมความเหนื่อยล้าจากวันทำงานที่แสนยาวนาน พอเปิดประตูเข้ามา เธอก็พบว่าเน น้องชายตัวดีของเธอกลับมาบ้านแล้ว นั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น“ประหลาดนะเนี่ยที่นายกลับบ้านไว” เนยเอ่ยขึ้นพร้อมถอดรองเท้า พลางเดินเข้ามานั่งข้างๆเนหันมายิ้มเล็กน้อย “วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ ออกไปสวีทกันน่ะ”เนยหัวเราะเบาๆ “อ้าวเหรอ งั้นสั่งอะไรมากินดี พิซซ่ามั้ย?”“อะไรก็ได้อะ ฉันไม่เรื่องมาก” เนตอบกลับแบบไม่ใส่ใจมากนัก สายตายังจดจ่ออยู่กับเกมในมือเนยหยิบมือถือขึ้นมา เปิดแอพสั่งอาหาร เลือกสั่งพิซซ่าหน้าโปรด ขอบชีสเยิ้มๆ พร้อมกับสปาเก็ตตี้คาโบนารา และไก่ทอดกรอบๆ ที่เป็นเมนูประจำเวลาเธอกับเนกินข้าวด้วยกันไม่นานนัก เมื่อไรเดอร์มาส่งอาหาร เนก็ลุกขึ้นไปจัดการใส่จานเรียบร้อยบนโต๊ะอาหาร รอพี่สาวที่ขึ้นไปอาบน้ำเสร็จลงมาทานข้าวด้วยกันเนยเดินลงบันไดมาก็เห็นโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอันเย้ายวนของพิซซ่าและสปาเก็ตตี้ที่เนจัดแจงไว้เรียบร้อย“นี่พี่ ไอ้เบียร์ทำงานบริษัทพี่ เป็นไงมั่ง?” อยู่ๆ เนก็ถามขึ้นขณะนั่งกินข้าวเนยหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ก็...ปกติดี ถามทำไม?”เนแอบมองหน้าพี่สาวเล็