หลังจากแพรกดปุ่มสำหรับจับคู่บัดดี้เสร็จ เนยก็ก้าวเข้าไปเป็นคนต่อไป“อ้าว พี่เต้ย” เนยทัก“ว่าไง ยัยเนย” พี่เต้ยตอบพลางยิ้มมุมปาก“ทำไมอยู่ๆ ต้องมาสุ่มจับคู่ล่ะคะ?” สาวสวยเอียงคอถามด้วยความสงสัย ขณะเซ็นชื่อในกระดาษลงทะเบียน“นโยบายเบื้องบนสั่งมาน่ะ ต้องการให้พนักงานทุกคนได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น” พี่เต้ยตอบพลางพยักหน้าให้เธอเนยถอนหายใจยาว “เฮ้อ...แล้วหนูต้องทำยังไงคะ?”“ไม่ยากเลย” พี่เต้ยพูดพลางชี้ไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์“แค่เนยบอกชื่อจริงของตัวเองที่ไมค์นี่ แล้วกดปุ่มเขียวตรงนี้ ชื่อบัดดี้ที่สุ่มก็จะถูกปริ้นออกมาให้ทันที”“แหม อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ หนุ่มๆ ที่รอลุ้นให้ได้คู่กับเนยคงใจสั่นหมดแล้วล่ะ” พี่เต้ยหยอกล้อเบาๆเนยกลอกตาอย่างเอือมๆ“หวังว่าหนูจะไม่โชคร้ายเกินไปนะคะ”“เอาเลยจ้ะ” พี่เต้ยพยักหน้าให้เนยสูดลมหายใจลึก ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ไมโครโฟน “อมลวัทน์” จากนั้นเธอก็กดปุ่มสีเขียวเครื่องคอมพิวเตอร์คำนวณอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ชื่อบัดดี้จะถูกปริ้นออกมา กระดาษเล็กๆ หลุดออกจากเครื่องพร้อมกับชื่อ “มนสิช”“พี่เต้ย ‘มนสิช’ ใครกันคะ? หนูรู้จักไหม?” เนยเอ่ยถามพลางมองกระดาษในมือด้วยความสงสัยพี่
พี่โจหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะพูดถึงกิจกรรมในวันสุดท้าย “ส่วนในวันที่ 3 จะมี 5 ฐานเหมือนกันครับ เริ่มจาก ‘สไลเดอร์โฟม’ เป็นการสไลด์ผ่านโฟมและอุปสรรคต่างๆ ไปให้ถึงเส้นชัยเร็วที่สุด”“ถัดมา ‘คีบลูกโป่ง’ ใช้ไม้คีบลูกโป่งไปใส่ตะกร้า โดยห้ามใช้มือ คู่ไหนคีบได้เร็วและเยอะที่สุดก็รับคะแนนไป”“ฐานต่อไปคือ ‘ปีนกำแพงบัดดี้’ ช่วยกันปีนกำแพงสูง ใครปีนได้ถึงยอดก่อนก็ชนะ”“ส่วนฐานที่ 4 ‘หยิบลูกบอลจากบ่อน้ำ’ ช่วยกันโยนและรับลูกบอลจากบ่อน้ำให้แม่นยำ”“และปิดท้ายด้วย ‘ลากบัดดี้’ ต้องลากบัดดี้นั่งบนพรมหรือสเก็ตบอร์ดไปถึงเส้นชัยให้เร็วที่สุด”“ใครได้คะแนนเยอะที่สุดใน 3 วัน ก็จะได้รับของรางวัลสุดพิเศษนั่นก็คือ ‘แพคเกจตั๋วเครื่องบินไปกลับมัลดีฟ 3 วัน 2 คืน จำนวน 2 ท่าน’ ค่ะ” พี่หญิงประกาศด้วยรอยยิ้มสดใสทันทีที่ได้ยินคำว่า มัลดีฟ เนยถึงกับตาโต เบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น เธอหันไปหาเบียร์ทันที“มัลดีฟ!!” เสียงเธอแฝงด้วยความกระตือรือร้นอย่างชัดเจน“หืม?” เบียร์หันมามองหน้าเธอด้วยความแปลกใจเนยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงจัง "ไหนๆ เราก็ต้องอยู่ทีมเดียวกันละ ฉันต้องการรางวัลชนะเลิศ เพราะฉะนั้นหวังว่านายคงไม่ถ่
ในวันแรก คู่บัดดี้ของพนักงานทุกคนต่างกระตือรือร้นที่จะเข้าฐานกิจกรรม เบียร์และเนยยืนเคียงข้างกันที่ฐานแรกพร้อมกับคู่บัดดี้อื่นๆ ฐานกิจกรรมวันแรกมีทั้งหมด 5 ฐาน แต่ละฐานต้องใช้ทั้งความแข็งแรงและทักษะการทำงานร่วมกันฐานที่ 1: หอคอยมนุษย์เนยและเบียร์ต้องช่วยกันสร้างหอคอยมนุษย์จากร่างกายของทั้งคู่ เนยมองเบียร์ขึ้นลงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจว่า“คุณอยู่ข้างล่างละกัน เดี๋ยวฉันอยู่ข้างบนเอง” เบียร์อึ้งเพราะคำพูดของเธอชวนคิดไปไกล ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์“คุณชอบอยู่ข้างบนเหรอ? แต่ผมชอบให้เราอยู่เท่ากันมากกว่านะ” เขาพูดด้วยสายตายั่วเย้าเนยหรี่ตามองอย่างรู้ทัน “นี่นาย... คิดเรื่องลามกอยู่ล่ะสิ”“ก็คุณพูดเอง” เบียร์ยักไหล่ ขำในทีเนยถอนหายใจเบาๆ “ตลกละ รีบทำเถอะ”“โอเคๆ” เบียร์หัวเราะ พร้อมเริ่มสร้างหอคอยจากร่างกายของเขาเบียร์คุกเข่าลง กางแขนออกเพื่อรับน้ำหนักเนย เมื่อเธอก้าวขึ้นไปยืนบนตัวเขา เขารู้สึกถึงความเบาของเธอ แต่ก็ต้องคอยทรงตัวให้มั่นคง เนยเองก็ต้องระวังไม่ให้เสียหลัก เมื่อทั้งคู่ประสานงานกันได้ดี ในที่สุดหอคอยมนุษย์ก็สำเร็จ เสียงเชียร์จากเพื่อนร่วมงานดังก้อง ทำให้ทั้งคู่ยิ้มออกมาอย่
ในช่วงค่ำ ศูนย์ฝึกอบรมได้จัดงานเลี้ยงอาหารมื้อค่ำเป็นแบบค็อกเทลที่ดูหรูหราและอลังการ ภายในงานตกแต่งด้วยแสงไฟอ่อนๆ สร้างบรรยากาศสุดผ่อนคลายให้พนักงานได้พักผ่อนจากกิจกรรมประจำวันอาหารในงานเลี้ยงเป็นนานาชาติ มีทั้ง คานาเป้หลากชนิด, แซลมอนรมควัน, กุ้งพันเบคอนอบ, บรูเชตต้า*, สลัดคีนัว, พาสต้าเพสโต้เส้นสด, ซูชิ, เทมปุระ, มินิสเต็กซอสพริกไทยดำ และของหวานอย่าง ทาร์ตผลไม้รวมและมูสช็อกโกแลต ส่วนเครื่องดื่มก็มีตั้งแต่ไวน์ เบียร์ และน้ำผลไม้สำหรับผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เนยและแพรแต่งตัวลงมาในชุดที่ดูดีเข้ากับบรรยากาศค็อกเทล เนยเลือกสวม เดรสผ้าเนื้อบางสีดำแบบคอกลมแขนกุด ความยาวของกระโปรงอยู่เหนือเข่าเล็กน้อย ดูทะมัดทะแมงและไม่โป๊ แต่ด้วยการเข้ารูปเน้นสัดส่วนที่พอดี ทำให้เธอดูเซ็กซี่แบบมีเสน่ห์ ด้านหลังเปิดเล็กน้อยเผยให้เห็นแผ่นหลังเนียน ผมของเธอถูกรวบขึ้นเล็กน้อย ดูเป็นธรรมชาติส่วนแพรสวม เสื้อเชิ้ตไหมพรมสีครีมแขนยาว คู่กับกางเกงสแลคเอวสูงสีดำเข้ารูป ซึ่งช่วยเสริมความคล่องตัวให้เธอดูเท่และมั่นใจ ผมสั้นประบ่าของเธอถูกจัดทรงอย่างมีสไตล์ ดูเป็นลุคที่สบายๆ แต่ยังคงดูดีในบรรยากาศงานค็อกเทล“พี่เนย พี่แพร
เช้าวันใหม่ของกิจกรรม Outing วันที่สอง เนยเดินมายังลานกิจกรรมด้วยความรู้สึกสับสน เธอพยายามข่มความรู้สึกที่ยังค้างคาในใจจากเหตุการณ์เมื่อคืน จูบอันอ่อนหวานที่เบียร์มอบให้โดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้เธอทั้งโกรธและสับสน ราวกับลมหายใจของเขายังอ้อยอิ่งอยู่บนริมฝีปากของเธอ‘เลิกคิดถึงมันได้แล้ว ตั้งสติหน่อยสิ!’เนยพยายามสะบัดความคิดเหล่านั้นออกจากหัว ก่อนจะเหลือบมองชายหนุ่มที่ยืนข้างๆ ซึ่งยังคงส่งยิ้มกวนๆ มาให้ ราวกับเรื่องเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“วันนี้ต้องชนะนะ” เนยพูดขึ้นเสียงเข้ม พยายามปกปิดความรู้สึกวุ่นวายภายในใจเบียร์หันมามอง สายตาแฝงความเจ้าเล่ห์ “ไม่ต้องห่วง ฉันรักษาคำพูด”เนยพยายามปั้นหน้าให้เรียบเฉย แม้หัวใจจะเต้นแรงเมื่อเห็นรอยยิ้มยั่วเย้าของเขา“อย่าถ่วงฉันละกัน” เธอสวนกลับเสียงแข็ง พยายามไม่ให้อารมณ์หวั่นไหว“ชนะแน่นอน เชื่อดิ” เบียร์ตอบกลับด้วยท่าทีสบายๆ แต่แววตาที่มองมานั้นเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ จนทำให้เนยอดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ แต่เธอก็พยายามเพิกเฉย เพราะตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำคะแนนให้ได้มากที่สุดในกิจกรรมวันนี้เธอยืดเส้นยืดสาย เตรียมพร้อมจะลุยกิจกรรมต่อไป โดยไม่อยากให้อะไ
เมื่อพนักงานทั้งหมดเสร็จจากการเข้าฐานกิจกรรมของวัน ก็เดินกลับมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าศูนย์ฝึกอบรม พี่โจยืนอยู่ด้านหน้า พร้อมกับประกาศกิจกรรมพิเศษสำหรับค่ำคืนนี้“คืนนี้เราจะมีกิจกรรม Night Treasure Hunt หรือการล่าสมบัติในป่าช่วงกลางคืน ทุกคนจะได้รับไฟฉาย และทำงานร่วมกับบัดดี้ของตัวเองในการค้นหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ ในป่า มีทั้งปริศนาและเบาะแสให้แก้ไข เรียกได้ว่าท้าทายและสนุกสุดๆ ครับ! โดยเราจะนัดรวมตัวกันที่ลานกว้างนี้อีกครั้งในเวลา 20:00 น. เตรียมตัวให้พร้อมนะครับ!”เนยหันไปมองแพรที่ดูตื่นเต้นกับกิจกรรมที่น่าสนุกนี้ แต่ก่อนจะได้เดินกลับเข้าห้อง พวกเธอก็สังเกตเห็นพนักงานของศูนย์ฝึกอบรมหลายคนกำลังรวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าฟร้อนต์ ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น“เจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งมาว่า พบหมีควายเพ่นพ่านแถวศูนย์ฝึกอบรมค่ะ” เสียงของพนักงานคนหนึ่งดังขึ้น“มีการยืนยันแล้วหรือยัง?” หัวหน้าฟร้อนต์ถามด้วยน้ำเสียงกังวล“ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดค่ะ แต่มีโอกาสที่จะเป็นเรื่องจริง” พนักงานตอบกลับหัวหน้าฟร้อนต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงเข้ม“ถ้าอย่างนั้นคงต้องรอให้เจ้าหน้าที่จัด
“เอาล่ะครับทุกคน ขอให้ทุกคู่บัดดี้มารวมตัวกันที่นี่เพื่อฟังกติกาของกิจกรรม Night Treasure Hunt หรือการล่าสมบัติในป่า” พี่โจพูดด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด ดึงความสนใจของทุกคน“กิจกรรมนี้จะท้าทายพวกคุณด้วยการค้นหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ ในป่าช่วงกลางคืน โดยที่แต่ละคู่จะได้รับแผนที่และเบาะแสเริ่มต้น ทุกจุดเช็คพอยท์จะมีภารกิจให้ทำ และเมื่อทำสำเร็จ คุณจะได้รับชิ้นส่วนของสมบัติไปเก็บสะสม ใครที่รวบรวมได้ครบก่อนจะถือว่าเป็นผู้ชนะ”พี่โจยิ้มกว้างก่อนจะเสริมว่า “คุณจะมีเวลา 2 ชั่วโมงในการหาสมบัติ ใช้ไฟฉายและทำงานร่วมกับบัดดี้ให้ดีที่สุดนะครับ จำไว้ว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำงานเป็นทีม!”“โอเค ถ้าเข้าใจแล้ว ขอให้ทุกคู่เตรียมตัวให้พร้อม แล้วเจอกันที่จุดเริ่มต้นใน 10 นาที!”เนยและเบียร์เดินมารับแผนที่และเบาะแสเริ่มต้นจากเจ้าหน้าที่ พวกเขาได้รับแผนที่ที่พิมพ์บนกระดาษหนาพร้อมกับไฟฉายขนาดกลางที่ดูแข็งแรงพอจะทนทานต่อการใช้งานในป่าตอนกลางคืน“จุดแรกอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้แถวโขดหินใหญ่ในป่า” เบียร์อ่านเบาะแสด้วยน้ำเสียงตั้งใจ ขณะที่เนยก้มลงดูแผนที่ในมือ“ต้องเดินผ่านป่าไปก่อนสินะ” เนยพูดเบาๆ สายตาจับจ้อ
เมื่อมาถึงต้นไม้ที่มีหอคอย เนยเงยหน้ามองขึ้นไป สำรวจความแข็งแรงของโครงสร้างไม้และบันไดลิงที่ห้อยลงมาจากด้านบน“นายว่า มันรับน้ำหนักเราสองคนไหวมะ?” เนยถาม ขณะที่ยังพิจารณาอยู่เบียร์มองตามขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็ว ก่อนหันมาถามอย่างงงๆ“ทำไมเราต้องขึ้นไปบนนั้นล่ะ?”เนยหันไปมองเขาด้วยสายตาจริงจัง“ฉันได้กลิ่นหมีควาย แถมตอนเย็นยังได้ยินพนักงานคุยกันว่ามีหมีควายหลุดมาเพ่นพ่านแถวนี้ “เธอเล่าพลางกวาดตามองรอบๆ พร้อมกับหาทางขึ้นไปบนหอคอย จนเธอเห็นบันไดลิงแขวนอยู่เหนือศีรษะเบียร์เห็นดังนั้นก็เข้ามาช่วยดึงบันไดลิงลงมา“แล้วไงต่อ?”“กลับศูนย์ไม่ทันแน่ กลิ่นมันใกล้มาก” เนยพูดพลางรีบจับบันไดลิงเตรียมขึ้นไป“เราขึ้นไปรอบนนั้นแล้วส่งโลเคชั่นให้พวกแพรจะดีกว่า” เธอตอบเสียงขึงขัง ก่อนที่เบียร์จะถามซ้ำเบียร์ยืนอึ้งและทึ่งไปพร้อมกันเมื่อเห็นเนยตัดสินใจอย่างรวดเร็วในสถานการณ์ที่น่าตื่นตระหนกเช่นนี้ ไม่แสดงอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขายิ้มเล็กน้อย รู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ธรรมดาจริงๆหลังจากที่เบียร์ดึงบันไดลิงลงมา ทั้งสองคนก็ปีนขึ้นไปบนหอคอยที่มีขนาดพอให้คนสองคนอยู่ได้ เบียร์ขึ้นไปก่อน แล้วส่งมือดึงเนยข