เนยกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็น หลังจากวันที่เหนื่อยล้าเต็มไปด้วยปัญหาที่ทำงาน แต่ทันทีที่ก้าวลงจากรถ เธอก็เห็นฝูงคนจำนวนมากยืนมุงอยู่หน้าบ้านตรงข้าม สายตาของเธอหันไปยังบ้านหลังนั้นที่มีรั้วพังและหน้าต่างเปิดออก เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?” เนยถามหญิงวัยกลางคนที่ยืนมองด้วยท่าทางสนใจ
“น่าจะขโมยขึ้นบ้านนะคะ เห็นว่าประตูเปิดทิ้งไว้แบบนี้” หญิงคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงคาดเดา ก่อนจะมีอีกเสียงหนึ่งเสริมขึ้นมา
“แต่ของก็ไม่หาย ดูเหมือนจะเข้ามาขู่มากกว่านะคะ”
เสียงชาวบ้านต่างพากันวิจารณ์สถานการณ์ ทำให้เนยรู้สึกอึดอัด เธอไม่อยากรับฟังอีกต่อไป จึงหันกลับเดินเข้าบ้านทันทีด้วยความรู้สึกหงุดหงิด
“กลับมาแล้วเหรอ?” แม่ของเนยเอ่ยทัก ขณะที่เธอเดินเข้ามาในบ้าน
“ค่ะ แม่ บ้านตรงข้ามเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” เนยถามแม้จะพอเดาเหตุการณ์ได้แล้วจากที่ได้ยินมา
“ไม่ต้องไปสนใจเรื่องคนอื่นหรอกลูก ไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวดีกว่า” แม่ของเนยตอบอย่างเบาๆ ตัดบทเรื่องที่เนยสงสัย
หลังจากที่เนยอาบน้ำเสร็จ เธอก็ลงไปนั่งทานข้าวร่วมกับพ่อและแม่ ขาดเพียงแต่เน น้องชายตัวดีของเธอที่ยังไม่กลับบ้าน ซึ่งเธอรู้ดีว่า เขาต้องไปนั่งเฝ้าที่ผับของเพื่อน พร้อมกับทำงานไปด้วย
เมื่อกินข้าวเสร็จ เนยก็กลับขึ้นห้อง ขณะที่เธอเตรียมเครื่องคอมทำงาน แต่ความหงุดหงิดในใจทำให้เธอเปลี่ยนใจ
หญิงสาวเปลี่ยนจากชุดลำลองสบายๆ เป็นสวมเสื้อซีทรูสีดำบางเบา ที่เผยให้เห็นผิวเนียนขาวและเสื้อครอปเอวลอยด้านในที่ยิ่งขับให้หน้าท้องเรียบแบนของเธอดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
ปลายเสื้อซีทรูผูกเป็นปมเล็กๆ ตรงเอว ทำให้ช่วงเอวของเธอดูเซ็กซี่อย่างลงตัว กางเกงยีนส์เอวสูงสีเข้มเข้ารูป รัดกระชับไปตามเรียวขาเนียนสวย เสริมให้ลุคนี้ดูทั้งทะมัดทะแมงและเย้ายวน รองเท้าบูทส้นสูงสีดำที่ตัดกับผิวขาวนวล ช่วยเพิ่มความดุดันและความมั่นใจให้กับลุคของเธอ
“แม่คะ หนูไปหาเฮียเคนนะคะ” เนยบอกแม่ขณะที่กำลังเก็บจาน
“มีงานเหรอ?” แม่เธอเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
“เปล่าค่ะ หนูแค่เบื่อๆ จะไปหาอะไรดื่มน่ะค่ะ” เนยตอบพร้อมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหยิบกุญแจรถและโทรศัพท์ขึ้นมา
“ระวังตัวด้วยนะ” แม่เธอบอกตามหลัง
เนยตัดสินใจขับรถตรงไปที่ อีคลิปส์ ลักซ์ เลานจ์ (Eclipse Luxe Lounge) ผับหรูที่เคน พี่ชายคนสนิทของเธอเป็นเจ้าของ บรรยากาศที่นั่นให้ความรู้สึกสบายและหรูหราในแบบที่เธอสามารถปลดปล่อยความเครียดได้ดี
เนยเดินเข้ามาภายในผับ และตรงไปยังโซน VIP ที่เธอรู้จักดี บรรยากาศหรูหราของผับช่วยให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเล็กน้อยหลังจากวันที่เต็มไปด้วยความเครียด
ห้อง VIP เบอร์ 9 ตั้งอยู่ในมุมที่เป็นส่วนตัวที่สุดในผับ ตกแต่งด้วยโซฟาหนังสีดำและโต๊ะหินอ่อนที่สะท้อนแสงไฟสีอุ่นได้อย่างลงตัว
เนยนั่งลงบนโซฟา แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอป Chatzy เธอเอนหลังพิงพนักโซฟา แล้วเริ่มต้นพิมพ์ข้อความสนทนากับบี คนที่เธอคุยกันเป็นประจำ
"หืม... ยังไม่ออนไลน์อีกแฮะ" เนยพึมพำเบาๆ ในใจ ก่อนจะเริ่มพิมพ์ข้อความในกล่องแชทเล่นๆ ระหว่างรอให้บีออนไลน์เข้ามา
ในขณะที่เธอกำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ เสียงเปิดประตูดังขึ้นอย่างแผ่วเบา เนยเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ก็เห็นว่าเป็นเคน พี่ชายคนสนิทของเธอ พร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองคนที่เดินตามเข้ามา
คนหนึ่งชื่อ “เอ็กซ์” ส่วนอีกคนคือ “โทนี่” ทั้งสามเดินเข้ามาอย่างมั่นใจและดูเหมือนจะประหลาดใจเมื่อเห็นเนยนั่งอยู่คนเดียว
“ไง... หนีมานั่งเล่นคนเดียวเหรอเรา?” เคนเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ขณะก้าวเข้ามานั่งตรงข้ามกับเธอ
“เฮีย... หนูแค่มาหาอะไรดื่มน่ะ” เนยตอบพร้อมยิ้มบางๆ แต่ไม่ได้ละสายตาจากโทรศัพท์ในมือ
เอ็กซ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ เคนเอนตัวพิงผนัง ยกคิ้วขึ้นพลางมองเธออย่างสนใจ
“นั่นอะไรน่ะ แชทเหรอ? โบราณชะมัด ยังเล่น Chatzy อยู่อีกเหรอเนี่ย?”
เนยหันมามองเอ็กซ์แว้บหนึ่ง
“แล้วจะทำไม? แอพนี้มันดีจะตายไป ไม่ต้องเห็นหน้าคนที่คุยด้วย มันก็ตื่นเต้นดีนะ”
โทนี่หัวเราะออกมาด้วยความขำ
“แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าคนที่เธอคุยด้วยเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ?”
เนยไหวไหล่ “ก็แล้วแต่ดวงไง ถ้าโชคดี ก็คุยถูกคน”
เธอพูดอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะกลับไปจดจ่อกับการรอคอยในแอพของเธอ
เคนหัวเราะเบาๆ พลางยกแก้วเครื่องดื่มที่บาร์เทนเดอร์เพิ่งนำเข้ามาเสิร์ฟขึ้นมาจิบ
“แชทกับใครอยู่ล่ะ คราวนี้? อย่าเป็นพวกแปลกๆ ล่ะ”
เนยยิ้มขำ “ก็คนที่คุยด้วยทุกวันไง แต่วันนี้เขายังไม่เข้ามาเลย คงกำลังยุ่งแหละ”
เคนสบตากับเอ็กซ์และโทนี่ ทั้งสามหนุ่มหัวเราะเบาๆ ด้วยความขบขัน ก่อนที่เอ็กซ์จะเอ่ยขึ้นมา
“หรืออาจจะเป็นแค่พี่ชายแสนดีอย่างที่บอกไว้ในแชทก็ได้”
เนยหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า
“ใครจะไปรู้เนอะ แต่ยังไงคืนนี้ขอหนูพักบ้างดีกว่า คิดว่าวันนี้คงไม่มีอะไรแล้ว”
ที่ Night Owl เบียร์กับเนนั่งอยู่ในโซน VIP สายตาของทั้งสองคนเหลือบมองสาวๆ ที่กำลังสนุกอยู่กลางฟลอร์อย่างเพลินๆ เบียร์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบช้าๆ ในขณะที่เนนั่งพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ชายหนุ่มทั้งสองกำลังสนุกกับการพักผ่อน หลังจากทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์“เฮ้ พวกมึง” เสียงของคิง เจ้าของผับดังขึ้นเมื่อเขาเดินเข้ามาหาทั้งคู่“มีอะไรเหรอวะ?” เนหันไปถาม พร้อมยิ้มขำเล็กน้อย เพราะเห็นคิงเดินมาอย่างรีบๆ ไม่เหมือนปกติ“ไอ้นพเว้ย มันมาหาข้อตกลงเรื่องโปรแกรมเว้ย อยากให้พวกมึงช่วยเขียนโปรแกรมป้องกันไวรัสกับกันแฮกเกอร์ให้หน่อย” คิงอธิบายอย่างรวดเร็ว“อ้าว ยังไงล่ะ?” เบียร์หรี่ตาอย่างสนใจทันที“เออ มันฝากบอกว่ามีปัญหากับระบบที่บริษัทน่ะ พวกมึงสนใจคุยธุรกิจกับมันหน่อยไหม?” คิงยักคิ้วอย่างเป็นนัย ขณะที่เบียร์กับเนสบตากันแล้วพยักหน้าเห็นพ้อง“ก็ดีนะ ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว" เนพูดพร้อมลุกขึ้นจากโซฟา เขายังรู้สึกเข็ดกับการโดนซ้อมจากพี่สาวอยู่ ช่วงนี้จึงพยายามทำตัวให้เรียบร้อย“งั้นไปคุยกันที่ห้องทำงานกูเลย จะได้เจอไอ้นพที่นั่น”คิงกล่าวพลางเดินนำทั้งสองคนไปยังห้องทำงานของเขา ที่ตั้งอยู่ด้านในสุดของโซน VIP
ทันทีที่พวกเบียร์เดินเข้ามาใน Eclipse Luxe Lounge บรรยากาศหรูหราและเสียงเพลงเร้าใจทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้น“ตามสบายนะครับ เดี๋ยวผมมา” คุณนพขอตัวไปบอกหุ้นส่วนของเขาก่อน โดยเขาสั่งลูกน้องคนสนิทให้คอยดูแลพวกเขาในช่วงที่เขาไม่อยู่ในขณะที่พวกเบียร์กำลังปรับตัวกับบรรยากาศในผับนั้น พลันสายตาคมเข้มของเบียร์ก็ปะทะกับร่างของหญิงสาวที่เขาจำได้ดี เนย—หญิงสาวคู่กรณีของเขา กำลังขยับร่างกายอย่างอิสระกลางฟลอร์เต้นรำ แสงไฟสีสลัวตัดกับชุดที่เซ็กซี่ของเธอทำให้เบียร์อดที่จะมองตามไม่ได้เขายืนจ้องเธออยู่นานพอสมควร รู้สึกได้ถึงความเย้ายวนและความมั่นใจในท่วงท่าของเธอ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกทั้งหงุดหงิดและดึงดูดในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้น เบียร์ตัดสินใจเดินตรงเข้าไปยังฟลอร์ทันที“เดี๋ยวมานะ”เบียร์บอกกับเนและคิง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังร่างของเนยที่ยังคงเต้นอยู่กลางฟลอร์ เขาเดินฝ่าฝูงชนไปจนถึงตัวเธอ เมื่อมาถึงใกล้ๆ เขาก็ยืนประกบอยู่ข้างๆ พร้อมกับยกยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ขณะที่เนยยังไม่รู้ตัวว่ามีคนมาประกบใกล้‘คืนนี้มันคงจะสนุกกว่าที่คิด’ เบียร์คิดในใจพลางขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้น“เจอกันอีกแล้วนะ”เบียร์กระซิบเบาๆ ที่ข้า
เมื่อมาถึงห้อง เนยปิดประตูทันที หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วน แต่ยิ่งดื่มก็ยิ่งรู้สึกไม่สงบ เธอพยายามทำใจให้เย็นลง“อ้าว ทำไมเรารีบกลับขึ้นมาล่ะ?” เคนถามอย่างแปลกใจ“ข้างล่างไม่สนุกแล้วค่ะ” เนยเริ่มโยกคอโยกไหล่ไปมายืดเส้นสาย“เดี๋ยวๆ ไอ้ท่าทางแบบนั้น จะไปฟาดใคร?” เคนถามอย่างรู้ทัน“หึ หนูฆ่าคนได้มั้ยเฮีย?”“ใจเย็น มานี่มา” เคนกวักมือ พร้อมกับตบที่นั่งข้างๆ เรียกให้เธอไปนั่ง หญิงสาวพ่นลมออกจมูกก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ“นี่ไอ้นพ เพื่อนและหุ้นส่วนคนสำคัญของเฮีย” เคนแนะนำชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเนยที่กำลังอารมณ์เดือดพล่าน หันไปมองคุณนพด้วยสายตาเย็นชา แต่ยังคงรักษามารยาทไว้ เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามปรับอารมณ์ให้สงบก่อนจะยกมือไหว้ทักทายตามมารยาท“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงของเธอออกมานิ่งๆ“สวัสดีครับ คุณเนย” คุณนพตอบรับพร้อมรอยยิ้มสุภาพ ท่าทางดูสุขุม แต่สายตายังคงสังเกตการเคลื่อนไหวทุกอย่างของเธออย่างไม่ละสายตา“เคนเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังบ่อยๆ ครับ ได้ยินว่าคุณเป็นคนที่ฝีมือไม่ธรรมดา”เนยหันไปเหล่เคนเล็กน้อยอย่างไม่พอใจที่เฮียดันไปเล่าเรื่องของเธอให้คนอื่นฟัง ก่อ
เบียร์นั่งลงที่เก้าอี้ด้วยท่าทีมั่นใจ เขายกแฟ้มเอกสารและโน้ตบุ๊กออกมาวางบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะเปิดจอสไลด์ให้เคนดู“เอาล่ะครับคุณเคน โปรแกรมที่ทีมของเราจะเขียนให้ จะเป็นระบบป้องกันไวรัสและป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ โปรแกรมนี้ไม่ใช่แค่การป้องกันทั่วไปนะครับ แต่เราจะสร้าง 'Firewall อัจฉริยะ' ที่สามารถเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการโจมตีใหม่ๆ ได้ในแบบเรียลไทม์”เบียร์พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ สายตาเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพ ขณะที่เขาคลิกเปลี่ยนสไลด์ เนยที่นั่งฟังอยู่ก็อดทึ่งไม่ได้ แม้ว่าเธอจะพยายามไม่แสดงออก“ระบบนี้จะทำการตรวจจับพฤติกรรมการเข้าถึงข้อมูลที่ผิดปกติ หรือการที่มีคนพยายามแฮกข้อมูลจากภายนอก โดยเราจะใช้ 'Machine Learning' หรือการเรียนรู้ของโปรแกรมในการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรูปแบบป้องกันที่ทันสมัยอยู่ตลอด ซึ่งจะแตกต่างจากโปรแกรมทั่วไปที่มักใช้การป้องกันแบบเดิมซ้ำๆ และต้องอัพเดตบ่อยๆ” เบียร์อธิบายอย่างละเอียด พลางกดให้ดูแผนภาพโครงสร้างของโปรแกรมที่จะแทรกเข้ากับระบบของผับและธุรกิจที่เคนดูแลเคนพยักหน้าอย่างตั้งใจฟัง เบียร์เลื่อนสไลด์ต่อไปเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่โปรแกรมจะทำได้
เนยเดินเข้าห้องน้ำและพยายามสงบสติอารมณ์ พลางพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลังจากยืนมองตัวเองในกระจกอยู่ครู่หนึ่ง เธอตัดสินใจว่าจะกลับบ้านทันทีที่เธอเดินออกจากห้องน้ำ จู่ๆ ก็มีมือใหญ่คว้าตัวเธอและดึงเข้าไปในซอกมืดข้างห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เนยตกใจมาก หัวใจเต้นรัว แต่ด้วยสัญชาตญาณ เธอเตรียมพร้อมจะป้องกันตัวและต่อสู้ทันทีที่ได้โอกาส“นี่นาย!!”เนยร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นเบียร์ที่รวบข้อมือของเธอไว้ทั้งสองข้าง แล้วดันเธอจนแผ่นหลังแนบชิดติดกับผนัง เบียร์ยิ้มมุมปากด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“อยู่ออฟฟิศไม่เห็นยั่วขนาดนี้” เขากระซิบเสียงทุ้มข้างหู ร่างสูงใหญ่ของเขาอยู่ใกล้จนลมหายใจของเขาระอุร้อนปะทะแก้มเธอเนยพยายามดิ้นรน แต่เขาใช้แรงทั้งหมดรวบข้อมือเธอขึ้นเหนือหัว พร้อมกับใช้ลำตัวของเขาดันร่างของเธอให้ติดผนัง ไม่ให้เธอขยับหนีไปไหนได้“ปล่อย!” เนยกัดฟันกรอด สถานการณ์ตอนนี้มันล่อแหลมจนเธอไม่สบายใจ“ทำหน้าบึ้งแบบนี้ ไม่สวยเลยนะ” เบียร์พูดเสียงเบา ยิ้มมุมปากอย่างยั่วเย้า ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอไม่วางตา แววตาของเนยสั่นระริกด้วยความโกรธที่พุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ“หรือว่า…จูบแรก?” เบียร์เหยียดยิ้มกว้างขึ้น เมื่อเห็นสีหน้
ในเช้าวันถัดมา ที่ทำงานของเนยเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ทุกคนกำลังเตรียมตัวสรุปยอดขายประจำเดือน เนยนั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังตั้งใจพิมพ์สรุปรายงานยอดขายบัตรเครดิตอย่างเคร่งเครียด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันขณะตรวจสอบตัวเลขอย่างละเอียด จนกระทั่งเสียงของแพรดังขึ้นจากด้านหลัง“เนยๆ มีข่าวมาบอก!” แพรพูดเสียงใส พลางเดินเข้ามาหาเนยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเนยเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์“อะไรเหรอ?”“ทางบริษัทเขาจะพาพนักงานไป Outing นอกสถานที่! ที่เขาใหญ่ 4 วัน 3 คืน ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เลย” แพรบอกอย่างตื่นเต้น“อ้อ...เหรอ น่าสนใจ” เนยพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉยๆ แต่สีหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความสนใจไม่น้อย“ฉันว่าดีนะ ไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไม่ต้องนั่งทำงานเคร่งเครียดแบบนี้” แพรยังคงพูดต่อเนยหรี่ตามองแพร “ขับรถไปเองได้ไหมอะ? ฉันไม่ค่อยชอบนั่งรถบัส”แพรส่ายหน้าเบาๆ“น่าจะไม่ได้ เพราะสถานที่พักเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่เขาใหญ่ เขาไม่ให้รถส่วนตัวจอดน่ะ ยังไงก็ต้องไปรถบัสของบริษัทน่ะแหละ”เนยถอนหายใจเล็กน้อย “โอเค ก็ต้องทนไปละกัน”“เอาน่า คิดในแง่ดีบ้าง อย่างน้อยก็ได้ไปเที่ยว ไม่ต้องนั่งทำงานจนหัวหมุนแบบนี้” แพรยิ้มหวาน ก
หลังเลิกงาน เนยกลับถึงบ้านพร้อมความเหนื่อยล้าจากวันทำงานที่แสนยาวนาน พอเปิดประตูเข้ามา เธอก็พบว่าเน น้องชายตัวดีของเธอกลับมาบ้านแล้ว นั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น“ประหลาดนะเนี่ยที่นายกลับบ้านไว” เนยเอ่ยขึ้นพร้อมถอดรองเท้า พลางเดินเข้ามานั่งข้างๆเนหันมายิ้มเล็กน้อย “วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ ออกไปสวีทกันน่ะ”เนยหัวเราะเบาๆ “อ้าวเหรอ งั้นสั่งอะไรมากินดี พิซซ่ามั้ย?”“อะไรก็ได้อะ ฉันไม่เรื่องมาก” เนตอบกลับแบบไม่ใส่ใจมากนัก สายตายังจดจ่ออยู่กับเกมในมือเนยหยิบมือถือขึ้นมา เปิดแอพสั่งอาหาร เลือกสั่งพิซซ่าหน้าโปรด ขอบชีสเยิ้มๆ พร้อมกับสปาเก็ตตี้คาโบนารา และไก่ทอดกรอบๆ ที่เป็นเมนูประจำเวลาเธอกับเนกินข้าวด้วยกันไม่นานนัก เมื่อไรเดอร์มาส่งอาหาร เนก็ลุกขึ้นไปจัดการใส่จานเรียบร้อยบนโต๊ะอาหาร รอพี่สาวที่ขึ้นไปอาบน้ำเสร็จลงมาทานข้าวด้วยกันเนยเดินลงบันไดมาก็เห็นโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอันเย้ายวนของพิซซ่าและสปาเก็ตตี้ที่เนจัดแจงไว้เรียบร้อย“นี่พี่ ไอ้เบียร์ทำงานบริษัทพี่ เป็นไงมั่ง?” อยู่ๆ เนก็ถามขึ้นขณะนั่งกินข้าวเนยหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ก็...ปกติดี ถามทำไม?”เนแอบมองหน้าพี่สาวเล็
หลังจากแพรกดปุ่มสำหรับจับคู่บัดดี้เสร็จ เนยก็ก้าวเข้าไปเป็นคนต่อไป“อ้าว พี่เต้ย” เนยทัก“ว่าไง ยัยเนย” พี่เต้ยตอบพลางยิ้มมุมปาก“ทำไมอยู่ๆ ต้องมาสุ่มจับคู่ล่ะคะ?” สาวสวยเอียงคอถามด้วยความสงสัย ขณะเซ็นชื่อในกระดาษลงทะเบียน“นโยบายเบื้องบนสั่งมาน่ะ ต้องการให้พนักงานทุกคนได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น” พี่เต้ยตอบพลางพยักหน้าให้เธอเนยถอนหายใจยาว “เฮ้อ...แล้วหนูต้องทำยังไงคะ?”“ไม่ยากเลย” พี่เต้ยพูดพลางชี้ไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์“แค่เนยบอกชื่อจริงของตัวเองที่ไมค์นี่ แล้วกดปุ่มเขียวตรงนี้ ชื่อบัดดี้ที่สุ่มก็จะถูกปริ้นออกมาให้ทันที”“แหม อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ หนุ่มๆ ที่รอลุ้นให้ได้คู่กับเนยคงใจสั่นหมดแล้วล่ะ” พี่เต้ยหยอกล้อเบาๆเนยกลอกตาอย่างเอือมๆ“หวังว่าหนูจะไม่โชคร้ายเกินไปนะคะ”“เอาเลยจ้ะ” พี่เต้ยพยักหน้าให้เนยสูดลมหายใจลึก ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ไมโครโฟน “อมลวัทน์” จากนั้นเธอก็กดปุ่มสีเขียวเครื่องคอมพิวเตอร์คำนวณอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ชื่อบัดดี้จะถูกปริ้นออกมา กระดาษเล็กๆ หลุดออกจากเครื่องพร้อมกับชื่อ “มนสิช”“พี่เต้ย ‘มนสิช’ ใครกันคะ? หนูรู้จักไหม?” เนยเอ่ยถามพลางมองกระดาษในมือด้วยความสงสัยพี่