ที่ Night Owl เบียร์กับเนนั่งอยู่ในโซน VIP สายตาของทั้งสองคนเหลือบมองสาวๆ ที่กำลังสนุกอยู่กลางฟลอร์อย่างเพลินๆ เบียร์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบช้าๆ ในขณะที่เนนั่งพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ชายหนุ่มทั้งสองกำลังสนุกกับการพักผ่อน หลังจากทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์
“เฮ้ พวกมึง” เสียงของคิง เจ้าของผับดังขึ้นเมื่อเขาเดินเข้ามาหาทั้งคู่
“มีอะไรเหรอวะ?” เนหันไปถาม พร้อมยิ้มขำเล็กน้อย เพราะเห็นคิงเดินมาอย่างรีบๆ ไม่เหมือนปกติ
“ไอ้นพเว้ย มันมาหาข้อตกลงเรื่องโปรแกรมเว้ย อยากให้พวกมึงช่วยเขียนโปรแกรมป้องกันไวรัสกับกันแฮกเกอร์ให้หน่อย” คิงอธิบายอย่างรวดเร็ว
“อ้าว ยังไงล่ะ?” เบียร์หรี่ตาอย่างสนใจทันที
“เออ มันฝากบอกว่ามีปัญหากับระบบที่บริษัทน่ะ พวกมึงสนใจคุยธุรกิจกับมันหน่อยไหม?” คิงยักคิ้วอย่างเป็นนัย ขณะที่เบียร์กับเนสบตากันแล้วพยักหน้าเห็นพ้อง
“ก็ดีนะ ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว" เนพูดพร้อมลุกขึ้นจากโซฟา เขายังรู้สึกเข็ดกับการโดนซ้อมจากพี่สาวอยู่ ช่วงนี้จึงพยายามทำตัวให้เรียบร้อย
“งั้นไปคุยกันที่ห้องทำงานกูเลย จะได้เจอไอ้นพที่นั่น”
คิงกล่าวพลางเดินนำทั้งสองคนไปยังห้องทำงานของเขา ที่ตั้งอยู่ด้านในสุดของโซน VIP
เมื่อเดินเข้าไปในห้องทำงานที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เบียร์กับเนนั่งลงบนเก้าอี้หนังตัวนุ่ม ส่วนคิงเดินไปเตรียมเครื่องดื่มเสิร์ฟให้ทุกคน ขณะที่คุณนพ ชายหนุ่มในชุดสูทเรียบๆ แต่ดูภูมิฐาน ก็กำลังนั่งรอพวกเขาอยู่แล้ว
“ดีครับ พี่นพ” เบียร์ยกมือทักทายตามมารยาท
“ขอบใจมากที่มาช่วยผมครับ งานนี้สำคัญจริงๆ ระบบมันโดนโจมตีหลายครั้งแล้ว ผมคิดว่าถ้าคุณสองคนจัดการป้องกันได้ มันจะไม่เกิดปัญหาอีก” นพกล่าวอย่างตรงประเด็น
“ไม่มีปัญหาครับพี่”
การเจรจาธุรกิจระหว่างทั้งสามคนดำเนินไปอย่างราบรื่น คิงจัดเหล้าเสิร์ฟพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ รู้ดีว่าดีลนี้จะทำให้เพื่อนๆ ของเขารวยขึ้นอีกไม่น้อย
เนยนั่งหน้ามุ่ยอยู่ในห้อง VIP หลังจากเพิ่งจบการแชทกับบี หญิงสาวหงุดหงิดใจที่เพิ่งรู้ว่าเขากำลังแอบชอบสาวข้างบ้าน ไม่ใช่แค่รู้ แต่ยังเผลอยุให้เขาไปสารภาพรักเสียด้วย แถมเขาก็ดันบอกว่าจะลองทำตามคำแนะนำของเธอเสียอีก
“บ้าเอ๊ย! ทำไมเราต้องไปยุให้เขาไปสารภาพรักด้วยนะ” เนยบ่นกับตัวเอง พลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอย่างหงุดหงิด เธอซดเหล้าอย่างรวดเร็ว แทบไม่พักหายใจ
“เฮ้ยๆ หนูค่อยๆ ดื่มสิ” เอ็กซ์เตือนอย่างเป็นห่วง สังเกตว่าเธอดื่มไปเยอะมากแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกเฮีย เดี๋ยวก็หมดแก้วอยู่ดี” เนยตอบหน้ามุ่ย มือก็ยกแก้วขึ้นซดอีกครั้ง ท่าทางเธอไม่มีทีท่าว่าจะหยุดดื่มง่ายๆ
“ปล่อยเถอะ ยัยนี่คอแข็งจะตาย” เคนที่นั่งข้างๆ กล่าวแซว พร้อมยักคิ้วให้เพื่อน รู้ดีว่าน้องสาวของเขาคอแข็งมากแค่ไหน
เพื่อนเคนได้แต่ส่ายหัว ขณะที่เนยยังคงดื่มต่อเนื่อง หญิงสาวพยายามไม่คิดถึงเรื่องบี แต่ยิ่งพยายามหลีกหนีเท่าไหร่ ภาพการสนทนาก็ยิ่งวนเวียนในหัวมากขึ้น
“หนูไม่เมาหรอกเฮีย” เนยพูดพร้อมยิ้มบาง แต่แววตายังแฝงความหงุดหงิดอยู่ เธอเอนตัวพิงพนักโซฟา มือก็ยกแก้วขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนคืนนี้เธอไม่อยากจะหยุดดื่มง่ายๆ
หลังจากการเจรจาธุรกิจจบลงอย่างราบรื่น คุณนพยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะพูดชวนเบียร์และเนต่ออย่างเป็นกันเอง
“เอาอย่างนี้สิ พวกคุณสนใจไปเที่ยวที่อีคลิปส์ไหม? ผับที่ผมเป็นหุ้นส่วนอยู่เอง รับรองบรรยากาศดี พวกคุณต้องชอบแน่”
เบียร์ที่นั่งฟังอยู่นิ่งๆ หันไปสบตากับเนอย่างรู้กัน ทั้งคู่เองก็เคยได้ยินชื่อผับหรูนี้มาบ้างอยู่แล้ว แถมยังอยากไปลองอยู่เหมือนกัน เบียร์จึงยิ้มบางๆ ก่อนตอบกลับ
“สนใจอยู่แล้วครับ ว่าแต่ไปเลยมั้ย?”
“ไปเลยดิ ถือว่าไปสังสรรค์ต่อหลังจากคุยธุรกิจเสร็จ” คุณนพตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“ดีเลย งั้นไปกันเถอะ” เนยิ้มกว้าง รู้สึกว่านี่น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการไปเที่ยวผับที่มีชื่อเสียง
คิงที่ยืนฟังอยู่มองเพื่อนๆ ยิ้มๆ แล้วหันไปบอกกับไนท์ เพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนอีกคน
“ไนท์ กูฝากดูแลที่นี่แทนด้วยหน่อยนะ กูจะออกไปกับพวกนี้”
ไนท์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาเป็นคนที่คอยดูแลผับบ่อยๆ อยู่แล้ว
“เออ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูจัดการเอง”
“งั้นไปกันเถอะ” คิงหันไปบอกกับเบียร์ เน และคุณนพ ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินออกจากผับ มุ่งหน้าไปยัง Eclipse Luxe Lounge ที่ดูจะเป็นจุดหมายใหม่ของค่ำคืนนี้
พวกเขาขึ้นรถและขับตรงไปยังเลานจ์หรูหราที่คุณนพเป็นหุ้นส่วน การเดินทางไม่ไกลนัก และทุกคนรู้สึกดีที่จะได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากผับประจำ
เนยที่นั่งจิบเหล้าไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกเบื่อ เธอมองไปรอบๆ ห้องที่เคนและเพื่อนของเขายังคงพูดคุยกันอยู่ เธออยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง จึงหันไปบอกเคนที่นั่งอยู่ไม่ไกล
“เฮีย เดี๋ยวหนูขอลงไปเต้นข้างล่างหน่อยนะ เบื่อแล้ว” เธอพูดเสร็จก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอึกสุดท้าย ก่อนจะวางแก้วลง และลุกขึ้นเตรียมจะออกจากห้อง
เคนที่กำลังคุยกับเพื่อนหันมามองแวบนึง
“ตามใจสิ เต้นน่ะได้ แต่อย่าไปฟาดใครล่ะ!” เขาตะโกนไล่หลังด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
เนยหันมายิ้มมุมปาก ก่อนจะยักไหล่และเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจคำเตือนของพี่ชาย
เมื่อมาถึงฟลอร์เต้นรำด้านล่าง เนยรู้สึกถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงจังหวะเร้าใจและแสงไฟที่สาดส่อง เธอขยับร่างกายเบาๆ ตามจังหวะเพลงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะค่อยๆ ก้าวลงไปสู่ฟลอร์เต้นรำ
ทุกสายตาในบริเวณนั้นจับจ้องมาที่เธอ ผู้หญิงในชุดเสื้อคลุมซีทรูที่เผยให้เห็นรูปร่างสุดเซ็กซี่ พร้อมกับกางเกงยีนส์เอวสูง และท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เธอเริ่มขยับร่างกายตามจังหวะเพลงอย่างอิสระ สร้างความสะดุดตาให้กับผู้คนในผับอย่างมาก
เนยไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ เธอแค่อยากสนุกและปลดปล่อยตัวเองจากความคิดมากมายในหัว ค่ำคืนนี้จะเป็นของเธอ ไม่ว่าจะมีใครมองหรือไม่ก็ตาม
ทันทีที่พวกเบียร์เดินเข้ามาใน Eclipse Luxe Lounge บรรยากาศหรูหราและเสียงเพลงเร้าใจทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้น“ตามสบายนะครับ เดี๋ยวผมมา” คุณนพขอตัวไปบอกหุ้นส่วนของเขาก่อน โดยเขาสั่งลูกน้องคนสนิทให้คอยดูแลพวกเขาในช่วงที่เขาไม่อยู่ในขณะที่พวกเบียร์กำลังปรับตัวกับบรรยากาศในผับนั้น พลันสายตาคมเข้มของเบียร์ก็ปะทะกับร่างของหญิงสาวที่เขาจำได้ดี เนย—หญิงสาวคู่กรณีของเขา กำลังขยับร่างกายอย่างอิสระกลางฟลอร์เต้นรำ แสงไฟสีสลัวตัดกับชุดที่เซ็กซี่ของเธอทำให้เบียร์อดที่จะมองตามไม่ได้เขายืนจ้องเธออยู่นานพอสมควร รู้สึกได้ถึงความเย้ายวนและความมั่นใจในท่วงท่าของเธอ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกทั้งหงุดหงิดและดึงดูดในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้น เบียร์ตัดสินใจเดินตรงเข้าไปยังฟลอร์ทันที“เดี๋ยวมานะ”เบียร์บอกกับเนและคิง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังร่างของเนยที่ยังคงเต้นอยู่กลางฟลอร์ เขาเดินฝ่าฝูงชนไปจนถึงตัวเธอ เมื่อมาถึงใกล้ๆ เขาก็ยืนประกบอยู่ข้างๆ พร้อมกับยกยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ขณะที่เนยยังไม่รู้ตัวว่ามีคนมาประกบใกล้‘คืนนี้มันคงจะสนุกกว่าที่คิด’ เบียร์คิดในใจพลางขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้น“เจอกันอีกแล้วนะ”เบียร์กระซิบเบาๆ ที่ข้า
เมื่อมาถึงห้อง เนยปิดประตูทันที หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วน แต่ยิ่งดื่มก็ยิ่งรู้สึกไม่สงบ เธอพยายามทำใจให้เย็นลง“อ้าว ทำไมเรารีบกลับขึ้นมาล่ะ?” เคนถามอย่างแปลกใจ“ข้างล่างไม่สนุกแล้วค่ะ” เนยเริ่มโยกคอโยกไหล่ไปมายืดเส้นสาย“เดี๋ยวๆ ไอ้ท่าทางแบบนั้น จะไปฟาดใคร?” เคนถามอย่างรู้ทัน“หึ หนูฆ่าคนได้มั้ยเฮีย?”“ใจเย็น มานี่มา” เคนกวักมือ พร้อมกับตบที่นั่งข้างๆ เรียกให้เธอไปนั่ง หญิงสาวพ่นลมออกจมูกก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ“นี่ไอ้นพ เพื่อนและหุ้นส่วนคนสำคัญของเฮีย” เคนแนะนำชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเนยที่กำลังอารมณ์เดือดพล่าน หันไปมองคุณนพด้วยสายตาเย็นชา แต่ยังคงรักษามารยาทไว้ เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามปรับอารมณ์ให้สงบก่อนจะยกมือไหว้ทักทายตามมารยาท“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงของเธอออกมานิ่งๆ“สวัสดีครับ คุณเนย” คุณนพตอบรับพร้อมรอยยิ้มสุภาพ ท่าทางดูสุขุม แต่สายตายังคงสังเกตการเคลื่อนไหวทุกอย่างของเธออย่างไม่ละสายตา“เคนเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังบ่อยๆ ครับ ได้ยินว่าคุณเป็นคนที่ฝีมือไม่ธรรมดา”เนยหันไปเหล่เคนเล็กน้อยอย่างไม่พอใจที่เฮียดันไปเล่าเรื่องของเธอให้คนอื่นฟัง ก่อ
เบียร์นั่งลงที่เก้าอี้ด้วยท่าทีมั่นใจ เขายกแฟ้มเอกสารและโน้ตบุ๊กออกมาวางบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะเปิดจอสไลด์ให้เคนดู“เอาล่ะครับคุณเคน โปรแกรมที่ทีมของเราจะเขียนให้ จะเป็นระบบป้องกันไวรัสและป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ โปรแกรมนี้ไม่ใช่แค่การป้องกันทั่วไปนะครับ แต่เราจะสร้าง 'Firewall อัจฉริยะ' ที่สามารถเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการโจมตีใหม่ๆ ได้ในแบบเรียลไทม์”เบียร์พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ สายตาเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพ ขณะที่เขาคลิกเปลี่ยนสไลด์ เนยที่นั่งฟังอยู่ก็อดทึ่งไม่ได้ แม้ว่าเธอจะพยายามไม่แสดงออก“ระบบนี้จะทำการตรวจจับพฤติกรรมการเข้าถึงข้อมูลที่ผิดปกติ หรือการที่มีคนพยายามแฮกข้อมูลจากภายนอก โดยเราจะใช้ 'Machine Learning' หรือการเรียนรู้ของโปรแกรมในการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรูปแบบป้องกันที่ทันสมัยอยู่ตลอด ซึ่งจะแตกต่างจากโปรแกรมทั่วไปที่มักใช้การป้องกันแบบเดิมซ้ำๆ และต้องอัพเดตบ่อยๆ” เบียร์อธิบายอย่างละเอียด พลางกดให้ดูแผนภาพโครงสร้างของโปรแกรมที่จะแทรกเข้ากับระบบของผับและธุรกิจที่เคนดูแลเคนพยักหน้าอย่างตั้งใจฟัง เบียร์เลื่อนสไลด์ต่อไปเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่โปรแกรมจะทำได้
เนยเดินเข้าห้องน้ำและพยายามสงบสติอารมณ์ พลางพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลังจากยืนมองตัวเองในกระจกอยู่ครู่หนึ่ง เธอตัดสินใจว่าจะกลับบ้านทันทีที่เธอเดินออกจากห้องน้ำ จู่ๆ ก็มีมือใหญ่คว้าตัวเธอและดึงเข้าไปในซอกมืดข้างห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เนยตกใจมาก หัวใจเต้นรัว แต่ด้วยสัญชาตญาณ เธอเตรียมพร้อมจะป้องกันตัวและต่อสู้ทันทีที่ได้โอกาส“นี่นาย!!”เนยร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นเบียร์ที่รวบข้อมือของเธอไว้ทั้งสองข้าง แล้วดันเธอจนแผ่นหลังแนบชิดติดกับผนัง เบียร์ยิ้มมุมปากด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“อยู่ออฟฟิศไม่เห็นยั่วขนาดนี้” เขากระซิบเสียงทุ้มข้างหู ร่างสูงใหญ่ของเขาอยู่ใกล้จนลมหายใจของเขาระอุร้อนปะทะแก้มเธอเนยพยายามดิ้นรน แต่เขาใช้แรงทั้งหมดรวบข้อมือเธอขึ้นเหนือหัว พร้อมกับใช้ลำตัวของเขาดันร่างของเธอให้ติดผนัง ไม่ให้เธอขยับหนีไปไหนได้“ปล่อย!” เนยกัดฟันกรอด สถานการณ์ตอนนี้มันล่อแหลมจนเธอไม่สบายใจ“ทำหน้าบึ้งแบบนี้ ไม่สวยเลยนะ” เบียร์พูดเสียงเบา ยิ้มมุมปากอย่างยั่วเย้า ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอไม่วางตา แววตาของเนยสั่นระริกด้วยความโกรธที่พุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ“หรือว่า…จูบแรก?” เบียร์เหยียดยิ้มกว้างขึ้น เมื่อเห็นสีหน้
ในเช้าวันถัดมา ที่ทำงานของเนยเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ทุกคนกำลังเตรียมตัวสรุปยอดขายประจำเดือน เนยนั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังตั้งใจพิมพ์สรุปรายงานยอดขายบัตรเครดิตอย่างเคร่งเครียด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันขณะตรวจสอบตัวเลขอย่างละเอียด จนกระทั่งเสียงของแพรดังขึ้นจากด้านหลัง“เนยๆ มีข่าวมาบอก!” แพรพูดเสียงใส พลางเดินเข้ามาหาเนยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเนยเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์“อะไรเหรอ?”“ทางบริษัทเขาจะพาพนักงานไป Outing นอกสถานที่! ที่เขาใหญ่ 4 วัน 3 คืน ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เลย” แพรบอกอย่างตื่นเต้น“อ้อ...เหรอ น่าสนใจ” เนยพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉยๆ แต่สีหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความสนใจไม่น้อย“ฉันว่าดีนะ ไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไม่ต้องนั่งทำงานเคร่งเครียดแบบนี้” แพรยังคงพูดต่อเนยหรี่ตามองแพร “ขับรถไปเองได้ไหมอะ? ฉันไม่ค่อยชอบนั่งรถบัส”แพรส่ายหน้าเบาๆ“น่าจะไม่ได้ เพราะสถานที่พักเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่เขาใหญ่ เขาไม่ให้รถส่วนตัวจอดน่ะ ยังไงก็ต้องไปรถบัสของบริษัทน่ะแหละ”เนยถอนหายใจเล็กน้อย “โอเค ก็ต้องทนไปละกัน”“เอาน่า คิดในแง่ดีบ้าง อย่างน้อยก็ได้ไปเที่ยว ไม่ต้องนั่งทำงานจนหัวหมุนแบบนี้” แพรยิ้มหวาน ก
หลังเลิกงาน เนยกลับถึงบ้านพร้อมความเหนื่อยล้าจากวันทำงานที่แสนยาวนาน พอเปิดประตูเข้ามา เธอก็พบว่าเน น้องชายตัวดีของเธอกลับมาบ้านแล้ว นั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น“ประหลาดนะเนี่ยที่นายกลับบ้านไว” เนยเอ่ยขึ้นพร้อมถอดรองเท้า พลางเดินเข้ามานั่งข้างๆเนหันมายิ้มเล็กน้อย “วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ ออกไปสวีทกันน่ะ”เนยหัวเราะเบาๆ “อ้าวเหรอ งั้นสั่งอะไรมากินดี พิซซ่ามั้ย?”“อะไรก็ได้อะ ฉันไม่เรื่องมาก” เนตอบกลับแบบไม่ใส่ใจมากนัก สายตายังจดจ่ออยู่กับเกมในมือเนยหยิบมือถือขึ้นมา เปิดแอพสั่งอาหาร เลือกสั่งพิซซ่าหน้าโปรด ขอบชีสเยิ้มๆ พร้อมกับสปาเก็ตตี้คาโบนารา และไก่ทอดกรอบๆ ที่เป็นเมนูประจำเวลาเธอกับเนกินข้าวด้วยกันไม่นานนัก เมื่อไรเดอร์มาส่งอาหาร เนก็ลุกขึ้นไปจัดการใส่จานเรียบร้อยบนโต๊ะอาหาร รอพี่สาวที่ขึ้นไปอาบน้ำเสร็จลงมาทานข้าวด้วยกันเนยเดินลงบันไดมาก็เห็นโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอันเย้ายวนของพิซซ่าและสปาเก็ตตี้ที่เนจัดแจงไว้เรียบร้อย“นี่พี่ ไอ้เบียร์ทำงานบริษัทพี่ เป็นไงมั่ง?” อยู่ๆ เนก็ถามขึ้นขณะนั่งกินข้าวเนยหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ก็...ปกติดี ถามทำไม?”เนแอบมองหน้าพี่สาวเล็
หลังจากแพรกดปุ่มสำหรับจับคู่บัดดี้เสร็จ เนยก็ก้าวเข้าไปเป็นคนต่อไป“อ้าว พี่เต้ย” เนยทัก“ว่าไง ยัยเนย” พี่เต้ยตอบพลางยิ้มมุมปาก“ทำไมอยู่ๆ ต้องมาสุ่มจับคู่ล่ะคะ?” สาวสวยเอียงคอถามด้วยความสงสัย ขณะเซ็นชื่อในกระดาษลงทะเบียน“นโยบายเบื้องบนสั่งมาน่ะ ต้องการให้พนักงานทุกคนได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น” พี่เต้ยตอบพลางพยักหน้าให้เธอเนยถอนหายใจยาว “เฮ้อ...แล้วหนูต้องทำยังไงคะ?”“ไม่ยากเลย” พี่เต้ยพูดพลางชี้ไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์“แค่เนยบอกชื่อจริงของตัวเองที่ไมค์นี่ แล้วกดปุ่มเขียวตรงนี้ ชื่อบัดดี้ที่สุ่มก็จะถูกปริ้นออกมาให้ทันที”“แหม อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ หนุ่มๆ ที่รอลุ้นให้ได้คู่กับเนยคงใจสั่นหมดแล้วล่ะ” พี่เต้ยหยอกล้อเบาๆเนยกลอกตาอย่างเอือมๆ“หวังว่าหนูจะไม่โชคร้ายเกินไปนะคะ”“เอาเลยจ้ะ” พี่เต้ยพยักหน้าให้เนยสูดลมหายใจลึก ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ไมโครโฟน “อมลวัทน์” จากนั้นเธอก็กดปุ่มสีเขียวเครื่องคอมพิวเตอร์คำนวณอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ชื่อบัดดี้จะถูกปริ้นออกมา กระดาษเล็กๆ หลุดออกจากเครื่องพร้อมกับชื่อ “มนสิช”“พี่เต้ย ‘มนสิช’ ใครกันคะ? หนูรู้จักไหม?” เนยเอ่ยถามพลางมองกระดาษในมือด้วยความสงสัยพี่
พี่โจหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะพูดถึงกิจกรรมในวันสุดท้าย “ส่วนในวันที่ 3 จะมี 5 ฐานเหมือนกันครับ เริ่มจาก ‘สไลเดอร์โฟม’ เป็นการสไลด์ผ่านโฟมและอุปสรรคต่างๆ ไปให้ถึงเส้นชัยเร็วที่สุด”“ถัดมา ‘คีบลูกโป่ง’ ใช้ไม้คีบลูกโป่งไปใส่ตะกร้า โดยห้ามใช้มือ คู่ไหนคีบได้เร็วและเยอะที่สุดก็รับคะแนนไป”“ฐานต่อไปคือ ‘ปีนกำแพงบัดดี้’ ช่วยกันปีนกำแพงสูง ใครปีนได้ถึงยอดก่อนก็ชนะ”“ส่วนฐานที่ 4 ‘หยิบลูกบอลจากบ่อน้ำ’ ช่วยกันโยนและรับลูกบอลจากบ่อน้ำให้แม่นยำ”“และปิดท้ายด้วย ‘ลากบัดดี้’ ต้องลากบัดดี้นั่งบนพรมหรือสเก็ตบอร์ดไปถึงเส้นชัยให้เร็วที่สุด”“ใครได้คะแนนเยอะที่สุดใน 3 วัน ก็จะได้รับของรางวัลสุดพิเศษนั่นก็คือ ‘แพคเกจตั๋วเครื่องบินไปกลับมัลดีฟ 3 วัน 2 คืน จำนวน 2 ท่าน’ ค่ะ” พี่หญิงประกาศด้วยรอยยิ้มสดใสทันทีที่ได้ยินคำว่า มัลดีฟ เนยถึงกับตาโต เบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น เธอหันไปหาเบียร์ทันที“มัลดีฟ!!” เสียงเธอแฝงด้วยความกระตือรือร้นอย่างชัดเจน“หืม?” เบียร์หันมามองหน้าเธอด้วยความแปลกใจเนยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงจัง "ไหนๆ เราก็ต้องอยู่ทีมเดียวกันละ ฉันต้องการรางวัลชนะเลิศ เพราะฉะนั้นหวังว่านายคงไม่ถ่