ทันทีที่พวกเบียร์เดินเข้ามาใน Eclipse Luxe Lounge บรรยากาศหรูหราและเสียงเพลงเร้าใจทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้น
“ตามสบายนะครับ เดี๋ยวผมมา” คุณนพขอตัวไปบอกหุ้นส่วนของเขาก่อน โดยเขาสั่งลูกน้องคนสนิทให้คอยดูแลพวกเขาในช่วงที่เขาไม่อยู่
ในขณะที่พวกเบียร์กำลังปรับตัวกับบรรยากาศในผับนั้น พลันสายตาคมเข้มของเบียร์ก็ปะทะกับร่างของหญิงสาวที่เขาจำได้ดี เนย—หญิงสาวคู่กรณีของเขา กำลังขยับร่างกายอย่างอิสระกลางฟลอร์เต้นรำ แสงไฟสีสลัวตัดกับชุดที่เซ็กซี่ของเธอทำให้เบียร์อดที่จะมองตามไม่ได้
เขายืนจ้องเธออยู่นานพอสมควร รู้สึกได้ถึงความเย้ายวนและความมั่นใจในท่วงท่าของเธอ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกทั้งหงุดหงิดและดึงดูดในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้น เบียร์ตัดสินใจเดินตรงเข้าไปยังฟลอร์ทันที
“เดี๋ยวมานะ”
เบียร์บอกกับเนและคิง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังร่างของเนยที่ยังคงเต้นอยู่กลางฟลอร์ เขาเดินฝ่าฝูงชนไปจนถึงตัวเธอ เมื่อมาถึงใกล้ๆ เขาก็ยืนประกบอยู่ข้างๆ พร้อมกับยกยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ขณะที่เนยยังไม่รู้ตัวว่ามีคนมาประกบใกล้
‘คืนนี้มันคงจะสนุกกว่าที่คิด’ เบียร์คิดในใจพลางขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้น
“เจอกันอีกแล้วนะ”
เบียร์กระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของเนย เสียงของเขาทำให้เธอสะดุ้ง รีบหันมาทันที สัญชาตญาณป้องกันตัวถูกปลุกขึ้นทันควัน ศิลปะการต่อสู้ที่เธอฝึกมาตลอดทำให้เธอเตรียมพร้อมที่จะจัดการกับเขา
แต่เบียร์รู้ดีกว่าใครถึงความอันตรายของเธอ เขาเคยเห็นฝีมือของเธอมาก่อนและรู้ทัน เขาไวพอที่จะจับมือของเธอไว้ได้ก่อนที่เธอจะทำอะไร
“คิดจะซัดฉันเรอะ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งหยอกล้อ พร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
เนยขบกรามแน่น พยายามจะดึงมือออก แต่เขากลับใช้จังหวะนั้นรวบร่างของเธอเข้ามากอดไว้ ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน
ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังเต้นอย่างสนุกสนาน แสงไฟหลากสีสาดส่องเป็นจังหวะ เสียงเพลงดังกระหึ่ม แต่ไม่มีใครสนใจพวกเขาสักนิด เบียร์กดร่างของเนยเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนที่เป่าลงบนต้นคอ เขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอ ปลุกอารมณ์ของเขาขึ้นมาซะงั้น
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” เนยกัดฟันพูด แต่เบียร์ยังคงยิ้ม ไม่สนใจคำพูดของเธอ
“เธอจะทำอะไรได้ล่ะ ในที่แบบนี้?"
เบียร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงท้าทาย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายิ่งเพิ่มความหงุดหงิดให้เนยจนแทบจะทนไม่ไหว
“ระวังเถอะ...อย่าให้ฉันหลุดไปได้” เนยกระซิบเสียงเข้ม ขณะที่พยายามสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของเขา
เบียร์หัวเราะเบาๆ พร้อมกับกระซิบข้างหูเธออีกครั้ง
“ฉันพร้อมจะเล่นกับเธอทุกเวลา...อยู่ที่ว่าเธอพร้อมรึยัง”
เนยยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ริมฝีปากร้อนของเบียร์ก็ประกบลงที่ปากของเธอทันที เขาจูบเธออย่างร้อนแรงและเต็มไปด้วยความต้องการ
เนยตาเบิกกว้าง พยายามดิ้นรนสุดกำลัง แต่ในขณะเดียวกันฝูงชนรอบๆ ก็เบียดเสียดเข้ามาแน่นขึ้น ทำให้การดิ้นของเธอไร้ผล ร่างบางของเธอยิ่งเบียดชิดกับร่างของเบียร์มากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกครั้งที่เธอขยับหนี กลับยิ่งทำให้เขาแนบชิดเข้ามากกว่าเดิม
เนยพยายามผลักหน้าอกเขา แต่ยิ่งดันกลับเหมือนยิ่งกดตัวเองลงไปในอ้อมแขนของเขา เบียร์ยิ้มในใจ ขณะที่เขากดริมฝีปากลึกขึ้น เรียวลิ้นของเขาสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของเธอ ได้รสขมของเหล้าที่เธอดื่มมาตลอดคืน ลมหายใจของเธอสะดุดเมื่อเขาสอดลิ้นเข้ามาอย่างรุนแรงและเร่าร้อน สัมผัสนั้นทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน
หัวใจของเนยเต้นแรงจนเธอเองก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น มือของเธอกำแน่นทั้งที่พยายามผลักออก แต่ความแข็งแกร่งของเขาทำให้การต่อต้านของเธอไร้ความหมาย
สุดท้ายเนยก็ได้แต่หยุดนิ่ง หอบหายใจหนักเมื่อเขาค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก พร้อมกับมองเธอด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความท้าทายและความพอใจ
“ดูซิ...เธอจะหนีฉันไปไหน” เบียร์กระซิบข้างหูของเธออีกครั้ง เสียงต่ำแฝงไปด้วยความร้อนแรงที่ยังไม่มอดดับ
เนยกัดริมฝีปากแน่น ความรู้สึกสับสนวุ่นวายแล่นผ่านหัวใจ เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจูบแรกของเธอจะถูกขโมยไปอย่างง่ายดายเช่นนี้
ร่างกายของเธอแทบขยับไปไหนไม่ได้ ท่ามกลางฝูงชนที่อัดแน่น ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น มืออีกข้างของเบียร์ยังคงลูบไล้สะโพกของเธออย่างจงใจ พร้อมกับความรู้สึกไม่สบายตัวที่เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงบางสิ่งด้านล่างของเขาที่กำลังแข็งตัวอยู่และเบียดกับหน้าขาของเธอ
เนยพยายามรวบรวมสติ สะกดกลั้นความรู้สึกภายในที่กำลังปั่นป่วน หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก เธอพยายามหาทางผลักเขาออก แต่มือของเบียร์กอดเธอแน่น ร่างของเธอถูกตรึงไว้จนไม่สามารถขยับได้ตามต้องการ
“ปล่อยฉัน!” เนยกัดฟันพูดเสียงแข็ง แต่เบียร์กลับก้มลงกระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ทำไมล่ะ? เธอไม่ชอบเหรอ?”
คำพูดนั้นทำให้เนยรู้สึกโกรธจนแทบระเบิด แต่เธอก็รู้ว่าตอนนี้ไม่มีทางที่จะใช้ศิลปะป้องกันตัวที่เธอถนัดได้ในที่แออัดเช่นนี้ ร่างของเธอถูกเบียดจนไม่สามารถหนีไปไหนได้ง่ายๆ ความร้อนจากร่างกายของเขาที่แนบชิดทำให้เนยรู้สึกสับสน ความโกรธและความอายผสมผสานกันอยู่ในหัวใจ
ในที่สุดเนยก็หมดความอดทน แม้ว่าจูบแรกที่ถูกขโมยไปจะทำให้เธอสับสนและใจเต้นแรง แต่ความโกรธก็เข้ามาแทนที่ เธอตั้งสติได้ในที่สุด ก่อนที่จะกระแทกรองเท้าส้นสูงของเธอลงไปที่เท้าของเบียร์อย่างแรง จนเขาสะดุ้ง ปล่อยตัวเธอด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย!” เบียร์สะดุ้งสุดตัว ปล่อยเธอทันที ความเจ็บปวดทำให้เขาหยุดชะงัก
เนยใช้โอกาสนี้บิดตัวหนีออกจากอ้อมแขนของเขา ก่อนจะผลักคนรอบข้างเพื่อฝ่าออกจากฝูงชน เธอไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง เบียร์ยังคงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางผู้คน สายตาของเขายังจับจ้องมองร่างของเนยที่กำลังรีบเดินออกไป
หัวใจของเนยเต้นแรง ไม่ใช่เพียงเพราะความโกรธที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ความหอมหวานจากจูบแรกนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในความรู้สึกของเธอ หญิงสาวก้าวเร็วๆ ขึ้นบันได รีบตรงกลับขึ้นไปยังห้อง VIP โดยที่ยังไม่สามารถควบคุมความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาได้
เมื่อมาถึงห้อง เนยปิดประตูทันที หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วน แต่ยิ่งดื่มก็ยิ่งรู้สึกไม่สงบ เธอพยายามทำใจให้เย็นลง“อ้าว ทำไมเรารีบกลับขึ้นมาล่ะ?” เคนถามอย่างแปลกใจ“ข้างล่างไม่สนุกแล้วค่ะ” เนยเริ่มโยกคอโยกไหล่ไปมายืดเส้นสาย“เดี๋ยวๆ ไอ้ท่าทางแบบนั้น จะไปฟาดใคร?” เคนถามอย่างรู้ทัน“หึ หนูฆ่าคนได้มั้ยเฮีย?”“ใจเย็น มานี่มา” เคนกวักมือ พร้อมกับตบที่นั่งข้างๆ เรียกให้เธอไปนั่ง หญิงสาวพ่นลมออกจมูกก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ“นี่ไอ้นพ เพื่อนและหุ้นส่วนคนสำคัญของเฮีย” เคนแนะนำชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเนยที่กำลังอารมณ์เดือดพล่าน หันไปมองคุณนพด้วยสายตาเย็นชา แต่ยังคงรักษามารยาทไว้ เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามปรับอารมณ์ให้สงบก่อนจะยกมือไหว้ทักทายตามมารยาท“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงของเธอออกมานิ่งๆ“สวัสดีครับ คุณเนย” คุณนพตอบรับพร้อมรอยยิ้มสุภาพ ท่าทางดูสุขุม แต่สายตายังคงสังเกตการเคลื่อนไหวทุกอย่างของเธออย่างไม่ละสายตา“เคนเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังบ่อยๆ ครับ ได้ยินว่าคุณเป็นคนที่ฝีมือไม่ธรรมดา”เนยหันไปเหล่เคนเล็กน้อยอย่างไม่พอใจที่เฮียดันไปเล่าเรื่องของเธอให้คนอื่นฟัง ก่อ
เบียร์นั่งลงที่เก้าอี้ด้วยท่าทีมั่นใจ เขายกแฟ้มเอกสารและโน้ตบุ๊กออกมาวางบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะเปิดจอสไลด์ให้เคนดู“เอาล่ะครับคุณเคน โปรแกรมที่ทีมของเราจะเขียนให้ จะเป็นระบบป้องกันไวรัสและป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ โปรแกรมนี้ไม่ใช่แค่การป้องกันทั่วไปนะครับ แต่เราจะสร้าง 'Firewall อัจฉริยะ' ที่สามารถเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการโจมตีใหม่ๆ ได้ในแบบเรียลไทม์”เบียร์พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ สายตาเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพ ขณะที่เขาคลิกเปลี่ยนสไลด์ เนยที่นั่งฟังอยู่ก็อดทึ่งไม่ได้ แม้ว่าเธอจะพยายามไม่แสดงออก“ระบบนี้จะทำการตรวจจับพฤติกรรมการเข้าถึงข้อมูลที่ผิดปกติ หรือการที่มีคนพยายามแฮกข้อมูลจากภายนอก โดยเราจะใช้ 'Machine Learning' หรือการเรียนรู้ของโปรแกรมในการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรูปแบบป้องกันที่ทันสมัยอยู่ตลอด ซึ่งจะแตกต่างจากโปรแกรมทั่วไปที่มักใช้การป้องกันแบบเดิมซ้ำๆ และต้องอัพเดตบ่อยๆ” เบียร์อธิบายอย่างละเอียด พลางกดให้ดูแผนภาพโครงสร้างของโปรแกรมที่จะแทรกเข้ากับระบบของผับและธุรกิจที่เคนดูแลเคนพยักหน้าอย่างตั้งใจฟัง เบียร์เลื่อนสไลด์ต่อไปเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่โปรแกรมจะทำได้
เนยเดินเข้าห้องน้ำและพยายามสงบสติอารมณ์ พลางพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลังจากยืนมองตัวเองในกระจกอยู่ครู่หนึ่ง เธอตัดสินใจว่าจะกลับบ้านทันทีที่เธอเดินออกจากห้องน้ำ จู่ๆ ก็มีมือใหญ่คว้าตัวเธอและดึงเข้าไปในซอกมืดข้างห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เนยตกใจมาก หัวใจเต้นรัว แต่ด้วยสัญชาตญาณ เธอเตรียมพร้อมจะป้องกันตัวและต่อสู้ทันทีที่ได้โอกาส“นี่นาย!!”เนยร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นเบียร์ที่รวบข้อมือของเธอไว้ทั้งสองข้าง แล้วดันเธอจนแผ่นหลังแนบชิดติดกับผนัง เบียร์ยิ้มมุมปากด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“อยู่ออฟฟิศไม่เห็นยั่วขนาดนี้” เขากระซิบเสียงทุ้มข้างหู ร่างสูงใหญ่ของเขาอยู่ใกล้จนลมหายใจของเขาระอุร้อนปะทะแก้มเธอเนยพยายามดิ้นรน แต่เขาใช้แรงทั้งหมดรวบข้อมือเธอขึ้นเหนือหัว พร้อมกับใช้ลำตัวของเขาดันร่างของเธอให้ติดผนัง ไม่ให้เธอขยับหนีไปไหนได้“ปล่อย!” เนยกัดฟันกรอด สถานการณ์ตอนนี้มันล่อแหลมจนเธอไม่สบายใจ“ทำหน้าบึ้งแบบนี้ ไม่สวยเลยนะ” เบียร์พูดเสียงเบา ยิ้มมุมปากอย่างยั่วเย้า ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอไม่วางตา แววตาของเนยสั่นระริกด้วยความโกรธที่พุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ“หรือว่า…จูบแรก?” เบียร์เหยียดยิ้มกว้างขึ้น เมื่อเห็นสีหน้
ในเช้าวันถัดมา ที่ทำงานของเนยเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ทุกคนกำลังเตรียมตัวสรุปยอดขายประจำเดือน เนยนั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังตั้งใจพิมพ์สรุปรายงานยอดขายบัตรเครดิตอย่างเคร่งเครียด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันขณะตรวจสอบตัวเลขอย่างละเอียด จนกระทั่งเสียงของแพรดังขึ้นจากด้านหลัง“เนยๆ มีข่าวมาบอก!” แพรพูดเสียงใส พลางเดินเข้ามาหาเนยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเนยเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์“อะไรเหรอ?”“ทางบริษัทเขาจะพาพนักงานไป Outing นอกสถานที่! ที่เขาใหญ่ 4 วัน 3 คืน ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เลย” แพรบอกอย่างตื่นเต้น“อ้อ...เหรอ น่าสนใจ” เนยพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉยๆ แต่สีหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความสนใจไม่น้อย“ฉันว่าดีนะ ไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไม่ต้องนั่งทำงานเคร่งเครียดแบบนี้” แพรยังคงพูดต่อเนยหรี่ตามองแพร “ขับรถไปเองได้ไหมอะ? ฉันไม่ค่อยชอบนั่งรถบัส”แพรส่ายหน้าเบาๆ“น่าจะไม่ได้ เพราะสถานที่พักเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่เขาใหญ่ เขาไม่ให้รถส่วนตัวจอดน่ะ ยังไงก็ต้องไปรถบัสของบริษัทน่ะแหละ”เนยถอนหายใจเล็กน้อย “โอเค ก็ต้องทนไปละกัน”“เอาน่า คิดในแง่ดีบ้าง อย่างน้อยก็ได้ไปเที่ยว ไม่ต้องนั่งทำงานจนหัวหมุนแบบนี้” แพรยิ้มหวาน ก
หลังเลิกงาน เนยกลับถึงบ้านพร้อมความเหนื่อยล้าจากวันทำงานที่แสนยาวนาน พอเปิดประตูเข้ามา เธอก็พบว่าเน น้องชายตัวดีของเธอกลับมาบ้านแล้ว นั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น“ประหลาดนะเนี่ยที่นายกลับบ้านไว” เนยเอ่ยขึ้นพร้อมถอดรองเท้า พลางเดินเข้ามานั่งข้างๆเนหันมายิ้มเล็กน้อย “วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ ออกไปสวีทกันน่ะ”เนยหัวเราะเบาๆ “อ้าวเหรอ งั้นสั่งอะไรมากินดี พิซซ่ามั้ย?”“อะไรก็ได้อะ ฉันไม่เรื่องมาก” เนตอบกลับแบบไม่ใส่ใจมากนัก สายตายังจดจ่ออยู่กับเกมในมือเนยหยิบมือถือขึ้นมา เปิดแอพสั่งอาหาร เลือกสั่งพิซซ่าหน้าโปรด ขอบชีสเยิ้มๆ พร้อมกับสปาเก็ตตี้คาโบนารา และไก่ทอดกรอบๆ ที่เป็นเมนูประจำเวลาเธอกับเนกินข้าวด้วยกันไม่นานนัก เมื่อไรเดอร์มาส่งอาหาร เนก็ลุกขึ้นไปจัดการใส่จานเรียบร้อยบนโต๊ะอาหาร รอพี่สาวที่ขึ้นไปอาบน้ำเสร็จลงมาทานข้าวด้วยกันเนยเดินลงบันไดมาก็เห็นโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอันเย้ายวนของพิซซ่าและสปาเก็ตตี้ที่เนจัดแจงไว้เรียบร้อย“นี่พี่ ไอ้เบียร์ทำงานบริษัทพี่ เป็นไงมั่ง?” อยู่ๆ เนก็ถามขึ้นขณะนั่งกินข้าวเนยหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ก็...ปกติดี ถามทำไม?”เนแอบมองหน้าพี่สาวเล็
หลังจากแพรกดปุ่มสำหรับจับคู่บัดดี้เสร็จ เนยก็ก้าวเข้าไปเป็นคนต่อไป“อ้าว พี่เต้ย” เนยทัก“ว่าไง ยัยเนย” พี่เต้ยตอบพลางยิ้มมุมปาก“ทำไมอยู่ๆ ต้องมาสุ่มจับคู่ล่ะคะ?” สาวสวยเอียงคอถามด้วยความสงสัย ขณะเซ็นชื่อในกระดาษลงทะเบียน“นโยบายเบื้องบนสั่งมาน่ะ ต้องการให้พนักงานทุกคนได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น” พี่เต้ยตอบพลางพยักหน้าให้เธอเนยถอนหายใจยาว “เฮ้อ...แล้วหนูต้องทำยังไงคะ?”“ไม่ยากเลย” พี่เต้ยพูดพลางชี้ไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์“แค่เนยบอกชื่อจริงของตัวเองที่ไมค์นี่ แล้วกดปุ่มเขียวตรงนี้ ชื่อบัดดี้ที่สุ่มก็จะถูกปริ้นออกมาให้ทันที”“แหม อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ หนุ่มๆ ที่รอลุ้นให้ได้คู่กับเนยคงใจสั่นหมดแล้วล่ะ” พี่เต้ยหยอกล้อเบาๆเนยกลอกตาอย่างเอือมๆ“หวังว่าหนูจะไม่โชคร้ายเกินไปนะคะ”“เอาเลยจ้ะ” พี่เต้ยพยักหน้าให้เนยสูดลมหายใจลึก ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ไมโครโฟน “อมลวัทน์” จากนั้นเธอก็กดปุ่มสีเขียวเครื่องคอมพิวเตอร์คำนวณอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ชื่อบัดดี้จะถูกปริ้นออกมา กระดาษเล็กๆ หลุดออกจากเครื่องพร้อมกับชื่อ “มนสิช”“พี่เต้ย ‘มนสิช’ ใครกันคะ? หนูรู้จักไหม?” เนยเอ่ยถามพลางมองกระดาษในมือด้วยความสงสัยพี่
พี่โจหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะพูดถึงกิจกรรมในวันสุดท้าย “ส่วนในวันที่ 3 จะมี 5 ฐานเหมือนกันครับ เริ่มจาก ‘สไลเดอร์โฟม’ เป็นการสไลด์ผ่านโฟมและอุปสรรคต่างๆ ไปให้ถึงเส้นชัยเร็วที่สุด”“ถัดมา ‘คีบลูกโป่ง’ ใช้ไม้คีบลูกโป่งไปใส่ตะกร้า โดยห้ามใช้มือ คู่ไหนคีบได้เร็วและเยอะที่สุดก็รับคะแนนไป”“ฐานต่อไปคือ ‘ปีนกำแพงบัดดี้’ ช่วยกันปีนกำแพงสูง ใครปีนได้ถึงยอดก่อนก็ชนะ”“ส่วนฐานที่ 4 ‘หยิบลูกบอลจากบ่อน้ำ’ ช่วยกันโยนและรับลูกบอลจากบ่อน้ำให้แม่นยำ”“และปิดท้ายด้วย ‘ลากบัดดี้’ ต้องลากบัดดี้นั่งบนพรมหรือสเก็ตบอร์ดไปถึงเส้นชัยให้เร็วที่สุด”“ใครได้คะแนนเยอะที่สุดใน 3 วัน ก็จะได้รับของรางวัลสุดพิเศษนั่นก็คือ ‘แพคเกจตั๋วเครื่องบินไปกลับมัลดีฟ 3 วัน 2 คืน จำนวน 2 ท่าน’ ค่ะ” พี่หญิงประกาศด้วยรอยยิ้มสดใสทันทีที่ได้ยินคำว่า มัลดีฟ เนยถึงกับตาโต เบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น เธอหันไปหาเบียร์ทันที“มัลดีฟ!!” เสียงเธอแฝงด้วยความกระตือรือร้นอย่างชัดเจน“หืม?” เบียร์หันมามองหน้าเธอด้วยความแปลกใจเนยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงจัง "ไหนๆ เราก็ต้องอยู่ทีมเดียวกันละ ฉันต้องการรางวัลชนะเลิศ เพราะฉะนั้นหวังว่านายคงไม่ถ่
ในวันแรก คู่บัดดี้ของพนักงานทุกคนต่างกระตือรือร้นที่จะเข้าฐานกิจกรรม เบียร์และเนยยืนเคียงข้างกันที่ฐานแรกพร้อมกับคู่บัดดี้อื่นๆ ฐานกิจกรรมวันแรกมีทั้งหมด 5 ฐาน แต่ละฐานต้องใช้ทั้งความแข็งแรงและทักษะการทำงานร่วมกันฐานที่ 1: หอคอยมนุษย์เนยและเบียร์ต้องช่วยกันสร้างหอคอยมนุษย์จากร่างกายของทั้งคู่ เนยมองเบียร์ขึ้นลงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจว่า“คุณอยู่ข้างล่างละกัน เดี๋ยวฉันอยู่ข้างบนเอง” เบียร์อึ้งเพราะคำพูดของเธอชวนคิดไปไกล ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์“คุณชอบอยู่ข้างบนเหรอ? แต่ผมชอบให้เราอยู่เท่ากันมากกว่านะ” เขาพูดด้วยสายตายั่วเย้าเนยหรี่ตามองอย่างรู้ทัน “นี่นาย... คิดเรื่องลามกอยู่ล่ะสิ”“ก็คุณพูดเอง” เบียร์ยักไหล่ ขำในทีเนยถอนหายใจเบาๆ “ตลกละ รีบทำเถอะ”“โอเคๆ” เบียร์หัวเราะ พร้อมเริ่มสร้างหอคอยจากร่างกายของเขาเบียร์คุกเข่าลง กางแขนออกเพื่อรับน้ำหนักเนย เมื่อเธอก้าวขึ้นไปยืนบนตัวเขา เขารู้สึกถึงความเบาของเธอ แต่ก็ต้องคอยทรงตัวให้มั่นคง เนยเองก็ต้องระวังไม่ให้เสียหลัก เมื่อทั้งคู่ประสานงานกันได้ดี ในที่สุดหอคอยมนุษย์ก็สำเร็จ เสียงเชียร์จากเพื่อนร่วมงานดังก้อง ทำให้ทั้งคู่ยิ้มออกมาอย่